...ด้วยพันธะบรรณาการ พันธะ 17(จบ)...อัพ 22/07 (หน้า 20 ค่ะ)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ...ด้วยพันธะบรรณาการ พันธะ 17(จบ)...อัพ 22/07 (หน้า 20 ค่ะ)  (อ่าน 276034 ครั้ง)

ออฟไลน์ nongrak

  • ยังไงก็รักคาเมะจังที่สุด
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +912/-14
ไปขอหมั้นท่านเตชมาเป็นลูกเขยดีกว่ามั้ง ให้ท่านสนเป็นสะใภ้ของอนันตราชเถิด

ออฟไลน์ kaokorn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 903
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-2
ดีใจกับองค์เตชด้วยฮะ ก้าวหน้าไปก้าวใหญ่เลยคราวนี้
รอตอนต่อไป และขอบคุณสำหรับเรื่องน่ารักๆนะฮะ

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4365
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
เอาล่ะ อัฟเกรดสถานะและ

คิดถึงที่สุดอ่าาา

ออฟไลน์ sukaz

  • I Will Love You Unconditionally
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1431
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
ใครจะไปเป็นสะใภ้ใครกันแน่จ๊ะ

 :mew3: :mew3: :mew3:

ออฟไลน์ Takarajung_TK

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 931
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-2
ก๊ากก ผิดผี!!!

ออฟไลน์ cinquain

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1125
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +247/-0
คุณบัวมาแล้ว ฮูเร!   :mc4:
หวานนะคะตอนนี้ แต่อ่านมาถึง " ก็ทำเอาเจ้าของร้านสะดุ้งวาบ "
มีพิมพ์ผิดจนดิฉันต้องอ่านทวนว่ามันคือเจ้าของร่างมั้งคะ ^^
แต่องค์ราชินีอาจจะได้เขยแทนที่จะเป็นสะใภ้นะเพคะ  :mew3:

เป็นกำลังใจให้เสมอค่ะ

ออฟไลน์ justlove

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 297
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
 :o8: :-[กรี๊ดดดดด เค้าผิดผีกันแล้ว อยากรู้จัง จะใช้อะไรเป็นของหมั้น :mew1:

ออฟไลน์ ลิงน้อยสุดเอ๋อ

  • ถึงจะเหงา แต่ไม่ได้ง่าย
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1993
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-2
    • Fanpage
จากที่อ่านมาตอนต้น

จากเจ้าชาย มาเป็นคนเลี้ยงหอย ตอนนี้กลายเป็นเขยของอนันตราช

เราว่าองค์เตชคงไม่อยากเป็นสะใภ้หรอก จะเป็นเขยสมุทรา

แต่ที่ฮาที่สุดๆ หอยตด โอ๊ย องค์สนคิดได้ไงอ่ะ ช่างแถซะเหลือเกิน :hao7:

ออฟไลน์ andaseen

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 742
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-1
ใครจะเป็นสะใภ้กันแน่เนี่ย :m20: :jul3:

ออฟไลน์ MinKKniM

  • 난 널 사랑해 동해
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 462
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-2
องค์เตชยังดีที่ได้เป็นสะใภ้ นึกว่าจะได้เป็นสนมคนที่122ขององค์สนซะแล้ว  โถ่ๆๆๆองค์เตชผู้น่าสงสาร :pandalaugh:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






@Lucifer_Prince@

  • บุคคลทั่วไป
ย๊ากก  ชอบจังเลยๆภรรเมียกดสารมี  ให้องค์เตชเป็นสะใภ้  น่าหัวเราะมาก  ความโกหกที่ไม่เนียนขององค์สนก็นะ  นำพามาแต่ความวุ่นวายของตัวเอง  นี่นางอรุณามันใช่ลูกราชินีมั๊ยเนี่ยทำไมมันถึงต่างกับพี่น้องคนอื่นจริงๆ  อาฆาตมาดร้าย  รอตอนต่อไปคัฟพี่บัว  ขอบคุณคัฟ^^

ออฟไลน์ Fate

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 77
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ไม่ใช่สะใภ้เพคะ ราชินี
ราชบุตรเขย ต่างหาก :katai2-1:

ส่วนชีวินนะคะ เซนต์เอ็งบอดรึไง โธ่! ไม่ช่วยกันชงเลย ฮ่าาาา

ดีใจมากที่เห็นเรื่องนี้อัพ นั่งรอหอย เอ้ย องค์สนกับองค์เตช อยู่นานเลยค่ะ
รอตอนต่อไปนะคะ :z2:

ออฟไลน์ DoubleBass

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 448
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-1
เป็นการ อัพเกรดสถานะที่ฮามาก "ผิดผี" ชีวินก็ทำไปได้ ฮ่าๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7579
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
มาตามอ่านด้วยคน แต่ไอตอนล้าสุดนี้มันชัั่งพิศดารยิ่ง5555

ออฟไลน์ inspirer_bear

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2021
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +206/-5
องค์เตชต้องเป็นสะใภ้แล้วล่ะ 5555555

ออฟไลน์ kongxinya

  • Skt KS
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
 :mew1:
แวะมาส่งความคิดถึงค่ะ

ออฟไลน์ EverGreen™

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1684
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +192/-1
ดูแลหอยกันไปถึงไหนแล้วน้าาาา
คิดถึงองค์ชายแล้วววว

 :hao4:

ออฟไลน์ Dezair

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 533
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1543/-8
   NOV: ด้วยพันธะบรรณาการ
By: Dezair
……………………..
พันธะที่ 8



   ช่วงนี้ชีวินประหลาดเหลือเกิน องค์ชายเตชินทร์เฝ้าแต่หาคำตอบกับพระองค์เองว่าเพราะเหตุใด พักนี้ชีวินจึงหวงองค์ชายสนธยาราวกับสุนัขเฝ้านาย หนำซ้ำยังตามติดเสียจนไม่ปล่อยให้คลาดสายตา  ยามพักผ่อนก็ขนข้าวของเข้าไปนอนเฝ้าถึงในห้องบรรทม ยามใดที่พระองค์สนทนากับองค์ชายสนธยา ชีวินก็มักจะหาเรื่องมาขัดขวางเสียทุกครั้ง โดยให้เหตุผลที่ไม่สมเหตุสมผลว่า



   ‘ยังไม่ถึงเวลา’



   …ไม่ถึงเวลาอะไร?!! แค่จะคุย จะพบหน้าสนธยา พระองค์ต้องรอให้ถึงเวลาด้วยรึ?!!



   “กระหม่อมเคยทูลแล้วว่าเจ้าองครักษ์หน้าหงิกนั่นมันไม่น่าพิสมัย” แม้สองบุรุษแห่งสมุทราจะอยู่ที่อนันตราชมาพักใหญ่แล้ว แต่สมิตก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะญาติดีกับชีวินเสียที



   “เราไม่ได้คิดจะพิสมัยชีวิน เพียงแต่เราแค่สงสัยว่าเพราะเหตุใดพักนี้เขาถึงกันท่าเรานัก เจ้าไปหาคำตอบมาทีซิ”



   “โอ๊ย! จะมีคำตอบอะไรล่ะพระเจ้าค่ะ เจ้าองครักษ์นั่นก็คงสติไม่สมประกอบอย่างเคยนั่นล่ะ กระหม่อมย้ำแล้วนะพระเจ้าค่ะว่าเจ้าชีวินอะไรนั่นมันประสาท” องค์ชายเตชินทร์ได้แต่ส่ายพักตร์ไปมา เพราะสมิตยืนยันซ้ำๆในเหตุผลที่พระองค์ไม่มีทางนำมาใช้เป็นเหตุผล



   …ถ้าองครักษ์มือหนึ่งของสมุทรา ‘ประสาท’ อย่างที่สมิตว่า ก็คงไม่มีใครในสมุทราสติสมประกอบกันแล้วล่ะ…



   “เจ้าคิดว่าอย่างไร อังกูร” ว่าแล้วก็หันไปตรัสถามกับองครักษ์อีกหนึ่งที่ให้เหตุผลสมเหตุสมผลมากกว่า



   “บางที อาจจะเกี่ยวกับการเสด็จของราชินีวารีวาทก็ได้นะพระเจ้าค่ะ”


การเสด็จเยือนขององค์ราชินีวารีวาทนั้นเป็นข่าวเอิกเกริกของอนันตราชไม่แพ้ข่าวใด รวมถึงเป็นที่รับรู้และจับตามองกันตั้งแต่ประชาชนทั้งหลายไปจนถึงรัชทายาทและเชื้อพระวงศ์ของสองราชสำนัก เพราะนานมากแล้วที่ราชินีวารีวาทไม่ได้เสด็จมาเยือนอนันตราช หากแต่ครั้งนี้…คงเพราะมีเหตุผลสำคัญ ถึงได้ยอมทิ้งบัลลังก์สมุทราดั้นด้นมาถึงนี่ หนำซ้ำกษัตริย์วิภูก็มีโองการกำชับเป็นนักหนาว่าให้เตรียมการต้อนรับเป็นอย่างดี รวมทั้ง…มีรับสั่งให้องค์ชายเตชินทร์เตรียมตัว



   …เตรียมตัวเพื่ออะไร?!... องค์ชายเตชินทร์ทรงตั้งคำถาม และแน่นอนว่าไม่มีใครให้คำตอบได้…



   “แล้วเจ้าคิดว่าองค์ชายสนธยาทรงทราบเหตุผลที่ราชินีวารีวาทเสด็จหรือไม่” องค์ชายเตชินทร์ยังคงไว้วางพระทัยคำปรึกษาของอังกูรแต่เพียงผู้เดียว แม้ในห้องทรงงานจะมีสมิตอยู่ด้วยก็ตาม



   “คิดว่าน่าจะทรงทราบพระเจ้าค่ะ”



   “ถ้าเช่นนั้น เราต้องหาทางเข้าไปใกล้ชิดองค์ชายสนธยาให้ได้มากที่สุด เพื่อถามข่าวเรื่องนี้กับเขา เอาล่ะ! สมิต…หน้าที่ของเจ้าในวันนี้คือ…พาท่านองครักษ์ชีวินไปร่วมมื้อเย็นที่เรือนของเจ้า”



   “อะไรนะพระเจ้าค่ะ!!”



   “เราบอกว่าให้เจ้าพาท่านชีวินไปรับประทานอาหารที่เรือนของเจ้าในเย็นวันนี้เพื่อเป็นการเปิดทางให้เราเข้าใกล้องค์ชายสนธยามากที่สุด”



   “ไม่มีทางพระเจ้าค่ะ!” 



แม้จะถวายสัตย์ปฏิญาณมาตั้งแต่เข้ารับราชการทหารว่าจะรับใช้โองการขององค์ชายรัชทายาทเตชินทร์จนชีพหาไม่ แต่เมื่อถึงคราวนี้ สมิตก็มุ่งมั่นปฏิเสธอย่างเด็ดขาด



…เรื่องอะไรจะให้เจ้าองครักษ์หน้าหงิกนั่นไปเหยียบถึงเรือน! ไม่มีวันเสียหรอก!!!...



   “ถ้าอย่างนั้นก็เลือกเอา ถ้าเจ้าพาชีวินไปรับประทานมือค่ำที่เรือนในวันนี้ วันพรุ่ง เจ้าจะได้เป็นองครักษ์ของเราต่อไป แต่ถ้าไม่พาชีวินไปวันนี้…วันพรุ่ง เจ้าก็เตรียมตัวย้ายไปสังกัดกองทหารรักษาประตูวังได้เลย”



สมิตอ้าปากค้างกับวาจาขององค์ชายเตชินทร์ที่ตัดรอนกันเสียจนพูดไม่ออก อันตัวเขาเองก็ไม่เท่าไหร่หรอก จะให้เป็นองครักษ์หรือนายทหารเวรยามก็ถือว่าชีวิตนี้ได้เป็นทหารรับใช้ราชสำนักอนันตราชเช่นเดียวกัน แต่…



   “คิดให้ดีๆล่ะสมิต ตัวเจ้าเองคงไม่อินังขังขอบกับตำแหน่งอะไรเสียเท่าไหร่ แต่ท่านผู้หญิงกาญจน์มารดาของเจ้าคงจะบ่นเสียเช้า สาย บ่าย เย็น หากเจ้าลงไปดูแลประตูวังแทนดูแลเรา” องค์ชายเตชินทร์ทรงเป็นเจ้านายของสมิตมานาน ดังนั้นเรื่องในครอบครัวของสมิตอันได้แก่คุณหญิงกาญจน์ผู้แสนหน้าใหญ่ที่ชอบจ้ำจี้จ้ำไชบุตรชายจึงเป็นเรื่องรับรู้โดยทั่วไป



   องค์ชายหนุ่มเหลือบเนตรสบกับดวงตาของสมิตก่อนจะตรัสอย่างใจกว้าง



   “ว่าอย่างไรล่ะ เจ้าเลือกจะเป็นองครักษ์ของเราต่อไป หรือจะไปเป็นนายทหารประตูวัง”



   “นี่พระองค์ประทานตัวเลือกให้กระหม่อมแล้วใช่ไหมพระเจ้าค่ะ” สมิตย้อนถาม น้ำเสียงหงุดหงิดไม่ใช่น้อย เพราะไม่ว่าองค์ชายเตชินทร์จะตรัสตัวเลือกให้อีกสักกี่ร้อยกี่พัน ตัวที่สมิตสามารถเลือกได้ก็มีเพียงอย่างเดียวเท่านั้น



   “ก็เจ้าไม่ชอบให้เราบังคับไม่ใช่รึ”



   …ก็ไม่ต่างจากบังคับหรอก… สมิตได้แต่บ่นอุบอิบ หากแต่เมื่อถูกองค์ชายทรงจับจ้องเร่งเร้า สมิตก็ได้แต่ถอนหายใจเฮือกอย่างหมดหนทาง



   “แล้วกระหม่อมจะทำอย่างไรให้เจ้าองครักษ์ชีวินยอมไปรับประทานอาหารที่เรือนกระหม่อมล่ะพระเจ้าค่ะ เรียนเชิญดีๆรายนั้นคงจะยอมเดินตามก้นแบบไม่มีหือไม่มีอือ…” แม้จะยอมเลือกแล้ว แต่สมิตก็ไม่วายประชดประชันองครักษ์หัวแข็งแห่งสมุทราจนได้



   “ก็ถ้าไม่ยอมไปแต่โดยดี ก็ฉุดไปเสียก็สิ้นเรื่อง ไม่เห็นต้องให้เราแนะนำเลย” เพียงเท่านั้น ก็เหมือนคนฟังจะได้ปัญญาขึ้นมาทันที เจ้าตัวทุบกำปั้นลงกับฝ่ามือ คิดหาวิธีกลั่นแกล้งคนที่ตนเกลียดขี้หน้าขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว



   “ถ้าเช่นนั้น กระหม่อมขอไปเตรียมการฉุดก่อนนะพระเจ้าค่ะ! รับรองว่าคราวนี้เจ้าองครักษ์ชีวินนั่นจะไม่ทำหน้าตาหยิ่งยโสใส่กระหม่อมอีกเลย!” ว่าแล้วสมิตก็รีบเผ่นแผล็วออกจากห้องทรงงานขององค์ชายเตชินทร์ อย่างที่ทำเอาผู้เป็นเจ้าของห้องต้องหันมาทางองครักษ์ที่บัดนี้เหลือเพียงคนเดียว



   “อังกูร เพื่อนของเจ้ารู้หรือไม่ ว่ากฎบ้านกฎเมืองของอาณาจักรเรา หากใครฉุดกระชากใครไปข่มขื่นน้ำจิตน้ำใจ มันผู้นั้นไซร้ต้องรับผิดชอบเขาไปจนตาย”




   ไม่มีคำตอบอื่นใดจากอังกูร ด้วยเพราะรู้นิสัยเพื่อนรักนามว่าสมิตดี รายนั้นปัญญาเกิดก็จริง แต่ในการเกิดปัญญาแต่ละครั้ง ก็มักจะมีความผิดพลาดเป็นหางเลขตามมาด้วยเสมอ

……………………………..


   จะด้วยเพราะบุญพาวาสนาส่งหรือเพราะสมิตมุ่งมั่น ‘ฉุด’ ชีวินให้พ้นทาง ก็ไม่อาจทราบ ท้ายที่สุดในยามบ่ายวันนั้นองค์ชายเตชินทร์ก็ได้เสด็จมาประทับที่หน้าบานประตูห้องบรรทมขององค์ชายสนธยา อันเป็นปราการกบดานขององค์ชายหนุ่มจากเกาะสมุทรานับตั้งแต่เมื่อครั้งที่พระองค์มอบจุมพิตแสนหวานให้เป็นของปลอบประโลมที่ตกต้นไม้



   …และเมื่อคิดถึงริมฝีปากสีแดงระเรื่อที่แสนหวานนั้นแล้ว ในอุระขององค์ชายเตชินทร์ก็ร้อนวูบวาบราวกับเป็นหนุ่มแรกรุ่นที่เพิ่งได้เรียนรู้สัมผัสนี้เป็นครั้งแรก ทั้งที่พระองค์ก็มีนางสนมกำนัลไม่น้อย หนำซ้ำอีกฝ่ายก็มีนางสนมถึงร้อยกว่าคน



   …แต่เหตุใดหนอ…เหตุใดยังหวานล้ำน่าสัมผัสอยู่ร่ำไป…



   “ชีวิน…ชีวินอยู่ข้างนอกรึเปล่า…เข้ามาหาเราหน่อย” เสียงตะโกนจากภายในห้องบรรทมขององค์ชายสนธยาทำเอาผู้ประทับอยู่ที่หน้าประตูถึงกับใจเต้นระส่ำ เพียงแค่ได้ยินเสียง เพียงแค่จินตนาการถึงใบหน้าเยาว์วัยสีน้ำผึ้ง พระองค์ก็อยากจะผลุนผันเข้าไปพบเสียบัดนี้



   “เจ้าเฝ้าอยู่ตรงนี้ เราจะเข้าไปเพียงลำพัง หากคุณท้าวเอิบมาตามลงไปรับประทานอาหาร เจ้าจงบอกนางว่า เราให้ยกขึ้นมาที่นี่ แต่ไม่ต้องเข้าไปจัดในห้อง หากหิว เราและองค์ชายสนธยาจะออกมาเอง”



   “รับด้วยเกล้า” อังกูรรับโองการโดยไม่แม้แต่จะทูลถามถึงเหตุผล หากเป็นสมิต องค์ชายเตชินทร์คงเสียเวลาอีกพักใหญ่ในการต่อล้อต่อเถียงกับฝีปากขององครักษ์รายนั้น



   …ดีเลย ‘ฉุด’ ท่านชีวินไปเช่นนี้ พระองค์จะได้เอามายกเป็นข้ออ้างให้สมิตต้องรับผิดชอบชีวินเสีย แล้วเจ้านั่นจะได้ไม่มายุ่มย่ามเรื่องพระองค์อีก…



   องค์ชายเตชินทร์ทรงดันบานประตูเล็กน้อยก่อนจะแทรกกายผ่านเข้าไปอย่างไม่เร่งร้อน ด้วยเพราะพระองค์มีเวลาอีกมากมายเหลือเกินในค่ำคืนนี้


………………………………….



   “ชีวิน…เราคิดว่าคืนนี้จะปีน…อ่า…ท่านเตช…” คำพูดแทบจะไหลกลับลงไปในคอตามเดิม เมื่อสนธยาเห็นว่าผู้ที่เข้ามาในห้องตามคำเรียกของตนนั้นไม่ใช่ชีวินนายทหารคนสนิท หากแต่เป็นองค์ชายเตชินทร์ ผู้เป็นเจ้าของตำหนัก



   “คืนนี้จะปีนไปที่ใดอีก ชมจันทร์หรือ” เตชินทร์ย้อนถามพร้อมรอยยิ้มบางเบาที่มุมปาก สายเนตรจับจ้องร่างสูงโปร่งผิวน้ำผึ้งเบื้องหน้าด้วยความคิดถึงแสนสาหัส อยากก้าวเข้าไปคว้าร่างตรงหน้ามากอดฝังเข้าไปในอกหรอก หากแต่ต้องไพล่มือเอาเบื้องหลังเพื่อยับยั้งช่างใจ เกรงว่าสนธยาจะหวั่นกลัวไปเสียก่อน



   “เอ่อ…ชีวินล่ะ ท่านเตช”



   “ท่านชีวิน…ไป…พักน่ะ”



   “พัก?!”



   “ใช่ ช่วงนี้ดูเหมือนท่านชีวินจะตามดูแลท่านสนเสียจนไม่เป็นอันได้พักผ่อนเลย เราก็เลยจัดแจงให้ท่านชีวินไปพักเสีย ส่วนการดูแลท่านสน จะกลายเป็นหน้าที่ของเราแทน”



   “เอ้ย! ไม่ดีกระมัง”



   “ดีซี่! เราเป็นเจ้าบ้าน เราก็ต้องดูแลท่านอยู่แล้ว เอาล่ะ…ไหนว่ามาซิ เมื่อครู่นี้ที่บอกว่าจะปีนน่ะ จะปีนไปเล่นซุกซนที่ใด” เตชินทร์ขยับเข้าใกล้ที่ละน้อยโดยไม่ให้อีกฝ่ายรู้ตัว และสนธยาที่ถูกจี้จุดถามเรื่อง ‘ปีน’ ซึ่งหลุดปากโพลงออกไปเมื่อครู่นี้ ก็เอาแต่ครุ่นคิดหาข้ออ้างเสียจนไม่ทันระวังว่าอีกฝ่ายขยับเข้ามาใกล้เพียงใด



   “ว่าอย่างไร เมื่อครู่นี้หมายจะปีนออกจากห้องไปที่ใดหรือ”



   “เอ่อ…ปีนไป…ไป…ไปดูหอย! ใช่! เราตั้งใจจะปีนไปดูแลหอย พักนี้ไม่ได้ดูแลมันมากเท่าที่ควรเลย…”



   “อ้อ…ห่วงหอยหรือ” เตชินทร์ย้อนถามพลางอมยิ้ม บัดนี้เขาขยับเข้าใกล้อีกฝ่ายเสียจนเพียงแค่เอื้อมมือออกไป ก็สามารถคว้าร่างโปร่งเข้ามาซุกอยู่ในอ้อมแขนได้แล้วด้วยซ้ำ



   “ก็…ก็…”



   “ท่านห่วงหอย เราไม่ว่าหรอก แล้วห่วง ‘เจ้าของหอย’ บ้างไหม” พอคำถามประโยคถัดมาดังขึ้น ก็ทำเอาคนกำลังหาข้ออ้างมากมายถึงกับเงยหน้าตาเหลือกโพลงด้วยความตกใจ หากแต่ยามนั้น เตชินทร์ก็ขยับเข้ามายืนใกล้เสียจนแทบชิดอยู่แล้ว



   ฝ่ามืออุ่นร้อนแตะแผ่วเบาลงบนแก้มสีน้ำผึ้งของสนธยา แล้วเชยมันขึ้นเล็กน้อยเพื่อให้ดวงเนตรสีอ่อนได้มองสบเข้าไปในดวงเนตรของเตชินทร์



   กระแสหวามไหวดูเหมือนจะไหล่บ่าถ่ายทอดมาจากเนตรสีเข้มของอีกฝ่ายแล้วพุ่งตรงลงสู่กลางใจของสนธยา



…เป็นเช่นนี้อีกแล้วหัวใจของเขาเต้นไม่เป็นส่ำเพราะชายที่ชื่อเตชินทร์อีกแล้ว…



   พักตร์ขาวของเตชินทร์ก้มลงมาใกล้แก้มนวลนั้น ก่อนจะฝังจมูกลงกับเนื้อนุ่ม ริมฝีปากร้อนจัดของเตชินทร์จูบซับเนื้อแก้มเบาๆ ทว่ารสสัมผัสกลับเด่นชัดในความรู้สึกของสนธยาเสียจนดวงเนตรเหลือกโพลงด้วยความตกใจ



   “ท่านสน…” พักตร์คมขยับออกห่างเล็กน้อยแล้วกระซิบเรียกชื่อร่างโปร่งเบาๆ หากแต่นั่นดูเหมือนจะเป็นการฉุดสติของสนธยาให้วกกลับเข้ามาจนเจ้าตัวผลักร่างสูงหนาของเตชินทร์ออกห่างสุดแรง ก่อนจะตามด้วยการยกฝ่าเท้าขึ้นถีบท้องของอีกฝ่ายเสียจนเตชินทร์เสียหลักล้มลงกับพื้น



   “ท่านสน!!” คราวนี้เตชินทร์ตกใจ เงยหน้ามองเจ้าของฝ่าเท้าเมื่อครู่ด้วยคาดไม่ถึง เมื่อครู่ยังยืนนิ่งให้ชิมลิ้มผิวแก้มด้วยซ้ำ! แล้วเหตุใดอยู่ดีๆก็มาถีบกันเสียแบบนี้ล่ะ!!



   “ท่าน…ท่านทำเช่นนี้ไม่ได้!” 



สนธยาตั้งใจมาแล้ว ว่าจะไม่มีวันหลงใหลไปกับรสสัมผัสของเตชินทร์อีก แค่จุมพิตคราวก่อนเพียงครั้งเดียว ยังทำให้ชีวินเป็นเดือดเป็นร้อนต้องส่งสาสน์ไปทูลราชินีวารีวาทแห่งสมุทราเพื่อให้สมุทรารับผิดชอบการ ‘ผิดผี’ ที่เกิดขึ้น และแน่นอน สนธยาหาทางหนีทีไล่เอาไว้แล้ว เขาจะยอมแต่งงานเพื่อรับผิดชอบการผิดผีคราวนั้น แต่จะยืนยันว่ามันเป็นการผิดผีเพียงครั้งเดียวที่ไม่ได้เกิดจากความรู้สึกส่วนลึก หากแต่บรรยากาศและความระเริงของวัยหนุ่มพาไป ดังนั้น…เขาจะรับเตชินทร์เป็นหนึ่งในเหล่าสนมนับร้อยชีวิต หากแต่จะไม่ยกฐานะขึ้นมาเป็นชายาเอกเป็นอันขาด! เป็นไงเป็นกัน!! จะต้องมีปัญหากับอนันตราชก็ยินยอม!!!



   “เรารับผิดชอบท่านแล้ว! และเราจะไม่ยอมรับผิดชอบท่านมากไปกว่านี้อีก!!” สนธยากล่าวเสียงดังลั่นด้วยความอัดอั้น ด้วยเพราะไม่เคยสนใจฝักใฝ่ในเพศเดียวกันมาก่อน และการที่ต้องรับเตชินทร์ซึ่งเป็นชายเหมือนกันเข้ามาเป็นสนมก็ดูจะเป็นความอดกลั้นอันมากเกินจะรับ



   “รับ…รับผิดชอบ? รับผิดชอบอะไร?” เตชินทร์ครวญถามอย่างไม่เข้าใจหากแต่อีกฝ่ายกลับหมุนกายเดินจากอย่างรวดเร็ว จนคนที่ยังนั่งอยู่กับพื้นต้องรีบลุกขึ้นมาคว้าแขนกระชากเข้ามาพูดคุยกันเสียก่อน



   “โอ๊ย! ปล่อยเรา!!” สองหัตถ์หนาใหญ่ของเตชินทร์บีบกระชับต้นแขนของสนธยาเสียแน่นเพราะต้องการไต่ถามให้รู้เรื่อง หากแต่ใบหน้าสีน้ำผึ้งของอีกฝ่ายกลับมีแต่ความหงุดหงิดและไม่พออกพอใจเสียจนเตชินทร์ชักจะใจเสีย



   “ท่าน…บอกเราได้ไหม ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ท่านพูดเรื่องรับผิดชอบเรา…เรื่องนั้นหมายความเช่นไร” 



ดวงเนตรของสนธยาเบือนออกไปด้านข้างด้วยไม่อยากมองพักตร์ของเตชินทร์มากไปกว่านี้…พักตร์นี้…เจ้าของพักตร์นี้ คือคนที่จะเข้ามาเป็นสนมหมายเลข 122 ของตน…ไม่อยากได้! ไม่อยากได้ชายชาตรีร่างกายสูงใหญ่อย่างกับยักษ์ปักหลั่นมาเป็นสนม!!!...



   “ก็หมายถึงความรับผิดชอบในฐานะที่เราเป็นชายอย่างไรล่ะ! ท่านอย่าทำเป็นไขสือไม่รู้เรื่องรู้ราวเลย! ที่บังคับให้เรามาเป็นคนเลี้ยงหอยก็เพื่อโอกาสนี้ไม่ใช่รึ!! เป็นรัชทายาทดีๆไม่ชอบ ริจะมาเป็นสนม!!” ประโยคสุดท้ายนั้นทำเอาเตชินทร์นิ่งงันเสียจนอ่อนแรง และเป็นการเปิดโอกาสให้สนธยาหลุดจากการเกาะกุมอย่างง่ายดาย



   “ท่าน…ท่านหมายความว่า…”



   “โอ๊ย!! ถามซ้ำถามซากเสียจริง!! ถ้าอยากรู้มากกว่านี้ก็ไปทูลถามเสด็จพ่อของท่านไป้!!!” สนธยาตวาดเสียงดังลั่น ก่อนจะหมุนกายเดินออกจากห้องอย่างรวดเร็ว ในขณะที่เตชินทร์กลับยืนนิ่งด้วยเพราะยังไม่อาจตีความคำพูดของสนธยาในแนวทางอื่นได้อีก



   …เป็นรัชทายาทดีๆไม่ชอบ ริจะมาเป็นสนม…



   ไม่มีความหมายอื่นใด นอกจากด่าว่าเตชินทร์ผู้เป็นรัชทายาทแห่งอนันตราชพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้เป็นสนม…แล้วถ้าเช่นนั้น หมายความว่าเป็นสนมของใครล่ะ?!! สนมของสนธยาอย่างนั้นหรือ?!!



   “อังกูร! อังกูร!!!” เตชินทร์ร้องเรียกเสียงลั่น และเพียงแค่เสี้ยวอึดใจ อังกูรก็เปิดประตูเขามารับโองการด้วยกายน้อมต่ำ



   “เราจะเข้าเฝ้าเสด็จพ่อ! ส่งคนไปทูลเดี๋ยวนี้!”



   “รับด้วยเกล้าพระเจ้าค่ะ!”



   ถ้าเรื่องที่สนธยาจะรับพระองค์เป็นสนมคือเรื่องจริง ดังนั้นที่ราชินีวารีวาทเสด็จมาที่นี่อย่างกะทันหันก็คงเป็นเพราะเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน!! และนั่นหมายความว่ากษัตริย์วิภูก็ต้องทรงทราบ มิน่าเล่า!! ถึงมีรับสั่งให้พระองค์เตรียมพร้อม! จะให้เตรียมพร้อมไปเป็นสนมของสนธยานี่เอง!!!



…พระองค์ต้องหาทางหยุดยั้งเรื่องทั้งหมดให้ได้เสียก่อน ก่อนที่จะต้องกลายเป็นสนมคนที่ 122 ในโอวาทของสนธยา ซึ่งดูแล้วเจ้าตัวคงจะมีสนมลำดับต่อๆไปอย่างไม่หยุดยั้ง และพระองค์จะต้องถูกลืมเลือนเข้าในสักวัน!



…รัชทายาทไม่ได้ริอยากจะเป็นสนม หากแต่ดำริการใหญ่ประสงค์จะให้คนมีสนมนับร้อยกลายมาเป็นชายาของตนต่างหาก!!!...


………………………………

   “ยังไม่ตื่นอีกรึ?” 



สมิตที่ยืนรออยู่ริมเฉลียงทางเดินเอ่ยปากถามนางรับใช้ในเรือนที่เพิ่งออกจากห้องพักผ่อนทางปีกซ้ายของเรือนไม้ชั้นเดียว ตัวเรือนสร้างจากไม้ทั้งหลัง วางเสาฝังดินโผล่เป็นตอขึ้นมารับน้ำหนักเรือนที่ยกจากพื้นสูงประมาณหน้าแข้งชายฉกรรจ์ มีบันไดขึ้นเรือน 3-4 ขั้น เพียงสี่จุดคือด้านหน้าเรือน ด้านหลังสำหรับตรงไปยังโรงครัว และด้านซ้ายขวาที่มีสวนไม้ดอกโอบล้อมซึ่งล้วนเป็นฝีมือการดูแลของคุณหญิงกาญจน์ผู้เป็นมารดาของสมิตนั่นเอง



   “ยังเจ้าค่ะ นายท่าน”



   “ไปปลุกได้แล้ว ถ้าปลุกไม่ตื่นก็ให้พวกบ่าวชายมาดึงให้ตกเตียง” นางรับใช้เบิกตาโตอย่างตกใจกับคำสั่งของผู้เป็นนาย แต่สมิตถลึงตาใส่ให้นางไปจัดแจงตามที่สั่ง พร้อมกับสำทับเสียงเข้ม



“ข้าบอกให้ไปปลุก! แล้วถ้าเขาตื่นแล้วก็พาไปที่ห้องรับประทานอาหารด้วยล่ะ ข้าหิวแล้ว!” เสียงกำชับดุดันของผู้เป็นนายทำเอาหญิงวัยปลายผู้รับใช้เรือนนี้มีนับสิบปีรีบกุลีกุจอกลับเข้าห้องด้วยหวังว่าการปลุกของนางจะสามารถทำให้คนบนเตียงลืมตาตื่นโดยที่ไม่ต้องพึ่งพวกบ่าวฉกรรจ์ทั้งหลาย



   “ยาที่ใช้ก็ไม่ได้แรงมากมายอะไร ทำเป็นตื่นยากตื่นเย็น” สมิตได้แต่บ่น ก่อนจะหมุนตัวไปยังห้องรับประทานอาหารที่อยู่ส่วนหน้าของเรือน



   ในห้องรับประทานอาหารนั้น มีโต๊ะไม้กลมลงมุกขนาดสี่ที่นั่งวางเด่น บนโต๊ะเพียบพร้อมไปด้วยข้าวปลาอาหารหลากหลายชนิด ในขณะที่ผู้ร่วมโต๊ะวันนี้มีเพียงแค่สอง…ไม่สิ…ต้องนับแขกอันทรงเกียรติที่ถูกสมิตวางยาจนหลับแล้วอุ้มมาขังไว้ที่เรือนตั้งแต่หัววัน



   “ท่านแม่ ทำไมถึงได้เยอะแยะเช่นนี้”



   “อ้าว! ก็เจ้ามีแขกไม่ใช่รึ!” ผู้เป็นมารดาอย่างคุณหญิงกาญจน์นั้นค่อนข้างหน้าใหญ่ สิ่งใดที่เป็นการแสดงบารมีและความมีอันจะกินได้แล้ว นางจะทำอย่างไม่รีรอ ดังนั้นเมื่อวันนี้บุตรชาย ‘อุ้ม’ องครักษ์ในองค์ชายสนธยากลับมาที่เรือน นางก็หวังจะผูกมิตรสร้างไมตรีด้วยอาหารนานาชนิด ไม่แน่…บางที นางอาจจะได้รับเชิญให้ไปเที่ยวที่สมุทราโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย!! ท่านผู้หญิงกาญจน์หน้าใหญ่เพื่อผลประโยชน์ภายภาคหน้าเสมอ!!



   “แขกอะไรกันล่ะท่านแม่! ตื่นมาจะอาละวาดรึเปล่าก็ไม่รู้”



   “เขาจะอาละวาดทำไม เจ้าไปทำเรื่องไม่ดีไว้รึ”



   “เขาไม่ชอบขี้หน้าข้า”



   “อ้าว! แล้วไปอุ้มเขามาทำไม!” คุณหญิงกาญจน์ร้องถามหน้าตาดูตกใจที่อยู่ดีๆบุตรชายก็ไปอุ้มคนอื่นเข้าเรือนเสียอย่างนั้น



   “ก็…” สมิตไม่ทันได้พูด สายตาก็เหลือบไปเห็นร่างสูงโปร่งผิวขาวผู้เป็นองครักษ์ขององค์ชายสนธยาเดินตรงมายังห้องรับประทานอาหารโดยมีนางรับใช้คอยประคอง หน้าตายับย่นดูไม่ได้ อาจจะเพราะถูกปลุกจากเตียงหรือไม่ก็เพราะฤทธิ์ยายังตกค้าง



   “ขออนุญาตเจ้าค่ะ” นางรับใช้ที่พยุงชีวินกล่าวอย่างนอบน้อมเมื่อมายืนอยู่หน้าห้องรับประทานอาหาร คุณหญิงกาญจน์พยักหน้าเล็กน้อยเป็นการอนุญาต นางจึงพาชีวินเข้ามานั่งที่เก้าอี้ ใบหน้าขาวยังคงบูดบึ้ง หัวคิ้วขมวดเข้าหากันแน่น และมือขึ้นหนึ่งถูกยกขึ้นกุมขมับราวกับปวดศีรษะเสียเต็มประดา มาถึงตอนนี้ สมิตชักเริ่มรู้สึกว่าตนเองอาจจะ ‘วางยา’ หนักมือไปเสียหน่อย



   “เป็นอย่างไรบ้าง” ชีวินเงยหน้าขึ้นมองคนตั้งคำถามกับเขา ดวงตายังคงหรี่เล็กเพราะอาการปวดศีรษะทำให้ลืมตาไม่สะดวก แต่ก็พอจะรู้ว่าคนตรงหน้าคือใคร



   “เจ้าทำอย่างนี้ทำไม” น้ำเสียงนั้นอ่อนระโหยและเหนื่อยอ่อน อาการปวดศีรษะรุมเร้าเสียจนแทบไม่มีแรง สมิตกลืนน้ำลายอึกใหญ่ เริ่มรู้สึกผิดมากขึ้นทุกทีเมื่อเห็นอีกฝ่ายได้รับผลข้างเคียงจากการกระทำของตนถึงเพียงนี้ เขาทรุดกายลงนั่งบนเก้าอี้ข้างๆ



   “ก็…ก็…ก็ข้าอยากให้เจ้ามาชิมอาหารฝีมือท่านแม่ของข้า ท่านแม่…นี่ชีวิน องครักษ์ขององค์ชายสนธยา ชีวิน…นี่ท่านแม่ของข้า คุณหญิงกาญจน์” ชีวินหันมองตามการแนะนำของสมิตช้าๆ เขาเพียงแค่ค้อมศีรษะเล็กน้อยอย่างเชื่องช้าด้วยเพราะอาการปวดศีรษะ คุณหญิงกาญจน์ได้แต่ยิ้มประหลาดเมื่อคำพูดคำจาของสมิตนั้นช่างไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย



   …อุ้มเขามา เพราะอยากให้เขามาทานอาหารฝีมือของนางอย่างนั้นหรือ?!! …



   “ข้าต้องกลับ” ชีวินเอ่ยเสียงเบาอย่างอ่อนล้า ทว่าไม่ทันได้ลุก สมิตก็กดไหล่อีกฝ่ายให้นั่งต่อ



   “จะกลับได้อย่างไ รกัน ป่วยเสียขนาดนี้”



   “ข้าไม่ได้ป่วย” ดวงตาหรี่เล็กนั้นจับจ้องใบหน้าของสมิตราวกับจะคาดโทษว่าที่เขาต้องเป็นเช่นนี้ก็เพราะสมิตทั้งนั้น!!



   “เอาเถอะ ข้าไม่เถียงกับเจ้า เพราะนี่คือเวลาอาหารของเรือนข้า” ว่าแล้วสมิตก็หันไปสั่งให้นางรับใช้ตักข้าวที่หุงจนสุกร้อนลงบนจานกระเบื้องตรงหน้าพวกเขาทั้งสามคน นอกจากนั้นสมิตยังบังคับชีวินต่อด้วยการจับมือแล้วยัดช้อนที่ทำจากไม้เหลาจนเป็นรูปเข้าไปในมือของอีกฝ่ายอีกต่างหาก



   “นี่เป็นอาหารพื้นเมืองของทางตอนเหนือของอนันตราช แม่ของข้าท่านเป็นคนทางเหนือ เจ้าคงไม่เคยลอง”



หนำซ้ำ สมิตยังริอ่านตักอาหารบนโต๊ะมาใส่จานของชีวินด้วยเสียอีกถือเป็นการบังคับให้อีกฝ่ายลงมือรับประทานเสีย



   “ข้าปวดหัว” เป็นการบอกกลายๆว่าชีวินไม่อยากรับประทานสิ่งใดทั้งนั้น สมิตหันมองคนพูด ความรู้สึกผิดพุ่งวาบในใจ ยามที่เขาวางยาลงในอาหารกลางวันของชีวินเมื่อตอนเที่ยงนั้น ไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไร เพราะเห็นว่าอีกฝ่ายเป็นทหารหาญ น่าจะทนทายาด หากแต่แท้จริงแล้ว ความจริงข้อหนึ่งที่เขานึกไม่ถึงคือแม้เป็นทหาร แต่ก็อาจแพ้ยาพิษบางกลุ่มได้เช่นกัน และนั่นหมายความว่าผลข้างเคียงที่ตกค้างจะออกฤทธิ์มากกว่าที่ควรออก



   “ถ้าอย่างนั้นรับเป็นน้ำต้มร้อนๆดีไหม แม่จะให้คนตักมาให้” คุณหญิงกาญจน์มองเห็นความเอื้ออาทรของบุตรชายก็ตีความไปว่าชีวินอาจเป็นเพื่อนรักเพื่อนใคร่ที่พวกทหารสมัยนี้นิยมสร้างความสนิทสนมและห่วงใยกันเช่นนี้



   “ไม่เป็นไรขอรับ ข้าจะกลับแล้ว” ชีวินตัดบทด้วยวาจาอ่อนระโหย และเพียงแค่ลุกขึ้น สิ่งที่สมิตคาดเอาไว้ก็เกิด เมื่อเจ้าตัวเซแทบจะล้มลงในทันที จนเขาต้องรีบลุกขึ้นคว้าร่างเอาไว้



   “ดื้อด้าน! เกือบล้มหน้าคะมำไปแล้วเห็นไหม?!! นั่งลงเดี๋ยวนี้แล้วทานอาหารให้เสร็จ! อย่าให้ข้าต้องใช้กำลังบังคับยัดข้าวเข้าปากเจ้า!” ชีวินได้แต่ตวัดสายตามองด้วยความขุ่นเคือง เขาอยากบอกว่าที่เกือบล้มหน้าคะมำไม่ได้เป็นเพราะเขา แต่เป็นเพราะไอ้คนอุตริที่ริวางยาเขาต่างหาก!



   ชีวินดื้อด้านมากพอสมกับที่ถูกอีกฝ่ายต่อว่า เพราะแม้บนโต๊ะรับประทานอาหารจะมีคุณหญิงกาญจน์ร่วมด้วย แต่เจ้าตัวก็ทำแข็งข้อไม่ยอมตักอาหารสักอย่างเข้าปาก



   “แม่ของข้าคือคุณหญิงกาญจน์ เป็นลูกพี่ลูกน้องของราชินี ที่มาสมรสกับบิดาของข้าซึ่งเป็นนายพลประจำชายแดน…เจ้าคิดว่าเกียรติของแม่ของข้ามีมากพอที่เจ้าจะร่วมโต๊ะด้วยไหม” สมิตต้องใช้วาจาขู่ และแน่นอนว่าชีวินตวัดสายตามองอย่างเอาเรื่อง ก่อนจะเหลือบตาไปมองคุณหญิงกาญจน์ที่นั่งร่วมโต๊ะด้วย ก่อนจะยอมหยิบช้อนขึ้นมาตักอาหารเข้าปาก


   สมิตกระหยิ่มยิ้มย่อง ทว่าเสี้ยวอึดใจต่อมาก็ต้องร้องเสียงหลง


“โอ๊ย!!!” รอยยิ้มทั้งหมดหยุดแต่เพียงเท่านั้นเมื่อความเจ็บวูบกระแทกลงบนเท้าของเขาแล้วลามขึ้นมาถึงศีรษะเพราะนอกจากจะถูกเท้าใครบางคนกระแทกเหยียบเท้าเขาแล้ว ไอ้เท้าหนักๆนั่นยังกดบี้เสียจนหมายจะทำให้กระดูกเท้าเขาแตกละเอียด



   “เจ้านี่มัน!!!...” เจ้าของเรือนได้แต่ขุ่นเคือง หากแต่สิ่งที่ได้ตอบกลับมาคือวาจาเบาหวิวหากแต่ฝังแน่นไปด้วยความแค้นเคือง



   “นี่ยังไม่เท่ากับที่เจ้าวางยาข้า! จำเอาไว้!!” อย่าเล่นกับคนที่ชื่อชีวิน!!!

…………………………………


   เหล่าผู้ขอเข้าเฝ้ากษัตริย์วิภูในวันนี้ล้วนได้เข้าเฝ้ากันทั้งหมดแล้ว และต่างถวายรายงานและเหตุปัจจัยที่ขอเข้าเฝ้ากันถ้วนหน้า กษัตริย์วิภูทรงวินิจฉัยเรื่องต่างๆแล้ว และมีโองการในแต่ละเรื่องแตกต่างกันไป ก่อนจะมีรับสั่งให้เลิกการประชุม


   “วันนี้เราไม่รับงานนอกงานในแล้วนะ เราจะไปหาองค์เจษเสียหน่อย” กษัตริย์หนุ่มใหญ่ผู้เป็นประมุขแห่งอนันตราชหันมาตรัสกับราชเลขาที่คอยจดบันทึกรายละเอียดต่างๆตั้งแต่การประชุมในรอบเช้า และการเข้าเฝ้าเป็นการพิเศษในยามสาย ซึ่งลุล่วงมาถึงเกือบเย็นย่ำเช่นนี้



   “เห็นทีจะไม่ได้กระหม่อม เมื่อครู่นี้ท่านอังกูร องค์รักษ์รักษาพระองค์ในองค์ชายเตชินทร์นำความมาว่าองค์ชายเตชินทร์มีพระประสงค์เข้าเฝ้าพระองค์เป็นการด่วนพระเจ้าค่ะ”



   “องค์เตชรึ?” กษัตริย์วิภูได้แต่นิ่งไปเล็กน้อยด้วยเพราะพักหลังมานี้ เรื่องที่โอรสผู้เป็นรัชทายาทลำดับที่ 2 ขอเข้าเฝ้าพระองค์ล้วนเป็นเรื่องของสมุทราทั้งสิ้น และคราวนี้…ก็คงไม่พ้นเรื่องที่ราชินีวารีวาทแห่งสมุทราจะเสร็จมาอนันตราช…



   “เราคนเดียวคงเอาองค์เตชไม่อยู่ ถ้าอย่างไร เจ้าไปตามองค์เจษมาด้วยแล้วกัน สองแรงแข็งขัน องค์เตชคงยอมฟังแต่โดยดี”



   “รับด้วยเกล้า”
……………….



ออฟไลน์ Dezair

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 533
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1543/-8
   ทันทีที่ได้รับอนุญาตให้เข้าเฝ้า องค์ชายเตชินทร์ก็รีบเสด็จมายังตำหนักหลวงของพระบิดาโดยพลัน พระองค์พบกับพระเชษฐาอย่างองค์ชายเจษฎาที่หน้าตำหนัก หากแต่ทักทายเพียงเล็กน้อยก็รีบแจ้นเข้าตำหนักเพราะมีเรื่องร้อนใจใหญ่หลวงเกินกว่าจะรีรอได้



   “เสด็จพ่อ ถวายบังคมพระเจ้าค่ะ!” องค์ชายเตชินทร์น้อมกายทำความเคารพด้วยใบหน้าเคร่งเครียด อย่างที่ทำเอากษัตริย์วิภูต้องยกหัตถ์เป็นการปรามสิ่งที่โอรสต้องการจะทูล



   “ข้ารู้ว่าเจ้าจะพูดสิ่งใด องค์เตช แต่รอสักครู่ได้ไหม ข้าขอดื่มน้ำสักหน่อย” กษัตริย์วิภูต่อรอง ด้วยเพราะต้องการรอให้โอรสองค์โตมาถึงเสียก่อน และเพียงครู่เดียว องค์ชายเจษฎาก็ก้าวเข้ามาในห้อง



   “ถวายบังคมพระเจ้าค่ะ” กษัตริย์วิภูทรงมีทีท่านิ่งเฉยราวกับการที่โอรสทั้งสองเข้าเฝ้าพร้อมกันนั้นเป็นเรื่องที่พระองค์ตั้งพระทัยเอาไว้แล้ว ในขณะที่องค์ชายเตชินทร์กลับมีพระพักตร์งุนงงด้วยเพราะไม่เข้าใจว่าพระเชษฐาจะมาร่วมเข้าเฝ้าไปทำไม



   “เอาล่ะ มาพร้อมกันแล้ว มีอะไรจะเล่าก็เล่ามา องค์เตช”



   “เอ่อ…พระเจ้าค่ะ” แม้จะอดตะขิดตะขวงไม่ได้ ที่มีพี่ชายมาร่วมวงด้วย แต่เพราะสนิทสนมกับองค์ชายเจษฎาเป็นอย่างดี องค์ชายเตชินทร์จึงไม่คิดว่าจะสมควรปิดบังแต่อย่างใด



   “คือ…กระหม่อมมีเรื่องอยากทูลถาม ที่ราชินีวารีวาทเสด็จมาถึงนี่ เป็นเพราะเรื่องหมั้นหมายใช่หรือไม่พระเจ้าค่ะ” กษัตริย์วิภูนิ่งไปอึดใจ ก่อนจะพยักพักตร์รับ เพียงเท่านั้น ดวงเนตรขององค์ชายเตชินทร์ก็ดูเหมือนจะเบิกโตเป็นสองเท่า



   “หมั้นหมายใครพระเจ้าค่ะ?!”



   “เจ้า”



   “กระหม่อม?! กระหม่อมกับใครพระเจ้าค่ะ?! กับองค์ชายสนธยาอย่างนั้นหรือ”



   “ใช่” คราวนี้องค์ชายเตชินทร์นิ่งงันด้วยความตกใจ หากแต่เสี้ยวลึกในใจนั้นกลับอิ่มเอมไปด้วยความยินดี ทว่าเหตุการณ์ที่เพิ่งถูกองค์ชายสนธยาต่อว่าต่อขานเสียยกใหญ่ย้อนกลับเข้ามาในความคิด ทำเอาพักตร์ขาวซีดเผือดไปในบัดดล



   “แล้ว…แล้ว…แล้วใครไปเป็นสะใภ้ใครหรือพระเจ้าค่ะ” คำถามตะกุกตะกักขององค์ชายเตชินทร์นั้น ส่งผลให้คนต้องตอบคำถามอย่างกษัตริย์วิภูและองค์ชายเจษฎาต้องสบเนตรกันอย่างเงียบๆ ด้วยเพราะเรื่องนี้ ราชินีวารีวาทยืนยันหนักแน่นว่าฝ่ายองค์ชายเตชินทร์ ‘เพลี่ยงพล้ำถูกจูบ’ ดังนั้นก็ต้องให้ฝ่ายสมุทรารับผิดชอบด้วยการรับองค์ชายเตชินทร์เข้าเป็นสะใภ้! 



อันที่จริง ตอนแรกกษัตริย์วิภูก็ค้านหัวชนฝา ให้อย่างไรก็ไม่ยอมให้โอรสของตนไปเป็นสะใภ้ราชสำนักอื่น ทว่าเมื่อเรียกทั้งชีวิน อังกูร และสมิตมาเข้าเฝ้าและไต่ถามถึงเรื่องราวภายในตำหนักอิฐขององค์ชายเตชินทร์ กษัตริย์วิภูก็ได้แต่ยอมรับความจริงว่าโอรสของพระองค์หมายมั่นในความรักขององค์ชายสนธยาเสียเหลือเกิน! แล้วถ้าเช่นนั้น จะกีดขวางกันไปทำไม หากให้แต่งไปเป็นสะใภ้ขององค์ชายสนธยา โอรสของพระองค์คงมีความสุขทุกวันคืน!



   “เสด็จพ่อจะให้กระหม่อมไปเป็นสะใภ้ของสมุทราไม่ได้นะพระเจ้าค่ะ!” เมื่อความเงียบคือคำตอบที่องค์ชายเตชินทร์เดาทางได้ พระองค์ก็รีบร้องขอความเป็นธรรมอย่างตื่นตระหนก



   “แต่เจ้ารักองค์ชายสนธยาไม่ใช่หรือ ข้าไม่อยากขัดขวางความรู้สึกของเจ้า”



และเหนือสิ่งอื่นใด คือเหตุผลที่ราชินีวารีวาทยกมาอ้าง ว่าหากได้องค์ชายเตชินทร์ไปเป็นสะใภ้ให้แก่ราชสำนัก องค์ชายสนธยาจะสามารถกลับไปที่สมุทราได้โดยมีนายทหารฝีมือดีจากอนันตราชติดตามไปด้วย แม้สมุทราจะเป็นเพียงเกาะเล็กๆที่ดูเหมือนจะต้องเดินอยู่ในเงาของอนันตราช หากแต่เรื่องครั้งเก่าก่อนที่สมุทราเคยมีบุญคุณกับอนันตราช ก็ทำให้กษัตริย์วิภู ‘ยอม’ สมทุราแทบทุกเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องคราวนี้…มิเช่นนั้นคงไม่รับองค์ชายสนธยาที่มาพร้อมบรรณาการหอยหนึ่งตัวให้เข้ามาพำนักในวังหลวงของอนันตราชตั้งแต่แรกหรอก



   “แต่องค์ชายสนธยามีสนมเป็นร้อยคน ให้กระหม่อมแต่งเข้าไปเป็นเมียเขา ก็ต้องไปเป็นเมียคนที่ 122 นะพระเจ้าค่ะ! กระหม่อมไม่มีวันยอมให้เกิดเรื่องเช่นนั้นแน่”



   “แต่เจ้าเป็นฝ่าย…เอ่อ…เพลี่ยงพล้ำให้แก่องค์ชายสนธยาไม่ใช่รึ ตามธรรมเนียมแล้ว ก็ต้องแต่งไปเป็นเมียเขาทั้งนั้น”



   “เพลี่ยงพล้ำ?!! กระหม่อมไปเพลี่ยงพล้ำให้แก่องค์ชายสนธยาตอนไหน?!!” คราวนี้กษัตริย์วิภูและองค์ชายเจษฎาเหลือบเนตรสบกันอย่างประหลาดใจ ที่ดูเหมือนองค์ชายเตชินทร์จะไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเสียเลย



   “ก็…ชีวิน องครักษ์ขององค์ชายสนธยา ยืนยันกับเสด็จพ่อว่าองค์ชายสนธยาตรัสว่าเขาจูบเจ้า”



   “เขาจูบข้า?!! ไม่จริง เสด็จพี่!! ข้าต่างหากที่จูบเขา!! เขาควรจะแต่งมาเป็นเมียข้า เข้ามาเป็นสะใภ้อนันตราช! เพราะเขาต่างหากที่เป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำให้แก่ข้า!” องค์ชายเตชินทร์ทูลเสียงลั่น คราวนี้ทั้งกษัตริย์วิภูและองค์ชายเจษฎาถึงกับนิ่งชะงักด้วยเพราะเรื่องราวของสองฝั่งนั้นต่างกันอย่างสิ้นเชิง ไม่มีใครยอมรับว่าเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำให้แก่ใคร



“…เสด็จพ่อตรองดูเถิดพระเจ้าค่ะ ที่สมุทรามีภัยร้ายใหญ่หลวงหมายจะปลงพระชนม์องค์ชายสนธยาทุกเวลา พระองค์จะให้องค์ชายรับข้าเป็นเมียแล้วเสด็จกลับไปอยู่ที่สมุทราอย่างนั้นหรือ? กลับไปก็เท่ากับตายทั้งนั้น สู้ให้แต่งเข้าอนันตราช แล้วอยู่ที่นี่จะไม่ดีกว่าหรือพระเจ้าค่ะ ที่อนันตราชพรั่งพร้อมไปด้วยนายทหารฝีมือดี ซ้ำยังมีแต่คนของเรา องค์ชายสนธยาจะปลอดภัยกว่า” องค์ชายเตชินทร์ทูลผู้เป็นบิดาอย่างรีบร้อนด้วยเพราะเกรงว่าหากปล่อยให้ทั้งบิดาและพี่ชายตัดสินสิ่งใดลงไป พระองค์ต้องรับผลของสิ่งนั้นไปชั่วชีวิต



   …แล้วจะให้รับ ‘การเป็นเมีย’ องค์ชายสนธยาอย่างนั้นน่ะหรือ?! มีหวังได้กลายเป็นสนมที่ไม่ถูกเหลียวแลทั้งชีวิตแน่!!...



   “อย่างที่องค์เตชว่ามาก็เห็นจะจริงนะพระเจ้าค่ะเสด็จพ่อ ส่งองค์ชายสนธยากลับไปสมุทรา ก็เท่ากับส่งไปตาย”



   “ใช่พระเจ้าค่ะ!” เมื่อเห็นว่าผู้เป็นพี่เริ่มคล้อยตาม องค์ชายเตชินทร์จึงต้องสนับสนุนเพิ่มเติม



   “เสด็จพ่อ อย่าให้กระหม่อมแต่งไปเป็นสนมเขาเลย สู้ให้เขาแต่งมาเป็นเมียกระหม่อมจะดีกว่า สมัยก่อน พ่อของเขาที่เป็นคนของสมุทราก็ยังเคยช่วยค้ำจุนราชสำนักอนันตราช แล้วพอมาถึงคราวนี้ ให้อนันตราชเป็นที่พักพิงแก่เขาไม่ได้หรือ” องค์ชายเตชินทร์แทบจะวอนขอ



   “องค์เตช ถ้าข้าไม่ให้เขาพักพิง ป่านนี้เขาก็ไม่ได้เป็นคนพาหอยบรรณาการมาที่นี่หรอก…เอาล่ะ ในเมื่ออนันตราชเป็นที่พักพิงให้แก่เขาแล้ว ก็ต้องเป็นที่พักพิงให้ถึงที่สุด” กษัตริย์วิภูทรงเงียบไปอึดใจราวกับหวนคิดถึงเรื่องราวเก่าก่อนที่ครั้งหนึ่งชายชาวสมุทราผู้หนึ่งเคยช่วยเหลือพระองค์และราชบัลลังก์นี้ แม้ยามนี้ชายผู้นั้นจะไม่มีลมหายใจอยู่แล้ว แต่สัญญาที่พระองค์รับเอาไว้ก็ยังคงยึดมั่น



   …สมุทราไม่ใช่ส่วนหนึ่งของอนันตราช แต่อนันตราชต้องดูแลสมุทรา…



   “…องค์เจษ เจ้าไปเรียกท่านเลขาฯวิกรมมาพบข้าที ข้าต้องแก้ไขหัวข้อที่จะคุยกับราชินีวารีวาทเสียใหม่”



   “รับด้วยเกล้า” องค์ชายเจษฎาเสด็จออกจากห้องไปแล้ว เหลือเพียงองค์ชายเตชินทร์ที่ยังคงจ้องพระพักตร์ของผู้เป็นบิดา



   “จากที่ต้องเรียกของหมั้นจากสมุทรา กลายเป็นต้องหาของมาหมั้นโอรสของเขาแทน เจ้าคิดว่าเอาอะไรไปหมั้นเขาดีล่ะ”



   องค์ชายเตชินทร์แย้มสรวลกว้าง ก่อนจะผายมือออกกว้างอย่างยินดี



   “ทุกอย่าง และทั้งหมดที่กระหม่อมมี”



   คนเป็นบิดาได้สดับคำพูดชวนคลื่นไส้นั้นแล้วก็ได้แต่โบกหัตถ์ไปมา



   “ไปหมั้นโอรสองค์โตของเพื่อนรักของข้า เจ้าให้แค่ทุกอย่างที่เจ้ามีไม่ได้หรอก ต้องให้ทุกอย่างที่อนันตราชให้ได้ต่างหาก”

ติดตามตอนต่อไป (ขอสองอาทิตย์นะคะ)
ฝนตก ป่วย และเบลอ T-T
ขอบคุณคนอ่าน คนเม้นท์ คนติดตาม และพื้นที่บอร์ดค่ะ

ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7
กีสส
คุณบัวมาต่อแล้ว
แล้วอย่างนี้องค์สนจะยอมหรือคะ 55555

ป.ล.หายไวๆนะคะคุณบัว

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Heisei

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 405
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-1
 :man1: :man1: :man1:กอดคนเขียน องค์เตช และองค์สนค่ะ

น่ารักดีที่องค์เตชเต้นเร่าๆไม่ใช่เพราะไม่อยากเป็นสนม แต่เป็นเพราะเป็นสนมแล้วจะไม่ถูกเหลียวแลต่างหาก!!

องค์สนนี่ก็ช่างใจร้าย  ลองสำรวจใจดูหน่อยเถอะ จะได้รู้ว่ามีใครมาจับจองอยู่แล้ว

ปล.ชอบวาจาหวานเลี่ยนขององค์เตชตอนสุดท้ายมาก 55555

ออฟไลน์ =นีรนาคา=

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2546
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +296/-6
องค์เตชนี่อาการหนักนะ ให้ได้ทุกอย่าง หวานเลี่ยนจริงๆ ฮ่าาาา
องค์สนจะว่ายังไงบ้างนะ

แอบชอบคู่องครักษ์ทั้งสอง สมิตกับชีวิน
ไม่มีใครยอมใคร
สมิตต้องรับผิดชอบชีวินด้วยนะ อย่าลืมๆ ตัวเองไปฉุดเค้ามาอ่ะ

ออฟไลน์ kongxinya

  • Skt KS
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
องค์เตชน่ารักกกกก :impress2:
ดูสิองค์สนจะทำไงต่อ  :hao7:
ส่วนสมิตนี่ท่าทางจะต้องรับผิดชอบนะนี่ดูสิชีวินป่วยเลย :z1:

รอตอนต่อไป ขอให้หายไวๆนะคะคุณบัว  :L2: :กอด1: :pig4: :L2:

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9405
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
องค์เตชทุ่มสุดตัวเลยนะฮะงานนี้ แต่องค์สนท่าจะคิดหนัก :laugh:
อ่านไปขำไปตลอด :m20:

ออฟไลน์ ❝CHŌN❞

  • เหงา เหงา :(
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1924
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-3
กรี๊ดดดดดดดดด สมใจองค์เตชเลยสินะ
นี่ถ้าองค์สนรู้จะอาละวาดไหมเนี่ย ฮ่าๆ มาก ทั้งพ่อ ทั้งลูก
ปล.หายป่วยไวไวนะคะ คุณบัว

ออฟไลน์ sine_saki

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-2
แอร้ย....คิดถึงคุณบัวมากเลย มาจุ๊บทีนึงซิ อิอิ
อุแหม ท่าทางองค์สนจะโดนพลิกคดีแล้ว

ออฟไลน์ koikoi

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3862
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +311/-13

ออฟไลน์ sweetbasil

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 807
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-3
เป่ายิงฉุบกันสิ ว่าใครจะได้เป็นพระชายา :m20:

ออฟไลน์ FlOriN

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 182
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
เย้ๆ มาแล้วววว
สนุกทุกตอนที่อ่านจริงๆค่ะ ;))
ชอบชีวินกับสมิตจัง เถียงกันตลอดดด

ออฟไลน์ Whatever it is

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3960
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +380/-8
55 ขำพระเอก เกือบได้สามีโดยประมาทซะแล้ว

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด