...ด้วยพันธะบรรณาการ พันธะ 17(จบ)...อัพ 22/07 (หน้า 20 ค่ะ)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ...ด้วยพันธะบรรณาการ พันธะ 17(จบ)...อัพ 22/07 (หน้า 20 ค่ะ)  (อ่าน 276032 ครั้ง)

ออฟไลน์ Dezair

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 533
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1543/-8
NOV: ด้วยพันธะบรรณาการ
By: Dezair
……………………..
พันธะที่ 7

   ประวัติศาสตร์หน้าใหม่แห่งอนันตราช


   …อาคันตุกะจากสมุทราผู้พาหอยมาเป็นของบรรณาการนึกแผลงตกต้นไม้ยามดึก!!...


   องค์ชายสนธยาอยากจะเอาพักตร์ซุกลงกับหมอน แล้วไม่พบหน้าพบตาใครอีกด้วยเพราะอับอายเหลือประมาณ ปีนต้นไม้เป็นตั้งแต่ยังตรัสไม่ชัด สมัยอยู่สมุทราก็ปีนบ่อยเสียจนถูกเสด็จแม่เรียกว่าลิง แล้วเหตุใดหนอ! เหตุใด!! เหตุใดพอมาปีนที่อนันตราชแล้วถึงตกต้นไม้ให้เจ็บตัวและเสียหน้าเช่นนี้!!


   “ท่านคิดจะทำอะไร ท่านสน เหตุใดจึงปีนขึ้นไปบนต้นไม้แบบนั้น!”


หลังจากรับการรักษาจากหมอหลวงซึ่งลงความเห็นว่า องค์ชายสนธยาแห่งสมุทรานั้นมีพระปรีชาสามารถในการ ‘ตกต้นไม้’ เป็นอย่างยิ่ง เพราะสามารถเอาพระองค์รอดจากการเจ็บหนักได้อย่างหวุดหวิด ที่พอจะต้องรักษาก็คือบาดแผลฟกช้ำดำเขียว และรอยขีดข่วนตามวรองค์เท่านั้น แต่องค์ชายสนธยาก็ยังถูกควบคุมเข้มงวดอยู่ในห้องบรรทม นายทหารนับสิบยืนอารักขาอยู่แทบทุกจุดในห้องราวกับเจ้าของตำหนักเกรงว่าองค์ชายหนุ่มจะหาเรื่องแผลงปีนต้นไม้เล่นอีก


   “ท่านสน ท่านรู้ไหมว่าเราเป็นห่วงท่านเพียงใด เหตุใดจึงปีนต้นไม้…” องค์ชายเตชินทร์ยังคงประทับอยู่เคียงข้างและเฝ้าแต่หาคำตอบว่าเหตุใด คนที่ขังตัวอยู่ในห้องเป็นเวลาหลายวันจึงนึกแผลงปีนต้นไม้ยามดึกยามดื่น นี่ดีหรอกที่ปีนแล้วตก ถ้าปีนแล้วไม่ตก แต่ถูกพวกทหารจับได้ เกิดพวกนั้นตัดสินใจพละการ ‘สอย’ คนปีนต้นไม้เพราะไม่เห็นว่าเป็นใคร มีหวังพระองค์คงได้เรียกทหารทั้งกองมาลงโทษเป็นแน่!!


   “ท่านสน ท่านบอกเรามาทีเถอะ ท่านขึ้นต้นไม้ไปทำไม” เมื่อยังคงไร้คำตอบจากคนเจ็บ น้ำเสียงขององค์ชายเตชินทร์จึงลดความเข้มลงแล้วเหลือเพียงความห่วงใยอาทรอย่างที่ทำเอาคนบนเตียงใจอ่อน สนธยาก็พอจะรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นห่วงเขาเพียงใด หากแต่…บอกความจริงไม่ได้…



   “เราเห็นจันทร์สวยดี ก็เลย…ขึ้นไปชมจันทร์…”


   “ชมจันทร์?”


   “ใช่…จากต้นไม้ ชมจันทร์ได้ชัดที่สุด…” พักตร์คมคายขององค์ชายเตชินทร์มีแววเสียพระทัยอยู่วูบหนึ่ง หากแต่เพียงพริบตาเดียวมันก็หายไป องค์ชายหนุ่มทรงลุกจากพระเก้าอี้พลางถอนปัสสาสะเสียทีหนึ่ง


   “ท่านไม่เห็นใจความห่วงใยของเราเลย ที่พาตัวเองไปเสี่ยงอันตรายด้วยการขึ้นไปชมจันทร์เช่นนั้น…”


   “เราขอโทษ ท่านเตช เราไม่คิดว่าจะตกลงมา” สนธยารีบคว้าท่อนกรของอีกฝ่ายเอาไว้ ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนนั้นเต็มไปด้วยความสำนึกผิดอย่างที่ทำเอาเตชินทร์ใจอ่อนวูบ


   “คราวหลังก็อย่าทำเช่นนั้นอีก แม้เราจะสอยจันทร์ลงมาให้ท่านชมไม่ได้ แต่เราก็จะพาท่านไปชมจันทร์ในที่ที่ปลอดภัยและจันทร์งามที่สุด” สนธยาได้แต่เงียบแล้วพยักหน้ารับเบาๆราวกับจะบอกว่าคราวหน้าคราวหลังจะไม่ปีนต้นไม้เพื่อชมจันทร์เช่นนั้นอีกแล้ว


   “ท่านพักผ่อนเสียเถอะ ท่านหมอบอกว่าท่านต้องพักผ่อนให้มากๆ เราขอตัวก่อน”


   “ท่านเตช…” สนธยาเรียกเอาไว้ ก่อนที่อีกฝ่ายจะเดินออกจากห้อง เตชินทร์หันกลับมามอง


   “…ขอบคุณท่านมาก” เตชินทร์เพียงค้อมศีรษะรับคำนั้น ก่อนจะเสด็จออกจากห้องพร้อมองครักษ์คนสนิททั้งสอง ซึ่งพอพ้นประตูห้องบรรทมขององค์ชายแห่งสมุทราแล้ว องค์ชายเตชินทร์ก็หันมาทางสมิต


   “เจ้าให้ทหารออกจากห้ององค์ชายสนธยาให้หมด ให้เหลือเพียงเขากับชีวิน”


   “แล้วไม่ต้องถวายอารักขาหรือพระเจ้าค่ะ…”


   “ไม่ต้อง เราต้องการให้เขาอยู่กับชีวินตามลำพัง” องค์ชายเตชินทร์ตรัสเช่นนั้นด้วยพักตร์ที่แสนเจ็บปวดอย่างที่สมิตไม่เคยเห็นมาก่อนจนต้องทูลเรียกเอาไว้


   “องค์เตช…”


   “เขาโกหกเรา แต่เราเชื่อว่าเขาจะไม่โกหกชีวิน อย่างไรเสีย เขาก็ต้องบอกชีวินว่าเขาปีนต้นไม้ทำไม”


   “โกหก? ทรงทราบได้อย่างไรว่า…องค์ชายสนธยาทรงโกหก…” องค์ชายเตชินทร์หันมาทางคนถาม ดวงเนตรนั้นเจ็บลึกเกินประมาณ


   “สมิต…คืนนี้เป็นคืนเดือนมืด ไม่มีจันทร์ให้ชม…” สมิตนิ่งงัน ในคำตอบของผู้เป็นนายเหนือหัวนั้นเจือแววเจ็บปวดหยั่งลึกอย่างน่าสงสาร เขากลืนน้ำลายอึกใหญ่ ก่อนจะทูลถามอีกครั้ง


   “แล้วพระองค์แน่พระทัยได้อย่างไร ว่าถ้าเจ้าองครักษ์ชีวินนั่นรู้ความจริงจากโอษฐ์องค์ชายสนธยา แล้วจะยอมนำความจริงนั้นมาทูลพระองค์” สมิตตั้งคำถามอีก หากแต่ดูเหมือนเวลานี้ หทัยขององค์ชายเตชินทร์จะยังจมจ่อมกับความเศร้าที่ถูกคนในดวงใจโกหกเสียคำโต จึงได้แต่ตอบเสียงเรียบกลับไปก่อนจะหายลับเข้าไปในห้องบรรทม


   “เราเชื่อว่าแม้ชีวินจะไม่มาทูลเรา แต่เขาจะเป็นคนทำให้องค์ชายสนธยายอมพูดความจริงกับเราเอง”


   …………………………….

   ภายในห้องบรรทมขององค์ชายสนธยานั้น บัดนี้เหลือเพียงนายทหารคนสนิทที่ตามติดมาจากสมุทรา ส่วนทหารเวรยามคนอื่นๆที่เมื่อครู่ยังยืนประจำตามจุดต่างๆในห้อง ถูกเรียกออกไปหมดแล้ว องค์ชายหนุ่มจึงได้พิงกายกับหัวแท่นบรรทมอย่างสบายพระทัยที่ไม่มีใครมานั่งจับผิด


   “จะตรัสได้หรือยังพระเจ้าค่ะ ว่าเหตุใดจึงปีนต้นไม้”


หาก…แม้ไม่มีคนจับผิด แต่ชีวินผู้เป็นองครักษ์ก็ยังตามราวีจะรู้ให้ได้ องค์ชายสนธยาเหลือบเนตรไปยังองครักษ์หนุ่มร่างสูงโปร่งก่อนจะยอมออกโอษฐ์


   “ก็อย่างที่เราบอกองค์เตช เราขึ้นไปชมจันทร์”


   ชีวินไม่คัดไม่ค้าน หากแต่เขาวางขวดกระเบื้องเล็กๆลงบนโต๊ะข้างเตียงให้องค์ชายสนธยาเป็นผู้หันมาทอดพระเนตรเอง และทันทีที่พระองค์ทอดพระเนตรขวดกระเบื้องสีน้ำตาลอ่อนนั้นเพียงแค่วูบเดียว พักตร์สีน้ำผึ้งก็ดูเหมือนจะซีดเผือดในบัดดล


   “กระหม่อมพบขวดยานี้ที่ใต้ต้นไม้ต้นที่พระองค์ทรงปีน”


   ไม่มีคำตรัสอื่นใดจากองค์ชายสนธยา ชีวินจึงเอ่ยต่อ


   “ขวดยานี้เป็นขวดยาเฉพาะของราชสำนักสมุทรา พระองค์ทรงทราบหรือไม่ ว่ามันไปอยู่ใต้ต้นไม้ต้นที่พระองค์ทรงปีนได้อย่างไร”


   “จะไปรู้รึ?! เจ้าออกไปได้แล้วชีวิน ไม่ได้ยินท่านหมอพูดหรือว่าเราต้องพักผ่อนมากๆ” องค์ชายสนธยารีบเปลี่ยนเรื่อง เพราะรู้ดีว่าเวลานี้ชีวินไม่ได้ทำตัวเป็นองครักษ์ที่ดีอีกแล้ว


   “กระหม่อมจะปล่อยให้พระองค์พักผ่อน แต่พระองค์ต้องตรัสกับกระหม่อม ว่าเหตุใดยาพิษตำรับราชสำนักสมุทราจึงตกอยู่ที่ใต้ต้นไม้นั่น?!” ดวงเนตรกลมโตขององค์ชายสนธยาเบิกโพลงด้วยความตกใจ


   “เจ้าว่าอะไรนะ?!! ยาในขวดนั่นเป็นยาพิษอย่างนั้นหรือ?!!”


   “ใช่พระเจ้าค่ะ ยาในขวดนี้เป็นยาพิษ”


   “แต่…เมื่อวานตอนเราออกจากวังไปซื้อยานี่ คนขายบอกว่าเป็นยาบำรุงกำลัง เราก็เลยคิดจะเอาไปหยอดใส่บ่อหอย หอยมันจะได้แข็งแรง แล้ว…แล้วทำไม…”


   “นี่พระองค์แอบเสด็จออกนอกวังหรือพระเจ้าค่ะ?!!” ราวกับฟ้าผ่ากลางศีรษะของชีวินที่รู้ความจริงว่าเมื่อวานองค์ชายเหนือหัวของตนเล่นแผลงด้วยการเสด็จออกไปนอกวังโดยที่ไม่มีใครรู้ แม้แต่ตน! ให้มันได้อย่างนี้เถอะ! รู้ทั้งรู้ว่าองค์หญิงอรุณาจ้องจะทำร้าย เหตุใดจึงยังพาองค์ไปเสี่ยงในเมืองเพียงลำพังเช่นนั้น!!


   ดูเหมือนองค์ชายสนธยาจะเริ่มรู้องค์ว่าทรงพลาดตรัสความจริงไปเสียแล้ว จึงได้แต่หุบโอษฐ์เงียบ ในขณะที่ชีวินดูเหมือนจะกลายเป็นไฟได้ทุกขณะ


   “ทำไมทรงทำอะไรไม่นึกห่วงพระองค์เองบ้างเลย! รู้ไม่ใช่หรือว่าพระองค์เป็นเป้าหมายขององค์หญิงอรุณา! แล้วทำไมยังเสด็จออกไปเพียงลำพังเช่นนั้น?! แล้วอีกอย่างพระองค์เสด็จออกไปทำไมพระเจ้าค่ะ”


   “ก็…ก็…ก็เราเครียดเรื่องอรุณา เราก็เลย…ก็เลยอยากออกไปเปิดหูเปิดตาบ้าง…แล้วก็เลยไปได้ยาขวดนั้นมา…” พอคิดถึงขวดกระเบื้องอันเป็นหลักฐานคามือของชีวินแล้ว องค์ชายหนุ่มก็นึกขยาดที่จากยาบำรุงดันกลายเป็นยาพิษเสียได้ แต่ก็นับว่าเป็นโชคดีของหอยอายุยืนตัวนั้น เพราะหากพระองค์ไม่ตกต้นไม้เสียก่อน มันคงตาคาบ่อเพราะยาพิษที่พระองค์ถูกหลอกว่าเป็นยาบำรุง


   “แล้วพระองค์ไปได้ยาขวดนี้มาจากที่ใด แล้วเจ้าคนขายคนนั้นมันหน้าตาเป็นอย่างไร ไปพบเจอมันได้อย่างไร” ชีวินเริ่มซัก


   “เราซื้อมาจากผู้ชายคนหนึ่งที่ท่าเรือ เขามีแผงขายพวกยาสมุนไพรแปลกๆอยู่แถวนั้น”


   “แล้วหน้าตาเป็นอย่างไรพระเจ้าค่ะ”


   “เราจำไม่ได้หรอก ตอนนั้นมันมืด…ชีวิน…เจ้าว่า…คนที่ขายยานี่ให้เรา จะเป็นคนของ…” คำเดียวในใจของสนธยาตอนนี้คือ ‘อรุณา’ น้องสาวที่คลานตามกันมา หากแต่เมื่อเติบโตขึ้น นางกลับมองว่าเขาเป็นหอกข้างบัลลังก์ที่ควรจะเป็นของนาง


   “หรือพระองค์มีศัตรูอื่นอีกหรือพระเจ้าค่ะ”


   “อรุณาไม่ใช่ศัตรูของเรา”


   “องค์สน กระหม่อมรู้ว่าพระองค์ไม่อยากยอมรับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่การที่คนขายจะหยิบยาพิษมาขายแทนยาบำรุง ไม่อาจนับว่าเป็นเรื่องบังเอิญได้นะพระเจ้าค่ะ”


“แล้วถ้าคิดจะทำร้ายเราจริง เหตุใดต้องใช้ยาพิษพวกนี้ด้วยล่ะ ในเมื่อเราไปปรากฏต่อหน้าเขาเช่นนั้น” ไม่ใช่ว่าสนธยาดื้อแพ่งไม่ยอมรับความเกลียดชังของผู้เป็นน้องสาว แต่เพราะเขาอยากยื้อสายสัมพันธ์ของความเป็นพี่น้องให้ยาวนานที่สุด ทว่า…อาจเป็นฝ่ายอรุณาเองที่พยายามตัดขาดสายสัมพันธ์นี้ให้ไม่เหลือแม้แต่เศษซาก


   “ที่อนันตราชมีกฎหมายเข้มงวด มีการสุ่มตรวจอาวุธของคนเดินถนนแทบจะตลอดเวลา ไม่มีใครกล้าเสี่ยงพกพาอาวุธถ้าไม่ใช่พวกนายตรวจพระเจ้าค่ะ อีกอย่าง พวกนั้นคงคิดว่าพระองค์จะใช้ยาเอง คงไม่คิดว่า…เอ่อ…พระองค์จะใจบุญสุนทานประสงค์จะบำรุงหอย…”


   “ใจบุญสุนทานหรือ” พระองค์ได้แต่ทวนคำ ก่อนจะถอนหายใจเฮือกอย่างเหนื่อยอ่อน “…โง่เขลาสิไม่ว่า…เราเกือบฆ่ามันด้วยซ้ำ…” หากพระองค์ไม่ทรงตกต้นไม้ ยาพิษนี้จะต้องไปอยู่ในบ่อหอยและมันจะต้องตายอย่างทรมาน ส่วนความผิดบาปจะเกาะกุมอยู่ในพระทัยของพระองค์ไปจนกว่าจะหมดลม


   “กระหม่อมจะให้คนสืบเรื่องคนขายยา พระองค์ทรงพักผ่อนเสียเถอะพระเจ้าค่ะ แผลจะได้สมานกันโดยไว” ชีวินคำนับอีกครั้ง หากแต่ไม่ทันจะเดินออกจากห้อง องค์ชายสนธยาก็ทรงเรียกเอาไว้


   “ชีวิน…” เจ้าของชื่อหันกลับมามอง “…เจ้าอย่าบอกองค์ชายเตชินทร์ได้ไหม”


   ชีวินนิ่งไป ราวกับตรึกตรองว่าควรจะบอกเรื่องที่ได้รับรู้มาจากองค์ชายสนธยาดีไหม จริงอยู่ว่าเรื่องคนปองร้ายองค์ชายสนธยาแม้เกิดขึ้นในแผ่นดินอนันตราชแต่ก็นับว่าเป็นเรื่องภายในของสมุทรา อย่างไรก็ตามเรื่องบาดหมางขององค์หญิงอรุณาที่มีต่อเชษฐาก็เป็นที่รับรู้ของราชสำนักอื่น แต่…ก็ไม่ควรป่าวประกาศย้ำชัดว่าความสัมพันธ์ของสองพี่น้องไม่สู้ดี อันจะทำให้สถานภาพของราชสำนักสั่นคลอน


   “ถึงไม่ทูล แต่กระหม่อมคิดว่าองค์ชายเตชินทร์คงสงสัย เพราะสาเหตุที่พระองค์ทรงปีนขึ้นไปชมจันทร์จนตกต้นไม้ไม่เป็นที่เชื่อถือพระเจ้าค่ะ”


   “ทำไมถึงไม่น่าเชื่อถือ เราดูเป็นคนโกหกไม่เก่งอย่างนั้นรึ?!” องค์ชายสนธยาทรงร้องถาม เริ่มรู้สึกเสียหน้าเล็กน้อยที่ถูกชีวินทูลว่าพระองค์ทรงไม่น่าเชื่อถือเช่นนั้น


   “กระหม่อมมิบังอาจกล่าวหาว่าพระองค์โกหกไม่เก่งพระเจ้าค่ะ แต่ขอบอกว่าพระองค์ ‘โกหกไม่เป็น’ จะดีกว่า”


   “หมายความว่าอย่างไร?!! เราอายุตั้งเท่านี้! จะโกหกไม่เป็นได้อย่างไรกัน!!” อย่างน้อยๆ พระองค์ก็มีสนมตั้ง 121 คน เรื่องโกหกบอกปัดสับรางพวกนางทีละสิบคนนั้นเป็นเรื่องปกติ จะมากล่าวหาว่าพระองค์โกหกไม่เป็นได้อย่างไรกัน


   ชีวินถอนหายใจเล็กน้อย เบือนสายตามองออกไปนอกหน้าต่างบานกว้าง บัดนี้ใกล้สว่างมากแล้ว หากแต่สำหรับคนช่างสังเกตสังกามีหรือจะไม่รู้ว่าค่ำคืนที่ผ่านมาเป็นคืนอะไร


   “ชีวิน! เจ้าอย่าเงียบซี่! บอกเรามา!”


   “เมื่อคืนเป็นคืนเดือนมืดพระเจ้าค่ะ”


   “อะไรนะ?!!”


   “คืนเดือนมืดพระเจ้าค่ะ หมายถึงคืนที่ไม่มีพระจันทร์ เพราะฉะนั้นที่พระองค์ตรัสกับองค์ชายเตชินทร์ว่าปีนต้นไม้เพื่อชมจันทร์นั้น จึงเป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อถือเป็นที่สุด” องค์ชายสนธยาอ้าโอษฐ์ค้างด้วยความตกตะลึง


   …คืนเดือนมืด?!! เมื่อคืนเป็นคืนเดือนมืดอย่างนั้นหรือ?!!!


   “คราวหน้าคราวหลัง ก็ทอดเนตรท้องฟ้าก่อนนะพระเจ้าค่ะ” ชีวินทูลสำทับอีกครั้งก่อนจะหมุนกายเดินออกจากห้องไปทันที ทิ้งองค์ชายสนธยาเอาไว้กับความหน้าแตกยับเยินที่ยังไม่รู้ว่าจะกอบกู้ขึ้นมาได้อย่างไร

………………………………..


   องค์ชายเตชินทร์ทำองค์เป็นปกติอย่างที่สุด เพราะในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้นก็เป็นผู้นำขบวนนางกำนัลเข้ามาในห้องบรรทมของคนตกต้นไม้พร้อมด้วยของเสวยยามเช้าที่มีคุณท้าวเอิบคอยดูแลเช่นเคย


   “ท่านลุกขึ้นมาชำระร่างกายเสียหน่อย ประเดี๋ยวหมอหลวงจะมาตรวจแล้ว” สนธยานอนไม่หลับทั้งคืน ด้วยเพราะไม่รู้จะแก้ตัวอย่างไรที่ดันโกหกให้อีกฝ่ายจับได้แบบซึ่งหน้าเช่นนี้ แต่…ดูท่าเตชินทร์ก็ไม่เหมือนจะจับพิรุธได้เลย…หรือจะไม่รู้ว่าเมื่อคืนเป็นคืนเดือนมืด…


   …อย่างนี้ต้องลองถามดูเสียหน่อย…


   “ท่านพาเราเข้าไปที่ห้องน้ำได้ไหม เราเดินไม่ค่อยไหว” สนธยาทำเสียงอ่อนระโหยเหมือนเจ็บป่วยขนาดหนัก และแน่นอนว่ามันได้ผลเสมอกับร่างสูงใหญ่ตรงหน้าที่แทบจะอุ้มขึ้นซบอก หากไม่ใช่ว่าสนธยาเบี่ยงปลายเท้าลงมายืนที่พื้นได้เสียก่อน


   “เมื่อคืน หลังจากเราออกจากห้องไปแล้ว ได้ทายาแก้ฟกช้ำอีกรอบไหม”


   “ไม่ได้ทา” เพียงเท่านั้นพักตร์คมคายก็หันขวับมาราวกับจะดุ แต่ดูเหมือนสนธยาจะรู้อยู่แล้วจึงรีบแก้ต่างทันควัน


“…ก็เราทาไม่ไหว เมื่อคืนชีวินก็ต้องพักผ่อน ครั้นเราจะลุกขึ้นมาทาเอง เราก็…ทาไม่ถึง” แผลฟกช้ำส่วนใหญ่อยู่ที่ด้านหลัง ไม่ว่าจะตรงสะโพกหรือต้นขา อันที่จริง แผลดำๆเขียวๆพวกนั้น สนธยาไม่ได้ใส่ใจมากนักหรอก แต่เพราะอีกฝ่ายดูจะห่วงใยในรอยพวกนั้นเสียเหลือเกิน เขาก็ต้องใช้ให้เป็นประโยชน์


   “แล้วทำไมไม่เรียกเรา”


   “เราไม่อยากรบกวนท่านนี่” สนธยาเหลือบมองคนที่ประคองเขาอยู่พลางกลืนน้ำลายอึกใหญ่แล้วเอ่ย “…แล้วอีกอย่าง เมื่อคืนจันทร์สวย ท่านก็น่าจะ…” แววไหววูบในดวงเนตรของอีกฝ่ายบอกสนธยาในทันทีว่าเตชินทร์รู้ว่าเมื่อคืนไม่มีจันทร์ให้ชม และแน่นอน…เตชินทร์รู้ว่าเขาโกหกเรื่องที่ปีนต้นไม้เพราะอยากชมจันทร์


   “ท่านรู้ว่าเมื่อคืนเป็นคืนเดือนมืดใช่ไหม” สนธยาจี้ถามทันที


องค์ชายหนุ่มแห่งอนันตราชถอนปัสสาสะอย่างเหนื่อยอ่อน


   “เรารู้ว่าเมื่อคืนเป็นคืนเดือนมืด แต่เราไม่รู้ว่าท่านโกหกเราทำไม” น้ำเสียงนั้นส่อแววเสียใจและน้อยใจอย่างที่ทำเอาสนธยาต้องแตะมือลงกับท่อนแขนของอีกฝ่ายราวกับจะปลอบประโลม


   “เราไม่ได้อยากโกหกท่าน แต่…เราแค่ไม่กล้าบอกความจริง เรื่องที่เรา…เอ่อ…เราอยากบำรุงหอยตัวนั้น เราก็เลยปีนออกจากห้อง จะไปที่บ่อเพื่อหยดยาบำรุง”


   “แล้วทำไมท่านถึงไม่เดินออกไปดีๆ”


   “ก็…ก็ถ้าเราบอกว่าเราจะเดินออกไปที่บ่อหอยเพื่อหยดยาบำรุงหอย ท่านคิดว่าพวกทหารจะทำหน้าตาอย่างไร” นอกจากนั้น สนธยายังมีเหตุผลอีกหนึ่งข้อที่ไม่กล้าบอกกับอีกฝ่าย คือเขาไม่อยากให้พวกอนันตราชมองว่าหอยตัวนั้นร่างกายแข็งแรงเพราะยาบำรุง หอยนั่นมาจากสมุทรา ถ้าจะแข็งแรงก็ต้องแข็งแรงเพราะเป็นหอยจากสมุทราสิ! จะให้แข็งแรงเพราะยาบำรุงได้อย่างไรกัน!!


   ดวงเนตรของเตชินทร์ดูจะหวานล้ำและเอ็นดูเหตุผลของอีกฝ่ายเหลือเกิน เขายิ้มบาง ขณะช่วยปลดเสื้อผ้าให้สนธยาได้อาบน้ำชำระร่างกาย


   “ยังเจ็บแผลอยู่ไหม” ปลายนิ้วหยาบหากแต่ให้สัมผัสนุ่มนวลยามแตะลงบนแผลแตกบนต้นแขนเพราะไปเกี่ยวเอากับเศษไม้ยามที่พลัดหล่นจากต้น


   “นิดหน่อย เอ่อ…เราอาบเองได้ ท่านออกไปรอ…” ริมฝีปากพูดไม่ทันจบ ดวงเนตรคมของบุคคลตรงหน้าก็ทำเอาสนธยานิ่งไปเสียถนัด


   ความลึกซึ้งที่ปรากฏในดวงตาขององค์ชายแห่งอนันตราชนั้น สนธยาพยายามบอกตัวเองเสมอมาว่ามันไม่มีอะไรเกินเลย หากแต่…ดูเหมือนยิ่งทำเป็นว่าอีกฝ่ายไม่ได้คิดอะไร ก็เหมือนเตชินทร์จะพยายามบอกความรู้สึกให้เขารับรู้มากขึ้นทุกที


   ไม่มีเสียงใดนอกเสียจากเสียงหัวใจที่เต้นดังยามสบตากับเตชินทร์ สนธยาผู้มีสนมมากมายเป็นร้อยคนไม่เคยมีช่วงเวลาเช่นนี้กับสนมคนใด หากแต่…กับชายตรงหน้าคนนี้ อะไรบางอย่างกลับทำให้หัวใจไม่สงบเอาเสียเลย


   “เราอยากให้ท่านรู้…เราเป็นห่วงท่าน…” จู่ๆเตชินทร์ก็เอ่ยปาก ปลายนิ้วยังลูบไล้รอบบาดแผลที่ยังสด มันยังเจ็บระบม ทว่านอกเหนือจากความเจ็บเหล่านั้นคือความรู้สึกหวามไหวประหลาดที่พุ่งเข้าสู่หัวใจ สัมผัสอ่อนโยนนั้นผสมผสานกับสายเนตรที่ล้นปรี่ไปด้วยความจริงใจ


   …ผู้ชายคนนี้พูดจริง…เขาห่วง…และนอกเหนือจากคำพูด สายตาคู่นี้บอกว่า…เขาหวง…


   ราวกับเป็นคำสาปและมนต์สะกด สนธยาได้แต่นิ่งงันยอมยืนนิ่งให้เตชินทร์ก้มลงมาใกล้ ใกล้มากเสียจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นๆที่เป่าลดริมฝีปากเขา และหลังจากนั้นเพียงเสี้ยวอึดใจ ความอุ่นร้อนและนิ่มนวลก็ประทับลงมาบนริมฝีปากของเขา


   องค์ชายหนุ่มแห่งสมุทราตกตะลึง หากแต่ดวงเนตรที่ควรเหลือกโตกลับเบิกค้างเพียงครู่เดียว ความอ่อนหวานที่อีกฝ่ายมอบให้ก็ทำให้ดวงเนตรสีน้ำตาลอ่อนยอมหรี่ลงแต่โดยดี แล้วยอมรับความอ่อนโยนจากองค์ชายแห่งอนันตราชด้วยหัวใจที่เต้นระรัว


   “อื้อ…อืม…” มีเพียงเสียงครางแผ่วเบาดังก้องในห้องน้ำกว้าง มือสีน้ำผึ้งจิกกำลาดไหล่ของเตชินทร์ด้วยความวาบหวาม ยามริมฝีปากประกบดูดดื่ม ปลายลิ้นร้อนแตะสัมผัสกันเพียงแผ่วหวาน หากแต่เพียงครู่เดียวเมื่อทำความคุ้นเคยกันแล้ว มันก็กอดรัดกันและกันราวกับโหยหา


   “อ๊ะ…อื้อ…” ฝ่ามือร้อนของเตชินทร์ลูบไล้แผ่นหลังของสนธยา หากแต่เมื่อมันแตะโดยจุดฟกช้ำจากการตกต้นไม้เมื่อคืน ก็ทำเอาเจ้าของร้านสะดุ้งวาบ หากแต่เพียงครู่เดียว เมื่อถูกปลอบประโลมด้วยริมฝีปากหวานจากอีกฝ่าย สนธยาก็ลืมเลือนความเจ็บปวดนั้นไป


   นานเนิ่นนาน กว่าที่เตชินทร์จะยอมปล่อยริมฝีปากออก แขนแข็งแรงข้างหนึ่งโอบร่างของสนธยาเข้าแนบชิด มืออีกข้างที่ว่างลูบไล้ริมฝีปากชื้นของคนในอ้อมแขนแผ่วเบา สายตาที่ทอดมองนั้นเต็มไปด้วยความรู้สึกหวานล้ำเต็มเปี่ยม


   “อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสีย เราจะออกไปรอข้างนอก” สนธยามองตามจนกระทั่งเตชินทร์หายลับออกจากห้องน้ำไปแล้ว บานประตูปิดลงเหลือเพียงเขาคนเดียว และทันทีที่เหลือเพียงลำพัง องค์ชายหนุ่มแห่งสมุทราก็ถึงกับทรุดองค์ลงกับพื้น ดวงเนตรเบิกโตเมื่อรำลึกได้ว่าเมื่อครู่ตนทำสิ่งใดลงไป


   …จูบ…


   …จูบกับองค์ชายเตชินทร์…


   …องค์ชายอย่างพระองค์จูบกับองค์ชายอย่างเตชินทร์…


   …เรื่องแบบนี้…ร้ายแรงยิ่งกว่ามาการที่พระองค์จะถูกปลงพระชนม์ในต่างแดนเสียอีก!!...

……………………….

ออฟไลน์ Dezair

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 533
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1543/-8
มือเรียวตวัดฟาดลงบนใบหน้าของคุณท้าวสุภาอย่างแรง ทันทีที่นางถวายข่าวคราวล่าสุดจากอนันตราชให้องค์หญิงอรุณาได้สดับ และทันทีที่สดับ ความโมโหของพระองค์ก็พุ่งทะยานจนคุณท้าวชรากลายเป็นที่รองรับพระอารมณ์


   “โง่หรือบ้า!! ทำแบบนั้นมันจะตายได้อย่างไร?!!”


   “แต่ไม่มีวิธีใดดีไปกว่านี้แล้วนะเพคะ…”


“ก็เลยใช้วิธีโง่เง่าขายยาพิษให้มันงั้นรึ?!! แล้วเป็นอย่างไร ตอนนี้มันตายไหม?!!” คำถามนี้ ไม่ว่าใครก็รู้คำตอบ เพราะหากองค์ชายสนธยาดับสิ้นจริง องค์หญิงอรุณาคงพระอารมณ์ดีกว่านี้เป็นแน่


“หม่อมฉันไม่ใช่คนต้นคิดนะเพคะ แต่…เอ่อ…คนของเราคงไม่เห็นทางแล้ว จึงใช้วิธีนี้ อีกทั้งยามนี้ที่อนันตราชเข้มงวดมาก ตรวจอาวุธแทบจะตลอดเวลา เวรยามเต็มเมืองไปหมด โอกาสหายากเหลือเกิน” คุณท้าวหมอบคุดคู้อยู่แทบพระบาทขององค์หญิงอรุณาด้วยความหวั่นเกรง แม้พระองค์จะเป็นเพียงองค์หญิงรูปร่างอรชรอ้อนแอ้น หากแต่ก็สั่งประหัตประหารมาหลายคนแล้ว


“แต่มันก็อุตส่าห์ออกจากวังไปปรากฏให้เห็นกับตาแล้วไม่ใช่รึ?!!”


“นั่นเป็นเรื่องนอกเหนือความคาดหมายเพคะ องค์หญิง…ยามนี้ที่อนันตราชเข้มงวดมากนัก ทำการสิ่งใดก็ไม่สะดวก คงเป็นเพราะมีใครนำเรื่องไปทูลกษัตริย์แห่งอนันตราช…”


“ต้องเป็นเพราะเสด็จแม่แน่ๆ ที่ปากโป้งบอกพวกอนันตราชให้คุ้มกันสนธยา!” องค์หญิงผู้เป็นขนิษฐาไม่ได้นึกรักเชษฐาเลยแม้แต่น้อย ยามนี้ลมหายใจของสนธยาคือขวากหนามสำหรับพระองค์ ดังนั้นทางเดียวที่จะทำลายขวากหนามลงได้ก็คือทำให้สนธยาไม่มีลมหายใจอีกต่อไป!


   “แล้วคนของเราที่ส่งไป ตอนนี้มันเข้าไปในวังของอนันตราชได้รึยัง”


   “เข้าได้แล้วเพคะ แต่ยังเข้าไม่ถึงตำหนักอิฐขององค์ชายเตชินทร์…โอ๊ย!!” พระบาทเรียวเล็กเตะเข้าที่ชายโครงคุณท้าวอีกครั้งด้วยไม่พอใจในคำตอบ


   “ม…หม่อมฉันจะรีบกำชับให้พวกมันเข้าใกล้ตำหนักอิฐให้เร็วที่สุดเพคะ!!” องค์หญิงอรุณาเม้มโอษฐ์แน่นด้วยเพราะรู้ว่าการที่พระองค์ทำร้ายคุณท้าวนั้น ไม่อาจช่วยให้งานใหญ่ของพระองค์คืบหน้าไปมากกว่านี้ ในยามที่อนันตราชเพิ่มความปลอดภัยเป็นสองเท่า เพื่อคุ้มครององค์ชายพลัดถิ่นอย่างสนธยา


   “ส่งคนไปบอกพวกมันว่าไม่ต้องแล้ว” คุณท้าวสุภาเงยหน้าขึ้นมององค์หญิงอรุณา พักตร์งามนิ่งตึง หากแต่สายเนตรนั้นแฝงแววร้ายเสียจนนางยังสั่นเทิ้มไปทั้งตัว


   “ข้าจะเป็นคนเข้าไปเอง!”


   “ม…หมายความว่าพระองค์จะเสด็จอนันตราชหรือเพคะ”


   “ไม่ใช่แค่อนันตราช แต่ต้องได้เข้าไปถึงตำหนักอิฐ!!”

…………………………….

   ร่างสูงโปร่งขององครักษ์หนุ่มนามว่าชีวินก้าวเท้าเดินไปตามโถงทางเดินที่มุ่งสู่ห้องบรรทมขององค์ชายสนธยา แม้ความถี่ของฝีเท้าที่ก้าวจะเป็นจังหวะปกติอย่างชายชาติทหาร หากแต่สิ่งที่รับรู้มาจากสายข่าวของสมุทราที่แฝงกายเร้นอยู่ในอนันตราชก็ทำให้ดวงตาสีเข้มมีประกายกังวลอย่างเห็นได้ชัด


   … ‘คนขององค์อรุณาเข้ามาในอนันตราชมากขึ้นเรื่อยๆ’…ไม่ต้องถามจุดประสงค์ของคนเหล่านั้น ชีวินก็พอจะรู้ว่าคนขององค์หญิงแห่งสมุทรามาที่อนันตราชทำไม คงไม่ใช่มาเพื่อเยี่ยมเยียนองค์ชายสนธยาเป็นแน่แท้


   ฝ่ามือขาวผลักบานประตูเข้าไปในห้องบรรทมขององค์ชายผู้เป็นนายเหนือหัวด้วยเพราะหมายจะรายงานข่าวคราวให้องค์ชายพลัดถิ่นได้ระวังองค์มากกว่านี้ หากแต่บนแท่นบรรทมกลับว่างเปล่าไร้คนตกต้นไม้ที่ควรจะนอนนิ่งๆเพื่อให้อาการเคล็ดยอกหายสนิท ชีวินกวาดตามองซ้ายขวา ก่อนจะเห็นร่างไหวๆขององค์ชายสนธยาอยู่ที่ข้างตู้ไม้ใบใหญ่


   “องค์สน…” ชีวินขยับเข้าไปใกล้ และเมื่อเห็นว่าองค์ชายของตนกำลังทรงทำสิ่งใด ดวงตาของชีวินก็เบิกโต


   “…นั่นพระองค์ทรงเก็บเสื้อผ้าจะเสด็จไปไหนพระเจ้าค่ะ?!!” คนเป็นบ่าวรีบถลาเข้าไปหา


   “เราจะเดินทางผจญภัยไปดินแดนสุดขอบตะวันตก เราไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว เราจะไปผจญภัย เราจะไม่เลี้ยงหอย…เราจะไปจากอนันตราช…” สนธยาพึมพำซ้ำๆ ราวกับหาเหตุผลมารองรับการกระทำของตนแค่เพียงเท่านี้ ซึ่งเหตุผลเล็กน้อยประเภทจะออกไปผจญภัยนั้น แน่นอนว่าสำหรับชีวิน มันเป็นเหตุผลที่ใช้การไม่ได้


   องครักษ์หนุ่มยื้อท่อนกรขององค์ชายสนธยาเอาไว้ ให้คนกำลังเก็บข้าวของต้องเบือนเนตรมาสบ


   “เกิดอะไรขึ้นหรือพระเจ้าค่ะ องค์ชายเตชินทร์ทรงโกรธพระองค์หรือ” พอชีวินเอ่ยถึงชื่อต้องห้าม สนธยาก็นิ่งขึงราวกับถูกปีศาจสิงสู่


   “องค์สน…เป็นอะไรไปพระเจ้าค่ะ องค์สน…ตรัสกับกระหม่อม เกิดอะไรขึ้นกับพระองค์ องค์ชายเตชินทร์ทรงทำอะไร”


   “ม…ไม่ได้ทำ! ไม่ได้ทำ…”


   “องค์สน พระองค์ก็ทรงรู้ว่าโกหกกระหม่อมกี่ครั้ง กระหม่อมก็จับได้ทุกครั้ง ตรัสความจริงมาพระเจ้าค่ะ” ชีวินเป็นบ่าวก็จริง แต่เวลาที่ต้องการความจริงจากปากองค์ชายสนธยา เขาก็สามารถแปลงร่างเป็นผู้คุมความประพฤติได้อย่างไม่มีที่ติ


   สนธยากลืนน้ำลายอึกใหญ่ ทั้งตื่นตระหนก ทั้งไม่รู้จะเล่าความจริงอย่างไร ทั้งๆที่รู้แก่ใจว่าความจริงมีเพียงอย่างเดียว…หากแต่ แม้จะเป็นเพียงแค่อย่างเดียว มันกลับร้ายแรงยิ่งกว่าเรื่องใดๆทั้งสิ้น


   ชีวินไม่ได้ทูลย้ำให้องค์ชายตรัส เขาใช้เพียงสายตาจับจ้ององค์ชาย และเพียงแค่อึดใจต่อมา โอษฐ์บางก็ขยับเป็นคำสั้นๆหากแต่ได้ใจความเสียจนคนฟังถึงกับต้องเบิกตาค้าง


   “เราจูบกับองค์เตช”


   สรรพสิ่งรอบกายคล้ายกับหยุดเคลื่อนไหว ไม่มีเสียงลม ไม่มีเสียงทหารเดินตรวจตราเวรยาม ไม่มีเสียงนางสนมกำนัลที่คอยดูแลความสะอาดเรียบร้อยในตำหนัก ชีวินไม่ได้ยินเสียงใดๆอีก ยกเว้นแต่เสียงขององค์ชายสนธยาที่ดังก้องอยู่ในหูของเขาซ้ำไปซ้ำมา


   ‘เราจูบกับองค์เตช’


   …จูบกับองค์ชายเตชินทร์!!...องค์ชายสนธยาจูบกับองค์ชายเตชินทร์!!!...


   “ชีวิน เจ้าอย่าเงียบซี่ เจ้ารู้จักเรามาแต่เล็ก เจ้าก็รู้ว่าเราไม่เคยมีสนมเป็นชาย เราไม่เคยฝักใฝ่ชายใด แต่…เอ่อ…เราเองก็ไม่เข้าใจ ว่าทำไม…”


   “องค์สน องค์ชายเตชินทร์ไม่ใช่แค่เป็น ‘ชาย’ นะพระเจ้าค่ะ แต่องค์ชายเตชินทร์ทรงเป็นองค์ชายรัชทายาท”


   “เรารู้ ชีวิน เราก็เลยคิดว่า ตอนนี้เราควรจะไปจากอนันตราชเสีย” สนธยารู้ดีว่าขืนอยู่ที่นี่ต่อไป เรื่องจูบจะกลายเป็นความหวานล้ำในจิตใจ เพราะแค่จุมพิตเดียวก็ทำเอานิ่งตะลึงตะลานเสียเพียงนี้ หากปล่อยให้ความรู้สึกพิกลนั้นแทรกซึมเข้าไปเรื่อยๆ เขาคงไม่เป็นสนธยาคนเดิมอีก


ชีวินเม้มปากนิ่งขึง ใจหนึ่งเขาก็รู้ว่าองค์ชายสนธยาไม่ควรประทับอยู่ที่อนันตราชอีกต่อไป วันนี้จูบกับองค์ชายเตชินทร์ วันหน้าองค์ชายสนธยาอาจได้องค์ชายเตชินทร์เป็นสนมคนที่ 122 ก็เป็นได้ แต่…แต่ถ้าออกจากอนันตราช อายุขัยขององค์ชายสนธยาคงเหลือเพียงไม่กี่วันเท่านั้น เพราะอันตรายรอบด้านไปหมด


   …ระหว่างให้องค์ชายสนธยารับรัชทายาทราชสำนักอื่นมาเป็นสนม กับสนับสนุนให้พระองค์เสด็จออกจากอนันตราชแล้วไปเผชิญภยันตรายใดๆที่อาจเกิดได้ทุกเมื่อ…ไม่ว่าอย่างไร ชีวินก็ไม่อาจเลือกอย่างหลังได้ลง…


   “ชีวิน เจ้าอย่าเงียบสิ ช่วยเราคิดหน่อยว่าเราจะหนีไปทางใดดี ขึ้นเหนือไปทางภูเขาดีไหม กันดารใช่ย่อย ท่าทางน่าสนุก หรือไม่อย่างนั้นก็ออกทะเลไปเรื่อยๆ แต่มันก็ดูเรียบง่ายไปสักหน่อยนะ…”


   “กระหม่อมคิดว่าพระองค์ต้องเข้าเฝ้ากษัตริย์วิภูพระเจ้าค่ะ”


   “เข้าเฝ้า?! เข้าเฝ้าทำไม ทูลลารึ? ไม่ได้หรอก เราอยู่ที่นี่ในฐานะคนเลี้ยงหอย วันดีคืนดีจะไปทูลลาขอทิ้งหน้าที่เพราะเหตุผลที่อยากออกผจญภัยไปทั่วแผ่นทวีปได้อย่างไรกัน วิธีที่ดีที่สุดคือต้องหนีเท่านั้น”


   “กระหม่อมคิดว่าพระองค์ไม่ควรหนีพระเจ้าค่ะ แต่พระองค์ควรจะรับผิดชอบ”


   “รับผิดชอบ?! รับผิดชอบอะไร?!!” สนธยาเบิกเนตรกว้างด้วยความตกใจ หากแต่ชีวินยังมีสีหน้าเรียบเฉยมุ่งมั่นในความคิดของตน


   “พระองค์ต้องรับผิดชอบที่ไปจูบองค์ชายเตชินทร์น่ะสิพระเจ้าค่ะ”


   “อะไรนะ?!!!!!”


   “กระหม่อมจะติดต่อไปทางสมุทรา ทูลความจริงเรื่องที่พระองค์ผิดผีกับองค์ชายเตชินทร์เพื่อให้ราชินีวารีวาททรงทราบ แล้วจะได้เตรียมการหมั้นหมายต่อไป กระหม่อมขอตัว” ว่าแล้วชีวินก็หมุนกายเดินหายลับออกไปจากห้อง ทิ้งเอาไว้เพียงสนธยาที่ยืนอ้าปากค้างนิ่งสนิท


   …ผิดผี!! หมั้นหมาย!!...จากคนเลี้ยงหอยจะให้ไปหมั้นกับรัชทายาท!!


...โอ้ อาคันตุกะผู้สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้แก่อนันตราชของแท้!!!...

…………………….   

   องค์ราชินีวารีวาททอดเนตรธิดาองค์โตผู้ถือตำแหน่งรัชทายาทแห่งบัลลังก์สมุทราด้วยสายเนตรเฉยเรียบ แม้องค์หญิงอรุณาผู้กระด้างกระเดื่องจะกำลังพร่ำพรรณาพร้อมน้ำตาด้วยความโศกเศร้าน่าเวทนาก็ตามที


   “เสด็จแม่เพคะ หม่อมฉันรู้แล้วว่าผิด ที่คิดร้ายต่อพี่น้องตัวเอง ที่รังเกียจพี่ชายร่วมสายเลือด ให้อภัยหม่อมฉันนะเพคะ หม่อมฉันรู้ตัวว่าทำตัวไม่ดีกับสนธยาเอาไว้มาก จากวันนี้ หม่อมฉันจะไม่อยู่ที่สมุทราอีก หม่อมฉันจะออกเดินทางไปต่างบ้านต่างเมือง อย่างน้อยการไปอยู่ต่างถิ่นที่ไม่มีพี่มีน้อง ก็คงทำให้รู้ซึ้งในรสชาติของความเหงาและว้าเหว่…เสด็จแม่ งานต่างๆที่หม่อมฉันดูแลอยู่ พระองค์จะประทานให้น้องๆของหม่อมฉันก็ได้นะเพคะ…”


   “นึกจะไปต่างบ้านต่างเมืองก็จะไปอย่างนั้นหรือ เจ้าเป็นองค์หญิง จะไปนอนต่างถิ่นทั้งๆที่ไม่มีเรื่องสำคัญได้อย่างไรกัน ไหนจะงานในความรับผิดชอบของเจ้าอีก มาตัดสินใจเอากะทันหันเช่นนี้ แล้วข้าจะยกงานของเจ้าให้คนอื่นทันได้อย่างไร อรุณา” องค์ราชินีวารีวาทยังคงมีน้ำเสียงราบเรียบ แม้จะไม่ได้เลี้ยงลูกทุกคนด้วยพระองค์เอง แต่พระองค์ก็พอจะทรงทราบว่าลูกแต่ละคนเป็นเช่นไร และหนึ่งในนิสัยของอรุณาที่พระองค์ทรงทราบก็คือ…นางใช้น้ำตาและความน่าสงสารตบตาคนได้ทุกเมื่อ…


   “เสด็จแม่ ได้โปรดเถอะเพคะ หม่อมฉันรู้ว่าตัวว่าเลวทรามเพียงใด ที่หวังเป็นใหญ่เหนือบัลลังก์ของสมุทรา บัลลังก์ที่ไม่ใช่ของเราแต่เป็นบัลลังก์ของประชาชน หม่อมฉันอยากไถ่บาปไถ่โทษ อยากให้เวลากับตัวเอง อยากสอนตัวเองว่าให้รักคนอื่น ให้คิดถึงคนอื่น หม่อมฉันอยากเปลี่ยนแปลงตัวเองเพคะ” องค์หญิงอรุณาก้มพักตร์สะอื้นหนักอย่างที่ทำเอาผู้เป็นมารดาต้องถอนหายใจ แม้ลูกจะมีนิสัยร้ายกาจเพียงใด หากแต่ขึ้นชื่อว่าลูกก็คือลูก เมื่ออรุณาวอนขออยากออกไปจากสมุทรา พระองค์ก็ไม่รู้จะกีดกันไปทำไม หากแต่ไม่ทันที่พระองค์จะได้ทรงเอื้อนเอ่ยสิ่งใดขุนนางชราก็ปรากฏตัวขึ้นที่ประตูห้องเสียก่อนราวกับมีเรื่องด่วนเรื่องร้อน


   ราชินีวารีวาททรงรู้ดีว่าขุนนางผู้นี้จะปรากฏเมื่อมีเรื่องสำคัญในต่างแดนเท่านั้น และเรื่องสำคัญในต่างแดนเวลานี้ก็ไม่มีเรื่องใดสำคัญไปกว่าเรื่องของสนธยาพระโอรสของพระองค์อีกแล้ว สตรีผู้มีอำนาจเหนือบัลลังก์สมุทราพยักพักตร์เล็กน้อย ขุนนางร่างผายผอมก็ก้าวเข้าไปถวายบังคมพร้อมด้วยสาสน์ฉบับเล็กที่ถูกส่งมาเป็นการด่วน


   องค์หญิงอรุณาจับจ้องทีท่าของมารดาที่กำลังเปิดสาสน์ออกอ่านด้วยความสงสัยใคร่รู้ ท่านวรุฒมาพร้อมกับเรื่องของสนธยาเสมอ และถ้าไม่ใช่เรื่องด่วน ก็ไม่เคยต้องเข้าพบกะทันหันเช่นนี้


   …แสดงว่าต้องมีเรื่องเกิดขึ้นกับสนธยา…หรือมันจะถูกฆ่าตายแล้ว? ดีสิ!! ถ้าสนธยาตาย พระองค์ก็ไม่ต้องอ้อนวอนขอเสด็จออกจากสมุทราอีก!!...


   องค์ราชินีวารีวาทจับจ้องรายละเอียดบนสาสน์ฉบับเล็ก ซึ่งแน่นอนว่ามีเพียงพระองค์เท่านั้นที่ได้อ่าน อรุณาร้อนรุ่มไปทั้งใจด้วยความอยากรู้ และเฝ้าภาวนาให้ข่าวในสาสน์ฉบับนั้นเป็นข่าวดีสำหรับพระองค์


   “ท่านวรุฒ” องค์ราชินีวารีวาททรงเรียก ขุนนางผู้นำสาสน์มารีบค้อมกายรับโองการ องค์ราชินีปรายสายเนตรมาทางอรุณาเพียงวูบหนึ่ง หากแต่เพียงวูบเดียวก็อ่านสีหน้าสีตาของผู้เป็นธิดาได้แล้ว


   …ใบหน้าที่เปื้อนคราบน้ำตา หากแต่ในแววตานั้นยังมีแต่ความร้ายกาจและอาฆาตมาดร้ายต่อพี่น้อง…


   ผู้เป็นแม่ถอนหายใจด้วยความอ่อนล้า เวลาไม่อาจทำให้อรุณาเปลี่ยนแปลง เหมือนที่การที่สนธยาไปอยู่ต่างแดนก็ไม่อาจทำให้อรุณาลดความดื้อดึงเกลียดชังและหยิ่งผยองลงเลย…บางที นี่อาจเป็นโอกาสดีที่สุดที่พระองค์จะได้ช่วยโอรสและประชาชนของพระองค์เอง


   “เราจะไปอนันตราช” อรุณาเบิกตาโตด้วยความตกใจที่โองการของผู้เป็นมารดาคือปลายทางเดียวกับที่พระองค์จะเสด็จไป


   องค์ราชินีวารีวาทเหลือบเนตรมาทางธิดาอีกครั้ง


   “เจ้าก็ไปกับเราด้วย อรุณา”


   “ป…ไป…ไปอนันตราช…ไปทำไมหรือเพคะ” อรุณาครวญถามด้วยใจระทึก หรือจะไปเพื่อรับศพสนธยากัน?! ดีสิ!! พระองค์ยินดีอย่างยิ่งที่จะได้ไปเห็นร่างไร้วิญญาณของสนธยาด้วยเนตรของพระองค์เอง!!!


   “ไปขอหมั้นรัชทายาทแห่งอนันตราชมาเป็นสะใภ้ราชสำนักเรา”


   “อ…อะไรนะเพคะ?!!! รัชทายาทของอนันตราชจะมาเป็นสะใภ้ของสมุทรา?!!!”


   “สนธยาดันไปผิดผีองค์ชายรัชทายาทของอนันตราชเข้าน่ะสิ”


   องค์หญิงอรุณาเบิกเนตรกว้างด้วยความตกตะลึง นอกจากสนธยาจะไม่ตายอย่างที่หวังแล้ว ยังพาสะใภ้เข้าราชสำนักเพิ่มอีกอย่างนั้นหรือ?!!!!


ติดตามตอนต่อไป

ขอโทษที่หายไปนานนะคะ ภายในพุธหน้า จะเอาตอนพิเศษของ ‘ปวิน’ มาลงเป็นการไถ่โทษที่เรื่องนี้มาต่อช้า :hao3:

แล้วก็ขอบคุณคนอ่านทุกๆคนที่ยังคิดถึงกันด้วยนะคะ พาร์ทหน้าของพันธะหอยจะพยายามมาให้เร็วที่สุด เพราะตอนนี้คนเลี้ยงหอยเขาอัพเกรดสถานะแล้ววววว อิอิ

แล้วเจอกันพาร์ทหน้าค่ะ
ขอบคุณพื้นที่บอร์ดด้วยค่ะ

ออฟไลน์ Lily teddy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-2
กริ๊ด  :mc4: มาแล้วดีใจจังคะ แอบดูอยู่บ่อย ๆ ไม่มาซะที
รีบเข้ามาจิ้ม แล้วกลับไปอ่านก่อนน๊า  :oni1:
.................................
โถ องค์สนคนดี นึกว่าเสียใจหนีกลับบ้านที่แท้จะออกไปทำหน้าที่คนเลี้ยงหอยนี่เอง
แล้วตอนนี้องค์สนก็ได้รู้ใจองค์เตชซะที  แต่ถึงกะเคลิ้มจนเกิดผิดผีจนได้
ทำเอาองค์สนสติแตกจะหนีออกไปผจญภัยซะแล้ว ดีนะมีชีวินเป็นที่ปรึกษาที่ดีมาก
นอกจาก องค์สนจะได้อัพเกรดจากคนเลี้ยงหอยกลายป็นคู่หมั้นขององค์รัชทายาทแล้ว
องค์เตชจะรู้ไหมเนี่ยว่าตัวเองกำลังจะได้เป็นสนมคนที่ 122 ขององค์สนซะแล้ว
อ่านแล้วฮาไปกะความคิดขององค์สนจริง ๆ แต่เรื่องเครียด ๆ ระหว่างราชินีวารีวาท กะ องค์หญิงอรุณานี่สิ
แถมตอนนี้องค์หญิงอรุณาจะได้เข้ามาให้อนันตราชสมใจแล้วด้วย จะเกิดเรื่องอะไรไหมเนี่ย
รอติดตามทุกคู่ ทุกตอน และเป็นกำลังใจให้ผู้เขียนค๊า  :pig4: :L2:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-08-2013 01:38:39 โดย Lily teddy »

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9405
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
มันขำตรงที่จากคนเลี้ยงหอย กลายเป็นคู่หมั้นนี่แหละ :m20:
องค์สนเอ๊ย เสียผีให้องค์เตชซะแล้ว หนีไม่รอด :jul3:
เสด็จหัวใจวายหรือยังนะ อยู่ดีๆก็ได้ลูกสะใภ้เป็นองค์รัชทายาทเพิ่มมาอีกคน :laugh:

ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7
กรี๊ดดดด
องค์สนเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่าเพคะ!!!
ใครกันแน่ที่จะเป็นลูกสะใภ้ใครรรรรร

 :laugh:

ออฟไลน์ koikoi

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3862
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +311/-13

ออฟไลน์ kongxinya

  • Skt KS
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
คุณบัวมาต่อแล้วววววววววววว
คิดถึงมากกกกก กอดแน่นๆสักที :กอด1:

ชีวินทำดีมากกกกกก ต้องปูนบำเน็จรางวัลให้นะนี่อิอิ ความดีความชอบใหญ่หลวงยิ่งนักทำให้สมุทราได้ลูกสะใภ้  :laugh:
ว่าแต่แน่ใจนะคะว่าเป็นลูกสะใภ้ไม่ใช่ลูกเขย  :pigha2:

ออฟไลน์ Heisei

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 405
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-1
ฮามากจริงๆ 5555 :m20: :laugh: :jul3:

องค์เตชจะทำเยี่ยงไรล่ะทีนี้  กลายเป็นสะใภ้ให้องค์สนไปเสียได้

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
องค์สนผู้ใจบุญลงทุนปีนต้นไม้จะไปหยอดยาบำรุงให้หอย
น่ารักอ้ะ 5555
ว่าแต่องค์เตชจะรู้ตัวรึยังว่าต้องไปเป็นสนมเนี่ย ฮ่าๆ

kissazazel

  • บุคคลทั่วไป
อ่าว ตั้งแต่อ่านมาเข้าใจผิดมาโดยตลอดว่า

องค์เตชจะได้เป็นพระสวามีขององค์สน

แต่พออ่านตอนนี้แล้ว สมุทราจะได้สะใภ้ซะงั้น

เอ่อ องค์สนคะ จะสู้แรงองค์เตชไหวหรือคะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ SenzaAmore

  • Where troubles melt like lemon drops....
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 713
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +79/-0
เจอดราม่าไปหลายประโยคพอเจอประโยคนี้""คงไม่คิดว่า…เอ่อ…พระองค์จะใจบุญสุนทานประสงค์จะบำรุงหอย…”"ถึงกับฮากร้ากก :laugh:

นี่มันนิยายหลุดโลกมาจริงๆ555 .จากคนเลี้ยงหอยจะให้ไปหมั้นกับรัชทายาท!! :m20:

แน่ใจหรอว่าสมุทราจะได้สะใภ้เพิ่มน่ะ :z1:

มาต่อเร็วๆน้าาา รีบไปนั่งรอเรื่องของน้องถ้วยฟูดีกว่า555 :กอด1:

ออฟไลน์ beautjang

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 53
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
กรี้ดดดดดดด. อย่างฮาอ่ะคุณบัว

ขำมันได้ทุกตอนจริงๆ ชอบมากๆเลย 5555

สรุปได้เป็นสะใภ้รึเขย มาตรอเร็วๆน้า สงสัยต้องมีไฟท์กันซักตั้ง :z2: :z2:

ออฟไลน์ jinjin283

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 934
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-1
ตอนนี้ยาวสะใจมากเลยคะ แต่แอบช็อกที่องค์สนจะได้เปลี่ยนสถานะใหม่
เราว่าแต่งพระสวามีจะถูกกว่าไหมคะ อิอิ
อรุณาร้ายกาจมากเลย ต้งหาคนมาจัดการด่วนๆนะคะ
>,< รักคนเขียน

ออฟไลน์ Gokusan

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +269/-1
เอ่อ...ท่าทางจะเข้าใจผิดไปใหญ่แล้ว
แม้จะได้อัพเกรดสถานะก็ตาม แต่มัน...
มันไม่ใช่อ่ะ มันไม่ช่ายยยย

องค์สนน้อ...โกหกก็ไม่เนียน
ประมาทคนอาฆาต แถมยังเคลิ้มกับริมฝีปากเขาอีก
ไหวมั้ยเนี่ย?? ตั้งแต่มาอยู่ต่างที่ก็พลาดไปเยอะเลย

ชีวินคิดเร็วทำเร็ว...จะแต่งสะใภ้เข้าได้แน่เหรอ
จะโดนแต่งออกล่ะไม่ว่า...แต่เข้าทางองค์เตชล่ะนะ ^^V

ออฟไลน์ korinasai

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 309
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
ไม่ใช่แล้วๆ ต้องให้ฝั่งนั้นมาสู่ขอต่างหากกก

ออฟไลน์ JX

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 64
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
โอย ขำดีแท้ บ้านเมืองขององค์เตชกะองค์สนเค้าเป็นเหมือนอินเดียหรือนี่ ให้สาวมาหมั้นหนุ่ม อิอิ

ออฟไลน์ sine_saki

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-2
คุณบัวมาแล้ว มาจุ๊บทีค่ะ
ตอนนี้ อยากกดไลท์ให้ชีวิน ที่ช่วยยกฐานะองค์สนขึ้นมา
คราวนี้ได้ฮาเงิบกันทั้งบัลลังก์

ออฟไลน์ saruttaya

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 926
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-6
อ่านตอนอรุณาตอนแีกเครียดนะ

แต่พอมาถึงตอนเสด็จอแม่ฮาเลย 555

 :m20: :m20:

ออฟไลน์ silverspoon

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +275/-12
อร๊ายยยยย จะได้เคียงคู่กันแว้ว แต่ตำแหน่งผิดไปหน่อยนะ สนงสนมไรเล้า  :hao7:

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ชะรอยน้อย

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 973
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-0
สนุกมากค่ะ

ออฟไลน์ mur@s@ki

  • อยากรัก..แต่ใจไม่กล้า
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1899
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-5
เดี๋ยวๆ เข้าใจผิดกันไปใหญ่แล้วทั้งนายทั้งบ่าว
องค์เตชจูบโชว์อีกทีสิเพคะ จะได้รู้กันให้ทั่วว่าที่จริงแล้วตำแหน่งเขยหรือสะใภ้

 :กอด1:


ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
คนสมุทรานี่อย่างฮา แม้แต่ชีวินก็เป็นไปอีกคน

ออฟไลน์ sam3sam

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2562
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +247/-4
งานนี้ต้องยกความดีความชอบให้ชีวินนะเนี่ย o13
องค์ชายเตชินทร์เป็นสะใภ้ซะด้วย :jul3:

ออฟไลน์ jannie

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 782
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +62/-0
ใครผิดผีใครกันแน่ และตำแหน่งที่ไปสู่ขอมันแม่งๆ นา อิอิ

ออฟไลน์ EverGreen™

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1684
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +192/-1
พรูดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

 :laugh:

แน่ใจนะว่าจะได้สะใภ้  :hao7:

ปล.รออ่านถ้วยฟูอย่างใจจดใจจ่อ  :o8:

ออฟไลน์ cher7343

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1686
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-4
 :laugh: o18อ๊าาาา 555555555
องค์สนนะองค์สนผิดผีจนได้ 5555555 :hao6:

ออฟไลน์ =นีรนาคา=

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2546
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +296/-6
ฮาาาาาาาา องค์สนมีเรื่องให้ฮาตลอดตลอด
ต้องขอบคุณชีวินใช่มั้ยเนี่ย  :m20:

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
คือมันฮามากเลยอะ สรุปแล้วองค์เตชต้องตบรางวัลให้ชีวินเยอะๆๆ เลยเนี่ย 55555555 ผิดผี โอ๊ย หยุดหัวเราะไม่ได้อะ   :laugh:  :m20:  :jul3:

ออฟไลน์ Ali$a฿eth

  • [จิ้น]ตนการ
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-3
ประเดี๋ยวใครจะเป็นสะใภ้กันแน่ 55555

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด