DOUBLE-FACED: เสแสร้งแกล้งรัก
Chapter 08: with a taste of your lips make me feel hotHIM: PORCHE
ผมได้แต่ยืนมองมาโคลากพริกออกจากผับไป เขาดูเป็นเดือดเป็นร้อนมากที่เห็นพริกอยู่กับผู้ชายคนอื่น ในขณะที่คบกับเขา มาโคไม่เคบแสดงท่าทีหึงหวงหรือไม่พอใจสักครั้งที่มีคนมาจีบผม เขาก็แค่มองผ่านไม่สนใจ ไม่แม้แต่จะถามไถ่
จะเป็นไปได้เหรอที่คนอย่างมาโคจะรักใครชอบใครเข้าแล้วจริงๆ
แล้วทำไมคนๆนั้นถึงเป็นผมไม่ได้ล่ะ
“อย่าทำหน้าเศ้ราเลยพอร์ช ทำใจเถอะ อะไรที่ไอ้มาโคมันตัดสินใจไปแล้ว มันจะไม่เปลี่ยนใจเด็ดขาด เราก็รู้ดีนี่” พี่กัสตบที่บ่าผมเบาๆ หลายต่อหลายครั้งตั้งแต่ผมเลิกกับมาโค พี่เขาก็บอกให้ผมตัดใจ แต่ใครจะไปทำได้ พวกที่ไม่เคยรักใครจริงอย่างพวกเขาจะมาเข้าใจอะไรผม
“ผมรู้ แต่ผมทำไม่ได้” ผมพูดเสียงเบาจนเสียงเพลงในผับกลบเสียงผมให้หายไปกับคลื่นอากาศ
“ดูแลตัวเองด้วย พี่ไปแล้ว” พี่กัสยิ้มให้กำลังใจผมแล้วเดินออกจากผับไป พี่ธันมองหน้าผมนิ่งๆแล้วก็เดินออกไปเหมือนกัน พี่ธันไม่ค่อยพูดอะไรอยู่แล้ว ผมชินแล้วล่ะกับนิสัยของสามคนนี้
บุคคลอัตรายทั้งสามคนที่ไม่น่าเข้าใกล้ เพราะถ้าได้เข้าใกล้แล้วก็ถูกเสน่ห์ของพวกเขาทั้งสามคนล่อลวงให้ติดกับ แล้วเขาก็จะค่อยๆเชือดเหยื่อให้ตายอย่างช้าๆด้วยความเย็นชาของพวกเขา
และก็เป็นผมที่ต้องอยู่ตัวคนเดียว ผมปาดน้ำตาที่ไหลลงมาทิ้งก่อนจะหมุนเดินไปนั่งที่บาร์ พนักงานที่เคยจีบผมแต่ตอนนี้เขาไปมีแฟนเป็นสาวสวยยิ้มให้ ผมยิ้มตอบ เขาวางเครื่องดื่มประจำของผมตรงหน้าอย่างรู้ใจ คงเพราะเขาดีเกินไป ผมหมายถึงเขาดูเป็นผู้ชายที่ดีทั้งความคิดและการกระทำ มันเลยไม่ค่อยมีอะไรสะดุดตาสะดุดใจผม แต่ก็ดีนะที่เขาได้แฟนที่ดี ผมเคยเจอเธอครั้งหนึ่งและมีโอกาสได้พูดคุย และเธอยังรู้ว่าผู้ชายคนนี้เคยจีบผม
ปกติแล้วผู้หญิงหลายคนจะรับไม่ค่อยได้ถ้าแฟนตัวเองเคยจีบหรือคบผู้ชายมาก่อน แต่เธอไม่แคร์อะไรแล้วก็ยังพูดกับผมดี ผมเลยรู้สึกดีที่วันนั้นผมเลือกที่จะปฏิเสธผู้ชายคนนี้แทนที่จะเอาเขาเข้ามารักษาแผลใจ ผมเจอเขาก่อนที่จะคบกับมาโค ผมเคยปรึกษาเขาหลายต่อหลายครั้งเรื่องของมาโค โดยส่วนมากคือมาระบายมากกว่า
“นายยังรักเขามากสินะ” เขาถามยิ้มๆ อะไรๆผู้ชายคนนี้ก็ยิ้มไปเสียหมด ดูเหมือนโลกที่น่าโหดร้ายใบนี้ไม่มีผลอะไรต่อความสุขของเขาเลย ผมอิจฉามากๆที่เขาดูมีความสุขมากขนาดนี้
“มากสิ มากจนนายคิดไม่ถึงเลยล่ะ” เพราะผมก็คิดไม่ถึงเหมือนกันว่าทำไมถึงรักมาโคได้มากขนาดนี้
ตามหลักวิทยาศาตร์แล้วกล้ามเนื้อหัวใจเป็นกล้ามเนื้อที่ไม่สามารถบังคับหรือไปควบคุมอะไรมันได้ เพราะอย่างนี้หรือเปล่าผมถึงห้ามให้มันหยุดรักเขาไม่ได้เสียที
“ถ้านายเลิกใช้หัวใจมองเขา แล้วเปลี่ยนมาใช้สมอง นายจะเลิกรักเขาได้”
“ฉันไม่เข้าใจ” ผมบอกแล้วก็ยอกแก้วเหล้าขึ้นดื่มจนหมด
“เดี๋ยวนายก็เข้าใจ เรื่องนี้มันยุ่งยาก”
ทำไมจะต้องพูดอะไรให้เข้าใจยุ่งยาก ใช้สมองงั้นเหรอ เขาไม่ได้ว่าว่าผมไม่มีสมองหรอกใช่ไหม ถ้าใช้สมองแล้วสามารถหยุดรักมาโคได้ ผมต้องทำยังไง แล้วจะทำไปทำไมในเมื่อผมอยากจะรักเขา
“เฮิร์ทถึงขนาดต้องมากินเหล้าย้อมใจเลยเหรอ” เสียงที่ค่อนข้างคุ้นหูดังขึ้น พร้อมกับใบหน้าขาวๆลอยเด่นเข้ามาในกรอบสายตา
โอชิน...
บางทีพระเจ้าก็กลั่นแกล้งผมเกินไป ทำไมต้องส่งไอ้คนพรรค์นี้เข้ามาในชีวิตผมตอนที่ผมกำลังอ่อนแอแบบนี้ด้วยนะ แค่ครั้งที่แล้วที่เจอกับไอ้หมอนี่ก็มีแต่เรื่อง และคราวนี้ก็คงไม่พ้น
“อย่ามายุ่งกับฉัน ต่างคนต่างอยู่” ผมพูดแล้วก็คว้าแก้วเหล้าแก้งที่ห้าเข้าปาก ถ้าเป็นคนอื่นเขาจะต้องห้ามใช่ไหมตามแบบฉบับละครหรือในนิยายน้ำเน่าน่ะ แต่นี่ไม่ใช่ โอชินหัวเราะในลำคอที่เห็นผมซดเหล้าเป็นบ้าเป็นหลังแก้วแล้วแก้วเหล้า
เห็นคนมีความทุกข์นี่มันสนุกมากเลยใช่ไหม!
ไอ้คนบ้าเอ้ย!
“ไง เมาแล้วสินะ” โอชินถามขำๆ มีอะไรน่าขำกันวะ หงุดหงิด!
“ยุ่ง! อย่ามายุ่งกับฉัน!” ผมตะวาดใส่มันเสียงดัง ทำไมผมเวียนหัวแบบนี้นะ แบบนี้ผมคงมาแล้ว
“งั้นนายก็เลิกยุ่งกับไอ้มาโคสิ แล้วฉันจะไม่ยุ่ง” คราวนี้โอชินไม่ได้ยิ้มแล้ว ใบหน้าเรียบเฉยจนไม่สามารถมองออกว่าข้างในใจคิดอะไรอยู่
“ทำไมนายจะต้องเข้ามายุ่งเรื่องนี้ด้วย ทำไม กลัวเพื่อนเสียใจ อย่าบอกนะว่านายแอบชอบเพื่อนตัวเองอยู่ ถ้าอย่างนั้นก็จีบไปสิ ทำไมปล่อยให้มันมายุ่งกับคนของคนอื่น!”
“เปล่าหรอก แค่เห็นนายทำแบบนี้แล้วมันน่าสมเพชน่ะ” มันว่าผมอีกแล้วนะ หลายรอบแล้วนะ!
“สมเพชแล้วไง หนักหัวนายเหรอ” ผมจะทำอะไรมันก็ตัวของผมใจของผม ไม่ได้ไปทำบนหัวมันซะเมื่อไหร่เหล่า!
“นี่ถ้าอยากมากนักบอกกันก็ได้ ฉันช่วยนายได้โดยที่นายไม่ต้องไปอ่อยผู้ชายของคนอื่นเขา” คำพูดร้ายๆกับแขนแกร่งที่โอบเอวผมเข้าไปให้ทำให้รู้สึกสะอิดสะเอียนกับความหยาบคายของมัน
“อย่ามาดูถูกฉัน!” ผมทนไม่ไหวแล้วนะ ทำไมจะต้องดูถูกกันขนาดนี้ด้วย ผมก็แค่รักเขา รักมาโค...ผมผิดหรือไง น่ารังเกียจมากใช่ไหม!
“ก็ดูถูกไง ไม่ได้ดูผิด” มันเคยคิดบ้างไหมว่าคำพูดมันจะทำให้ผมเจ็บมากแค่ไหน
“เขาเป็นของฉัน ไม่ใช่ของเพื่อนนาย เพื่อนนายนั่นแหละหน้าด้านมาแย่งมาโคไป!” ผมโวยอย่างเหลืออด
“แน่ใจว่าคนที่หน้าด้านคือเพื่อนฉันไม่ใช่นาย ที่เขาไม่เอาแล้วก็ยังจะเอาตัวเองไปประเคณถึงที่ แต่ยังไงคืนนี้ฉันจะช่วยรับเศษเดนให้แล้วกัน”
“ไอ้เลว ปล่อยนะโว้ย!”
ผมผลักโอชินออกจากตัว ล้วงเงินออกมาจ่ายค่าเหล้าแล้วเดินเซๆออกจากผับ แค่มาโคเมินผมก็เจ็บมาพอแล้ว ยังจะมีไอ้บ้านี่ตามมาก่อกวนให้เจ็บซ้ำไปกว่าเดิม มันรักเพื่อนมากถึงขนาดต้องมาพูดจาร้ายๆทำตัวแย่ๆใส่ผมเลยหรือไง
ผมไปทำอะไรให้มันถึงต้องมาพูดแบบนี้
“บางทีนายอาจจะติดใจก็ได้” เสียวกวนประสาทยังตามมาหลอกหลอนไม่หยุด
ผมหยุดเดินแล้วหันไปเผชิญหน้ากับโอชิน ผมเดินเข้าไปใกล้ๆแล้วก็เหวี่ยงหมัดออกไปกะว่าจะสอยหน้าหล่อๆแต่นิสัยแย่สักทีหนึ่ง
หมับ!
แต่โอชินกลับรับหมัดของผมได้ แล้วมันก็ดึงแขนผมเข้าหาตัวแรงๆจนตัวผมกระแทกเข้ากับตัวมัน โอชินโอบกอดตัวผมไว้แน่น ผมดิ้นหวังให้หลุดออกจากกอดของโอชิน แต่ยิ่งดิ้มมันก็ยิ่งรัด
“ปล่อยสิวะ! ถ้าฉันสกปรกแล้วนายจะมายุ่งกับฉันทำไม!” ผมยังดิ้นอย่างไม่ยอมแพ้ รู้สึกเจ็บตรงบริเวณที่ถูกแขนแข็งๆรัดเอาไว้
“ฉันพูดเหรอว่านายสกปรก แรงๆแบบนายก็คงจะเร้าใจดี ใช่ไหม” โอชินยื่นหน้าเข้ามาพูดจนเกือบชิดริมฝีปากผม ผมเม้นปากจ้องตาโอชินอย่างอดทนอดกลั้น
ที่ทำแบบนี้เพราะอะไร เหลียดหรือว่าสนใจในตัวผม นี่คงไม่ใช่วิธีการเรียกร้องความสนใจแบบโง่ๆหรอกนะ
“อยากลองใช่ไหม” ผมถาม หยุดดิ้นหยุดการกระทำทั้งหมดทั้งมวล
“อืม แล้วลองได้ไหมล่ะ”
ไม่ว่าหมอนี่จะเข้าหาผมด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม จะเกลียดหรือชอบ แต่ผมจะทำให้มันกลืนคำพูดของตัวเอง ผมจะทำให้มันมารักคนน่าสมเพชแบบผม แล้วเมื่อถึงวันนั้น ผมจะทำให้มันกลายเป็นคนที่น่าสมเพชคนหนึ่งไม่ต่างจากผมในวันนี้ ดีมาผมก็ดีกลับ แต่ถ้าร้ายมาผมก็ไม่ยอมเหมือนกัน
“ก็ได้ สักวันนายจะติดใจฉันจนถอนตัวไม่ขึ้นเลยล่ะสุดหล่อ!” ผมยืดตัวขึ้นจูบโอชินเบาๆด้วยความอยากเอาชนะและฤทธิ์เหล้า ท่อนแขนที่รัดตัวผมค่อยๆคลายลงแต่ยังโอบไว้อยู่ มันจูบตอบผมกลับอย่างเร่าร้อนจนผมแทบยืนไม่อยู่ จังหวะของริมฝีปากเรียวลิ้นร้อนๆของอีกฝ่ายทำผมหัวหมุนจนต้องเกาะเกี่ยวไหล่หนาที่มีหมัดกล้ามเอาไว้
งานนี้ผมจะต้องไม่แพ้
ผมจะทำให้โอชินรักผมให้ได้!
จนมาถึงคอนโดของโอชิน พอเข้าห้องมาได้ปากผมและปากของมันก็ประกบจูบกันแน่นเหมือนไม่สามารถแยกออกจากกันได้ รู้สึกตัวอีกทีหลังผมก็สัมผัสกับที่นอนแล้ว ตอนนี้สติผมลอยไปไกลจนกู่ไม่กลับ ไม่สามารคิดได้แล้วว่าที่ทำอยู่นี่สมควรหรือไม่สมควร ทำแล้วมันจะเกิดผมดีไหม ผมรู้แต่ว่าผมต้องทำและผมต้องการ
โอชินปลดเสื้อผมออกจากตัว ผมเองก็ปลดกระดุมเสื้ออีกฝ่ายเช่นกัน โอชินระบายยิ้มกับการกระทำของผม ผมเผลอยกมือขึ้นแตะริมฝีปากของโอชินอย่างเผลอไผล เวลานอนกับมาโค เขาไม่เคยยิ้มให้ผมสักครั้ง
“ร้องไห้ทำไม” โอชินเช็ดน้ำตาให้ผมอย่างเบามือ ทำแบบนี้ทำไม ถ้าจะเกลียดกันแล้วทำไมต้องมาทำใจดีด้วย ความจริงแล้วมันเป็นคนยังไงกันแน่
“กอดฉันที กอดฉัน”
“ไม่ต้องบอกก็จะกอดอยู่แล้ว”
คืนนี้ผมคงอยู่คนเดียวไม่ได้ ขอเถอะ วันพรุ่งนี้จะเป็นยังไงผมไม่แค่ร์ แต่แค่คืนนี้ที่ผมจะไม่ต้องนอนคนเดียว ต่อให้โอชินจะทำยังไงกับผมผมก็ยอม
เรือนร่างที่เสื้อผ้าผ่อนมาปิดบังของผมและโอชินโลมลันกันไม่หยุด ความเย็นจากเครื่องปรับอากาศไม่สามารถทำให้ความร้อนจากภายในร่างกายผมดับมอดลงไปได้
ทุกการเคลื่อนไหวของคนบนตัวทำให้ผมแทบหยุดตัวเองไม่อยู่ เผลอส่งเสียงครางเครือด้วยความสุข ริมฝปีการร้อนๆแตะแต้มไปทุกส่วนของร่างกาย ผมหยัดตัวขึ้นรับสัมผัสนั้นอย่างเต็มใจ แต่ลึกๆผมก็รู้ว่ามันยังไม่ใช่ ผมต้องการความรัก
อ้อมกอดที่มาจากความรัก ผมต้องการมัน...
“อื้อ อย่าหยุด” ผมร้องอย่างขัดใจเมื่อโอชินหยุดการเคลื่อนไหวทั้งที่ผมกำลังจะไปถึงจุดหมายปรายทางรอบที่เท่าไหร่ก็จำไม่ได้ แบบนี้มันทรมาน จะทำอะไรก็ทำสิวะ!
“ทำเองสิ ทำเป็นหรือเปล่า”
เหมือนผมกำลังโดนดูถูก ผมเลยผลักตัวโอชินลงนอนแล้วผมก็ลุกขึ้นคล่อมคนที่ยิ้มเย้าแทน ดูถูกกันนักใช่ไหม ผมจะทำให้มันติดใจผมจนไปไหนไม่รอดเลยคอยดู!!!
HIM: PRIK
“พี่อย่าโกรธผมเลยนะ ผมเมา ผมไม่ได้ตั้งใจ” ผมค่อยเดินถอยหลังหนีเสือร้ายที่กำลังย่างก้าวเข้าใกล้ผมด้วยท่าทีดุดัน ใบหน้าขึงขังเพราะความโกรธที่ผมไปทำร้ายของรักของหวงของเขาที่สะสมมากนานกว่าห้าปี
โอเคผมผิดผมรู้ แต่เพราะผมหวังดีหรอกถึงได้ทำแบบนั้น ผมไม่ได้แก้ตัวนะ ผมพูดจริงจริ๊งงงง!
“เหรอ ไม่ได้ตั้งใจ รู้ไหมว่าทั้งหมดนั่นราคาเท่าไหร่” มาโคยังเดินหน้าทมึงถึงเข้ามาใกล้ผม ผมเดินถอยหลังหนีมาเรื่อยๆจนเข้ามาในห้องนอนของมาโค สถานการณ์เริ่มไม่ดีแล้ว หรือมันไม่ดีมาแต่ต้นกันแน่ แต่ช่างเถอะ ตอนนี้ผมกำลังจะแย่
แย่แน่ๆ!
“เท่าไหร่ล่ะ เดี๋ยวผมชดใช้เงินให้ก็ได้ พี่ถอยไปเถอะ ผมกลัว” แพงเท่าไหร่ผมก็จ่ายครับ ตอนนี้ผมต้องรักษาชีวิตตัวเองไว้ก่อน
“กลัวเหรอ ทำไมตอนทำไม่กลัวล่ะ”
นั่นดิ ทำไมวะ!?
ปึก!
“โอ๊ะ!”
ฮือออ น้ำเน่าไปไหม ทำไมผมต้องเดินถอยหลังชนขอบเตียงแล้วนั่งจุ้มปุ๊กบนเตียงแบบไหนหนังด้วยนะ นึกภาพฉากต่อไปออกเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น
“จะไปไหน” แต่พอผมเตรียมจะยืนแล้วเดินหนีมาโคก็เดินมาประชิดตัวผม ทำให้ผมต้องล้มลงไปนั่งบนเตียงอย่างเดิม มาโคยกขาวางหัวเข่าลงข้างตัวผมบนที่นอนข้างหนึ่ง ผมเลยต้องกระเถิบตัวเองหนีขึ้นไปบนเตียง เป๊ะเลยไอ้ฉากแบบนี้ ผมแย่แล้ว ใครก็ได้ช่วยที!
มาโคขยับเข้ามาเรื่อยๆ แล้วเขาก็จับไหล่ผมสองข้างกดลงกับเตียง ไม่นะ!
“พี่ ปล่อยผมเถอะ ผมขอโทษ” ผมทำหน้าซ้ำนึกผิด เขาว่ารู้จักเอาตัวรอดเป็นยอดดี มารยาที่ไม่เคยใช้ต้องงัดออกมา ไม่งั้นผมเสร็จพี่มันแน่ๆ
“ขอโทษเหรอ ง่ายไปเปล่า”
“ก็ผมบอกว่าจะจ่ายค่าเสียหายให้ไง”
“ไม่เอา เงินมันแทนกันไม่ได้หรอกนะ นายคิดว่าราคามันแพงแล้วใช่ไหม การหามันมาครอบครองอยากกว่า เข้าใจความหมายใช่ไหม” เขาถาม ผมพยักหน้ารับ ก็แหงล่ะ บางยี่ห้อต้องถ่อไปซื้อไกลถึงต่างประเทศนี่นา
“แล้วพี่จะให้ผมทำยังไงล่ะ” ผมถาม
“ฉันบอกนายไปแล้วนิ ว่าฉันจะเผานายทั้งเป็นเลยล่ะ” เสียงเหี้ยมกระซิบข้างใบหู ผมสะดุ้งเอียงคอหนี แต่เป็นการกระทำที่พลาดมากๆ เพราะทำให้มาโคซุกหน้าลงกับซอกคอผมได้ง่ายดายมากขึ้น
“ไม่เอานะพี่” ผมร้องห้าม ดันไหล่มาโคให้ออกห่าง แต่เหมือนเอากิ่งไม้ไปดันภูเขา เพราะตัวเขาไม่ขยับเลยแม้แต่นิด
“แต่ฉันจะเอา”
“อื้อออ” เสียงผมหายเข้าไปในปากของมาโคที่ประกบจูบลงมา ผมครางประท้วงผ่านลำคอ แต่มาโคไม่ฟังผมเลย มาโคตวัดลิ้นรุกหนักภายใน ตัวผมเริ่มหอบหนัก มือก็ลูบไล่ผมไปมาอย่างซุกซน ร่างกายสะท้านไปทั่วร่างทุกที่ๆเขาสัมผัส ความหนาวเย็นแตะเข้ากับผิวกายด้านหน้า ขนลุกขนชุนไปหมด
กระดุมผมหลุดยกแผงตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย ไวชะมัดเลยไอ้ปลาหมึกเอ้ย!!!
“อ๊าพี่...ไม่เอา” ผมร้องห้ามทันทีที่มาโคถอนริมฝีปากออกไปซุกไซ้ที่ซอกคอแทบ รู้สึกหวิวในท้องแปลกๆ และพอลิ้นของมาโคแตะเข้าที่ยอดอกของผม ผมก็สะดุ้งแอ่นอกเข้า ผมควบคุมตัวเองไม่ได้เลยทำไงดี
“พี่มาร์ค...” นี่เสียงผมจริงรึนี่ ทำไมมันหวิวได้ใจขนาดนี้ มือไม้ก็พากันอ่อนปวกเปียกไปหมด
“ยอมไหม” มาโคเลื่อยตัวขึ้นมาจนหน้าผมกับมาโคอยู่ในระดับเดียวกัน ผมส่ายหน้า ไม่ว่าจะถามเกี่ยวกับอะไร ผมไม่ยอมทั้งนั้น
“แต่นายเกเร ฉันควรต้องลงโทษยังไงดี” พูดเฉยๆก็ได้มั้ง ไม่ต้องพูดไปจูบไปหรอก ผมหวิว!
“ทำไงก็ได้ แต่ไม่เอาแบบนี้” ผมบอก ผมกลัวจริงๆนะ แต่ก็ไม่ทั้งหมดหรอก เพราะมันก็รู้สึกดี...
ทำไมผมเป็นคนแบบนี้เนี่ย!
“แบบนี้แบบไหน” เขาว่าแล้วก็กัดที่คอผมแรงๆจนรู้สึกเจ็บ ได้เลือดไหมนั่น!
“พี่มาร์ค อย่าแกล้ง” ผมพูดเสียงเบา หมดเรี่ยวหมดแรงเพียงแค่โดนอีกฝ่ายสัมผัส มาโคขบเม้นไปทั่วลำคอของผมจนรู้สึกเจ็บจี๊ด บางทีเขาก็กัดให้ผมเจ็บจนผมน้ำตาซึม
“ดื้อดีนักต้องโดนลงโทษ” เขาหยุดแล้วก็ดุผมทั้งคำพูดแล้วก็สายตา
“ไม่ทำแล้ว ปล่อยผมเถอะ” ผมอ้อนเขา ไม่อยากทำก็ต้องทำ ไม่ไหวครับ ขืนอยู่แบบนี้ผมโดนพี่มันกินแน่ๆ
“ปล่อยก็ได้ แต่ต้องมีข้อแลกเปลี่ยน” มาโคยิ้มเจ้าเล่ห์ คิดไม่ออกเลยว่าไอ้ข้อแลกเปลี่ยนนี่มันจะดีกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้ตรงไหน
“อะไรอ่ะ” ผมถามกล้ากลัวๆ หวังว่าพี่มันคงไม่ขออะไรพิเรนจ์ๆหรอกนะ
“ฉันจะไม่ทำอะไร ถ้านายยอมเป็นแฟนฉันตั้งแต่ตอนนี้ โอเคไหม”
“ถ้าไม่ล่ะ” ผมลองถามทั้งที่ก็รู้อยู่ว่าไม่มีทางเลือก
“ฉันก็จะ...กินนายไง” พูดแล้วก็สาธิตให้ดูด้วยการจูบผมอย่างหนักหน่วงร้อนแรงอีกครั้ง จนผมหายใจไม่ออกต้องทุบที่หน้าอกเขา ถึงได้ยอมถอนจูบออก
“มะ ไม่ เฮออ..มีทางเลือกอื่นหรอ” ผมถามไปหอบไป รู้เลยว่าตัวเองตาปรือเพราะเหนื่อยหอบ
“อย่ามาอ้อน ไม่ได้ผลหรอก” เขาเอ็ดพร้อมกับใช้นิ้วจิ้มหน้าผากผม ผมนิ่งคิดก่อนจะพยักหน้าอย่างจำยอม
“ก็ได้ ผมเป็นแฟนพี่ก็ได้”
ผมนี่ฆ่าตัวเองชัดๆ ไอ้พริก! แกมันซื้อบื้อ!!!
“นายว่าอะไรนะโอชิน” ผมอุทานตกใจเสียงดัง รู้ตัวอีกทีคนก็หันมามองที่โต๊ะผมทั้งร้าน ผมก้มหน้าขอโทษสองสามทีก่อนจะหันมาจิกตามองโอชินเขม่ง เมื่อกี้ผมหูแว่วไปเองหรือเปล่า
“ฉันบอกว่าฉันตามจีบแฟนเก่าแฟนนายอยู่” โอชินพูดนิ่งๆ ยกกาแฟขึ้นจิบอย่างไม่ยี่หระ ผมไม่เข้าใจการกระทำขอเขาเลยสักนิด
หลังจากผ่านเหตุการณ์ที่เกือบทำให้เสียตัว นี่ก็ผ่านมาสองวันแล้วที่ผมเป้นแฟนมาโค หลังจากวันนั้นเขาก็ไม่ได้ทำอะไร ที่ไม่ทำเพราะเขาไปทำงานที่ต่างจังหวัดต่างหาก ที่แรกเขาจะพาผมไปด้วย แต่ผมบอกว่าผมมีเรียนและก็มีงาน เขาเลยยอมให้ผมอยู่ที่นี่
และวันนี้ตอนเลิกเรียนผมก็เจอโอชินมารอผมที่คณะ ดีที่วันนี้ผมไม่ได้เอารถมาเพราะขี้เกียจขับรถ เลยติดรถมาโคมาหาอะไรกินแล้วค่อยกลับคอนโด เพราะมันบอกว่ามีเรื่องจะคุยกับผม แต่เรื่องที่มันกำลังพูดอยู่นี่ทำผมอึ้งสุดๆ
มันบอกว่ามันจะจีบแฟนเก่ามาโค...พอร์ชอ่ะนะ
มันไปปิ้งรักเขาตั้งแต่เมื่อไหร่วะเนี่ย!
“นายชอบเขาเหรอไง” นี่แหละที่ผมสงสัย หรือโอชินจะเจอกับพอร์ชก่อนหน้าที่พอร์ชจถมาหาเรื่องผมถึงมหาวิทยาลัย แต่ก็ไม่น่าใช่ เพราะทั้งคู่ดูเหมือนเป็นคนไม่รู้จักกันมากกว่า
“คงงั้นมั้ง” โอชินยักไหล่นิดๆ
“นายไม่ได้มีอะไรแอบแฝงใช่ไหม” ให้มองยังไงพอร์ชก็ไม่ใช่เสป็คโอชินอยู่ดีอีกอย่างนะ ไอ้หมอนี่มันชอบผู้หญิง!
“ฉันต้องมีอะไรแอบแฝงด้วยเหรอ ก็แค่อยากจีบ”
“นายชอบผู้หญิงไม่ได้ชอบผู้ชาย” ผมไล่ต้อน ยังไงก็ไม่คิดว่าโอชินจะชอบพอร์ชได้
“ฉันเคยบอกเหรอว่าฉันไม่ชอบผู้ชาย” ไม่ เขาไม่เคยบอก แต่เขาควงผู้หญิงมาตลอด มีเด็กผู้ชายหน้าตาดีมาอ่อยเขาก็มองเมิน แล้วอย่างนี้จะให้ผมคิดว่ายังไงดี
“นายชอบคนเรียบร้อย” อันนี้โอชินเคยบอกผมว่าเจ้าสาวของเขาจะต้องเป็นผู้หญิงที่เรียบร้อยไม่หวือหวา แต่พอร์ชนี่เรียกว่าคนละขั้วเลยก็ว่าได้
“นั่นก็ใช่ แต่แบบนี้ก็เร้าใจดี” ผมถอนหายใจเบาๆ ไม่มีทีท่าว่าโอชินจะเผยไต๋อะไรให้ผมรู้เลยว่าเขามีแผนอะไรอยู่ในใจ
“เขาน่าสงสารนะ ถ้านายไม่ชอบเขาจริงๆก็อย่างไปยุ่งกับเขาเลย เพราะสุดท้ายนายนั่นแหละที่จะเจ็บ” ผมพูดจริงจัง
สิ่งที่พอร์ชทำผมเห็นใจเขานะ เพราะเขารักมาโคมาก เขาถึงต้องเป็นแบบนี้ ผู้ชายคนนั้นเลวร้ายเกินไป แต่มันคือเสน่ห์ของเขาที่ทำให้ใครต่อใครตกลงพราง ไม่พ้นแม้กระทั่งผมที่ได้ก้าวขาลงไปในหลุงที่เขาขุดเอาไว้หล่อเหยื่อแล้วข้างหนึ่ง ถ้าตกลงไปเต็มตัวเมื่อไหร่ ผมก็คงมีสภาพไม่ต่างจากพอร์ชหรอก ฟันธงได้เลย
…………………………………………….
# ทีแรกว่าจะมาลงตั้งแต่ห้าโมงเย็น แต่นึกขึ้นได้ว่ามีเรียนนี่หว่า วิ่งออกจากหอแทบไม่ทัน
# เกือบไปแล้วนะหนูพริก แต่จะรอดได้ซักกี่น้ำ ยิ่งเป็นแฟนแล้วยิ่งโดนกินง่าย ฮ่าๆๆๆ