DOUBLE-FACED: เสแสร้งแกล้งรัก
Chapter 14: How can I know for sure that you and I are meant for something more (ฉันจะแน่ใจได้ยังไงล่ะว่าคุณกับฉันจะเป็นอะไรที่มากกว่านี้?)
HIM: PRIK
จะมีอะไรที่แย่ไปกว่านี้มีอีกไหม ผมก็ดีใจนะที่แจ็กกี้มาหาผมน่ะ แต่ว่า...ทำไมต้องมาวันนี้ด้วยวะ!!! ตั้งนงตั้งนานก็ไม่มา ดันมาวันที่มาดคมานอนค้างห้องผม ตอนนี้ผมก็ได้แต่ยิ้มเจื่อนๆแล้วก็หลีกทางให้แจ็กกกี้เดินเข้ามาในห้องแต่โดยดี ใจผมเต้นโครมคราม ได้แต่หวังว่ามาโคจะไม่เปิดประตูออกมาจากห้องนอนในตอนนี้ ไม่งั้นมีสงครามย่อมๆในห้องผมแน่ๆ
ผมเนื้อหอมล่ะสิ อย่าได้อิจฉา ฮึก น้ำตาจะไหล ~
“ห้องยังเรียบร้อยเหมือนเดิมเลยนะ” แจ็กกี้หันมายิ้มให้ผม เขาทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา ผมยืนเก้ๆกังๆอยู่ไม่ห่าง สายตาของแจ็กกี้กวาดมองไปรอบห้องอย่างสนอกสนใจ เขาเคยมาที่ห้องผมแล้วครั้งหนึ่ง แต่เพราะเราไม่ค่อยมีเวลา ทถ้าจะพูดให้ถูกคือเขาไม่ค่อยมีเวลามากกว่า เราเลยเลือกที่จะเจอกันข้างนอกแทน
“เอ่อ เดี๋ยวไปเปลี่ยนเสื้อก่อนะ ตามสบาย” ผมบอกพยายามไม่ให้เสียงตัวเองสั่นจนผิดสังเกตุ เขาพยักหน้ารับ ผมก็รีบวิ่งเข้าห้อง ตอนเปิดประตูก็เปิดอ้าน้อยๆ กลัวเขาจะมองเข้าไปเห็นอะไร เข้าห้องมาให้ผมก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ก่อนจะหันหลังให้ประตู
“เฮ้ย!” ผมอุทานเสียงหลงที่อยู่ดีๆหันมาก็เจอมาโคยืนทำหน้ายับอยู่ แต่พอนึกขึ้นได้ว่ามีอีกคนอยู่ข้างนอกผมก็รีบยอกมือปิดปากตัวเองทันที
“ฟู่ ตกใจหมด” ผมพูดกับตัวเองเบาๆ ก่อนจะเงยหน้ามองมาโคที่ยืนนิ่ง แต่หน้านี่ไปแล้วครับ
“ใครอยู่ข้างนอก” มาโคถามเสียงแข็ง ดวงตาของเขาแข็งกร้าวไม่ต่างจากเสียง ผมกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก
“คือว่า...” ผมไม่กล้าพูด
“ใคร” เขากดเสียงแข็งใส่ผมอีก แถมยังดังขึ้นจนผมต้องยกมือขึ้นปิดปากเขา
“ชู่ๆ เบาๆสิพี่” ผมบอกอย่างกังวล หลัวว่าแจ็กกี้จะได้ยิน มาโคจับมือผมออกจากปากเขาก่อนจะสะบัดแรงๆ ผมใจเสียทันที
“จะบอกหรือจะให้ฉันออกไปถามมันเอง” มาดคยืนตเท้าเอวหันซ้านหันขวาอย่างเดือดดาน เขามองหน้าผมโกรธๆ ผมถอนหายใจหนักๆก่อนจะบอก
“แจ๊กกี้...เขาอยู่ข้างนอก และเขาเป็นแฟนผม โอ๊ย!” สิ้นคำมาโคก็กระชากตัวผมเขาหาอย่างแรง ผมร้องเพราะเขาบีบที่หัวไหล่ผมแรงมากๆ
“พริก เป็นอะไรหรือเปล่า!” ผมสะดุ้งเมื่อแจ็กกี้ตะโกนถามกลับมา ด้วยความตกใจผมรีบสบัดตัวออกจามาโคแล้วพุ่งไปกดล็อคประตูแทน กลัวว่าแจ็กกี้จะเปิดเข้ามาเห็น
“เปล่าๆ ไม่มีอะไร” ผมตะโกนบอก ข้างนอกเงียบไป สงสัยจะไม่ติดใจอะไร แต่พอหันกลับมา อุ๊ย! หน้าโคตรโหดเลยครับ เขาจะฆ่าผมหมกห้องไหมเนี่ย
“เอามันออกไปจากห้องเดี๋ยวนี้” มาโคกัดพันพูดอย่างระงับอารมณ์ ผมก็พอจะเข้าใจความรู้สึกของเขา แต่ผมคงทำแบบนั้นไม่ได้
“ขอโทษนะพี่ แต่ผมทำแบบนั้นไม่ได้” ยิ่งพูดไปแบบนั้นมาโคยิ่งโมโหมากกว่าเดิม
“แล้วไง หรือจะให้ฉันเป็นคนออกไป” มาโคพูดเหมือประชด แต่ตรงใจผมที่สุด
“อืม”
“ห๊ะ!”
“เบาๆสิพี่” ผมใช้นิ้วชี้แตะมากพี่เขา พูดอะไรเบาๆไม่เป็นหรือไง เดี๋ยวความแตกกันพอดี
“ทำไมฉันต้องเป็นคนออกไปด้วย” มาโคพูดอย่างไม่พอใจ เดินกระฟัดกระเฟียดไปนั่งที่ปลายเตียง
“พริก! ทำอะไรอยู่”
นี่ก็อีกคน เรียกจังวะ!
“แปบหนึ่ง เปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่” ผมตะโกนกลับไป แล้วก็นึกขึ้นได้ว่าผมยังอยู่ในชุดเดิม เลยรีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้า เปลี่ยนมันทั้งๆที่มาโคยังอยู่ในห้องนั่นแหละครับ ช่างมัน ตอนนี้ผมรีบ
“พี่ เดี๋ยวผมออกไปจากห้องนอนแล้ว ผมจะพาแจ๊กกี้เข้าไปในครัว ทีนี้พี่ค่อยๆย่องออกไปนะ” ผมบอกแผนการที่คิดได้สดๆร้อนๆ ประตูห้องผมกับห้องครัวมันคนล่ะองศากัน อธิบายแล้วเดี๋ยวจะงงเข้าไปใหญ่ รู้ไว้แค่ว่ามองไม่เห็นกันเป็นพอ!
“ทำไมฉันต้องทำแบบนั้น” เสียงเข้มย้อมกลับมา ผมถึงกับต้องขยี้หัวตัวเอง
“นะพี่นะ ผมไหว้ล่ะ ช่วยผมหน่อย” ผมเดินไปนั่งข้างๆมาโคแล้วก็ยกมือไหว้ขอร้องเขา ตอนนี้ผมอยากจะร้องไห้จริงแล้วนะ มาโคเงียบไป ยิ่งนานผมก็ยิ่งกังวลว่าแจ็กกี้จะสงสัย ผมตัดสินใจขยับไปนั่งคล่อมตักมาโค ตอนนี้ยังๆไงผมก็ต้องทำให้มาโคยอมทำตามแผนผมให้ได้ก่อน
“นะพี่นะ” ผมอ้อนก่อนจะขยับหน้าไปจูบที่ริมฝีปากอีกฝ่ายแผ่วเบาๆ ผมกดย้ำแผ่วเบาอีกสองสามทีแล้วก็ดึงหน้าออก แต่ก็ช้ากว่าอีกฝ่ายที่ตวัดตัวผมเข้าไปบดเบียดจูบแทน เขาจูบราวกับจะลงโทษผม แต่ผมก็ยอมให้เขาลงโทษแต่โดยดี เขาทั้งกัดทั้งขบเม้น ไม่ถึงกับเจ็บแต่มันก็ทำให้รู้สึกแปลก ผมรับรู้ได้ถึงความรู้สึกของเขาผ่านรสจูบ เรียวลิ้นล้อนตวัดหยอกเย้าลิ้มผมอย่างรวดเร็วและรุนแรง เขาจูบจนเนื้อตัวผมอ่อนแรงสมองเบลอไปหมด
“ฉันให้ครั้งนี้ครั้งเดียวนะ ถ้ามีอีกครั้งนายแย่แน่” มาโคขู่ชิดริมฝีปากผม เขามองผมเหมือนหมั่นไส้ ตามด้วยจูบผมอีกครั้งหนึ่ง เขาถึงจะยอมปล่อยตัวผม ผมยืนปรับอารมณ์ของตัวเองให้กลับมาเป็นปกติ ผมมองหน้ามาโคอย่างช่างใจอีกครั้งก่อนจะตัดสินใจเดินออกจากห้อง แต่แจ็กกี้ไม่ได้อยู่ที่ห้องนั่งเล่น แต่เขาไปยืนคุยโทรศัพท์อยู่ที่ระเบียง ผมรีบกลับไปเปิดประตูห้องนอนอีกครั้งโดยที่สายตายังจับจ้องที่แผ่นหลังของแจ็กกี้ไม่วางตา
“ออกมาได้” ผมกวักมือแล้วก็ขยับปากพูดบอกมาโค มาโคที่สวมแค่เกงเกงยีนส์เดินถือเสื้อของเขาหน้ามุ่ย เขาออกมาจากห้องนอนแล้วมองไปที่ระเบียง ผมรีบดันตัวเขาให้เดินไปที่หน้าประตูให้เร็วที่สุด ผมเปิดประตูอย่างเบามือแล้วดันมาโคออกจากห้องทันที
“วันนี้ฝากไว้ก่อน พรุ่งนี้นายโดนดีแน่ๆพริก” มาโคก้มผมลงดูดปากผมที่หนึ่ง ดูดครับดูดไม่ใช่จูบ จากนั้นเขาก็เดินหัวเสียจากไป ผมปืดประตูลงหันหลังพิงประตู สายตามองไปที่แจ็กกี้อีกครั้ง ผมยกมือขึ้นแตะที่หัวใจตัวเอง
อ่า เต้นเร็วใจมัด
“เกือบไปแล้ว” ผมกลัวจนเนื้อตัวสั่นเทาไปหมด ผมลูบหน้าลูบตาตัวเอง ถึงมาโคจะออกไปแล้ว แต่เหมือนผมยังคงรู้สึกกังวล ความเครียดยังไม่หมดไป ใช่ ผมยังเครียดอยู่ แต่ตอนนี้ผมบอกไม่ได้ว่าผมเครียดเรื่องอะไร หรือที่จริงแล้วมันหลายๆเรื่องรวมกันจนผมแยกไม่ออกว่าเรื่องไหนน่ากังวลมากที่สุด
ผมเดินไปล้างหน้าล้างตาในห้องน้ำ มองตัวเองผ่านกระจกเงา ผมจะผ่านเรื่องนี้ไปยังไงนะ
ออกมาจากห้องแจ็กกี้ก็คุยโทรศัพท์เสร็จแล้ว เขากลับมานั่งที่เดิม ผมเดินลงไปนั่งข้างๆเขา ความรู้สึกราวกับคนแปลกหน้า ผมควรจะคิดถึงเขามากๆสิ ก็ผมไม่ได้เจอเขามาตั้งสามเดือน
“สบายดีนะ” แจ็กกี้ถามผม ผมพยักหน้าตอบ
“วันนี้หยุดเหรอ” ผมถาม เพราะปกติถ้าไม่หยุดติดกันหลายๆวันเขาไม่ค่อยกลับบ้านเท่าไหร่ ผมหมายถึงกลับกรุงเทพน่ะ
“ใช่ คิดถึงจัง” แจ็กกี้กขยับเข้ามาหาผมพร้อมกับรวบผมเข้าไปกอด ผมตกใจนิดหน่อยแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร เขาเริ่มหอมแก้มผม คลอเคลียไปมาอยู่สักพัก เขาเลื่อนหน้าลงมาจูบปมเบาๆ ผมนิ้งค้างเหมือนร่างกายจะต่อต้าน อาการเกร็งของผมทำให้แจ็กกี้ดึงหน้าออกแล้วมองผมอย่างสงสัย
“จูบได้ไหม” เขาถามผม ผมกระพริบตาปริบๆ ก่อนจะพยักหน้า เขายกยิ้มบางๆก่อนจะจูบผม รสสัมผัสแบบเดิม จูบของแจ็กกี้มักจะนุ่มนวลอ่อนหวาน แต่ความรู้สึกของผมกลับไม่เหมือนเดิม ผมเบือนหน้าหนีทันที
“พะ พอแล้ว” ผมบอก แจ็กกี้นิ่งไปก่อนจะหัวเราะ เขากดจมูกลงที่แก้มผมก่อนจะสูดลมหายใจเขาปอดเน้นๆ
“เขินหรือไง”
“อ่ะ อืม” ผมไม่รู้จะตอบยังไงเลยเออออห่อหมกแทน ผมไม่ได้เขินหรอก เพียงแต่รู้สึกว่ามันไม่ควร ผมไม่ควรให้แจ้กกี้จูบทั้งที่ผมเพิ่งจูบกับมาโคมา แต่ถึงไม่ได้จูบกับมาโคมาก่อนหน้านี้ ผมก็รู้สึกว่าไม่ดีที่จูบกับแจ็กกี้อยู่ดี
หรือว่าผมจะไม่ได้รักแจ็กกี้แล้ว?
“เป็นอะไรน่ะ ดูเหม่อๆนะ ไม่ดีใจหรือไงที่ฉันกลับมา” แจ็กกี้ถาม
“เปล่านะ ดีใจสิ ดีใจมากๆเลย” ผมรีบตอบกลัวเขาไม่สบายใจ ผมมันเลวเนอะ คุณว่าไหม
“เหรอ แต่พริกดูแปลกๆไปนะ” เขายังคงสังเกตุความเปลี่ยนแปลงของผม
“กลับมาตั้งแต่วันไหน” ผมหาเรื่องถามเขากลับ ไม่อยากให้เขามาเซ้าซี้มากนักว่าผมเป็นอะไร ผมกลัวว่าตัวเองจะหลุดอาการอะไรออกไปให้เขาจับได้
“เมื่อวาน ไปที่บ้านก่อนแล้ววันนี้ก็มาหา” เขาเป็นแบบนี้เสมอ ครอบครัวสำคัญเป็นอันดับหนึ่ง และเขาให้ผมเป็นดันดับสอง ผมไม่ได้รู้สึกแย่ๆ กลับรู้สึกชื่นชมด้วยซ้ำที่เขาเป็นคนรักครอบครัว
“แล้วอยู่ได้กี่วัน” ผมถาม
“อืม...” เขาทำท่านึกก่อนจะตอบ “สองอาทิตย์”
“หยุดเยอะจัง ปกติไม่เห็นหยุดเยอะขนาดนี้นี่นา” ผมพูด ไม่รู้เหมือนกันว่าเรียนเป็นนักบินมันจะยุ่งอะไรนักหนา
“อืม พอดีเพิ่งสอบเสร็จแล้วได้หยุดยาวน่ะ” เขาบอกยิ้มๆก่อนจะทิ้งตัวลงนอนบนตักผม เป็นอีกหนึ่งอย่างที่เขาชอบทำเวลาอยู่กับผม
แล้วผมกับแจ็กกี้ก็เงียบ เขาดึงมือผมไปเล่นผมยกขึ้นจูบ ผมไม่รู้จะพูดอะไรกับเขาดี เหมือนคำถามที่ค้างคาใจมากมายที่เคยคิดอยากจะถาม มันได้อันตธารหายไปหมดแล้ว สามเดือนที่ผ่านมามันอาจจะดูไม่นาน แต่มันก็นานทำให้ผมเกิดความรู้สึกที่ว่า ‘ช่างมันเถอะ’
จากที่เคยอยากรู้ก็ไม่อยากรู้ จากที่เคยสงสัยก็ไม่สงสัย ไม่ใช่ว่าผมเข้าใจอะไรๆมากขึ้น เปล่าเลย ผมไม่เคยเข้าใจแจ็กกี้เลย เพราะฉะนั้น พอผมไม่เข้าใจมากขึ้นๆ ผมก็เลยคิดได้แค่ว่า ‘ช่างมัน’ บางทีเขาก็คงมีเหตุผมของเขา แจ็กกี้ไม่ใช่คนที่ไม่มีเหตุผล ผมเชื่ออย่างนั้น เพราะอย่างตอนนี้เขาก็กลับมาแล้ว นั่นหมายความว่าเขาก็ไม่เคยลืมผม
“ทำไมดูพริกเงียบๆล่ะ ปกติคุยเก่งกว่านี้ตั้งเยอะ” ผมตั้งข้อสงสัย
“เหนื่อยๆนะ” ผมตอบสั้นๆ เขามองตาผมก่อนจะยิ้มให้ ผมเคยชอบรอยยิ้มของเขานะ ให้ความรู้สึกอบอุ่นแล้วก็สบาย ตอนนี้ก็เช่นกัน มันทำให้ผมรู้สึกผิดที่แอบปันใจไปชอบมาโค เหมือนว่าผมหักหลังเขา
“เรียนหนักเหรอ กินข้างตรงเวลาหรือเปล่า” แจ็กกี้ถามด้วยความเป็นห่วง ผมยิ้มตอบบางๆ
“เรียนไม่ค่อยหนักเท่าไหร่หรอก แต่มันก็หลายๆอย่าง เรื่องงานอะไรพวกนี้” ผมตอบรวมๆ
“งั้นเหรอ พริก” เขาเรียกชื่อผมเบาๆ “ไปเที่ยวทะเลกันไหม” เขาถามเสียงนุ่ม
“หืม ทะเลเหรอ?” ผมตาโตถามกลับเสียงแผ่ว ไม่คิดว่าเขาจะชวนผมไปทะเล
“อืม ไปไหม ค้างสักสองคืน”
“ไปกับใครบ้าง” ไม่บ่อยเลยที่ผมกับเขาจะไปเที่ยวที่ไกลๆกัน ส่วนมากก็ไปเช้าเย็นกลับ ไม่เคยค้างคืน
“ก็เพื่อนฉันเนี่ยแหละ พริกก็เอาเพื่อนพนริกไปด้วยสิ ไปหลายๆคนสนุกดี” แจ็กกี้พูดอย่างใจดี ผมนิ่งคิดก่อนจะตอบตกลง
“อืม ก็ได้”
แจ็กกี้กลับไปแล้ว ที่บ้านเขาโทรมาตามเขาก็เลยต้องรีบกลับ แต่เขาบอกว่าวันพรุ่งนี้จะมาหาผมใหม่ และวันมะรืนเราจะไปทะเลกัน ผมนอนหลับตาอยู่ที่โซฟา คิดไม่ถูกว่าจะทำอะไรต่อดี จนกระทั่งกริ่งหน้าห้องดังอีกครั้ง ใครมาอีกวะเนี่ย!
“มาโค!” มาโคมาอีกแล้ว ผมได้กลิ่นเหล้าจากตัวเขา เขาดันตัวผมออกแล้วก็เดินเข้ามาในห้อง ผมเดินตามเข้ามาอย่างเป็นห่วง เขาเดินไปล้างหน้าในห้องน้ำ ที่มุมปากของเขามีรอยเลือด ผมเดินเข้าไปหาก่อนจะใช้นิ้วจิ้มที่แผล เขาสะดุ้งมองผมตาขวาง
“ไปทำอะไรมา”ผมถาม เขาไม่ยอมตอบเดินออกไปที่ห้องนั่งเล่น ผมก็เดินตาม
“มันมาทำไม!” เขาคงจะหมายถึงแจ็กกี้
“ก็มาหาเฉยๆและ...” ผมหยุดพูดเรื่องที่แจ็กกี้ชวนไปทะเลกำลังคิดอยู่ว่าจะบอกดีไหม
“และอะไร...” มาโคคาดคั้นทันที
“แจ็กกี้ชวนไปเที่ยวทะเล” ผมบอกเขา มาโคคิ้วกระตุกทันที
“ไม่ต้องไป!” เขาสั่งห้าม ผมส่ายหน้า
“ไม่ ผมจะไป” ผมบอกเรียบๆ เขาทำหน้าไม่พอใจมากๆ “พี่ห้ามผมไม่ได้หรอกนะ ผมไม่ได้เจอเขาตั้งนาน” ผมพูดออกไปเสียงห้วน
“อย่ามาลองดีกับฉันนะพริก!” มาโคตวาดผม
“ผมปล่าว พี่นั่นแหละ เลิกทำแบบนี้สักที ผมมีแฟนอยู่แล้ว เลิกยุ่งกับผมสักที!”
เลิกทำให้ผมชอบพี่สักที!!!
“ยังไงก็จะไปให้ได้ใช่ไหมไอ้ทะเลนั่นน่ะ!” มาโคจ้องผมเขม็ง มือของเขากำเขาหากันแน่
“ใช่! ผมจะไป” ผมเชิดหน้าขึ้นอย่างถือดี”
“ก็ดี ฉันจะไปด้วย!!”
“ห๊า!!?”
.....................................................................................
# มาแค่นี้ก่อนนะ สมองมันตื้อคิดอะไรไม่ออกเลย