the Second Chance :: ความหมายของหัวใจ (ตอนที่ 18 - 27 July)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: the Second Chance :: ความหมายของหัวใจ (ตอนที่ 18 - 27 July)  (อ่าน 70741 ครั้ง)

เกเร

  • บุคคลทั่วไป
อ้าว :ruready  เบรกซะหัวทิ่มเลย  หึ๊ย! :hao5:

ออฟไลน์ snoopy

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 725
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-1
 ว่า...ว่าอะไร????
+1 รอดีกว่า   o13

winnie_the_far

  • บุคคลทั่วไป
รอต่อไป..... ว่า อะไรหน๊อออออ !!!

ออฟไลน์ iammz

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2681
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +292/-6
ว่า...........................  :katai1:

TimelessOne

  • บุคคลทั่วไป
ตามมาจาก fb นึกว่าตอนใหม่มแล้ว  :katai1:

แอบเช็คทุกวันเลยนะนี่  :mew3:

ออฟไลน์ whynotme

  • ♥ 09-07-2012 ♥
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 643
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
แวะมาดู ~ ทะเล ~ ว่า ..................................... มารึยัง !!  :mew3:

ออฟไลน์ irksome

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 277
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
ว่าาาาา.......
คนแต่งหายไปไหนนนน~

ว่าแต่หนึ่งน่าจะเป็นนายเอก เพราะงั้นคุณทะเลคงต้องตัดทิ้งไปแล้วละมั้ง
คงเป็นได้แค่เพื่อนสาว(?)
แต่คนอย่างก้อง ทะเลไม่น่าทนมาตั้งนานเลยเนอะ  :beat:

รอตอนต่อไป  :z2:

ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page
ตอนที่ 10

ผมกับธีได้คุยกันอีกครั้งก็ตอนบ่ายของวันอาทิตย์ เขาเล่าเหตุการณ์ที่ไปเจอก้องกับแฟนใหม่เมื่อคืนให้ผมฟังด้วยน้ำเสียงไม่สู้ดีนัก ผมรู้ว่าเขาเจ็บปวด แต่เท่าที่ฟังดูแล้ว ผมว่าคนชื่อก้องก็ทำเกินไปหน่อยจริงๆ

“เค้าจูบกันให้ดูเลยเหรอ ขนาดนั้นเลยเหรอครับ!” ผมถามด้วยความตกตะลึง

“ผมก็ไม่รู้หรอกนะว่าใครเป็นฝ่ายเริ่ม แต่ผมว่ามันคงจงใจอยากให้ผมเห็นนั่นแหละครับ” เขาถอนหายใจ “พอแวบแรกที่ผมเห็นหน้ามัน ผมก็รีบกดมือถือไปบอกธีเลยว่าผมเจอมันเข้าแล้วจริงๆ”

“ผมเห็นเมสเสจก่อนนอนพอดีน่ะครับ แต่ไม่ได้โทรกลับ ต้องขอโทษด้วย คือไม่รู้ว่าควรจะโทรกลับรึเปล่าน่ะครับ”

“ไม่เป็นไรหรอกครับ ไม่โทรมาน่ะดีแล้ว”

“แล้วพี่ธีทำยังไงครับ”

เขาหัวเราะในลำคอเบาๆ “ผมจะไปทำยังไงได้ล่ะครับ ก็ได้แค่เดินออกไปจากที่นั่นแค่นั้นแหละ แต่สุดท้ายก็โดนเพื่อนๆ ลากกลับเข้าไปอีกจนได้ เพราะพวกมันก็เอาแต่บอก ‘มึงห้ามหนี มึงห้ามแพ้มัน’ อยู่แค่นี้แหละ”

“แล้วหลังจากนั้น...”

“หลังจากนั้นไม่นานผมก็กลับมาพร้อมอายครับ ผมไม่อยากอยู่ต่อนานหรอก หมดอารมณ์จะสนุกแล้ว... เอ้อ พูดถึงยัยอาย เดี๋ยวตั้งแต่พรุ่งนี้ไปอายจะย้ายกลับไปอยู่บ้านกับแม่แล้วนะ พอดีพ่อมันจะขึ้นมาจากต่างจังหวัดและมาอยู่บ้านเดือนนึง มันก็เลยจะไปนอนบ้านสักพักใหญ่ๆ เลยแหละ แล้วก็เอาไอ้ตัวเล็กไปด้วย แต่ขานั้นคงไปๆ มาๆ ระหว่างบ้านนั้นกับบ้านผมน่ะครับ”

“อ้าวเหรอครับ แล้วพี่ธีล่ะ จะอยู่บ้านหรือคอนโด”

“หลักๆ ผมคงอยู่คอนโดน่ะครับ นี่ก็เริ่มจะหางานอีกรอบแล้ว อยู่คอนโดมันเดินทางสะดวกกว่า”

“ก็ดีนะครับ ขอให้ได้งานเร็วๆ แล้วกัน แล้วว่าแต่ใครจะเป็นคนดูแลเหนือล่ะครับแบบนี้”

“ช่วงเดือนนึงนี้ก็คงอย่างที่ผมบอกน่ะครับ พ่อแม่ผมบ้าง พ่อแม่อายบ้าง แต่หลังจากได้งานก็คงฝากไว้ที่บ้านอายเป็นหลัก เพราะยายของอายจะช่วยดูแลให้น่ะครับ และอายเองก็อาจจะกลับไปนอนบ้านตัวเองบ่อยมากขึ้นด้วย งงมั้ยเนี่ย” เขาหัวเราะเบาๆ “บ้านผมก็แบบนี้แหละครับ วุ่นวายตลอด เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา แต่โชคดีอยู่อย่างที่บ้านเราทั้งสองครอบครัวมีสมาชิกหลายคนน่ะครับ ก็เลยช่วยกันดูแลเหนือได้หมด อย่างบ้านผมพ่อกับแม่ก็เกษียณแล้ว แล้วก็ยังมีบ้านยายกับน้าอีกหลัง ส่วนบ้านอายจะมียายกับป้าอยู่ เพราะงั้นถึงตอนกลางวันแม่ของมันจะไม่อยู่แต่บ้านก็ไม่เคยว่างอยู่แล้ว”

“อ๋ออ ครับ แล้วตอนนี้น้องอยู่กับใครครับ”

“อยู่กับพ่อแม่ผมครับ เดี๋ยวเย็นๆ ค่ำๆ ค่อยไปรับ ผมกะว่าบ่ายๆ จะออกไปดูหนังสักหน่อย แก้เซ็ง”

“ไปคนเดียวเหรอครับ”

“ครับ นี่อายก็เพิ่งกลับบ้านไปได้ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง เพราะว่าต้องไปธุระกับแม่แล้วพาลูกไปด้วยไม่ได้”

“ถ้าไงให้ผมไปด้วยมั้ย ต้องการเพื่อนรึเปล่าครับ” ผมเสนอ

“หืออ ไปดูหนังน่ะเหรอ”

“ใช่ครับ ถ้าพี่ธีอยากได้เพื่อนเดินแก้เหงาน่ะนะ เพราะผมเองก็ไม่ได้เข้าโรงหนังมานานมากกกกกแล้วเหมือนกัน”

“ถ้างั้นก็ดีครับ ผมยินดีอยู่แล้ว แต่ผมว่าจะออกจากคอนโดเร็วๆ นี้แล้วนะ ถ้าเจอกันอีกสัก... ในหนึ่งชั่วโมงจะทันมั้ยครับ ที่เดิม หรือให้ผมหารอบใหม่ดี อยากดูเรื่องอะไรเป็นพิเศษรึเปล่า”

“ไม่ครับ เรื่องไหนก็ได้ ผมไม่ค่อยรู้หรอกว่าช่วงนี้มีหนังอะไรน่าสนใจบ้าง พี่ธีเลือกเลย เดี๋ยวผมเปลี่ยนเสื้อผ้าห้านาทีก็ออกจากบ้านได้เลยครับ เพราะงั้นน่าจะทัน เอาตามที่พี่สะดวกนี่แหละ”

“โอเค งั้นเดี๋ยวเจอกันครับ”

ผมรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อยที่จะได้ไปดูหนังกับเขาเพราะผมไม่ได้เข้าโรงหนังมานานมากแล้วจริงๆ ผมจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าหนังเรื่องสุดท้ายที่ผมดูในโรงภาพยนตร์คือเรื่องอะไรและเมื่อไหร่ อาจจะเกินหนึ่งปีมาแล้วด้วยซ้ำมั้ง แต่ที่สำคัญคือผมรู้สึกดีที่จะได้เจอเขามากกว่า ยิ่งผมรู้ว่าเมื่อคืนเขาต้องเจอเรื่องแย่ๆ แบบไหนมา ผมก็ยิ่งรู้สึกอยากเป็นกำลังใจให้เขาเช่นเดียวกับตอนที่เขาเป็นให้ผมในตอนที่ผมเครียดเรื่องงานก่อนหน้านี้ และก็แน่นอนว่าการได้ใช้เวลาอยู่กับเขามันก็ทำให้ผมรู้สึกดีทุกครั้ง

หลังจากที่ดูหนังจบ เราก็ไปนั่งคุยกันที่ร้านกาแฟครู่หนึ่ง โดยที่เราต่างก็ไม่ยกเรื่องแฟนเก่าของเขาขึ้นมาคุยให้บรรยากาศต้องแย่ลงไป ซึ่งเขาเองก็ดูจะมีความสุขกับการไม่พูดถึงมันมากกว่าด้วย เมื่อถึงเวลาที่เราต่างก็ควรจะต้องแยกย้ายกลับบ้าน เขาก็เอ่ยปากชวนผมไปที่บ้านของเขาขึ้นมา

“เอางี้ดีกว่า พอไปรับเหนือแล้วแวะไปคอนโดผมหน่อยมั้ย ผมจะทำข้าวเย็นให้กินแทนคำขอบคุณที่ออกมาเป็นเพื่อนดูหนังวันนี้” เขาถามพร้อมรอยยิ้มกว้าง

“จะดีเหรอครับ รบกวนเปล่าๆ”

“ไม่รบกวนหรอกครับ แต่ถ้าไม่สะดวกก็ไม่เป็นไร เอาไว้คราวหน้าก็ได้ เออจริงสิ น้ำเองก็ไม่สบายนี่นะ หนึ่งจะกลับไปดูแลลูกก็ได้นะ”

“อ๋อ น้ำน่ะดีขึ้นเยอะแล้วครับ เริ่มกินนมได้ปกติแล้ว แต่ยังต้องกินยาต่อแล้วก็ยังมีไข้ต่ำๆ แค่นั้นเอง ผมว่าผมต้องหัดทำใจให้สบายๆ มากกว่านี้อย่างที่แม่บอกจริงๆ นั่นแหละครับ เพราะงั้น... ไปก็ได้ครับ ไม่อยากจะเอาแต่ห่วงเรื่องลูกจนไม่เป็นอันทำอะไรเหมือนกัน”

“ดีแล้วครับ คือผมหมายถึงว่าเป็นห่วงลูกน่ะก็ดีแล้ว แต่ไม่ตื่นตูมและค่อยๆ ปรับตัวให้ใจเย็นลงก็ดีเหมือนกัน ถ้างั้นเป็นอันตกลงนะครับ จำทางไปบ้านผมได้ใช่รึเปล่า”

“ได้ครับ”

“งั้นไปกันเลยนะ เดี๋ยวจะเย็นเกินไป”

เมื่อไปถึงที่บ้านของธี เขาก็แนะนำผมให้รู้จักกับแม่ของเขาที่เดินออกมารับเราถึงหน้าบ้าน ผมตกใจนิดหน่อยที่แม่ของเขาดึงตัวผมเข้าไปกอดเป็นอย่างแรกก่อนที่ผมจะทันได้พูดคำว่า ‘สวัสดี’ จบเสียอีก

“ยินดีต้อนรับจ้าาา ชื่ออะไรเนี่ยลูก แฟนใหม่เจ้าทะเลเหรอ”

“เฮ้ยย!! คุณแม่! ไม่ใช่!!”

“อ้าวไม่ใช่เหรอ” แม่หันไปมองหน้าลูกชายของตัวเอง

“ไม่ใช่!!” ธีปฏิเสธเสียงแข็งย้ำอีกครั้ง “นี่เพื่อนเล! ชื่อหนึ่ง แล้วหนึ่งเค้าก็แต่งงานมีลูกแล้วด้วย! โหคุณแม่ ไรวะเนี่ย ดูดิ๊เนี่ย หนึ่งมันตกใจหมดแล้ว” เขาหันมามองที่ผมด้วยใบหน้าแดงก่ำ “ขอโทษทีนะ หนึ่ง แม่ผมก็เป็นแบบเนี้ย ประจำ”

“ฮ่าๆ ไม่เป็นไรครับ” ผมตอบกลับเขินๆ รู้สึกตกใจเหมือนกัน แต่ก็ตลกดี

“ฉันจะไปรู้ได้ไงล่ะ นึกว่าหาแฟนใหม่ได้แล้ว พอเห็นว่ามีผู้ชายมาด้วยก็นึกว่าพาแฟนใหม่มาแนะนำให้รู้จัก อุตส่าห์ตื่นเต้นเดินออกมารับถึงหน้าบ้าน”

“คุณแม่ แฟนนะครับ ไม่ใช่หลอดตะเกียบประหยัดไฟ จะได้หามาเปลี่ยนใหม่ได้ง่ายๆ ขนาดนั้น”

“ไม่รู้นี่ยะ ฉันก็แค่อยากให้แกเจอคนดีๆ ไวๆ สักที ดีกว่าเอาเวลาไปมัวเศร้าเรื่องไอ้ผู้ชายเต่าถุยพรรค์นั้นตั้งเยอะ”

“พอกันเลยทั้งแม่ทั้งเมีย พูดเหมือนกันเป๊ะ” ธีถอนหายใจ “พอแล้วๆ ไม่คุยเรื่องนี้ดีกว่า มาครับ หนึ่ง เข้าบ้านก่อน ไปนั่งคุยในบ้านดีกว่า”

“มาลูก มานั่งในบ้านก่อน” แม่ของธีเดินนำเราสองคนเข้าไปในบ้าน จากนั้นก็เดินหายเข้าไปในครัวแล้วกลับมาพร้อมกับน้ำเย็นๆ สองแก้ว “ว่าแต่ไปไงมาไงถึงได้รู้จักกับเจ้าทะเลได้ล่ะ แม่ไม่เคยเห็นหน้าหรือได้ยินชื่อเลย”

“คุณแม่ หนึ่งก็คนที่คอนโดที่เลเคยเล่าให้ฟังไง ที่ว่า...”

“อ๋อๆๆ จำได้แล้วๆ” แม่ขัดขึ้นเสียก่อน “แหม แต่แกก็เคยพูดถึงแค่ครั้งเดียวเองนี่ ที่แกแวะไปหาที่บ้านตอนนั้น จำได้ว่ามีลูกชายใช่มั้ยคะ กี่เดือนแล้วนะ” แม่หันมาหาผม

“ตอนนี้เจ็ดเดือนแล้วครับ” ผมตอบ

“กำลังน่ารักเลยสิ!”

ผมยักหน้าพร้อมยิ้มกว้าง “ครับ”

“ก็ดีนะ แบบนี้อีกสักพักคงเป็นเพื่อนเล่นเหนือได้แน่ๆ เลย”

“ผมก็คิดแบบนั้นเหมือนกันครับ”

“แล้วนี่กินอะไรมากันรึยังล่ะ กินข้าวเย็นด้วยกันก่อนมั้ย แม่จะได้ให้เด็กเตรียมให้”

“ไม่เป็นไรครับ คุณแม่” ธีตอบแทนผม “เดี๋ยวเลจะกลับไปทำข้าวเย็นให้หนึ่งกินที่คอนโดน่ะ”

“อ้าวเหรอ แล้วจะไปกันเมื่อไหร่ล่ะ จะไปกี่โมง”

“นี่ก็จะไปแล้วครับ คงต้องรีบออกไปหน่อย” ธีตอบพลางดูนาฬิกาข้อมือ

“โอเคๆ แต่เหนือหลับอยู่นะ จะไปเลยมั้ย เดี๋ยวแม่อุ้มหลานไปไว้ในรถให้”

“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวเลจัดการเองก็ได้ ว่าแต่นี่คุณพ่อออกไปข้างนอกใช่มั้ยเนี่ย”

“ใช่ ไปงานวันเกิดเพื่อนน่ะ สงสัยจะเมากลับมาดึกๆ นั่นแหละ”

“ถ้างั้น...” ธีหันมาหาผม “หนึ่งหิวรึยัง กลับกันเลยมั้ย เดี๋ยวจะดึกเสียก่อน”

“ผมยังไงก็ได้ครับ แล้วแต่พี่ธีสะดวกเลย”

“หึ พาหนุ่มๆ หล่อๆ มาหาแม่แค่แป๊บเดียวแล้วก็จะรีบพากลับคอนโดตัวเองซะละ เสียอารมณ์จริงๆ ลูกคนนี้ไม่ได้ดั่งใจเลยยยย” แม่ของธีแสร้งทำเบ้ปากและกลอกตา

“อะไรล่ะคุณแม่!”

“นี่ แกหาแฟนหน้าตาแบบหนึ่งดีกว่าอีกนะ ฉันจะบอกให้ น่ารักกว่าคนอย่างไอ้ก้องตั้งเยอะ”

“คุณแม่ครับบบ!!”

“ทำไมยะ ฉันรู้หรอกว่าสเป๊กของแกเป็นแบบไหนน่ะ ก็ถึงว่าตอนเห็นหนึ่งเข้ามาฉันก็หลงคิดไปว่าแกเปลี่ยนรสนิยม”

“คุณแม่ พอแล้วววว!!” ธีหน้าแดง “เดี๋ยวเลไปอุ้มลูกออกมาแล้วนะ จะกลับแล้ว ไม่น่าพาหนึ่งมาเจอแม่เลยจริงๆ!!”

ผมได้แต่หัวเราะแก้เขิน “ไม่เป็นไรหรอกครับ ดีออก”

“ดีตรงไหน หนึ่ง มีแม่แบบนี้ปวดหัวจะตาย ยิ่งพอได้เข้าคู่กับยัยอายนะ หนักกว่านี้อีกจะบอกให้”

“ผมว่าผมพอจะนึกออกมั้งครับ ฮ่าๆ” ผมหัวเราะพลางพยักหน้าเบาๆ

จากนั้นสองคนแม่ลูกก็ขอตัวเดินหายเข้าไปในบ้าน อีกไม่กี่นาทีถัดมาธีก็เดินออกมาพร้อมกับอุ้มเหนือที่ยังคังหลับสนิทอยู่ออกมาด้วย เขาพาลูกไปนอนในรถบนที่นั่งของเด็กอย่างคล่องแคล่ว ผมต้องยอมรับเลยว่าแม้แต่ผมเองในตอนนี้บางทีก็ยังมีปัญหากับการจับน้ำนั่งและรัดเข็มขัดให้ถูกต้องอยู่เลย

เราบอกลาแม่ของเขาด้วยการสวมกอด จากนั้นก็ขับรถมุ่งหน้าตรงไปยังคอนโด ผมไปถึงก่อนเขาและยืนรอเขาอยู่หน้าตึกแค่เพียงไม่กี่นาทีเขาก็เดินมาพร้อมกับรถเข็นเด็ก เหนือที่นั่งอยู่ในรถส่งเสียงอ้อแอ้พยายามพูดกับเขาไปด้วยตลอดทาง

“ถึงแล้วคร้าบบ วันนี้อาหนึ่งก็มากินข้าวด้วยนะ จำอาหนึ่งได้รึเปล่า” เขาพูดพร้อมกับหยุดอยู่ตรงหน้าผม

ผมนั่งยองๆ เพื่อคุยกับน้อง “สวัสดีครับคนเก่ง สบายดีมั้ยเอ่ย”

เหนือมองหน้าผมงงๆ อยู่ครู่หนึ่งก่อนจะยิ้มและหัวเราะออกมา

ธีพาผมขึ้นไปยังห้องของเขาซึ่งมีขนาดใหญ่พอสมควร เพราะเขาซื้อห้องสองห้องติดกันและทุบกำแพงตรงส่วนห้องนั่งเล่นออก ทำให้มีเนื้อที่เพิ่มขึ้นอีกมาก รวมทั้งยังออกแบบตบแต่งภายในหมดเกือบทั้งหมดจนแทบไม่เหลือเค้าเดิมอีกเลย

“พ่อผมเค้าซื้อไว้ให้ตั้งแต่เริ่มก่อสร้างโครงการน่ะครับ ก็เลยทำแบบนี้ได้” เขาอธิบายราวกับจะอ่านใจผมออก “จริงๆ ตอนแรกก็ปัญหาเยอะเหมือนกัน แล้วก็หมดเงินไปพอสมควรด้วย ตอนนี้ผมก็ต้องผ่อนต่อเอง แต่อายจะช่วยเรื่องค่าน้ำค่าไฟอะไรพวกนั้น ซึ่งผมว่าก็โอเคนะครับ” เขาวางเหนือลงบนพื้นห้องพร้อมกับของเล่นจำนวนหนึ่ง “หนึ่งเชิญนั่งบนโซฟาได้เลยนะ ทำตัวตามสบายเลย”

“ขอบคุณครับ” ผมเดินไปนั่งลงบนโซฟารับแขก “แต่ผมว่ายิ่งกว่าโอเคอีกนะครับ พี่ธี แบบนี้ก็เท่ากับมีสองห้องนอนใช่มั้ยครับเนี่ย”

“ใช่ครับ ก็ของผมห้องนึง อายห้องนึง ส่วนเหนือจะนอนเปลตรงมุมห้องตรงนั้นน่ะครับ พยายามจะฝึกให้เค้านอนแยกตั้งแต่เด็กๆ ซึ่งตรงนั้นเวลาเค้างอแงตอนกลางดึก เราทั้งคู่ก็ยังได้ยิน ส่วนพอโตกว่านี้ก็ค่อยว่ากัน... แต่เอาจริงๆ ผมก็ยังคิดไม่ตกนะว่าจะยังไงดี พอเค้าโตถึงวัยแล้วเราก็ต้องยกห้องให้เค้าห้องนึง แล้วอายก็อาจจะต้องมานอนกับผม หรือไม่งั้นก็คือมันกลับไปอยู่บ้านกับลูก เพราะจริงๆ ที่นี่ก็เป็นคอนโดผม นั่นคือเหตุผลนึงที่ผมไม่ยอมให้มันช่วยผมผ่อนค่าคอนโดด้วยแหละครับ เนื่องจากเรายังตกลงเรื่องอนาคตกันไม่ได้แน่นอน ถึงจะแต่งงานกันถูกต้องทางนิตินัย แต่ทางพฤตินัยมันก็ยังแปลกๆ น่ะนะ” เขาเกาหัวแกรกๆ “ชีวิตผมนี่มันโคตรน่าสับสนเลยเนอะ ว่ามั้ย”

“ผมขอถามอะไรอย่างนึงสิครับ พี่ธี การที่พี่แต่งงานกับพี่อายแบบจดทะเบียนเลยเนี่ย มันเป็นเพราะ...”

“เพื่อรักษาหน้าของอายแล้วก็ครอบครัวของมันนั่นแหละครับ” เขาตอบ “คือเพื่อนๆ ผมที่สนิทกันมันจะรู้ว่าผมเป็นเกย์ แต่เพื่อนๆ ของอายไม่รู้ครับ ส่วนทางฝั่งผม ก็จะมีแค่หยิบมือเดียวจริงๆ ที่รู้ว่าผมไม่ได้เป็นพ่อเด็กจริงๆ เพราะงั้นหลายๆ คนจะเข้าใจว่าเหนือคือลูกแท้ๆ ของผม ถึงแม้บางคนในนั้นจะรู้ว่าผมเป็นเกย์ก็ตาม”

“มันเป็นไปได้ด้วยเหรอครับ แบบนั้น” ผมขมวดคิ้วสงสัย

“ผมเข้าใจนะ” เขาหัวเราะในลำคอเบาๆ “แต่เราบอกคนที่รู้ว่าผมเป็นเกย์ว่าเราเมา นอนด้วยกัน แล้วก็... นั่นแหละ ส่วนคนที่ไม่รู้ก็ไม่ได้พูดอะไร ซึ่งที่จริงก่อนนี้ผมก็เคยมีอะไรกับผู้หญิงนะครับ ไม่ใช่ไม่เคยเลย ภาวะจำเป็นน่ะ เพื่อนเสือกพาไปลงอ่าง อะไรพวกนั้น”

“อ่อออ ครับ”

“เอาเข้าจริง พวกเราก็ไม่รู้หรอกว่าใครจะเชื่อหรือไม่เชื่อยังไง แต่ก็ช่างมันเถอะ”

“แล้วแบบนั้นก็แปลว่าทั้งสองคนจะไม่สามารถมีคนอื่นได้เลยน่ะสิครับ”

“ไม่หรอกครับ เราให้อิสระต่อกัน สำหรับอายน่ะ อาจจะยากหน่อย เพราะมันคงเข็ดและคงจะหาผู้ชายที่เข้าใจสถานการณ์ที่เราเป็นกันอยู่ตอนนี้หรือยอมรับความจริงที่ว่ามันมีลูกแล้วได้ยาก แต่ถ้าหากมีคนดีๆ ที่รักทั้งอายและเหนือมากจากใจเข้ามาจริง ผมก็ดีใจนะ แต่คราวนี้ผมคงต้องสกรีนหนักหน่อยล่ะ ส่วนตัวผมเอง อายมันยิ่งให้อิสระผมเข้าไปใหญ่เลย เพียงแต่ผมจะทำอะไรประเจิดประเจ้อมากคงไม่ได้ แต่ผมก็ไม่ได้คิดที่จะหาใครมาเป็นคู่ชีวิตเร็วๆ นี้อยู่ดีน่ะนะ”

“ประเจิดประเจ้อนี่มันคือยังไงเหรอครับ”

“ฮ่าๆๆ ไม่รู้สิครับ ก็คงพาคนนั้นคนนี้เข้ามานอนที่นี่หรือทำอะไรให้เพื่อนๆ ของอาย ญาติผู้ใหญ่ หรือแม้แต่เพื่อนๆ บางคนของผมเห็นจนดูไม่ดี อะไรเทือกๆ นั้นมั้ง”

“อ๋ออ แต่ผมว่าพี่ธีก็ไม่ใช่คนแบบนั้นอยู่แล้วมั้งครับ”

“ไอ้ผมน่ะ เป็นคนรักเดียวใจเดียวครับ แล้วก็คบกับพี่ก้องมันมานาน แต่ก่อนหน้านั้นมันก็มีบ้างที่คุยกับคนนั้นคนนี้ หรือให้ผมยอมรับตรงๆ แม้แต่ตอนที่คบกับพี่ก้อง ผมก็เคยมีกิ๊กๆ กั๊กๆ กับคนอื่นบ้างเหมือนกัน เพราะอะไรหลายๆ อย่างน่ะครับ เช่นตอนที่ผมแย่มากๆ เพราะห่างๆ ไปกับพี่ก้องเนื่องจากมันมีคนอื่น ผมก็มีคนเข้ามา แต่ไม่ได้ลึกซึ้งหรืออะไรขนาดนั้นนะครับ มีแต่มันนั่นแหละที่มีคนอื่นซุกซ่อนไว้เป็นเรื่องเป็นราว” เขาพูดพลางส่ายหัวเบาๆ “คงเพราะมันเที่ยวเก่งด้วยล่ะมั้ง ผมเองก็เบื่อจะคิดแล้วว่าทำไม”

ผมว่าผมชอบการที่เขาพูดกับผมตรงๆ แบบนี้นะ ถึงการที่เขายอมรับว่าตัวเองก็เคยมีคุยกับคนอื่นในตอนที่มีแฟนอยู่แล้วจะทำให้ผมรู้สึกตกใจพอสมควร แต่มันก็ดีกว่าเขาโกหกโลกสวยว่าไม่เคยทำอะไรแบบนั้นเลย และอีกอย่าง เมื่อคิดถึงสิ่งที่เขาเคยเจอมาแล้ว ผมก็ยังคิดว่าฝ่ายที่ผิดไม่ใช่เขาอยู่ดี แต่ผมก็ไม่คิดที่จะสืบถามความเป็นมาเป็นไปอะไรจากเขาในตอนนี้อยู่ดี

หลังจากนั่งคุยกันสักพัก เขาก็ลุกขึ้นยืนและเดินเข้าไปในครัวเพื่อเตรียมอาหาร ส่วนผมก็ย้ายไปนั่งเล่นกับเหนือแทน เราพูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องความชอบ ความสนใจ งานอดิเรกกันไปด้วยเรื่อยๆ จนกระทั่งเขาทำอาหารเสร็จ เราก็ย้ายไปนั่งกันที่โต๊ะอาหาร เขาทำสเต๊กปลาแซลมอนกับสลัดมันฝรั่งให้ผม ซึ่งเขาบอกว่ามันเป็นอาหารง่ายๆ และทำได้เร็ว แต่สำหรับผมแล้วมันดูดีและอร่อยมากเกินกว่าจะเป็นแค่มื้อเย็นง่ายๆ อย่างที่เขาบอก

“พี่ธี ผมขอถามอะไรหน่อยได้มั้ยครับ มันอาจจะเรื่องส่วนตัวหน่อยนะ แต่ผมสงสัยน่ะ” ผมถามขึ้นในขณะที่เรากำลังนั่งจัดการอาหารตรงหน้ากันอยู่

“ว่ามาเลย”

“พี่รู้ตัวตอนไหนเหรอครับว่าพี่ชอบผู้ชายน่ะ”

“อืมม...ก็ตั้งแต่เด็กแล้วล่ะครับ ประถม มัธยมต้น ไรงี้มั้ง แต่มาแน่ใจและมีอะไรกับผู้ชายครั้งแรกก็ตอนมัธยมปลายนั่นแหละ ผมมีอะไรกับผู้ชายครั้งแรกก็ตอนอายุ 16 น่ะนะ”

“16  เลยเหรอครับ” ผมตกใจ

“เด็กไปเหรอ หรือแก่ไป” เขาหัวเราะ

“เอ่ออ...” ผมไม่แน่ใจว่าจะตอบคำถามนั้นอย่างไรดี

“เด็กสมัยนี้แม่งเร็วยิ่งกว่ารุ่นพวกเราอีกนะ จะบอกให้ ขนเพิ่งขึ้นมันก็เอากันแล้ว”

“เอ่อ คือ แล้วพี่เคยมีอะไรกับผู้หญิงบ่อยมั้ยครับ” ผมตัดสินใจเปลี่ยนคำถาม

เขาส่ายหน้า “ไม่ครับ ไม่บ่อย และไม่อยากมีบ่อยๆ ด้วย”

“จริงๆ แล้วผมเคยมีอะไรกับฟ้าแค่คนเดียวเองครับ และนั่นก็ตอนผมอยู่มหาวิทยาลัยเข้าไปแล้ว”

“จริงเหรอ! คนหน้าตาอย่างหนึ่งเนี่ยนะ!”

“ผมขี้อายน่ะครับ ไม่กล้าคุยอะไรกับใคร แล้วแต่ก่อนผมก็เป็นพวกเด็กเรียน หมายถึงตอนมัธยมน่ะนะ ผอมๆ ใส่แว่น ไม่มีคนมาสนใจหรอก”

“เหอะ ผมไม่เชื่ออะ” เขาส่ายหน้า “ถึงจะผอม จะใส่แว่น จะเด็กเนิร์ดขนาดไหน ผมมั่นใจว่ายังไงตอนนั้นก็ต้องมีคนมาชอบหนึ่งบ้างแหละ”

“ก็มีบ้างครับ แต่ผมก็ไม่เคยคุยกับใครเลยอยู่ดีไง คือมันทำตัวไม่ถูก พูดไม่ถูกน่ะ ฟ้าเป็นคนเดียวเลยที่ผมคุยด้วยอย่างสบายใจที่สุด”

“จะว่าไป หนึ่งสังเกตรึเปล่าว่าเด็กเสิร์ฟที่ร้านกาแฟที่เราไปนั่งประจำน่ะ มองเราสองคนอยู่บ่อยๆ นะ แต่ผมว่าเค้ามองหนึ่งมากกว่า”

“จะว่าสังเกตมั้ย ก็เห็นอยู่เหมือนกันแหละครับ” ผมหัวเราะเบาๆ “แต่ผมไม่รู้หรอกนะว่าน้องมันมองใคร พี่ธีหมายถึงน้องผู้หญิงผมสั้น คนที่พูดเก่งๆ อัธยาศัยดีๆ นั่นใช่มั้ย ชื่ออะไรนะ... อ้อ ใช่ๆ น้องฝน”

“ฮ่าๆๆ ฝนก็ด้วย แต่ผมหมายถึงทั้งสามคนเลยต่างหาก โดยเฉพาะน้องผู้ชายที่ชื่อบอสน่ะ ผมค่อนข้างมั่นใจว่าเค้าชอบหนึ่งนะ”

“เฮ้ยย บอสด้วยเหรอ จริงอะ”

“ชัวร์ ผมว่าผมดูออก”

“แต่น้องมันก็ไม่ได้แสดงออกเลยนะ”

เขาเลิกคิ้วขึ้นราวกับไม่อยากเชื่อว่าผมเพิ่งพูดสิ่งที่ไร้สาระที่สุดออกไปได้อย่างไร

“เอ่ออ โทษทีครับ ลืมไป”

“ฮ่าๆ ไม่เป็นไรหรอก หรือถ้าพวกมันไม่ได้มองหนึ่ง เด็กๆ มันก็อาจจะคิดว่าเราสองคนเป็...” เขาชะงักไปก่อนจะพูดจบประโยค

“คิดว่าเรา...” ผมเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่ง

“เปล่า ไม่มีอะไรครับ ช่างมันเถอะ เอาเป็นว่าหนึ่งลำบากใจรึเปล่าล่ะ ที่มีคนแบบ สนใจๆ ตอนเรานั่งด้วยกัน ไรงี้น่ะ”

“ไม่เลยครับ” ผมยักไหล่

เรื่องของเรื่องคือถึงแม้ทุกวันเย็นวันศุกร์เราจะนัดกินข้าวเย็นด้วยกันทุกสัปดาห์ แต่เราก็เปลี่ยนร้านอาหารไปเรื่อยๆ มีแค่เพียงร้านกาแฟร้านที่เราพูดถึงกันอยู่นี้เท่านั้น ที่เราไปนั่งหลังกินข้าวเสร็จร้านเดิมทุกครั้งจนพนักงานทุกคนต่างก็จำหน้าเราได้และเริ่มพูดคุยกับเราอย่างเป็นกันเอง และผมก็สังเกตอยู่เหมือนกันว่าพวกเขาดูจะ ‘เป็นกันเอง’ กับเรามากเป็นพิเศษ แต่ผมกลับสังเกตเห็นแค่เด็กที่ชื่อฝนมากกว่าว่าเขาดูจะเหลือบมองมาที่ผมหรือไม่ก็ธีคนใดคนหนึ่งบ่อยๆ

“จะว่าไปหนึ่งไม่มีสเป๊กผู้หญิงที่ชอบบ้างเหรอ”

“ไม่เชิงอะครับ เพราะผมชอบคนที่นิสัยมากกว่า คนที่คุยด้วยแล้วสบายใจ และผมก็เคยรักฟ้าแค่คนเดียวทั้งชีวิต แต่ถ้าถามว่าผมชอบคนหน้าตาดีมั้ย มันก็มีบ้าง แต่ไม่ได้มีสเป๊กที่เจาะจงว่าต้องแบบนี้ๆ นะ อะไรงี้น่ะครับ เอาจริงๆ ผมว่าผมอาจจะเป็นพวกตายด้านเรื่องพวกนี้ไปแล้วด้วยซ้ำมั้งเนี่ย”

“อ้าว ไหงงั้นล่ะ นี่แปลว่าไม่ได้มีอะไรกับใครเลยสิเนี่ย”

“ไม่เลยครับ ตั้งแต่ฟ้ามาก็ไม่มีเลย” ผมพูดเขินๆ พลางยกแก้วน้ำขึ้นดื่ม

“มีคนมาจีบบ้างรึเปล่า”

“ไม่มีหรอกครับ” ผมส่ายหน้าพลางชูมือซ้ายขึ้น “แหวนที่นิ้วนางผมมันก็ไล่ทุกคนไปหมดโดยอัตโนมัติแล้ว จริงมั้ย”

“เออ เนอะ แล้วแบบนี้ไม่เหงาแย่เหรอ”

“ผมมีงาน มีลูก แค่นี้ก็ไม่เหงาแล้วครับ”

“แล้วเรื่องอย่างว่าล่ะ”

“ฮ่าๆๆ ก็อย่างที่บอกอะครับว่าผมไม่ค่อยได้สนใจหรือคิดเรื่องพวกนั้นเลย จริงๆ นะ”

“หืมมม พูดแบบนี้นี่จริงๆ ช่วยตัวเองบ่อยรึเปล่า”

คำถามของเขาทำเอาผมสำลักน้ำที่กำลังดื่มอยู่ออกมา “ค่ออกก...!!”

“เอ้า เฮ้ย ขอโทษๆ ผมไม่ได้ตั้งใจจะถามเรื่องส่วนตัวขนาดนั้น ลืมตัวไปหน่อย”

ผมหยิบทิชชู่ขึ้นเช็ดน้ำที่ไหลออกมาตรงมุมปาก “ไม่เป็นไรครับ คือก็มีบ้างครับ แต่ไม่บ่อยหรอก อาทิตย์ละครั้งมั้ง หรืออาจจะนานกว่านั้น ผมไม่ค่อยได้สนใจน่ะ”

“แล้วปกติตอนช่วยตัวเองมีตัวช่วยรึเปล่า คิดถึงอะไร”

“ฮ่าๆๆๆ ถามจริงเหรอเนี่ย หรือพูดเล่น”

“เอ้า ถามจริงดิ ผมอยากรู้” เขาหัวเราะ

“ไม่ได้คิดถึงอะไรเป็นพิเศษหรอก ก็ทำๆ ไปงั้นแหละครับ ระบายออกตอนที่มันรู้สึกอยากทำน่ะ”

“แล้วตอนไปเมืองนอกล่ะ”

“ตอนนั้นก็ไม่มีอะไรกับใครเลยครับ ก็ได้มือขวาของตัวเองนี่แหละช่วย แค่นั้นเอง” ผมตอบไปตามตรง “แล้ว... แล้วพี่ล่ะ”

“หืออ ผมทำไมเหรอ ถ้าช่วงนี้ก็ไม่ได้มีอะไรกับใครเลยเหมือนกันครับ ช่วยตัวเองอย่างเดียว แต่คงบ่อยกว่าหนึ่งแหละ” เขาหัวเราะ

“ไม่ๆ ผมหมายถึงสเป๊กพี่น่ะครับ เห็นเมื่อเย็นแม่พี่บอกว่าผมไม่ใช่สเป๊กพี่ แล้วปกติพี่ชอบแบบไหนเหรอ”

“เอาจริงๆ นะ... ผมชอบคนแบบพี่ก้องน่ะ ชอบคนตัวสูงใหญ่ เข้มๆ แล้วก็อายุมากกว่า ไรงี้น่ะครับ”

“งี้ผมก็ไม่ใช่เลยสิ”

“ไม่ใช่เลย” เขาหัวเราะ “แต่หนึ่งหล่อนะ บอกตรงๆ ไม่ได้แกล้งชม ถ้าหนึ่งไม่ได้แต่งงานมีลูกแล้ว ผมว่าผมเองยังอาจจะ...” เขาชะงัก

ผมรู้สึกว่าใบหน้าของตัวเองร้อนผ่าวขึ้นจนรู้สึกได้ “อาจจะอะไรครับ”

เขาดูอึ้งๆ ไปเล็กน้อย แถมใบหน้าก็แดงก่ำขึ้นอย่างเห็นได้ชัด “อ... เอ่อ... ก็...”

จู่ๆ เหนือที่อยู่ในเปลก็ร้องไห้จ้าขัดขึ้น เราสองคนสะดุ้งเบาๆ พร้อมกัน จากนั้นเขาก็ขอตัวลุกออกจากโต๊ะอาหารไปดูลูกก่อน เมื่อเขาเดินออกไปแล้วผมก็ลอบถอนหายใจเบาๆ รู้สึกโล่งอกบอกไม่ถูกที่เหนือขัดจังหวะขึ้นได้เวลาพอดี แต่ลึกๆ ในใจก็แอบรู้สึกเสียดายอยู่เหมือนกันที่ไม่ได้ยินเขาพูดจนจบ และหลังจากที่เขากลับมานั่งที่โต๊ะอาหารเหมือนเดิม เราก็ไม่ได้คุยเรื่องที่พูดค้างไว้ก่อนหน้านี้อีกเลย


ออฟไลน์ netkung

  • เป็ดกูรู
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 40
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1
ชอบแม่พี่เล ดูเป็นคนเปิดกว้างเรื่องเกย์ดีครับ ผิดกับพ่อแม่ผม ที่ไม่ยอมรับ ผมเลยไม่กล้าจะเปิด คิดแล้วเศร้าจริงๆ

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
ธีก็หวั่นไหวนะเนี่ย

แอบจิ้นน้ำเหนือไปก่อนล่วงหน้าแล้ว  :mew4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ohm

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 424
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-2
หนึ่งกับเลเริ่มจะจูนกันติดแล้วสิ

แต่ยังเชียร์หมอกเหมือนเดิม

ออฟไลน์ vivalasvegus

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
การที่หนึ่งมีลูกแล้ว ทำให้ธีไม่คิดจะจีบ
แต่เราก็ยังเชียร์ธีอยู่ดี

น่าจะเป็น second chance ของทั้งคู่

โจ๊กกุ้ง

  • บุคคลทั่วไป
แหม วันหนึ่งเสนอตัวไปดูหนังกับคุณทะเลเลยนะ แบบนี้ก็ฟันธงได้แล้วสิว่า หนึ่งเป็นพระเอก เอ๊ะ หรือ คุณทะเลจะเป็นเพื่อนสาวกันแน่

ออฟไลน์ xeruoh

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 491
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
นิยายเรื่องนี้
อ่านเท่าไหร่ก็ไม่เคยพอเลย
อยากอ่านต่อไปเรื่อยๆ
พี่ธีจะพูดอะไรน่ะ 5555 5
น่ารักจัง ช่างหัวพี่ก้องมันเถอะค่ะ
สนใจพี่หนึ่งดีกว่าาา  :hao3: :hao3:

รอติดตามตอนต่อไปนะคะ
 :hao6: :hao6:

ออฟไลน์ nunnuns

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1972
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-3
หมอกเอ้ยย โดนแซงคะแนน

ชอบเล น่ารัก แต่อยากรู้ว่าหนึ่งเป็นพระ หรือนายเอกกันแน่ ไม่บอกรูปลักษณ์หรืออะไรเลย แต่ก็น่าติดตามนะคะ ^^

ออฟไลน์ Magis

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-1
 อ๊ากๆๆๆ น้องเหนือไม่น่าร้องขัดขึ้นมาเลยอะ เสียดาย-*-

ออฟไลน์ iammz

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2681
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +292/-6
เริ่มเปิดอกคุยกันเยอะขึ้น  :hao3:

ออฟไลน์ cinquain

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1125
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +247/-0
เคมีดูเข้ากันนะคู่นี้ ^ ^ แต่ยังไม่เชียร์นะคะ!

เกเร

  • บุคคลทั่วไป
เห้ยๆพวกนายเป็นสายรับทั้งคู่จะกินกันเองได้งายยยย
เอ๊ะเเต่ก็ไม่แน่เพราะเริ่มหวั่นไหวกันเองป่าวหว่า :hao7: ความใกล้ชิดเป็นบ่อเกิดของความรักนะตะเอง :hao3:
แลเวน้องหมอกสายรุกละลูก :ling1:
เชียร์ไม่ถูกเลยกูยังกับ ทาทายัง อยากเก็บเธอไว้ทั้งสองคนอร๊ากกกก

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
จริง ๆ นะ สองคนนี้เข้ากันได้ดีเหลือเกิน คุยกันได้ทุกเรื่อง เป็นธรรมชาติมาก
ดูเหมือนธีทำหน้าที่เปิดโลกอีกใบให้หนึ่งได้รู้จัก
แต่ไม่รู้หนึ่งอยากลองด้วยไหม...ลุ้นต่อไป
ปล.หมอกตกกระป๋องไปหรือยัง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ whynotme

  • ♥ 09-07-2012 ♥
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 643
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
อาจจะ ..................... เลยเหรอ
อย่าเปลี่ยนสเป็คเลยนะทะเล .. ชอบแบบเดิมนั่นแหละดีแล้ว!!!!!
เรายังอยากให้ คุณวันหนึ่งเค้า สดใสร่าเริงกะน้องหมอกอ่า~~~  จริง ๆ น๊า  :mew4: 

 :n1:  เค้าคุยกันเปิดเผยดีเนอะ ............ อ่านแล้วเขินเลยเรา  :-[ 

Ramika

  • บุคคลทั่วไป

TimelessOne

  • บุคคลทั่วไป
ตรงๆกันเกินไปมะ  :mew5:

ออฟไลน์ Monkey D lufy

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +245/-4
หมอกรีบมาทำคะแนนเร็วๆเข้า

ออฟไลน์ พลอยสวย

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1622
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-5
 :serius2: :serius2:  น้องหมอกของป้าอยู่ไหน 

winnie_the_far

  • บุคคลทั่วไป
คุณวันหนึ่ง แหมมมมม รู้นะคิดอะไรอยู่นะ

ออฟไลน์ miracle22936

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 220
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-2
รอตอนใหม่อยู่นะครับ  :katai2-1:

ออฟไลน์ snoopy

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 725
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-1
รออ่านตอนต่อไป ดันไว้ก่อน เผื่อคนแต่งใจดีมาต่อให้

ออฟไลน์ ohm

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 424
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-2
เมื่อไหร่น้องหมอกจะรุกจีบบ้าง
โดนธีทำคะแนนลิ่วแล้วอะ 55

ออฟไลน์ whynotme

  • ♥ 09-07-2012 ♥
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 643
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
หมอกครับ ... ไม่ทำคะแนนเลยน๊า!!!
ทะเลเค้าคุยกับวันหนึ่ง อย่างลึกซึ้งแล้วอ่า~~~
เดี๋ยวก็ตามไม่ทันหรอก......  :เฮ้อ: 
 






 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด