the Second Chance :: ความหมายของหัวใจ (ตอนที่ 18 - 27 July)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: the Second Chance :: ความหมายของหัวใจ (ตอนที่ 18 - 27 July)  (อ่าน 68736 ครั้ง)

ออฟไลน์ savada

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 252
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
น่ารักอะ  น้องน้ำจะน่ารักเท่าเจแปนหลานเราป่าววว   ฮ่าๆๆๆ

โอะ  มีคนสามครั้งติด  เสน่ห์แรงไปแล้วนะะะ

ฮ่าๆๆๆ

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
เลือกไม่ถูกเลย หมอกก็ดี ธีก็ใช่  จะมีคนอื่นออกมาอีกหรือเปล่า

ออฟไลน์ Ju

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-2
น่ารักเหมือนพ่อนั่นแหละ โอ้พระเจ้า

ออฟไลน์ ppanudet

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 350
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
ขอบคุณครับ มาต่อเร็วนะครับ

ออฟไลน์ netkung

  • เป็ดกูรู
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 40
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1
อ่านแล้วก็เขินอ่ะ

ออฟไลน์ พลอยสวย

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1622
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-5
 :ling1:   หาพ่อใหม่ให้ลูก  อิอิ

ออฟไลน์ prin

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 21
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
มารอตอนต่อไปครับ  :o8:

ออฟไลน์ Scream

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
อยากให้คู่กับธี พ่อทั้งคู่ น่ารักดี 5555
แต่มันจะเป็นไปได้หรอเนี่ย เดาเรื่องยากมาก
รอตอนต่อไปค่ะ

ออฟไลน์ vivalasvegus

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
เข้ามารอค่ะ

ออฟไลน์ ordkrub

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-12
ภาวะสับสน!!!!

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7
อ๊ากก
รู้สึกว่าพ่อหนึ่งจะเสน่ห์แรงนะ อิอิ
ถึงจะยังไม่มีใครบอกมาตรงๆก็เถอะ

ออฟไลน์ cinquain

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1125
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +247/-0
และแล้วคุณวันหนึ่งก็ได้เบอร์ของคุณธีไป 55
เนียนทั้งคู่นะคะ ... แต่เหมือนคุณวันหนึ่งจะเป็น
เป้าหมายของคนอีกสองคนหรือเปล่านี่?

ออฟไลน์ prin

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 21
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เหมาหมดเลยได้มิ  :impress2:

ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page
ตอนที่ 6

วันแรกของการอบรมที่โรงพยาบาลทำผมประหม่ามากกว่าที่คิดเอาไว้เสียอีก ผมรู้สึกขอบคุณก้อยขึ้นมาทันทีที่อุตส่าห์มาเป็นเพื่อนผม นอกจากเราแล้วยังมีพ่อและแม่พร้อมลูกๆ ของพวกเขาอีก 11 คู่ บางคนก็เริ่มทำความรู้จักและคุย (ข่ม) กันถึงความน่ารักของลูกตัวเอง บอกตรงๆ ว่าผมไม่ค่อยชอบบรรยากาศแบบนี้เลย โดยเฉพาะการที่พวกเขาเอาแต่พูดว่าลูกของตัวเองน่ารักขนาดไหน หน้าคล้ายใครในวงศ์ตระกูล ทำอะไรที่ฉายแววความฉลาดเกินพัฒนาการมาแล้วบ้าง ซึ่งคนฟังก็จะแสร้งทำสีหน้าตื่นเต้น ตกใจ เห็นด้วย จากนั้นจึงค่อยเกทับด้วยความสามารถของลูกตัวเอง และคนแรกก็จะแสร้งทำเป็นชื่นชมแบบเดียวกัน แล้วจึงเกทับกลับอีกรอบ เป็นวงจรอยู่แบบนี้ มันทำให้ผมรู้สึกคลื่นไส้ชอบกลที่พ่อแม่บางคนจะสามารถเห่อลูกได้ขนาดนั้น

ผมเองก็รักและเห่อลูกชายของตัวเองเหมือนกัน ผมรู้ แต่ผมไม่เคยคิดที่จะทำแบบนั้นเลยแม้แต่นิดเดียว ก็น้ำเพิ่งอายุห้าเดือนกว่าเอง เขาจะทำอะไรนอกจาก กิน อึ ฉี่ เล่น ร้องไห้ แล้วก็นอน

แต่ก็ยังดีไม่ใช่ทุกคนที่เป็นแบบนั้น พ่อแม่บางคนก็น่ารักและเป็นกันเองมาก ดูไม่เสแสร้งหรือเห่อลูกจนน่าหมั่นไส้ ผมได้รู้จักกับครอบครัวที่น่ารักอีกสองครอบครัว เราผูกมิตร พูดคุย และทำกิจกรรมด้วยกันไปจนตลอดทั้งวัน โดยที่ก่อนกลับก้อยก็ไม่ลืมที่จะขอเบอร์ติดต่อพวกเขาเอาไว้ให้ผมด้วย

หลังจากผมกลับถึงบ้านในตอนเย็น แม่ก็ถามอย่างตื่นเต้นทันทีว่าเป็นอย่างไรบ้าง

“ก็ไม่มีอะไรมากครับ เค้าแบ่งออกเป็นสองช่วง ตอนเช้าสองชั่วโมง บ่ายอีกสองชั่วโมง วันนี้ยังแค่แนะนำคอร์ส พัฒนาการของเด็กทั่วไป แล้วก็ให้พวกเราทำความรู้จักกันน่ะครับ” ผมตอบ

“แล้วแกได้รู้จักใครบ้างรึยัง”

“ก็มีบ้างครับ ที่คุยๆ กันถูกคอหน่อยก็แค่สองครอบครัว คนอื่นๆ ยังไม่ได้คุยกันเท่าไหร่ แต่มีอยู่ 2-3 บ้านที่ดูขี้โม้ลูกตัวเองมากจนหนึ่งรำคาญน่ะ”

“อย่าเพิ่งรีบตัดสินคนจากภายนอกหรือแค่วันๆ เดียวล่ะ” พ่อผมเตือน

“ครับพ่อ”

“แล้วก้อยล่ะ เป็นยังไงบ้าง” แม่ถาม

“ก็ดีครับ จริงๆ หนึ่งก็ได้ก้อยนี่แหละที่คอยช่วยคุยกับคนอื่นๆ เยอะเลย”

“ฉันกะแล้วเชียว” แม่หัวเราะเบาๆ “แสดงว่าแกคงได้แต่ยืนบื้อแทบไม่ได้ทำไม่ได้พูดอะไรเลยล่ะสิท่า ฉันรู้หรอกน่ะ”

แม่พูดถูกเผง

“หนึ่งก็ยืนอุ้มน้ำไง”

“เอาเถอะๆ แค่หนึ่งออกไปนอกบ้านบ้าง ได้เจอผู้คนบ้าง แม่ก็ดีใจแล้ว”

“ครับ...” ผมก้มหน้าเล็กน้อย รู้สึกผิดที่ตัวเองไม่ได้รู้สึกชอบสิ่งที่ตัดสินใจทำลงไปแล้วเลย

วันถัดมาผมได้รับโทรศัพท์จากคนๆ หนึ่งที่ผมนึกไม่ถึง ซึ่งเขาคนนั้นก็คือธีนั่นเอง เขาโทรมาหาผมตอนสายๆ เพื่อชวนออกไปกินข้าวด้วยกันพร้อมกับแฟนของเขา ตอนแรกผมก็ลังเลนิดหน่อยเพราะผมยังไม่เคยมีโอกาสทำความรู้จักกับแฟนของเขาเลยสักที แต่เมื่อคิดถึงคำพูดของแม่เมื่อวานที่อยากให้ผมได้ออกไปพบปะและทำความรู้จักผู้คนใหม่ๆ เพิ่มขึ้นบ้างแล้ว ผมก็ตอบตกลง และอีกอย่าง ผมว่าผมรู้สึกถูกชะตากับธีอยู่พอสมควร การได้ไปเจอกับพวกเขาและพูดคุยเรื่องลูกๆ ของเราก็น่าจะเป็นความคิดที่ดี

เรานัดเจอกันที่เซ็นทรัลลาดพร้าวที่เดิมที่ผมเจอเขาเมื่อครั้งก่อน เพราะเขาเอาลูกไปฝากไว้ที่บ้านพ่อกับแม่ก่อนจะมาหาผม ผมจึงฝากน้ำไว้กับแม่ที่บ้านด้วยเช่นเดียวกัน

เมื่อไปถึงผมก็โทรหาเขา เขาบอกให้ผมเดินเข้าไปในร้านอาหารญี่ปุ่นตามที่นัดกันไว้ได้เลย เพราะว่าเขามาถึงก่อนผมได้สักพักแล้ว และเมื่อผมเข้าไปในร้านและกวาดสายตามองหาเขาอยู่สักพัก ผมก็เห็นธียืนขึ้นและโบกมือให้ผม

“สวัสดีครับ” ผมพงกหัวน้อยๆ ให้ทั้งคู่ก่อนจะนั่งลง

“คุณหนึ่ง นี่อายครับ อาย นี่คุณหนึ่ง” ธีแนะนำ

“สวัสดีครับ” ผมหันทักทายไปยิ้มให้ฝ่ายหญิงอีกครั้ง

ผมว่าแฟนของธีดูหน้าเด็กยิ่งกว่าผมเสียอีก อายเป็นคนผิวขาว ตัวเล็ก ผมเดาว่าน่าจะมีเชื้อสายจีนอยู่บ้าง แต่ทว่ากลับมีดวงตากลมโตน่ารัก

“สวัสดีค่ะ วันนี้ไม่พาน้องมาด้วยเหรอคะ อายเลยไม่ได้เจอสักที” อายยิ้มให้ผมอย่างเป็นกันเอง

“อ๋อ ผมฝากแม่ไว้ให้ช่วยดูแลแทนน่ะครับ กลัวจะมารบกวนทั้งสองคนเปล่าๆ”

“โอ๊ยย ไม่หรอกครับ ไม่ต้องคิดมาก” ธีโบกมือเบาๆ “เอาไว้คราวหน้าอย่าลืมพามาด้วยนะครับ ผมว่าน้องน่ารักมากจริงๆ นะ เจอทีไรก็ไม่เคยเห็นงอแงเลยสักครั้ง หัวเราะเอิ๊กอ๊ากตลอด”

ผมหัวเราะเบาๆ “ก็มีบ้างครับ ตามประสาเด็ก แต่ไม่บ่อยเท่านั้นเอง”

“เหนือนี่ถ้าร้องไห้ทีแล้วหยุดยากเลยล่ะครับ โดยเฉพาะกับคนแปลกหน้านี่แทบไม่ยอมให้เข้าใกล้เชียว”

“ฮ่าๆ ของผมตรงกันข้ามเลยครับ ชอบเล่นกับทุกคนไปซะหมด”

“แล้วลูกของคุณหนึ่งนี่ตอนกลางคืนกวนเยอะมั้ยคะ” อายถามขึ้นบ้าง

“ก็มีบ้างครับ แต่ส่วนมากพอหลับแล้วจะหลับเลย”

“ดีแล้วล่ะครับ แต่อีกสักพักก็จะงอแงน้อยลงอีก อย่างเหนือเองก็เริ่มไม่งอแงตอนกลางดึกแล้ว นอกจากจะฝันร้าย”

พนักงานเสิร์ฟเดินเข้ามาที่โต๊ะของพวกเราและยื่นเมนูให้เราคนละเล่ม “ขออนุญาตนะคะ”

“ขอบคุณครับ” ผมเงยหน้าขึ้นไปขอบคุณเขา

“ตามสบายเลยนะครับ สั่งได้เลย” ธีบอกผม จากนั้นก็ก้มลงมองดูเมนูในมือของตัวเอง

“ขอโทษนะคะ คุณหนึ่งอายุเท่าไหร่เหรอคะเนี่ย”

“ผมอายุ 25 ครับ ย่าง 26 แล้วครับ แล้วคุณธีกับคุณอายล่ะ อายุเท่ากันรึเปล่าครับเนี่ย”

“เราสองคนอายุ 28 เท่ากันค่ะ ใกล้จะขึ้นเลขสามไปทุกทีๆ แล้วเนี่ย”

“เฮ้ย! จริงเหรอครับ! โห ผมสารภาพเลยนะว่าตอนแรกผมคิดว่าเราน่าจะอายุใกล้กันกว่านี้ซะอีก โดยเฉพาะคุณอายเนี่ย ดูเด็กกว่าผมอีกนะ”

“อย่าเรียกอายว่า ‘คุณ’ เลยค่ะ ฟังดูแล้วจั๊กจี๋หูชอบกล เรียกอายเฉยๆ ก็ได้”

“หรือจะเรียก ‘นางอาย’ ก็ได้ครับ”

“ตลกละแก!” อายหันไปตีลงบนต้นแขนของธีดังเพี๊ยะ

“โอ๊ย! ไรเล่า!” เขาลูบแขนตัวเองเบาๆ “นังอาย... รึจะให้เรียกว่าอีอาย”

โดนเข้าไปอีกเพี๊ยะ

ธีทำหน้าย่นก่อนจะหันมาหาผม “ยัยนี่เป็นพวกชอบความรุนแรงครับ อย่าให้หน้าใสๆ นี่หลอกได้ล่ะ”

“อีกสักทีดีมั้ย นังทะเล!” อายเงื้อมือขึ้นอีกครั้ง

“พอแล้วๆ ยัยโหด!”

ผมหัวเราะ “งั้นสรุปผมเรียกพี่อายกับพี่ธีก็แล้วกันครับ จะได้ไม่ต้องทะเลาะกัน”

พอได้พูดคุยกับพวกเขามากขึ้น ผมก็ได้รู้ว่าอายเรียกแฟนของตัวเองว่า ‘ทะเล’ ตามชื่อเล่นจริงๆ ของเขาเลย แต่บางครั้งก็จะเรียกว่า ‘เท’ หรือ ‘เล’ บ้าง ส่วนธีเองก็จิกหยอกแฟนของตัวเองไม่หยุดเหมือนกัน ซึ่งผมว่าก็น่ารักดี ผมอดคิดไม่ได้ว่าเขาดูเหมือนเพื่อนที่สนิทกันมากๆ ยิ่งกว่าคนรักเสียอีก ถึงแม้ผมกับฟ้าเองก็จะเป็นเพื่อนสนิทกันมาก่อน แต่เราก็แทบไม่เคยเล่นหรือพูดจาเหน็บแนมฝ่ายตรงข้ามแบบนี้เลย

เมื่ออาหารมาถึง พวกเราก็เริ่มลงมือจัดการอาหารของตัวเองพร้อมกับแลกเปลี่ยนเรื่องราวส่วนตัวของกันและกันแบบพอประมาณ ผมเกือบทำบรรยากาศเสียไปนิดหน่อยเมื่อตอนที่บอกว่าฟ้าจากไปแล้ว แต่โชคดีที่พวกเขาไม่ได้แสดงความสงสารอย่างไม่จำเป็นที่มากจนเกินควรออกมาเหมือนหลายๆ คน และไม่ได้ถามถึงรายละเอียดต่อด้วย พวกเขาแค่เอ่ยขอโทษแล้วจึงเปลี่ยนไปคุยเรื่องของน้ำแทน ผมชอบที่พวกเขาอยากรู้เรื่องของน้ำมากกว่าที่จะเล่าเรื่องลูกชายของตัวเองเสียอีก

“แกๆ” อายกระทุ้งข้อศอกใส่ธีเบาๆ “ฉันว่าแกทำสลัดมันฝรั่งอร่อยกว่าที่นี่อีกว่ะ โอ๊ยยย พูดแล้วฉันก็อยากกินสเต็กปลาแซลมอนราดซอสมัสตาร์ดของแกอีกจริงๆ”

“เฮ้ย นี่แกกำลังนั่งกินอาหารอยู่เต็มปาก แต่ยังจะอุตส่าห์คิดถึงเรื่องของกินอย่างอื่นได้อีกเหรอเนี่ย อายหนึ่งเค้าบ้างมั้ย”

“ทะเลมันเคยบอกหนึ่งรึเปล่าว่ามันเคยเป็นกุ๊กมาก่อนด้วยนะ ทำอาหารอร่อยอย่างนี้เลย” อายชูนิ้วโป้งขึ้น

“จริงเหรอครับ” ผมหันไปมองหน้าธี “น่าอิจฉานะครับเนี่ย ผมทำอาหารแทบไม่เป็นเลย ได้แค่งูๆ ปลาๆ ทำแต่ของง่ายๆ แค่นั้นเอง”

“ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ จริงๆ ผมชอบทำของหวานมากกว่านะ แต่อย่างอื่นก็พอทำได้บ้าง”

“ค่ะ ‘พอ ทำ ได้’” อายแสร้งพูดด้วยน้ำเสียงประชด

“แล้วพี่ธีเป็นเชฟประจำอยู่ที่โรงแรมหรือร้านอาหารไหนเหรอครับ” ผมถาม

“แรกสุดเลยเคยทำอยู่โรงแรมที่หัวหินครับ แล้วก็ย้ายไปทำอยู่ร้านอาหารญี่ปุ่นอยู่แถวสีลมน่ะ แต่ตอนนี้ไม่ได้ทำแล้ว”

“อ๋อ เพราะต้องออกมาเลี้ยงลูกใช่มั้ยครับ”

“เปล่าหรอกครับ ตอนนั้นผมออกจากงานมาช่วยอายเลี้ยงเหนือได้แค่ 2-3 เดือนเอง แต่ว่าพอกลับไปทำอีกได้ไม่นานก็ต้องเลิก”
เขาชูมือข้างซ้ายขึ้น “เห็นแผลเป็นนี่มั้ยครับ ตรงระหว่างนิ้วโป้งกับนิ้วชี้เนี่ย คือพอดีตอนนั้นเกิดอุบัติเหตุขึ้นนิดหน่อยน่ะ”

“มีดเหรอครับ!” ผมตกใจ

เขาพยักหน้า “เย็บสี่เข็มครับ นิ้วเกือบหลุดแน่ะ”

“เฮ้ยยย!”

เขาหัวเราะกับปฏิกิริยาของผม “แต่ตอนนี้หายดีแล้วล่ะครับ อีกไม่นานก็กลับไปทำงานได้แล้ว

“โหยยย แค่คิดผมก็เสียวนิ้วแทนแล้วนะเนี่ย” ผมตัวสั่นเบาๆ “จะว่าไปเมื่อหลายเดือนก่อน พี่สาวผมมันก็เคยพูดให้ฟังเหมือนกันว่าพ่อครัวของสามีมันเกิดอุบัติเหตุคล้ายๆ กันนี้ขึ้น เรื่องแบบนี้นี่มันเกิดขึ้นกันได้บ่อยๆ เหรอครับ”

“ไม่หรอกครับ คือถ้าอุบัติเหตุเล็กๆ น้อยๆ มันก็มีประจำแหละ แต่ถ้าแผลใหญ่ๆ อย่างนี้หรือแย่กว่านี้อย่างนิ้วหลุดไปเลยมักไม่ค่อยเกิดขึ้นหรอก”

“แล้วอย่างกรณนี้นี่เรียกแผลเล็กหรือแผลใหญ่ครับเนี่ย”

“กลางๆ ค่อนไปทางใหญ่มั้ง” เขาหัวเราะ “แต่นี่ยังดีนะครับที่เป็นมือซ้าย ไม่ใช่มือขวา ไม่งั้นเซ็งตาย” เขายักคิ้วข้างขวาให้ผม

“ทะลึ่ง!” อายตีแขนเขาอีกครั้ง

“อะไรเล่า! เราหมายถึงเขียนหนังสือมันทะลึ่งตรงไหนเนี่ย!”

“จ้ะ เขียนหนังสือด้วยปากกาด้ามเล็กๆ ของแกไง”

ธีหัวเราะเบาๆ ดูท่าทางไม่ใส่ใจกับมุกใต้สะดือของอายเลยแม้แต่นิดเดียว ถึงแม้ว่าผมจะนั่งอยู่ด้วยตรงนี้แถมยังเป็นฝ่ายเขินแทนเขาไปแล้วอีกต่างหาก

พอหลังจากกินข้าวเสร็จ พวกเราก็นั่งคุยกันเรื่องลูกต่ออีกสักพัก ผมเล่าให้เขาทั้งสองคนฟังว่าครั้งที่แล้วที่ผมมาเจอธีที่นี่ผมมาทำอะไร รวมทั้งเรื่องที่ผมไปอบรมที่โรงพยาบาลด้วย พวกเขาดูจะเข้าใจผมเป็นอย่างดี และทั้งคู่ก็เห็นพ้องตรงกันว่า มันอาจจะไม่ใช่เรื่องจำเป็นสำหรับเด็กอะไรมากมายนักที่เราจะต้องเสียเงินจำนวนไม่น้อยไปกับสถาบันเหล่านั้น ซึ่งผมก็เห็นด้วย แต่ผมไม่ได้บอกพวกเขาว่าจริงๆ แล้วเหตุผลหลักที่ผมเลือกไปอบรมกับทางโรงพยาบาลนั้นไม่ใช่แค่มันดูเหมาะสมที่สุดสำหรับพ่อมือใหม่อย่างผม แต่เป็นเพราะเพื่อให้ตัวเองได้เข้าสังคมมากขึ้นต่างหาก

เวลาผ่านไปหนึ่งสัปดาห์ การอบรมครั้งที่สองก็ไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นกว่าเมื่อครั้งแรกสักเท่าไหร่ ทุกอย่างแลดูเนิบนาบ ช้า และเป็นสิ่งที่แม่ก็เคยสอนผมมาแทบหมดแล้วทั้งนั้น การผูกมิตรกับพ่อแม่คนอื่นๆ ก็ไม่ได้ดีขึ้นสักเท่าไหร่ด้วยเหมือนกัน จำนวนของบรรดาๆ พ่อๆ ก็ลดลงอย่างเห็นได้ชัด เหลือแต่แม่ที่มากับลูกแค่สองคนถึงเกือบครึ่ง ผมที่ครั้งนี้ไปกับน้ำตามลำพังเลยยิ่งรู้สึกแปลกที่แปลกทางมากเข้าไปใหญ่ และดูเหมือนทุกคนจะเข้าใจว่าก้อยเป็นแม่ของน้ำไปแล้วเรียบร้อยด้วย ผมจึงจำต้องบอกพวกเขาว่าแฟนของผมไม่ว่างมา แต่ก็ไม่รู้ว่าจะโกหกแบบนั้นได้อีกสักเท่าไหร่กว่าที่ผมจะทนไม่ไหวบอกพวกเขาไปว่าผมกับก้อยเป็นแค่เพื่อนกัน ส่วนแม่ของน้ำนั้นเสียชีวิตไปแล้ว ดังนั้นผมจึงตัดสินใจแล้วว่าการมาครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้าย

หลังจากอบรมเสร็จ ผมก็ขับรถกลับบ้านและอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อเตรียมตัวออกไปกินข้าวกับกลุ่มเพื่อนสมัยมัธยม ผมไม่ได้เจอเพื่อนๆ หลายคนมานานมากแล้ว ส่วนไอ้ยุทธก็กึ่งถามกึ่งยุให้ผมชวนก้อยไปด้วยให้ได้ ผมเลยตัดปัญหาเรื่องนี้ด้วยการบอกมันไปว่าถ้ามันยังยุเรื่องก้อยกับผมแบบที่แม่ทำอีก ผมจะไม่ไปงานนี้หรืองานไหนๆ อีกเลย มันถึงได้ยอมขอโทษและหยุดทำตัวเป็นเด็กๆ สักที

การได้เจอเพื่อนเก่าๆ อีกครั้งมันก็ไม่เลว โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่หนนี้เป็นการออกมากินเหล้านอกบ้านครั้งแรกของผมในรอบหลายเดือน แต่ไม่รู้ว่าทำไมลึกๆ แล้วในใจของผมมันถึงได้ไม่รู้สึกมีความสุขอย่างที่ควรจะเป็นเลย ผมรู้สึกเหมือนเป็นคนนอกกลุ่มไปเสียแล้ว ในระหว่างที่ผมไปเรียนต่างประเทศ ทุ่มเทให้กับชีวิตแต่งงาน และจมอยู่กับความทุกข์ พวกมันทุกคนได้นัดเจอและสังสรรค์กันอยู่เรื่อยๆ โดยที่ไม่มีผมอยู่ในนั้น แต่ในคืนนี้ผมนั่งอยู่ที่นี่กับพวกมันด้วย ทว่าผมกลับรู้สึกเหมือนอยู่ห่างไกลกว่าคนอื่นๆ แบบบอกไม่ถูก

เมื่อเวลาล่วงเลยไปจนถึงสี่ทุ่มกว่า ผมก็ขอตัวกลับก่อนโดยอ้างว่ารู้สึกเหมือนไม่ค่อยสบาย พวกมันทุกคนยื้อผมไว้นิดหน่อย แต่สุดท้ายก็ยอมปล่อยให้ผมกลับแต่โดยดี ผมทิ้งเงินไว้กับไอ้ยุทธ บอกลาพวกมัน แล้วจึงเดินออกจากร้านไปยังลานจอดรถ เมื่อผมอยู่ห่างไกลจากเสียงดนตรีมากพอ ผมก็หยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาแม่แล้วเช็คว่าน้ำเป็นอย่างไรบ้าง พอแม่บอกว่าน้ำหลับไปแล้ว ผมก็รู้สึกสบายใจขึ้น ผมอยากรีบกลับบ้านไปมองหน้าลูกและหอมแก้มลูกเร็วๆ ใจจะขาด

ผมเก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋ากางเกงและเดินไปยังรถของตัวเองที่จอดอยู่อีกฟากหนึ่งของลานจอดรถ แต่ในขณะที่กำลังล้วงกระเป๋ากางเกงเพื่อหากุญแจรถอยู่นั้น ผมก็ได้ยินเสียงของผู้ชายคนหนึ่งเรียกจากทางด้านหลังของตัวเอง

“พี่ครับ พี่! กุญแจพี่หล่นน่ะ!”

เมื่อปลายนิ้วของผมแตะถึงก้นกระเป๋ากางเกงแล้วผมถึงเพิ่งรู้สึกตัว “เออว่ะ จริงด้วย”

“นี่ครับ” เด็กหนุ่มคนที่เรียกผมเมื่อครู่วิ่งเหยาะๆ ตรงเข้ามาหาผมพร้อมกุญแจรถในมือ

“ขอบคุณม... เอ๊า!”

“อ้าว! พี่หนึ่ง!”

“หมอก! มาทำอะไรที่นี่!”

เขามองไปรอบๆ “อ๋อออ พอดีเพิ่งทำโปรเจกต์เสร็จน่ะครับ เพื่อนเลยชวนไปว่ายน้ำคลายเครียด แต่พอดีสระมันปิด ก็เลยย้ายมาตีแบดฯ กันที่คอร์ทใกล้ๆ เนี่ย แต่ห้องน้ำที่คอร์ทแบดฯ มันเสีย เลยแอบมาขอใช้ห้องน้ำที่ร้านนี้เฉยๆ”

ผมมองหน้าเขาแล้วเลิกคิ้วขึ้นงงๆ

“ฮ่าๆๆ จะบ้าเหรอพี่! ก็มากินเหล้าดิ! มากินกับเพื่อนๆ น่ะครับ แหมพี่ แถวนี้มันใกล้มหาลัยผมนะ อย่าลืม!”

“อ๋ออ เออว่ะใช่ จริงด้วย แล้วไอ้เจ้าเอล่ะ ต้ากับอาร์มล่ะ มาด้วยกันรึเปล่า”

“เปล่าหรอกพี่ ผมมากับเพื่อนๆ รุ่นเดียวกัน มาฉลองพรีเซนท์งานเสร็จ อันนี้อะเรื่องจริง” เขาหัวเราะ

“บังเอิญจริงๆ นะเนี่ย พี่ก็มากินข้าวกับเพื่อนพี่เหมือนกัน”

“ดวงเรามันจะได้เจอกันครับพี่ ไม่ใช่เรื่องบังเอิญหรอก” เขายิ้มและยักคิ้วให้ผม “ว่าแต่นี่พี่จะกลับแล้วเหรอ ทำไมรีบกลับจัง เพิ่งสี่ทุ่มกว่าเอง”

“ไม่รู้ดิ พอดีรู้สึกเซ็งๆ น่ะครับ คงเหนื่อยๆ มั้ง” ผมยักไหล่

“อ้าว เหรอ... อืมมม งั้นเราไปหาร้านเงียบๆ นั่งกินนั่งคุยกันหน่อยดีมั้ยพี่”

“หืออ เอางั้นเหรอ” ผมดูนาฬิกาข้อมือ “ไม่รู้ดิ พี่ว่า...”

“ไปเหอะพี่ นะๆๆ ผมรู้จักร้านข้าวต้มอร่อยอยู่ร้านนึง ปลาราดพริกแม่งเด็ดอย่างนี้เลย!” เขาชูนิ้วโป้งขึ้น “รับรองพี่ต้องชอบแน่ ถ้าพี่ว่าไม่อร่อย ผมยอมให้พี่เลี้ยงข้าวผมเลยเอ้า!”

“ฮะ! ว่าไงนะ” ผมหัวเราะ “โอเคๆ ไปก็ไป ยอมแพ้ให้จริงๆ เดี๋ยวพี่เลี้ยงเอง”

“เยสส!”

“แต่ไม่ดึกนะครับ พี่ห่วงน้อง”

“โอเคครับ! งั้นเดี๋ยวผมมานะครับพี่ แป๊บนึง ขอวิ่งกลับไปบอกเพื่อนก่อน” เมื่อพูดจบแล้วเขาก็รีบวิ่งกลับเข้าไปในร้านทันที


ออฟไลน์ เฉาก๊วย

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2233
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +251/-6
เพิ่งเข้ามาอ่าน ตามต่อจ้า  :L2:

ออฟไลน์ nunnuns

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1972
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-3
อัพแล้ว เย้ๆ

น้องหมอกคือพระเอก(?)หรือเปล่านี่ ต้องใช่สิ อิอิ

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
"นังทะเล"

มันส่อแววอะไรอยู่น๊า

winnie_the_far

  • บุคคลทั่วไป
เขาเรียกพรหมลิขิตหรือป่าวเนี้ย... คุณวันหนึ่ง กับน้องหมอก

แต่ข้าเจ้า เชียร์ คุณทะเลอะ  ว้าววววว เป็นเชฟด้วยยยย

ออฟไลน์ whynotme

  • ♥ 09-07-2012 ♥
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 643
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
สุดท้าย หมอกก็มา ...............  :mew4:   :katai2-1: :katai2-1:

คุยกะหมอก หนุกกว่าตั้งเยอะเนอะ คุณหนึ่ง เนอะ น้องเค้าสดใส มีชีวิตชีวา น่าร๊ากกกกกก  :o8:

ออฟไลน์ cinquain

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1125
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +247/-0
หมอกนี่มาเร็วเคลมเร็วสมเป็นวัยรุ่น!
มีแต่ฉากวิ่งเดินปรู๊ดปร๊าด ^^

แต่อ่านที่ธีกับอายคุยกันเหมือนเพื่อนสาวคุยกัน
มากกว่าอ่ะค่ะ!!

รอลุ้นคุณวันหนึ่งต่อไป ^^

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ vivalasvegus

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ยังเดาไม่ออกอยู่ดี ว่าใครคู่กับหนึ่ง

ออฟไลน์ Magis

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-1
แหม พรหมลิขิตหรือไงนี้ ได้เจอกับหมอกอีกละ

เกเร

  • บุคคลทั่วไป
ธีกับอายเหมือนเป็นเพื่อนกันเลยนะ ลูกอาจจะเป็นลูกอายแล้วธีรับเป็นพ่อหรือเป็นลูกธีแล้วอายรับเป็นแม่ก็ได้
ส่วนพระเอก ไม่แน่ใจเเฮะแต่คาดว่าน่าจะเป็นหมอก คงไม่ใช่ธีหรอกเนอะถ้าใช้ก็....เอาให้ถึงตอนนั้นก็ละกัน ฮ่าๆ :katai3:

TimelessOne

  • บุคคลทั่วไป
ทะเลกับอายน่ารักดีครับ

เชียร์หมอกดีกว่า  :katai5:

ออฟไลน์ พลอยสวย

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1622
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-5
 :ling2: ธีเป็นเกย์รึเปล่า  แต่พลาดเพราะเมาแล้วต้องรับผิดชอบอายรึเปล่า ##เดาไปเรื่อย

ออฟไลน์ Monkey D lufy

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +245/-4
ทะเลกับอายน่ารักดีนะ  เหมือนเป็นกันมากกว่าสามีภรรยานะ  555

หมอกเจอพี่หนึ่งบ่อยมาก  อิอิ

ตกลงใครคือพระเอกอ่ะ  คิกคิก

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
ก็ยังมองไม่ออกว่าใครจะใช่
มีแต่คนหยอด แต่ยังไม่มีใครคืบหน้า

ออฟไลน์ pooinfinity

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +140/-3
แลดูว่า น้องน้ำอาจจะมีพี่ชายชื่อเหนือ มั้งงงงงง

โจ๊กกุ้ง

  • บุคคลทั่วไป
จากรูปในเฟส หมอกน่าจะเป็นพระเอกนะ

ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7
ทำไมอีตาพี่ทะเลคุยกับอายไม่เหมือนแฟนเลย 55555
แบบเพื่อนสนิทมากๆ มากกว่า
มีเบื้องลึกเบื้องหลังอะไรหรือเปล่านะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด