หัวใจมังกร
“พระชายา อย่าร้องไห้เลยนะเจ้าคะ” ชิงเออร์บอกทั้งน้ำตา
“ข้าร้องไห้หรือชิงเออร์” จื่อเทาถามเสียงแผ่ว ทำไมถึงไม่รู้ตัวสักนิด ว่าร้องไห้
“โถ่ พระชายา” สองสาวได้แต่ครางแผ่ว สงสารพระชายาเหลือเกิน สวรรค์ ทำไมจึงได้มอบความสุขมาให้พระชายาของนางสั้นนัก
“พวกเจ้า ออกไปเถอะ ข้าอยากอยู่คนเดียว”
“พระชายา แต่ข้าน้อย”
“ออกไปเถอะ ข้าไม่เป็นอะไร” ร่างเพรียวบอกเสียงเบา
“ชิงเออร์ จะอยู่หน้าห้องนะเจ้าคะ มีอะไรก็เรียก ชิงเออร์นะเจ้าคะ” สาวใช้บอกก่อนจะเดินออกจากห้องไป
จื่อเทามองออกไปนอกหน้าต่างพลางสะกดกลั้น น้ำตาเอาไว้ สวรรค์ ได้โปรดอย่าใจร้ายกับข้านักเลย
“อ๋องน้อย” เสียงหนึ่งเรียกร่างเพรียวจากด้านหลัง
“เฉิน” จื่อเทาครางแผ่ว เมื่อเห็นองครักษ์ที่เขารักไม่ต่างจากพี่ชาย ยืนอยู่ข้างๆ
“เจ้ายังรู้ใจ ข้าเสมอสินะ”
“อย่าร้องเลยเลยนะขอรับ” เฉินบอกเสียงแผ่ว เขาเองก็รักจื่อเทาไม่ต่างจากน้องชายแท้ๆ ความเสียใจของน้องยิ่งทำให้เขา
เสียใจมากกว่าเป็นพันเท่า
“พี่ชาย ข้าขอกอดเจ้าสักครั้งได้หรือไม่”
“ได้สิ” ร่างเพรียวโผเข้ากอดคนสนิทแน่น
“ตั้งแต่เด็กจนโต เจ้าอยู่ข้างๆข้าเสมอเลยสินะ ไม่ว่า ยามสุขหรือยามทุกข์ ข้าจะมีเจ้าเสมอใช่หรือไม่” ร่างเพรียวที่ตอนนี้กำลังอ่อนแอ บอกกับองครักษ์ ชีวิตนี้เขาไม่เหลือใครอีกแล้ว ทั้งพ่อ แม่ หรือแม่แต่ คนรัก ก็ดูเหมือนจะทิ้งเขาให้โดดเดี่ยวเพียงลำพัง
“อย่าร้องไห้อีกเลย ข้าน้อยสัญญา จะไม่มีวันปล่อยให้ท่าน ต้องโดดเดี่ยว ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ท่านจะมีพี่ชายคนนี้อยู่ด้วยเสมอ ความภักดีของข้าน้อย จะไม่มีวันเลือนหายไปอย่างแน่นอน”
ปัง!!!
“พวกเจ้าทำอะไรกัน!!” เสียงทุ้มตะคอกก่อนที่ร่างสูงของอู๋อ๋องจะกระชากร่างเพรียวออกจากอ้อมกอดขององครักษ์
“ข้าถามทำไมไม่ตอบ ว่าพวกเจ้ากำลังทำอะไร” ร่างสูงตะคอกพลางชักกระบี่จ่อที่คอของเฉิน
เพล้ง!!
ฝ่ามือเรียวปัดมือของร่างสูงอ่างแรงจนกระบี่ตกลงบนพื้นก่อนที่ จื่อเทาจะใช้ร่างบังคนสนิทเอาไว้
“จื่อเทา!!!” ร่างสูงคำรามลั่นเมื่อเห็นว่าคนรักกำลังปกป้องคนอื่น
“ข้าต่างหาก ที่ต้องเป็นฝ่ายถามว่าเจ้าจะทำอะไร”
“หึ การที่พี่เห็น เมียตัวเองกอดกับคนอื่น เจ้าคิดว่าพี่ควรทำอะไรล่ะ” ร่างสูงบอกเสียงลอดไรฟัน มือหนากำแน่นเพื่อระงับโทสะ ไม่ให้พลั้งมือทำร้ายคนตรงหน้า
“เหอะ ข้าน่ะหรือเมีย เจ้ากำลังเข้าใจผิดอยู่หรือเปล่า อูอ๋อง” อู๋อ๋อง มองร่างเพรียวตรงหน้าอย่างไม่เข้าใจ อะไรที่ทำให้จื่อเทา
กลับไปเป็นคนเดิม
“จื่อเทา เจ้าเป็นอะไร”
“ข้าเองก็อยากจะถามเจ้า ว่าเจ้าเห็นข้าเป็นตัวอะไร” ร่างเพรียวแหวลั่น
“จื่อเทา ค่อยๆพูดค่อยๆจา ได้ไหม เจ้าตะคอกแบบนี้ ซือซุนตกใจนะ” ร่างบางที่เงียบมานานเอ่ยขึ้น เมื่อเห็นว่าเจ้าเด็กในอ้อมกอดเริ่มโยเย อู๋อ๋องจึงรีบเข้าไปปลอบลูกชายด้วยความเป็นห่วง
“หึ” ร่างเพรียวยิ้มทั้งน้ำตา ยิ่งมองก็ยิ่งเหมาะสมกันราวกิ่งทองใบหยก คนหนึ่งน่าเกรงขาม สมเป็นมังกร อีกคน งามสง่าแต่กลับบอบบาง ดังหงส์ แล้วข้าเล่า ข้าควรจะยืนอยู่ตรงไหนกัน
“อู๋อ๋อง ข้าขอถามเจ้าสักประโยค ได้หรือไม่”
“เจ้าจะถาม อะไรพี่หรือ จื่อเทา”
“ข้าอยากรู้ว่า สาเหตุที่เจ้า ทำสงครามกับท่านพ่อเพราะ พี่ลู่หาน ใช่หรือไม่”
ทั้งๆที่รู้คำตอบดี แต่กลับถามออกไป เพียงแค่อยากได้ยิน คำยืนยัน ว่าที่ผ่านมา เจ้าไม่เคยรักข้าเลย
“เจ้ารู้”
“ความจริง ข้าน่าจะรู้เร็วกว่านี้ด้วยซ้ำ น่าจะรู้มาตั้งนานแล้วว่า เจ้าไม่เคยรักข้าเคย เจ้ารักแค่พี่ลู่หาน คนเดียว” จื่อเทาบอกทั้งน้ำตา
“ไม่ใช่นะ จื่อเทาเจ้ากำลังเข้าใจพี่กับอี้ฟานผิด” ลู่หานที่เงียบมานานบอกอย่างร้อนรน
“พี่กับอี้ฟานเราไม่ได้เป็นอย่างที่เจ้าคิด”
“พี่อย่าโกหกข้าอีกเลย พี่ลู่หาน ข้าไม่ได้ตาบอดที่จะมองไม่ออกว่าพวกท่าน รักกันมากแค่ไหน”
“จื่อเทาเจ้าฟังพี่ก่อนได้หรือไม่” ร่างสูงเอ่ยเสียงแผ่ว
“ข้าไม่อยากฟัง ไม่อยากฟังอะไรทั้งนั้น” ร่างเพรียวบอกทั้งน้ำตา ไม่อยากฟัง ไม่อยากรับรู้
“แต่เจ้าต้องฟัง เจ้ากำลังเข้าใจพี่ผิดนะ จื่อเทา”
“ใช่ ข้าเข้าใจผิด เข้าใจผิดมาตลอดว่าเจ้ารักข้า แต่มันไม่ใช่ ตอดเวลาเจ้าทำทุกอย่างเพื่อพี่ลู่หาน เจ้ารักเขา เจ้าไม่เคยรักข้า
เลย”
“ทุกคนออกไปจากห้องนี้ให้หมด!!”อู๋อ๋องสั่งเสียงเข้ม ก่อนที่ทุกคนจะทยอย ออกจากห้องไป
“ทำไมเจ้ายังไม่ไป ลู่หาน”
“ข้าเป็นต้นเหคุ ให้พวกเจ้าต้องผิดใจกัน ข้าควรจะอยู่เพื่ออธิบายทุกอย่างให้จื่อเทาได้รับรู้” ร่างบางบอก ก่อนจะเข้าไปประคอง
คนที่ร้องไห้อย่างหนักให้นั่งลง มือบางจับมือ คนที่เขารักไม่ต่างจาก ลูกชายอย่างแผ่วเบา ก่อนจะเช็ดน้ำตาให้
“จื่อเทา เจ้าฟังพี่นะ พี่กับ อี้ฟาน เคย รัก กันมาก่อน นั่นเป็นสิ่งที่พี่ไม่อาจปฏิเสธได้ และพี่ก็คือสาเหตุของเรื่องราวทั้งหมดที่ผ่าน
มา 7 ปีก่อนพี่ถูกส่งไปแต่งงานกับพ่อของเจ้าเพราะเหตุผลทางการเมือง ตอนนั้นแม้พี่จะมีคนรักอยู่แล้ว แต่ก็ไม่อาจอยู่ร่วมกันได้ เมื่อพี่ต้องเลือก บ้านเมือง และนั่นก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ อี้ฟานกับพ่อของเจ้า ผิดใจกัน แต่เจ้ารู้อะไรไหม ใจคนก็เหมือนกับสายน้ำ สักวันมันก็อาจจะเปลี่ยนทิศทางการไหลได้”
“พี่หมายความว่าอย่างไร” ร่างเพรียวถามเสียงเบา
“หัวใจของพี่ กับอี้ฟานไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว เจ้ารู้ไหม จื่อเทา ที่พี่อยู่กับพ่อเจ้ามันไม่ใช่ ความจำยอม แต่พี่ รัก เยว่อ๋อง
จริงๆ แปลกนะ ทั้งๆที่ ตอนแรก พี่ไม่แม้แต่จะให้เขาเข้าใกล้ แต่เมื่อเวลาผ่านไป ความจริงใจที่เยว่อ๋องมีให้ทำให้พี่ ใจอ่อน พ่อของเจ้าอาจไม่ใช่คนดีแต่เขาก็คือคนที่ทำให้พี่รู้จักความรักที่แท้จริง มันอาจจะเป็นแค่ระยะเวลาสั้นๆที่เราได้อยู่ด้วยกันแต่นั่นคือความทรงจำที่มีค่าที่สุดในชีวิตพี่ ”
“พี่ต้องการจะบอก ข้าว่า พวกพี่ไม่ได้รักกันแล้วเช่นนั้นหรือ ความรักมันเปลี่ยนแปลงได้ง่ายขนาดนั้นเลยหรือ”
“จื่อเทา บางทีควารักของพี่กับอี้ฟาน อาจจะป็นเพียงแค่ความรักแบบเด็กๆเท่านั้น เมื่อวันที่เราพบคนที่รักจริงๆ เราจึงสามารถ
เปลี่ยนแปลงได้ ตอนนี้หัวใจของอี้ฟานมีเพียงเจ้าเท่านั้น ที่ได้ครอบครองเจ้ารู้หรือไม่ ” ร่างบางบอกด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะลุกขึ้น
แล้วเดินออกจากห้องไป
“จื่อเทา” ร่างสูงที่เงียบมานานเอ่ยขึ้น
“พี่รู้ว่ามันอาจจะฟังดูเชื่อยาก แต่คำว่ารักที่พี่เคยบอกเจ้า มันไม่ใช่คำลวง พี่รักเจ้า นั่นคือสิ่งที่เป็นจริงที่สุดในชีวิตของพี่ เจ้าคือคนที่พี่ตามหามาตลอดชีวิต คือคนๆเดียวที่พี่อยากจะอยู่ด้วยไปจนแก่เฒ่า” ร่างสูงบอกพลางดึงร่างเพรียวเข้ามากอดแน่น อยากจะถ่ายทอดความรักผ่านอ้อมกอดนี้ ให้รู้ว่าพี่ รักเจ้ามากเหลือเกิน
“แต่เจ้า ละเลยข้า เจ้าไม่ยอมมากินข้าวพร้อมข้า ตั้งแต่วันที่พี่ลู่หานมา” ร่างเพรียวตัดพ้อ
“เจ้าน้อยใจหรือ พี่ขอโทษ ขอโทษที่ทำให้เข้าใจผิด พี่ต้องเร่งปรึกษาเรื่องปัญหา ชายแดนเพื่อให้ยุติเร็วที่สุด พี่ไม่อยากให้มัน
ยืดเยื้อ เพราะจะยิ่งทำให้พี่มีเวลาให้เจ้ากับลูกน้อยลง พี่ขอโทษนะ”
“เจ้าไม่ได้หลอกข้า ใช่หรือไม่”
“จื่อเทา เรียกพี่ว่าพี่ เหมือนเดิมได้หรือไม่ ได้โปรดอย่าใช้คำพูดที่ห่างเหินกับพี่เช่นนี้เลย”
“ท่านพี่ ข้ายังเป็นที่ท่านรักอยู่ ใช่หรือไม่ ”
“เจ้าจะเป็นคนที่พี่รัก ตลอดไป พี่สัญญา” ร่างสูงบอกพลางกระชับอ้อมกอดแน่น ขึ้น
“ฮ่าๆๆๆ ช่างเป็นคำรักที่หวานหูเสียจริง หากไม่ได้มาเห็นกับตาคงไม่ทางเชื่อ ว่า มังกรไร้ใจ อย่างอู๋อ๋อง จะสามารถพลอดรักได้
หวานเช่นนี้” เสียงหนึ่งดังขึ้นก่อนที่ชายชุดดำจะพลิ้วกายลงมาจากหลังคา
“เจ้า เจ้าเข้ามาในนี้ได้อย่างไร” อู๋อ๋องถามเสียงเข้ม
“คนอย่าง ฝู้ชานเหลียน จะไปที่ไหนก็ย่อมได้ ต่อให้เป็น ถ้ำเสือ หรือแดนมังกร เจ้าคิดหรือว่าแค่ทหารเลวพวกนั้นจะต้านข้าได้” ชายชุดดำเย้ยหยัน
“หึ ข้ามีชองขวัญจะมอบให้พวกท่านด้วยนะ” ร่างนั้นบอกก่อนจะประตู จะถูกเปิดออกโดยชายชุดดำอีกกลุ่มใหญ่ แต่อะไรก็ไม่ร้ายแรงเท่า ตอนนี้ หนึ่งในชายชุดดำกำลังอุ้มทารกคนหนึ่งอยู่
“ซือซุน!!” จื่อเทาตะโกนก่อนจะโผเข้าหาลูกน้อย แต่กลับต้องชะงัก เมื่อปลายกระบี่ของคนที่อุ้มอยู่ จ่อเข้าที่ทารกน้อย ทันที
“เจ้าต้องการอะไร!!” อู๋อ๋องคำรามลั่น
“ง่ายมาก ข้าอยากได้ “หัวใจมังกร” ”
“เจ้า!!”
“ข้าจะให้เจ้าคิดดูแล้วกัน ว่า จะส่งพระชายา มาให้ข้า หรือจะดูเด็กคนนี้ถูกฆ่าตาย ” ชานเหลียนบอกเสียงเหี้ยมก่อนที่กระบี่คมจะ
ค่อยๆขยับเข้าใกล้ทารกน้อยเรื่อยๆ
“อย่านะ ข้าจะไปกับพวกเจ้า แต่ได้โปรดคืน ซือซุนให้ข้าเถอะ” จื่อเทาโพล่งขึ้น
“จื่อเทา”
“ท่านพี่ ข้าไม่สามารถทนเห็น ซือซุนเป็นอะไรได้จริงๆ ข้าทนเห็นเขาบาดเจ็บไม่ได้” ร่างเพรียวบอกทั้งน้ำตา
“หึ พระชายา ช่างกล้าหาญนัก ฮ่าๆๆ ” ชานเหลียน หัวเราะร่วน ก่อนที่จะพลิ้วกายไปจับร่างเพรียวไว้ด้วยตนเอง
“หากท่านอยากได้ตัวพระชายาของท่านคืน พรุ่งนี้ จงไปที่ วัดร้าง นอกประตูเมืองทิศใต้ พร้อมกับตราหยกแผ่นดิน!!”
“นี่เจ้า” อู๋อ๋องตวาดลั่น ตราหยกแผ่นดิน คือ สิ่งที่แสดงถึงฐานะความเป็นอ๋อง และการครอบครองแคว้น แสดงว่าสิ่งที่คนร้ายต้องการคือ แคว้นอู๋!!
“ข้าให้ท่านเลือก ระหว่างจะมอบตราหยกให้เจ้านายข้า หรือจะยอมให้คนที่เจ้ารักตาย เลือกดีๆนะท่านอ๋อง โอกาสของท่านมีเพียง
ครั้งเดียว”
........................TBC.....................
ท่านอ๋อง จะเลือกทางไหน ดีน๊า
ระหว่าง หัวใจ กับ บ้านเมือง คริๆๆๆ
พรุ่งนี้มีใครสอบ ภาค ก ของ กพ รอบแรก เหมือนเค้า บ้างอ่า
หนังสือก็ไม่อ่าน คงผ่านหรอก ฮ่าๆๆ