คำเตือน ได้โปรดอ่าคาดหวัง กับ
ของนังพิต เพราะมัน ง่อยมาก
สายใยรัก
อู๋อ๋องยิ้มกว้างเมื่อเห็นว่า ร่างเพรียวกำลังฝึกกระบี่ที่ลานกว้างเช่นทุกวัน เป็นแบบนี้มาร่วมเดือนตั้งแต่มีเรื่องคราวนั้น ร่างเพรียวก็เอาแต่บ่นว่าที่เขาต้องบาดเจ็บเพราะเพลงกระบี่ของตนเองไม่ได้เรื่องต้องฝึกให้มากๆ ซ้ำบังคับให้เขาสอนเพลงกระบี่ให้อีก ตอนนี้ทุกเย็นเขาต้องมาเป็นอาจารย์ของเจ้าเด็กดื้อคนนี้
“จื่อเทา” เสียงทุ้มเอ่ยเรียก
“พี่มาแล้วเหรอ มาเร็วๆ วันนี้ข้าฝึกกระบวนท่าที่สามสำเร็จแล้วนะ” ร่างเพรียวบอกอย่างร่าเริงก่อนจะวิ่งเข้ามาหา อู๋อ๋องทำได้เพียงส่ายหน้ากับคนตรงหน้า อ่างเอือมระอา หรือว่าอยู่ใกล้ซิ่วหมิ่นมากเกินไป ความสุขุมและท่าทางที่ดูเป็นผู้ใหญ่แบบเมื่อก่อนจึงหายไป แต่หากให้เลือกเขาก็ชอบจื่อเทาที่ร่าเริงแบบนี้มากกว่า อ๋องน้อยผู้เคร่งครัดคนนั้น
“พอได้แล้ว จื่อเทา วันนี้เย็นมากแล้ว เจ้าไปอาบน้ำกินข้าวได้แล้ว” ร่างสูงบอกเสียงเข้ม
“แต่ข้า..” ร่างเพรียวกำลังจะเอ่ยประท้วงแต่กลับถูกสาตาคมตวัดมองเสียก่อน
“ข้าไปก็ได้ ชิงเออร์ ม่านเออร์ ไปกันเถอะ ” ร่างเพรียวบอกก่อนจะเดินผ่านหน้าไปทั้งๆที่ยังทำหน้ายุ่ง อู๋อ๋องทำเพียงส่ายหน้าอย่างเอือมระอา นี่เขาถูกจื่อเทา “เมิน” อย่างนั้นสินะ เจ้าเด็กดื้อคนนี้ นับวันจะยิ่งเอาแต่ใจ แต่ก็คงผิดที่เขาเองที่ไม่เคยขัดใจร่างเพรียวได้สักที
ร่างเพรียวหลับตาพริ้มเพราะความสบายของน้ำอุ่นๆ กับสมุนไพรหอมที่ช่วยไล่ความเมื่อยขบและเหงื่อไคลจากการฝึกยุทธมาทั้งวัน
“เจ้าโกรธพี่หรือ จื่อเทา” เสียงทุ้มเอ่ยถาม แต่คนร่างเพรียวกลับยังไม่ยอมลืมตา
“จื่อเทา พี่ขอโทษ แต่เพราะพี่เป็นห่วง กลัวว่าเจ้าจะหิว เจ้าอย่าโกรธพี่เลยได้ไหม” ร่างสูงเอ่ยอย่างเว้าวอน หากว่าคนอื่นมาเห็นคงไม่เชื่อสายตา ว่า มังกรไร้ใจ อย่างอู๋อ๋อง จะง้องอนคนรักด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนเช่นนี้
“พี่ขอโทษ”
“ถ้าเช่นนั้น พี่นวดให้เจ้าดีหรือไม่” ร่างสูงบอกก่อนจะลงมือนวดไหล่อย่างเบามือ
“เจ้ายังไม่ยอมพูดกับพี่อีกหรือจื่อเทา”
ฟอด ร่างสูงสูดความหอมจากแก้มของอีกคนอย่างแผ่วเบา ช่างเป็นการง้องอนที่มีแต่ได้เสียจริง
“ข้ายังไม่หายโกรธนะ” ร่างเพรียวแหวลั่นก่อนจะหันมาเผชิญหน้ากับคนเจ้าเล่ห์
“เราอย่าโกรธกันเลยนะ เห็นเจ้าโกรธแล้วพี่ใจไม่ดีเลย ” ร่างสูงบอกพลางใช้มือเกลี่ยแก้มนุ่ม แต่ร่างเพรียวกลับยังขยับหนีสัมผัสนั้น
“เฮ้อ ถ้าวันนี้เจ้ายังไม่หายโกรธ พี่คงต้องไปนอนที่อื่นซะแล้ว เพราะว่าเจ้าคงไม่อยากเห็นหน้าพี่” ร่างสูงตัดพ้อก่อนจะลุกขึ้น
“ไปสิ จะไปไหนก็ไปเลย”
อู๋อ๋องลอบยิ้มเพราะแม้ปากจะผลักไส แต่มือเรียวกลับกำชายเสื้อเขาไว้แน่น จื่อเทาหนอ จื่อเทา จะพูดให้ตรงกับใจคิดสักครั้งไม่ได้หรืออย่างไร
“พี่ไม่ไปแล้ว อยู่กับเจ้าดีกว่า ลุกเถอะแช่น้ำนานๆเจ้าจะเป็นหวัดนะ” ร่างสูงยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
“เอ๊ะ พี่ปล่อยข้าลงนะ” ร่างเพรียวโวยวายลั่น เมื่ออีกคนช้อนตัวเขาขึ้นจากน้ำ ก่อนจะอุ้มเข้าไปในห้องนอน
“พี่เช็ดตัวให้” ร่างสูงเอ่ยก่อนจะเช็ดตัวให้ร่างเปลือยเปล่าที่อู่บนที่นอน
“ขะ ข้าเช็ดเองได้พี่ไม่ต้องช่วยหรอก”
“พี่เต็มใจ ทุกเรื่องของเจ้าพี่เต็มใจทำเสมอนะจื่อเทา โดยเฉพาะบางเรื่องพี่เต็มใจยิ่ง” ร่างสูงบอกพลางมองคนตรงหน้าด้วสายตาพราวระยับ
“โจรลามก!!”
“ฮ่าๆๆ เจ้าเด็กลามก เจ้ากำลังคิดเรื่องใดอยู่กัน พี่หมายถึง เรื่องฝึกยุทธต่างหาก”
“ข้าไม่พูดกับพี่แล้ว” ร่างเพรียวแหวลั่น
“แต่จะว่า เรื่องที่เจ้าคิดพี่ก็เต็มใจทำเพื่อเจ้าอย่างยิ่งเช่นกัน” ร่างสูงยกยิ้ม ก่อนจะสูดความหอมจากแก้มนุ่ม
“พี่ มันโจรลามก”
“หรือว่าเจ้าไม่ชอบกัน พี่เห็นเจ้าก็ชอบมันทุกครั้ง มิใช่หรือ”
“หยุดพูดนะ อื้ออ” เสียงของร่างเพรียวขาดหายไปเพราะถูกริมฝีปากได้รูปกดทับลงมา ลิ้นร้อนกำลังไล่ตอนร่างเพรียวให้จนมุม ไม่ว่าจะกี่ครั้งเขาไม่เคยสู้ร่างสูงได้เลย จากอ่อนโยนกลายเป็นร้อนแรงขึ้น มือหนาลูบไล้ไปตามเรือนร่างเปล่าเปลือย ทุกสัมผัสที่ลากไล้มักจะทิ้งความร้อนไว้จนร่างเพรียวสั่นสะท้าน
“อื้ออออออ” เสียงครางทุ้มต่ำของอีกคน ทำให้ร่างสูงยกยิ้มอย่างพอใจ ก่อนจะซุกไซร้ที่ซอกคอระหงส์ สูดดมกลิ่นหอมที่เขาหลงใหล ไม่ว่าจะกี่ครั้ง ร่างนี้กังคงตรึงเขาไว้ได้เสมอ จื่อเทาน่าหลงใหลทั้งที่เจ้าตัวไม่เคยแต่งเติมอันใด ความไร้เดียงสาแบบเด็กๆนั่นทำให้เขาหลงจนโงหัวไม่ขึ้น
“พะ อื้อ พี่อี้ฟาน” ยามที่เสียงแหบพร่านั้นเรียกชื่อเขา ช่างหวานล้ำจนเขาแทบคลั่ง ใบหน้าที่ขึ้นสีแดงจากแรงอารมณ์ยิ่งทำให้
เขาหูอื้อตาลาย จื่อเทาคงไม่รู้ ว่าตอนนี้อู๋อ๋องผู้ยิ่งใหญ่กำลังหลงอู่ในบ่วงเสน่ห์ของอ๋องน้อยแคว้นเยว่
“เจ้าเรียกพี่ว่าท่านพี่ ได้หรือไม่จื่อเทา” ร่างสูงร้องขอ
“ทะ ทำข้าต้องพูด ข้าไม่ใช่ผู้หญิงนะ”
“จื่อเทา” น้ำเสียงเว้าวอนทำให้ร่างเพรียวใจสั่น จนต้องเสมองไปอีกทางเพ่อหลบสายตา
“ทะ อื้อ ท่านพี่” แม้จะเขินอาแต่ร่างเพรียวก็อยากจะทำตามที่ร่างสูงร้องขอบ้าง
“พี่รักเจ้านะ จื่อเทา” เสียงแหบพร่ากระซิบแผ่วเบาก่อนที่อู๋อ๋อง จะแทรกกายเพื่อเป็นหนึ่งเดียวกับคนที่รัก
“อะ อื้อ” เสียงครางหวานยิ่งทำให้สติของร่างสูงขาดหาย
“อะ อ๊า อื้อ” เสียงครางสลับกับเสียงเนื้อกระทบกันดังไปทั่วห้อง เมื่อสองร่างต่างบรรเลงเพลงรักที่เป็นท่วงทำนองเดียวกับหัวใจ
สอดประสานทั้งร่างกายและหัวใจเข้าด้วยกัน ก่อเกิดเป็นสายใยรักที่มั่นคง
“พี่รักเจ้า นะจื่อเทา”
“ข้าก็รักท่านเช่นกัน ท่านพี่”
เสียงกระซิบบอกรักดังขึ้นเมื่อเดินทางมาถึงสุดห้วงแห่งอารมณ์ คำว่ารักที่มากกว่า รัก นั้น ยังคงดังก้องอยู่ในใจแม้ว่าจะแผ่วเบาแต่กลับหยั่งรากลึกจนมิอาจถอนได้
เช้าวันต่อมา
“จื่อเทา เจ้าเด็กดื้อ ตื่นได้แล้ว” เสียงทุ้มกระซิบพลางลอบมองร่างเปลือยเปล่าตรงหน้า อย่างพอใจร่องรอยที่ปรากฏอยู่ตามตัวของจื่อเทาทำให้ร่างสูงยกยิ้ม จื่อเทาเป็นของเขา เป็นของเขาทั้งตัวและหัวใจ แม้ว่าเมื่อคืนจะไม่ใช่คืนแรก แต่เขากลับไม่เคยรู้สึกรักร่างเพรียวนี้น้อยลงเลย
“ท่านพี่ ข้านอนต่อไม่ได้หรือ” ร่างเพรียวเอ่ย พลางซุกหน้าลงบนหมอน
“ไม่ได้นะ จื่อเทา ตื่นได้แล้ว ซิ่วหมิ่นมารอแล้วรู้หรือไม่”
“เจ้าอ้วน มาแล้วเหรอ ทำไมพี่ไม่บอกข้า ตั้งแต่ต้นเล่า” ร่างเพรีวแหวลั่น พลางลุกขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวอ่างกระตือรือร้น
“จื่อเทา เจ้ากับซิ่วหมิ่น ไม่ได้นัดกันออกไปเล่นซนที่ไหนใช่ไหม” ร่างสูงเอ่ยถาม พลางหรี่ตามองคนรัก
“ข้าไม่ใช่เด็กนะ ไม่ได้ไปซนที่ไหน แค่ให้ซิ่วหมิ่นพาเดินเล่นรอบจวน”
“ถ้าเช่นนั้น พี่ไปด้วย”
“แต่ว่า..”
“พี่ไปด้วย ไปได้แล้ว ซิ่วหมิ่นรอนาน” ร่างสูงบอกพลางจูงเด็กดื้อออกมาจากห้องนอน
“เจ้าตื่นสายนะเจ้าแพนด้า เมื่อคืนคง..” คนพูดพูดไปหน้าแดงไปจน จื่อเทาหัวเราะลั่น
“อย่ามัวพูดมากไปเถอะน่า ข้าอยากไปเต็มแก่แล้ว” จื่อเทาลากร่างอวบให้เดินตามอย่างรวดเร็ว โดที่ไม่สนใจร่างสูงของอู๋อ๋อง
หรือเฉินที่ยืนมองอยู่ เพราะถึงยังไง สองคนนั้นก็ตามพวกเขาทันอยู่ดี
จื่อเทาเดินตามซิ่วหมิ่นเข้าไปใน “สวนวิเวก” ก่อนจะลอบมอง บรรยากาศที่ไม่รู้ว่าทำไมถึงมีแต่ความหดหู่ และความเศร้าสร้อยเช่นนี้
“เจ้ามาที่ที่ทำไม จื่อเทา” อู๋อ๋องเอ่ยถามคนรัก เพราะร้อยวันพันปี จื่อเทาไม่เคยพูดถึงสวนวิเวกให้เขาได้ยินเลยสักครั้ง
“ข้าไม่รู้ รู้แค่ว่า ข้าอยากมาที่นี่ มันเหมือนมีบางอย่างที่ เรียกให้ข้ามาที่นี่”
ก่อนที่ร่างสูงจะเอ่ยถามกลับต้องชะงักเมื่อได้ยินเสียงบางอย่าง
แง้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
“เสียงเด็กร้อง” ซิ่วหมิ่นเอ่ยขึ้นก่อนจะวิ่งเข้าไปในบ้านหลังเล็กหลังหนึ่งที่อยู่ในสวนวิเวก
“พี่ใหญ่ มาดูนี่เร็วเข้า มาเร็วๆ” ซิ่วหมิ่นตะโกนลั่นก่อนที่คนทั้งสามจะวิ่งตามเข้าไป
ร่างของคนที่นอนอยู่บนพื้นทำให้ทั้งสามมองอย่างตกตะลึง ข้างๆมีทารกแรกคลอดกำลังร้องไห้อย่างน่าสงสาร
“สนมจี” ร่างสูงบอกเสียงเบา
“ทะ ท่านอ๋อง ท่านอ๋องจริงๆด้วย” หญิงสาวที่นอนบอกด้วยเสียงอ่อนแรงก่อนที่ร่างนั้นจะค่อยคลานมาที่ปลายเท้าของอู๋อ๋องท่ามกลางสีหน้าตกใจของทุกคน
“ท่านอ๋อง ในที่สุดท่านก็มา ฮื่อๆๆ ในที่สุดท่านก็มาหาข้า” สนมจีร่ำไห้พลางกอดขาของร่างสูงไว้แน่น
“อย่าร้องไห้อีกเลย ข้าไม่ได้มาหาเจ้า แต่เพราะจื่อเทา เขาอยากเข้ามาที่นี่ข้าจำต้องพามา” ร่างสูงบอกความจริง แม้ว่าความจริงจะทำให้อีกฝ่ายเจ็บปวด แต่เขาไม่อยากให้จื่อเทาไม่เป็นกังวล
“พระชายา พระชายาหรือ พระชายาท่านช่วยข้าได้หรือไม่เจ้าคะ” สนมจีบอกทั้งน้ำตา นางรู้ตัวดีว่าตอนนี้ ตนเองไม่มีแรงพอที่จะเลี้ยงทารกน้อยอีกแล้ว หากว่าคนที่รับเลี้ยงลูกของนางคือพระชายา ลูกของนางคงไม่ลำบาก
“ท่านอ๋อง พระชายา ความผิดของ เจียเออร์ ช่างร้ายแรงนัก แต่เด็กคนนี้ไม่ได้มีส่วนรู้เห็นกับเรื่องเลวๆที่ข้าทำ หากไม่เห็นแก่ข้าขอพวกท่านได้โปรดเห็นแก่เด็กคนนี้สักนิดได้หรือไม่ อย่างน้อยที่สุดเด็กคนนี้ก็คือเลือดเนื้อเชื้อไขของท่านอ๋อง หากว่าเขายังมีวาสนาอยู่บ้าง ช่วยเลี้ยงเขาให้เติบโตเป็นคนดีได้หรือไม่ อย่าให้เขารู้ว่าแม่เขาเป็นใคร ชั่วช้าเพียงใด ได้โปรดรับเขาเป็นลูกได้หรือไม่เจ้าคะ” สนมจีบอกทั้งน้ำตา ความผิดของนางมากมาเหลือเกินเพราะมักใหญ่ใฝ่สูงทำให้คิดที่ฆ่าแม้กระทั่งสามีของตนเอง แต่ลูกน้อยของนางไม่ผิด นางยอมทุกอย่างเพื่อให้ลูกได้มีความสุข นี่คงเป็นสิ่งเดียวที่แม่เลวๆอย่างนางจะทำเพื่อลูกได้
“ได้โปรดเถิด พระชายา ได้โปรดรับซือซุน เป็นลูกของท่านด้วย” สนมจีโขกศรีษะกับพื้นเป็นเชิงขอร้อง แม้ว่าแรงที่เหลืออยู่จะมีน้อยนิด
จื่อเทาไม่ตอบเพียงแต่เดินไปอุ้มทารกน้อยขึ้นมาแนบอก นี่อาจจะเป็นโชคชะตาหรือพรหมลิขิตที่ทำให้เขารู้สึกผูกพันกับเด็กคนนี้มากเหลือเกิน ทั้งๆที่ไม่ใช่ลูกแต่แค่เพียงได้อุ้มกลับรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นที่แผ่ซ่านไปถึงหัวใจ
“ท่านพี่ ข้าจะรับซือซุนเป็นลูก ท่านจะยินดีหรือไม่” จื่อเทาเอ่ยถามร่างสูง
“หากมันเป็นสิ่งที่เจ้าปรารถนา พี่หรือจะห้าม ถึงอย่างไร ซือซุนก็เป็นลูกของพี่ พี่คงทิ้งขว้างเขาไม่ลง”
สนมจีมองทั้งคู่ผ่านม่านน้ำตา ลูกน้อยของนางคงมีความสุขหากได้อยู่กับพระชายานางรับรู้ได้ถึงความอ่อนโนในดวงตาคู่นั้นเพียงเท่านี้ แม่เลวๆอย่างนางคงตายตาหลับเสียที
“สนมจี!!” ซิ่วหมิ่นตะโกนลั่นเมื่อเห็นว่าสนมจีกำลังกระอักเลือด
“อย่าเจ้าค่ะ เจียเออร์กำลังจะชดใช้ความผิดที่ทำกับท่านอ๋อง เจียเออร์ ฝากซือซุนด้วยนะเจ้าคะ พระชายา” สนมจีบอกก่อนที่จะปิดเปลือกตาลง
แง้ๆๆๆ ทารกน้อยแผดเสียงลั่น เหมือนรับรู้ว่า เรื่องทุกอย่าง จนจื่อเทาต้องกอดปลอบอยู่พักใหญ่เด็กน้อจึงอมเงีบเสียงลง
“พี่ใหญ่ ทำไมสนมจีถึงเป็นเช่นนี้” ซิ่วหมิ่นเอ่ยถาม
“ความผิดของนางร้ายแรงมาก ตามกฎแล้วนางต้องถูกประทานยาพิษ แต่เพราะตอนนั้นนางยังตั้งครรภ์อยู่ เลยต้องเลื่อนการรับ
โทษออกไปก่อน จนถึงวันที่คลอดคนของฝ่ายในจะนาพิษมาให้นาง แต่มิคาดว่าจะเป็นวันนี้ นั่นคงเป็นเพราะซือซุนมีวาสนากับจื่อเทา” ร่างสูงบอกก่อนจะมองร่างเพรียวตรงหน้าด้วยรอยยิ้ม ซือซุนโชคดี ที่ได้พบกับจื่อเทา เพราะเด็กที่เกิดในสวนวิเวก แม้จะเป็นลูกของอ๋องแต่ตามกฎแล้วก็ต้องกลายเป็นบ่าวหรือไม่ก็ทาส นั่นเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
“อี้ชิง สั่งให้คนนำร่างสนมจี กลับไปที่บ้านเดิมของนางซะ แล้วไม่ต้องบอกเรื่องที่นางท้องลูกของข้าให้ใครรู้ เข้าใจหรือไม่” เสียงทุ้มเอ่ยสั่งคนสนิท ที่แม้ไม่เห็นตัวแต่เขารู้ว่าอี้ชิงคอยอารักขาเขาอยู่ห่างๆ และนั่นเป็นเสียงสุดท้ายของอู๋อ๋องในสวนวิเวกก่อนที่ร่างสูงจะประคองคนรักและ “ลูกน้อย” ออกจากสวนวิเวกไปทันที
..........................TBC.............................
NC ช่างง่อย ฮ่าๆๆๆ
มีลูกกันแบ้ว อู๋อ๋องนี่ก็เก่งใช้ได้ เนาะ
ไปดีกว่า