- 7 -
Love Will Come Through
http://www.youtube.com/v/90Cf3q-IYUQ?version=3&hl=en_USผมควงไม้กลองเล่นอยู่ในห้องซ้อม วันนี้ไม่มีใครว่างแต่ผมก็ยังมาเพราะอยากอยู่คนเดียว
ช่วงนี้ดูอะไรๆก็ดูขวางหูขวางตาไปหมด ผมกำลังทำตัวไม่ถูกกับเพื่อน กำลังสับสน และความรู้สึกอีกหลายอย่างที่ประดังประเดเข้ามา
“บลู...กูรักมึง"คำๆนี้มันก็ยังดังก้องอยู่ในหัว ผมพยายามไม่สนใจ ทำตัวเหมือนกับว่าไม่ได้ยินที่ป็อปพูดแต่ความสับสนในแววตาผมคงบ่งบอกชัดว่ารับรู้มันชัดเจน
รัก...ผมไม่คิดว่าจะได้ยินคำนี้และไม่เคยมีใครพูดกับผมมาก่อน ผมไม่เข้าใจตัวเองว่ากำลังรู้สึกยังไง
ผมได้ความรักที่ผมเคยโหยหา ทำไมผมไม่รู้สึกดีใจ แต่กลับหนักใจ ทันทีที่ป็อปพูดคำนั้นออกมาก็เหมือนก้าวผ่านเส้นบางๆที่ไม่ควรจะข้ามมา
มันทำให้ผมอึดอัด
มันไม่ใช่แค่ความต้องการของร่างกายอีกต่อไป แต่มีส่วนของความรู้สึกมาเกี่ยวข้อง ผมได้คำตอบของน้ำตานั้นแล้ว มันไม่ได้มาจากความเจ็บปวดทางร่ายกายอย่างที่ผมบอกตัวเอง และผมคิดว่าผมควรจะหยุดก่อนจะทำร้ายเพื่อนไปมากกว่านี้
'คืนนี้ที่เดิมนะ'ผมมองข้อความในโทรศัพท์นิ่งแล้วถอนหายใจ ยังไม่พร้อมที่จะเจอ
'วันนี้ไม่ว่าง ไว้วันหลังค่อยเจอกัน' ผมตอบไปแบบนั้นเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋า ออกจากห้องซ้อมแล้วตรงกลับบ้าน
“พี่บลู!” ผมอาบน้ำออกมาก็เห็นทะเลมานั่งอยู่บนเตียงแล้ว
“เดือนหน้ามีงานโรงเรียน พี่บลูไปดูวงเลเล่นดนตรีนะ" ทะเลยิ้มบอก ดูก็รู้ว่าตื่นเต้น
“ดูก่อน"
“ดูอะไรล่ะ"
“ไม่รู้ ดูก่อน"
“ยังไงก็ต้องไปนะ"
“ถ้าพี่มีเรียนล่ะ"
“ก็โดดสิ ยากอะไร" ผมฟังยิ้มๆไม่รับปาก แล้วทิ้งตัวลงนอนตัก หลับตาให้ทะเลลูบผมเล่น ลูบไปลูบมาก็มากดที่หว่างคิ้วผม
“เป็นอะไรรึเปล่า ทำไมช่วงนี้ดูเครียดๆ"
“เปล่านี่"
“แต่หน้าพี่มันบอกนะ"
“คิดมากน่า"
ทะเลไม่ได้ว่าอะไรต่อ ผมจับมือที่กดหว่างคิ้วมาไว้ตรงอก อยากจะหลับไปทั้งอย่างนี้
กับคนๆนี้ทำไมถึงมีผลต่อจิตใจผมนัก ทะเลจะรู้รึเปล่า มือที่ผมจับมาไว้ตรงอกจะรู้สึกถึงการเต้นของหัวใจที่แรงผิดปกติไหม ทะเลเป็นคนเดียวที่ผมอยากกระทำรุนแรงอย่างถึงที่สุดและอยากจะอ่อนโยนทะนุถนอมอย่างถึงที่สุดเช่นเดียวกัน ทั้งไม่อยากจะให้ใครมายุ่ง เป็นคนที่ผมคิดว่าหากเสียไปโลกของผมก็คงกลับมามืดมิดอีกครั้ง
ใช่ ผมต้องรักษาไว้ ห้ามทำร้ายเด็ดขาด
“พี่บลู...”
“อืมม...”ทะเลเรียกผมเบาๆ ผมก็ครางในลำคอตอบ แต่เห็นทะเลเงียบไปเลยลืมตามอง
“เรียกทำไม"
“เปล่า...เมื่อยขาแล้ว นอนกันเหอะ" ทะเลตอบแบบไม่สบตา ผมลุกขึ้นไปปิดไฟ คืนนั้นเราก็หลับกันไปทั้งๆที่มือประสานกันอย่างเคย
........
เสียงร้องของตูนทำให้ผมล่องลอยได้ชั่วขณะ
ผมบอกได้เลยว่ามันมีจิตวิญญาณอยู่ในนั้น แต่เจ้าตัวอาจไม่รู้ หลังจากเลิกเรียนวันนี้ผมก็ชวนตูนมาห้องซ้อมพร้อมๆกัน มันบอกว่าไม่เคยร้องจริงจังมาก่อนเลยออกจะกังวลที่ต้องมาร้องกับวง ยิ่งมันเป็นคนเงียบๆด้วยแล้วเลยไม่คิดว่าจะเอนเตอร์เทนใครได้ มันก็อาจจะจริงอย่างที่เจ้าตัวบอก...คนอย่างไอ้ตูนเหมาะกับคำว่าหยิ่งของแท้ ทั้งการปรายตามองคนอื่น หน้าเชิด เวลาพูดด้วยบางทีมันก็ไม่ตอบถ้ามันไม่อยากพูด ถึงอย่างนั้นคนก็ยังชอบเข้าหามันและแกล้งให้มันหงุดหงิดอยู่บ่อยๆ
พอมันร้องไปเพลงนึงเราก็เหมือนติดลม อยากฟังมันร้องอีกเลยเล่นให้มันร้องต่ออีกสองสามเพลง ในใจแต่ละคนคงคิดไปต่างๆนานาว่าต้องให้มันเข้าวงให้ได้เพราะแต่ละเพลงที่มันร้องไม่ได้เหมือนต้นฉบับแต่ก็เพราะในแบบของมัน...แบบที่เราต้องการ
“น้องตูนมาอยู่วงเราเถอะ" ไอ้ร็อคที่ไม่ได้มีศิลปะในการชักชวนก็เอ่ยเอาดื้อๆ ผมแอบยิ้มอย่างที่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
“อย่าเรียกว่าน้องตูน"
“ก็น้องชื่อตูนไม่ใช่เหรอครับ"
“ก็เรียกตูนเฉยๆสิ"
“ก็เรียกน้องตูนแล้วดูน่ารักเหมาะกับหน้า..."
“บลู กูไปนะ"
“เฮ้ย ล้อเล่น! เรียกตูนเฉยๆก็ได้ แค่นี้ทำงอน" ตูนปรายตามองนิ่งๆอย่างที่มันชอบทำ ผมรู้ว่ามันเริ่มจะหงุดหงิดมากเลยรีบพูด
“เคยไปดูที่ร้านรึยัง" ผมถาม มันก็ส่ายหน้า
“งั้นวันนี้ไปดูไหมละ จะได้รู้ว่าเป็นไง"
“ก็ได้ แต่มึงต้องไปส่งกูที่หอนะ" ผมพยักหน้าทีนึงเป็นเชิงว่าโอเค พอตกลงกันได้เราก็ไปหาอะไรกินกันแล้วค่อยไปที่ร้าน ไอ้ร็อคดูคึกแปลกๆจากปกติ มันก็ชอบกวนตีนตูนอยู่เรื่อยจนตูนแทบไม่อยากจะมองหน้า ผมว่าถ้าตูนมันจะไม่เข้าวงเราก็เพราะไอ้ร็อคมันนี่แหละ
“มึงอย่าไปกวนตีนไอ้ตูนมันมากสิวะ" ผมบอกไอ้ร็อค เรานั่งสูบบุหรี่หน้าร้านกันสองคนเลยได้โอกาสเตือนมัน
“ก็มันน่าแกล้ง"
“ห่า คิดอะไรกับเพื่อนกู" ไอ้ร็อคมันยิ้มกวนตีน
“ไม่รู้ รู้แต่มันน่ารัก"
“คนคิดอย่างมึงเยอะแยะ"
“จริงเหรอวะ"
“ไม่จริงมั้ง มึงดูหน้ามันเอาเองแล้วกัน"
“กูไม่กวนตีนก็ได้ มึงก็ช่วยพูดให้มันอยู่วงเราให้ได้ละกัน" ผมยิ้มมุมปากกวนตีนยังไม่ตอบมัน
บุหรี่หมดมวนแต่เราก็ยังนั่งอยู่หน้าร้าน ข้างในยังวุ่นวายเตรียมร้านกันอยู่เราเลยยังนั่งตรงนี้ ต่างคนต่างใจลอย เงียบกันอยู่นาน เห็นร็อคมีท่าทีกังวลใจอะไรสักอย่างดูจากสีหน้า ผมเลยตัดสินใจถาม
“มีเรื่องอะไรรึเปล่า" ร็อคจ้องหน้าผมนิ่งเหมือนคิดอะไรบางอย่าง
“กู...รู้เรื่องมึงกับป็อป..."
ผมไม่ตกใจที่มันบอก ใจจริงก็ไม่อยากปิดบังอะไร แต่เรื่องแบบนี้มันพูดลำบากทั้งยังยากเข้าใจ
“ตั้งแต่เมื่อไหร่"
“วันนั้นที่มึงมานอนบ้านกู" ตั้งแต่ครั้งแรก...แต่ร็อคก็ทำเหมือนกับว่าไม่ได้รู้อะไร
“ป็อปไม่รู้ว่ากูรู้หรอก มันไม่เคยพูด แต่มันหายไปบ่อยๆกูก็เดาได้"
“โกรธกูรึเปล่า"
“โกรธทำไมวะ เรื่องของมึงสองคน"
“..........”
“แต่ใช่ว่ากูจะไม่ห่วง กูรู้ว่าป็อปชอบมึง...มาก"
“........”
“หลังๆมาเห็นมันเครียด บางทีก็ร้องไห้ มันเป็นพวกอ่อนไหวง่ายมึงก็รู้ กูไม่อยากยุ่งแต่ก็ห่วงมัน"
“กูกำลังสับสน อยากจะให้มันจบ แต่ก็ไม่รู้จะพูดยังไง"
“มึงเลยหลบหน้ามัน" ผมเงียบไม่ตอบรับอะไรทั้งที่มันคือความจริง
“กูผิดเองที่เป็นคนเริ่มทั้งๆที่ไม่ได้รู้สึกแบบนั้นกับป็อป"
“งั้นมึงก็ควรจะบอกไปให้มันทำใจ ปล่อยค้างคาแบบนี้กูสงสารพี่กู"
ถึงผมจะบอกว่าอยากให้จบแต่มันก็ยังมีบางส่วนที่ไม่สามารถละทิ้งได้โดยสิ้นเชิง ผมกำลังเห็นแก่ตัว เห็นเพื่อนเป็นที่ระบาย ป็อปรับผมได้ทุกอย่างจนผมไม่อาจปล่อยไปอย่างง่ายดาย
ใช่ ผมไม่ใช่คนดี...ไม่ใช่...จนเข้าใกล้คำว่าเลวเต็มที
“พี่บลู" ทะเลลงจากมอเตอร์ไซค์ของก้านเรียกผมให้ตื่นจากความคิด ก้านจอดมอเตอร์ไซค์แล้วก็เดิมตามทะเลเข้ามาหาพวกเรา
คืนนี้วงเราขึ้นเล่นค่อนข้างช้าก็เลยนั่งดื่มกันอยู่หน้าร้าน พอทุกคนในวงมารวมตัวกัน ป็อปก็แนะนำแจ๊สให้รู้จักกับตูนอีกทีแล้วบอกว่าจะมาแทน สองคนนี้เคยเจอกันบ้างที่มหาลัยแต่ก็ไม่เคยคุยกันสักครั้ง แจ๊สก็ดูโอเคที่ได้คนแทนที่ถูกใจพี่ๆสักที ความจริงแจ๊สก็ถือเป็นสัญลักษณ์ของวงเรากลายๆ เพราะความที่ดูแรงและมีเอกลักษณ์ ทำให้ดูเหมาะกับวงแบบนี้ เราเลยคิดกันว่าถ้าได้ตูนมาจะให้แจ๊สมาร้องแจมๆไปก่อนช่วงแรก ถ้าเปลี่ยนคนไปเลยอาจไม่ชินกันทั้งตัวคนดูและตัวนักร้องใหม่ น่าจะปล่อยให้ปรับตัวกันไปก่อน
จนถึงที่สุดแล้วคงทั้งบรรยากาศร้าน คนดู และเพลงที่เล่นทำให้ตูนตัดสินใจตอบตกลงเป็นนักร้องนำของวงเรา หลังจากเราเล่นเสร็จ กว่าจะตกลงให้ใครไปส่งตูนได้ก็เถียงกันอยู่พักใหญ่ เพราะทะเลมาด้วยก็ต้องกลับบ้านพร้อมผมอยู่แล้ว แต่ไอ้ตูนทวงสัญญาที่ผมบอกว่าจะเป็นคนไปส่งมัน ผมเลยบอกให้ทะเลรออยู่นี่ก่อนเดี๋ยวกลับมารับอีกที ก้านก็เสนอตัวขึ้นมาบอกเดี๋ยวไปส่งทะเลเองแต่ผมก็บอกปัด ไอ้ร็อคยืนฟังอยู่ก็อาสาไปส่งตูนให้ผมจะได้ไม่ต้องลำบากไปๆมาๆ ตอนแรกตูนก็ดื้อไม่ยอมไปยืนนิ่งไม่พูดไม่จา แต่สุดท้ายก็ต้องยอมเพราะพวกเรายืนกดดัน ดูจากสายตาที่ตูนมองร็อค ผมคิดว่าถ้าหากไม่มีป็อปกับแจ๊สนั่งไปด้วยไอ้ตูนคงไม่ยอมให้ไปส่งมันอย่างแน่นอน
ผมมองข้างตัวเหลือแค่ผม ทะเล...และก้าน
ตอนนี้ผมอารมณ์กรุ่นๆ ไม่ว่าพยายามแค่ไหนก็ห้ามอารมณ์แบบนี้ไม่เคยได้
แต่จะไม่ให้ผมหงุดหงิดได้ยังไง
ตลอดเวลาที่ผมเล่นอยู่แน่นอนว่าสายตาผมแทบไม่ได้มองที่อื่น ทะเลอยู่ในสายตาผมตลอดแม้กระทั่งตอนที่ก้านจับมือทะเลดึงไปห้องน้ำด้วยกัน ตอนกลับมาจากห้องน้ำก็ยืนซ้อนหลังทะเลคอยกันแขนอยู่ข้างตัวคล้ายจะปกป้อง หรือในอีกแง่ก็เหมือนการแสดงความเป็นเจ้าของ ทำไมทะเลถึงใกล้ชิดกับก้านจนเหมือนเป็นเรื่องเคยชินแบบนั้น ยิ้มนั่นอีก มันทำให้ผมนึกหวั่น...กลัวว่าวันใดวันนึง...ทะเลจะรู้สึกแบบเดียวกับก้าน
เวลาที่ก้านเหลือบมาเห็นผมมองอยู่ก็ยิ้มให้ราวกับจะเยาะเย้ยกัน
ยิ้ม...เหมือนรู้ว่าผมหวั่นใจ
ยิ่งเห็นผมโกรธก้านก็คงจะพอใจ เมื่อรู้แบบนั้นแล้วผมก็ได้แต่ทำตัวปกติด้วยใบหน้านิ่งเฉย
“กลับดีๆ" ทะเลบอกลาก่อนที่ก้านจะกลับบ้านมันไปได้สักที
ผมจับมือของทะเล แล้วจูงมาที่มอเตอร์ไซค์ ทะเลสอดประสานนิ้วเข้ากับมือผม ทะเลชอบทำแบบนี้บ่อยๆระยะหลังมานี้และผมก็ชอบเพราะมันให้ทั้งความอบอุ่นและเป็นดูเป็นการกระทำที่พิเศษกว่าใคร
หวังว่ากับก้านคงไม่เคยทำแบบนี้
ผมคิด และนั่นทำให้ความหงุดหงิดที่มีมาตลอดลดลงจนแทบไม่เหลือ
.......
'ออกมาเจอกันหน่อย ที่เดิม จะรอ'พอกลับถึงบ้านก็เปิดดูข้อความที่ถูกส่งมา ป็อปส่งมาทุกวัน ผมก็ตอบปฏิเสธไปทุกวัน แต่คำพูดของร็อคที่คุยกันทำให้ผมตัดสินใจจะไปเจอป็อปวันนี้ ยังไงก็คงต้องคุย
ทะเลอาบน้ำเรียบร้อยเข้ามาในห้อง เส้นผมเปียกน้ำหมาดๆทำให้ผมเรียกทะเลมานั่งบนเตียงแล้วเช็ดผมให้ ผมนั่งซ้อนหลัง เช็ดไปสายตาก็จดจ้องอยู่ที่ต้นคอ ลมหายใจติดขัดขึ้นมาเมื่อจิตนาการว่าถ้าได้ขบกัดลงไป...จะได้ยินเสียงร้องแบบไหนกัน...
อีกแล้ว...เผลออีกแล้ว
“แห้งแล้ว" ผมบอกแล้วลุกจากเตียง หยิบกระเป๋าตังค์และกุญแจ
“ไปไหนอะ"ทะเลถามมองผมงงๆ
“ไปเอาของ ลืมไว้ในรถไอ้ร็อค"
“รีบใช้เหรอ"
"อืม คงกลับช้า เลไปนอนห้องเลก็ได้"
“ไม่เอา ขอนอนนี่นะ รอพี่บลูกลับมา" ผมยิ้มให้เป็นคำตอบแล้วออกมา
ผมยืนอยู่หน้าห้องมองแสงไฟในห้องที่ลอดใต้ประตู ป็อปคงจะมารออยู่นานแล้ว ผมยังไม่เปิดประตูเข้าไปเพราะไม่รู้ว่าจะพูดกับป็อปยังไง
แต่เหมือนป็อปจะเห็นเงาเท้าผมที่ยืนอยู่หน้าห้องเลยเปิดประตูออกมา เรายืนจ้องกันนิ่ง แม้จะเจอกันช่วงซ้อมหรือเล่นด้วยกันที่ร้านเราก็ไม่ได้คุยอะไรกันสักคำ ผมพยายามหลบสายตาที่ป็อปมองมาตลอดเวลา คราวนี้เมื่อผมจ้องมองเต็มตาก็เข้าใจแล้วว่าทำไมร็อคถึงห่วงพี่มันนัก
สายตาป็อปมันดูเศร้า เหมือนร้องไห้อยู่ข้างใน
ผมดันป็อปเข้าห้องและปิดประตู เรายังคงจ้องกัน ผมยกมือขึ้นลูบหน้าป็อปเบาๆหวังอยากให้คลายความเศร้าลง หากทั้งหมดมันเป็นเพราะผม ผมก็อยากทำให้มันหายไป
“กูไม่น่าพูดออกมา...” ป็อปพูดเสียงสั่น
“ทำเป็นไปได้ยินได้ไหม...แล้วกลับมาเป็นเหมือนเดิม"
“....มัน...คงเป็นเหมือนเดิมไม่ได้" เมื่อผมพูด ป็อปก็โผเข้ากอดผมแน่น
“จะไม่พูดแล้ว ไม่อยากได้ยินก็จะไม่พูดอีก จะนึกถึงใคร พูดชื่อใครก็ได้ ขอแค่มาเจอกันเหมือนเดิม" เสียงสะอื้นดังตามมาหลังจากพูดจบ ผมกอดตอบแล้วลูบหลัง ป็อปก็ยิ่งกอดผมแน่นขึ้น
“กู...ไม่อยากทำมึงเจ็บ"
“ตอนนี้กูก็เจ็บ" น้ำตาที่หยดลงบนไหล่ผมรับรู้คำพูดนั้นของป็อปเป็นอย่างดีจนผมไม่อาจพูดอะไรได้อีก
“บลู...คบกับกูเถอะ ไม่ต้องรักก็ได้ กูจะไม่เรียกร้องอะไร แค่ให้กูจะเป็นตัวแทนของคนที่มึงต้องการ...เหมือนเดิม"
“...นะ" ป็อปละจากอ้อมกอดแล้วจูบผมเบาๆ แววตาร้องขอแวววาวด้วยน้ำตา
ความคิดของผมตีพันกัน ถ้าทำแบบนั้นป็อปจะมีความสุขจริงหรือเปล่า ยอมที่จะมีความสัมพันธ์แบบนี้ ยอมที่จะให้ผมนึกถึงคนอื่น ผมรู้ทั้งรู้ว่าทำแบบนั้นมันผิด ทั้งๆที่ผมไม่ได้รู้สึกแบบเดียวกับป็อป อยากจะจบความสัมพันธ์ที่ก้ำกึ่งเกินเพื่อน แต่ลึกๆในใจผมจริงๆแล้วก็ไม่อาจตัดใจละทิ้งได้
ผมคิดถึงทะเล และก็คิดว่าคงไม่สามารถทำอย่างที่ใจต้องการได้ ไม่ว่าวันนี้หรือวันไหน ผมจะปกป้องทะเลจนกว่าจะได้สิ่งที่ดีที่สุด ไม่ใช่กับผม คนที่ข้างในไม่ได้ใสสะอาด จิตใจที่แหว่งวิ่นแหลกเหลวจากตอนเด็กเป็นอย่างไรก็ยังคงเป็นแบบนั้น มันแหลกละเอียดเกินไปจนไม่อาจหลอมรวมให้เป็นปกติ
ยังไงก็คงเป็นไปไม่ได้
ถ้าหากว่าเป็นป็อปที่ยืนอยู่ตรงหน้าผมคนนี้ คนที่เห็นผมสำคัญ คนที่ยอมนอนกับผมโดยไม่ได้ถอยห่างความร้ายกาจที่ผมกระทำ ซ้ำยังพยายามทำให้ผมมีความสุขในทุกๆครั้ง ในความรู้สึกผมก็ไม่อยากปล่อยไปจริงๆ
ผมสงสัย ในอนาคตผมจะรักเขาได้ไหม
มันคงต้องใช้เวลากว่าจะได้คำตอบนั้น
ผมจูบป็อปแล้วกระซิบติดริมฝีปาก "ก็ได้"
น้ำตาหยดลงมาจากตาคู่นั้นอีกครั้งแต่แววตาไม่ได้เจ็บปวดอย่างที่เคย มันไหวระริกคล้ายดีใจ ผมกระชากเข้ามาบดจูบแล้วผลักลงบนเตียง ความรุนแรงที่ไม่เคยลดลงกลับมีแต่จะเพิ่มขึ้น ร่องรอยขบกัดขึ้นสีจนทั่วตัวและเสียงร้องปานขาดใจ ทำให้รู้ว่ามันเจ็บแค่ไหน
ยิ่งรู้ว่าเจ็บแต่ป็อปก็ไม่ได้ขัดขืนใดๆผมก็ยิ่งได้ใจ ทั้งคิดถึงและเรียกชื่อคนที่ต้องการออกมา
ป็อปเป็นคนเลือกเอง ผมไม่ผิด
มันเป็นข้ออ้างที่ผมใช้ แทนที่จะปล่อยมือผมกลับกระชากป็อปลงมาเจ็บปวดด้วยกัน
คนบางคนรู้ว่าจะต้องเจ็บปวดแต่ก็ยังไม่ตัดใจ...จนถึงที่สุดกว่าจะรู้ตัวก็ปางตาย
ผมกับป็อป เราก็เป็นหนึ่งในนั้น
เมื่อทุกอย่างสิ้นสุด ทุกอย่างรอบตัวเงียบงัน ป็อปหลับไปโดยที่ยังกอดเอวผมอยู่ เนิ่นนานจนแน่ใจว่าหลับสนิทแล้วผมก็ยกแขนป็อปขึ้นพาตัวเองออกมาและตรงกลับบ้าน
มีคนรอผมอยู่
ผมเข้าไปในห้องตัวเองที่ยังไม่ได้ปิดไฟ ทะเลนอนนิ่งหลับไปแล้ว ผมอาบน้ำก่อนที่จะปิดไฟแล้วค่อยๆก้าวขึ้นเตียงไม่อยากให้ทะเลตื่น
“กลับมาแล้วเหรอ" ทะเลที่รู้สึกตัวจากน้ำหนักผมที่นอนลงข้างๆถามเบาๆอย่างงัวเงีย
“อืม นอนเถอะ" ผมบอก กอดทะเลจากด้านหลังแล้วซบหน้าลงแถวๆต้นคอ ทะเลเกร็งตัวจนรู้สึกได้ ผมเลยชักมือออกแต่ทะเลก็เอื้อมคว้ามือผมไปกระชับรอบเอวเหมือนเดิม
ความอ่อนโยนของทะเลและสัมผัสของร่างกายตอนนี้ให้ความรู้สึกเต็มตื้น
แค่นี้ก็พอแล้ว
ผมมีคนสนองความรู้สึกทางจิตใจคนหนึ่ง
มีคนสนองความต้องการทางร่างกายอีกคนหหนึ่ง
ทั้งสองไม่อาจรวมเป็นหนึ่ง
สิ่งที่ผมกำลังทำอยู่...มันเป็นการกระทำของคนเลวใช่หรือเปล่า

Song Titles : Love Will Come Through
Artist : Travis
