ทะเลในโลกสีฟ้า [ 20 ] แจ้งข่าวหน้า 11 (11/11/13)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ทะเลในโลกสีฟ้า [ 20 ] แจ้งข่าวหน้า 11 (11/11/13)  (อ่าน 145411 ครั้ง)

ออฟไลน์ Lovecartoon1996

  • ชอบกินมาม่า
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-2
    • -
Re: ทะเลในโลกสีฟ้า [ 14 ] 25-04-13
«ตอบ #180 เมื่อ27-04-2013 23:53:40 »

เห็นด้วยกับรีบน

คนเขียนสู้ๆฮ้าบบบบ

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
Re: ทะเลในโลกสีฟ้า [ 14 ] 25-04-13
«ตอบ #181 เมื่อ28-04-2013 21:47:57 »

ตายไปเลย ตู T.T

ออฟไลน์ สักวัน

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 27
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-0
Re: ทะเลในโลกสีฟ้า [ 15 ] 02-05-13
«ตอบ #182 เมื่อ02-05-2013 23:18:18 »

-15-
Stand by Me

http://www.youtube.com/v/8gz0GtVmlvw?hl=en_US&version=3


นานแล้วที่ผมไม่ได้รู้สึกอะไรกับแสงไฟสลัวของร้านยามคำ่คืน แต่เวลานี้ผมกลับรู้สึก

เพราะได้เจอผู้หญิงคนนั้น...

“เมาแล้วมึง จะกลับไหวไหมวะ" ร็อคพูดแข่งกับเสียงเพลง ทะเลก็มองเหมือนอยากจะห้ามแต่ก็ไม่ได้เอ่ยปาก ผมยืนซ้อนหลังกอดทะเลเอาไว้มือหนึ่ง อีกมือก็ยกแก้วขึ้นดื่มไม่สนใจเสียงห้ามปรามของเพื่อน

ผมไม่ใช่คนที่ชอบดื่มจนถึงขั้นไร้สติแต่สำหรับวันนี้ผมกลับใช้มันเพื่อที่จะได้ไม่มีสติรับรู้ แม้จะบอกตัวเองว่าไม่ได้คิดอะไรแต่ทุกอย่างมันยังชัดเจนในความรู้สึก ผมไม่เคยจะพูดถึงเรื่องเก่าๆกับใคร เหตุผลง่ายๆแค่อยากเก็บมันเอาไว้ให้ลึกที่สุด หวังให้มันอยู่ตรงนั้นโดยที่ไม่ทำร้ายความรู้สึกของผมอีก แต่คำว่าลึกที่สุดไม่ได้แปลว่าเราจะสามารถลืมมันได้ คำว่าลึกที่สุดของผมคือเรื่องที่ฝังใจที่สุด ยากที่จะลืมเลือนที่สุด

น่าแปลกที่เรื่องที่อยู่ลึกที่สุดของผมนั้นเป็นเรื่องของแม่ ไม่ใช่เรื่องร้ายๆที่ผมเคยเจอ ผมมีความรู้สึกขัดแย้งมากมายกับแม่ บอกไม่ได้ว่ารัก แต่ก็บอกไม่ได้ว่าเกลียด มันทำให้ผมสับสนรวดร้าวอยู่เพียงลำพังมาโดยตลอด

การที่เจอกันอีกครั้งทำให้ความทรงจำเก่าๆหลั่งไหลเข้ามา จำความอึดอัดยามที่เห็นแม่เอาใจคนอื่น ใจดีกับคนอื่นที่ไม่ใช่ผมได้ และยิ่งจำได้ว่าแม่พยายามทำให้พี่หญิงพอใจด้วยการยกผมให้ไปทำเรื่องแบบนั้นได้ง่ายๆ

ผมจำความรู้สึกเหล่านั้นได้ดี ไม่ใช่แค่ไม่เคยให้ความรัก...แต่แม่ยังเป็นคนผลักไส...เป็นคนที่ยืนมองผมทุกข์ทรมานด้วยสายตาไม่รู้สึกรู้สา

ไม่มีเหตุผลสมควรที่ผมจะรักหรือมีเยื่อใย...แต่ผมก็มี
ผมมีหัวใจ...แต่แม่ไม่มีหัวใจ

นั่นจึงเป็นสิ่งที่ทำให้ผมเจ็บปวด

“เดี๋ยวเลขับกลับดีกว่า" ทะเลพูดกับผมขณะที่เราเดินไปที่มอเตอร์ไซค์ เพื่อนๆทุกคนพร้อมใจกันกลับเพื่อที่จะให้ผมหยุดดื่ม สติผมไม่ได้ครบถ้วน แต่ก็รับรู้ความเป็นไป ยิ่งไปกว่านั้นแทนที่แอลกอฮอล์จะทำให้ผมลืมอะไรๆไปได้มันกลับทำให้ทุกๆอย่างที่พยายามเก็บเอาไว้ชัดเจนกว่าเดิมขึ้นหลายเท่า สติที่น้อยลงทำให้ผมยากที่จะทัดทานความคิดที่หลั่งไหลออกมา

“กลับดีๆนะ เลดูไอ้บลูมันด้วย เห็นแบบนี้มันเมาแทบจะไม่รู้เรื่องแล้ว" เสียงร็อคพูด
“ครับ ไม่ต้องห่วง พี่ร็อคก็ขับรถดีๆนะ" พอเพื่อนแยกไปแล้ว เลก็สตาร์ทรถพาผมกลับบ้าน ผมซบหน้าอยู่ที่ซอกคอของทะเลอยู่ตลอดเวลา ไม่บ่อยนักที่ผมจะเป็นคนซ้อนผมจึงใช้เวลานี้คลอเคลียอยู่ไม่ห่าง

เราถึงบ้านเป็นเวลาที่เพิ่งจะล่วงเข้าวันใหม่ รอบบ้านเงียบเชียบมืดสนิทผมเลยไม่สนใจอะไรนอกจากคนตรงหน้า อารมณ์เริ่มปะทุขึ้นมาตั้งแต่ที่ได้ซุกไซร้อยู่ระหว่างทางทำให้ผมอดไม่ได้ที่จะดึงทะเลเข้ามาจูบตั้งแต่ลงจากรถ ทะเลตอบสนองเพียงเล็กน้อยแล้วพยายามพาผมเข้าบ้าน  ตลอดทางขึ้นห้องเป็นไปอย่างลำบากเพราะผมไม่ให้ความร่วมมือ กอดเกี่ยวทะเลเอาไว้กับตัวแล้วพรมจูบลงไปตามใจอยาก

“พี่บลูขึ้นห้องก่อน" ทะเลพูดแล้วยันตัวผมออก เมื่อเห็นอย่างนั้นผมก็รีบฉุดทะเลขึ้นห้อง อารมณ์ตอนนี้มากมายเกินต้านทานไหว ผมรู้ดีว่ากำลังรักษาแผลใจด้วยวิธีเดิม  แม้รู้แต่สติอันน้อยนิดทำให้ความคิดที่จะหยุดไม่มีอยู่ในหัว

ผมกระแทกตัวทะเลกับประตูห้องทันทีที่ประตูปิดลง จูบครั้งนี้ทะเลตอบสนองผมอย่างร้อนแรงเพียงกัน ผมปลดทุกอย่างออกด้วยความเร่งร้อน เมื่อแทบจะไม่มีสิ่งใดขวางกั้นผมก็ยกตัวทะเลขึ้น ทะเลเกี่ยวขาเข้ารอบเอวผมโดยที่ริมฝีปากยังไม่ผละออกจากกัน ผมพาเราทั้งคู่ทิ้งตัวลงบนเตียง เริ่มขบกัดอย่างที่ชอบทำ เสียงของทะเลที่ออกมาจากลำคอแทบทำให้อุณหภูมิในร่างกายถึงจุดเดือด

ทะเลนอนหอบหายใจแรงบิดตัวไปมาทุกครั้งที่ผมขบกัดแล้วไล้เลียรอยแผล เมื่อร่อยรอยปรากฎจนผมพอใจแล้วจึงเงยหน้าจ้องมอง เราสบตากันในความมืด ผมไล้นิ้วไปมาที่ปากของทะเลก่อนจะสอดนิ้วเข้าไปข้างในแล้วบอกให้ทะเลดูดมัน สัมผัสของลิ้น แรงดูด และสีหน้าที่เหมือนฝืนใจของทะเลทำให้ความรู้สึกตรงนั้นทรมานด้วยความต้องการ ผมจ้องมองภาพตรงหน้า...ปล่อยให้ความทรมานดำเนินไปสักพักแล้วค่อยดึงนิ้วตัวเองออกมาเพื่อกดเข้าไปอีกที่หนึ่ง ทะเลพยายามถดตัวหนีเหมือนกลัวสัมผัสเจ็บปวดที่เคยเจอแต่ผมจับดึงเอาไว้ไม่ให้ถอยหนี

“...เจ็บ" ผมทนไม่ไหวแทนที่ตัวผมเองเข้าไปแทนนิ้วทะเลก็ร้องออกมา การดิ้นรนขัดขืนของทะเลมากขึ้นทุกทีที่ผมพยายามเข้าไป ผมไม่รู้ว่าถ้าหากเป็นผมที่สติครบสมบูรณ์ยังจะคงทำต่อไปหรือเปล่า แต่ตอนนี้ไม่มีความคิดนั้น เพราะทุกความรู้สึกนึกคิดและตัวตนที่ผมเก็บกดเอาไว้กำลังเปิดเผยตัวตนออกมา

“พี่บลู...เลเจ็บ...หยุดเถอะ" ผมชอบท่าทางเจ็บปวดและแววตาอ้อนวอนของทะเลในตอนนี้ มันทำให้ผมพอใจอยู่ลึกๆอย่างไม่สมควร

ผมกดตรึงข้อมือทั้งสองข้างของทะเลไว้กับเตียงแล้วกดกายลงไปพลางมองสีหน้าคนที่ผมรัก น้ำตาไหลออกมาจากดวงตาที่มองสบผม มันเป็นสีหน้าทรมานที่ผมเคยนึกฝัน

“รู้ไหม...ว่าพี่ชอบเห็นเลร้องไห้...” ผมบอกแล้วเลียคราบน้ำตาบนใบหน้าของทะเล เพียงเสี้ยววิที่ผมเห็นแววตาหวาดกลัวของทะเล...

เป็นแววตาที่แสดงหวาดกลัวถึงขั้วหัวใจ

ผมเริ่มขยับกายเป็นจังหวะหนักหน่วงขึ้น กำรอบข้อมือที่พยายามขัดขืนของทะเลเอาไว้ เมื่อไม่มีท่าทีว่าผมจะหยุดลงซ้ำยังรุนแรงขึ้นเรื่อยๆทะเลก็เริ่มสะอื้นไห้อ้อนวอนผม

“เลไม่ไหวแล้ว...พี่บลู...ไม่ไหว...” ผมยิ้มให้กับคำขอที่เปล่าประโยชน์ของทะเลแล้วปล่อยมือข้างหนึ่งออกมากดปิดปากทะเลไว้

เสียงร้องของทะเลครางเครืออยู่ให้ลำคอขณะที่ผมกระแทกตัวหนัก น้ำตาทะลักทลายออกมาจากสองตาบ่งบอกความเจ็บปวดทั้งหมด

ความดิบเถื่อนในตัวผมถูกระเบิดออกมาจากสติที่เลือนหาย ครั้งนี้ทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นตัวตนของผม เงามืดในจิตใจผม ความเจ็บปวดของผม...ทะเลได้รับรู้มันทั้งหมด

หลังจากนี้ก็อยู่ที่ว่าทะเลจะรับมันไหวไหม...กับด้านนี้ของผม
จะรักผมมากพอไหม...ที่จะมองข้ามมันไป

“เรียกชื่อพี่สิ" ผมพูดออกมาเบาๆ เมื่อเอามือที่ปิดปากทะเลออกทะเลก็พูดชื่อผมออกมาตามที่ผมร้องขอ เสียงสั่นๆที่เรียกย้ำๆทำให้ผมรู้สึกปั่นป่วนไปหมด

ครั้งแรกของเรากับครั้งนี้แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงเพราะผมไม่อาจหยุดได้ง่ายๆ เมื่อทะเลหมดแรงขัดขืนก็ปล่อยให้ผมกระทำตามใจ ทะเลหลับตาแน่น กดเล็บฝังลงในเนื้อของผมระบายความเจ็บปวด

เนิ่นนานจนสิ้นสุด...ผมทิ้งตัวลงกอดทะเลเอาไว้...แล้วปล่อยให้ตัวเองพูดสิ่งที่เก็บเอาไว้ในใจออกไป

“ถ้ารักพี่...อย่าทิ้งพี่ไป...”

"อย่าทิ้งพี่...เหมือนกับแม่..."



ก่อนสิ้นสติสุดท้าย...ผมรับรู้ถึงแรงกอดรัดโดยปราศจากคำพูดใดๆ

...

เสียงเคาะห้องทำให้ผมลืมตา

ความรู้สึกปวดตึบในหัวทำให้ผมลุกไม่ขึ้น ได้แต่ส่งเสียงขานรับออกไป

“ครับ"
“เลอยู่ในนั้นรึเปล่า สายแล้วนะลูก"
“อยู่ครับ แต่ยังไม่ตื่น เดี๋ยวผมปลุกแล้วรีบไปส่งน้องเอง" ผมตะโกนบอกออกไปทำให้ทะเลรู้สึกตัวตื่นขึ้นมา ทะเลนอนปรือตาด้วยสีหน้าอ่อนล้า ความทรงจำของเมื่อคืนที่ฉายซ้ำในหัวผมทำให้ต้องถามออกมาอย่างเป็นห่วง
“เลไหวไหม ถ้าไม่ไหวไม่ต้องไปก็ได้ เดี๋ยวพี่บอกน้าเพลงเอง"
“ไหว...”เลบอกแล้วพยายามลุกขึ้น จากสีหน้าก็รู้ว่าทะเลฝืนอยู่ ผมมองท่าทางนั้นก่อนช่วยพาไปห้องน้ำ

หลังจากนั้นก็ไม่มีบทสนทนาระหว่าเรา ตลอดเวลาผมได้แต่ลอบมองปฎิกิริยาของทะเล กลัวเหลือเกินว่าเหตุการณ์เมื่อคืนจะทำให้ทะเลหวาดกลัวผม  ผมคิดมากไปถึงว่ากลัวที่ทะเลจะอยากหยุดความสัมพันธ์ของเรา

ผมจมอยู่ในความคิด ทะเลก็ไม่ได้เอ่ยปาก
เราปล่อยให้เป็นแบบนั้น จนกระทั่งถึงหน้าโรงเรียน ทะเลหันหลังคิดจะจากไปโดยไม่มีคำบอกลาทำให้ผมต้องคว้าแขนทะเลไว้

“เดี๋ยวเย็นนี้มารับ"

ทะเลยิ้มบางๆพยักหน้าตอบคำพูดของผมแล้วเดินเข้าโรงเรียนไป จากท่าทางแบบนั้นทำให้ผมเริ่มกังวลมากขึ้น กังวลว่าที่สุดแล้วความสุขที่ผมได้มา...มันจะจบลงในช่วงเวลาแค่สั้นๆ

...

เรียนไม่รู้เรื่อง...

ผมนั่งเรียนช่วงเช้าด้วยอาการมึนหัวอยู่ตลอด จนแล้วจนรอดก็ทนไม่ไหวต้องกลับบ้านก่อนที่จะเข้าเรียนช่วงบ่าย ด้วยความที่ดื่มมากกว่าปกติหลายเท่าบวกกับความเครียดและสภาวะทางอารมณ์ทำให้พิษไข้ค่อยๆแสดงอาการ

ก่อนที่จะทิ้งตัวลงนอนผมตั้งนาฬิกาปลุกเอาไว้เพื่อไปรับทะเล เมื่อหลับตาลงทุกอย่างในร่างกายก็เหมือนหยุดทำงาน ผมหลับลึก เวลาเคลื่อนผ่านไปนานในความรู้สึกเมื่อลืมตาขึ้นมาอีกครั้งก็เห็นแสงสลัวของพระอาทิตย์ในตอนเย็นที่ลอดผ่านหน้าต่างเข้ามา อาการปวดหัวยังไม่ทุเลาลงแต่กลับเพิ่มขึ้น ผมหันกลับพลิกตัวไปอีกทางก็เห็นทะเลนอนหลับอยู่ข้างๆผม

ทะเลกลับมาแล้ว...

ผมไม่ได้ยินเสียงปลุกที่ตั้งไว้ หรืออาจได้ยินแต่กดปิดมันโดยที่ไม่รู้สึกตัว แม้จะยังมึนๆอยู่ก็ยังรู้สึกหงุดหงิดตัวเองขึ้นมาที่ปล่อยให้ทะเลรอจนต้องกลับมาเอง 

ในห้องเงียบๆ ผมได้แต่นอนมองทะเลอยู่อย่างนั้นเพราะไม่สามารถลุกขึ้นได้ ร่างกายหนักอึ้งสิ้นเรี่ยวแรง อาการทางร่างกายเหมือนจะส่งผมไปถึงจิตใจ ไม่รู้ว่าความอ่อนแอมาจากไหนอยู่ๆถึงทำให้ผมอยากร้องไห้...แค่เห็นทะเลน้ำตาผมก็ไหลออกมา...รู้สึกปวดใจกับทุกสิ่งทุกอย่าง เรื่องที่ปกติแล้วแกล้งทำลืมไป คอยระวังระไวไม่ให้มันเข้ามาในความคิด...มันกำลังย้อนกลับมา

ตอนนี้ผมรู้สึกเกลียดตัวเอง เกลียดทุกอย่างที่เป็น เกลียดทุกอย่างที่เจอ

มันทำให้ผมเป็นคนที่ไม่คู่ควรกับคนตรงหน้า

อารมณ์ที่กลั่นออกมาเป็นน้ำตาทำให้ต้องกลั้นก้อนสะอื้นเอาไว้  แต่ถึงจะไม่มีเสียงใดเล็ดลอดออกมาทะเลก็ยังรู้สึกตัวตื่น
“พี่บลูร้องไห้ทำไม...ปวดหัวเหรอ...บอกเลสิ" ทะเลบอกด้วยสายตาเป็นห่วง ผมพูดอะไรไม่ออก ได้แต่ปล่อยให้ตัวเองอยู่ในสภาพอ่อนแอถึงขีดสุด
“เดี๋ยวเลไปเอายามาให้นะ" ทะเลรีบลุกออกไปจากห้องแล้วกลับเข้ามาอย่างรวดเร็ว ผมรับยามากินอย่างว่าง่ายเมื่อทะเลยื่นมาให้ถึงปากแล้วดื่มน้ำตาม

ทะเลนั่งอยู่ข้างๆเตียงมองผมด้วยสายตาอ่านยาก ตอนนี้ผมคิดอะไรไม่ออก ปวดหัวจนต้องหลับตาลง ภายในห้องเงียบเชียบจนผมใกล้หลับ แต่เมื่อผมได้ยินเสียงทะเลลุกขึ้นจึงต้องฝืนลืมตาขึ้นอีกครั้ง

“อย่าไปไหน...”
"พี่ไม่อยากให้เลไปไหน..."

คำพูดผมทำให้ทะเลหันกลับมา...ทะเลเดินเข้ามาหา ดึงผ้าห่มที่ยับย่นปลายเตียงขึ้นมาห่มให้ผมแล้วสอดตัวลงนอนข้างๆ ทะเลพลิกตัวเข้าหาผม...วาดแขนโอบกอดเข้าชิดแล้วพูดเบาๆ

“เลไม่ได้จะทิ้งพี่บลูไปไหน...ไม่เคยคิดจะทิ้ง"

ทะเลพูดเหมือนรู้สิ่งที่ผมกลัว มือก็ลูบหลังผมเบาๆเหมือนปลอบเด็กเล็กๆ ผมหลับตาลงอีกครั้งด้วยความอุ่นใจและกอดทะเลแน่นเข้า

ความคิดทั้งหมดหยุดลง...
ขณะที่อยู่ในอ้อมกอดนี้...ไม่มีอะไรที่จะทำร้ายผมได้อีกแล้ว

...

หลังจากวันนั้นใช้เวลาสามสี่วันกว่าที่ผมจะหายดี ผมนอนซมอยู่บนเตียงแทบไม่ได้ลุกไปไหน มีทะเลคอยปลุกให้กินข้าวกินยาตามเวลา อารมณ์ผมไม่คงที่อยู่หลายๆครั้งที่รู้สึกตัว และก็เหมือนเดิมที่ทะเลต้องปลอบให้้เข้ารูปเข้ารอย...

วันนี้เมื่อพิษไข้ซาไปมากแล้วผมก็ลุกจากเตียงลงมากินข้าวเพราะรู้สึกอยากอาหาร ช่วงบ่ายนี้ไม่มีใครอยู่บ้าน มีแต่พี่ๆที่อู่ที่ทำงานกันอยู่ น้าวิทย์คงจะไปธุระข้างนอก ผมมองนาฬิกาก็เห็นว่าอีกไม่นานทะเลคงจะกลับมาเลยฝากพี่ๆให้บอกทะเลว่าผมอยู่ที่หาด

ผมหยิบบุหรี่ติดมือมาด้วยเพราะความอยาก เมื่อนั่งลงบนทรายและจุดไฟแช็คที่ปลายมวนก็ให้ความรู้สึกสดชื่นขึ้นมาบ้าง ผมมองภาพทิวทัศน์เหมือนเดิมๆที่ไม่เคยเบื่อ แม้สีของทะเลจะไม่ได้งดงามจับใจแต่ผมก็ชอบที่มันเป็นแบบนี้ ชอบฟังเสียงคลื่นและบรรยากาศอย่างที่มันเป็น

ผมขยี้ก้นบุหรี่ลงบนทรายข้างตัวแล้วนั่งทอดอารมณ์อยู่อย่างนั้นเพียงไม่นานทะเลก็มานั่งลงเคียงข้าง สิ่งที่ทะเลทำอันดับแรกที่มาถึงคือเอามือมาวางบนหน้าผาก จากนั้นค่อยถามขึ้น

“กินยาแล้วใช่ไหม"
“หายแล้ว"
“ไม่ได้กินอีกล่ะสิ...รอนี่เดี๋ยวเลไปเอาให้"
“ไม่ต้องหรอก หายแล้วจริงๆ" ผมจับมือทะเลไว้ไม่ให้ลุกขึ้น

ไม่มีใครพูดอะไรหลังจากนั้น เรามองออกไปในท้องทะเลที่กว้างไกลสุดสายตา มือของเรายังจับกันไว้ไม่มีใครดึงออก

“ผู้หญิงที่มาที่บ้านเมื่อวันก่อน...ใช่แม่ของพี่บลูรึเปล่า" ทะเลถามเบาๆแต่ผมก็ได้ยินชัดเจน ที่ทะเลสงสัยอาจเป็นเพราะการกระทำที่ดูแปลกไปของผมหลังจากที่เจอแม่ ผมเงียบทิ้งช่วงเรียบเรียงความคิด ไม่แน่ใจว่าควรจะบอกทะเลไหม หรือถ้าบอกต้องเริ่มจากตรงไหน

“ใช่" ผมเลือกตอบแค่สั้นๆ ไม่ขยายความมากกว่านั้น
“เลไม่เคยเจอเลย...”
“........”
“พี่บลูไม่เห็นเคยพูดถึงแม่...หรือเรื่องก่อนหน้าที่จะมาอยู่กับครอบครัวเรา...เลอยากถามหลายครั้ง อยากรู้เรื่องของพี่ อยากให้พี่เล่าให้ฟัง...แต่พี่ก็ไม่เคยพูด"
“มันไม่ใช่เรื่องที่น่าฟัง"
“ถ้าเป็นเรื่องของพี่บลู...เลอยากฟัง..."

ผมครุ่นคิดตามที่ทะเลร้องขอ คิดว่ามันจะเกิดผลดีขึ้นไหมถ้าทะเลจะรับรู้ถึงเรื่องที่ผ่านมา รู้ถึงอดีตทุกๆอย่างของผม ผมว่ามันดำมืดเกินไปไม่สมควรที่ทะเลจะต้องรู้เรื่องแบบนั้น...แต่ในอีกใจผมก็อยากให้ทะเลเข้าใจในตัวผม เข้าใจทุกอย่างที่ผมเป็น

สายตาทะเลที่มองผมสะท้อนความรู้สึกตามคำพูด ยากนักที่จะปฎิเสธแววตาแบบนี้ ผมเสมองไปทางอื่นยังไม่อาจพูดอะไรออกไป

“...แต่พี่บลูไม่อยากเล่าก็ไม่เป็นไร"

ผมกระชับมือทะเลให้ลุกขึ้นแล้วพาไปเดินเลียบชายหาดด้วยกัน เท้าของเราสัมผัสน้ำเป็นครั้งคราวจากคลื่นที่ซัดขึ้นมา แม้จะเดินมาไกลมากแล้วก็ตาม ทะเลก็ยังจับมือกันเดินเคียงข้างอย่างอดทนในความเงียบของผม

จนในที่สุดผมก็เริ่มพูดออกมา

“เลจำตอนที่พี่มาอยู่ด้วยใหม่ๆได้ไหม"
“จำได้สิ จำได้ด้วยว่าพี่ไม่ยอมพูดกับเล"
“ตอนนั้นพี่เกลียดเล...ทั้งเกลียด ทั้งอิจฉา..."
“.........”
“พี่คิดว่าโลกนี้มันไม่ยุติธรรม ทำไมเลถึงมีครบทุกอย่าง...มีในสิ่งที่พี่ไม่มี มีพ่อมีแม่ มีคนคอยห่วงคอยตามใจ...พี่คิดแต่ว่าทำไมถึงไม่มีพ่อแม่แบบน้าวิทย์กับน้าเพลง..."

“ทำไม...พี่ถึงมีแม่เป็นผู้หญิงขายตัว...”

ผมเว้นช่วงสักพักแล้วจากนั้นก็เริ่มเล่ายาวต่อเนื่องไปเรื่อยๆ เล่าตั้งแต่จำความได้ว่าอยู่ที่ไหน อยู่กับใคร อยู่ในสภาพแวดล้อมแบบไหน ทะเลรับฟังเงียบเชียบแต่ก็รู้ว่าตั้งใจฟังทุกอย่างที่ผมพูด เมื่อถึงตอนที่ผมถูกส่งไปให้ฝรั่งทะเลก็บีบมือผมแน่น ผมเล่าไปด้วยอารมณ์ที่อัดอั้น เป็นครั้งแรกที่ได้บอกความรู้สึกนั้นกับใครสักคนออกมาเป็นคำพูดไม่ใช่การกระทำ

ผมเลือกที่จะบอกแล้ว...และก็บอกออกมาทั้งหมด

ไม่รู้ว่าผมคิดผิดหรือเปล่าที่ให้ทะเลรับรู้...ทะเลน้ำตาไหลลงมาเงียบๆขณะที่ฟังเรื่องราวของผม ผมไม่ได้อยากให้ทะเลสงสารหรือเศร้าเสียใจไปกับมัน...ไม่ได้อยากเห็นทะเลทุกข์ไปกับอดีตของผม...แต่มันก็ช่วยไม่ได้...ผมรู้อยู่แก่ใจว่าทะเลเป็นคนยังไง ทะเลโตมากับผม โตมากับด้านที่สวยงาม เมื่อต้องมารับฟังอีกด้านนึงที่ผมเก็บไว้ก็ช่วยไม่ได้ที่จะรู้สึกว่าสะเทือนจิตใจมากกว่าตัวผมที่เป็นคนเล่า

แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะรู้สึกแบบทะเล รู้สึกสงสารผม...สังคมที่ผมเคยอยู่ต่างรายล้อมด้วยผู้คนที่เหมาะกับสถานที่นั้นๆ...พวกคนที่มีพื้นที่ในหัวใจเพียงน้อยนิดสามารถอยู่ในที่แบบนั้นได้อย่างมีความสุข บางทีมันอาจดีถ้าผมมีความคิดแบบคนพวกนั้น จะได้ไม่ต้องคร่ำครวญเจ็บปวดให้ดูน่าสมเพชอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้...

“เลเชื่อไหมว่าวันนั้นแม่พี่ชวนไปอยู่ด้วยกัน แค่พูดแค่นั้นก็รู้แล้วว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ได้เปลี่ยนไปเลย...ไม่เคยคิดถึงอะไรเลยนอกจากตัวเอง"

ทะเลยังคงไม่พูดอะไรเมื่อผมเล่าจบ ผมพาทะเลกลับเข้าบ้านเมื่อพระอาทิตย์ตกดิน ทะเลเดินตามมาเงียบๆจนถึงบนห้อง สีหน้ามีแต่ความหม่นหมอง เมื่ออยู่ในที่ลับตาคนผมจึงกอดทะเลเอาไว้แล้วพูดปลอบเพื่อให้ทะเลสบายใจ

“ทุกอย่างที่เล่ามันผ่านไปหมดแล้ว ผ่านไปนานมากแล้ว"
“.......”
“แค่รู้เอาไว้ แต่อย่าไปคิดถึงมัน"

ทะเลพยักหน้ารับกับบ่าของผม ผมรู้สึกได้ถึงความชื้นของน้ำตาทะเลผ่านเสื้อ ทะเลร้องไห้อยู่นานหลังจากนั้นโดยมีผมเป็นคนปลอบ แต่เมื่อยิ่งปลอบทะเลกลับจะร้องไห้หนักขึ้นผมเลยได้แต่กอดอยู่เฉยๆให้ทะเลปล่อยอารมณ์ออกมา ผมอยากให้ทะเลปล่อยออกมาให้หมดไม่ให้มันตกค้างในใจอีกต่อไป

ทะเลพร่ำบอกรักผมและบอกว่าเขาจะไม่ทิ้งผมไปทั้งน้ำตา

ผมรู้สึกได้ถึงความรักของทะเลที่มากมายจากทั้งคำพูดและการกระทำ ทำให้ผมไม่นึกเสียใจที่บอกทุกอย่างออกไป

ผมหวังให้อะไรๆนับจากนี้มันดีขึ้น...ให้มันดีมากพอที่จะลบเรื่องร้ายๆที่ฝังใจ

ตราบใดที่ยังมีทะเลอยู่ผมก็สามารถใช้ชีวิตต่อไปได้
ผมคิดถึงอนาคตที่มีแต่ทะเล...ไม่ได้คิดถึงอนาคตหากที่ไม่มีทะเล

ไม่ได้คิดถึงความไม่แน่นอนตรงนั้น...

ผมฝันเฟื่องถึงแต่ความสุข...มัวเมาไปกับความรัก
อย่างน้อยๆก็ทำให้ผมเป็นสุขได้

แม้จะเป็นเพียงช่วงสั้นๆ...แค่ชั่วขณะหนึ่งก็ตาม




Song Titles : Stand By Me
Artist :  Oasis


 :เฮ้อ:  :pig4:


ออฟไลน์ iamew

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0
Re: ทะเลในโลกสีฟ้า [ 15 ] 02-05-13
«ตอบ #183 เมื่อ03-05-2013 02:11:20 »

อึดอัดๆ รู้สึกเหมือนว่ามันยังเศร้าไม่หมด เหมือนกับว่าอนาคตเรายังต้องเศร้าไปกับบลูมากขึ้นๆ

อยากเห็นบลูมีความสุขจริงๆ บ้าง เพราะจนตอนนี้ก็ยังรู้สึกคล้ายกับบลูกำลังใช้ถังอ็อกซิเจนอยู่ไต้ทะเล
รอว่าเมื่อไหร่อากาศหมดบลูคงตายอยู่ไต้ท้องทะเลอันกว้างใหญ่นั้นแน่

ออฟไลน์ ammamooty

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1056
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-2
Re: ทะเลในโลกสีฟ้า [ 15 ] 02-05-13
«ตอบ #184 เมื่อ03-05-2013 11:10:29 »

อ่าาดีแล้วบลูที่เล่าให้ทะเลฟังนะ
อ่านดูแล้วเหมือนจะหมดดราม่าแต่คงจะไม่และเหมือนจะมีต่อไปเรื่อยๆ แง้.

สงสารอะ

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
Re: ทะเลในโลกสีฟ้า [ 15 ] 02-05-13
«ตอบ #185 เมื่อ03-05-2013 11:41:18 »

เหมือนทะเลเป็นความหวังทั้งหมดของบลู แล้วถ้ามันไม่เป็นไปตามนั้นหละ ไม่อยากจะนึก

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
Re: ทะเลในโลกสีฟ้า [ 15 ] 02-05-13
«ตอบ #186 เมื่อ03-05-2013 14:58:46 »

ในที่สุดก้อได้ระบายอารายออกมามั่งเนอะ บลู
ก้อหวังแต่ว่ามันจะช่วยให้เเผลในใจ ไม่เหวอะหวะไปกว่าเดิม

ออฟไลน์ AGALIGO

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 310
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-4
Re: ทะเลในโลกสีฟ้า [ 15 ] 02-05-13
«ตอบ #187 เมื่อ03-05-2013 17:39:05 »


“ทุกอย่างที่เล่ามันผ่านไปหมดแล้ว ผ่านไปนานมากแล้ว"

“แค่รู้เอาไว้ แต่อย่าไปคิดถึงมัน"

แทนที่จะบอกน้อง---น่าจะบอกตัวเองดีกว่าไหม
จะได้ไม่ต้องทำร้ายร่างกายน้องอีกเพราะน้องไม่ใช่ที่ระบายอารมณ์
รู้ทั้งรู้ว่ามันเจ็บแค่ไหนเพราะบลูก็เคยโดนมาก่อนแต่กลับมาทำกับน้อง
ตัวเองยังไม่ชอบเลยแต่ก็ทำกับคนอื่นแบบที่เคยโดนกระทำมาในอดีต
คนที่มีปัญหาและต้องได้รับการรักษาน่ะคือตัวเอง---ไม่ใช่คนอื่น
ไม่ต้องให้คนอื่นมาเข้าใจหรอก---แค่จัดการกับตัวเองอย่าให้ไปทำร้ายคนอื่นอีกก็พอ

+ เป็ดจ้า

ออฟไลน์ -west-

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1875/-12
    • FACEBOOK PAGE
Re: ทะเลในโลกสีฟ้า [ 15 ] 02-05-13
«ตอบ #188 เมื่อ03-05-2013 18:58:07 »

เลน่ารักมาก

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
Re: ทะเลในโลกสีฟ้า [ 15 ] 02-05-13
«ตอบ #189 เมื่อ03-05-2013 21:11:47 »

บรรทัดสุดท้าย ทำให้หวาดผวากับตอนต่อไปตลอดเลยนะคะ :mew5:
แต่พี่บลูคิดอย่างนั้นก็ดีนะ มันไม่บั่นทอนกำลังใจตัวเองดีค่ะ มองโลกในแง่ดีเข้าไว้นะคะ :กอด1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ทะเลในโลกสีฟ้า [ 15 ] 02-05-13
« ตอบ #189 เมื่อ: 03-05-2013 21:11:47 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ smmikie

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-1
Re: ทะเลในโลกสีฟ้า [ 15 ] 02-05-13
«ตอบ #190 เมื่อ03-05-2013 22:18:23 »

ทำไมยิ่งอ่านยิ่งอึดอัดดดดดดด

 :katai5: :katai5: :katai5:
 :ling3: :ling3: :ling3:



ออฟไลน์ Lovecartoon1996

  • ชอบกินมาม่า
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-2
    • -
Re: ทะเลในโลกสีฟ้า [ 15 ] 02-05-13
«ตอบ #191 เมื่อ04-05-2013 21:06:48 »

ความสุขมักสั้นเสมอ
 :katai1: :katai1: :katai1:
คนเขียนสู้ๆจ้า :L2:

ออฟไลน์ สักวัน

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 27
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-0
Re: ทะเลในโลกสีฟ้า [ 15 ] 02-05-13
«ตอบ #192 เมื่อ09-05-2013 03:50:52 »

-16-
Run

http://www.youtube.com/v/gLMyBBZmL2M?hl=en_US&version=3

ผมมองภาพตรงหน้าด้วยความสงสัย
จากการพบเจอธรรมดาๆหลายๆครั้งผมก็เริ่มสังเกตการกระทำของผู้ชายคนนี้มากขึ้น

เพื่อนของป็อบกับร็อคที่ชื่อปาร์คเป็นคนที่ดูสะดุดตาในทุกครั้งที่พบเจอ จากปกติที่ผมไม่ค่อยสนใจคนรอบข้างมากนักกลับรู้สึกสนใจผู้ชายคนนี้

สายตาแพรวพราวกับรอยยิ้มที่มุมปากของปาร์คดูมีเสน่ห์ชวนให้ใครหลายๆคนมอง แต่รอบยิ้มมุมปากนั้นก็เปลี่ยนไปเป็นยิ้มถึงนัยน์ตาทุกครั้งเมื่อเขาจ้องมองหรือพูดคุยกับป็อป

ไม่แน่ว่าตัวปาร์คเองจะรู้สึกตัวหรือเปล่าที่เขาแสดงออกแบบนี้

ระยะหลังๆปาร์คมาที่นี่ทุกครั้งที่เรามาเล่นที่ร้าน และในหลายๆครั้งผมก็เห็นปาร์คกับป็อปมาด้วยกันทำให้ผมอดไม่ได้ที่จะคิดว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองเกินเลยกว่าเพื่อน

มันไม่ใช่ตัวผมสักเท่าไหร่ที่จะคิดสนใจเรื่องของคนอื่น แต่กับป็อปผมไม่นับว่าเป็นคนอื่น พูดให้ถูกต้องจากใจจริงก็เหมือนอยากจะให้ป็อปหลุดพ้นจากความรู้สึกที่ยึดอยู่กับผม มันไม่ใช่การผลักไส แต่แค่อยากเห็นเขาได้รับสิ่งที่ผมให้ไม่ได้จากใครสักคน...

“ถ้ากูไม่รู้จักมึงกูคงคิดว่ามึงกำลังหึงป็อปมัน" ร็อคบอกระหว่างที่ยืนสูบบุหรี่อยู่แถวที่จอดรถ เรากำลังจะกลับแต่ยืนรอป็อปที่กำลังคุยธุระกับพี่ติน
“กูแค่สงสัย..."
“ไอ้ปาร์ค...มันชอบป็อปมาตั้งแต่เรียนอยู่ด้วยกันแล้ว..." ร็อคพูดประโยคนั้นออกมาโดยไม่อธิบายอะไรเพิ่มเติมอีก ผมไม่แปลกใจกับสิ่งที่ได้ยิน ถ้ามันเป็นจริงอย่างที่ร็อคว่า...ถ้าระยะเวลาตั้งแต่ตอนนั้นจนถึงตอนนี้ความรู้สึกของปาร์คยังไม่เปลี่ยนแปลง ผมก็อยากให้ป็อปเปิดใจ
“ดีแล้ว...” ผมเอ่ยความใจในออกมาลอยๆจนไอ้ร็อคต้องถามอย่างสงสัย
“ดีอะไรของมึง"
“หรือมึงว่าไม่ดี"
“มึงอย่ากวนตีน ดีไม่ดีอะไรวะ"
“ก็ดีแล้วถ้าป็อปเจอคนที่รักมันจริงๆ...”

ร็อคถอนหายใจกับคำพูดของผมไม่พูดอะไรอีก เวลาผ่านไปเชื่องช้าขณะที่เรายืนเงียบๆอยู่ในห้วงความคิด ผมทิ้งก้นบุหรี่ขยี้ด้วยปลายเท้าแล้วดูนาฬิกาคำนวณเวลากว่าจะถึงบ้าน ใจหวังให้ทะเลยังไม่หลับไปก่อน

ไม่นานป็อปก็ออกมาพร้อมกับปาร์ค ทั้งสองยื้อแย่งกีตาร์กันมาตลอดทาง ป็อปพยายามดึงกีตาร์ของตัวเองออกจากไหล่ปาร์คด้วยสีหน้าไม่พอใจ ผิดกับปาร์คที่ยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมาเมื่อป็อปไม่สามารถเอาของๆตัวเองคืนไปได้

“ยุ่งกับกูจริงๆ" เสียงป็อปด่าออกมาอย่างหัวเสีย ไม่บ่อยนักที่ป็อปจะมีอารมณ์แบบนี้ให้เห็น คนดื้อเงียบแบบป็อปมักจะเก็บอารมณ์อะไรต่างๆเอาไว้ข้างในมากกว่า
“กูกลับนะ" พอทั้งสองมาถึงผมก็บอกเพื่อที่จะแยกกัน ทุกคนพยักหน้ารับรู้มีแค่ปาร์คที่ยืนมองผมนิ่งๆเหมือนกำลังคิดอะไรสักอย่าง...เหมือนประเมินอะไรสักอย่าง...ซึ่งมันก็ทำให้ผมนึกอยากจะแกล้งเพื่อดูท่าทีบ้างเหมือนกัน

“พรุ่งนี้เจอกัน" ผมบอกเจาะจงไปที่ป็อปแล้วเอื้อมมือไปโยกหัวมันไปมาอย่างที่ทำนานๆครั้ง ป็อปยิ้มให้ผมแต่ก็เหลือบสายตาไปมองปาร์คชั่วครู่ก่อนจะกลับมามองที่ผมอีกครั้ง เมื่อผมปล่อยมือออกปาร์คก็มายืนข้างๆป็อปแล้วกอดคอเอาไว้ น่าแปลกที่ครั้งนี้ป็อปไม่ได้แสดงออกอะไรเพื่อให้รู้ว่ายังมีเยื่อใยให้ผมอยู่

ผมคิดว่าช่วงเวลาที่ทับซ้อนของเราคงจะหมดลงแล้ว อีกไม่นานผมก็คงได้เพื่อนที่มีความรู้สึกให้กันเพียงเพื่อนคนเดิมกลับมา...

...

ไฟในห้องสว่างจ้าเมื่อผมมาถึง แต่คนที่นอนบนเตียงได้หลับไปเรียบร้อยแล้ว การที่ทะเลไม่ได้นอนข้างล่างบนฟูกเหมือนเป็นการบอกว่าไม่ได้ตั้งใจที่จะหลับไปแต่ก็เหนื่อยล้าเกินไปที่จะรอผม ผมดึงผ้าห่มขึ้นมาห่มให้ทะเลก่อนจะไปอาบน้ำ คิดไว้ว่าคืนนี้อาจไม่ได้นอน กว่าจะได้นอนคงเป็นตอนเช้าหลังจากทำงานที่ต้องส่งพรุ่งนี้ให้เสร็จ

ช่วงนี้ทุกๆอย่างสำหรับผมเป็นไปอย่างราบรื่น สิ่งที่คั่งค้างในใจคลี่คลาย สามอาทิตย์ก่อนหน้านี้ที่ทะเลรับรู้เรื่องของผมเป็นช่วงที่เราใช้เวลาเพื่อรักษาเยียวยาจิตใจของกันและกัน หลังจากที่ทะเลรับรู้เรื่องราวของผมใหม่ๆตอนนั้นทุกอย่างเกือบจะเรียกได้ว่าย่ำแย่ เพราะมันคงเป็นเรื่องที่หนักเกินไปสำหรับทะเล แววตาที่สดใสของทะเลดูหม่นเศร้าจนต้องปลุกปลอบกันนานกว่าจะให้ทะเลเข้าใจได้ว่าเรื่องพวกนั้นมันผ่านไปแล้ว...

สำหรับผม การได้บอกสิ่งที่เก็บกดเอาไว้ในใจมาเนิ่นนานกับคนที่สำคัญที่สุดทำให้ผมเหมือนได้รับการปลดปล่อยในแง่ของความรู้สึก ตลอดมาไม่มีใครเคยรับรู้ถึงด้านนี้ของผม สิ่งที่กลั่นออกมาจากจิตใจไม่ได้ทำให้ทะเลนึกกลัวแต่กลับทำให้ทะเลเสียใจเจ็บปวดไปกับมัน ความอ่อนโยนของทะเลทำให้เป็นไปแบบนั้น...

นาทีนี้ผมรู้แล้วว่าทะเลรักผมมากพอที่จะอยู่ข้างกันไม่ว่าผมจะเป็นยังไงก็ตาม

เมื่อเราผ่านช่วงเวลานั้นมาได้ตัวผมกับความเจ็บปวดก็เหมือนเพื่อนที่อยู่ห่างไกล

สายตาของทะเลเปลี่ยนไปนับจากวันนั้น ทุกครั้งที่ทะเลมองมาที่ผม...แววตายังคงความอ่อนโยน...แต่เป็นความรู้สึกอ่อนโยนลึกล้ำ ความรู้สึกเจ็บปวดที่เจือปนอยู่ในนั้นมีเสน่ห์ยากที่ผมจะถอนสายตา

แรงดึงดูดระหว่างกันเข้มข้นเมื่อทะเลเข้าถึงด้านลึกในจิตใจ

การใกล้ชิดก่อเกิดอารมณ์ที่ไม่อาจต้านทาน ความอดทนก็ไม่ได้คงทนอยู่นาน รสชาติของทะเลที่เคยได้รับเป็นชนวนที่ปล่อยให้คลื่นอารมณ์พัดพาไป ทะเลไม่ได้หวาดกลัวอย่างที่คิดไว้เมื่อผมรุกเข้าหา ไม่มีสายตาที่บ่งบอกถึงความหวาดหวั่น ทั้งไม่ได้เอ่ยห้ามใดๆ ทุกอย่างที่เป็นไปให้ความแปลกใหม่สำหรับผม...

อาจเรียกได้ว่าเป็นการร่วมรัก...เป็นครั้งแรก...

ผมไม่ได้กระทำรุนแรงเพียงเพราะอยากเห็นอีกฝ่ายทรมานอย่างที่ผ่านมา แต่กระทำทุกอย่างตามแรงอารมณ์รักใคร่ที่อยู่ในใจ ทะเลปล่อยตัวไปกับทุกสัมผัสของผมอย่างไม่มีข้อโต้แย้ง เสียงครางเครือและสีหน้าทรมานเพราะความสุขสมให้ความรู้สึกอบอุ่นในหัวใจ

ไม่ยากเลยที่เราจะมัวเมาไปกับมัน...

ผมถลำตัวลึกอยู่ในความรู้สึกนั้น หลายครั้งหลายครา ไม่อิ่มไม่พอ จนแทบจะหลงลืมไปว่าผมกำลังกระทำในสิ่งที่ไม่เหมาะไม่ควร...ในที่ๆไม่สมควร...กับคนที่ไม่สมควร... 


สีของท้องฟ้าเรื่อเรือง ยามรุ่งเช้าอากาศเย็นสบาย ผมปิดคอมพิวเตอร์เมื่องานทุกอย่างเสร็จสิ้น ลุกขึ้นบิดตัวไปมาคลายความเมื่อยแล้วทิ้งตัวนอนข้างๆทะเลโอบกอดแนบชิดไม่อยากให้ฝ่ายใดฝ่านหนึ่งตกเตียงเพราะพื้นที่อันน้อยนิด ไม่นานผมก็หลับไปตามอีกฝ่ายไปด้วยความง่วงและอ่อนเพลีย

ผมตื่นอีกทีเพราะเสียงโทรศัพท์ เป็นตูนที่โทรมาบอกให้ผมอย่าลืมไปส่งงานวันนี้ ผมมองนาฬิกาเป็นเวลาบ่ายกว่า บอกตูนว่าคงเข้าไปไม่เกินบ่ายสามแล้วค่อยวางสายไป  ผมอาบน้ำแต่งตัวให้เสร็จเรียบร้อยก่อนมานั่งเช็คงานที่ทำไปเมื่อคืน มีหลายจุดที่ผมอยากแก้ไขให้เรียบร้อยเลยใช้เวลานานกว่าที่คิด ก่อนออกจากบ้านผมจึงตัดสินใจไปรับทะเลก่อนแล้วค่อยไปมหาลัยเพราะกว่าจะกลับมารับทะเลคงต้องรอนานเกินไป

พวกเพื่อนนั่งกันอยู่ที่โต๊ะประจำคณะของเราแทบจะครบทุกคนในกลุ่มเมื่อผมมาถึง ผมฝากทะเลไว้กับพวกมันก่อนแล้วค่อยขึ้นไปส่งงาน พอผมที่เป็นคนสุดท้ายที่ส่งงานเรียบร้อยลงมาพวกมันก็ชวนกันไปกินข้าวสังสรรค์อย่างที่ชอบทำประจำ ไม่ว่างานจะชิ้นเล็กชิ้นน้อยแค่ไหนก็ยังหาเรื่องไปกันทุกที

ผมไปกินข้าวกับพวกเพื่อนๆแต่ก็ไม่ได้ไปต่อกับพวกมัน ผมพาทะเลกลับถึงบ้านค่ำๆ มีพี่ๆที่ยังทำงานในอู่เหลือกันอยู่สองสามคน พี่กอล์ฟลูกน้องคนสนิทของน้าวิทย์บอกว่าน้าวิทย์กับน้าเพลงไปงานแต่งญาติคงจะกลับดึกๆ เมื่อเห็นว่าเราทั้งสองกลับมาแล้วพวกเขาจึงอยู่ต่อกันอีกสักพักก่อนจะแยกย้ายกันกลับบ้านตามคำสั่งของน้าวิทย์ที่สั่งเอาไว้

ในอู่ขนาดใหญ่เมื่อไม่มีคนก็ให้ความรู้สึกเงียบงันวังเวง ผมปิดไฟชั้นล่างให้หมดเหลือเพียงดวงเดียวให้ความสว่างรอน้าวิทย์กับน้าเพลงกลับมา ใจแรกคิดจะขึ้นข้างบนเลยแต่เห็นทะเลที่เดินตามผมไปมารอขึ้นไปพร้อมกันก็อดไม่ได้ที่จะหันมาสนใจ ทะเลมองผมเหมือนสงสัยว่าทำไมถึงไม่ไปข้างบนสักที ผมจึงยิ้มบอกความนัยแล้วดึงทะเลเข้ามาใกล้ แค่นั้นทะเลก็เข้าใจ...

“เดี๋ยวพ่อแม่กลับมา...”
“ยังไม่มาหรอก นี่ยังไม่ดึกเลย"
“...เมื่อเช้าแม่เข้ามาในห้องมาปลุกเล แม่มองแปลกๆที่เห็นเรานอนด้วยกัน...เลกลัวแม่จะรู้...”
“น้าเพลงอาจจะไม่ได้คิดอะไร” ผมบอกแล้วจูบที่ริมฝีปากทะเลเบาๆอย่างปลอบใจ ก่อนจะบดเบียดแรงขึ้นเพราะรสสัมผัสของคนตรงหน้า ทะเลคล้ายจะต่อต้านแต่ก็ทำไม่ได้นาน

เมื่อผมเบี่ยงเบนความสนใจของทะเลเป็นผลสำเร็จจึงพาทะเลขึ้นรถตู้สีดำติดฟิล์มมืดสนิทที่จอดอยู่ตรงนั้น ดูเหมือนว่าจะเป็นรถที่รอลูกค้ามารับแต่ผมก็ไม่ได้สนใจอะไรมากมาย สิ่งที่ผมสนใจคือทะเลที่นอนหอบหายใจหนักอยู่ใต้ร่าง...เบาะหลังรถไม่ได้ใหญ่มากนักแต่ก็เป็นบรรยากาศที่ตื่นเต้นแปลกใหม่

เราเหมือนวัยรุ่นริรักที่ไม่เห็นสิ่งใดในสายตา การร่วมรักเป็นไปอย่างร้อนแรงขาดซึ่งการยับยั้งชั่งใจ ยิ่งรู้ว่าเสี่ยงก็ยิ่งกระตุ้นอารมณ์

เราทำกันหนึ่งครั้งบนรถตู้ หนึ่งครั้งหน้ากระโปรงรถยนต์อีกคัน

นับวันผมยิ่งชอบความรู้สึกที่ได้ทำแบบนี้กับทะเล เรียกให้ถูกต้องคือผมหลงใหลคลั่งไคล้ทุกสัมผัส ผมรู้ว่าตัวเองมีความต้องการสูง เมื่อรวมเข้ากับความรักมันจึงเป็นสิ่งที่ยากจะถอนตัว...

น้าวิทย์กับน้าเพลงกลับมาดึกมากในคืนนั้น เหตุการณ์ตื่นเต้นเป็นแค่การเพิ่มอรรถรส ผมรับรู้ความตื่นเต้นนั้นได้จากสายตาของทะเลที่คอยลอบมองไปที่ประตู แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่ได้มีใครที่เปิดเข้ามาอย่างที่เรานึกกลัว

...
 
เช้าวันรุ่งขึ้นเป็นวันเสาร์ ทะเลได้บอกผมไว้แล้วว่าวันนี้มีนัดทำรายงานที่บ้านของเพื่อนที่ชื่อฟอร์ด เราตื่นกันตอนสายๆอาบน้ำกินข้าวแล้วบอกน้าเพลงว่าจะไปข้างนอกกันคงจะกลับมาตอนเย็นๆ ผมพาทะเลไปส่งตามที่ทะเลบอกทาง เมื่อมาถึงบ้านและเห็นหน้าเพื่อนทุกคนที่มาก็ทำให้ผมเปลี่ยนความตั้งใจในตอนแรกที่ว่าจะมาส่งเฉยๆ ทั้งฟอร์ดและทะเลไม่ได้ว่าอะไรที่ผมบอกว่าจะอยู่รอทะเลที่นี่ด้วย จะมีก็แต่ก้านที่ทำหน้าตาเฉยเมยไม่บ่งบอกอารมณ์แล้วเดินเข้าบ้านไปก่อนใคร

บ้านของฟอร์ดไม่มีใครอยู่ เพื่อนทะเลที่มากันสี่ห้าคนนั่งทำงานที่หน้าทีวีชั้นล่างซึ่งมีพื้นที่กว้างขวาง ผมนั่งอ่านการ์ตูนที่ฟอร์ดหามาให้เพื่อฆ่าเวลา ผมอาจทำตัวเหมือนไม่ไว้ใจทะเลแต่จริงๆไม่ใช่ ผมก็แค่อยากจะดูให้แน่ใจเท่านั้นว่าที่ทะเลเคยบอกผมว่าคุยกับก้านรู้เรื่องแล้วมันเป็นจริงอย่างที่ว่ามา

เพื่อนๆทะเลค่อนข้างที่จะคุ้นเคยกับผม จากที่นั่งรออ่านหนังสือเฉยๆผมก็เริ่มช่วยอะไรที่สามารถช่วยได้ วันนั้นทั้งวันผมแทบจะไม่ได้คิดเรื่องทะเลกับก้าน ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปอย่างน้อยๆก็ในความรู้สึกผม ผมไม่รู้ว่าความรู้สึกของก้านที่มีต่อทะเลมันเป็นแบบไหนในตอนนี้ แต่จากทุกๆอย่างที่แสดงออกต่อผม แม้ไม่ได้ดูเป็นมิตรแต่ก็ไม่ได้แสดงออกถึงเจตนาแบบเดิม ไม่มีแววตาท้าทายแบบเดิมๆ ไม่มีแสดงออกที่ดูมากกว่าเพื่อนกับทะเล แค่นี้ผมก็คิดว่าตัวเองได้ก้าวข้ามความรู้สึกบางอย่างก่อนหน้านี้ไปได้ ถึงแม้ไม่ลืม แต่ผมก็ปล่อยวาง

เราทำงานกันเสร็จก่อนที่พระอาทิตย์จะตกดิน ผมพาทะเลตรงกลับบ้านเลยเพราะได้บอกน้าเพลงไว้เมื่อเช้าว่าจะกลับไปกินข้าว ทะเลกอดเองซบหน้าอยู่ที่บ่าของผมระหว่างทางที่ผมพากลับ เป็นการกระทำตามความเคยชินที่ผมอยากให้มันคงอยู่แบบนี้ไม่เปลี่ยนแปลง

ผมรู้สึกปลอดโปร่ง มีความสุขโดยปราศจากความกลัวอยู่ในนั้น

ผมเริ่มชินกับความสุขที่มี...คิดว่าคงไม่มีใครพรากมันไปได้ง่ายๆเพราะผมคงจะไม่ปล่อยให้มันหลุดมือไป

แต่มันก็เป็นเพียงแค่ความคิด...
เมื่อมันเกิดขึ้นจริงผมก็ไม่สามารถกำมือไว้ให้แน่นพอที่จะรั้งมันเอาไว้อยู่ดี

...

บรรยากาศในอู่แปลกไปกว่าทุกที...

เมื่อเราก้าวเท้าเข้าบ้านก้าวแรกก็รู้สึกได้ถึงสายตาของทุกคนที่จ้องมองมา พอผมจ้องมองตอบก็ไม่มีใครที่กล้าสบตา ทะเลเองก็คงรู้สึกถึงความผิดปกตินี้จึงหันมามองผมอย่างตั้งคำถาม

ผมเริ่มรู้สึกหวั่นใจ พยายามจับสังเกตอะไรสักอย่างจากใครสักคน แต่ก็ไม่มีใครบอกผมได้ จะมีก็แต่พี่มดที่ค่อนข้างสนิทกับผมที่จ้องผมโดยที่ไม่หลบสายตา พี่มดพยักหน้าขึ้นไปข้างบนเหมือนเป็นการบอกอะไรสักอย่าง เมื่อผมมองตามขึ้นไปก็เข้าใจได้ทันที

ใจของผมกระตุกรุนแรง

กล้องวงจรปิดในอู่มีอยู่หลายตัว ผมไม่เคยนึกสนใจมันเลยจนกระทั่งวันนี้ แม้จะเคยเห็นน้าวิทย์เปิดดูอยู่ในบางครั้งบางคราวก็ไม่เคยนึกถึง และเพราะไม่ได้นึกถึง ถึงทำแบบนั้นลงไปเมื่อวานด้วยความย่ามใจ

ทะเลมองตามสายตาผมขึ้นไปแล้วก็ตกใจจนทำอะไรไม่ถูก มองผมด้วยแววตาหวาดหวั่น ความรู้สึกมากมายประดังประเดเข้ามาเมื่อสิ่งที่เรานึกกลัวเมื่อวานเป็นความจริง ผมรู้ได้เลยว่าคงไม่ใช่สิ่งดีๆที่รอเราอยู่ และทั้งหมดก็คงโทษใครไม่ได้นอกจากตัวผมเอง

น้าวิทย์กับน้าเพลงเดินออกมาจากสำนักงานทันทีที่เห็นเราทั้งสอง ใบหน้าเคร่งเครียดจนเราไม่กล้าพูดอะไรออกไป น้าวิทย์มองผมกับทะเลด้วยอารมณ์ที่ผมเดาไม่ถูก

“ขึ้นไปคุยกันข้างบน" น้าวิทย์พูดแล้วเดินนำเราทั้งสามคนหลบจากสายตาทุกคนขึ้นมาบนชั้นสองนั่งลงตรงโซฟาหน้าทีวีจากนั้นก็นิ่งเงียบ เราสองคนถูกกดดัน ผมเห็นท่าทางกังวลของทะเลจึงเอื้อมมือไปจับเอาไว้ด้วยความเคยชิน การกระทำนั้นทำให้น้าวิทย์ตวัดสายตามองมาก่อนจะพูดเสียงเรียบ

“เราสองคน ทำแบบนี้มานานแค่ไหนแล้ว"
“ผมกับเลคบกัน ช่วงหลังจากที่ผมเข้าโรงพยาบาล...”
“คบกัน?”
“ครับ"

น้าวิทย์กับน้าเพลงรับฟังด้วยใบหน้าข้องใจและคาดไม่ถึงในตำตอบ ผมไม่รู้ว่าควรจะตอบอะไรได้นอกเหนือจากนี้ เพราะไม่ว่าจะพูดอะไรมันก็คงไม่ได้ดูดีขึ้นมาในสายตาของทั้งสอง

“พ่อกับแม่อาจจะรับไม่ได้ที่เรารักกันแบบนั้น แต่มันก็เป็นไปแล้ว เลอยากให้พ่อกับแม่เข้าใจ...”

น้าวิทย์ส่ายหน้าให้กับคำพูดของทะเล ท่าทีที่แสดงออกจากแววตาและสีหน้าที่ต่อต้านทำให้ผมรู้สึกกลัวกับความคิดของน้าวิทย์

“วันที่แม่บลูมาหา มาบอกน้าว่าอยากให้บลูกลับไปอยู่ด้วย น้าก็ไม่เคยคิดที่จะให้บลูกลับไป...แต่ตอนนี้...น้าว่าบลูกลับไปอยู่กับแม่ของบลู...มันน่าจะดีกว่า"

ได้ยินคำที่น้าวิทย์พูด หัวใจผมเหมือนโดนบีบรัด

“วิทย์...” น้าเพลงเรียกแต่น้าวิทย์ก็ยกมือห้ามและพูดกับผมต่อไป
“น้าไม่เคยคิดว่าบลูจะทำแบบนี้กับเลได้..."
“พ่อ!”
“ผมรักเล ไม่ได้ทำเพราะอะไรอย่างที่น้าวิทย์คิด"
“จะรักกันได้ยังไง บลูก็ผู้ชาย เลก็ผู้ชาย แล้วก็เป็นพี่น้องกัน อยู่กันมาตั้งแต่เด็ก ก่อนหน้านี้บลูเจออะไรมาบ้างน้าก็ไม่อยากเอามาคิด แต่พอมาเป็นแบบนี้แล้วจะให้คิดเป็นอย่างอื่นได้ยังไง"
“เรื่องนั้นของผมมันไม่เกี่ยวกัน..."

ผมพยายามอธิบายแต่ก็เปล่าประโยชน์เพราะน้าวิทย์ไม่คิดจะฟังสิ่งที่ผมพูดสักนิด...ไม่คิดจะเข้าใจอะไรเลย...

พอเป็นเรื่องของทะเล...ผมก็หมดความสำคัญเอาได้ง่ายๆ...เหมือนตอนเด็กๆไม่มีผิด

เหตุผลที่น้าวิทย์กำลังคิดก็แค่ว่าผมซึ่งเป็นคนนอก...กำลังทำร้ายทะเล...ซึ่งเป็นลูกของพวกเขา

“น้าจะโทรบอกเจ๊หนิงให้แม่บลูมารับ"
“พี่บลูไม่ได้ทำอะไรผิด ทำไมพ่อต้องให้ไปอยู่ที่อื่น...แม่...ช่วยพูดกับพ่อหน่อย...นะ...” ทะเลหันไปพูดกับน้าเพลงที่มีท่าทีสับสนกับเหตุการณ์ที่เกิด แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาอย่างที่ทะเลขอ
“ผมไม่ไปอยู่กับแม่” ผมบอกน้าวิทย์ ไม่ว่ายังไงผมก็จะไม่กลับไปอยู่กับผู้หญิงคนนั้น
“แต่บลูอยู่ที่นี่ไม่ได้"

น้าวิทย์มองผมอย่างจริงจังในคำพูด ผมรู้ว่าภายใต้เสียงเรียบๆของน้าวิทย์กำลังโกรธเกินกว่าที่จะลุกขึ้นมาตวาดดุด่าเหมือนตอนเด็กๆ

ผมเคยนึกถึงวันที่น้าวิทย์กับน้าเพลงรู้เรื่องของผมกับทะเลแต่ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นรวดเร็วขนาดนี้ และมันก็เลวร้ายกว่าที่คิด...

ในสถานการณ์เช่นนี้แล้วผมจะทำอย่างไรต่อไปก็ยังนึกไม่ออก แน่นอนว่าผมไม่อยากแยกจากทะเล เคยคิดว่าต่อให้อะไรจะเลวร้ายแค่ไหนก็ไม่มีวันปล่อยมือ แต่ก็ไม่ใช่กับคนตรงหน้าทั้งสอง เพราะความสำคัญของพวกเขาก็ไม่ได้น้อยไปกว่าทะเลเลย

ผมนั่งนิ่งเงียบ มีทะเลที่นั่งน้ำตาไหลอยู่ข้างๆกัน

ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร...

“น้ารักบลูเหมือนลูก...แต่บลูก็ทำพวกน้าเสียใจ...สิ่งที่เราทำมันไม่ถูก มันเป็นเรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้น...น้าคงปล่อยให้อยู่ด้วยกันมากเกินไปมันถึงออกมาเป็นแบบนี้...”

“พ่อเลยคิดง่ายๆไล่พี่บลูออกจากบ้านงั้นเหรอ...คิดว่ามันจะเปลี่ยนอะไรได้หรือไง"
“เล!”

น้าวิทย์ตวาดออกมาเสียงดังจนเราทุกคนตกอยู่ในความเงียบ ไม่มีใครกล้าพูดอะไรอีก ตั้งแต่ที่ผมมาอยู่ที่นี่ไม่เคยมีสักครั้งที่น้าวิทย์จะขึ้นเสียงกับทะเล ผมจึงรู้สึกผิดขึ้นมาที่ทำให้ทุกอย่างเป็นแบบนี้ หากน้าวิทย์ว่าเรื่องที่เราเป็นอยู่เป็นเรื่องที่ไม่ถูกผมก็เปลี่ยนความคิดของเขาไม่ได้...น้าวิทย์เห็นสิ่งที่ไม่ควรได้เห็นกับลูกของตัวเอง ผมรู้ว่าภาพนั้นมันคงติดตาจนคำพูดและความรู้สึกของผมกับทะเลมันส่งไปไม่ถึง

ผมรู้ว่าที่ผมควรทำคือไปจากที่นี่ตามที่น้าวิทย์ขอ...เพื่อความสบายใจของพวกเขา

ผมรู้...แต่ผมไม่อยากไป เพราะหากผมก้ามเท้าออกจากบ้านก็ไม่แน่ว่าผมกับทะเลจะเป็นยังไงต่อไป การที่น้าวิทย์ห้ามเราสองคนอยู่ด้วยกันคงไม่จบแค่ว่าผมออกจากบ้านไปถึงจะพอใจ แต่รวมถึงการตัดขาดความสัมพันธ์ของเรา...ซึ่งเป็นสิ่งสุดท้ายที่ผมอยากให้เกิด...

“บลูไปเก็บของ เลลงมาข้างล่างกับพ่อ" ทะเลดื้อเงียบไม่ไปไหนคว้าจับมือผมไว้แน่นและผมก็บีบมือนั้นตอบเช่นเดียวกัน เราสองคนไม่มีใครลุกไปไหน ได้แต่นั่งยื้อเวลาของอนาคตที่ต่างรู้ว่าจะเป็นไปเช่นไร

เรื่องที่เรารักกันไม่ใช่เรื่องผิด แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่ยอมรับกันได้...ไม่ว่าจะมองจากมุมไหนผมก็ยังหาทางออกไม่เจอ

“ไม่ได้ยินที่พ่อพูดเหรอ"
“ถ้าพ่อไม่ให้พี่บลูอยู่ที่นี่ เลก็จะไม่อยู่เหมือนกัน"
“แค่นี้ยังทำตัวมีปัญหาไม่พอใช่ไหม!”

“ผมจะไป...น้าวิทย์ไม่ต้องให้แม่หรือใครมารับผม ถ้าแค่ผมไปแล้วจะทำให้สบายใจผมก็จะทำ แต่ถึงยังไงน้าวิทย์ก็บังคับความรู้สึกของเราให้เป็นอย่างที่น้าวิทย์ต้องการไม่ได้อยู่ดี"

ผมเห็นสายตาเจ็บปวดของน้าวิทย์...สายตาเจ็บปวดของน้าเพลง ความผูกพันธ์ของพวกเราทำให้จุดแตกหักเจ็บร้าวถึงข้างใน หากการที่จะยอมรับเรื่องของเรามันยากเย็นถึงขนาดนี้ผมก็จะไม่ฝืน...

ผมดึงทะเลเข้ามากอดแล้วกระซิบบอกให้ทะเลอยู่ที่นี่และรอผม

ที่ทะเลเลือกที่จะไปกับผมก็เหมือนกับการตัดสินใจโดยไม่ยั้งคิด มันรวดเร็วกะทันหันจนเอาอารมณ์เป็นที่ตั้ง แต่สำหรับผมไม่ว่ายังไงผมก็ไม่มีทางให้ทะเลไปจากที่นี่เพราะตัวผม...แม้ว่าเราจะต้องแยกจากกันผมก็ต้องยอม ผมรู้ว่าไม่มีอะไรดีๆที่รอเราอยู่เมื่อเราออกจากที่ที่เราเรียกว่าบ้าน...และผมก็รู้ดีกว่าใครว่าโลกแห่งความเป็นจริงของชีวิตมันโหดร้าย

สิ่งสำคัญของผมคือทะเล และสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับทะเลคงไม่ใช่การหนีออกจากบ้านไปกับผม ผมคิดแบบนั้น จึงเลือกที่จะเดินจากไปเองในตอนนี้...

ผมเก็บของบนห้องแล้วโทรบอกให้ร็อคมารับ น้าวิทย์รั้งทะเลไว้ไม่ให้ตามผมขึ้นมา หลังจากที่ทะเลได้ยินคำพูดของผมก็นั่งลงร้องไห้อย่างหมดแรง...ผมได้แต่มองภาพนั้นอย่างปวดใจแต่ก็ทำอะไรไม่ได้...


ค่ำวันนั้นผมออกมาจากบ้านที่อาศัยอยู่เป็นเวลาสิบเอ็ดปี

ผมสูญเสียหลักยึดในชีวิต...กลับมาเคว้งคว้างอ้างว้าง...
ความสุขหายไปต่อหน้าต่อตา...โบยบินคว้าจับไม่ได้...มองออกไปก็ไม่เห็น

ฟ้าฝนเหมือนจะเป็นใจกับช่วงเวลานี้จึงหลั่งรินลงมาไม่ขาดสาย...

...ผมทิ้งหัวใจเอาไว้...


และเดินจากที่นั่นมาอย่างไม่มีวันหวนคืน...




Song Titles : Run
Artist : Snow Patrol

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

คนอ่านหายหมดแล้ว  :katai1:
อาทิตย์หน้าอาจจะไม่มานะคะ ไม่รู้มีคนรออยู่รึเปล่าแต่บอกไว้ก่อน
จิตตกไปพักนึงเลยเขียนไม่ได้ (แต่ตอนนี้โอเคแล้วรอเขียนต่อ)
อีกไม่กี่ตอนก็จบเป็นไปได้ไม่อยากให้มันขาดตอนให้เสียความตั้งใจ เอาเป็นว่าถ้ามาได้จะมาแล้วกันเน้อ  :katai4:

 :pig4:

ออฟไลน์ soluna

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
Re: ทะเลในโลกสีฟ้า [ 16 ] 09-05-13
«ตอบ #193 เมื่อ09-05-2013 06:16:10 »

TT^TT
อ๊ากกกกกก
สถานการณ์อยู่นอกเหนือการทำนายจริงๆ
ไม่คิดเลยว่าจะ มีวันนี้
แค่ปกิ บรรยากาศก็อึมครึมจะแย่อยู่แล้ว
แล้วถ้า สองคนนี้ต้องห่างกัน มันไม่แย่ไปกว่านี้เหรอ
เศร้า ~ TT^TT

ออฟไลน์ iamew

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0
Re: ทะเลในโลกสีฟ้า [ 16 ] 09-05-13
«ตอบ #194 เมื่อ09-05-2013 06:22:53 »

พิมพ์ๆ ไปหายหมด เพราะเพลอกดF5 เศร้า
ในที่สุดสิ่งที่กลัวก็เกิดจนขึ้นได้
ต่อจากนี้คุณผู้เขียนจะทำให้เนื้อเรื่องมันเศร้าทำร้ายจิตใจแค่ไหนก็ทำเถอะค่ะ ตามสบาย (มิได้ประชดแต่อย่างได)
สำหรับเรา เศร้าที่สุดและน่ากลัวที่สุดก็คือการที่พ่อแม่ทะเลรู้ความจริงนี่ล่ะ แถมรู้ความจริงจากกล้องวงจรปิดอีก โอ๊ววว มันsad

หนึ่งคนตรงนี้รออ่านทะเลในโลกสีฟ้าอยู่นะคะ ไม่เคยหายไปไหน เป็นกำลังใจให้ค่ะ

ออฟไลน์ aloney

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 743
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-4
Re: ทะเลในโลกสีฟ้า [ 16 ] 09-05-13
«ตอบ #195 เมื่อ09-05-2013 07:11:17 »

รู้ตั้งแต่ต้นแล้วว่าฉากแบบนี้จะต้องมีในเรื่องนี้ แต่ทำใจไม่ได้แงะ อ่านแล้วสงสารทะเล บลู

ออฟไลน์ OrangeryLemon

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 129
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
Re: ทะเลในโลกสีฟ้า [ 16 ] 09-05-13
«ตอบ #196 เมื่อ09-05-2013 08:01:47 »


รออ่านอย่างสม่ำเสมอค่ะ

ชอบอารมณ์หน่วงหนักที่อวลอยู่ในเรื่องมากกกกก


ออฟไลน์ -west-

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1875/-12
    • FACEBOOK PAGE
Re: ทะเลในโลกสีฟ้า [ 16 ] 09-05-13
«ตอบ #197 เมื่อ09-05-2013 09:01:10 »

ยกมือโบกไหวๆ
เรารอเรื่องนี้อยู่ทุกอาทิตย์นะจ๊ะ

อ่านแล้วแบบ ฮึ่มมมม เอาน่า วันนึงน้าวิทย์น้าเพลงก็ต้องรู้เรื่องอยู่ดี อดทนหน่อยแล้วผ่านมันไปด้วยกันนะ

ออฟไลน์ AGALIGO

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 310
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-4
Re: ทะเลในโลกสีฟ้า [ 16 ] 09-05-13
«ตอบ #198 เมื่อ09-05-2013 10:54:49 »


ถ้ามั่นคงและรักกันจริงๆ

ก็พิสูจน์ตัวเองให้เค้าเห็น

ซักวันนึงเค้าต้องยอมรับได้แน่ๆ

+ เป็ดจ้า

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
Re: ทะเลในโลกสีฟ้า [ 16 ] 09-05-13
«ตอบ #199 เมื่อ09-05-2013 12:00:07 »

วันนี้อาจไม่ใช่วันของบลูและทะเล
แต่ไม่ใช่ว่าจะเป็นเช่นนี้ตลอดไป
อย่าพึ่งเปลี่ยนใจก็แล้วกัน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ทะเลในโลกสีฟ้า [ 16 ] 09-05-13
« ตอบ #199 เมื่อ: 09-05-2013 12:00:07 »





ออฟไลน์ smmikie

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-1
Re: ทะเลในโลกสีฟ้า [ 16 ] 09-05-13
«ตอบ #200 เมื่อ09-05-2013 16:15:08 »

อ่านอยู่ดีดี ก็น้ำตาไหล
โคตรสงสารบลู สงสารตั้งแต่เเรก
จนตอนนี้ก้ยังน่าสงสารอยู่

แล้วตอนนี้เลก้ยิ่งหน้าสงสาร ><

ออฟไลน์ riangkarn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 13
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: ทะเลในโลกสีฟ้า [ 16 ] 09-05-13
«ตอบ #201 เมื่อ09-05-2013 17:08:20 »

เพิ่งเข้ามาอ่านค่ะ อ่านรวดเดียวสิบหกตอนเลย
ตอนแรกกะแล้วว่าสุดท้ายพ่อแม่ของทะเลต้องรู้เรื่องแน่ แต่ไม่คิดเลยว่าจะเร็วขนาดนี้
น่าสงสารนะคะ อยากให้ทั้งคู่ได้มีความสุขร่วมกันต่อไปอีกนานกว่านี้สักหน่อยก็ยังดี
แต่ก็คิดว่าบลูก็ทำถูกแล้วแหละค่ะที่ไม่ให้ทะเลออกมาจากบ้านด้วยกัน ยังไงซะ ทะเลก็ยังเป็นลูกของน้าวิทย์กับน้าเพลงอยู่ดี
ต่อไปบลูจะเป็นยังไง จะไปทำงานที่ไหน อยู่ยังไงก็ไม่รู้ หวังว่าจะไม่หายไปจากชีวิตของทะเลเลย

รออ่านตอนต่อไปนะคะ เป็นกำลังใจให้คนแต่งค่ะ

ออฟไลน์ nunnan

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2275
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-6
Re: ทะเลในโลกสีฟ้า [ 16 ] 09-05-13
«ตอบ #202 เมื่อ09-05-2013 19:08:14 »

มรสุมลูกนี่ มันหนักเกินไป บลูจะไหวไหมน่ะะะะะ  :mew4: :mew4:

ออฟไลน์ ammamooty

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1056
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-2
Re: ทะเลในโลกสีฟ้า [ 16 ] 09-05-13
«ตอบ #203 เมื่อ09-05-2013 20:38:16 »

งะ .... ง่าาา อย่าดราม่านะ สงสารบลูอะทำไมชีวิตถึงดูหม่นๆ เฮ้ออ.ตอนจบอย่าให้มีใครตายน้า(ทำไมเราคิดว่าจะมีคนตายนะ)

ปล.ปาร์คป๊อป ปาร์คป๊อป ปาร์คป๊อป ปาร์คป๊อป

เมล่อนคอซอง

  • บุคคลทั่วไป
Re: ทะเลในโลกสีฟ้า [ 16 ] 09-05-13
«ตอบ #204 เมื่อ10-05-2013 01:45:40 »

มันช่างได้อารมณ์ Deep blue   แบบ ซึมลึกไปในใจโคตรๆ
ตัวละครทุกตัวล้วนอยู่ในโลกสีเทาที่มีความเหงาเป็นตัวนำทาง

 บลูที่เกลียดทะเลในวัยเด็ก
ทะเลที่ชอบตามบลูไปทุกที่ 
รอยสักบนตัวที่มีเพิ่มมาของป๊อป

สิ่งที่แต่ละตัวละครทำ  อาจแค่ต้องการจะบอกใครสักคนว่า ' เฮ้ ฉันอยู่ตรงนี้นะ' เท่านั้นเอง ..

เจ็บหนักหลายคนเลยนะเนี้ย เรื่องนี้

แต่งเก่งจริงๆขอชื่นชมจากใจๆ
เราเคยฟังเกือบทุกเพลง ทุกวง ที่คุณนำมาใส่ในแต่ละตอน
เลยทำให้เราเข้าใจอะไรสักอย่างที่คุณอยากจะบอก   
มันสื่อให้เห็นว่าคุณเป็นคนมีความเอาใจใส่ในการทำอารมณ์ร่วมกับนิยายอยู่มาก 
แต่ความรู้สึกโดยรวมเราว่าเรื่องนี้ทั้งเรื่องมันช่างเหมาะกับเพลง vincent เหลือเกิน :katai2-1:

ออฟไลน์ Lovecartoon1996

  • ชอบกินมาม่า
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-2
    • -
Re: ทะเลในโลกสีฟ้า [ 16 ] 09-05-13
«ตอบ #205 เมื่อ10-05-2013 15:08:08 »

ง่าาาบลูเลสู้ๆน้า
ทำให้พ่อแม่เห็นเลย
ว่ารักกันปานใด555 :hao3:

คนเขียนก็สู้ๆเช่นกันจ้า :L2:

ออฟไลน์ 403

  • 4 0 3 Forbidden
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 301
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-2
Re: ทะเลในโลกสีฟ้า [ 16 ] 09-05-13
«ตอบ #206 เมื่อ11-05-2013 22:58:44 »

อ่านตอนนี้แล้ว เอิ่ม ... เดาว่าฉากนี้ต้องเกิดขึ้น และก็เป็นจริงๆ แต่สิ่งสำคัญคือ มันมีวิธีบอกตั้งหลายทางนะ แต่บลูกลับทำให้น้าเพลงกับน้าวิทย์รับรู้แบบนี้เองถึงจะไม่ตั้งใจก็เถอะ

น้าเพลงกับน้าวิทย์คงไม่ใช่คนใจร้ายอะไรขนาดนั้น ที่ไล่บลูออกจากบ้านเป็นเพราะคงช็อคอย่างแรงและทำใจไม่ได้เท่านั้น พอได้เห็นท่าทีของทะเลคงให้อภัยบลูได้เองละ(มั้ง)

แต่เรากลัวใจบลูมาก อย่าคิดหรือทำอะไรหลงผิดโดยการทำร้ายตัวเองหรือคนอื่นอีกเด็ดขาดเลยนะ อดทนๆ

คนแต่งสู้ๆจ้า  :pig4:

ออฟไลน์ Starry[Blue]

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
Re: ทะเลในโลกสีฟ้า [ 16 ] 09-05-13
«ตอบ #207 เมื่อ13-05-2013 01:02:00 »

มันซ่าน ความรู้สึกหลายๆอย่างปนเปผสม คลุ้งกันจนมั่ว

ไม่ฟุ้ง ไม่หอม ไม่หวาน แต่หวามไหว

ยังขอบอกคำเดิมว่าแต่งเก่งจริงๆค่ะ

คนแต่งทำให้เรา'รู้สึก'ไปกับเรื่องนี้จริงๆ

เหมือนถูกดึงให้เข้าไปในโลกสีหมอก

ติดตามต่อไปค่ะ

เราเชื่อว่าจะต้องมีฟ้าหลังพายุ(ลูกใหญ่ด้วย ฝนคงไม่พอ5555

แต่ก็หวัง ว่าคงจะผ่านช่วงฝนไล่ช้างมานานแล้วนะคะ ฮ่าๆ

ขอบคุณมากๆค่ะ :z2:

ออฟไลน์ SenzaAmore

  • Where troubles melt like lemon drops....
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 713
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +79/-0
Re: ทะเลในโลกสีฟ้า [ 16 ] 09-05-13
«ตอบ #208 เมื่อ13-05-2013 23:34:38 »

 :hao5: เพิ่งตามมาอ่านค่ะ ดราม่าสุดยอด!! ชีวิตบลูเศร้าสมชื่อจริงๆ ชอบมากๆ  o13

มาต่อไวๆน้าาา :mew1:

ออฟไลน์ candynosugar+

  • กลัวแล้ว
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 190
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-2
    • CDNSG+
Re: ทะเลในโลกสีฟ้า [ 16 ] 09-05-13
«ตอบ #209 เมื่อ20-05-2013 16:11:21 »

ดีดดิ้น
กรีดร้อง
แล้วก็รอต่อไป...จะติดตาม รอชมบทสรุปของเรื่องนี้ให้ได้นะคะ :hao5:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด