- 10 -
Cold Water
http://www.youtube.com/v/_rPeRkVmCtg?version=3&hl=en_USผมไม่รู้หรอกว่าสิ่งที่ทำๆอยู่นั้นมันผิดหรือถูก กับความรู้สึกต่างๆที่เป็นอยู่ ผมเหมือนพยายามหาทางออกในความมืด คลำหาอะไรที่จะสามารถช่วยได้ในเวลานั้นผมก็คว้าเอาไว้ โดยหวังว่าท้ายที่สุดแล้วจะเจอทางออก
ทั้งที่จริงๆมันไม่มีทางเจอหรอก...ทางออกที่ว่านั่น...จะมีก็แต่ถลำลึกเข้าไปเรื่อยๆ...เรื่อยๆก็เท่านั้น
...
ผมกลับมาถึงบ้านก็ไม่เห็นเงาของคนที่ควรอยู่ในห้องของผม เดินมาหาที่ห้องของทะเลแล้วเคาะเรียกแต่ก็ไม่มีแม้แต่เสียงตอบรับ
ทะเลไปไหน
ผมกลับมาก็ดึกแล้วทะเลไม่น่าจะไปไหนในเวลาแบบนี้ ผมกดโทรหาก็เป็นสัญญาณปิดเครื่องเลยตัดสินใจมาหาน้าเพลงที่ห้องแล้วถามหา
"น้องไปค้างกับเพื่อน เพิ่งจะโทรมาบอกน้า"
“เพื่อนคนไหน ก้านรึเปล่าครับ"
“ไม่ได้บอกนะ แต่คิดว่าน่าจะเป็นก้านนั่นแหละ"
ไปไหนทำไมไม่บอก ผมเกิดลางสังหรณ์แปลกๆ ไม่อยากให้เป็นอย่างที่ใจคิด
ไม่ ขออย่าให้เป็น
ตอนผมเห็นประตูห้องซ้อมที่ไม่ได้ปิดสนิทผมตกใจ คิดว่าตัวเองประมาทไปถึงไม่ได้ล็อคไว้ ผมสงสัยว่ามันปิดไม่สนิทเองหรือมีคนเปิดเข้ามา และถ้าหากมีคนเปิดเข้ามา...คนๆนั้นจะเป็นใคร
ผมคิดมากทั้งคืนจนกว่าจะหลับก็เกือบรุ่งสางและตื่นมาช่วงบ่ายๆของวัน เมื่อลงมาข้างล่างผมก็ถามหาทะเลกับน้าวิทย์ก่อนเป็นอย่างแรก
ทะเลก็ยังคงไม่กลับมา
ผมเอาเจ็ทสกีออกไปขี่เพื่อดับอารมณ์ร้อนของตัวเอง วันนี้ฟ้าครึ้มบ่งบอกว่าอีกไม่นานฝนคงจะตก และทันทีที่ผมออกตัวมันก็เป็นไปตามคาด บนท้องทะเลที่คลื่นลมบ้าคลั่งซัดสาดมันเหมือนอารมณ์ของผมตอนนี้ มันบ้าคลั่งเต็มไปด้วยความหงุดหงิดและเป็นกังวล
หากว่ามันเป็นอย่างที่ผมกลัว หากว่าทะเลเห็นสิ่งที่ไม่ควรเห็น เห็นสิ่งที่ผมเคยเห็น เห็นตัวตนของผมผ่านใครอีกคน เห็นด้านที่ผมพยายามปกปิดเอาไว้
ทะเลจะกลัวผมไหม จะรังเกียจผมหรือเปล่า หรือจะหนีผมไปอย่างที่ทำอยู่
ตอนนี้ผมได้แต่ขอให้มันเป็นเรื่องที่ผมคิดไปเอง เป็นความบังเอิญที่ทะเลแค่ไปค้างกับเพื่อนก็แค่นั้น
...
ทะเลกลับมาตอนเย็นๆโดยมีก้านมาส่งเหมือนที่คิดไว้ ทันทีที่เห็นหน้าผมทะเลก็สะดุ้งสุดตัว วันนี้เป็นวันที่ต้องเล่นที่ร้าน ทะเลคงจะคิดว่าผมไปแล้ว ถึงจะแปลกใจแต่ทะเลก็ไม่ได้พูดอะไร หลบสายตาแล้วเดินเข้าไปในบ้าน เพียงเสี้ยววิที่เราสบตากัน ผมเห็นสีหน้าที่มีแต่ความอ่อนล้า สายตานั่นก็เหมือนผ่านการร้องไห้มา ทำให้ผมทั้งอยากรู้และไม่อยากรู้ว่าอะไรทำให้เป็นแบบนั้น
ทะเลเดินขึ้นข้างบนโดยที่มีผมเดินตาม เมื่อทะเลมาถึงหน้าห้องของตัวเองก็เปิดประตูแล้วปิดลงโดยไม่สนใจผมที่ตามมาสักนิดและนั่นมันก็ทำให้ผมรู้ว่าสิ่งที่ผมกลัว...ได้กลายเป็นความจริงแล้ว
ผมบิดลูกบิดและพบว่าประตูมันล็อค ผมเขย่ามันอย่างอารมณ์เสียก่อนจะเคาะประตู
ก๊อก ก๊อก"เล เปิดประตูหน่อย"
“......”
"ทะเลครับ...เปิดประตูให้พี่หน่อย"
บานประตูไม่ได้เปิดออก...ไม่มีแม้แต่เสียงตอบรับอะไรทั้งนั้น
ผมนั่งรอหน้าประตูอยู่นานจนจวนเจียนจะไปร้านไม่ทันแล้วก็ต้องออกมา บอกไม่ถูกว่ารู้สึกอย่างไรในตอนนี้ ผมไม่มีใจจะคิดทำอย่างอื่นเลยนอกจากคิดเรื่องของทะเล ตลอดเวลาที่อยู่ที่ร้านผมไม่สนใจอะไรและไม่คุยกับใคร ผู้คนโดยรอบได้แต่มองดูอยู่ห่างๆแต่ก็ไม่ได้ถามอะไร หลังจากเล่นเสร็จผมก็รีบกลับบ้านทันทีทั้งที่ในใจก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรกับทะเล ตอนนี้ผมเพียงแค่อยากเห็นหน้า อยากกอดให้รู้ว่าทะเลจะไม่หนีผมไป
พอกลับถึงบ้าน ผมก็ได้แต่ยืนอยู่หน้าประตูห้อง ห้องที่ไม่มีแสงไฟลอดผ่านประตู ลูกบิดยังคงล็อคอยู่แสดงว่าทะเลอยู่ในนั้น ในเมื่อยังไม่สามารถทำอะไรได้ในตอนนี้ก็ได้แต่เดินกลับมาที่ห้องพยายามข่มตาให้หลับเพื่อรอเวลา คิดว่ายังไงทะเลก็ไม่สามารถหลบผมไปได้ตลอด ผมหลับๆตื่นๆจนถึงวันรุ่งขึ้นและลุกขึ้นแต่เช้าเพื่อไปรอทะเลออกมาจากห้อง หมุนลูกบิดอีกครั้ง ห้องยังคงล็อค ทะเลยังไม่ได้ออกมา ผมทิ้งตัวลงหน้าห้อง นั่งลงกอดเข่าและซบหน้าลงไปอย่างที่ชอบทำตอนเด็กๆ มันเป็นการกอดตัวเองไว้เพื่อบรรเทาความเจ็บปวด...
กริ๊กผมเงยหน้ามองทะเลที่มีสีหน้าตกใจอีกครั้งเมื่อเห็นผมหน้าห้อง ทะเลพยายามปิดประตูกลับไปแต่ผมดันมันไว้ได้ทันแล้วแทรกตัวเข้าไปก่อนปิดประตู
ทะเลขมวดคิ้วมองผมด้วยสายตาหม่นหมอง ผมบอกได้เลยว่าในนั้นมันมีความเจ็บปวด แววตาสดใสของทะเลมันหายไปไหน ทำไมทะเลถึงมองผมแบบนี้ ผมก้าวเข้าไปหาอยากจะดึงเข้ามากอดแต่ทะเลก็ถอยหนี
แค่นั้นผมก็เจ็บร้าวในใจ ทะเลไม่เคยหนีสัมผัสผมแบบนี้มาก่อน ผมรู้ ผมจำได้
จำได้แม้แต่ตอนเด็กๆที่มีทะเลคอยตามต้อยๆแม้ผมจะเป็นฝ่ายเดินหนี จำเด็กตัวน้อยๆที่ยิ้มให้ผมแม้ผมจะนึกเกลียด ทะเลจะยิ้มให้ผมเสมอ จับมือผมเสมอ กอดผมเสมอ แล้วตอนนี้ทำไมทะเลถึงทำแบบนี้ ทำเหมือนรังเกียจกัน
"พี่บลูมีอะไร" ผมจ้องทะเลอยู่นาน ในที่สุดทะเลก็ทนไม่ไหวแล้วเป็นฝ่ายพูดออกมา
“หลบหน้าพี่ทำไม"
“....ไม่ได้หลบ"
“แล้วทำไมไม่ไปนอนที่ห้อง...แล้วล็อคห้องตัวเองทำไม"
“อยากนอนคนเดียว"
“โกรธอะไรรึเปล่า"
“ไม่"
ทะเลบอกแต่ก็ถอยหนีผมอีกเมื่อผมเดินเข้าหา ทะเลไม่ได้พูดเรื่องของผมกับป็อปขึ้นมาผมก็ยังไม่ปักใจว่าทะเลเห็นและจะไม่เป็นฝ่ายพูดมันออกมาเช่นกัน
"มีอะไรจะพูด...จะถามพี่รึเปล่า"
“เลไม่มี...แต่พี่บลู...มีอะไรจะบอกเลบ้างไหม"
“...ไม่มี...”
ไม่ ผมจะไม่พูด มันอาจไม่ใช่เรื่องที่ทะเลอยากจะฟัง บางทีเราอาจพูดถึงคนละเรื่องกัน ผมเดินเข้าไปจับแขนไม่ให้ทะเลถอยหนีอีก เมื่อผมจับทะเลไว้ถึงรู้ว่าทะเลกำลังตัวสั่น ทะเลก้มหน้าไม่มองผม
"เล...เป็นอะไร"
“.....” ผมจับหน้าทะเลให้เงยขึ้นมามองกัน
มันเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ
ทำไมทะเลถึงมองผมแบบนี้ ในความเงียบมันคงมีคำนับร้อยนับพันอยู่ในความคิดของเรา แต่ก็ไม่มีใครพูดอะไรออกมา ผมมองอย่างค้นหาคำตอบ อยากรู้ว่าตอนนี้ทะเลรู้สึกอย่างไรกับผม จากสายตาไม่มีทางรู้ได้ผมจึงเลือกทางที่จะพิสูจน์
ผมก้มลงช้าๆแล้วกดจูบลงไป ทะเลไม่ได้หันหน้าหนีอย่างที่กลัวแต่ผมรู้สึกถึงความสั่นของมือทะเลที่กำเสื้อผมอยู่ตรงอก มันสั่นไหวรุนแรงขึ้นทุกครั้งที่ผมจูบซ้ำลงไป ผมพยายามขบเม้มเพื่อให้ทะเลเปิดทางให้ผมได้เข้าไป แต่มันก็ไม่ง่ายอย่างนั้นเมื่อครั้งนี้ทะเลไม่ได้ตอบสนองใดๆต่อจูบผมทั้งสิ้น
ผมไม่ลดละความพยายาม ใช้มือกดท้ายทอยให้เข้ามาแนบชิด ถึงตอนนี้ทะเลเริ่มดิ้นรนขัดขืนแต่ผมก็ไม่ปล่อยซ้ำยังบดเบีดรุนแรงจนทะเลต้องเปิดปากเพื่อหายใจ ผมสอดลิ้นเข้าไปทันทีเมื่อได้โอกาส เสียงร้องในลำคอของทะเลและการขืนตัวออกจากอ้อมกอดทำให้ผมเกิดความต้องการขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้
มันเป็นจูบที่ผมจาบจ้วงแต่เพียงผู้เดียว ทะเลที่ดิ้นรนไม่เป็นผลก็กัดเข้าที่ลิ้นผม ความเจ็บแปลบที่ปลายลิ้นทำให้ต้องปล่อยออกในที่สุด เมื่อผมเห็นใบหน้าพร้อมคราบน้ำตาของทะเลก็ให้รู้สึกเสียใจ ทะเลยืนปล่อยให้น้ำตาไหลและจ้องมองผมด้วยสายตาผิดหวัง
“พี่บลูเลิกทำแบบนี้สักทีเถอะ...อย่าทำแบบนี้อีกเลย...”
ภาพที่ทะเลยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาทั้งที่มันยังคงไหลลงมาเรื่อยๆ เป็นภาพที่ทำให้ผมปวดใจ ผมจับมือสองข้างของทะเลเอามาไว้รอบเอวผมแล้วกดหน้าทะเลให้ซบลงตรงไหล่
"...ที่ผ่านมาเลน่าจะบอก ถ้ารู้ว่าเลรังเกียจมันขนาดนี้ พี่จะไม่ทำอีกแล้ว..." ผมกระซิบบอกข้างหู
ทะเลเพียงส่ายหน้า แล้วร้องไห้ออกมาอย่างหนักคล้ายไม่อาจกลั้น
ผมรู้สึกถึงรอยร้าวในหัวใจ
.....
ผมกำลังไม่พอใจกับสิ่งที่เป็นอยู่
สิ่งต่างๆเปลี่ยนไปแต่ไม่ใช่ที่ตาเห็น ความรู้สึกเหงาก็ไม่ใช่สิ่งที่ตาเห็น ผมและทะเลกลับมาห่างกันอีกครั้งด้วยความเต็มใจอย่างเงียบๆทั้งสองฝ่าย เราไม่ได้ทะเลาะกัน ไม่ได้โกรธกันแต่ก็ยิ้มให้กันด้วยดวงตาที่หมองเศร้าในทุกครั้งที่สบตา
มันเป็นแบบนี้มาหนึ่งเดือนแล้ว หนึ่งเดือนที่ผมไม่ได้สัมผัสทะเลอย่างที่เคยชิน ไม่ได้กอดหรือแม้แต่จับมือ แต่ความเหงาทางร่างกายมันเทียบไม่ได้เลยกับข้างในจิตใจ มันไม่ใช่ความเหงาเหมือนตอนเด็กๆ ผมบอกไม่ถูกว่ามันเป็นแบบไหนรู้แต่ว่ามันเจือปนด้วยความเจ็บปวดในอก
ความอบอุ่นคุ้ยเคยที่มีทะเลคอยอยู่ข้างๆค่อยๆหายไป ความเย็นเยียบเข้าแทนที่ ความเศร้า ความอ้างว้างถาโถมเข้ามาโดยที่ใครก็ช่วยไม่ได้ แม้ผมไม่ได้นอนเดียวดายแต่ก็ยังรู้สึกว่างเปล่า การที่ผมกอดใครสักคนก็ไม่ได้ทำให้ผมอบอุ่น
โลกเหมือนกลับมาเป็นสีเทา...
รู้สึกอ้างว้าง เหมือนกับว่าไม่มีใครทั้งๆที่มี มันไม่เหมือนกับเมื่อก่อนที่ผมไม่มีใครจริงๆ
ที่ผมถอยออกมา บ่อยครั้งที่ผมคิดว่าสิ่งที่ทำอยู่นี่มันดีไหม แม้มันไม่ได้ดีกับผมแต่ผมก็อยากรู้ว่ามันดีแล้วสำหรับทะเลใช่ไหม ผมคิดว่าที่ทะเลพูดแบบนั้นเพราะทะเลรังเกียจสิ่งที่ผมทำ...รังเกียจกับสิ่งที่เห็น ผมเข้าใจแบบนั้นมันถูกแล้วใช่หรือเปล่า...
...
ชายหายที่เต็มไปด้วยผู้คนพวกเรารวมตัวอยู่ที่ตรงนี้ เหมือนอย่างที่เคย เหมือนไม่มีอะไรผิดปกติ
เพื่อนผมอยู่ตรงนี้ เพื่อนทะเลอยู่ตรงนี้
ทะเลก็อยู่ตรงนี้
ผมมองดูก้านที่กลับเข้ามาในชีวิตทะเลอีกครั้งในช่วงที่เราห่างกันไป ภายนอกตัวผมคงไม่มีสิ่งใดผิดปกติทั้งที่ภายในใจไม่ได้เป็นแบบนั้น ผมรู้สึกถึงความร้อนรุ่มรุนแรงที่ยังคงแผดเผาจิตใจเวลาเห็นทะเลอยู่กับก้าน เพราะผมยังจำภาพที่ก้านจูบทะเลได้ติดตาอย่างไม่มีทางลืมได้ลง
ผมลุกขึ้นปลีกตัวเงียบเชียบแทนที่จะนั่งทนมองทั้งสองคนอยู่ด้วยกัน ทิ้งกลุ่มเพื่อนเอาไว้ข้างหลัง เดินเลียบชายหาดไปเรื่อยๆและหยุดมองเมื่อเห็นพระอาทิตย์กำลังลับขอบฟ้า
ไม่รู้จะจัดการอย่างไรกับความรู้สึกบ้าๆนี่
ใช่ ต้องเรียกว่าความรู้สึกบ้าๆ ความรู้สึกที่มันสลัดยังไงก็ไม่หลุด คล้ายหยั่งรากลึกลงไปในตัวผม หากต้องการกำจัดมันออกไป ผมก็คงต้องเจ็บเจียนตาย
แต่ถึงอย่างนั้น ทุกครั้งที่ผมยืนนิ่งมองดูทะเลอยู่ห่างๆ ผมกลับไม่เคยคิดถึงคำว่าตัดใจ สำหรับผมมันไม่ใช่ความรักแบบนั้น มันไม่ใช่รักที่เกิดขึ้นเพียงแค่สบตา ไม่ใช่รักที่เกิดเพราะความเสน่หา เพราะผมไม่เคยคิดอยากให้เป็นแบบนั้น ผมไม่เคยคิดว่าผมรักทะเลในแบบที่อยากครอบครอง ไม่เคยคิดจนกระทั่งมันเกิดขึ้นมาแล้ว
มันเกิดขึ้นมาเอง
เมื่อเป็นแบบนั้นแล้วผมก็พยายามคิดย้อนไปว่าความรู้สึกนี้มันเริ่มจากตรงไหน
คำตอบมันก็เริ่มจากมือเล็กๆคู่นั้น มือที่ดึงผมออกมาจากอีกโลก นั่นคือสิ่งแรกที่ทะเลทำกับผม ทำกับความรู้สึกของผม ทีละเล็กทีละน้อยทะเลทำให้ผมรับรู้ว่าความอบอุ่นนั้นเป็นอย่างไรเพียงแค่จับมือกัน เป็นคนๆแรกที่คอยอยู่ข้างๆและคอยวนเวียนอยู่รอบๆตัว เป็นคนแรกที่ผมยึดเหนี่ยวเอาไว้ เป็นคนแรกที่ทำให้ผมรู้สึกสำคัญ
รู้สึกตัวอีกทีก็เหมือนขาดทะเลไปไม่ได้แล้ว...
ผมไม่ได้ตั้งใจ ไม่ได้ต้องการคิดสกปรกชั่วช้าแบบนั้นกับคนที่ผมคิดว่าเป็นน้อง ไม่เลย แม้ตอนที่มันเกิดขึ้นผมก็พยายามควบคุมตัวเอง แม้เกิดความต้องการผมก็ไม่ได้คิดว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของความรัก คิดว่ามันเป็นแค่ความต้องการที่ไม่เหมาะไม่ควร
การกระทำของผมทั้งหมด ยิ่งผมพยายายามควบคุมมันเท่าไหร่ มันก็ยิ่งผิดพลาดมากขึ้นเท่านั้น ในช่วงเวลาที่สับสน ป็อปได้เข้ามา หยิบยื่นความรักในรูปแบบที่ผมไม่เคยได้ และผมก็คว้าเอาไว้ ผมใช้ความรักของคนๆหนึ่งที่มีให้กับผมทำร้ายเขากลับไป
ยิ่งทำร้าย ความรู้สึกผมยิ่งกระจ่างชัด
ความรู้สึกกับทะเลกระจ่างชัด
ความรู้สึกกับป็อปยิ่งกระจ่างชัด
การที่พยายามรักใครคนนึงโดยที่ให้ใจกับอีกคนไปแล้วมันมีแต่ความสูญเปล่า ไร้ค่า และเจ็บปวด
ยิ่งพยายามเท่าไหร่ก็ยิ่งทำร้ายให้เจ็บปวดมากขึ้นทุกที
ผมรักป็อปไม่ได้ ผมพยายามแล้วแต่ก็รักไม่มากพอที่จะถนอมเอาไว้เหมือนทะเล...
ในเมื่อความรู้สึกมันชัดเจนถึงขนาดนี้แล้วผมก็ได้แต่ถามตัวเองว่า...ผมจะปล่อยให้มันเป็นแบบนี้ไปถึงเมื่อไหร่กัน...
รอบด้านที่มืดสนิท มีคนนั่งลงข้างๆผม
ไม่ต้องมองผมก็รู้ว่าเป็นใคร พระอาทิตย์ตกไปแล้วรอบด้านจึงเริ่มมืดไม่ค่อยมีคน มีเพียงเสียงคลื่นสัดสาดและสายลมที่อยู่รอบๆตัว
ป็อปนั่งอยู่เงียบๆสักพักแล้วก็พูดกับผม
"ทำไมถึงทำหน้าแบบนั้น"
“.......”
"มีคนเคยบอกไหมว่ามึงตาเศร้า"
“.......”
"ทำหน้าแบบนี้ร้องไห้ออกมาเลยยังดีกว่า"
ผมไม่ได้หันไปมองป็อปที่อยู่ข้างๆแต่ยิ้มออกมาแทนที่จะร้องไห้อย่างที่ป็อปบอก น้ำตาของผมมันเหือดแห้งไปแล้ว ผมไม่คิดว่ามันจะไหลออกมาได้ง่ายๆถึงขนาดนั้นแม้จะเจ็บแค่ไหนก็ตาม
"ป็อป...ได้อยู่กับกูแบบนี้...มึงมีความสุขแน่เหรอ"
“ความสุข...มันไม่สำคัญเท่าได้อยู่กับมึง"
“...เราเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิมดีกว่าไหม..."
“ไม่" ป็อปตอบคำเดียวแล้วลุกขึ้นจะเดินหนีไปแต่ผมก็ลุกไปคว้าแขนไว้
“คุยกันก่อน"
"ไม่คุย จะให้บอกกี่ครั้งว่ากูรักมึง!”
“แต่กูรักคนอื่น...”
“คิดว่ากูไม่รู้หรือไง"
“กูไม่มีทางรักใครเท่าเขา...ไม่มีใครแทนที่ได้เลย...สักคนเดียว" ป็อปยืนนิ่งไป ไม่ต่อต้านหรือคิดเดินหนีอีกผมจึงฉุดให้นั่งลงด้วยกันเหมือนเดิม
“กูรู้...แต่ก็ยังหวัง" จากที่เงียบไปนานป็อปก็พูดขึ้นอีกครั้ง
"กูทำมึงเจ็บ อยู่แบบนี้มึงก็ไม่มีความสุข" ผมบอกและจ้องเข้าไปในดวงตาให้รู้ว่าคราวนี้ผมจริงจังแค่ไหน
เวลาที่ผ่านมาพิสูจน์แล้วว่าผมไม่มีทางรักเพื่อนคนนี้ได้เหมือนกับทะเล
ไม่...ไม่มีทางเลย
"ยังไงก็เป็นกูไม่ได้ใช่ไหม...”ผมยิ้มเป็นคำตอบ...คำตอบที่ป็อปรู้อยู่แล้วตลอดมา
“ป็อป มึงเป็นคนสำคัญสำหรับกู เป็นเพื่อนที่กูรัก มันต้องมีสักวันที่มึงจะเจอคนที่เขารักมึงมากเท่าๆกับที่มึงรักเขา"
“กูอยากให้คนนั้นเป็นมึง...”
ผมส่ายหน้า ในใจก็รู้สึกเจ็บจากคำพูดนั่น
ป็อปแสดงความเจ็บปวดผ่านแววตาแต่ครั้งนี้ไม่ได้ร้องไห้ให้เห็น ไม่เหมือนครั้งก่อนที่ยื้อยุดอ้อนวอนด้วยน้ำตา ป็อปเอนหัวลงซบตรงไหล่ผม ไม่ได้เอ่ยใดๆอีก มันคงจะดีถ้าเราเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม ตลอดระยะเวลาที่เรามีความสัมพันธ์กัน ผมรู้ว่ามันมีแต่ความเจ็บปวด เราใช้เวลาด้วยกันมากเท่าไหร่ ป็อปก็เจ็บมากเท่านั้น ป็อปเจ็บทั้งร่างกายและจิตใจแต่ผมก็เลือกที่จะเพิกเฉยมันและบอกตัวเองว่ามันไม่ใช่ความผิดของผม ทั้งที่ลึกๆก็รู้แต่ก็หลอกตัวเอง
ผมหลอกตัวเอง...
ป็อป...ก็หลอกตัวเอง
จนถึงตอนนี้ผมก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมป็อปถึงรักผม รักทั้งๆที่เห็นตัวตนลึกๆ ตัวตนที่สะท้อนจิตใจที่แตกหักบิดเบี้ยวแม้แต่ตัวผมเองยังเกลียด
ถึงที่สุด...ผมก็เป็นฝ่ายปล่อยมือจากป็อป และป็อปก็ยอมปล่อยมือจากผม
ผมรู้ว่าจริงๆป็อปก็เหนื่อยกับที่เป็นอยู่แต่ก็ยังยื้อเอาไว้
ครั้งนี้เมื่อผมจริงจัง ป็อปก็ต้องยอมปล่อยเพราะรู้ว่าผมได้เลือกแล้ว
ระยะเวลาที่ห่างกันผมคิดแล้ว ทบทวนแล้ว ผมตัดสินใจแล้ว...
ผมจะลองดูสักครั้งเหมือนที่ป็อปเคยทำเพื่อความรักของตัวเอง
หากว่าทะเลเป็นคนที่ผมรัก เป็นคนเพียงคนเดียวที่ผมรัก ผมก็จะลองทำทุกอย่างเพื่อให้เขากลับมาอยู่ในอ้อมกอด
จะผิดหรือถูก...จะเจ็บปวดหรือไม่ ผมไม่สนใจอีกต่อไปแล้ว
ผมไม่อยากเสียใจที่ไม่ได้พยายาม ไม่อยากเสียใจที่เห็นทะเลไปกับใครโดยที่ผมได้แต่ยืนมอง ทะเลยังไม่รู้ว่าผมรู้สึกยังไง ยังไม่รู้ว่าเขาสำคัญกับผมแค่ไหน...และผมก็จะบอกให้ทะเลรับรู้...จะพยายามทำให้ทะเลรักผมเหมือนที่ผมรักเขา...จะทำให้ทะเลกลับมาอยู่ข้างๆกัน...
ในตอนนั้นผมคิดแบบนั้น...
คิด...โดยที่ไม่รู้ว่าอนาคตที่กำลังมาถึง...มันไม่ง่ายอย่างที่อยากให้เป็น
สิ่งที่ผมไม่รู้ก็คือการที่คนเรารักกันใช่จะมีความสุขเสมอไป...
บางทียิ่งรักมากเท่าไหร่...มันก็ทำให้เราห่างไกลคำว่าความสุขมากเช่นกัน

Song Titles : Cold Water
Artist : Damien Rice
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ทักทายคนอ่านเรื่องนี้สักหน่อย
นี่ก็ผ่านมาครึ่งเรื่องแล้ว คิดไว้ว่าเรื่องนี้น่าจะอยู่ที่ 20 ตอน แต่ตอนนี้ยังเขียนไม่จบ อาจมากกว่าหรือน้อยกว่านี้ก็ได้ตามเนื้อเรื่องที่วางเอาไว้ บางช่วงคิดไม่ออกได้เห็นคนอ่านหน้าเดิมคอมเมนท์กันตลอดเกือบทุกตอนยังไม่ทิ้งกันไปก็พอมีกำลังใจอยู่ วันนี้เลยขอตอบคอมเมนท์คุยกับคนอ่านบ้างสักเล็กน้อย...
Sofa ดีใจที่ชอบอ่านเรื่องนี้ค่ะ

เห็นติดตามตั้งแต่ตอนแรกๆเรื่อยมา จนคอมเมนท์ให้ถึงตอนล่าสุด หวังว่าจะคิดตามกันไปถึงตอนจบนะคะ
403 แม่นแล้ว เป็นทะเลนั่นแล เห็นเม้นตอนก่อนๆดูจะเข้าใจบลูอยู่ไม่น้อย วิเคราะห์ออกมาจนอ่านแล้วรู้สึกว่า เออเข้าใจบลูมันดีจังเลย
Candynosugar+ อีกคนที่เห็นเม้นให้ตลอด มีอยู่ตอนนึงที่บอกว่าบลูมันดูเป็นมนุษย์ คำนี้อ่านแล้วมันดีใจจริงๆเพราะตั้งใจอยากให้บลูเป็นแบบนั้น อารมณ์ที่เหมือนเรามองเพื่อนคนนึงแล้วคิดว่า 'มันทำบ้าอะไรของมันอยู่วะเนี่ย ตูไม่เข้าใจ'
aloney คงได้คำตอบแล้วว่าเป็นทะเลจากตอนล่าสุด อ่านแล้วอยู่ในสภาวะไหนบอกกันบ้าง
นางฟ้า อย่าเพิ่งชนกำแพงตายไปซะก่อน ดราม่ายังไม่หมด 555 (ล้อเล่น)
ammamooty เพ้อเยอะๆเราก็ชอบอ่าน

จะชอบตัวละครตัวไหนของเรา เราก็รู้สึกดีทั้งนั้น จริงๆเราก็ชอบป็อปไม่แพ้กันอย่าว่างั้นงี้ ตอนนี้บลูปล่อยป็อปไปแล้วนะ (ดีใจหรือเสียใจดี) อนาคตของป็อปเราวางแผนไว้ให้เรียบร้อย ถูกใจหรือไม่ติดตามกันต่อไปนะจ๊ะ (กุหลาบสีฟ้าหมายถึงบลูแน่นอน)
AGALIGO กรรมของบลูก็คือดราม่าของเรื่อง
-west- พี่บลูมันก็จะเป็นจะตายอย่างที่เห็น แอบดีใจที่เห็นคุณ west มาเม้นนิยายให้เกือบทุกตอน เป็นแฟนนิยายอยู่เหมือนกัน
pharm มาต่อแล้วนะคะ อ่านแล้วเป็นไงมั่งอย่าลืมบอกกัน
kwangun ดราม่าไม่เยอะหรอก วันฟ้าสดใสมีแน่นอน ต้องรอหน่อยแค่นั้นเอ๊งงง (ยิ้มชั่วร้าย)
ขอบคุณทุกคอมเมนท์ในตอนก่อนๆของทุกคนด้วยนะคะ เจอกันตอนหน้าค่ะ
