…………………………34………………………
ชลธร
ผมถอนใจแรงพลางมองกองเอกสารที่อยู่บนโต๊ะอย่างเบื่อหน่าย เพราะผมหนีงานไปทั้งสัปดาห์ งานทุกอย่างมันก็เลยสะสมซะจนเต็มโต๊ะไปหมด นี่ขนาดว่า ผู้ช่วยผมเขาทำให้บ้างแล้วนะครับ แล้วนี่ผมจะเอาเวลา ที่ไหนไปง้อเมฆเล่า ไหนจะปัญหาเรื่องคุณแพรอีก เฮ้อ สำหรับเรื่องธุรกิจผมไม่เคยกังวลสักนิดไม่ว่าคู่แข่งจะมาไม้ไหน แต่กับเรื่อง หัวใจ ผมกลับไม่เคยที่จะหาทางออกได้เลย คิดแล้วมันก็พาล กลุ้มใจ
ก๊อกๆ
เสียงเคาะประตูที่ดังขึ้นทำให้ผมต้องลอบถอนหายใจ ตรงเวลาเกินไปแล้วนะ
“คุณใหญ่คะ เที่ยงแล้ว ทานข้าวกันค่ะ” เสียงหวานของคู่หมั้นเอ่ยขึ้นก่อนที่เจ้าตัวจะเข้ามาในห้องผมพร้อมกับปิ่นโตในมือ นี่ก็เป็นอีกเรื่องที่ผมคิดไม่ตก คุณแพรมาทานข้าวกลางวันกับผมได้เกือบอาทิตย์แล้ว ก็ตั้งแต่ผมกลับมาทำงานนั่นแหล่ะครับ จริงๆแล้วคุณแพรเธอเป็นคนดีมากนะครับ ดีจนผมรู้สึกผิด ที่ดึงเธอเข้ามาเกี่ยวกับบ่วงแค้นของผม เธอคอยดูแล ใส่ใจผมตลอดเวลา ช่วงที่ผ่านมา คุณแพรก็มาหาผมที่บ้านแม่ตลอด แต่เพราะแม่ก็ไม่รู้ว่าผมไปไหน คุณแพรเธอก็เลยไม่เคยได้เจอผมสักที ส่วนบ้านหลังนั้นผมไม่เคยบอกเธอหรอกครับว่าเป็นบ้านของผม คุณแพรเธอคงเข้าใจว่าเป็นบ้านเมฆมากกว่า แต่หลังจากที่คุณหญิงแม่คนดีของผมโทรไปบอกว่าผมกลับมาทำงาน เธอก็เลยมีน้ำใจทำกับข้าวมาให้อย่างที่เห็นนี่ไงครับ
“งานเยอะ เหรอคะ ดูท่าทางคุณใหญ่หน้าตาเครียดมากเลย” เสียงหวานเอ่ยถาม
“ก็นิดหน่อยครับ”
“อย่าทำหน้าเครียดสิคะ ทานข้าวกันดีกว่า แพรทำของโปรดคุณมาด้วยนะ” เธอบอกก่อนจะเปิดปิ่นโตอวดผม
“คุณแพรรู้ได้ยังไงครับว่าผมชอบกิน ไข่เจียวหมูสับ ” ผมถามอ่างแปลกใจ คนที่รู้เรื่องนี้มีแค่คนในบ้านผมเท่านั้นนะครับ
“คุณแม่ คุณบอกมาน่ะค่ะ คุณแม่ยังบอกอีกนะคะว่า ถ้ามื้อไหนมีไข่เจียวคุณใหญ่จะทานข้าวได้เยอะเป็นพิเศษเลย” เธอบอกด้วยรอยยิ้มกว้าง จนผมปฏิเสธไม่ลง
“ครับ ขอบคุณมากนะครับ”
“มันเป็นหน้าที่ ของแพรอยู่แล้วนิคะ อีกไม่กี่วันเราจะแต่งงานกันแล้วนะ คุณใหญ่ยังจะมาทำท่าเกรงอกเกรงใจแพรอยู่อีก” เธอตัดพ้อ
ผมได้แต่ยกยิ้มให้เธออย่างฝืนใจ ก่อนจะลงมือทานกับข้าวฝีมือ “ว่าแต่ภรรยา” อย่างเสียไม่ได้ เฮ้อ ผมว่าผมคงถอนหายใจ จนอายุขัยใกล้จะหมดแล้วนะครับ ตราบใดที่ผมยังเคลียร์ตัวเองไม่ได้ ผมก็ยังไปง้อเมฆไม่ได้อยู่ดี นอกจากเรื่องคุณแพรแล้วผมยังมีปัญหาใหญ่ มากอยู่อีกเรื่อง คือไอ้ชินกับเจ้าเล็ก เพราะสองคนนั้นต้องคอยกันท่าผมทุกวิถีทางแน่นอน ผมคงใช้แผนแบบ จู่โจมซึ่งๆหน้าไม่ไหว คงต้องคิดหาวิธีอื่นแทน
“คุณใหญ่ ขมวดคิ้วตอนกินข้าวอีกแล้วนะคะ เครียดมากเลยเหรอ” คุณแพรถาม
“ไม่มีอะไรหรอกครับ คุณแพร ผมคิดเรื่องโครงการใหม่นิดหน่อย กับข้าวของคุณแพรอร่อยมากเหมือนทุกวันเลยนะครับ” ผมเลี่ยงที่จะตอบแต่เปลี่ยนประเด็นเป็นกับข้าวแทน
“ขอบคุณค่ะ ดีใจจังที่คุณใหญ่ชอบ เอ่อ คุณใหญ่ชอบทานอะไร บอกแพรได้นะคะ แพรจะได้ฝึกทำไว้ เผื่อว่าเราแต่งงานกันแพรจะได้ทำให้ทาน ดีไหมคะ”
“เอ่อ คงดีมั้งครับ”
ผมได้แต่ลอบถอนใจอย่างยากเย็น ผมคงต้องหาทางจบเรื่องนี้ก่อนที่ ปัญหาจะบานปลายไปกันใหญ่สินะครับ
“ตายจริง จะบ่ายโมงแล้ว แพรขอตัวไปทำงานก่อนนะคะ แล้วพรุ่งนี้เจอกัน ว่าแต่คุณใหญ่อยากทานอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่าคะแพรจะได้ทำมาให้” เธอถามพลางจัดการเก็บปิ่นโตที่ทานเสร็จแล้วไปด้วย
“แล้วแต่คุณแพรดีกว่าครับ” ผมบอกก่อนจะมองแผ่นหลังนั่นออกจากห้องไป
วันนี้เป็นวันอาทิตย์ ผมเลือกที่จะอยู่บ้านแม่ แทนจะกลับไปที่บ้านหลังนั้น ที่นั่นมีความทรงจำของผมกับเมฆมากเกินไป มากจนผมคิดว่าอาจจะทนไม่ไหว แล้วกลับไปทำตัวแบบเดิมอีก เพราะฉะนั้นอยู่กับแม่ให้สบายใจก่อนดีกว่า
“อยู่บ้านเหรอวันนี้” เสียงของพี่ชายคนสนิทเอ่ยทัก
“อ้าว พี่ ถ้าไม่ให้ผมอยู่บ้านจะให้ผมไปอยู่ที่ไหนครับ”
“ก็นึกว่าจะอยู่บ้านคู่หมั้น ใกล้จะแต่งงานแล้วนิ ทำไมไม่ไปดูแลเขาหน่อย” พี่ลมบอก
“พี่ก็รู้ว่าผมไม่ได้รักคุณแพร” ผมบอกเสียงเบา
“ไอ้ใหญ่ เอ้ย พี่เหนื่อยใจแทนแกจริงๆว่ะ แต่ในเมื่อแกเป็นคนสร้างเรื่องทั้งหมดขึ้นมาแกก็ต้องแก้ มันด้วยตัวเอง”
“ผมรู้พี่และผมจะหาทางออก ที่มันเจ็บน้อยที่สุดแล้วกัน” ถ้าจะจบเรื่องราวทั้งหมดคงปฏิเสธไม่ได้ว่าคงมีใครสักหรือบางทีอาจจะหลายคนต้องเจ็บปวด แต่ผมก็ต้องทำทุกอย่างเพื่อให้เรื่องบ้าๆนี่ มันจบลงสักที
“แล้วเมื่อไหร่ แกจะบอกความจริง คุณป้าสักทีว่าแกมีคนที่รักอยู่แล้ว พี่ว่าทางออกเรื่องคุณแพร มันน่าจะอยู่ที่คุณป้านะ” พี่ลมถามเสียงเครียด
“พี่ว่าแม่ จะผิดหวังในตัวผมไหม” ตลอดเวลาที่ผ่านมา ผมพายามทำตัวให้ เก่งที่สุด เพื่อให้แม่ภูมิใจ พยายามทำตัวเข้มแข็งเพื่อเป็นหัวหน้าครอบครัวแทนพ่อ ผมกลัวว่าแม่จะเป็นทุกข์และผิดหวังในตัวผม
“ไอ้ใหญ่ คนเป็นพ่อเป็นแม่น่ะ ไม่มีใครเกลียดลูกตัวเองหรอก คุณป้าจะดีใจมากกว่าที่แกเลิกทำหน้าอมทุกข์แบบนี้สักที คุณป้าเป็นห่วงแกมากนะ เพราะฉะนั้นบอกความจริงกับท่านซะ ” พี่ลมบอกก่อนจะตบบ่าผมเพื่อให้กำลัง
“ความจริงอะไรกันเหรอตาใหญ่”
“แม่!!” ผมตะโกนลั่นเมื่อเห็นว่าคนที่มาใหม่เป็นใคร แม่มองผมกับพี่หมอสลับกันก่อนจะเอ่ยถาม
“ตกลงว่า มีเรื่องอะไรตะบอกแม่กันจ๊ะ สองหนุ่ม”
“แม่นั่งลงก่อนนะครับ” ผมบอกก่อนจะพุงแม่ไปนั่งบนเก้าอี้ ส่วนตัวผมเลือกที่นั่งบนพื้น
“มีอะไรหรือเปล่า ตาใหญ่ ทำไมไปนั่งตรงนั้นละลูก”
“แม่ครับ ผมขอโทษนะครับแม่” ผมบอกก่อนจะก้มลงกราบที่ตักแม่
“เดี๋ยวสิใหญ่ นี่มันเรื่องอะไรกันลูก ” แม่ถามอย่างแปลกใจ
“แม่ครับ จำที่ผมเคยถามแม่ได้ไหม ถ้าวันหนึ่งผมทำให้แม่ผิดหวังแม่จะเกลียดผมหรือเปล่า”
“ใหญ่ แม่บอกใหญ่แล้วไม่ใช่เหรอ ว่าแม่ไม่มีวันเกลียดลูกตัวเองหรอกนะ แม่เลี้ยงใหญ่มา ทำไมแม่จะไม่รู้ว่าลูกชายแม่เป็นคนยังไง ใหญ่ของแม่น่ะต้องแบกรับอะไรตั้งมากมาย ต้องทำตัวให้เข้มแข็งเพื่อแม่ เพื่อน้อง สำหรับแม่แล้วใหญ่คือลูกชายที่แม่ภูมิใจมากรู้ไหมลูก” แม่บอกผมอย่างอ่อนโยนพลางลูบหัวผมไปด้วย
“แม่ครับ ผม ผม..”
“มีอะไรก็พูดมาเถอะลูก แม่พร้อมรับฟังเสมอ” มือของแม่ยังคงลูบผม ของผมอย่างอ่อนโยน
“ผมมีคนที่ผมรักอู่แล้วครับ ผมไม่ได้รักคุณแพร ครับแม่” แม่ชะงักไป ก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่
“นี่แม่ทำผิดอีกแล้วเหรอลูก”
“ไม่ใช่นะครับแม่ ผมต่างหากที่ผิด ผมทำให้แม่ ผิดหวัง ทำให้แม่เสียคำพูด ถ้าตอนนั้นผมไม่ตอบตกลงที่จะหมั้นกับคุณแพร เรื่องทุกอย่างมันก็คงจะไม่เกิดขึ้น ผมรู้ว่าแม่หวังดี อยากให้ผมมีคู่ครองที่ดี”
“แล้วใหญ่บอกแม่ได้ไหมลูก ว่าใหญ่รักใคร” แม่ถามเสียงอ่อนโยน
“ผม เอ่อ ผม ”
“บอกมาเถอะ เจ้าลูกคนนี้นิ อ้ำอึ้งอยู่ได้ ไปรักไปชอบลูกสาวบ้านไหนก็บอกมาสิลูก” แม่ถามทีเล่นทีจริง
“ผมรักน้องเมฆ ครับแม่” ผมกลั้นใจตอบ ก่อนจะมองแม่ที่เงียบไปนาน แม่เงียบจนผมกลัว กลัวว่าแม่กำลังเสียใจ
“แม่ครับ ผมขอโทษ” ผมบอกเสียงแผ่วก่อนจะโผเข้ากอดแม่แน่น
“ขอโทษทำไมจ๊ะ”
“ขอโทษที่ผมเป็นแบบนี้ ขอโทษที่ผมรักผู้ชายด้วยกัน”
“เฮ้อ ใหญ่แม่บอกแล้วไม่ใช่เหรอ ว่าคุณหญิงทิพยากร คนเก่าตายไปแล้ว ตายไปพร้อมๆกับ ทิฐิและอคติที่มีในใจ แม่ได้ได้ตกใจที่ลูก รักชอบผู้ชายด้วยกันหรอกนะ แต่พี่แม่ตกใจคือ ลูกกับตาเมฆไปแอบรักแอบชอบกันตอนไหนทำไม แม่ไม่รู้เรื่องแล้วไอ้ที่กินเหล้าเมายา ไม่ยอมไปทำงานทำการเป็นเพราะเหตุผลนี้หรือเปล่า ” แม่ถามด้วยรอยยิ้ม ทำให้ผมยิ้มกว้าง ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน ผมยังมีแม่อยู่ข้างๆผมเสมอผมรู้ว่าต่อให้โลกนี้ไม่มีเชื่อคำพูดของผม แต่ผมรู้ รู้ว่าผู้หญิงที่ผมกอดอยู่ตอนนี้จะเชื่อผม
“ถ้าแม่อยากรู้ ผมก็พร้อมที่จะเล่าความจริงทุกอย่างให้ฟัง แต่แม่ครับ ผมคนนี้อาจจะไม่ใช่คนดีอย่างที่แม่เห็นนะครับ” ผมบอกก่อนจะเริ่มเล่าเรื่องราวของผมกับเมฆทั้งเรื่องเมื่อ 5 ปีก่อนและเมื่อหลายเดือนก่อนให้แม่ฟัง แม่รับฟังอย่างเงียบๆ ไม่แม้แต่จะออกความเห็นอะไร มันทำให้ผมยิ่งกลัว แม้ว่าจะรู้ว่าแม่ไม่มีทางเกลียดผม แต่ก็ใช่ว่าแม่จะภูมิใจในตัวลูกคนนี้ได้เหมือนเดิม
“ใหญ่ แม่ถามอะไรสักอ่างได้ไหมลูก” แม่เอ่ยถามหลังจากที่เงียบมานาน
“ได้ครับ”
“ใหญ่รักน้อง จริงๆใช่ไหมลูก”
“รักสิครับ ผมรู้แล้วว่าผมรักเมฆมากแค่ไหน ผมอู่ไม่ได้ถ้าผมต้องเสียเขาไป” ผมตอบแม่อย่างหนักแน่น ผมแน่ใจ อย่างที่ไม่เคยแน่ใจมาก่อน ว่าผม รักเมฆ
“ถ้ารักน้อง สัญญากับแม่ได้ไหม ว่าจะไม่ทำให้ลูกสะใภ้แม่เสียใจอีก ถึงเมฆจะไม่ใช่ลูกแต่แม่ก็เห็นน้องมาตั้งแต่เด็กๆ แม่ไม่อยากเห็นน้องเสียใจ”
“ผมสัญญาครับ ว่าผมจะไม่ทำให้น้องเสียใจอีก”
“ได้ แม่จะช่วยใหญ่เอง เรื่องหนูแพร ไม่ต้องเป็นห่วง แม้ว่ามันอาจจะมีผลกระทบกับแม่บ้างแต่ แม่ก็ไม่อยากเห็นใหญ่กับหนูแพรต้องทุกข์ไปตลอดชีวิต เหมือนกัน ฝ่ายนั้นเขาคงเข้าใจ ส่วนเรื่องเมฆแม่ก็ไม่แน่ใจนะว่าจะช่วยได้มากน้อยแค่ไหน ดูท่าน้องจะโกรธมาก ใหญ่คงต้องหาทางง้อน้องเอาเอง”
“ขอบคุณนะครับแม่ ผมรักแม่ที่สุดเลย” ผมบอกก่อนจะกระชับอ้อมกอดแน่นขึ้น ในที่สุดผมก็มีแนวร่วมจนได้ แถมยังเป็นแนวร่วมที่แข็งแกร่งมากซะด้วย เพราะเมฆน่ะเกรงใจแม่ผมมากคงไม่กล้าจะขัดใจ ส่วนเจ้าเล็กรายนั้นไม่ต้องพูดถึง ไม่กล้ามีปากเสียงกับแม่อยู่แล้ว ถ้าได้แม่ผมออกหน้ารับรองมีชัยไปกว่าครึ่ง ผมรู้นะว่าทุกคนกำลังด่าผมในใจ แต่ของแบบนี้ ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็ต้องเอาด้วยกลไม่ใช่เหรอครับ ในเมื่อทุกคนกันผมออกจากเมฆนัก ผมก็กันทุกคนออกจากเมฆได้เหมือนกัน
“ไอ้เจ้าเล่ห์” เสียงของบุคคลที่สามดังขึ้นหลังจากที่แม่ผมกลับเข้าไปในบ้านแล้ว
“ผมเจ้าเล่ห์ที่ไหนพี่ พี่บอกเองไม่ใช่เหรอว่าให้ผมคิดแผนง้อเมีย”
“เหอะ ยอมรับจริงๆว่าแกฉลาด แผนยิงปืนนัดเดียวได้นกทั้งรังเนี่ยสุดยอด คราวนี้ก็เหลือแค่แกจะทำให้ เมียแกใจอ่อนได้หรือเปล่า”
ผมยิ้มรับอ่างแกนๆ ก่อนจะถอนหายใจ เฮือกใหญ่ เพราะต่อให้ผมกันทุกคนออกไปได้ก็ใช่ว่าเมฆจะใจอ่อน แต่ช่างเถอะ ขนาดไอ้เล็กมันยังใจอ่อนให้แฟนมันเลย เมฆก็ต้องใจอ่อนให้ผมสักวัน แค่ผมไม่ท้อก็พอ
.......................TBC......................
หายไปสิบวัน พอดี กับการสงบ สติอารมณ์
อมรับเลว่าช่วงนี้เครียด มันแต่งดราม่าไม่ค่อยออก ขอโทษนะคะ
ที่ต้องให้รอกันนาน

ปล แอบสงสารคุณแพรเหมือนกันนะ
