…………………33……………………
….หมอลม…..
ผมเดินเข้ามาในบ้านหลังเดิมก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่ ทั้งๆที่เมื่อวันก่อนผมกับเจ้าพี่อุส่าห์ลากไอ้ใหญ่มันกลับบ้านแล้วแท้ๆแต่จนแล้วจนรอดมันก็กลับมาที่บ้านหลังนี้อีกจนได้ คงไม่ต้องบอกว่ามันมีสภาพแบบไหน แค่เห็นสภาพบ้านก็รู้แล้วว่าสภาพคนก็คงเละไม่ต่างกัน ผมเดินไปเปิดไฟทั่วบ้านก่อนจะกวาดสายตาหาไอ้เจ้าของบ้านตัวดีที่ไม่รู้มันไปมุดหัวอยู่ซอกไหน
“ไอ้ใหญ่ ไอ้ใหญ่เว้ย อยู่ไหนว่ะเนี่ย” ผมตะโกนแต่ไร้เสียงตอบกลับมา
“ไอ้ใหญ่!!!” ผมตะโกนอีกรอบพร้อมๆกับเดินหามันไปรอบบ้านก่อนจะหยุดลงที่ห้องนอนที่ผมมาลากมันไปครั้งก่อน
“ใหญ่แกอยู่ในนั้นหรือเปล่าว่ะ” ผมถามแต่ก็เหมือนเดิม ไม่มีสัญญาณอะไรตอบกลับมา ผมตัดสินใจผลักประตูเข้าไปช้าๆ หวังว่าคงจะไม่เห็นไอ้ใหญ่นอนเป็นซากเหมือนคราวที่แล้วหรอกนะครับ
“ไปไหนของมันว่ะ” ผมสบถเมื่อเห็นว่าในห้องไม่มีใครก่อนจะได้ยินเสียงเหมือนน้ำไหลมาจากห้องน้ำ ผมเดินตามเสียงไปทันทีก่อนที่จะผลักประตูห้องน้ำที่แง้มอยู่ออกเบาๆ
“เฮ้ย ไอ้ใหญ่!!” ผมตะโกนเมื่อเห็นว่าไอ้คนที่ผมตามหามาตั้งนานมันนอนเป็นซากอยู่ในห้องน้ำแถมยังเปิดน้ำราดตัวจนเปียกชุ่มไปหมด นี่ถ้าผมมาไม่ทันมันคงปอดบวมตายไปแล้วมั้งครับ
“เฮ้อ คิดว่าตัวเองเป็นพระเอก เอ็มวี รึไงว่ะ” ผมถอนใจยาวก่อนจะลากซากไอ้ใหญ่ออกมาจากห้องน้ำแล้วจัดการเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้ก่อนที่มันจะเป็นไข้ตาย นี่ผมจะทำยังไงกับมันดีครับเนี่ย มันเล่นกินแต่เหล้าทำตัวเหมือนหมดอาลัยตายอยากในชีวิต งานการก็ไม่ไปทำ ดีนะที่ลูกน้องมันไว้ใจได้ ไม่งั้นสงสัยบริษัทมันคงล้มละลายเข้าจริงๆ
“ไอ้ใหญ่ๆ ไอ้ใหญ่โว้ย!!” ผมตะโกนก่อนจะตบหน้าอีกคนเบาๆ เพื่อเรียกสติ หลังจากที่จัดการเปลี่ยนเสื้อผ้าให้มันแล้ว
“อื้อ เมฆ เมฆเหรอ” คนที่ยังไม่ตื่นดีถามเสียงเบา
“ไม่ใช่เว้ย ลืมตาขึ้นมาดูดีๆว่านี่ใคร” ผมตะคอก ก่อนจะถอนหายใจแรง
“พี่ หมอเหรอ” เสียงแหบพร่าเอ่ยถาม
“เออพี่เอง”
“พี่มาได้ยังไง”
“ก็มาดูใจ แกไง อะไรว่ะ พี่กับไอ้พีเพิ่งลากแกกลับบ้านนะเว้ย ไม่ทันไรก็กลับมานอนตายอยู่ในบ้านนี้อีกแล้ว”
“ผมอยู่บ้านแม่ไม่ได้หรอกพี่ ผมคิดถึงเมฆ คิดถึงจนผมจะทนไม่ได้อยู่แล้ว” ไอ้ใหญ่บอกเสียงเศร้า จะว่าสงสารมันก็สงสารอยู่หรอกนะ แต่อีกใจก็อดหมั่นไส้มันไม่ได้
“ฉันเคยบอกแกแล้วไม่ใช่เหรอ ว่าอย่ามาเสียใจทีหลัง”
“คนเราก็แปลกนะพี่ เวลาที่มีเขาอยู่กลับไม่เคยเห็นว่าเขา สำคัญแต่เวลาที่เขาจากไปกลับต้องนั่งเสียใจอยู่แบบนี้ เหอะ” อีกคน
พูดเสียงเบา ทำเอาผมต้องถอนหายใจอีกรอบ ช่วงนี้ผมว่าผมต้องหน้าแก่คงแน่ๆ ถ้ายังถอนหายใจวันละร้อยรอบขนาดนี้
Rrrrrrrrrrrrrrrrrrrr
เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นทำให้ผมตื่นจากภวังค์
“ครับป้าทิพย์” ผมรับสายพลางปรายตามองไอ้คนที่นอนเหม่ออยู่บนเตียงไปด้วย
“ลม เจอน้องไหมลูก” ป้าทิพย์ถามอย่างร้อนรน
“เจอแล้วครับ ตอนนี้ก็อยู่ด้วยกัน แต่ว่ามันหลับอยู่น่ะครับ” ผมโกหก เห็นอยู่ชัดๆว่าไอ้ใหญ่ไม่ได้หลับแต่สภาพแบบนี้ขืนให้คุยมี
แต่จะทำให้ป้าทิพย์เป็นห่วงมากกว่าเดิม
“โล่งอกไปที ป้าฝากลมดูแลใหญ่ด้วยนะ พักนี้ไม่รู้ว่าเป็นอะไร ลมพอจะรู้ไหมว่าน้องเป็นอะไร”
“เอ่อ เรื่องนั้น ผมก็ไม่ทราบรายละเอียดหรอกครับ” ผมโกหกอีกแล้ว โอ้ย ไอ้ใหญ่นี่มันทำให้ผมเสียคนจริงๆเลยนะครับเนี่ย
“เหรอจ๊ะ ถ้ายังไง ป้าฝากลม ดูแลด้วยนะ บอกใหญ่ด้วย ว่าพักให้สบายใจแล้วค่อยกลับมาบ้านก็ได้เดี๋ยวบริษัทป้าจะให้ ผู้ช่วยตาใหญ่เขาดูแลอีกที นะจ๊ะ”
“ครับป้า สวัสดีครับ” ผมบอกก่อนที่ป้าทิพย์จะวางสายไป
ถึงจะยอมรับว่าตัวเองแอบสะใจอยู่ลึกๆที่ไอ้ใหญ่มันมีสภาพแบบนี้ แต่อีกใจก็อดห่วงมันไม่ได้ ไหนจะเรื่องที่บ้านไหนจะเรื่องงานอีก แค่ปล่อยมันเหลวไหลมาเกือบอาทิตย์นี่ก็สุดๆแล้วนะครับ
“เฮ้ย ไอ้ใหญ่ลุกขึ้นมากินข้าวกินปลาบ้างสิว่ะ ใจคอจะนอนไปถึงปีหน้าเลยเหรอ”
“ผมไม่หิว” เสียงอ่อนแรงนั้นบอก ผมละอยากจะบ้าตาย ไอ้น้องบ้านี่ เล่นไม่ยอมแตะอะไรเลยแม้แต่น้ำสักหยดใจคอจะอดข้าวจน
ตายเลยหรือไงนะ ไม่ได้ๆ ผมคงต้องทำอะไรสักอย่างไม่งั้นไอ้หญ่มันคงตายจริงๆ เข้าสักวัน
“ไม่หิวก็ต้องกิน แกเป็นแบบนี้มาทั้งอาทิตย์แล้วนะเว้ย จะเป็นแบบนี้ไปอีกถึงเมื่อไหร่” ผมถามอย่างอ่อนใจ แต่คนที่เอาแต่นอนก็ยังไม่ยอมตอบ
“ไหนบอกสิ ว่าไอ้ใหญ่คนที่พี่รู้จักคนนั้นมันหายไปไหน แกไม่เคยเป็นแบบนี้นะเว้ย ไอ้ใหญ่ที่พี่รู้จักน่ะ มัน ฉลาดแล้วก็แก้ปัญหาได้สารพัด ไม่เคยท้อแท้อะไรง่ายๆ แล้วนี่อะไรว่ะ บอกหน่อยสิว่าไอ้ใหญ่คนนั้นมันหายไปไหน”
“ใหญ่พี่รู้ ว่าแกเสียใจ แต่แกอย่าลืมสิ ว่าแกไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวในโลกนะเว้ย ไหนจะ แม่ ไหนจะน้อง ไหนจะบริษัทที่แกต้องดูแล พนักงานบริษัทแกอีกกี่ร้อยชีวิตห่ะ คิดซะบ้างสิ ว่าการที่แกมามัวนอนง่อยอยู่แบบนี้มันไม่เป็นผลดีกับใครทั้งนั้น”
“แต่ผม..”
“อย่าเอาเรื่องอกหักมาเป็นข้ออ้าง น้องเมฆเขาอาจจะทิ้งแกไป ไม่ใช่สิใช้คำว่าทิ้งไม่ได้เพราะเขาไม่ได้ทิ้ง แกต่างหากที่ทำตัวเอง เอาเป็นว่า วันนี้น้องเมฆอาจจะยังไม่พร้อมที่ฟังแก แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาจะเลิกรักแกนี่หว่า บางทีถ้าแกแสดงออกให้เขาเห็นสักนิดว่าแกจริงใจเขาอาจจะยอมรับฟังแกบ้างก็ได้นะเว้ย” ผมพยายามบอกอย่างอ่อนใจ
“ผมขอเวลาหน่อยได้ไหมพี่” เสียงอ่อนแรงเอ่ยขึ้น
“พี่ให้เวลาแกอีกวันเดียว แกต้องกลับมาเป็นไอ้ใหญ่คนเดิมให้ได้ หมดเวลาฟูมฟายแล้ว กลับไปทำหน้าที่ของตัวเองซะ อ้อ แล้วข้าวเนี่ยกินด้วยเดี๋ยวจะตายก่อนได้ง้อเมีย ไปล่ะเบื่อ!!!”
ผมตัดบทก่อนจะเดินออกมาจากห้อง ผมว่าผมรู้จักน้องผมดี แม้ว่าเรื่องบางเรื่องไอ้ใหญ่มันจะโง่ไปบ้าง แต่มันก็เป็นคนมีความรับผิดชอบมากเหมือนกัน ผมว่าไอ้ที่ผมพูดๆไปคงจะทำให้มันคิดอะไรได้บ้าง
“พี่หมอ” เสียงที่ติดจะแหบนิดๆเอ่ยเรียก ก่อนที่ไอ้ร่างสูงที่เคยดูดีแต่ตอนนี้ไม่ต่างจากคนเก็บขยะจะนั่งลงข้างๆ
“ขอบคุณมากนะพี่ที่ช่วยเตือนสติผม ถ้าไม่ได้พี่ป่านนี้ผมคงนอนแห้งตายไปแล้วมั้ง”
“คิดได้ก็ดี ถ้าคิดได้แล้วก็ไปอาบน้ำอาบท่า แล้วจัดการตัวเองดีๆซะ บอกตรงๆว่าเห็นแล้วสมเพชมากว่ะ” ผมบอกก่อนจะยกยิ้มให้น้อง เอาเถอะ แค่มันยอมลุกออกจากที่นอนบ้างผมก็ดีใจแล้ว
….ชลธร…
ผมมองคนที่อยู่ในกระจกก่อนจะยกยิ้มสมเพชตัวเอง นี่ผมปล่อยให้ตัวเองดูทุเรศทุรังมากขนาดนี้เลยเหรอครับ พี่หมอพูดถูก ผมยังมีใครอีกหลายคนที่ผมต้องดูแล ผมไม่มีเวลามากพอที่จะมาทำตัวสำมะเลเทเมาอีกแล้ว แม้ว่าวันนี้ผมจะยังเจ็บปวดและเสียใจกับการกระทำของตัวเองมากแค่ไหนแต่ผมก็ยังต้องลุกขึ้นมาเพื่อรับผิดชอบในหน้าที่ของตัวเอง
ก๊อกๆๆ
“เฮ้ย ไม่ใช่ว่าฆ่าตัวตายในห้องน้ำไปแล้วนะ” เสียงของคนข้างนอกตะโกนถาม
“ยังครับ” ผมตอบก่อนจะเดินออกจากห้องน้ำท่ามกลางสายตาของพี่ชาย
“มองผมทำไมพี่”
“เฮ้อ ก็มันดีใจ ในที่สุดฉันก็งัดแกออกมาจากห้องนอนได้ แหม แอบภูมิใจอยู่เหมือนกันนะ” พี่หมอเอ่ยติดตลก
“ขอบคุณนะพี่ ที่ดูแลผมมาตลอด แล้วก็ขอโทษที่ผมไม่เคยเชื่อคำพูดพี่เลย”
“เฮ้ย ช่างมันเถอะ อะไรที่ผ่านมาแล้วเรากลับไปแก้ไขมันไม่ได้ เราต้องอยู่กับปัจจุบันแล้วก็ทำวันนี้ให้ดีที่สุด ถ้าแกรักเขาจริงๆ ก็แสดงให้เขาเห็นซะว่าแกรักเขา เพราะเท่าที่ดู เมฆเขาก็รักแกอยู่ไม่น้อยนะ เพราะถ้าเป็นพี่โดนแกทำแบบนั้น คงไม่มีทางทนอยู่กับแกได้เป็นเดือนๆหรอก”
“นั่นนะสิพี่ ทำไมผมถึงไม่เคยคิดเลยนะ ว่าที่เขาทนจนถึงวันนี้เพราะเขารักผม ทั้งๆที่ถ้าเขาจะเล่นงานผมกลับก็คงทำได้แต่เขาก็ไม่เคยทำ”
“พอๆ เลิกดราม่าสักสามนาทีได้ไหม พี่ต้องไปเข้าเวรที่โรงบาลแล้ว มีอะไรก็โทรหาแล้วกัน”
ผมพยักหน้ารับรู้ ก่อนจะนั่งลงบนเตียงใน ก่อนจะมองไปรอบๆห้องที่มีความทรงจำมากมายของเราสองคน หลายเดือนที่ผมใช้ชีวิตอยู่กับเมฆที่นี่ มันเกิดเรื่องราวขึ้นมากมายจริงๆ ผมถอนหายใจก่อนจะคว้าหมอนที่อีกคนเคยหนุนขึ้นมากอดแน่น กลิ่นกายจางๆของเขายังคงอยู่ ถึงวันนี้ผมจะยังหาทางออกไม่ได้และยังไม่รู้ว่าจะทำยังไงให้เมฆยกโทษให้แต่ผมตัดสินใจแล้วว่าจะลองดูสักครั้ง ผมไม่อยากยอมแพ้ง่ายๆ ผมต้องการให้เมฆเห็นว่าผมคนนี้ไม่ใช่ คนเดิมอีกต่อไป ผมรู้ รู้แล้วว่า ชีวิตของผมต้อง “อะไร” และเข้าใจแล้วว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา “ใคร” ดีกับผมจริงๆ ผมอาจจะรู้ตัวช้าไปแต่ผมก็ได้แค่หวังว่า มันจะยังไม่สายเกินไปที่คนโง่ๆอย่างผม จะขอโอกาสแก้ตัวสักครั้ง…
..................TBC....................
ช่วงนี้เป็นอะไรก็ไม่รู้ รู้สึกมันเหนื่อยๆ
สมองมันฝีดๆ มันท้อๆ มันคิดไม่ออก อ่ะ
ขอเวลาไปสงบสติอารมณ์ตัวเองหน่อยนะคะ