
เชิญดราม่ากันต่อเลยนะจ๊ะ ที่รัก แต่อย่าคาดหวังนะ ช่วงนี้เขางานยุ่ง

……………………………21………………………..
“ทำหน้าให้มันดีๆหน่อยสิครับน้องเมฆ” เสียงทุ้มเอ่ยบอกก่อนจะบีบเข้าที่ข้อมือผมอย่างแรง
“งานนี้ มันงานหมั้นพี่นะครับ ไม่ใช่งานศพ ผัวจะหมั้นทั้งที ไม่ดีใจเหรอครับ” เขาถาม เสียงเย็นพลางลากผมเข้ามาในบ้านด้วย
“อ้าว ตาใหญ่มาพอดีเลย” ป้าทิพย์เอ่ยทักลูกชายคนโตด้วยสีหน้าที่ดูสดใสขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ส่วนหนึ่งก็คงเป็นเพราะตอนนี้ไอ้
เล็กมันกลับมาแล้วและอีกส่วนหนึ่งก็คงเป็นเพราะวันนี้เป็นวันมงคลสินะ
“อ้าว เมฆก็มาด้วยเหรอลูก ทำไมถึงมาด้วยกันได้ล่ะ” ป้าทิพย์ถามอย่างแปลกใจ
“ไม่ได้มาด้วยกันครับแม่ พอดีว่าผมสองคนเจอกันที่หน้าบ้านน่ะครับ แม่ก็นั่งบ้างเถอะครับ เดี๋ยวจะไม่สวยนะครับ” เขาตอบ ก่อนจะเข้าไปพยุงป้าทิพย์ไปนั่ง
“ก็แม่ดีใจ คนแก่น่ะ ไม่ได้หวังอะไรไปมากกว่าการเห็นลูกเป็นฝั่งเป็นฝาหรอกนะ” ป้าทิพย์บอกด้วยใบหน้าที่มีความสุข
“คุณแม่ไปนั่งพักเถอะครับ ” พี่ใหญ่เอ่ยบอก
“งั้นใหญ่รีบไปแต่งตัวเถอะลูก เดี๋ยวจะไม่ทัน แม่จะรอตาเล็กเองสักพักคงมาเราจะได้ไปกัน” ป้าทิพย์บอกพลางดันหลังคนตัวสูงเข้าบ้าน
“ไปช่วยพี่แต่งตัวหน่อยสิครับน้องเมฆ” เสียงทุ้มเอ่ยบอก
“เอ่อ ไม่ดีกว่าครับ ผมว่าผมอยู่รอไอ้เล็กเป็นเพื่อนป้าทิพย์ดีกว่า”
“น้องเมฆครับ พี่ว่าเราเข้าไปข้างในดีกว่านะครับ” เขาบอกเสียงนุ่มแต่แววตาที่ส่งมากลับตรงกันข้าม
“เมฆไปช่วยพี่เขาแต่งตัวสิลูก เดี๋ยวทางนี้ป้าจัดการเอง ไปลูกไป”
“ตามมาสิครับ” เขาบอกพลางลากผมให้ขึ้นไปบนห้องด้วยทันที
“ไปเอาชุด ที่อยู่ในตู้ออกมาสิ ” เขาสั่งพลางถอดเสื้อที่ใส่อยู่ไปด้วย
ผมทำตามอย่างว่าง่าย ไม่มีประโยชน์ที่จะมานั่งคิดเล็กคิดน้อย หรือคิดจะต่อต้าน เพราะสุดท้ายแล้วเขาก็ต้องบังคับผมอยู่ดี
“ได้แล้วครับ”
“อืมจัดชุดให้ด้วย ”
“ครับ”
“ใจคอจะพูดคำเดียวหรือไงครับที่รัก” เขาบอกก่อนจะก้มลงหอมแก้มผมไปด้วย หากมันเป็นการกระทำจากคนรัก ผมก็คงมีความสุขมาก แต่น่าเสียดายนะครับที่มันเป็นการกระทำของคนที่เกลียด และมันก็ทำให้ผมเจ็บทุกครั้ง
“ผมไม่จำเป็นต้องพูดอะไรนิครับ”
“แหม พี่จะหมั้นทังทีน้องเมฆไม่แสดงความยินสักหน่อยเหรอครับ”
“ยินดีด้วยแล้วกันครับ” ผมตอบแบบขอไปที
“ขอบคุณนะครับ สำหรับคำอวยพร แต่ก็อย่าลืมอวยพรกับตำแหน่งใหม่ให้ตัวเองด้วยละ เพราะอีกไม่กี่อึดใจ เมฆจะกลายเป็นเมียน้อยแล้วนะครับ” เขาบอกเสียงเรียบก่อนจะยกยิ้มอย่างถูกใจ
ผมเดินตามหลังครอบครัวสิริพิทักษ์ที่พ่วงเอา เอ่อ เขยคนเล็ก กับหลานตัวน้อย เข้ามาในโรงแรม ด้วยอารมณ์ที่ผมก็อธิบายไม่ถูก มันผสมกันไปหมดทั้ง เจ็บปวด เศร้า เหนื่อย ท้อ เอาเป็นว่ารวมๆแล้วผมรู้สึกไม่ดีแล้วกันนะครับ สักพักเราก็เดินมาถึงห้องที่ตกแต่งประดับประดาด้วยดอกไม้สีขาว อย่างลงตัวทำให้บรรยากาศวันนี้ เหมือนกับเทพนิยายในฝันหรือไม่ก็พวกหนังรักโรแมนติกที่ผู้หญิงเขาชอบกัน
“จะยืนทำหน้าซังกะตายอีกนานไหมว่ะ” ไอ้เล็กเอ่ยถาม
“กูทำหน้าแบบนั้นเหรอ”
“ยิ่งกว่านั้นอีกครับมึง ถ้ามึงไม่อยากมาทำไมไม่บอกพี่ใหญ่ไปล่ะห่ะ”
“ทำอย่างกูบอกแล้ว พี่มึงจะฟัง ช่างเถอะก็แค่มางานหมั้น มันก็ไม่ได้มีอะไรหนักหนานิหว่า”
“มึงแน่ในนะว่าไม่มีอะไร”
“อืม”
ผมตอบแบบขอไปที ถ้าถามว่าตอนนี้เจ็บไหม ตอบเลยว่าไม่ ไม่ใช่ไม่เจ็บ แต่มันไม่รู้สึกอะไร เพราะผมเจ็บจนชาไปแล้วต่างหาก เพราะฉะนั้นมันไม่มีประโยชน์ที่จะมานั่งร้องไห้ฟูมฟาย
“มาแล้วเหรอคะ คุณหญิงทิพย์” ผู้หญิงสูงวัยที่สวมชุดผ้าไหมสีงาช้างทั้งชุดกับโคตรเพชรเม็ดเท่าไข่นกกระจอกเทศเดินเข้ามาทัก ซึ่งผมก็พอจะจำได้ว่า คนนี้คือคุณหญิงพลอยพริ้งแม่ของคู่หมั้นพี่ใหญ่
“สวัสดีค่ะ คุณพี่” ป้าทิพย์ทักตอบก่อนที่คุณแม่ของคู่หมั้นจะชวนกันไปทักทายแขกในงาน
“เมฆ มากับพี่หน่อย” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้น
“เฮ้ย พี่จะเอาเพื่อนผมไปไหน” ไอ้เล็กแหวลั่นก่อนจะกอดคอผมไว้แน่น
“อย่ายุ่งเจ้าเล็ก พี่เคยบอกแล้วว่าเราไม่เกี่ยว” คนเป็นพี่บอกเสียงนิ่ง
“พอเถอะเล็ก กูไม่เป็นไร มึงอยู่กับไอ้วัตกับ พีพี เถอะ เดี๋ยวกูมา” ผมบอกก่อนจะเดินตามคนหน้านิ่งไป
“ทำไมชอบทำหน้าเหมือนโดนพี่บังคับมานักห่ะ” เขาบอกเสียงเย็น เมื่อเดินมาถึงบันไดหนีไฟ
“แล้วจะให้ผมทำหน้ายังไง”
“พี่บอกให้เมฆยิ้ม ยิ้มน่ะทำเป็นไหม พี่ไม่ชอบให้ใครมาหน้าบึ้งในงานมงคลของตัวเองเข้าใจไหมครับ ”
“ครับ แล้วผมจะทำแล้วกัน”
“ดีครับ พูดง่ายๆแบบนี้ค่อยน่ารักหน่อย”
เขาบอกเสียงเย็นก่อนที่ริมฝีปากได้รูปจะประกบลงมาอย่าง รวดเร็ว รสจูบร้อนแรงที่ถูกส่งมาทำให้สมองผมขาวโพลน ลิ้นร้อนยังคงกวาดต้อนเลาะเล็มจนผมไม่มีแรงต่อต้าน
“หึ” เขาแค่นเสียงก่อนจะถอนจูบ
“แหม เมียพี่ยังร้อนแรงเหมือนเดิมเลยนะครับ”
“ถ้าพอใจแล้วกรุณา ปล่อยด้วยครับ คุณต้องไปเข้าพิธีนะครับ”
“หึ พี่ไปแน่ ไม่ต้องไล่หรอกครับ ยินดีต้อนรับสู่การเป็นเมียน้อยอย่างเป็นทางการนะครับ น้องเมฆ” เขาบอกทิ้งท้ายก่อนจะเดิน
กลับเข้าไปในงาน
ภาพของคนสองคนในชุดไทยประยุกต์ สีงาช้างที่กำลังเข้าพิธีหมั้นอยู่ทำให้ หัวใจผมปวดหนึบ จนผมต้องเบือนหน้าไปอีกทาง ผมกำลังแพ้ แพ้หัวใจตัวเองอีกแล้ว แพ้เพราะตอนนี้ผมกำลังเจ็บปวดเพราะสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า
“เมฆ” เสียงหนึ่งเรียกก่อนที่มือของเพื่อนรักจะวางลงบนบ่า
“เฮ้ย อย่ามาทำเสียงเศร้า กูไม่ได้เป็นอะไร”
“เหอะ เชี่ยเอ้ย มึงพูดเหมือนกูไม่ใช่เพื่อนมึง แค่มึงอ้าปากกูก็เห็นไส้ติ่งแล้ว กูรู้หรอกว่าตอนนี้มึงกำลังคิดอะไร”
“แล้วมึงคิดว่ากูกำลังคิดอะไรล่ะ” ผมถามกลับ
“เชี่ย กวนตีน” ไอ้เล็กบอกก่อนจะพลักหัวผมเบาๆ ผมรู้ว่าใจจริงมันไม่ได้มีเจตนาจะกวนผมหรอก มันแค่ต้องการจะดึงผมออกมา
จากโลกส่วนตัวเท่านั้น ซึ่งก็ต้องขอบคุณมันเหมือนกันเพราะถ้ามันไม่เข้ามากวน ผมก็คงไม่สามารถยิ้มได้ใน สถานการณ์แบบนี้
“ต่อไปนี้ ป้าต้องฝากเมฆ ดูแลน้องด้วยนะ” คุณหญิงพลอยพริ้งเอ่ยกับคู่หมั้นหมาดๆของลูกสาว หลังจากที่พิธีผ่านไปแล้ว
“ครับคุณป้า ผมจะดูแลน้องแพร ให้ดีที่สุดครับ”
“น้องก็จะช่วยตาใหญ่ ดูแลเหมือนกันค่ะคุณพี่ รับรองว่า บ้านสิริพิทักษ์ จะดูแลหนูแพรอย่างดีเลยค่ะ” ป้าทิพย์บอก
ผมยืนฟังอยู่เงียบๆพลางคิดว่าตัวเองมายืนอยู่ตรงนี้ทำไม ทำไมผมต้องมาทนฟังอะไรแบบนี้ด้วย แต่สิ่งที่ทำให้ผมไปไหนไม่ได้ก็คงเป็นแววตาคมที่เคยจ้องผมตลอดเวลานั่นมากกว่ามั้งครับ ที่ทำให้ผมไม่กล้าขยับไปไหน
“เห็นที พี่กับหนูแพรคงต้องกลับก่อนแล้วนะคะ หนูแพรเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว” คุณหญิงพลอยพริ้งบอกหลังจากที่โม้เรื่องโคตรเพชรมานานแสนนาน
“ค่ะ กลับดีๆนะคะ คุณพี่ หนูแพร”
“กลับดีๆนะครับ”
เราเอ่ยลาคุณหญิงพลอยพริ้งกับคุณแพรไพลิน ที่ตั้งแต่เช้าเอาแต่ยืนยิ้มอย่างเดียว ก่อนที่คนตัวสูงกว่าจะหันไปพูดกับแม่ตัวเองบ้าง
“ผมคงต้องกลับก่อนนะครับแม่”
“อ้าว ใหญ่จะไปคอนโดเหรอลูกวันนี้ แม่คิดว่าจะกลับบ้านกับแม่ซะอีก” ป้าทิพย์เอ่ยถาม
“ครับ พอดีว่ามีงานต้องทำนิดหน่อยน่ะครับ”
“คุณย่าคร้าบ พีพีหิวแล้วเรากลับบ้านกันได้หรือยังอ่ะครับ” เจ้าเด็กแสบวิ่งเข้ามาเรียกคนเป็นย่าก่อนจะลูบท้องแสดงท่าทางประกอบด้วย จนป้าทิพย์อดที่จะก้มลงหอมแก้มด้วยความเอ็นดูไม่ได้
“หิวมากเหรอครับ คนเก่ง”
“หิวครับ หิวจนกินช้างได้ทั้งตัวเลย” เจ้าตัวเล็กบอก
“ครับๆ ย่ากลับแล้ว เดี๋ยวหลานชายย่า จะหิวจนกินช้างซะก่อน แม่กลับแล้วนะตาใหญ่ อย่ามัวแต่ทำงานล่ะ กลับบ้านบ้างแม่คิด
ถึง” ป้าทิพย์บอกก่อนจะพาเจ้าตัวยุ่งขึ้นรถกลับบ้านไป
“หึ ยิ้มซะกว้างเชียวนะครับ เวลาที่อยู่กับคนอื่น แต่เวลาอยู่กับผัวตัวเองทำหน้าอย่างกับจะตาย ”
“คุณก็น่าจะพอรู้ นะครับว่าทำไม ผมต้องทำหน้าแบบนั้น”
“ปากดีจังนะครับวันนี้ งั้นพี่ว่าเราสองคนกลับไปฉลอง สถานภาพ “เมียน้อย” ของเมฆกันที่บ้านดีกว่านะครับ หึ”
...................TBC...........................
พิตจะมาบอกว่า ขอลายาวถึง วันที่ 8 เมษาเลยนะคะ
เพราะติดธุระ ลงให้ลำบากจริงๆ แต่ถ้าลงได้ก็จะพยายามลงนะ
ขอตัวไปปั่นนิยาย

ต่อก่อน
รักทุกคนคร่า ม๊วฟๆๆ
