เชิญ มาม่า กันต่อ ขอรับบบบบบบบบบบ
………………..20………….
“จะไปไหน!!!” เสียงตวาดลั่นของพี่ใหญ่ดังขึ้นก่อนที่ผมจะก้าวออกมาจากห้อง
“ผมจะไปทำงานที่ร้านพี่ต้น” ผมบอกเสียงเรียบ
“ไม่ต้องไป!!! พี่ไม่อนุญาตให้เมฆไป”
“นี่ มันจะไม่เกินไปหน่อยเหรอ ผมมีชีวิตจิตใจนะครับ” ผมเถียงกลับ สรุปแล้วการที่ผมกลับมาก็ไม่มีอะไรดีขึ้นสักอย่าง เขายังเป็นเขาที่ยังโกรธและแค้นผมจนอยากจะฆ่าให้ตาย
“หึ พี่เคยบอกเมฆแล้วไงครับ ว่าพี่จะไม่มีวันปล่อยให้เมฆมีความสุข ความทุกข์ของเมฆคือความสุขของพี่ เมฆจะไม่มีวันรู้ว่าความสุขคืออะไรตราบใดที่พี่ยังอยู่” เขาสบถลั่น
“คุณแค้นผมมากหรือเปล่า” ผมถามเสียงเรียบ
“ถามทำไม”
“ถ้าวันนั้นคุณเลือกได้ คงอยากให้คนที่อยู่บนรถคันนั้นเป็นผมสินะ ถ้าคนที่ตายคือผมไม่ใช่พี่ฟ้า ก็คงไม่มีใครต้องเสียใจ ไม่มีใครเจ็บปวด ใช่ไหมครับ” ผมคิด คิดมาตลอดว่าถ้าวันนั้นคนที่ตายเป็นผมเรื่องมันคงดีกว่านี้ผมก็คงไม่ต้องเป็นส่วนเกินของใครต่อใครอีก การเป็นคนที่
ไม่มีใครต้องการมันทำให้ผมเจ็บยิ่งกว่าตายซะอีก
“เมฆจะพูดให้มันได้อะไรขึ้นมา ในเมื่อวันนี้ เวลานี้ คนที่ตายคือฟ้า ไม่ใช่เมฆ!!!” เขาบอกพลางขบกรามแน่น
“ทำไมคุณไม่ฆ่าผมให้ตายไปเลยล่ะครับ คุณปล่อยผมไว้ทำไม ปล่อยผมไว้แบบนี้ทำไมกัน” ผมบอกเสียงสั่น เหนื่อยเหลือเกินกับการต้องอยู่แบบนี้
“พี่บอกเมฆไปแล้วไงครับ ความตาย มันง่ายเกินไป เมฆต้องทรมาน เมฆต้องทรมานอย่างที่สุด เพื่อชดเชยสิ่งที่เมฆทำลงไป เมฆทำให้ฟ้าตาย ทำให้คุณน้าวิภาเป็นบ้า ทำให้พ่อตัวเองต้องเข้าโรงพยาบาล เมฆคิดว่าความผิดของเมฆมันยังให้อภัยได้อีกเหรอครับ ” เขาบอกเสียงเย็น
“เมฆ ไม่มีวันเข้าใจหัวอกของคนที่ต้องสูญเสียอย่างพี่หรอก ไม่มีวันเข้าใจว่าการที่ต้องสูญเสียคนที่รัก มันเจ็บปวดมากแค่ไหน” เขาบอกทิ้งท้ายก่อนจะเดินออกจากห้องไป
ปัง!! ประตูถูกปิดลงพร้อมกับผมที่ทรุดนั่งลงบนเตียงอย่างเหนื่อยล้า
“ใครบอกว่าผมไม่เข้าใจ ผมเข้าใจมันดีเลยล่ะ ไอ้การสูญเสียเนี่ย ” ผมยกยิ้มสมเพชให้กับตัวเองก่อนจะมองไปที่ประตูที่ปิดแน่น ผมไม่รู้หรอกว่าเขาที่อยู่นอกประตูนั่นกำลัง คิดหรือทำอะไรอยู่ แต่ตอนนี้ผมกำลังไร้ทางออกปัญหาทั้งหมดมันดูมืดมนจนไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะเจอทางออกสักที ผมพยายามที่จะเผชิญหน้ากับมันแต่ก็เหมือนจะไม่มีอะไรดีขึ้นสักอย่าง ผมควรเริ่มจากตรงไหน ควรทำยังไง ถึงจะหลุดพ้นจากบ่วงที่พันธะนาการเราไว้สักที ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ผมคงเลือกที่จะไม่โกรธ ไม่เกลียด ไม่ต้องการแก้แค้นพี่ฟ้า เรื่องราวทั้งหมดมันก็คงไม่เกิดขึ้น แต่ตอนนี้มันก็คงสายเกินไปแล้วสินะครับ
กริ๊งๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
เสียงกดออดรัวที่หน้าบ้าน ทำให้ผมจำต้องเดินออกไปดูที่หน้าบ้าน
“ไอ้เมฆ!!” เสียงตะโกนโหวกเหวกโวยวายของเพื่อนรัก ทำให้ผมต้องเผลอจ้องอย่างตกใจ ไอ้เล็กมาที่นี่ได้ยังไง
“ไอ้เล็ก!!” ผมตะโกนตอบ บอกไม่ถูกว่าตอนนี้กำลังดีใจหรือตกใจกันแน่ มันเหมือนเหตุการณ์เดจาวูเลยนะครับ เพราะครั้งนึงผมเองก็เคยไปยืนแหกปากโวยวายที่หน้าบ้านไอ้วัตแบบที่มันทำเหมือกัน
“พี่ใหญ่ ปล่อยไอ้เมฆมานะ ถ้าไม่ปล่อยจะหาว่าผมไม่เตือน” ไอ้เล็กตะโกนลั่นจนชาวบ้านละแวกนั้นเริ่มออกมาดูกันบ้าง
“เล็ก เบาๆหน่อย” ไอ้วัตเอ่ยห้าม
“ไม่ กูไม่เงียบ จนกว่าพี่ใหญ่จะออกมา พูดให้รู้เรื่อง” ไอ้เล็กยังคงตะโกนต่อไป
“มีอะไรจะพูดกับพี่เหรอเจ้าเล็ก” เสียงที่ยังคงนิ่งเสมอต้นเสมอปลายเอ่ยเรียบๆ ก่อนที่ร่างสูงจะเดินออกมาเปิดประตูรั้วให้ไอ้เล็ก
“พี่ทำอะไรเพื่อนผมห่ะ!!” ไอ้เล็กตะคอก ก่อนจะลากผมให้ไปยืนข้างหลังตัวเอง ดีใจนะที่มันห่วงแต่มันจะรู้ตัวไหมว่ามันเตี้ยกว่าผม
“เข้าไปคุยกันในบ้าน” คนหน้านิ่งบอกก่อนจะเดินนำเข้าบ้านไป
“เมฆพี่กูทำอะไรมึงหรือเปล่า” ไอ้เล็กกระซิบถาม
“มึงคิดว่าไงล่ะ” ผมตอบ ผมไม่ได้กวน แต่ผมเลือกที่จะไม่พูดถึง ผมเหนื่อยที่จะต้องมานั่งคิดหรือนึกถึงเรื่องพวกนั้น
“เฮ้อ เอาเถอะ กูเคลียร์เอง ” ไอ้เล็กบอกก่อนจะจับมือผมให้เดินเข้าบ้านไปพร้อมกัน
เราสี่คนนั่งประจันหน้ากันที่โซฟาในห้องรับแขก โดยที่เจ้าบ้านยังคงไม่ยอมพูดอะไร ความเงียบและความอึดอัดกำลังปกคลุมไปรอบๆตัว บอกตรงๆว่าผมไม่ชอบบรรยากาศแบบนี้เลย มันคล้ายจะหายใจไม่ออกน่ะครับ
“พี่คงพอจะรู้นะว่าผมมาที่นี่ทำไม” ไอ้เล็กเอ่ยขึ้นเป็นคนแรก
“หึ ถ้าพี่บอกว่าไม่รู้ล่ะ”
“ผมไม่อ้อมค้อม เพราะไม่มีอารมณ์เล่น ผมเคยบอกพี่ไปแล้วว่าสำหรับผมไอ้เมฆมันสำคัญมาก และผมจะไม่ยอมให้ใครทำอะไรมันเด็ดขาด ต่อให้คนๆนั้นเป็นพี่ก็ตาม” ไอ้เล็กบอก แต่คนหน้านิ่งก็ยังคงนั่งนิ่งราวกับไม่รับรู้อะไร
“ผมพูดพี่ไม่ได้ยินเหรอ”
“ได้ยิน แต่นี่มันไม่ใช่เรื่องของเล็ก เรื่องนี้มันเป็นเรื่องของพี่ เราอย่าเข้ามายุ่งดีกว่า”
“คงไม่ได้หรอกครับ เพราะไอ้เมฆมันคือเพื่อนรักของผม ใครก็ตามที่ทำให้มันเจ็บ ผมไม่มีทางปล่อยมันคนนั้นเอาไว้เหมือนกัน” ไอ้เล็ก
บอกเสียงลอดไรฟัน ผมได้แต่จับมือมันไว้แน่น ผมไม่อยากเห็นมันกับพี่ชายต้องทะเลาะกัน ผมไม่อยากให้มันต้องโดดเดี่ยวเหมือนที่ผมเป็น
“เล็กกูว่าพอเถอะ กูอยู่ได้ ไม่มีใครทำอะไรกูทั้งนั้น” ผมบอกมันเสียงเบา
“มึงอย่ามาโกหกกู กูไม่ได้โง่ขนาดที่จะดูไม่ออกนะว่าอะไรเป็นอะไร” มันบอกก่อนจะหันกลับไปจ้องหน้าพี่ชายเขม็ง
“เล็ก เรื่องนี้มันเป็นเรื่องของกูกับพี่ชายมึงต้องแก้ด้วยตัวอง กูไม่อยากเห็นมึงต้องมาเป็นทุกข์หรือเดือดร้อนเพราะกู ไม่มีใครช่วยกูได้
หรอก เพราะกูเลือกที่จะกลับมาเอง”
“หึ ได้ยินแล้วใช่ไหม ว่าพี่ไม่เคยบังคับ เพื่อนเราน่ะเต็มใจจะอยู่ที่นี่เอง” ร่างสูงแสยะยิ้ม
“เมฆ กลับไปกับกูเถอะ” ไอ้เล็กถามพลางจับมือผมแน่น ผมรู้ว่ามันหวังดีกับผม เหมือนที่ผมหวังดีกับมัน แต่นี่มันเป็นปัญหาที่ผมก่อมันขึ้นมาเอง ผมอยากจะจบมันด้วยตัวผมเอง
“กูดีใจนะที่มึงห่วงกู แต่กูอยากจะจบเรื่องทั้งหมดด้วยตัวของกูเอง มึงไม่เชื่อกูเหรอเล็ก กูนี่เมฆานะ เรื่องแค่นี้เองกูผ่านมันไปได้น่า”
“เมฆ มึงแน่ใจนะ”
“อืม กูแน่ใจ มึงกลับไปเถอะนะ ”
ผมบอกก่อนจะจับมือมันแน่นขึ้น อย่างน้อยตอนนี้ผมก็รู้ว่าผมไม่ได้โดดเดี่ยว ผมยังมีไอ้เล็กที่คอยเป็นห่วงผมอยู่เสมอแค่นี้มันก็ดีมากแล้วสำหรับคนอย่างผม
“หึ ถ้าคิดว่าเล่นไม้นี้แล้วพี่จะใจอ่อนเมฆคิดผิดแล้วนะครับ” คนหน้านิ่งบอกหลังจากที่ไอ้วัตกับไอ้เล็กกลับไปแล้ว
“ผมเล่นไม้ไหน”
“หึ ถ้าคิดจะใช้แผนดึงเจ้าเล็กมาช่วยพี่ขอบอกเลยนะว่าเมฆคิดผิด พี่ไม่มีทางปล่อยเมฆไปเพียงเพราะคำขอของเจ้าเล็กหรอกนะครับ”
“ผมไม่จำเป็นต้องให้ใครมาช่วย ผมเป็นคนก่อเรื่องทุกอย่างขึ้นมา ผมก็พร้อมที่จะยอมรับมัน หากว่าผมจะต้องชดใช้ผมก็ขอ ชดใช้มัน
ด้วยตัวของผมเอง” ผมบอกอีกคนด้วยเสียงหนักแน่น
“ คิดได้ก็ดีครับ เพราะเมฆจะได้ชดใช้ จนถึงวินาทีสุดท้ายของลมหายใจเลยล่ะ” เขาบอกเสียงเรียบ พลางมองผมด้วยสายตาที่ยากจะคาดเดา แต่อะไรมันจะเกิดมันก็ต้องเกิด ผมยอมรับแล้ว ผมเหนื่อยที่จะต้องต่อต้าน ผมมันตัวคนเดียวอยู่แล้ว ไม่มีคนข้างหลัง ไม่จำเป็นต้องห่วงอะไร เขาจะทำอะไรกับผมก็เชิญ หากว่า บ่วงแค้นทั้งหมดมันจะจบลงที่ชาตินี้
ตุ๊บ!!
กล่องกระดาษถูกวางลงตรงหน้าพร้อมกับที่ร่างสูง เปิดประตูเข้ามา อ้อ คงไม่ต้องบอกมั้งครับว่าใคร
“ช่วยเลือกรูปที่จะใช้ตกแต่งในงานให้พี่หน่อยสิครับ อืม ถ้าจะให้ดีเลือกการ์ดให้พี่ด้วยนะ ” เขาบอกพร้อมรอยยิ้ม
“ทำไมผมต้องเลือก”
“เพราะพี่ อยากให้เมฆเป็นคนเลือกไงครับ อ้อ พี่ลืมบอกไป งานนี้พี่เชิญเมฆด้วยนะครับ หึ ไปให้ได้ล่ะ ที่รัก” เขาแสยะยิ้ม ก่อนจะทิ้งผมไว้กับอัลบัมรูปของเขากับว่าที่คู่หมั้น
“หึ ” ผมแค่นเสียงก่อนจะมองรูปถ่ายนับร้อยรูปที่อยู่ตรงหน้า อย่างคนแพ้ เพราะนี่คือจุดอ่อนเดียวที่ผมมี พี่ใหญ่ฉลาดพอที่จะใช้เรื่องนี้เล่นงานผมครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ผมก็ยังยอม ผมไม่รู้ว่าใครจะพูดว่ายังไง แต่การตัดใจจากใครสักคนมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยจริงๆ ไม่ว่าผมจะพยายามแค่ไหน สุดท้าย ผมก็ปฏิเสธความจริงไม่ได้อยู่ดี ว่า
ผมรักเขา ผมรักพี่ใหญ่ ไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ยังรัก
................... TBC.....................
แอบเข้ามาเห็นแวบๆ ว่า ห้าวันแล้ว ฮ่าๆๆ
ลงให้แล้วนะจ๊ะ สปอยหน่อยว่า ในอีกไม่กี่ตอน มีการ เปลี่ยนแปลง
แน่นอน
แต่จะเปลี่ยนอะไร ก็ รอลุ้น นะจ๊ะ