จอมขมังเวทย์ปราบมาร : บทที่ 1(50%) (8/3/2557) P.57+แจ้งข่าว P.1ค่ะ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: จอมขมังเวทย์ปราบมาร : บทที่ 1(50%) (8/3/2557) P.57+แจ้งข่าว P.1ค่ะ  (อ่าน 439503 ครั้ง)

ออฟไลน์ กำแพงเมืองจีน

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 113
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
+1 ค่ะ 

มาต่อเร็วๆนะค่ะ   o22 o22

ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7
ชะนีมาละ เบื่อนางงงงงงง

ออฟไลน์ MiSS-U

  • {^o^} {^3^}
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2800/-11
ลูกหมูเอ๊ย  มาหาพี่ราชันถึงห้องเลยน้า

มันน่ายุให้พี่ราชันจับปล้ำจริงๆ

 o18

บวกเป็ด

ออฟไลน์ takara

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +379/-13
ใจหนูกินจนจะอ้วนมากแล้วนะ

ออฟไลน์ full69

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 647
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-2

ออฟไลน์ silverspoon

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +275/-12
พี่ราชันไม่ใช่แค่หมดใจนะแต่เกลียดเลยแหละ ยัยพลอย! :beat:

ออฟไลน์ แป้งข้าวหมาก

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 749
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-1
มาอีกแล้วนังพลอย   :z6:

ออฟไลน์ sukaz

  • I Will Love You Unconditionally
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1431
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
อะไรๆๆๆ ยังจะมีมารมาผจญอีกหรอ
  :ling1: :ling1: :ling1: :ling1:

ออฟไลน์ Zelsy

  • เพราะ "รัก" คำเดียวเท่านั้น
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1859
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-2
ไม่โกรธ แต่เกลียดสินะ
ใครๆก็หลงรักใจ 555

ออฟไลน์ kitty08

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-4
มีหมูมาให้หามถึงที่เลยแฮะ  :mew4: พลอยจะกลับมามีบทบาทอีกไหมเอ่ย  :katai1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Lemon_Tea

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1641
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +71/-2
นางมาแล้วสินะ จะมีบทบาทยังไงบ้างหรือเปล่าก็ไม่รู้

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
ยัยพลอยมาแว้ววว

ตอนนี้น่ารักอ่ะ กอดกันนอนด้วย อิอิ

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
จะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้

ออฟไลน์ toye

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 290
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-0
สวัสดีปีใหม่ค่ะ
ขอให้ทุกท่านแต่ความสุขความเจริญนะค่ะ
ปีใหม่ขอให้มีแต่สิ่งดีๆเข้ามในชีวิตค่ะ
ขอบคุณสำหรับปีที่ผ่านมานะค่ะ :hao5:

วันนี้เอาตอนใหม่มารับปีใหม่ค่ะ
ตอนนี้จะมีสองตอนนะค่ะ

อ่านให้สนุกค่า


บทที่ 22 (1)

   
สวัสดีครับทุกคน...ผม...นายจอมราชัน สุทธิไพศาล บุตรชายคนโตของท่านจอมไตรและนางนวลอนงค์ สุทธิไพศาล มีน้องชายสี่คนครับ...ปัจจุบันดำรงตำแน่งรองประธานบริษัทแลนด์ พรอบพรอตี้ ครับ


   ผมขอออกตัวก่อนเลยว่าผมเป็นคนพูดไม่เก่ง ไม่มีความเฮฮาเหมือนเจ้าเวทย์เท่าไร เพราะฉะนั้นถ้าผมพูดอะไรแข็งๆทื่อๆไปบ้างอย่าได้โกรธเคืองนะครับ


   ผมรู้ว่าทุกๆคนอยากให้ผมออกมาแถลงไขเรื่องราวยุ่งๆในช่วงนี้ของผม ผมรู้ครับว่าทุกคนกังวลเรื่องของผม ผมมีทั้งเรื่องที่บริษัทแต่ตื้นลึกหนาบางแค่ไหนผมคงไม่ได้เพราะว่ามันเป็นความลับทางบริษัทที่ไม่สามารถเปิดเผยได้ครับ
ส่วนอีกเรื่องก็คือเรื่องที่ยังคงติดใจกันมาตลอดว่าทำไมผมถึงทำตัวไม่เป็นสุภาพบุรุษกับผู้หญิงคนนั้นที่เคยได้ชื่อว่า...”เพื่อน” แต่ถ้าเป็นเมื่อก่อนอาจจะบอกได้ว่ามันเป็นความสัมพันธ์ที่เกินกว่าเพื่อนก็ได้ครับ แต่พอมีเรื่องนั้นเกิดขึ้นมา...ผมคนนี้แหละที่เป็นคนตัดความสัมพันธ์จากนั้นเป็นต้นมา


วันนี้ผมก็อยากจะมาบอกให้ทุกคนได้รู้ถึงอดีตเรื่องนั้นกันครับ


หากจะเล่ามันก็ต้องย้อนไปเมื่อสิบสองปีที่แล้ว สมัยผมยังเป็นนิสิตชั้นปีที่สาม



++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++



สมันนั้นผมยังคงเป็นนิสิตของมหาวิทยาลัยรัฐชื่อดังใจกลางกรุงเทพฯ ผมเรียนอยู่คณะบริหารชั้นปีที่สาม
ชีวิตผมก็มีแค่เรื่องเรียน มีเที่ยวเล่นบ้างตามประสา แต่ด้วยความเป็นลูกชายคนโตสุดของบ้านทำให้พ่อแม่คาดหวังกับผมไว้ค่อนข้างสูง มันเลยเป็นการบ่มนิสัยเคร่งขรึม การวางตัวที่ดี เพื่อจะได้มาสืบทอดกิจการอสังหาริมทรัพท์ของครอบครัว ซึ่งไม่มีปัญหาใดสำหรับผมเพราะผมค่อนข้างจะชอบการบริหารมานานแล้ว และเนื่องด้วยความเป็นพี่ใหญ่ของน้องๆ ผมต้องมีความเป็นผู้นำและค่อนข้างเด็ดขาดเพื่อที่จะสามารถดูแลน้องๆได้


บางคนอาจจะมองผมแก่เกินวัยแต่บอกตรงนี้เลยไม่แก่เกินแกงแน่นอนครับ!!!
ผม ชิน และจักรเราสามคนเป็นเพื่อนซี้ปึกปักกันครับ ไปไหนไปด้วย ทุกคนในขณะเลยคิดว่าพวกผมเล่นสามพีกันครับ แต่แบบ...แค่คิดก็สยองแล้วครับ


ผมไม่มีแฟน ไม่มีใครเป็นตัวเป็นตน ไม่ใช่ว่าผมตายด้านอะไรนะครับเพียงแค่ยังไม่เจอคนที่ใช่ครับ ไม่อยากคบกันแบบชุ่ยๆคบแล้วเลิก ฟันแล้วทิ้งอย่างนี้ผมไม่ชอบครับ อย่างไรผู้หญิงคือเพศแม่เราควรให้เกียรติครับ
เรื่องของผมและผู้หญิงคนนั้นมันก็เกิดช่วงเวลานี้แหละเมื่อ...การรับน้องใหม่ของคณะผมมาถึง...


ผมจำได้ว่าคณะของผมมีการรับน้องใหม่ในวันหนึ่ง ผมซึ่งเป็นพี่ปีสามแล้วก็ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรมาก ยกหน้า ที่ทั้งหมดให้
น้องปีสองดูแล เราก็แค่ดูน้องๆอยู่ห่างๆ


พวกเรามารวมกันที่ใต้ตึกคณะ โดยน้องๆปีหนึ่งนั่งเรียงแถวกันและมีป้ายห้อยคอ ปีสองก็จะคอยเปิดกิจกรรม ทั้งร้องเพลง เต้น และอื่นๆ ผมก็นั่งดูอย่างขำๆครับ เมื่อสองปีก่อนตอนเราเข้ามาเป็นเฟรชชี่พี่ๆเขาก็แกล้งเรา พอเราขึ้นปีสองเราก็แกล้งน้องต่อ มันเหมือนเป็นวงจรชีวิตเด็กมหาลัยมากๆเลยครับ


“เอาละครับน้องๆ หลังจากเราไร้สาระมากันนานแล้วนะครับ เรามามีสาระกันสักนิดดีกว่า” น้องปีสองที่ชื่อโอ ถ้าผมจำไม่ผิดตะโกนใส่ไมค์ด้วยความตลก น้องๆก็ขำครับ “เราจะขอเชิญพี่ปีสามมาให้โอวาท ให้ข้อคิดน้องๆสักหน่อยนะครับ” เจ้าตัวพูดเหมือนแบบอธิบดีคณะจะมาเลยครับ เป็นงานเป็นการมากๆ


น้องๆก็มองไปรอบๆเหมือนกับมองหาว่าใครจะมาพูด ผมก็ไม่ได้อะไรเพราะคิดว่าคงมีเพื่อนผมบางคนคงจะขึ้นไปพูด นั่งมองไปเรื่อยๆแต่แบบเริ่มรู้สึกขนลุกยังไงไม่รู้ครับ สายตาแปลกของพวกปีสองและเพื่อนผมมันเพ่งมาที่ผม
แล้วไอ้โอมันก็พูดกรอกลงไมค์ครับ “งั้นเรามาพบกับพี่ปีสามที่เขาว่ากันว่าหล่อที่สุดในคณะ พ่วงด้วยตำแหน่งผู้สละสิทธิ์เดือนบริหารอย่างเป็นทางการ” พูดแค่นี้เขาก็รู้กันทั้งบางแล้วครับ “เชิญพี่จอมราชันเลยครับ”   นั่นไง!!!
ทำไมถึงรู้หรือครับ...เพราะผมเป็นคนที่สละสิทธิ์การเป็นเดือนของบริหารเพราะว่าผมไม่ได้อยากเป็นเลยต้องเลือกคนอื่นมาเป็นแทนครับ ความจริงผมก็ไม่ได้คิดว่าผมหล่ออะไรมากมาย แต่มีคนชอบบอกว่าผมหล่อ หน้าตาดี คือความจริงมันก็เป็นแค่ส่วนเดียวครับ อีกส่วนก็คือถ้าเรารู้จักดูแลตัวเอง มีสุขภาพที่ดี เป็นคนดี สุภาพ ผมคดว่าใครๆก็หล่อได้ครับ!!!
เสียงปรบมือเสียงโห่จากน้องทำให้ผมต้องยืนขึ้นอย่างเสียไม่ได้


“ว้าววว หล่อจังเลย” เสียงซุบซิบที่ดันมาเข้าหูผม ผมเลยยิ้มแบบเขินๆ


“เอาละครับ ผมจะส่งต่อไมค์ให้พี่จอมราชันละครับ” ไอ้น้องจอมแสบมันทำหน้ากวนๆแล้วส่งไมค์ให้ผม อยากจะเอาไมค์เคาะหัวมันจริงๆครับ แต่ต้องทำตัวเป็นตัวอย่างที่ดีต่อหน้าน้องๆก่อน


“สวัสดีครับ” ผมกรอกเสียงลงไปในไมค์ น้องๆส่งเสียงมาให้ผมเหมือนเป็นดาราอย่างไรอย่างนั้น “พี่ชื่อจอมราชันนะครับ” ผมแนะนำตัวเองไป “อยู่ปีสามครับ ความจริงพี่พูดไม่ค่อยเก่ง เอาเป็นว่าพี่ก็ยินดีต้อนรับน้องๆทุกคนนะครับ ขอให้เราทั้งหมดรักกัน ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน สามัคคีกันนะครับ ขอบคุณครับ” ผมยิ้มนิดปิดท้าย
น้องๆทั้งชายและหญิงรับคำกันแข็งขันคนแก่ๆอย่างผมก็ดีใจครับ


ผมส่งไมค์กลับไปให้น้องปีสองคนเดิมมาทำหน้าที่ต่อไป


จนเย็นๆเราถึงจะปล่อยน้องๆกลับบ้านครับ พวกผมในฐานะพี่ๆก็ต้องอยู่รอจนน้องๆกลับ เราถึงจะเก็บกวาดข้าวของแล้วค่อยกลับ


ผมเดินออกมาเอารถกับพวกไอ้ชินครับ พอแต่ละคนขึ้นรถเราก็แยกย้าย ผมก็ขับมาเรื่อยจะออกจากมหาลัย


เอี๊ยด!!


ผมเบรกรถสุดโต่งเลยครับเมื่อเห็นร่างคนๆหนึ่งกำลังล้มลงตรงริมฟุตบาทครับ แถมล้มลงมากลางถนนด้วย ดีนะว่าผมขับช้าๆไม่รีบเท่าไร


ผมรีบเปิดประตูลงไปดูใกล้...


เป็นผู้หญิงร่างสมส่วนหน้าตาซีดเซียวนอนอยู่ครับ


“คุณๆ” ผมช้อนหัวเธอมาวางบนตักแล้วเขย่าๆ ผมไม่อยากฉวยโอกาสปลดกระดุมหรือเข็ขัดเพราะยังไงเธอก้เป็นผู้หญิง พี่ยามหน้าประตูวิ่งมาดู


“เกิดอะไรครับ” เขาถาม ผมเลยตอบ


“คุณๆคนนี้เขาเป็นลมล้มลงมากลางถนนครับ” ผมบอก แต่ผมไม่มีแกระทั่งยาดมจะช่วยเธอ “พี่มียาดมไหมครับ”


“มีๆ น้องพาคนเป็นลมมานั่งก่อนมา” พี่แกกลับไปลากเก้าอี้พลาสติกของแกมา ผมพยุงร่างเธอวางนั่งแล้วใหเธอพิงกับบั้นเอวของผม เอามือพัดๆให้


พี่ยามกลับมาอีกทีพร้อมยาดม ผมเอามาอังตรงจมูก
สักพักผมก็เห็นการเคลื่อนไหวของเธอ...


เขาผงกหัวขึ้นมามองผม สีหน้าดีขึ้น


“เอ่อ...ฉัน...” เสียงหวานๆที่เปล่งออกมาแหบเล็กน้อย


“คุณเป็นลมนะ ล้มลงมาที่ถนน” ผมเฉลย


เธอดันตัวเองให้ตั้งตรงแล้วหันมาคุยกับผม “ขอบคุณนะค่ะเอ่อ...”


“จอมราชันครับ” ผมบอกชื่อตัว


“อ้อ...ใช่พี่ปีสามที่ออกมาพูดหรือเปล่าค่ะ” เธอถาม


ผมพยักหน้า “น้องอยู่บริหารหรือครับ”


“ค่ะ”


“แหมน้องในคณะนี่เอง”


“ค่ะ ขอบคุณพี่มากๆเลยนะค่ะ” เธอก้มหน้าให้ผม แล้วหันไปขอบคุณพี่ยามด้วย


ผมยิ้ม “ไม่เป็นไรพี่น้องกัน” ใช่ครับรุ่นพี่รุ่นน้องคณะเดียวกันมีอะไรก็ช่วยเหลือกันครับ “แล้วน้องชื่ออะไร” ผมถามกลับ


“ชื่อพลอยคะ!!!”
      
   +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++



      “ขอบคุณที่มาส่งค่ะ” รุ่นน้องของผมที่ชื่อพลอยที่ผมเจอเธอเดินเป็นลม ผมเลยอาสามาส่งเธอที่บ้านครับเนื่องจากเป็นทางผ่านกลับบ้านของผม ตอนแรกเธอก็ทำท่าเกรงใจผมแต่ว่าช่วงเวลาเย็นๆกับรถติดๆทำให้พลอยตัดสินใจได้ไม่ยาก


“ไม่เป็นไร” ผมส่ายหน้า บ้านของพลอยนั้นเป็นแมนชั่นกลางเก่ากลางใหม่ หลังจากล่ำลาผมก็ขับรถกลับบ้าน
และหลังจากที่ผมไปส่งเธอที่บ้านวันนั้น...ผมก็ยังไปส่งเธออีกหลายครั้งเพราะเรามีกิจกรรมรับน้องอยู่บ่อยครั้งจนใครๆหลายคนสังเกตเห็น


คนที่ใจกล้าเดินเข้ามาถามผมคนแรกคือ...ไอ้ชินเพื่อนปากดี...


“ไอ้ราชันฉันถามอะไรอย่างดิ แกมีอะไรๆกับน้องพลอยหรือเปล่าวะ” มันกระซิบเคร่งเครียดจนผมงง


“พลอย?” อย่าหาว่าผมโง่อะไรนะครับ แต่ประชากรของผู้หญิงไทยนั้นมีชื่อเล่นว่าพลอยร้อยละแปดสิบครับ แค่เฉพาะในคณะผมก็ปาไปหลายสิบคนแล้วครับ


“อย่ามาทำอึนก็น้องพลอยปีหนึ่งที่มีข่าวลือกับมึงอยู่ไง” อ้อ เข้าใจแล้ว ช่วงนี้ผมได้ยินข่าวลือประหลาดๆว่าผมกับเธอคบกันอยู่ ซึ่งความจริงผมไม่ได้คิดอะไรมากเพราะผมคิดกับเธอแค่รุ่นพี่รุ่นน้องและไม่เคยมีอะไรเกินเลยกว่านั้น
ผมยังคงทำตัวเหมือนเดิมไม่ได้ทำตัวให้อีกฝ่ายรู้สึกว่าเราให้ความหวังอะไรนอกจากความเป็นเพื่อนรุ่นพี่รุ่นน้อง ผมก็ทำตามปกติ...เรื่อยๆจนผม...ผ่านพ้นนิสิตปีสามมาเป็นนิสิตชั้นปีสุดท้ายของคณะ


ผมจำได้ว่าวันนั้นเป็นวันธรรมดาปกติอย่างทุกวันแต่ที่ไม่เหมือนเดิมคือ...


“แกก็เข้าไปสิ จะเขินอะไรหนักหนา” เสียงรบเร้าดังไม่ใกล้ไม่ไกกลจากที่ผมนั่งมากหนัก


“แกอย่าดันสิ อย่าเพิ่งขอทำใจก่อน” อีกเสียงหนึ่งค้านขึ้นมาและมันก็เป็นเสียงที่ผมคุ้นพอสมควร พอหันไปก็เจอกับหญิงสามสองคนในชุดนิสิตที่กำลังยืนซุบซิบอะไรกันสักอย่าง พอทั้งสองคนเห็นผมก็สะดุ้ง ก่อนที่คนหนึ่งจะดันหลังอีกคนมาใกล้ผมแล้วเอ่ย


“พี่จอมราชันค่ะ พลอยเขามีอะไรจะพูดด้วยค่ะ” พูดเสร็จก็รีบหันหลังกลับเดินไป ทิ้งให้เพื่อนอีกคนยืนก้มหน้าพร้อมกับกอดของในมือแน่น


ผมก็ไม่ได้ซื่อบื้อจนไม่รู้ว่าทั้งสองคนมีจุดประสงค์อะไรแต่ผมก็ไม่ใช่คนที่จะหักหน้าใครทั้งนั้นจึงเอ่ยถามอย่างเรียบๆ “มีธุระอะไรกับพี่หรือ?”


พลอยเงยหน้าขึ้นมามองผม ใบหน้าของเธอขึ้นสีจางเรื่อๆ ถ้าเป็นผู้ชายคนอื่นคงตกหลุมรักเธอได้ไม่ยากซึ่งผมก็ไม่เถียงว่าเธอน่ารักจริงๆ แต่ก็นั่นแหละ...ผมเห็นเธอเป็นรุ่นน้องที่น่ารักดีเท่านั้น


“ค...คือ...พลอยลองทำบราวนี่มานะค่ะ เลยอยากให้พี่ราชันชิมหน่อยนะค่ะ” เธอยื่นกล่องเล็กสีแดงอมชมพูขนาดไม่ใหญ่มากมาให้ผม


ผมยืนนิ่งครู่หนึ่ง “คือ...พี่ขอบใจมากสำหรับขนม” เอื้อมมือไปรับมา
บอกตามตรงผมพอจะรู้จุดประสงค์ของเธอแต่ผมก็ไม่อยากให้คนทำเสียความรู้สึก ในเมื่อเธอเป็นรุ่นน้องและผมเป็นรุ่นพี่ เรายังคงต้องเจอกันไปอีกสักพัก และที่สำคัญ!!...คือเธอยังไม่ได้ทำอะไรให้ผมลำบากใจอะไร ตัวผมก็แค่รับขนมธรรมดาจากรุ่นน้องคนหนึ่งก็เท่านั้น ซึ่งผมก็พอมีรุ่นน้องหรือรุ่นพี่ผู้หญิงหลายคนทำแบบนี้ให้แต่ผมแค่รับไว้เป็นมารยาทตามปกติ


“พลอยหวังว่าพี่จะชอบนะค่ะ” เธอสำทับมาอีกรอบ


ผมพยักหน้าเล็กน้อยก่อนขอตัวเลี่ยงออกมา



++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++



หลังจากนั้นพลอยก็แวะเวียนเอาขนมหรือของเล็กๆน้อยๆหลายอย่างมาฝากผมตามโอกาสทุกครั้งไป วันนี้ก็เหมือนกัน พลอยมารอผมที่หน้าห้องเลคเชอร์เช่นเคย


“พี่จอมราชันค่ะ” หญิงสาวเรียกผม


“ว้าวๆๆ วันนี้มีอะไรมาฝากพ่อราชันผู้ยิ่งใหญ่ของเราอีกละเนี่ย” ชินกฤตเอ่ยแซวขำทำเอารุ่นน้องหญิงเขินเล็กๆ จนสายตาคมต้องปรามเพื่อนตัวดีกลายๆ


“คือพลอยไปเที่ยวตลาดน้ำเลยซื้อขนมมาฝากพี่ๆค่ะ” เสียงใสๆเอ่ยบอก โดยยื่นขนมไปให้พวกเพื่อนๆของผมด้วยและของผมอีกถุงหนึ่ง ผมเห็นลางๆเดาว่าน่าจะเป็นพวกขนมไทย


“ขอบใจนะ” ผมยังคงรู้สึกขอบใจที่น้องเขาเอาขนมนมเนยมาให้ ผมเองก็ไม่ได้เอาไปกินเองทุกครั้งหรอกครับบางครั้งก็แบ่งๆเพื่อนกิน บางครั้งก็เอาไปแบ่งน้องๆ


“อ...เอ่อ...คือพลอยอยากขอคุยกับพี่ราชันหน่อยได้ไหมค่ะ” พลอยเอ่ยบอก ทำเอาเพื่อนๆผมค่อยเงียบลง


“อืม...ได้สิ” พอผมบอก เธอเงยหน้ามามองผมอย่างดีใจ ส่วนเพื่อนๆคนอื่นก็รู้หน้าที่เดินเลี่ยงออกไปก่อน
ผมเดินนำหญิงสาวมาอีกทางก่อนจะหยุด


“มีธุระอะไรกับพี่หรือ?” ผมเอ่ยถามแม้ในใจลึกๆพอจะเดาออกว่าเธอจะมาพูดเรื่องอะไร


“ค...คือ...พลอยจะบอว่า...” เงียบนิดหนึ่ง “พลอยชอบพี่นะค่ะ”


หลังจากคำสารภาพออกมา เจ้าตัวก็หน้าแดงเรื่อ ส่วนผมก็เงียบไปนิดหน่อย


“อืม...พี่ขอบใจมากที่น้องมีความรู้สึกดีๆให้พี่ แต่...” คนเราเวลามีคนมารักมาชอบก็รู้สึกยินดีมากกว่ามีคนมาเกลียดนะครับ ผมก็ว่าน้องเขาก็ดีนะครับ แต่ผมยังไม่มีความคิดจะคบใครเท่าไรในช่วงนี้ และผมยังเห็นน้องเขาเป็นรุ่นน้องที่น่ารักคนหนึ่งเท่านั้น


“คือ...พี่อย่าเพิ่งปฏิเสธพลอยเลยได้ไหมค่ะ คือพลอยอยากให้พี่ลองเปิดใจให้พลอยก่อนได้ไหมค่ะ” เสียงใสๆนั่นเอ่ยบอก เสียงเธอสั่นนิดๆ


ผมขมวดคิ้วเล็กน้อย “พลอยหมายความว่า...”


“คือ...พลอยอยากแค่ให้เราสองคนลองศึกษากันดูเท่านั้น ไม่ได้รีบหรือเร่งรัดให้พี่ตอบรับพลอย”


ผมขยับตัวอย่างอึดอัดนิดหน่อย อีกฝ่ายสบตาผมอย่างอ้อนวอน “คือพี่ก็ไม่ได้ไม่ชอบพลอยหรอกนะ แต่คือว่า...”


“นะค่ะ ถ้าสุดท้ายแล้วพี่จอมราชันไม่ได้ชอบพลอยเลย พลอยจะไม่มาวุ่นวายกับพี่แน่นอนค่ะ”


เธอยืนยัน ซึ่งผมก็เห็นความตั้งใจและความรู้สึกของเธอ ในที่สุดผมจึงตกลง


“งั้นพี่ตกลงครับ”


หลังจากที่ผมตอบรับเธอไปวันนั้น ชีวิตผมก็มีหญิงสาวเข้ามาป้วนเปี้ยนในชีวิตอยู่เสมอ ช่วงแรกผมก็อึดอัดบ้างเล็กน้อยเพราะอย่างที่รู้กันผมค่อนข้างเงียบๆ ออกแนวมีโลกส่วนตัวสูงนิดหน่อย ไม่ค่อยมีใครเข้ามายุ่มย่ามในชีวิตผมสักเท่าไรยกเว้นคนในครอบครัวและเพื่อนสนิทเท่านั้น แต่ตอนนี้มีพลอยเพิ่มเข้ามาอีกหนึ่งคน


ผมและเธอต้องปรับตัวอะไรหลายๆอย่างๆ บางครั้งผมก็รู้สึกว่าผมยังไม่พร้อมจะมีใครเข้ามาเพราะผมยังมีความสุขดีกับการไปเรียนหนังสือ กลับบ้านไปดูน้องชายเป็นพี่ใหญ่ที่ดีของบ้าน ไม่ได้เดือดร้อนว่าจะต้องใครสักมาดูแลเคียงข้าง เพราะผมยังสนุกอยู่กับการให้คำปรึกษาน้องๆทั้งหลายในเรื่องต่างๆและคอยดูแลเจ้าลูกหมูตัวน้อยๆของผมที่กำลังน่ารักน่าชังและแสบซนจนน่าฟัดเป็นที่สุด จนเมื่อพลอยเข้ามา ผมรู้ว่าต่อไปนี้ตัวผมต้องเปิดรับเธอเข้ามามากขึ้น พลอยไม่ใช่คนเลวร้ายอะไร เธอเป็นผู้หญิงที่น่ารักร่าเริงแจ่มใส สมกับวัยของเธอ ใจผมเริ่มเปิดและให้โอกาสเธอมากขึ้น


จากแค่...เป็นคนที่ศึกษากัน...เราขยับขึ้นมาเป็นคนรู้ใจ...คนสำคัญ...และตอนนี้ผมพร้อมแล้วที่จะเปิดรับเธอเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตผม


เรื่องของเราสองคนกระจายเป็นวงกว้าง ผมไม่ได้คิดจะปิดอะไร ส่วนพลอยก็ยินดีให้คนอื่นได้รับรู้


จากรุ่นพี่...มาเป็น...พี่จอมราชัน...พี่ราชัน...และในที่สุด...มันก็กลายมาเป็นราชัน
ชื่อที่มีแต่คนใกล้ตัวเท่านั้นที่ผมยอมให้เรียก


เวลาผ่านพ้นไป ผมจบการศึกษาปริญญาตรีจากคณะบริหาร และเข้าทำงานกับบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ถามว่าทำไมผมถึงไม่ไปทำงานในบริษัทของครอบครัวทั้งๆที่ผมเป็นทายาทอยู่แล้วนั่นก็เพราะพ่อผมอยากให้ผมได้มีโอกาสฝึกฝนและหาประการณ์ในการทำงานก่อน เพื่อให้ผมได้เจอสิ่งต่างๆและเรียนรู้ ผมก็ไม่ได้ขัดข้องแถมยังยินดีถีบตัวเองมาเป็นลูกจ้างคนอื่นอีกด้วย


ส่วนพลอย แม้ว่าผมจะมารู้ทีหลังว่าเธออายุเท่าผมแต่หากเธอเรียนช้ากว่าผมสองปีตอนนี้เธอเลยอยู่ชั้นปีที่สามกำลังเรียนและกำลังจะเริ่มฝึกงานไปด้วย แม้ว่าเวลาที่เราได้เจอกันลดลงแต่เราก็ยังคงโทรคุยกันเป็นบางครั้งและหาโอกาสไปเที่ยวกันเวลาว่างๆ
ผมบอกได้เลยว่าช่วงเวลาที่คบกับเธอนั่นก็ถือว่ามีความสุขครับ เราก็มีทะเลาะกันบ้างตามประสาคู่รักทั่วไปแต่ไม่นานเราก็กลับมาคืนดีกันได้ อาจจะเป็นเพราะพลอยไม่ใช่คนที่เข้าใจอะไรยากมากนัก เราเลยไปด้วยกันได้ อาจพูดได้เลยว่าผมคบกับเธอได้ยาวกว่าคนอื่นๆที่เคยผ่านมา


“ราชันค่ะ วันนี้มารับพลอยที่ห้าง...หน่อยได้ไหมค่ะ” พลอยกรอกเสียงผ่านเครื่องมือสื่อสารที่ผมกดรับ ผมคาดว่าเธอคงกำลังเดินชอปปิ้งอยู่เพราะเสียงจอแจดังมาไม่ขาดสาย


“ได้สิ” ผมตอบรับเธอ “วันนี้คุณแม่อยากให้พลอยไปทานข้าวเย็นที่บ้าน สะดวกไหม?” ผมเอ่ยถามต่อ เมื่อเช้าแม่ผมบอกว่าวันนี้ให้พาหญิงสาวไปทานข้าวที่บ้านหากเธอว่าง


“ได้ค่ะ” อีกฝ่ายโอเค


สำหรับครอบครัวของผมทุกคนเข้าใจและยินดีต้อนรับพลอย ผมจำได้ว่าผมพาเธอไปที่บ้านผมหลังจากเราเริ่มคบกันอย่างจริงจัง คุณพ่อคุณแม่ก็ยิ้มรับไม่ได้ว่าอะไร ส่วนพวกน้องชายจอมทโมนก็มีแซวบ้างตามประสาวัยคะนอง เอาเป็นว่าทุกคนในบ้านโอเคกับเธอ หากแต่...


...ยกเว้นคนหนึ่ง...


...เจ้าลูกหมูน้อยของผม...


ผมยังจำมันได้ดีเลยทีเดียว ยามดวงตากลมโตจ้องมองผมอย่างงอง้ำ ริมฝีปากเล็กเบ้ออก แก้มกลมใสพองลมออกอย่างน่ารักน่าฟัดให้แก้มยุบ


...อาการงอนขั้นสูงสุดของเจ้าตัว...


...ด้วยเหตุผลว่า...


...หวงพี่ชาย...



TBC.

ตอนหน้าเจอกันค่า

ออฟไลน์ MiSS-U

  • {^o^} {^3^}
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2800/-11
พลอย  นางน่าชิงชังมากกกก  :z6:

บวกเป็ด

ออฟไลน์ becrazie

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 710
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1

ออฟไลน์ Zelsy

  • เพราะ "รัก" คำเดียวเท่านั้น
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1859
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-2
คือ เราไม่ชอบนางเลยนะ ตอนก่อนหน้ารีไรท์นางเห็นแก่ตัวมากก
คำผิดตกหล่นตอนนี้มีพอสมควร ถ้าถึงบ้านแล้วผมจะแก้ให้นะ เลิฟฟฟฟ

ออฟไลน์ ujen

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2455
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +183/-13
เกลียดผู้หญิงคนนี้จัง :m16:

 Happy New Year 2014 :mc4:

:mew1: :mew1:

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
รอตอนต่อไปจ้า

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Lemon_Tea

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1641
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +71/-2
เธอยังเป็นบุคคลที่มีนิสัยเหมือนตอนก่อนรีไรท์หรือเปล่า
แต่คิดว่าน่าจะ (ใช่มั้ย)

ออฟไลน์ NOoTuNE

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +317/-15
ไม่ชอบผู้หญิงคนนี้นะคะ (ตั้งแต่ก่อนจะได้รู้เรื่อง ที่คนเขียนมารีไรต์ใหม่อีกนะคะ) จบค่ะ

ออฟไลน์ inspirer_bear

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +206/-5
น้องงอนเพราะหวงมากนะพี่ราชัน
คึคึ เจ้าหมูน้อยน่ารัก 555

ออฟไลน์ toye

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 290
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-0
บทที่ 22 (2)
[/b]


ผมไม่รู้ว่าน้องไปเอาความคิดนี้จากไหน ตอนผมได้ยินถึงกับขำไม่หยุด และยิ่งหยุดยิ้มไม่ได้เมื่อตอนกลับบ้านไปนะ เจ้าหนูน้อยของผมไม่คุยไม่เล่นกับผมเลย ไม่ยอมให้อุ้ม แม้แต่หน้ายังไม่มอง เจ้าตัวเอาแต่เกาะหลังเจ้าพลอยู่นั่นแหละ ผมง้อแล้วง้ออีกก็ไม่หาย จนจอมทัพเดินหน้าตายเข้ามาบอกว่า...ลองไม่ง้อน้องดูสิ


ผมเลยลองดูครับ เลิกง้อ แกล้งทำเป็นไม่คุย ขึ้นไปอาบน้ำเลย พอออกมาจากห้องน้ำเท่านั้นละครับ มีร่างกลมๆเล็กๆมาเกาะขา มือป้อมๆดึงขากางเกงไม่หยุด ก้มลงไปดูจะเอ๋...กับเจ้าหนูที่ทำหน้าเบ้จะร้องไห้รอมร่อแล้วครับ เห็นแล้วใจอ่อนยวบ ช้อนร่างกลมๆขึ้นมา เจ้าตัวกลมสะอื้นฟืดๆ แล้วบอกว่าหนูมาง้อ...มือป้อมกอดรอบคอผมเอาหน้าใสๆซุกลงกับบ่า ผมนี่หมั่นเขี้ยวจะแย่ เจ้าตัวบอกว่าไม่งอนแล้ว ผมเลยกอดเจ้าตัวกลมแน่นแล้วเลิกแกล้งน้องเสียที


แล้วเรื่องนี้ก็จบไป น้องเข้าใจเรื่องทุกอย่างแต่ก็ยังไม่ค่อยเข้ากับพลอยได้เท่าไร พอพลอยมาที่บ้านเจ้าหนูนั่งอยู่บนตักผมอย่างเดียวไม่ไปไหน เธอคุยก็ไม่ยอมพูดจนบางผมต้องเอ็ดบางไม่ให้เคยตัวเดี๋ยวเสียนิสัย โดนเอ็ดทีน้องนี่หน้างอง้ำ สุดท้ายพอโดน


ผมทำตาแข็งๆใสหน่อยก็ยอมทำตาม บางทีผมก็คิดว่าผมตามใจน้องมากไปหรือเปล่า ผมเกรงใจพลอยในบางครั้งแต่เธอดูยังคงยิ้ม พยายามที่จะคุยจะเล่นกับน้อง หลังๆเจ้าหนูก็เริ่มจะยอมเธอบ้างเพราะทุกครั้งที่มามักจะมีขนมนมเนยของเล่นเล็กๆน้อยๆมาฝาก เจ้าหนูเลยยอมให้บ้าง


...เรื่องหมดจะผ่านไปด้วยดีจนกระทั่ง...


“อะไรนะน้องยังไม่กลับบ้าน!” ผมตะคอกใส่โทรศัพท์ คนแถวคณะหันมามองใหญ่ แต่ใครจะสนตอนนี้หูผมกำลังอื้อไปหมด รีบ
สาวเท้ายาวๆไปหารถที่จอดอยู่ มองนาฬิกาที่บอกเวลาหกโมงเย็น ทุกทีน้องจะกลับบ้านตั้งแต่สี่โมงกว่าไม่เกินนี้เพราะว่ามีลุงทศไปรับตลอด ไปรับทั้งสองพระหน่อทั้งเจ้าเวทย์และเจ้าหนู ทุกครั้งที่เจ้าเวทย์เลิกเรียนเจ้าตัวจะไปรอน้องที่ฝั่งประถม แต่วันนี้กลับไม่เห็นวี่แววเลยคิดว่าคงไปซื้อขนมหรือไม่ก็เข้าห้องน้ำ แต่ว่ารอไปสักพักก็ยังไม่กลับมาจึงลองเดินลองไปถามห้องอื่นๆเผื่อจะไปเล่นกับเพื่อนแต่ก็ได้คำตอบว่าไม่เห็น จอมเวทย์จึงลองเดินตามหาตามที่ต่างๆที่คิดว่าน้องจะไปแต่ก็ยังไม่เจอ ไปถามครูก็ไม่ได้คำตอบ


เลยลองโทรไปถามลุงทศว่ารับน้องกลับไปก่อนหรือเปล่าแต่ว่าก็ไม่ใช่เพราะลุงกำลังขับรถมา สุดท้ายจอมเวทย์ตัดสินใจโทรหาที่บ้านทุกคนถึงกับตามหากันจ้าละหวั่น โทรหาทั้งจอมอีกสองคนที่กำลังเรียนอยู่ แต่ว่าทุกคนดันโทรมาบอกเขาเป็นคนสุดท้าย เพราะเห็นว่าเขามีเรียน


ผมนี่แทบจะดิฟรถบนทางด่วน รถยนต์จอดเอี๊ยดหน้าบ้านอย่างแรง ผมรีบเข้าไปในบ้าน เห็นพ่อแม่น้องชายทั้งสามคนรวมถึงอาประสิทธ์และน้าอร ทุกคนหน้าเครียดกันไปหมด พ่อผมถือโทรศัพท์มือถือ ส่วนแม่กำลังคุยโทรศัพท์บ้าน ทุกคนดูกังวล


“สวัสดีค่ะ...น้องไปเล่นที่บ้านหรือเปล่าค่ะ” ผมได้ยินเสียงน้าอรน่าจะกำลังคุยกับผู้ปกครองของเพื่อนน้องอยู่
ผมเดินเข้าไปหาน้องชายทั้งสามคนที่ยังอยู่ในชุดนักเรียน เจ้าเวทย์ที่เด็กที่สุดตาแดงก่ำ “พี่ราชัน...น้อง...” พอเจ้าตัวเห็นผมเดินเข้ามาใกล้ก็สะอื้น ผมได้แต่กอดไหล่ลูบเบาๆ พลก็คอยบอกน้องว่าไม่เป็นไรๆ


จนสุดท้ายที่บ้านผมตัดสินใจโทรไปถามที่โรงเรียนอีกครั้ง แล้วก็เหมือนฟ้าจะเป็นใจเมื่อยามหน้าโรงเรียนพอจำได้ลางๆว่ามีเด็กที่น่าจะใช่น้องออกไปซื้อขนมหน้าโรงเรียน แต่พี่ยามไม่คิดว่ามันจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ พวกผมตัดสินใจขับรถไปที่โรงเรียนอีกรอบ
จะโทษโรงเรียนก็ไม่ได้เพราะว่าพอเลิกเรียนแล้วก็จะมีนักเรียนออกไปซื้อขนมบ้าง ผู้ปกครองมารับบ้างทำให้มันดูวุ่นวายสุดๆ
ผมรีบเข้าไปถามพี่ยามที่หน้าประตูที่เขาเป็นคนบอก


“สักตอนเพิ่งเลิกนะน้อง พี่เห็นน้องคนหนึ่งเดินออกมาหน้าโรงเรียนซื้อขนมน่ะ...แต่นั่งในป้อมเลยเห็นไม่ชัดนะ แล้วก็เห็นผู้ชายคนหนึ่งเหมือนใส่ชุดนักศึกษาเข้ามาหาน้อง ตอนแรกเห็นน้องงงๆแต่ไม่รู้ว่าพูดอะไรสุดท้ายเด็กคนนั้นกลับไปเอากระเป๋าแล้วกลับ
ไปกับเด็กคนนั้น” พี่เขาเล่า “พี่คิดว่าเป็นพี่ชายน่ะ”


ฟังถึงตรงนี้ผมกำหมัดแน่น...ผมว่า...น้องผมโดนหลอกไปแน่ๆ... แต่ว่ามันเป็นใครนี่สิ... ตอนนี้แจ้งตำรวจก็คงยังไม่ได้เพราะน้องหายไปไม่กี่ชม.


ครอบครัวผมทุกคนยืนหน้าเครียดโดยไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร จนผมรู้สึกโทรศัพท์ที่สั่นครืดๆในกระเป๋ากางเกง


...เบอร์แปลกๆ...


“สวัสดีครับ...” ผมตัดสินใจรับในที่สุด ทุกคนที่บ้านหันมามองผม


(หึ...จอมราชันใช่ไหม)


ผมขมวดคิ้ว “ใคร?”


(ช่างเถอะ เอาเป็นว่าตอนนี้แกกำลังตามหาใครอยู่หรือเปล่า...)


“แก...แกอย่าบอกนะว่า...” ผมกำโทรศัพท์แน่น “...”


“แกอยากได้น้องชายคนโปรดของแกคืนไหม?” น้ำเสียงเยอะเย้ย นี่ถ้าเจอตัวเป็นๆนะ ผมจะต่อยหน้ามันให้ยุบ


“แก...” ผมกัดฟันกรอด


“ถ้าแกอยากได้เอาเงินสามล้านมาที่...” ผมฟังที่อยู่อย่างแค้นใจ มันเรียกค่าไถ่น้องผม


“ได้...แต่ฉันต้องแน่ใจก่อนว่าน้องฉันอยู่กับแก” ผมได้ยินเสียงกุกกักนิดหน่อยก่อนจะมีเสียงเล็กๆปนสะอื้นดัง


  “พ...พี่จ๋า...หนูอยากกลับบ้าน...” เสียงน้องร้องไห้สะอื้น ผมฟังแล้วใจแทบขาด


 “ชู่ว...เงียบนะเด็กดีไม่ร้องนะครับ พี่กำลังไปรับใจนะครับ เพราะงั้นเป็นเด็กดีรอพี่นะครับ” ผมปลอบน้องแต่ในใจผมนี่แทบจะระเบิด ไอ้พวกบัดซบแม้แต่เด็กน้อยมันยังทำถึงขนาดนี้ แล้วเหมือนว่าไอ้สารเลวนั่นมันแย่งโทรศัพท์กลับไป


 “อย่างที่บอกนะแหละ เงินมาน้องแกก็ปลอดภัย อ้อ...อีกอย่างอย่าคิดจะแจ้งตำรวจ” เหอะ...ผมก็ไม่คิดจะแจ้งหรอก เรื่องแยะ น่ารำคาญ


 พอมันว่างสายไปผมเล่าเรื่องทั้งหมดให้ที่บ้านฟัง แม่ผมกับน้าอรแทบจะเป็นลม แต่ว่าเรารู้ที่อยู่น้องแล้ว อันดับแรกผมรีบกลับไป
ที่บ้าน เปิดตู้เซฟเอาเงินตามที่มันบอก บ้านผมแยกเงินเป็นสองส่วน ส่วนหนึ่งฝากธนาคารอีกส่วนเก็บเอง


 “อะ...พี่” อยู่ๆเจ้าทัพก็ยื่นของบางอย่างมาให้ผม ปืนขัดมันหนึ่งกระบอก ส่วนอีกกระบอกเจ้าตัวเก็บไว้ ขอบอกเลยว่าบ้านผมมีงานอดิเรกคือยิงปืน ทัพกับผมชอบมากที่สุด นี่คือความลับสุดยอดไม่เคยบอกใครนะครับ อย่าเอ็ดไป ผมเชื่อว่าทัพโตพอที่จะเข้าใจเรื่องทุกอย่างและเป็นผู้ใหญ่


 ผมไม่ได้มีปืนไว้ฆ่าใครสงเดชแต่หากความที่บ้านผมทำธุรกิจแม้เราจะทำถูกต้องตามกฎหมายตาหากพวกใต้ดินที่คอยจะจิกกัดนั้นผมก็ต้องป้องกันตัวเอง


 เมื่อทุกอย่างพร้อม ผมขอให้ผู้หญิงรวมถึงเจ้าเวทย์ที่ร้องโวกเวกขอจะไปด้วย แต่ขอโทษที ตัวแค่นั้นผมว่าให้นอนอยู่บ้านกับแม่ดีกว่า และผมให้เจ้าพลคอยดูแลที่บ้านไว้ น้องชายยิ้มสวยรับคำ แล้วผม ทัพ พ่อแล้วอาประสิทธ์ก็ไปตามที่มันนัด


 พวกผมมาถึงที่ตามที่มันนัดไว้ อาคารพาณิชย์เก่าๆซ่อมซ่อ มีคนกลุ่มหนึ่งกำลังยืนอยู่แถวๆนั้น ผมพยักหน้าให้ทัพอยู่ในรถก่อนจะลงไปพร้อมกับพ่อและอา พอพวกมันเห็นพวกผมก็แสยะยิ้ม ท่าทางดูเหมือนพวกเด็กเกเรที่ติดยาตามสลัมทั่วไป ผมทำหน้านิ่งเดินเข้าไปในมือมีถุงกระดาษใส่เงิน


 “หึ...มาไวดีนี่” มันใส่ชุดคล้ายนักศึกษา หึ...มันคงเป็นคนที่ไปพาน้องผมจากโรงเรียนมา พ่นบุหรี่ไปพูดไป ผมมองหน้ามันนิ่ง ผมไม่อยากเสวนากับคนพวกนี้เท่าไร “หึ...ทำนิ่งๆ ฮะๆ” มันขำ เพื่อนมันอีกสองสามคนเดินมา


 “ดูรวยใช่ย่อยนะ” หนึ่งในนั้นพูด “เอาเงินมาตามที่บอกไหม”


 ผมชูให้ดู ในใจแอบสงสารพ่อแม่ของเด็กพวกนี้ที่ทำตัวกุ๊ยข้างถนน แถมตอนนี้ยังทำเรื่องผิดกฎหมายอีก พวกไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา ถ้าไม่ไปนอนในคุกคงไม่รู้สึก


 “เอาหลานฉันออกมาก่อนว่าน้องยังปลอดภัย” พ่อผมที่อยู่อีกฝั่งบอก


 พวกมันมองหน้ากันก่อนจะให้หนึ่งในนั้นเดินเข้าไปข้างใน มันกลับมาอีกโดยมีเสียงสะอื้นๆฮึกๆของเด็กน้อยมาด้วย


 “ฮึก...ฮ...ปาป๊า ลุงไตร แง...พี่ราชันนนนน” พอเจ้าหนูเห็นผมก็ร้องไห้โฮ ผมลองกวาดสายตามอง ดูแล้วคงไม่ได้โดนทำอะไรมา มีแค่เสื้อนักเรียนที่เปื้อนเล็กน้อย แต่แค่นี้ก็มากพอที่จะทำให้ผมเอาปืนเป่าสมองผมมันกระจุย


“เงียบซะทีไอ้เด็กนี่” มันตวาด


ผมเห็นอาประสิทธ์กำข้อมือแน่น ท่านไม่เคยตวาดน้องหรือว่าขนาดนั้น คนเป็นพ่อแม่เห็นลูกโดนอย่างนี้ก็ยากที่จะยอมได้


“เอาเงินแกไป แต่เอาน้องฉันมา” ผมเสนอ


 มันค่อยๆขยับพาน้องเข้ามาใกล้ผม ผมก็ค่อยๆยื่นกระเป๋าเงินให้มันเหมือนกัน ผมเห็นมันปล่อยน้องผมผมเลยรีบโยนกระเป๋าเงิน
ไปอีกทาง แล้วรีบเข้าไปอุ้มน้องออกมา แต่พวกมันเลิกสนใจไปแล้ว กรูเข้าไปรุมกระเป๋าเงินอย่างกับแร้ง พวกผมเลิกสนใจรีบพาน้องกลับเข้ารถแล้วขับออกไป


 “โอ้ๆๆ...เงียบนะลูกไม่ร้องนะครับ ป๊ามาแล้ว” อาประสิทธ์ปลอบลูกชายที่นั่งอยู่บนตัก ผมมองน้องน้อยผ่านกระจก


 พอรถจอดหน้าบ้านเท่านั้นละ ผมเห็นคนที่อยู่ในบ้าน ไม่เว้นแม้กระทั่งป้าอุ่น ลุงทศ ออกมารอข้างนอกกันใหญ่ เจ้าหนูเห็นหม่าม้าเท่านั้นรีบเปิดประตูวิ่งลงไปกอด


 น้าอรเห็นลูกชายปลอดภัยถึงกับร้องไห้กอดหมับ “หนูปลอดภัย...หม้าม้าดีใจจัง” น้องสะอื้นอยู่กับอกแม่


 น้าอรพาน้องไปอาบน้ำกินข้าวตรวจหาแผลโดยรวมแล้วไม่มีปัญหาแต่ว่าพรุ่งนี้ผมจะพาน้องไปโรงพยาบาลอีกที เพราะว่าวันนี้เจ้าหนูดูเหนื่อยและเสียขวัญมามากพอแล้ว


 พวกผมทั้งหมดพอเห็นน้องปลอดภัยก็ดีใจ เงินที่เสียไปไม่มีคำเสียดายที่เห็นคนที่รักกลับมาอย่างปลอดภัย





 “อะไรนะ?...” ไอ้ชินแหกปากดังลั่น “ใจโดนลักพาตัวเรียกค่าไถ่เมื่อวาน” ไอ้ชินตาถลน ไอ้จักรนิ่งช็อกไปแล้ว ใจก็สนิทกับพวกมันสองคนเหมือนกัน มันสองคนเห็นเป็นน้องนุ่ง คงช็อกไม่น้อย


 “ใช่ น่าจะเป็นพวกกุ๊ยน่ะ เรียกไปสามล้าน”


 “สามล้าน!” ชินแหกปาก “แม่เจ้า เอาไปทำอะไรเยอะแยะวะ” มันก็พูดไปอย่างนั้นแหละ ทายาทร้านอาหารไทยในมิชิแกนคงพูดไปงั้น บ้านไอ้ชินทำธุรกิจร้านอาหารไทยในรัฐมิชิแกนที่อเมริกาครับ แบบว่าแม่มันเป็นคนไปเปิดครับ มีแม่กับพ่อไปสองคน ส่วนมันอยู่ไทยกับบรรดาญาติๆมันครับ บ้านนี้อยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่ครับ พี่ป้าน้าอาอากงอาม่าเต็มไปหมด ร้านอาหารแม่มันก็ดีนะครับไปได้สวยมากเลย รายได้เป็นกอบเป็นกำ


 “แล้วน้องปลอดภัยดีไหม?” คราวนี้จักรถามบ้าง ผมพยักหน้า


 คุยสัพเพเหระครู่หนึ่ง ผมเห็นว่าพลอยยังไม่มาเสียทีเลยคิดว่าจะเดินไปตามที่ห้องเลคเชอร์ ผมเดินมาถึงหน้าเลคเชอร์ ผมมองลอดผ่านประตูแง้มๆเข้าไป เห็นพลอยยืนอยู่คนเดียวใกล้ๆประตู แต่เธอไม่เห็นผม กำลังจะเรียกเธอแต่หากก็ต้องชะงัก


 “อะไรนะ...ฉันก็แบ่งเงินให้แกไปแล้วไง” เธอตะคอกใส่โทรศัพท์ “ก็แบ่งคนละครึ่งๆไง ล้านห้า...ก็แกเรียกมาแค่สามล้านไม่ใช่หรือไง ฉันแค่จ้างแกให้ไปเรียกค่าไถ่ไอ้เด็กนั่น แถมเขาไม่เอาตำรวจมาจับแก เงินเท่านั้นก็พอแล้วมั้ง...แกเอาไปเสวยสุขกับยานรกของแกเถอะไป...หึ...แต่ฉันก็สะใจ ได้เงินได้ทำให้ไอ้เด็กนั่นเสียขวัญ เห็นยังเด็กเอาแค่เบอะๆๆ ชอบมาทำเป็นหวงพี่ชายดีนัก เจอแบบนี้เข้าไปวงวัยจ๋อยไปนาน ฮะๆๆๆ” พอผมได้ยินถึงตรงนี้ผมกำมือแน่น เรียกค่าไถ่ เงินสามล้าน แบ่งกันครึ่งๆ แค่นี้ผมก็พอจะเดาอะไรได้เลยละ แต่ที่ผมโกรธมากที่สุดคือแม้แต่เด็กตัวแค่นั้นพวกเธอยังทำกันได้ลงคอ จิตใจทำด้วยอะไร


 ผมได้แต่ยื่นนิ่งอยู่หน้าห้อง...นี่ผมคบกับผู้หญิงใจสกปรกคนนี้ลงไปได้ไง


 “งั้นฉันไปละ แฟนฉันรอ” แต่ผมไม่นับเธอเป็นแฟนอีกแล้ว เสียงรองเท้าเข้ามาใกล้เรื่อย จนประตูเปิดอ้ามากขึ้น พร้อมกับดวงตาที่เบิกกว้างของพลอย


 “ร...ราชัน มาตั้งแต่เมื่อไร...” เธออ้ำอึ้ง ผมเหยียดยิ้ม


 “ก็นานพอที่จะได้ยินอะไรดีๆ” ผมเอ่ยเสียงเรียบ ใบหน้าสวยบิดเบี้ยว


 “มัน...มันไม่ใช่อย่างที่คิดนะ” เธอร้อง


 “ไม่ใช่อย่างที่คิดตรงไหน...เธอเป็นคนให้คนมาน้องชายผมไป เรียกค่าไถ่ ถึงจะไม่ทำร้ายร่างกาย แต่ก็ทำให้น้องผมเสียขวัญมาก เขายังเด็ก ตัวก็แค่นั้น ทำไมคุณยังใจร้ายทำกับเด็กได้ลง” ผมตวาดขึ้นมา ผมรู้สึกถึงแรงฉุดเบาๆจาดด้านหลัง พอหันไปเป็นเพื่อนสนิทสองคนที่สงสัยเดินมาตาม แต่มาได้จังหวะดีจริงๆ คงได้ยินทุกอย่างที่ผมพูดไปเหมือนกัน พวกมันทำหน้าช็อกเล็กๆ ไม่คิดว่าผู้หญิงคนนี้จะทำเรื่องแบบนี้ได้ลงคอ


 “ไม่นะ พลอยโดนบังคับให้ทำ...” เธอร้องไห้ แต่ตอนนี้น้ำตาเธอมันไม่ได้ช่วยให้ผมสงสารผู้หญิงคนนี้อีกต่อไป กลับรู้สึกวะอิดสะเอียนมากขึ้นไปอีก


 เธอเดินเข้ามาจับแขนผม แต่ผมรีบสะบัดออก “เงินที่เธอได้ไปฉันถือว่าทำทานละกัน หลังจากนี้ก็อย่าเจอะเจอกันอีก!” ผมรีบหันหลังกลับก่อนที่ผมจะกลั้นตัวเองได้ ผมโกรธเธอ แต่ก็โกรธตัวเองที่เอาผู้หญิงแบบนี้มาเป็นคนรัก ทั้งที่บ้านผมออกจะรักเอ็นดูเธอแต่เธอกลับทำเรื่องแบบี้กับน้องผมบ้านผม


 “หึๆๆๆ ฮ่าๆๆๆ น้องชายแกมันสมควรโดนแบบนี้ ไอ้เด็กเปรตนั่นมันเป็นมารเป็นก้างขวางคอฉัน ความจริงฉันน่าจะกำจัดมันทิ้ง ฮะๆๆๆๆๆ” ผมหลับตากับเสียงกรี้ดร้องราวกบคนบ้าแต่ไม่คิดจะหันกลับไปมอง


 ...เรื่องทุกอย่างจบแล้ว น้องผมปลอดภัย ผมก็ไม่เอาเรื่องราวกับผู้หญิงสติไม่ดีคนนี้ที่ทำเรื่องราวพรรค์นี้ขึ้นมาได้ เหมือนพวกไม่มีการศึกษา


 เรื่องทุกอย่างในวันนั้น ผมไม่ได้เล่าให้ที่บ้านฟัง ที่บ้านรู้เพียงว่าผมเลิกกับพลอยด้วยเหตุผลของคู่รักทั่วไป หลังจากนั้นผมก็ไม่ค่อยเห็นพลอยในมหาลัยเท่าไร เพราะความจริงเราสองคนเรียนคนละชั้นปีกัน มันก็ไม่ค่อยจะเจอกันอยู่แล้วถ้าหากผมไม่ไปหาหรือพลอยไม่มาหาและได้ยินมาว่าเธอมีแฟนใหม่แต่ก็เหมือนจะมีปัญหาเมื่อผู้ชายคนนั้นก็มีผู้หญิงคนอื่นเข้ามาติดพัน และผมเลิกสนใจเรื่องพลอย มันไม่ได้เจ็บเหมือนคนอกหัก ฟูมฟาย เพราะสิ่งที่เธอทำมันก็ไม่เหลืออะไรให้ผมคิดถึงเธออีกแล้ว แม้มันอาจจะดูเรื่องเล็ก (มั้ง) แต่ถ้าพี่น้องของคุณโดนจับเรียกค่าไถ่ และรู้ว่าคนทำคือคนที่คุณสนิทและไว้ใจคุณก็คงทำเหมือนผม แม้จะไม่แจ้งตำรวจ อต่ผมคิดว่าสักวันเธอคงได้รับผลกรรมที่ก่อไว้


เธอเคยกลับมาขอโทษและยอมรับในสิ่งที่เธอทำ และขอให้เรากลับไปเป็นเหมือนเดิม แต่สำหรับผมมันไม่มีคำว่าเหมือนเดิมอีกแล้ว


 ปล. ผมได้ยินว่าตอนผมจบมาแล้ว พลอยเธอกำลังมีปัญหากับภรรยาของอาเสี่ยเงินหนาที่เหมือนจะติดพันเธออยู่ เธอมีเงินใช้มือเติบ เฮ้อ...คนหนอคน ทำไมไม่รู้จักพอ


 เป็นไงครับ เรื่องของผมสมัยหนุ่มๆๆ อะ...แต่ตอนนี้ก็ยังหนุ่มแน่นฟิตปั๋งนะครับ เรื่องของผมกับพลอยที่สงสัยก็มีเท่านี้ละครับ แล้วเจอกันใหม่นะครับ... 





TBC.

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
ความหลังพี่ราชันดีกว่าของเก่า (ในความรู้สึกเรา)
ไม่อยากให้พี่ราชันมีลูกกับนังพลอยเท่าไร



ออฟไลน์ ujen

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2455
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +183/-13
เป็นผูหญิงที่ใจสกปรกมากๆๆ

ดีแล้วที่เลิกกันไป แต่น่าจะบอกให้ที่บ้านรู้น่ะ

 :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ Zelsy

  • เพราะ "รัก" คำเดียวเท่านั้น
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1859
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-2
น่ารังเกียจจริงๆ

ออฟไลน์ MiSS-U

  • {^o^} {^3^}
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2800/-11
ไม่ว่าพลอยเวอร์ชั่นนี้หรือก่อนหน้าก็ยังเป็นผู้หญิงสิ้นคิดจริงๆ
มีเพชรอยู่ในมือดันปล่อยให้หลุดมือไปได้  :z6:

สงสารลูกหมู  :hao5:

บวกเป็ด

ออฟไลน์ Lemon_Tea

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1641
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +71/-2
พลอยก็ยังเป้นพลอย
ยังคงเป้นคนไม่ดีเหมือนเดิม
แต่ดีล่ะ ที่ราชันไม่มีลูกกับผู้หญิงอย่างนี้

ออฟไลน์ silverspoon

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +275/-12
ตายแล้ว นังพลอย ร้ายกว่าที่คิดนะ  :z6:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด