[ต่อจากด้านบน]
“ถุย! ไอ้เด็กยังไม่หย่านม ร้านอาหารนะไม่ใช่เซเว่น เขาจะมีให้มึงปะละสาด” คิมพูด มันพูดหยามหน้าผมมากครับ คุณได้ดูผู้ปกครองของผมบ้างหรือเปล่าครับ ถ้าผมดื่มกับมันคงเอาผมตายเป็นแน่
“เอ่อ ตะ แต่ทางร้านเรามีน้ำปั่นนะครับ ไม่ลองเป็นพวกช็อคโกแลตปั่นดูล่ะครับ” พนักงานเอ่ยบอกอย่างกล้าๆกลัวๆ สงสัยคนอื่นคงเห็นโต๊ะผมเป็นคนเถื่อนเสียแล้วล่ะครับ
“เอาปะ” ผมพยักหน้าให้พิช พนักงานจดเสร็จก็เดินออกไป
“เออ นั้นกูไปซื้อกับแกล้มดีกว่า เอาอะไรกันหรือเปล่า” เนมลุกขึ้นถาม
“ที่ไหนวะ” เดินมาไม่ยักกะเห็นสักเว่น
“กูเห็นเฟรชมาร์ทอยู่ใกล้ๆนี่เอง ไอ้พิชไปเป็นเพื่อนกูหน่อย”
“ซวยกูอีกไง”
“ก็ตัวเองถึกที่สุดไงคะ ไปช่วยเค้ายกของหน่อยสิที่รัก”
“มึงไปทำเสียงแบบนี้ให้คนอื่นเลยนะสัด ไม่ต้องมาทำกับกู จะอ้วกว่ะ”
“อิอิ” มันยิ้มตาปิดเหมือนเดิม เลยโดนไอ้พิชตบหัวไปที
“เชี่ย แล้วทำไมเมื่อกี้ไม่บอกก่อนวะ กูอยากกินนมช็อคอะ” ผมบ่นกระปอดกระแปด คนข้างๆคงทนไม่ไหว เอื้อมมือมาขยี้หัวผมอย่างหมั่นเขี้ยวเบาๆ
“อ้าว กูลืมงะ อิอิ” อิกับพ่องมึงสิ
“มึงอะ แม่ง”
“นมช็อคสอง” เกียร์หันไปสั่ง
“ฮื้อ ไม่เอาๆ เดี๋ยวผมอ้วนอะ” ไม่ใช่จะกินไม่หมดนะครับ แต่กลัวอ้วน ผมพึ่งสูญเสียความมั่นใจไปตั้งแต่เมื่อคืนนี่ละ
“สามกล่อง”
“เอ้ย ทำไมมันเพิ่มอะ”
“จะได้เป็นแมวโหลดต่ำ”
“อะไรวะแมวโหลดต่ำ” พวกมึงถามเหมือนกูเมื่อคืนเป๊ะเลย
“..แมวอ้วน” เสียงห้วนตอบ
“กร๊ากกก เชี่ยรักโหลดต่ำเหรอมึงเดี๋ยวนี้ ถึงได้ว่า แขนมึงไม่ต้องยกเวทเลยว่ะ ไขมันมาเป็นมัดๆ ฮ่าๆๆๆ โอ๋ๆ อย่าหน้างอสิคะตัวเอง กร๊ากกๆ” เออ มึงขำกันเข้าไป อย่าให้ถึงทีกูนะมึง ผมหันไปค้อนเกียร์ที่ทำหน้าตายอยู่ข้างๆ มันหันมาเลิกคิ้วแล้วทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้
โห ไอ้ผมนี่โคตรจะหมั่นไส้มันเลย
"วงแขน กล้ามเป็นมัดๆ อุ้ยน่าจะกัดแขนเล่นเบาๆ" ช่วยด้วยครับ ผมโดนประทุษร้าย ไอ้คิมมันกัดไม่ปล่อย
“โอ้ยย อย่าต่อยกูดิวะ กูผิดไรเนี่ย ฮ่าๆ เอ้า เอาไปกิน เลิกงอแงได้แล้ว” ผมทำอะไรคนข้างๆไม่ได้ ก็หันไปต่อยแขนไอ้พิชที่นั่งอยู่อีกข้างแทน มันแสร้างทำเป็นโอดโอยเกินอาการ พอดีกับพนักงานมาเสริฟน้ำปั่น ถึงจะไม่อร่อยเท่านมช็อค แต่ก็พอแก้ขัดไปได้
"งอแงบ้านมึงดิ"
“เหอะๆ ไปซื้อไปไอ้เนม” ขนาดไอ้ไทป์ยังหลุดขำออกมา
“เออว่ะ ตัวเองเร็วๆสิ ลูกเราหิวนมแล้ว เวท อะมิหนิดนะลูกนะ”
“แค่มึงบอกกูว่า รอแปบ กูก็เข้าใจละ”
“ก็กูมีพี่บี้เป็นไอดอลในดวงใจอะ อิอิ” แล้วมันก็ฉุดไอ้พิชออกไป
“อ๊ะ” มันยื่นมือมาเช็ดมุมปากให้ผม
“เปรอะ”
“เอ่อ ขอทิชชู่ก็พอครับ”มันนั่งริมสุดจึงหยิบของสะดวก ส่งกระดาษทิชชู่มาให้
“ไอ้รัก กูว่ามึงมีน้ำมีนวลขึ้นว่ะ”ไอ้คิมปากมอมพูด
“อะไรของมึงอีก กูไม่ใช่ผู้หญิงนะสัด” คำนั้นมันสำหรับผู้หญิงไม่ใช่เ้หรอครับ ผมไม่รู้ว่าตัวเองทำหน้าอะไรออกไป แต่พวกมันหัวเราะกันใหญ่
“เก็บสีหน้าหน่อย แดงเชียวนะมึง ฮ่าๆๆ แต่กูพูดจริงๆนะโว้ย ไม่เชื่อก็ถามไอ้บอสดูดิ” บอสพยักหน้าโดยที่ผมยังไม่ได้หันไปถามมันเลยสักคำ
“บ้านมึง ก็ปกติของกู”
“ไม่ว่ะ ปกติมึงก็วิ๊งๆอยู่แล้ว อารมณ์เจ้าชายแสนดี ยิ้มแย้มโลกละลาย แต่นี่มึงแบบผ่องๆวิ๊งๆกว่าเก่าอีกว่ะ กูถึงได้ว่า เดินเข้ามามีแต่คนมอง” คลื่นพูด
“น้ำดี....อย่ามองกูแบบนั้น กูหมายถึงน้ำช็อคปั่น” ไทป์รีบแก้ไขคำพูด ไม่ทันแล้วมั้ง
“วู้! เพ้อเจ้อว่ะ..เอ่อเกียร์ ผมเจ็บมืออะครับ” มันคลายมือนิดหนึ่ง แต่ยังจับอยู่ไม่ปล่อย
“แล้วพวกมึงจะไปเล่นน้ำกันเปล่าวะ”ผมหันไปถามคลื่นที่กำลังแกล้งเอานิ้วแหย่เข้าไปในหูไอ้บอสที่นั่งไมรู้ร้อนรู้หนาว อดทนดีเนอะมึง
“เล่นดิวะ กูอยากเล่นใจจะขาด แต่ไอ้ไทป์บอกให้บ่ายแก่ๆกว่านี้หน่อยแล้วค่อยลง เดี๋ยวมะเร็งแดก”
พอแดดเริ่มร่ม พวกผมก็โดดลงทะเลกันเลยครับ ไอ้เนมซื้อลูกบอลสีใสมาเล่นลิงชิงบอลในน้ำ
“ไปเล่นน้ำกันครับ” พวกนั้นลงไปเล่นกันในน้ำกันแล้ว เหลือเกียร์ที่ยังนั่งนิ่งโดดเดี่ยวเปลี่ยวเยี่ยวราดอยู่บนพื้นทรายขาว
“เล่นเถอะ”
“หือ มีอะไรหรือเปล่าครับ” ผมเดินเข้าไปนั่งใกล้ๆ
“หึ” มันส่ายหน้า ผมเลยบีบแก้มมันเบาๆ มันหน้ายืดมองผมค้อนๆ ฮ่าๆ ตลกชะมัด มันเห็นผมหัวเราะก็ยืดแก้มผมกลับ แล้วยิ้มบางให้
“เป็นอะไรล่ะคร๊าบคุณน้ำแข็ง นั่งหน้านิ่งเป็นคุณน้ำแข็งแบบนี้ผมจะรู้เหรอหื้มม” ผมดึงแก้มมันไปมา พลางอมยิ้มถาม
“ก็ไม่ชอบทะเล...ไปเล่นเถอะ แต่อย่าลึกนะ" เสียงทุ้มตอบ ผมหน้าเจื่อนลง มันจึงรีบพูดต่อ
“ไม่เอาอะ นั่งเป็นเพื่อนดีกว่า เดี๋ยวหลงไปทำยังไงละ ตัวใหญ่ขนาดนี้ทำคืนพ่อแม่เกียร์ไม่ไหวหรอกนะ” ผมพูดขำๆ
“เกียร์นั่งดูอยู่ตรงนี้ ไม่ไปไหนหรอก”มันลูบมือผมเบาๆ
“แต่เกียร์ไม่ชอบทะเล นั่งดูทะเลแล้วมันจะดีเหรอ”
“ใครบอกดูทะเล เกียร์นั่งดูไอรัก”
“อ๊ะ”
“หน้าแดงแล้ว หึหึ ไปเถอะ”
“นั้นก็ปะ ไปเดินเล่นกันดีกว่า” ผมตัดบทโผล่งขึ้น แล้วรีบลุกยื่นมือไปให้มัน มันมองงงๆแต่ยอมยื่นมือมาจับ
“จะไปไหน”
“ไปตามทาง อ้าว อย่ามองแบบนั้นสิ ผมพูดความจริง ไม่ได้กวนส้นเท้าคุณเลยสักกะติ๊ด”
“อย่างนั้นก็ดี” มันพยักหน้าเออออ แต่สายตาอยากฆาตกรรมปากผมมากๆ
“เฮ้ย พวกกูไม่เล่นละนะ”ผมตะโกนบอกพวกมันที่เล่นรอผมไปพลางๆ
“อ้าว เออๆกูว่าละ ไปไป๊” คิมตะโกนกลับ แหม พอกำลังสนุกก็ไล่ผมกันเชียว สันดาน
"ตกใจไหม" มันเอ่ยถามผมที่กำลังเตะทรายไปตามทาง อุ่นเท้าดีชะมัด
..อุ่นมือด้วย..
“อะไรเหรอครับ”
“เมื่อตอนกลางวัน” อ๋อ แรงหึงของน้องเกียร์
"หืม อ้อ ไม่นิครับ เห็นผมเรียบร้อย ไม่เคยเห็นคนมีเรื่องกันเลยว่างั้น" มันพยักหน้า
“โหย อย่างนี้มาตัวต่อตัวกันเลยดีกว่า อะโด่ๆ” มันหัวเราะในลำคอ บีบจมูกผมเบาๆเชิงหลอกล้อ
“ยอมแพ้ก็ได้”
“ทำไมยอมง่ายจังอะ ยังไม่ทันขึ้นสังเวียนเลยนะเอ้อ”
“ไม่อยากแกล้งแมวหงิม ปล่อยให้ยิ้มเดินไปเดินมาน่ะดีแล้ว” โห ผมขึ้น(ในใจ)เลยครับ หงิมกับหลานฝั่งน้าคุณสิครับที่รัก
“หูยย จุกเลยๆ เห็นผมโลกสวยขนาดนั้นก็ให้ผมเป็นนางงามเถอะครับ"
“นางงามมีงวง” เหรี้ยยยยยยย ปากคอเราะร้าย
“งวงใหญ่กว่าคุณก็แล้วกัน โถ่ เล่นใต้สะดือตลอด ไม่คุยด้วยแล้ว”ผมทำท่าจะเดินหนี แต่มันคว้าเอวกอดผมแน่นจากด้านหลัง
“เก็บปากหน่อยสิ แก้มป่องปากยื่นออกมาแล้ว หึหึ”
“เกียร์ปล่อยก่อน เดี๋ยวคนอื่นเห็น” คนเต็มชายหาดเลยครับ แต่ส่วนใหญ่เป็นฝรั่งเสียมากกว่า
“ไม่มีใครสนใจหรอก”
“ฮื้อ แต่ผมสน เดี๋ยวคนจะเห็นแล้วดูไม่ดีนะครับ”
“ไม่สน” คางแหลมเกยบนกระหม่อม พร้อมมือกระชับกอดผมแน่นขึ้น
“เผด็จการตลอดด”
“ตัวรุมๆ ไม่สบายหรือเปล่า” มันเอามือแตะหน้าผาก แก้ม ลามไปถึงคอ
“ไม่รู้อะ ไม่เห็นร้อนเลย”
“ปวดหัวไหม”
“นิดหน่อยครับ” เหมือนผมเป็นคนไข้ แล้วมันเรียนแพทย์แทน มันคลายอ้อมกอดแล้วจับมือผมเดินต่อ เดินไปไม่กี่ก้าวมันชะงักแล้วหันมาถามเมื่อเห็นผมเริ่มจับก้นตัวเอง
“เจ็บตรงนั้นเหรอ” ว๊ากกก ดูมันถามหน้าตาเฉย ดึงให้ผมนั่งในร่มเงาต้นไม้ แล้วกอดผมจากด้านหลัง
“นี่ ผมไม่ได้ตัวเล็กเลยนะครับ นั่งดีๆก็ได้” ผู้ชายตัวใหญ่สองคนนั่งกอดกัน มันดูแปลกๆนะครับ
“ปากยื่นอีกแล้ว”คราวนี้มันเอี้ยวหันมากัดริมฝีปากล่าง ผมอ้าปากหวอตกใจผลักอกหนา มันกอดแน่นแล้วฉวยโอกาสนั้นดูดลิ้นผมอย่างดูดดื่ม ริมฝีปากอุ่นบดเบียดเข้าหากันอยู่อย่างนุ่มนวลหวานซึ้ง
“อืออ อืมม.....” เสียงต่อต้านในตอนแรก กลับกลายเป็นเสียวครางหวิว เคลิบเคลิ้มไปกับรสจูบที่อีกฝ่ายมอบให้ แขนคว้าคออีกฝ่ายให้แนบชิดพักใหญ่จนต้องทุบอกแน่นของอีกฝ่ายเบาๆ
“หายยื่นละ” มันพูดคลอเคลียใกล้ริมฝีปาก แนบจุ๊บปากกันเล่นอยู่อย่างนั้น
“..แต่เจ่อแทน” เสียงกระซิบพร่าตอบต่อ ตัวหันเข้าหาอีกฝ่าย ขาคล่อมคนตัวใหญ่ มือยังคล้องอยู่บนคอหนาของมัน จนได้ยินเสียงหัวเราะในลำคออย่างถูกใจ แล้วหอมแก้มผมซ้ายขวาจนแทบช้ำไปหมด
“พระอาทิตย์สวยดีนะครับ” ผมมองตาหวานเยิ้มของมัน แล้วยิ้มให้อย่างออดอ้อน
“แต่น้อยกว่าคนนี้” หลังจากที่โดนฟักซะน่วม มันก็ลูบแก้มผมเล่น
“อย่างนี้เขาเรียกว่าหล่อต่างหาก”
“ก็จริง” เห็นไหม ผมไม่ได้หลงตัวเองนะครับ
“ทะเลที่นี่ก็สวย น้ำใสมากๆ” ผมพูดเปรย อยากให้มันลงน้ำบ้าง ไม่อยากให้มันยึดติดอยู่กับเรื่องเก่าๆ
“..อืม ก็จริง..”
“เห็นมะ นั้นลงไปเล่นน้ำกัน” ยิ้มตาปิดให้ มันเลยแกล้งดึงหนังตาผมขึ้นให้ตาเหลือก แล้วหัวเราะเบาๆ สนุกเลยสิ
“หมายถึงสีตาแมวตัวนี้ต่างหาก” มันจ้องลงลึกเข้าไปในตา จนผมจำต้องหลบสายตาใคร่รักที่จับจ้องมา
“..นะ นี่! คุณจะทำผมหน้าระเบิดวันละหลายๆรอบแล้วนะครับ” มันหัวเราะเสียงดัง ผมทำหน้าไม่ถูก หัวเราะอีกแล้ว...ผมต้องเป็นโรคหัวใจไปก่อนมันแน่ๆ ให้ตายสิ!
“ไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย”
“แล้วที่พูดหยอดผมอยู่ตลอดนี่เขาเรียกว่าอะไรละครับ! ..ทำผมหน้าร้อนอีกแล้ว” ผมแกล้งหน้ามุ่ยบ่นอุบอิบ มันกระชับกอดแน่นขึ้น
“ไม่หยอด ไอรักก็หน้าแดง แค่มองเกียร์ หน้าก็แดงเป็นมะเขือเทศแล้ว ไม่รู้ตัวเลยเหรอ” มันก้มกระซิบ เสียงทุ้มเซ็กซี่ข้างหูทำเอาผมหน้าแดงจัด
“มะไม่จริงอะ” นี่ผมแสดงออกไปแบบนั้นเชียวเหรอ ไม่มีทางอะ บ้าแล้ว
“หึหึ แมวน้อยเอ้ย”
“อีกละ บอกเป็นเสือไงงง”
“แมวอวบ”
"ใช่สิ ก็คนมันมีไขมันส่วนเกินแล้วนี่” (เสียงสูง)
"เป็นส่วนเกินที่ทำให้น่ารักดีนะ"
“…………”
“หึหึ” ดูมัน ชมคนอื่นหน้าตาเฉยแล้วยังมาหัวเราะอีก ผมซบไหล่หนี มันก็ยังหันมาหอมแก้มกันซะได้
"อย่าหัวเราะอย่างนั้นดิ”
“ทำไม” มันเลิกคิ้วใส่
“ก็ ก็มันทำให้ผมใจสั่น” ว่าไปแบบนั้นมันก็กลั้นอมยิ้มแก้มป่องเลย จนผมต้องกัดไหล่มันแก้เขิน
"เหมือนกัน”
“เหมือนตรงไหนอะ” ผมเงยหน้าจากบ่ามามองมัน
“… เวลาไอรักยิ้มเหมือนพระอาทิตย์ ตอนหน้าแดงก็เหมือนเป็นไอความรักให้เกียร์ เป็นดาวสว่างไสวเวลาที่หัวเราะ แล้วก็เป็นพระจันทร์แห่งความสงบให้เกียร์เวลาที่โกรธ" ผมมองมันอึ้งๆ คำพูดเยียดยาวที่นานๆที่มันจะพูดออกมา เวลาที่เกียร์พูดดูมีความสุขที่ได้บอกผม เหมือนคำพูดออกมาจากใจจริง แววตาที่จริงใจมองมาที่ผมอย่างมั่นคง
..ทำให้ผมมั่นใจว่าผมเลือกคนนี้ไม่ผิดจริงๆ..
".........."
"อืม.. แล้วก็เป็นแมวขี้อ้อนน่ารัก ขู่ฟ่อๆเวลาที่โมโห เป็นแมวยั่วสวาทเวลาอยู่บนเตียง แต่ก็สั่นหูตกเวลากลัว แต่ทำปากแข็งว่าไม่กลัว แต่สุดท้ายก็กลัวน้ำตาคลอตัวสั่นไปหมด เวลาเล็บที่จิกลงแผ่นหลั...."
"เย้ยยยยย เกียยย พูดอะไรนี่กำลังโรแมนติกเลยอะ โห่" ผมหน้ามุ่ย แต่มันกลับหัวเราะใส่ เออ แกล้งผมเข้าไป
"เห็นสงสัย เลยตอบให้"
"ทีเรื่องแบบนี้ล่ะพูดเยอะจัง เรื่องอื่นดันไม่ตอบ อะโด่"
"เคยไม่ตอบ?"
"เอ๊า หมายถึงเวลาคนอื่นถามไง กลัวดอกพิกุลจะร่วงเหรอคร๊าบคุณน้ำแข็งงง" ผมทำหน้ากวนๆให้มัน มันอมยิ้มชอบใจใหญ่
"ไม่ใช่ไอรัก ก็ไม่รู้จะพูดไปทำไมให้เหนื่อย" มีงี้ด้วยเหรอ แค่ขยับกรามนิดหน่อยบอกเหนื่อย อีตอนเมื่อคืนล่ะใส่เอา ใส่เอา แม่ง ยังเจ็บไม่หาย
"โห อย่างนี้ผมคิดเข้าข้างตัวเองได้ไหมเนี่ย"
"คิดอะไรล่ะ"
"ก็........คุณน้ำแข็งรักผมหมดใจแล้วไงล่ะ" ผมหันไปยิ้มตาหยีให้มัน
"พึ่งรู้เหรอ" มันยิ้มอย่างอ่อนโยน แล้วก้มลงจูบอย่างนุ่มนวลอีกรอบ
TBC---->>>>>>>>>>>>>>>>>>
+ขอโทษที่มาต่อให้ช้านะคะ พอดีเอาคอมมันมีปัญหานิดหน่อย เลยเอาไปซ่อม (เสียตังอีกแล้วT-T)
+ยังไม่ได้ดูคำผิด ถ้ามีคำไหนผิดก็บอกกันได้นะคะ
+มีเรื่องใหม่มาแนะนำค่ะ เรื่องนี้นายเอก(?)แก่กว่า ส่วนพระเอก(?)เกรียนๆตามประสาวัยรุ่นผู้ชายนะคะ โดยพระเอก(?)เป็นคนบรรยายค่ะ ใครชอบแนวๆนี้ก็ไปติดตามกันได้นะคะ
+>> แก่แล้วไง...เล็กไม่เกี่ยง <<+โซ่รักทุกคน♥