......
.....
....
...
..
.
ทีแรกจะอุ้มไอ้แม๊คเข้าบ้าน ที่ไหนได้อุ้มไม่ขึ้น เลยรู้สึกว่ามันตัวใหญ่ขึ้น...เออ ไม่ทันสังเกตุ...เมื่ออุ้มไม่ขึ้นก็แบกมันขึ้นหลังไปแทน เพราะมันมึนจนเดินเองไม่ไหว
----เหอ เหอ เหอ...แอบชมฝีมือตัวเองในใจอยู่เหมือนกัน แหม ถีบทีเดียวช้างล้มเลย
แต่หน้าไอ้แม๊ค...บูดมาก!
“ไปโรงบาลมั้ยวะ?” ผมถามเสียงละห้อย
“ฮึ!”
อื้ม....สั้นเรียบ แต่ได้ใจความ*0* “กูขอโทษ มันมืด มองไม่ถนัด...เจ็บมากมั้ยวะ?” ผมทำหน้าละห้อยตามเสียง แล้วขยับตัวเดินไปนั่งข้างๆ มัน
เมียงมองหารอยช้ำ....แล้วก็นึกขึ้นได้ว่า หากแรงถีบผมแรงจริงจนมันมึน รอยจ้ำมันคงไม่เกิดวันนี้แน่....เกือบโชว์โง่อีกแล้วกู
“เจ็บเนอะ งั้นเดี๋ยวกูไปซื้อน้ำแข็งมาประคบให้นะ แป๊บนึงนะเว้ย!” ผมพูดพลางยื่นมือไปลูบหัวมันอย่างเบามือ...กลัวสะเทือนแผลเก่ามัน แต่ก็อยากลูบหัวมัน...เง้อ..เป็นไรเนี่ยกู!
ไอ้แม๊คหน้าตึง คอแข็งไม่พูดกับผมสักคำ...แต่ก็ยังดีที่มันไม่โวยวาย ผมแอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก แล้วลุกขึ้นยืน เตรียมออกไป 7-11 อีกที
ขณะที่ผมเปิดประตูมุ้งลวด....เสียงสะบัดห้วนหนึ่งดังมาจากด้านหลังผม “หิว! ซื้อของกินมาให้ด้วย ไม่ได้กินข้าวตั้งแต่กลางวันแล้ว!”
“อ่ะ...ครับ อยากกินไรครับ?” ผมล่ะอ่อนใจ ไอ้เชี่ยแม๊ค...ตกลงแม่งโมโหผม หรือโมโหหิวกันแน่วะ!
ผมมองตาฉงนงงงวยของไอ้แม๊ค....นึกสงสัยว่ามันจะงงอะไร? แต่ไม่นานเท่าไหร่ ไอ้แม็คก็หันหน้าหนีผม แล้วกลับไปทำคอแข็งเหมือนเดิม
“เนื้อ...เอาเนื้อเยอะๆ พี่หุงข้าวให้ผมด้วย! จะกินข้าวกับเนื้อ!”
“ครับ ครับ...” ผมรีบรับคำไอ้แม๊ค แล้วเปลี่ยนใจ เดินตรงเข้าไปในบ้าน เพื่อเอาหม้อหุงข้าวมาหุงข้าวสารก่อนออกไปซื้อน้ำแข็ง
กดหม้อข้าวให้หุงเสร็จ ผมก็รีบซอยเท้าออกไปที่ประตูบ้าน “พี่ไปเซเว่นเดี๋ยวมานะครับ อยู่ได้มั้ย? แป๊บเดียว”
ผมหันไปบอกไอ้แม๊ค แล้วก็เห็นสายตาฉงนงงงวยจากมันอีกครั้ง----มึงจะงงอะไรวะ?!
“ครับ...” ไอ้แม๊ครับคำแล้วหันหน้าไปทำคอแข็งเหมือนเดิม
ผมเลิกสนใจมัน....เพราะอย่างน้อยๆ มันก็ครับกับผมแล้ว ไม่ใช่อื้อ....ซึ่งอาจเดาได้ว่า มันโมโหหิว มากกว่าโมโหผม
เช่นนั้น....ผมต้องรีบทำดีไถ่โทษมันหน่อย ^^
......
.....
....
...
..
.
ปั่นจักรยานฝ่าดงหมามาถึง 7-11 ปัญหาของผมก็ยังไม่หมด
จากความทรงจำของผม ไอ้แม๊คแม่งเกลียดกับข้าวของเซเว่น....แต่เมื่อกี้มันก็รู้ว่าผมจะมาเซ่เว่น แล้วมันสั่งเนื้อ จะกินเนื้อ....ไอ้เวรนี่ตายอดตายอยากมาจากไหน!
ผมยืนกอดอกมองตู้อาหารแช่แข็งของเซ่นเว่นพลางคำนวนคำพูดของไอ้แม๊คอยู่ในใจ
ข้าวกระเพราะหมู..... “โอ๊ย กินผัดกระเพราเหมือนไม่ได้กินผัดกระเพรา!”-----Out!
เกี๊ยวกุ้ง..... “อันนี้พอกินได้ แต่แอบแพงว่ะ”----Get!
ข้าวเหนียวหมูทอด.... “ไปซื้อไก่ทาสีส้มที่ย่างข้างทางยังกระเดือกลงมากกว่า”-----Out!
บะหมี่หมูแดง..... “ซื้ออันนี้กินนะ ผมกินมาม่าจัมโบ้ยังอร่อยกว่าเลย”-----Out!
สปาเกตตี้..... “ไม่เป็นไร เดี๋ยวนั่งเครื่องไปกินที่อังกฤษได้”-----Out!
สลัดผักรวม.... “บอกว่าจะกินเนื้อไงพี่กั๊ก!” อั๊ยยะ...หลงทางไปหน่อยกู -----Out!
“รับอะไรดีคะ คุณพี่” เสียงหวานจ๋อยจากน้องพนักงานเอ่ยถามผม
“โอ๊ะ! เออ....พี่เอาเกี๊ยวกุ้งสองกล่องครับ เอาถ้วยขาวนะครับ ไม่เอาถ้วยดำ เวฟให้ด้วย แล้ว....เอาบิ๊กไบท์หมู 2 ครับ ไม่หั่น.....อืม...เท่านี้ครับ” ผมสิ้นสุดรายการที่ตัวเองต้องการด้วยรอยยิ้ม
จากนั้นเมื่อพนักงานหญิงเดินไปทำหน้าที่ของเธอ ผมจึงเดินไปเลือก ‘เนื้ออย่างอื่นต่อ’
หมูรมควัน 1 ห่อ
แฮม 1 ห่อ
หมูสไลด์ 1 ห่อ
เอาขนมปังบาวาเลียนด้วย...อันนี้ไอ้แม๊คชอบ ถึงไม่ใช่เนื้อก็เหอะ ให้มันกินล้างปาก....
อ๊ะ อ๊ะ น้ำลำไยทรงเครื่องอีก 1.....
เอาไรอีกดีน๊า.........เอ๊ย!! น้ำแข็ง ...เกือบลืมแล้วมั้ยล่ะ *0*
......
.....
....
...
..
.