......
.....
....
...
..
.
“ก๊องหน้าซีดจังคะ ไม่สบายรึเปล่า?” เมียไอ้เป้เอ่ยถามผมด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงทันทีที่ผมหย่อนก้นลงนั่ง
“หลับไม่ค่อยสนิทน่ะ ฝันเยอะไปหน่อย...” พูดจบผมก็หายใจทิ้งอีกครั้ง....ซึ่งเป็นครั้งที่เท่าไหร่ของวันนี้...ก็ไม่รู้
“ไอ้แม๊คมันยังไม่ติดต่อกลับมาหามึงอีกเหรอวะ?” ไอ้เป้ถามเสียงเครียด
ผมพยักหน้าแทนคำตอบ ไม่อยากพูด ยิ่งพูดมันยิ่ง...จี๊ดหัวใจ...
“โห...สิบกว่าวันแล้วนะมึง!” ไอ้เป้พูดหลังจากที่นับนิ้วของมัน
“ก๊องโทรหาน้องแอ๊บไม่ติดเลยรึคะ? ไหนเอาเบอร์มาสิคะ...” เมียไอ้เป้ยื่นมือมาแบ ผมยื่นโทรศัพท์ที่ใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อเชิ้ตให้คุณเธอไปอย่างว่าง่าย...
“ก๊องเมมชื่อน้องแอ๊บว่าอะไรคะ? ภาษาอะไร?” เธอเงยหน้าขึ้นมาถาม จ่อนิ้วเตรียมกดปุ่มเครื่องของผม
“นางฟ้า”
“พรื๊ด!” ไอ้เป้สำลักน้ำก๋วยเตี๋ยวที่มันเพิ่งซดเข้าไปเมื่อกี้
“ว๊าย.....” เมียไอ้เป้รีบหยิบกระดาษทิชชู่มาเช็ดปากเช็ด...เสื้อเช็ด...มือให้ไอ้เป้...แม่ศรีเรือนจริงๆ เห็นแล้วอิจฉาง่า
“ตกลงมึงยังชอบหญิงอยู่ป่าววะ? ไอ้เหี้ย นางฟ้า...ทำไปได้....” ไอ้เป้พูดไปส่ายหัวไป
เมียไอ้เป้จัดการธุระของสามีเธอเสร็จก็ก้มหน้ากดกุ๊กๆ กิ๊กๆ ที่มือถือของผม จากนั้นเธอก็หันหน้าไปคว้ากระเป๋าถือของเธอมาค้นอะไรสักอย่าง
“ชอบดิ ผู้หญิงน่ารักจะตาย” ผมบอกไอ้เป้ตามที่ใจคิด
“แล้วมึงเอาน้องแม๊คไปไว้ไหน?” ไอ้เป้เริ่มแปลงร่างเป็นเจ้าหนูขี้สงสัย
“......ไม่รู้.....” ผมก้มหน้าลง หันมาสนใจชามก่วยเตี๋ยวของตัวเอง
“นี่ตกลงมึงชอบมัน หรือแค่อยากลองของแปลกกันแน่วะ ก๊อง?...” ไอ้เป้ถาม
“..........” ผมไม่ตอบซะดื้อๆ แล้วคีบเส้นบะหมี่คำใหญ่เข้าปาก
แม่งถามในสิ่งที่ผมไม่อยากตอบ...ก็ในความคิดของผม ไอ้แม๊คแม่งเป็นทั้งสอง มันเป็นของแปลกสำหรับผม แถมมันยังน่ารักในความรู้สึกผมด้วย...แต่ผู้หญิงก็น่ารัก...เอ้า! ทำไงได้เล่า ก็ผมมองผู้หญิงมาตลอดชีวิต
“สวัสดีค่ะ สารวัตรกิจ นิสาเองค่ะ จำนิสาได้ไหมคะ?” เมียไอ้เป้พูดเสียงหวานกับโทรศัพท์
ไอ้เป้เงยหน้าควับไปมองเมียตัวเอง...ผมก็เช่นกัน
“อุ้ย! ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกค่ะ คิกคิกคิก...”
ไอ้เป้วางตะเกียบ หันตัวไปหาเมียมัน ยกศอกขึ้นมาท้าวโต๊ะ....หน้ามันเหี้ยมด้วยลมหึง
*0* สารวัตรกิจคนนี้ ผมจำได้!....เพราะคนคนนี้เคยเป็นคู่แข่งความรักของไอ้เป้
หนุ่มหล่อ ยศสารวัตร...ที่เมียไอ้เป้ไปเจอที่งานเลี้ยงฉลองก่อวันวิวาห์ของเพื่อนเธอ สารวัตรกิจคนนี้เป็นเพื่อนฝ่ายเจ้าบ่าว....ไอ้เป้กับสารวัตรกิจจีบสาวคนนี้ในเวลาไล่เลี่ยกัน เขม่นกันสุดๆ ขบเขี้ยวกันมาเกือบครึ่งปีถึงเห็นผล
กระทั่งวันแต่งงาน คุณสารวัตรแกก็ยังไปร่วมงาน...ไอ้เป้เล่าว่า คุณสารวัตรแกกระซิบบอกมันว่า... ‘ดีนะครับ ที่กฏหมายของไทย แต่งแล้วให้หย่ากันได้ หากคุณหย่ากัน ขอให้คุณสบายใจได้เลยนะครับ ผมจะดูแลนิสาให้เป็นอย่างดีครับ’
ไอ้เป้บอกว่ามันเกือบถีบสารวัตรกิจกลางงานเลี้ยง ดีที่ตรงนั้นมีผู้ใหญ่มุงอยู่หลายคน มันเลยข่มอารมณ์ได้
แต่นั่นเฉพาะกับไอ้เป้ครับ....คือคุณสารวัตรกิจเนี่ย สำหรับคนอื่นเค้าดี๊ดีนะครับ ขนาดผมที่เป็นเพื่อนของคู่อริ เค้ายังพูดดีด้วยเลย สงสัยสองคนนี้เค้าจะเกลียดขี้หน้ากันมาแต่ชาติปางก่อน
“ค่า งั้นรบกวนด้วยนะครับ...คิกคิกคิก....ได้ค่า ไว้วันหลังนิสาไว้ค่อยโทรนัดกันนะคะ ขอบคุณมากสารวัตรกิจ..” เมียไอ้เป้ที่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กับโทรศัพท์วางสาย
“คุณอะไรกับมัน! จะนัดกันไปทำอะไร!” ไอ้เป้เสียงเข้ม
“ไปทานข้าวค่ะเป้” เมียไอ้เป้บอกเสียงใส
“จะไปกินข้าวกับมันทำไม!” ไอ้เป้จับหมับที่ต้นแขนของเมียมัน
“เชี่ยเป้! ใจเย็นสิวะ!” ผมยืนขึ้นไปจับบ่าไอ้เป้ไว้ ก่อนที่มันจะของขึ้นสูงไปกว่านี้
เมียไอ้เป้ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ ไม่สนใจอารมณ์หึงของสามีตัวเองแม้แต่น้อย เธอมองตรงมาทางผม แล้วบอกว่า “เค้าฝากสารวัตรกิจให้ตรวจหาพิกัดของเครื่องน้องแอ๊บ เดี๋ยวเราก็จะได้รู้กันละว่า น้องแอ๊บไปอยู่ไหน? เสียดาย ไม่มีเบอร์น้องแม๊คเนอะคะเป้”
เมียไอ้เป้เลยหน้าเลยตาส่งยิ้มหวานให้สามีตัวเอง
สิ่งที่เมียไอ้เป้บอกทำให้ผมทั้งแปลกใจระคนดีใจ
ผมยิ้มกริ่ม
ผิดกับไอ้เป้ที่หน้าบึ้ง
ไอ้เป้ปล่อยมือของมันที่กำต้นแขนเมียออก แล้วใช้นิ้วชี้ของมืออีกข้างชี้หน้าผม “เชี่ย! เพราะมึงเลยไอ้ก๊อง! เมียกูเลยต้องเปลืองตัว!....นี่ถ้ามึงได้คบไอ้แม๊คนะ กูจะจับไอ้แม๊คมาเทรน!”
“เทรนอะไรคะเป้?” เมียไอ้เป้เคียงคอถาม
“ก็เทรนวิชา ‘จับไอ้ก๊องให้อยู่หมัด’ ไงครับคุณ แม่งวุ่นวายคนอื่นเค้าฉิบหาย เอาไม้แม๊คนี่แหละ ท่าทางฉลาด ดูสอนง่ายดี”
“ฮ่าฮ่าฮ่า.......” เมียไอ้เป้ขำก๊าก
“เพื่อนเลว!” ผมชมเชยเพื่อนตัวเอง...จากใจจริง!
......
.....
....
...
..
.