ข้างบ้านนะตัวแสบ- โดยป้าจุใจ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ข้างบ้านนะตัวแสบ- โดยป้าจุใจ  (อ่าน 648238 ครั้ง)

blackwild

  • บุคคลทั่วไป
ตามมาจากบอร์ดเด็กดีค่า หุหุ

มาต่อไวๆน้า  :m1:

meeza31

  • บุคคลทั่วไป
สนุกมากเลยคับ  o13

myLoveIsYOu

  • บุคคลทั่วไป
เชนนี่ร้ายไม่เบาเลย ตอดเล็กตอดน้อย หยอดเล็กหยอดน้อยไปเรื่อย ๆๆ  :m4:

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
คู่นี้น่ารัก ชอบรีบมาต่อนะ  :m4: :m4: รออ่านจ้า

hula-hoob

  • บุคคลทั่วไป
วิ๊ดวิ๊วววววว

วู้ววววว

ว้าวววว


(บ้าแระกุ)

น่ารักๆๆ

ออฟไลน์ ● MaYa~Boy ●

  • ฉันมันคนขี้อิจฉา
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3990
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-2
โอ๊ย น่ารัก ได้ใจมากๆ

ja ne

  • บุคคลทั่วไป
 :oni2: :oni2:

ตอนที่ 11 ไม่เจอกันนานเนอะ


ยะฮู้  !!   สอบมิดเทอมเสร็จแล้วครับ  พ่อแม่พี่น้อง มิตรรักแฟนนิค  และแฟนนานุแฟนทุกท่าน   
หลายคนอ่านแล้วอาจจะรู้สึกว่าวันนี้ผมมาแปลก   เพราะปกติไอ้คุณนิคมันเอาแต่ไร้สาระ  กินเหล้าเคล้านารี  มีเรื่องตีหัวหมา  ด่าชื่อพ่อล้อชื่อแม่คนอื่นไปวันๆ   แต่ไหงวันนี้มาถึงก็พูดเรื่องสอบได้    อยากจะแก้ตัวสักเล็กน้อยครับว่าความจริงผมก็ยังใส่ใจการเรียนอยู่  เพียงแต่เรื่องเรียนมันเป็นเรื่องที่ไม่รู้จะเล่าไปทำไมให้ปวดหัวเจ็บกบาลกันเปล่าๆ  โดยเฉพาะวิศวะที่มีแต่ตัวเลขบานตะไทเห็นตำราแล้วพาลจะไข้ขึ้น   แต่ไหนๆก็ไถลมาพูดถึงเรื่องเรียนกันแล้วก็ต้องพูดถึงไอ้คินมันอีกซะหน่อย   

ไอ้นี่มันเรียนเก่งระดับเฉียดสี่จุดทุกเทอม  เล่นเอาพวกขี้เกียจสันหลังยาว โคตะระจะยาวอย่างผมกับไอ้แม็คได้อานิสงส์ทั้งด้านดีและไม่ดีกันไปแบบเต็มๆ   

ด้านไม่ดีคือ  เวลาสอบเสร็จ  ถ้าพวกผมคะแนนออกมาเห่ยก็จะโดนหยอกแกมสมน้ำหน้าจากเพื่อนสาขาว่าเสียชาติเกิดที่มีเพื่อนฉลาดอย่างไอ้คิน  โดยเฉพาะบรรดาอาจารย์ที่เคารพทั้งหลายที่มักจะบ่นปนถามว่าพวกผมอยู่บ้านเดียวกันแท้ๆ แต่ทำไมความขยันและคะแนนสอบมันถึงได้ต่างกันอย่างกับฟ้ากับเหวนรกสุดลึก   ผมเลยค่อนข้างเซ็ง   สมองกุกะไอ้คินไม่ได้ติดกันเป็นแฝดสยามสักกะหน่อย   ก็โดนเพื่อนๆกับอาจารย์รุมว่ากันซะเสียหายไปเลยครับ    ส่วนอานิสงส์ด้านดีๆที่ได้ก็คือ   เวลามีงานกลุ่มก็จะเกาะไอ้คินขึ้นสู่สรวงสวรรค์  ดินแดนที่มีเกรดเอกับบีบวกแจกจ่ายให้เราอิ่มทิพย์อยู่ตลอดเวลา  (น่าจะคล้ายๆกับเกาะชายผ้าเหลือง)   55  ชั่วจริงกุ  กินแรงเพื่อนอร่อยดี    ส่วนเวลาใกล้สอบก็บังคับไอ้คนเก่งมันติวให้นั่นแหละ  ติวแค่ให้เฉียดมีนเล็กๆพอมีลุ้นไม่ให้มีหมามาเพิ่มในทรานสคริปท์ก็เป็นใช้ได้   แต่จะเฉียดบนหรือเฉียดล่างนี่ค่อยว่ากันอีกที   ก็คนโดนติวมันขี้เกียจนี่ครับ อิๆ   

ผมกับไอ้แม็คก็ยังคาดกันว่า  ไอ้คินมันจะเป็นพระเจ้าในรุ่นเราที่สามารถเรียนจบได้ภายในสี่ปี   ก็ที่มหาวิทยาลัยผม  ใครเรียนวิดวะแล้วจบได้ภายในสี่ปี  เราจะยกให้ไอ้มนุษย์สปีชีส์นั้นเป็น  พระเจ้าครับ 

ข้อสอบวิชาสุดท้ายคือแคลคูลัส   วิชาที่เป็นภาระอันแสนจะหนักอึ้งอย่างมหาศาลสำหรับพวกกบาลบรรจุแต่ขี้เลื่อยอย่างผมกับไอ้แม็ค   เพราะพวกผมไม่ได้มีรอยหยักในสมองถี่ยิบ  และไม่ได้ผ่านการบริหารออกกำลังกันโรคสมองฝ่ออย่างสม่ำเสมอเหมือนอย่างไอ้คิน   กว่าจะออกจากห้องมาได้ก็แทบจะอ้วกออกมาเป็นตัวเลข  ไอ้นิคหน้ามึนออกมา   นึกเจ็บใจตะหงิดๆ  ไอ้ที่เก็งไว้ละเจือกไม่ออก  แต่ที่ออกก็เจือกไม่ได้อ่าน  อุตส่าห์เอาหนังสือแคลฯไปหนุนนอนแทนหมอนเผื่อมันจะทำการออสโมซิสเข้าสู่สมอง  แต่ตื่นมานอกจากจะโง่เหมือนเดิมแล้วยังแถมอาการปวดคอเพราะถูกตะคริวกิน  ต้องควักกระเป๋าเสียตังค์ซื้อยาหม่องตาลิงถือลูกท้ออีก   ทั้งดมทั้งทาในขวดเดี๋ยวกัน    เฮ้อ...เซ็ง 


“ไอ้แม็ค  กุม่ายหวายแล้ว  กุจะอ้วกกก  นี่ขนาดแค่มิดเทอมนะมรึง” 

ออกจากห้องสอบมาได้ผมก็แทบจะแผ่หลาลงไปกลิ้งกับพื้นหญ้าแล้วนั่งเคี้ยวเอื้องพักสมองสักชั่วโมงสองชั่วโมง   หันไปมองไอ้แม็คที่ฟุบเงียบอยู่กับโต๊ะก็ดูท่าว่ามันกับผมจะมีชะตากรรมในการสอบใกล้เคียงกัน   ฟุบหน้าแน่นิ่งไปอย่างนั้นสงสัยจะไปเฝ้าเง็กเซียนฮ่องเต้ขอพรให้ไม่ติดเอฟแล้วแน่ๆ

“อ่านหนังสือทำข้อสอบล่ะจะอ้วก  ทีแด๊กเหล้านี่เห็นคอแข็งอย่างกับเหล็กน้ำพี้”

ไอ้ปิ่นเอาเล็คเชอร์ของตัวเองขึ้นมาโบกเรียกลม  สีหน้าประหนึ่งจะเยาะเย้ยเพื่อนผู้โง่เขลาอย่างผมว่า  วิชานี้เอไม่ไปไหนไกลฉันแน่ๆ  ก่อนที่ไอ้ดาวสาขามันจะโยนเอสี่ปึกใหญ่ที่มันปรินท์มาเกี่ยวกับงานโอเพ่นเฮาส์  เป็นงานวิชาการประจำปีของมหาวิทยาลัยที่จัดขึ้นทุกๆสองปี  คณะวิศวกรรมศาสตร์ก็เป็นอีกหนึ่งในคณะที่ได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม   ส่วนสาขาวิศวะฯคอมของพวกผม  นอกจากจะมีซุ้มวิชาการให้ความรู้แล้วก็ยังมีเล่นเกม และออกร้านเพื่อหาเงินเข้าสาขาอีกด้วย

“โห  สร้างสรรค์โคดๆ  สอยดาว  ปาเป้า  บิงโก  นี่ใช้อะไรคิดวะ   โบราณชิบ” 

ผมเปิดๆดูกระดาษแผนงานในมือที่ได้มาแล้วก็ส่ายหน้าไม่เห็นด้วยอย่างแรง  ไม่แนวเลยครับ

“แล้วอะไรที่แกว่ามันสร้างสรรค์ก็บอกมาดิ” 

นางงามกินเด็กทำตาจิกเสียงกัดใส่  ผมเลยตัดสินใจเงียบ  ถือคติ  หุบปากไว้เป็นดี  ชีวีจะปลอดภัยครับ  เราคุยกันรอไอ้พวกที่เหลือมาจนครบองก์ประชุมแล้วจึงเคลื่อนกระบวนพลที่มองดูคล้ายขบวนทอดกฐิน ทอดผ้าป่าไปโรงอาหาร  มีไอ้ปิ่นเดินนำแถวโดยมีผมถือปึกกระดาษเดินตามด้วยความเจียมเนื้อเจียมตัวที่บังอาจไปลบหลู่แผนสอยดาวของเจ๊แกเข้า   ตามมาด้วยไอ้ตะวันกับไอ้แม็คที่ยังสะลึมสะลือกับโจทย์แคลฯไม่เลิก   รั้งท้ายด้วยไอ้ไอ้เจี้ยบกับไอ้เกมที่เป็นติ่งอะไรสักอย่างห้อยท้ายขบวนมากับเขา   ก็มันเอาแต่คุยกันกระจุ๋งกระจิ๋งไม่สนใจชาวบ้านชาวช่องน่ะสิครับ   ส่วนไอ้คินก็ไม่ต้องไปถามหา   มันสอบเสร็จก็ชิ่งไปฉลองกับที่รักมันแล้ว

พวกเราเหล่าคณะผ้าป่าสามัคคีเดินหน้ามึนกันไปถึงแคนทีนก็ต้องตื่นตาแบบขากรรไกรค้างกับความอลังการที่ไอ้บอยแบนด์ข้างบ้านผมมันกำลังโชว์พาวความหล่ออยู่    นั่งกันเป็นคู่ๆเลยครับ
พ่อแม่พี่น้อง   ทั้งๆที่ปกติ  แคนทีนคณะเราจะไม่ค่อยมีสาวๆนอกคณะเข้ามาใช้บริการเพราะเกรงอำนาจบารมีความถึกเถื่อนถ่อยและสถุนของผู้ชายวิดวะหน้าตาเหี้ยมๆ ที่มีอยู่กว่าเก้าสิบเปอร์เซ็นของจำนวนนักศึกษาชายในคณะทั้งหมด  ส่วนอีกสิบเปอร์เซ็นที่เหลือก็นั่นไงครับ  ไอ้บูม แซ็ค  ปิงปอง ตี๋ต่อและไอ้เดือนคณะเชน  อ้อ  รวมไอ้คินไว้ด้วยก็ได้

“แมร่ง  บอยแบนด์กับเกิร์ลแก๊งค์   มรึงดูดิ๊ไอ้คุณนิค  มีกล้องซ่อนไว้แถวๆนี้รึเปล่าวะ  ใครมาถ่ายเอ็มวีแล้วไม่ชวนกุ”

ไอ้ตะวันสอดส่ายสายตาหวังจะเจอรายการดาราจำเป็น  ใครเกิดไม่ทันดูรายการนี้ก็เสียใจด้วยนะครับ 55

“เอ็มวีห่ะไร  เอวีล่ะไม่ว่า    ดูๆ   ไอ้พวกนั้นมันจะลากสาวๆเลื้อยขึ้นตักกันอยู่แล้ว” 

 ถ้ามองแบบไม่มีอคติก็จะเห็นว่าไอ้พวกนั้นมันกำลังก้มหน้าก้มตาดูกระดาษอะไรบางอย่างบนโต๊ะโดยมีสาวๆหน้าใสคอยอธิบายให้ฟังด้วยสีหน้ายิ้มแย้มอยู่  แต่พอดีผมค่อนข้างจะมองโลกในแง่ร้ายเลยหมั่นไส้ไอ้พวกหล่อเลือกได้   มองภาพแบบเกินจริงไปหน่อย

ผมกับไอ้ปิ่นปรึกษากันว่าจะกินอะไรก่อนที่เราสองคนตกลงกันได้ว่าจะกินก๋วยเตี๋ยวไก่เพราะเดินผ่านหน้าร้านแล้วกลิ่นมันยั่วใจเหลือเกิน   

เดินไปร้านก๋วยเตี๋ยวไก่  มันต้องผ่านโต๊ะไอ้พวกบอยแบนด์  แต่ปรากฏว่าพวกมันไม่ทักผมสักคำครับ  หนอย..หมั่นไส้  ครับหมั่นไส้  หมั่นไส้จนคันปากอยากด่าคน  ผมกำลังจะเข้าไปทักทายไอ้พวกข้างบ้านด้วยสมุนสี่ขาในปากที่กำลังดาหน้าจะเข้ากัดไอ้พวกหน้าหม้อ  แต่กลับถูกชิงตัดหน้าด้วยอาการหัวเราะอย่างสติแตกของไอ้ปิงปอง

ไอ้ปิงปองมันเห็นไอ้ปิ่นเลยส่งเสียงทักทายก่อนแล้วจึงเบนโฟกัสภาพมาจับที่หน้าของผม  มันทำหน้าไม่แน่ใจอยู่ประมาณครึ่งนาที   แค่นั้นมันก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาดังลั่นแคนทีน   ไอ้เวงนี่  มันช่างกล้าดีแท้

“หน้ากุเหมือนหม่ำ จ๊กม๊ก รึไง   หัวเราะอยู่ได้  ทำไม  กุใส่แว่นแล้วมันหนักหัวมรึงเหรอ  ไอ้ลูกชิ้นปิงปองเน่า” 

มันหัวเราะจนพูดไม่เป็นภาษากับแว่นตากรอบสีตะกั่วเลนส์หนาเตอะห่างไกลจากคำว่าแฟชั่นอย่างสิ้นเชิงของคุณชายข้างบ้าน   ความจริงผมสายตาสั้นครับ  ทั้งสั้นทั้งเอียงจนต้องใส่แว่น  แต่เพราะการใส่แว่นมันเป็นอุปสรรคต่อการบู๊ของผม  พอเข้ามหาลัยก็เลยเปลี่ยนไปใส่คอนแทคเลนส์เพื่อความสะดวก  แต่วันนี้ผมทั้งล้าทั้งปวดกระบอกตาจากการอ่านหนังสือสอบเลยต้องใส่แว่นแทนไม่นึกว่าจะมาเจอไอ้หมาปิงปองล้อเอาได้  ชิ!

“ท่านด๊อก..........เตอร์นี่เอง  ปิงปองไม่ทันได้ทักเพราะจำไม่ได้  โห  ลุคนี้คิดได้ไงครับ” 

ไอ้ปิงปองพูดคำว่าด๊อกแล้วเว้นระยะไปนานกว่าคำว่าเตอร์จะตามมา   แมร่ง  กวนนะมรึง  ไอ้พวกข้างบ้านที่เหลือพอเห็นว่าไอ้แว่นที่กล้าเดินควงดาวสาขาวิดวะคอมในแคนทีนเป็นผม    ก็พากันเอะอะเสียงดังเผยกำพืดความเถื่อนออกมาหมด   

“โห  มรึงสายตาสั้นใช่ย่อยเลยนะไอ้คุณนิค” 

ไอ้บูมมันถือวิวาสะคว้าแว่นตาออกจากหน้าผมเอาไปลองใส่ดูก่อนจะส่งให้ไอ้บอยแบนด์คนอื่นลองใส่ดูบ้าง   แล้วพวกมันก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่าใส่แล้วมึน   ก็สมควรแหละครับ  สายตาดีๆดันเจือกลองใส่แว่นหนาเตอะของผมไม่มึนก็ให้รู้ไปสิ  ขณะที่ไอ้ข้างบ้านกำลังลองแว่นสายตาของผมอย่างกับไอ้คุณนิคเป็นตัวแทนจำหน่ายแว่นตา  สาวๆกลุ่มเกิร์ลแก๊งค์ก็ลุกตามมาบ้าง  สาวสวยคนหนึ่งส่งโบรชัวร์ให้ผมด้วยรอยยิ้มอย่างมีไมตรีจิต  น้ำเสียงหวานซึ้งและมือนุ่มๆที่บังเอิญสัมผัสกันแบบจงใจทำเอาไอ้นิคจิตใจหวั่นไหว  ก็คนเพิ่งเลิกกับแฟนนี่ครับ 

“นี่เป็นรายละเอียดงานเปิดบ้านของคณะนิเทศนะคะ  เรามีประกวดหนุ่มสาวหน้าใส โอเพ่นเฮาส์โอเพ่นฮาร์ทด้วย  สนใจก็สมัครได้ตามรายละเอียดตรงนี้ค่ะ”

ชื่อเวทีการประชันความหล่อสวยนี่แอบเสี่ยวเล็กๆครับ  ผมนึกในใจ  แต่สายตาก็จับจ้องที่ใบหน้าของเธอสลับกับกระดาษในมือ   แสดงความสนใจกับเรื่องที่หญิงสาวกำลังประชาสัมพันธ์อย่างเพลินๆ  ซึ่งกว่าผมจะรู้ตัวว่าคนอื่นเขามองว่าผมกำลังจ้องสาวนิเทศแบบไม่เกรงใจใคร   เสียงไอ้แซ็คก็กิ้วก้าวแซวขึ้นแล้ว

“น้ำลายหยดเลยมรึง  ไหมถอยออกมาหน่อยครับ  ระวังติดเชื้อบ้าไอ้คุณนิคมันนะ”

“กุไม่ได้คิดอะไรอกุศล  ก็พวกมรึงเล่นเอาแว่นกุไปใส่เล่นกันอย่างนั้น  ตากุไม่ดีก็ต้องเพ่งสิวะ”

ไม่ได้แก้ตัวนะครับ  คนที่สายตาสั้นมากๆบวกเอียงมากๆอย่างผมนี่เวลาใส่แว่นแล้วถอดออกเอาดื้อ ตามันจะเบลอไปหมด  ต้องใช้เวลาปรับโฟกัสอยู่พอสมควร  แต่ก็มองไม่ค่อยชัดอยู่ดี  แต่ไม่มีใครเชื่อครับ  ไอ้พวกนั้นก็แซวกันไม่เลิก  เล่นเอาสาวงามคณะนิเทศที่ไอ้แซ็คเรียกว่า  ไหม  ออกอาการหน้าแดงเขินอายไม่ใช่น้อย  ก็ผมเสน่ห์แรงนิ  อิๆ

“เฮ้ย อย่ามัวแต่หลีหญิง  รีบไปได้แล้วแก  ก๋วยเตี๋ยวหมดอดแด๊กแล้วจะหาว่าสวยไม่เตือน”

ไอ้ปิ่นมันพูดได้ไม่ต้องอายปากครับ  ก็มันสวยจริงๆ ผมเลยคุยกับไหมอีกเล็กน้อยก่อนจะขอตัวไปกับไอ้ปิ่นเพราะถ้าขืนยังปะทะคารมกันต่อ  เดี๋ยวคงต้องขาดทุนได้เลี้ยงก๋วยเตี๋ยวไก่ง้อไอ้ดาวสาขาแน่    เพราะถ้าเลยเที่ยงไปแล้ว  คนจะเยอะต้องต่อคิวยาวขาแข็งให้เจ้าแม่มันพิโรธผมอีก  แต่ปัญหามันอยู่ที่แว่นตาของผมดันไปอยู่ในมือไอ้เชน  แล้วมันก็กำลังคุยอยู่กับเพื่อนสาวหน้าตาโนเนะของไหมอยู่  หมั่นไส้มัน  เลยช่างแมร่งแว่นตาไปก่อน  เดี๋ยวค่อยไปทวงคืนทีหลัง ไม่อยากไปขัดความสุขครับ  เหอๆ

จัดการให้ก๋วยเตี๋ยวไก่อร่อยๆลงไปนอนยังไม่ทันเรียงเส้นอยู่ในกระเพาะผมก็รีบลากไอ้ปิ่นไปร้านขนมเจ้าประจำ   ที่แคนทีนคณะนี่ของอร่อยๆเยอะครับ  ไม่ว่าจะเป็นอาหารตามสั่ง  ขนมทั้งไทยและเทศ    เมนูภูมิใจนำเสนอวันนี้นอกจากจะเป็นก๋วยเตี๋ยวไก่แล้วยังมีขนมเครปอีกครับ  ร้านเครปเจ้านี้คนต่อคิวซื้อนี่ยาวเหยียดเพราะอันละแค่สิบบาท  แต่แป้งนี่อร่อยสุดยอด  ไส้ก็ใส่มาให้แทบล้นทะลัก  จะเรียกว่าโคตรเครปก็ได้ไม่น่าเกลียดอะไร  เพราะพี่เขาทำให้อันใหญ่แบบไม่มีการเขียม 

ผมต่อคิวซื้ออยู่นานกำลังจะถึงคิวตัวเอง  ก็ไม่รู้มีไอ้ลูกพ่อแม่สั่งสอนแล้วไม่ยอมจำที่ไหนมาตัดหน้าฉับ  แทรกตัวเข้ามาในแถวแซงคิวแบบสะกดคำว่ามารยาทไม่เป็น  โมโหสิครับโมโห 

“เฮ้ย  ต่อแถวสิวะ ไม่เห็นรึไงว่าคนอื่นเขาต่อกันยาวเหยียดเนี่ย” 

ไอ้คุณนิคขอจัดระเบียบสังคมเสียหน่อยครับ  ผมสะกิดไหล่มันแล้วตีหน้าหาเรื่องใส่เต็มที่  จนไอ้ปิ่นต้องแตะแขนไว้เป็นเชิงปราม

“เปล่าแซงนะ  ก็ผมให้เพื่อนมายืนจองให้อยู่ก่อนแล้วไง”  เหตุผลมันฟังขึ้นมั้ยครับ
 
“นี่มันร้านเครปนะมรึง  ใช่เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์มั้ย  ถึงจะได้สำรองที่ยืนล่วงหน้าได้เนี่ย อยากกินก็ต่อแถวสิวะ”

ไอ้ปิ่นยึดแขนผมไว้แน่น  เนี่ยแหละครับไอ้นิคโหมดไร้สามัญสำนึก  เอาความคิดตัวเองเป็นที่ตั้งและไม่เกรงหน้าอินทร์หน้าพรหมที่ไหน  คำว่ากลัวตายไม่เคยมีอยู่ในสมอง   

“พอเถอะไอ้คุณนิค  เขาก็มีเหตุผลของเขาน่า”  ไอ้ตะวันอยู่ร้านน้ำปั่นข้างๆเห็นท่าไม่ดี  เข้ามาช่วยเคลียร์

“กุไม่สน  กุเนี่ยแหละเหตุผล  มรึงดูสิ กุกับไอ้ปิ่นยืนจนขาแข็งจะถึงคิวตัวเองอยู่ดีๆก็มีไอ้เชี้ยที่ไหนไม่รู้มาตัดหน้า  รมณ์เสียว่ะ”

เหตุการณ์ดูจะบานปลายขึ้นเพราะความใจร้อนและเอาตัวเองเป็นที่ตั้งของผมจนพวกข้างบ้านต้องเข้ามาเสริมทัพกับไอ้ตะวันคอยปรามผม   ไอ้เชนรีบเข้ามาคว้าแขนไว้ป้องกันไม่ให้ไอ้ตาขวางนิคกระโจนเข้ากัดไอ้ผมทองมารยาททรามตรงหน้า 

“นี่มรึงไม่ต้องมาทำเต๊ะไอ้หัวแมงวันทอง  หันมาคุยกะกุให้รู้เรื่องเลย” 

ไอ้ผมทองมันสวมเชิ้ตสีอ่อน กางเกงยีนส์สีซีด  เดาไม่ได้ว่ามันอยู่คณะไหน  แต่รู้สึกว่าน้ำเสียงและท่าทางมันคุ้นๆยังไงพิกล  มองหน้ามันก็เห็นไม่ค่อยชัดเพราะไม่ได้ใส่แว่นแถมมันยังยืนหันข้างให้อีก  ไอ้เวงนี่มันเหมือนใครวะ  คิดไม่ออก

“มรึงนี่ซ่าเหมือนเดิมอย่างที่ไอ้โก้มันบอกจริงๆว่ะ  ไม่สิ  กุว่าแสบยิ่งกว่าเดิมอีก  แต่ยังแหย่ง่ายยั่วขึ้นเหมือนเดิม  ปากหมาก็เหมือนเดิม  ที่สำคัญยังสวยเหมือนเดิมเลยนะมรึง”
   
ไอ้หัวแมงวันทองเดินเข้ามาใกล้ๆแล้วคว้าหมับจับแก้มผมแล้วยืดไปมา  หน้าคนนะมรึงไม่ใช่ดินน้ำมัน  ท่ามกลางสายตาลุ้นๆกับคนรอบข้างว่าเหตุการณ์จะออกหัวหรือก้อย  สมองผมก็เริ่มรันภาพต่างๆในหัวตั้งแต่สมัยเด็กจนมาถึงสมัยเรียนม.ปลาย   และเริ่มนึกออกว่าไอ้มารยาททรามที่กล้าแซงคิวผมมันคือไอ้ขลุ่ยเพื่อนเก่าเพื่อนแก่ที่ไม่เจอกันนาน   พอคิดออก  ผมก็กระโดดเข้ากอดมันสุดแรงเอาให้หายใจไม่ออกตายห่ะกันไปข้างหนึ่ง






...................................
 :pig4: :pig4: :pig4:            ฉบับรีไรท์ :m13:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-01-2008 09:41:06 โดย ja ne »

ออฟไลน์ nOn†ღ

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4390
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-6
 :m1: ชอบคุณชายนิคอะ  :m1:

รอตอนต่อปายยยยยย   :mc2:

Pztor

  • บุคคลทั่วไป
 :o
คู่แข่งๆ

ออฟไลน์ TONG

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2535
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-4
มือที่สามมาแล้ว เชนได้หึงสะบัดแน่เลย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ข้างบ้านนะตัวแสบ- โดยป้าจุใจ
« ตอบ #159 เมื่อ: 22-01-2008 10:33:36 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






meeza31

  • บุคคลทั่วไป
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด  มีคู่แข่งแล้ว

ken_krub

  • บุคคลทั่วไป
เป็นกำลังใจให้ครับ

[D]a[D]a [T]oo[N]

  • บุคคลทั่วไป
555+
เพื่อนกันนั่นเอง

ออฟไลน์ -~iK@iZ_KunG~-

  • Tomorrow Never Die!!!
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2231
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +220/-2
มาต่อบ่อย ๆ นะครับ   :m1: :m1:

niph

  • บุคคลทั่วไป
ไม่มันช่างฮาได้เยี่ยงนี้

ออฟไลน์ krappom

  • 人は誰でもそれぞれに悩みを抱えて生きる
  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1182/-23

เถื่อน ถ่อย เถิดเทิง ชอบๆ
 :m4:


Bronc

  • บุคคลทั่วไป
เอ....  เพื่อนรักฝังใจหรือเปล่าเนี่ย  งานนี้เชนมีคู่แข่ง โผล่มาไหม ฮะๆๆๆ

ออฟไลน์ naja

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 708
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
ชอบเมิกกกกกกกก :a11:

ออฟไลน์ DeShiWa

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-9
 :impress: :impress: :impress:

อ่าครับค้างคาอะ

แล้วจะเป็นไงต่อไปอะครับ

แล้วมะไร่จะได้อ่านฉากกุ๊กกิ๊กของพี่นิคกับพี่เชน ครับ

อิอิ รอมานานแล้วอะครับ

:impress: :impress: :impress:

ออฟไลน์ SoN

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2965
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +123/-15
โย่ โย่

 :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ข้างบ้านนะตัวแสบ- โดยป้าจุใจ
« ตอบ #169 เมื่อ: 22-01-2008 20:44:17 »





ออฟไลน์ -~iK@iZ_KunG~-

  • Tomorrow Never Die!!!
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2231
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +220/-2
รีบ ๆ มาต่อเน้อ รออยู่ครับ  :m1: :m1:

ออฟไลน์ ● MaYa~Boy ●

  • ฉันมันคนขี้อิจฉา
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3990
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-2
รออ่านตอนต่อไปอยู่นะ

fc_uk

  • บุคคลทั่วไป
เรื่องนี้ตลกฟร่ะ  :a4: :a4: :a4:

KriT_SuN

  • บุคคลทั่วไป
 :a3: หายไปหลายวัน กว่าจะอ่านตามได้หมด เกือบแย่ สนุกดีนะครับ

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
เพื่อนกันนึกว่าจะมีมวยดู  :m23: รออ่านต่อนะ

ออฟไลน์ มูมู่น้อย

  • Global Moderator
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +468/-12
ใครกัน  ไม่ได้เจอกันนาน  :a4:

รอต่อๆน้า  สนุกดี   :oni2:  o13

ja ne

  • บุคคลทั่วไป
 :oni2:มาแล้วๆๆๆๆๆ  อ่านต่อกันเล้ยยยยยยยยย :oni2:
..........................
ตอนที่  12 เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด

“สวยบ้านมรึงดิไอ้ขลุ่ย  แล้วนี่มรึงมาได้ไงวะ  จะมาทำไมไม่บอกกันก่อน  สาดดด  แล้วมาแกล้งแย่งกุซื้อเครปนี่สนุกมากนะมรึง”

ไอ้ขลุ่ยไม่ตอบแต่หันไปสั่งเครปให้ผม  มันยังจำได้ว่าผมชอบกินหมูหยองน้ำพริกเผาด้วย  แป๊บเดียวเท่านั้นจริงๆครับ  แป๊บเดียวเครปร้อนๆก็มาอยู่ในมือผม   ก็พี่ร้านเครปเขาคงกลัวว่าผมจะโมโหหิวพาลพังร้านแกเลยรีบทำให้มือเป็นระวิงแถมยังทำอันใหญ่บะเฮิ่มกว่าปกติ   เครปแบบโคตรพ่อโคตรแม่เครปของผมเลยดูมีอภิสิทธิ์เหนือคนอื่นโข

ได้เครปแล้วพวกผมทั้งหมดเลยยกโขยงกันกลับโต๊ะ  บรรดาไทยมุงแถวนั้นก็เลยตีหน้าเซ็งสลายตัวกลับเมื่อเห็นว่าไม่มีคดีเด็ดเกิดขึ้นอย่างที่ลุ้นกันอยู่

ผมเล็มเครปอย่างเอร็ดอร่อย  ตอนนี้ได้แว่นกลับคืนมาแล้วเลยเห็นหน้ามันชัดขึ้น สังเกตความเปลี่ยนแปลงของมันได้เยอะจนแทบไม่เหลือเค้าของไอ้ขลุ่ยคนเดิม    ผมถามไอ้เพื่อนซี้สมัยเรียนมัธยมอย่างตื่นเต้นไปเกือบสิบคำถาม  แต่มันกลับตอบสั้นๆ ตามสไตล์คนพูดน้อย   

“พอดีกุได้หยุดยาวเลยโทรหาไอ้โก้แล้วแอบหนีกลับมาเยี่ยมพวกมรึงไง”   

ไอ้ขลุ่ยยิ้มๆ ไอ้นี่มันเด็กนอกครับ   พอจบม.ปลายมันก็บินลัดฟ้าไปเรียนต่อที่เมืองมะกันเพราะแม่มันแต่งงานใหม่กับคนที่นั่นตั้งแต่มันอยู่ม.ต้นแล้ว  ผมก็ติดต่อมันทางอีเมล์บ่อยๆแต่ไม่ค่อยได้โทรคุยกันสักเท่าไหร่เพราะมันรู้ว่าผมเป็นคนไม่ชอบคุยโทรศัพท์ 

“แต่กุจำมรึงไม่ได้เลยนะเนี่ย   เจือกใส่ชุดอย่างกับเป็นนักศึกษาที่นี่อีก  แล้วทำไมหัวมรึงกลายเป็นสีอย่างนี้ได้วะ  ไปอยู่เมืองนอกแค่ไม่กี่ปีนี่กลายพันธุ์แล้วเหรอมรึง  หลังอาน  กลายเป็นลาบาดอร์ไปแล้ววุ้ย”

“ใครจะอย่างมรึงล่ะ  ปากหมาเป็นเอกลักษณ์” 

ผมงับเครปเคี้ยวตุ้ยๆอย่างเอร็ดอร่อย   ก่อนจะแนะนำเพื่อนๆทั้งหมดให้รู้จักกับไอ้หัวทอง  แล้วปล่อยให้พวกมันคุยทำความรู้จักกันไป  งานนี้ไอ้ปิ่นคนสวยที่ยังแอ๊บแมน เอ้ย  แอ๊บแบ้วก็ยังได้รับความสนใจอีกตามเคย   

“ที่อารมณ์ดีนี่เพราะได้กินเครปหรือว่าเป็นเพราะได้เจอแฟนเก่า”

ไอ้(ไส้)เดือนคณะทำเสียงกวนส้นใส่อีกแล้ว   ไอ้นี่ก็อารมณ์ขึ้นๆลงๆอย่างกับอยู่ในช่วงวัยทอง

“แฟนเก่าป้อมรึงสิ    ขอร้องเลยนะเมียจ๋า  อย่าหึงไม่เข้าเรื่องให้มันมากนัก  ถ้าที่รักรำคาญขึ้นมาเมื่อไหร่  มรึงจะโดนก้านคอไม่รู้ตัว  เอ้า  เอาเครปไปแด๊กซะ ปากจะได้ไม่ว่างมาเห่ากุอีก”   

กำลังอารมณ์ดีเพราะได้เจอเพื่อนเก่าเลยยิงมุกไปติดๆ แถมเอาเครปที่เหลืออยู่เล็กน้อยยัดเข้าปากไอ้เชนตัดปัญหาปากหมาหาเรื่องของมัน   แค่นั้นล่ะครับ  ไอ้พวกที่เหลือก็ส่งเสียงโห่ฮาวี้ดวิ้วกันใหญ่ 

“เครปของพวกมรึงนี่ท่าจะหวานน่าดู  ป้อนกันแบบไม่เกรงใจเพื่อนเลยว่ะ” 

ไอ้ต่อบังอาจแซวเลยโดนผมเตะหน้าแข้ง  น้ำตาเล็ดกันไป  จะมีก็แต่ไอ้ขลุ่ยที่ทำหน้าอึ้งๆไปเมื่อเข้าใจว่าผมกับไอ้เชนเป็นแฟนกัน  มันหยุดบทสนทนากับไอ้ปิ่นแล้วหันมาจ้องผมสายตามีคำถาม
ไอ้นิคเลยได้โอกาสงาม   ไหนๆก็ไม่เจอกันนาน  ขอแกล้งมันให้หายคิดถึงหน่อย   แล้วก็ถือโอกาสแก้แค้นที่มันแกล้งแซงคิวผมด้วย  ฮี่ๆ ไอ้ขลุ่ย

“เห็นคนรักกันไม่ต้องอิจฉาเลยเว้ยไอ้ตี๋ต่อ  เออ กุลืมบอกมรึงไปไอ้ขลุ่ย  นี่ไอ้เชนเมียกุเอง”

ผมแนะนำหน้าตาย  ไม่พูดคำว่าแฟนครับ  แต่เจาะจงว่าไอ้เชนมันเป็นเมียผมเลย  เพราะถ้าขืนแนะนำแบบไม่ชัดเจน  เดี๋ยวไอ้ขลุ่ยมันจะสงสัยคิดจินตนาการไปไกลว่าผมกับไอ้เชนใครเป็นฝ่ายไหน  เพราะถึงจะเป็นแค่เรื่องอำกันเล่นๆแต่ยังไงผมก็ไม่ยอมเป็นฝ่ายรับแน่

“โห ร้อนแรงจริงๆพวกมรึงนี่   ประกาศรักไม่เกรงอกเกรงใจคนอื่นบ้าง”

ไอ้ปิงปองรู้แล้วว่าผมแกล้งไอ้ขลุ่ยเลยผสมโรงด้วยอย่างสนุกสนาน  สีหน้าไอ้ขลุ่ยมันก็น่าตลกจริงๆครับ  ผมกลั้นหัวเราะแทบไม่อยู่    ต้องเสไปป้อนเครปให้ไอ้เชนอีกที  ไอ้โย่งนี่ก็รับมุกดีจริงๆจับมือผมตอนที่ป้อนเครปให้แถมทำสายตาหวานเยิ้มหยดย้อยมาให้อีก   แหวะ  กุเลี่ยนว่ะ 

แต่สงสัยมันจะสมจริงไปหน่อยคราวนี้เลยไม่ได้มีแค่ไอ้ขลุ่ยที่มองแล้วอึ้งๆ  แต่คนที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกับพวกผมก็พากันหันมามองใหญ่เลยครับ  ไอ้เชนมันก็ยังหน้าหนามืออีกข้างโอบเอวผมไว้อีก  ผมเลยต้องกระซิบเสียงเข้มให้ได้ยินกันแค่สองคนใส่มัน

“ไม่ต้องสมจริงขนาดนั้นก็ได้  แมร่ง  คนมองกันทั้งแคนทีนแล้ว” 

“ไม่สมจริง  เพื่อนมรึงก็ไม่เชื่อดิ”

ไอ้เชนมันเลยกระซิบตอบ  ลมหายใจของมันปะทะเข้าที่แก้มจนผมต้องเบนหน้าหนีเพราะจั๊กจี้

“ก็ไหนไอ้โก้มันบอกว่ามรึงโสด  เพิ่งเลิกกับพี่แคลร์อะไรนั่นไง”  ไอ้ขลุ่ยถามเสียงอ่อย

“มรึงเป็นแฟนคลับกุรึไง  รู้ไปหมดไอ้นี่นิ   ก็กุเลิกกับพี่แคลร์แล้วก็มาเป็นแฟนไอ้เชนไง  มรึงก็รุ้ว่ากุเสน่ห์แรงขนาดไหน  โสดได้ไม่นานหรอกว่ะ 555”

ผมล่ะขำกับสีหน้าของไอ้ขลุ่ยมันตอนนี้จริงๆ  มันจะทำหน้าเหวอ  ตกใจปนอึ้งๆที่รู้ผมเป็นแฟนกับผู้ชาย  แต่มันก็ไม่ได้มีท่าทีรังเกียจอะไร  และถ้าผมสังเกตให้ดีก็อาจจะได้เห็นว่าแววตาที่ไอ้ขลุ่ยมันมองแฟน(กำมะลอ)คนล่าสุดของผมนั้น  มีอะไรบางอย่างที่ไม่ปกติ

----------------------------------------------

บรรยากาศตึงเครียดเกิดขึ้นเมื่อผมวางสายจากแม่ไอ้ขลุ่ยที่โทรด่วนมาจากอีกซีกโลกด้วยความร้อนใจเพราะเป็นห่วงลูกชายคนเดียว   ผมหันไปมองหน้ามันด้วยความโมโหโดยมีไอ้โก้เจือกทำตัวเป็นทนายแก้ต่างให้ไอ้เด็กหนีออกจากบ้าน   

“แมร่ง  มรึงคิดอะไรอยู่วะ  จะหนีออกจากบ้านทั้งทีก็เล่นเอาเขาเดือดร้อนกันข้ามทวีป ตกลงมรึงจะเล่าได้รึยังว่าเกิดอะไรขึ้นถึงได้หนีมาหากุเนี่ย”

“ไอ้คุณนิคมรึงใจเย็นดิวะ”  ไอ้ทนายโก้เบรกผมเลยโดนไปหนึ่งดอก

“มรึงหยุดเลยไอ้โก้ไม่ต้องมาออกรับแทนมัน   ว่ามาไอ้ขลุ่ย  จะพูดเองหรือจะให้กุง้างปาก”  ผมเล่นบทโหด 

“กุไม่ได้ตั้งใจ  กุแค่เบื่อๆแล้วก็คิดถึงไอ้โก้  คิดถึงมรึง”   

คำว่าคิดถึงไอ้โก้หลุดออกจากปากได้ง่ายๆแต่กับคำพูดที่ไอ้ขลุ่ยมันบอกว่ามันคิดถึงผมกลับฟังดูแผ่วๆตะกุกตะกักและกระท่อนกระแท่นพิกล 

“มรึงคิดถึงพวกกุก็เมล์หาดิ  โทรมาก็ได้  หรือถ้าอยากเจอกันจริงๆก็จัดการเรื่องทางโน้นให้เรียบร้อย  บอกแม่มรึงก่อนแล้วค่อยมาก็ไม่มีใครว่า  นี่มรึงเล่นหายออกจากบ้านไม่บอกใครสักนิด อย่างนี้   แมร่ง  อยากรู้จริงๆว่ามีสมองไว้ประดับกะโหลกเล่นๆรึไง”

“กุขอโทษ” ไอ้ขลุ่ยว่าแล้วก็นั่งเงียบ

“คนที่มรึงควรจะขอโทษไม่ใช่กุ  แต่เป็นแม่มรึงต่างหาก” 

ไอ้ขลุ่ยมันพยักหน้าเบาๆแล้วรับเอาโทรศัพท์จากผม  หายไปคุยกับแม่มันประมาณห้านาทีสีหน้าจึงดูดีขึ้นเล็กน้อย

“แม่กุไม่โกรธแล้ว  มรึงล่ะ  ยังโกรธกุอยู่มั้ย”

“กุไม่ได้โกรธ  แค่โมโหที่มรึงทำตัวปัญญาอ่อน  เอาเถอะๆไม่เจอกันนาน  พอมาเจอกันจะโกรธกันก็ใช่เรื่อง ป่ะๆ ไปหาเหล้าแด๊กรื้อฟื้นความทรงจำวันวานยังหวานอยู่กันหน่อยดีกว่า”

ผมไม่เชื่อว่าแค่ความคิดถึงมันจะถึงขั้นหนีขึ้นเครื่องบินมาหา  แต่ในเมื่อไอ้ขลุ่ยมันยังไม่อยากเล่าผมก็ไม่เซ้าซี้   ชวนมันไปหาอะไรทำแก้เครียดเผื่อมันจะยอมเล่าความจริงให้ฟัง   ไอ้เพื่อนตัวปัญหาเห็นผมไม่ซักฟอกต่อก็ยิ้มออก  มันคว้าตัวผมเข้าไปกอดแล้วหอมแก้มซ้ายขวา  เล่นเอาขนหัวลุกขึ้นมาเคารพธงชาติตอนสองทุ่มโดยพร้อมเพรียง

“กุเข้าใจว่ามรึงโกอินเตอร์แล้ว  แต่ขอร้องว่าอย่ามากอดจูบกุเป็นฝรั่งอย่างนี้  สยองว่ะ”

“แค่นี้มรึงก็รังเกียจกุเหรอวะ แล้วทีมรึงเป็นแฟนกับไอ้เชนอะไรนั่นล่ะ”  ทำเสียงน้อยใจอีก

“เป็นเชี้ยไรของมรึง  นั่นมันกรณียกเว้นว้อย   55 5  ไปๆไปหาไรแด๊กกัน” 

ผมกับไอ้โก้หัวเราะกันจนปวดท้อง  ไม่คิดว่าไอ้ขลุ่ยมันจะซื่อจนเซ่อยังไม่เก็ทมุกอำ  ผมเลยอำมันต่อหวังจะสร้างสถิติโลก  อำกันข้ามวันข้ามคืน  ข้ามเดือนและข้ามปีมันไปเลยถ้าทำได้

และเพื่อฉลองเนื่องในโอกาสที่เพื่อนรักอุตส่าห์บินข้ามน้ำข้ามทะเลมาหา  ผมกับไอ้โก้เลยตกลงใจจะพาไอ้เด็กอินเตอร์ไปเปิดหูเปิดในผับดังสุดฮิตกันเสียหน่อย  และก็ไม่ลืมชวนไอ้ข้างบ้านและเพื่อนสาขายกโขยงไปด้วยกันเป็นสิบ   ดูเผินๆอย่างกับจะไปยกพวกตีกันยังไงอย่างนั้น   

“ของมรึง โซดาล้วนใช่มั้ย”

“กินไปเลยไม่ต้องมาบริการ แมร่ง เจือกกะโหลกมาตั้งไกล  ไปเลย  สาวเสื้อเขียวนั่น  เห็นส่งสายตาให้มรึงตั้งแต่เข้ามาแล้ว” 

เหล้าผสมโซดาล้วนของผมฝีมือไอ้เด็กนอกส่งมาให้  ผมรับแก้วมาแล้วเสือกไสไล่ส่งให้ไอ้ขลุ่ยออกไปโชว์ว่าฝีมือหม้อสาวของมันสนิมจับรึยัง  แต่มันกลับส่ายหน้า  ปักหลักนั่งชงเหล้าให้ผมท่าเดียว

“อะไรของมรึง  เมาแล้วเหรอวะ”

ผมถามเมื่อมันยกแก้วขึ้นซดรวดเดียวหมดแล้วทำหน้ามึนซบไหล่ผมนิ่ง  เขย่ายังไงมันก็ไม่ยอมลุก
เอาเข้าไป  อุตส่าห์เสียค่าเครื่องบินเป็นครึ่งแสนเพื่อมานั่งซบกุเนี่ยนะ  หันไปดูไอ้พรรคพวกที่มาด้วยกัน  แต่ละคนก็โชว์พาวกันใหญ่   ออกสเต็ปกันอย่างกับเรนมาเอง  ยิ่งไอ้เชนนี่แล้วใหญ่  เห็นมันเก๊กหน้า  เต้นธรรมดาไม่วือหวาเหมือนไอ้แซ็คที่แทบจะอ้าขาหนึ่งร้อยแปดสิบองศาเป็นนักยิมนาสติคผสมบีบอย   แต่ไอ้หน้าหล่อ(ไส้)เดือนคณะ  ก็ถูกรุมล้อมไปด้วยสาวๆสวยๆ  แต่ละคนเซ็กซี่บาดใจนิคทั้งนั้น  เห็นแล้วหมั่นไส้ขึ้นมาตะหงิดๆ   

“หึงเหรอวะ”   ไอ้ขลุ่ยจับหน้าผมให้หันกลับมองหน้ามัน  ทำเอาคอผมแทบเคล็ด

“อูย  เชี้ยขลุ่ย  เล่นเชี้ยไรของมรึง  คอกูเคล็ดหมด”  นวดคอพร้อมด่ามันไปเล็กน้อย

“นิค    กุมีไรจะบอกมรึงว่ะ  ไปคุยกันข้างนอกได้มั้ย” 

“เออๆ  ไรของมรึงนักหนาวะ”

ผมเลยเดินนำไอ้ขลุ่ยออกไปที่ลานจอดรถ  พอเห็นว่าปลอดคน  ไอ้เด็กนอกหัวแมงวันทองก็เริ่มเรื่องแบบไม่มีอารัมภบทให้ยืดเยื้อเวลาเรตติ้งดีเหมือนละครหลังข่าวช่องหลายสี

“ความจริงที่กลับมาก็เพราะ......ตั้งใจมาหามรึงโดยเฉพาะ   กุ.....   ขลุ่ย...รักนิคนะ   รักมานานแล้วแต่ไม่กล้าบอก”

อึ้งแด๊กครับ  ไอ้นิคอึ้งแด๊ก  ขลุ่ยรักนิคนะบ้านแด้ดมรึงดิ   ปกติก็กุมรึงกันเป็นวิสัยแต่ไหงวันนี้มาบอกขลุ่ยรักนิคเฉยเลย  ผมก็ได้แต่ยืนอึ้ง  หรือมันเล่นมุกวะ  มันเมาแล้วเล่นมุกอำกุกลับแน่  สงสัยมันจะรู้แล้วว่ากุอำมันเรื่องไอ้เชน  มันเลยมาแก้มือ 

“ป้อมรึงดิ  เมาแล้วไม่ต้องมาอำกุกลับเลย  เชี้ยนี่เล่นไม่รู้เวล่ำเวลากุกะลังลื่นคอแท้ๆ ป่านนี้ยุงไข่ใส่แก้วหมดแล้ว  ไปๆกลับได้แล้ว ห่ะ  เรียกออกมานึกว่าอะไรนักหนา”

“กุไม่ได้ล้อเล่น  ตอบกุหน่อยว่ากุพอจะมีหวังบ้างมั้ย” 

ไอ้ขลุ่ยคว้าข้อมือผมแน่น  เฮ้ยๆ ตัวก็เท่ากันไหงตอนนี้มันแรงเยอะวะ  สงสัยอยู่เมืองนอกจะกินเนื้อนมไข่ตลอดเลยพลังงานเยอะ  แล้วมรึงจะมาจ้องกุตาหวานเชื่อมทำม้าย  เฮ้ยๆๆ  อย่าบอกนะว่าที่มรึงบอกรักกุนี่เป็นเรื่องจริงไม่อิงนิยาย   ตายห่ะ  ไอ้เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อ   นี่มรึงกะจะแทงข้างหลังทะลุถึงหัวใจกุใช่มั้ย           

“มรึงใจเย็นๆ แล้วฟังกุนะไอ้ขลุ่ย   กุรักมรึงแบบเพื่อนได้เท่านั้น”

“เพราะมรึงรักไอ้เชนมรึงเลยปฏิเสธกุสินะ    ทำไมกุไม่บอกมรึงให้เร็วกว่านี้   บางทีถ้าไม่มีมัน
มรึงอาจจะรักกุก็ได้”   

ไอ้ขลุ่ยพูดเหมือนเพ้อ   ไอ้นิคเลยเสียงเครียด

“นะขลุ่ย  เชื่อกุ  ไม่มีอะไรจะยั่งยืนเท่ากับความเป็นเพื่อนหรอก  ยังไงมรึงก็เป็นเพื่อนรักของกุไม่เคยเปลี่ยน  และมันก็จะไม่มีวันเปลี่ยนแปลงด้วย” 

ไอ้ขลุ่ยปล่อยมือจากผมอย่างหมดแรง  น้ำตามันไหลออกมาเงียบๆทำเอาผมอะไรไม่ถูก  กุจะปลอบมันยังไงดีวะ  ปกติก็คงกอดมันแล้วแต่นี่กุเพิ่งหักอกมันนะเนี่ย  ไอ้นิคหันรีหันขวางทำอะไรไม่ถูก  เอาวะ  กอดก็กอด  ยังไงมันก็เพื่อนผม

“เชี้ยละมรึง  ตัวโตเป็นควายร้องไห้เป็นเด็กๆ” 

ผมโน้มตัวมันเข้ามากอดแล้วตบบ่ามันเบาๆรับรู้ถึงแรงกอดจากไอ้ขลุ่ยที่กอดผมแน่นขึ้นเรื่อยๆ

“ทำอะไรกันน่ะ”

ไอ้เชนเดินเข้ามาคว้าตัวผมออกจากไอ้ขลุ่ย   ตีหน้าถมึงทึงใส่ไอ้เด็กนอกที่ยังตาแดงๆ   ไอ้ขลุ่ยทำตาขวางใส่ไอ้เดือนคณะแล้วคว้าตัวผมดึงกลับมาแต่อีกฝ่ายก็ไม่ยอม   ยื้อกันไปมาจนแขนไอ้นิคแทบหลุด

“ห่านี่  เอามีดมาตัดแบ่งกุไปคนละครึ่งดีมั้ย   ดึงอยู่ได้ เจ็บนะว้อย” 

ผมตะคอกใส่พวกมันอย่างเหลืออดแต่ไม่มีใครสนใจ  ไอ้เชนยังตีหน้าเครียดทำเสียงเย็นใส่ไอ้ขลุ่ย

“มรึงมายุ่งอะไรกับแฟนกุ”

“ไอ้นิคไม่ใช่แฟนมรึง  ไอ้นิคมันของกุ” 

ไอ้ขลุ่ยเสียงเข้มใส่บ้าง   เอาล่ะสิกุ   เรื่องบานปลายเข้าไปทุกที   แล้วไอ้สองตัวนี่ก็เป็นบ้าอะไรของมัน  กุเป็นผู้ชาย  มรึงก็ผู้ชาย  จะมาแย่งกันหาสวรรค์วิมานชั้นห่าชั้นเหวอะไรวะ  อยากจะบ้าตาย  ผมรีบคว้าแขนไอ้เชนไว้เมื่อเห็นมันทำตาขวางเหมือนจะกระโจนเข้าฟัดกับไอ้ขลุ่ย

“ไอ้เชน  มรึงบ้าอะไรของมรึง  กลับเข้าไปก่อนกุจะเคลียร์กับไอ้ขลุ่ยเอง” 

ผมยึดแขนมันไว้ด้วยมือทั้งสองข้าง  ไม่คิดว่าไอ้ขลุ่ยจะเห็นภาพนี้แล้วคลั่ง 

“ที่มรึงปฏิเสธกุเพราะมันใช่มั้ย”

“รู้ก็ดีแล้ว  มรึงอย่าคิดว่าเป็นเพื่อนนิคแล้วกุจะเกรงใจนะ   ยังไงนิคก็เป็นแฟนกุ  กุไม่ยกให้ไอ้หน้าไหนทั้งนั้น   รู้แล้วก็กลับซะ”

ฮูย   กุซาบซึ้งจริงๆ ไอ้เชน    มรึงพูดอย่างนี้ก็เท่ากับเอาน้ำมันราดเข้ากองไฟชัดๆ   เห็นไอ้ขลุ่ยกำหมัดแน่นถลาเข้าชกไอ้เชน   ไอ้นิคถลันจะเข้าไปห้ามแต่ดันไปขวางทางหมัดเข้าเต็มๆเลยได้นับดาว  มึนไปหลายวิฯ   ไอ้ขลุ่ยหน้าเสียรีบเข้ามาประคอง   แต่ผมโกรธมันสองตัว   เลยปัดมือมันทิ้ง  แต่พอเห็นแววตาเจ็บปวดของเพื่อนรักผมก็รู้สึกผิดขึ้นมา

“พอเถอะขลุ่ย  ยังไงกุกับมรึงก็เป็นได้แค่เพื่อน  แล้วไอ้เชนกับกุก็ไม่ได้เป็นอะไรกันอย่างที่มรึงคิดหรอก   พวกกุแค่อำมรึงเล่นเฉยๆก็แค่นั้น”

“กุไม่เชื่อ  มรึงจะปกป้องมันทำไม  นี่มรึงเห็นไอ้คนที่เพิ่งรู้จักกันไม่เท่าไหร่สำคัญกว่ากุเหรอ 
มรึงกลายเป็นคนแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่  แล้วมรึงก็ไม่ต้องมาโกหกว่าไม่ได้มีอะไรกับมันนะ  กุเห็นรูปที่มรึงนอนกับมันแล้ว   กุมันโง่เองที่ยอมตัดใจจากมรึงทั้งที่ยังไม่ได้บอกอะไร   แต่กุจะไม่ยอมโง่อีกแล้ว”

ว่าแล้วไอ้ขลุ่ยก็คว้าข้อมือผมลากหลุนๆจับยัดเข้าไปในรถ  แล้วล็อคประตูแน่นทิ้งให้ไอ้เชนยืนหน้าเครียดโมโหทุบกระจกตึงๆอยู่ข้างนอก    เสียงดังจนผมกลัวว่ารถไอ้คินมันจะพังเพราะแรงถึกๆของไอ้เชน 

ไอ้ขลุ่ยเร่งเครื่องกระชากออกรถแรงๆ ทำเอาผมหัวคะมำหน้าผากโขกกระจกเสียงโป๊กสนั่น   เจ็บจนน้ำตาเล็ด   จะอ้าปากด่ามันด้วยความเคยชินแต่ก็ต้องหุบปากฉับเมื่อเห็นอาการคลั่งของเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดเช่นไอ้ขลุ่ย 

ผมกำลังกลัวว่ามันจะจับผมเผานั่งยางเพราะเมาจนคลั่ง  แต่ก็โล่งอกเมื่อเห็นว่าทางที่มันพารถมาเป็นทางกลับบ้าน  ขับไม่นานก็ถึงบ้านเพราะมันเหยียบคันเร่งไปเกือบ 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง  ผมถอนใจเฮือกใหญ่  เกือบไปเฝ้ายมบาลแล้วกุ

แต่โล่งอกยังไม่ทันไรไอ้ขลุ่ยก็เข้ามาลากตัวผมเข้าบ้าน   ลากต่อขึ้นไปที่ห้องแล้วล็อคประตูแน่นหนา   นี่มรึงอย่าบอกนะว่าจะเล่นบทจำเลยรักกับกุ   ผมตาเหลือก  ออกแรงดิ้น  แต่ไม่คิดว่าไอ้ขลุ่ยมันจะเล่นแรงขนาดชกเข้าที่ท้องจนผมจุกแอ้กทรุดลงตัวงอกับพื้น

“มรึงนอนกับมันได้  มรึงก็ต้องนอนกับกุได้เหมือนกัน”  เสียงมันบอกว่ากำลังเมาปนบ้า

“ไอ้สัด ปล่อยกุ”

ผมตะโกนด่ามัน    นี่มรึงทำร้ายกุได้ลงคอเหรอเนี่ย  ไอ้เพื่อนเลว  คิดแล้วแค้น  จุกไม่หายซะที  ไอ้นิคที่ลุยมาร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำไม่เคยเสียทีใครต้องมาแพ้ไอ้ขลุ่ยเพราะความประมาทแท้ๆ

“ทำไม  มรึงให้ไอ้ห่านั่นได้  ทำไมให้กุไม่ได้  กุรักมรึงมาก่อนมันแท้ๆ”

ไอ้บ้าขลุ่ยมันลากผมขึ้นโยนลงบนเตียงอย่างไม่ปราณีปราศัย  ใครก็ได้ช่วยกุด้วย  ผมทั้งโกรธทั้งกลัวปนกันมั่วไปหมด   เสียงเสื้อยืดผมขาดดังแขว่ก  ไอ้ขลุ่ยมันปล้ำถอดออกจนสำเร็จ  เชี้ยแล้ว
สงสัยมันจะคิดว่าตัวเองเป็นพระเอกแนวตบจูบแน่ๆ    เอาแล้วๆ  มือมันมาป้วนเปี้ยนแถวหัวเข็มขัดผมแล้ว   พอเริ่มทุเลาจากอาการจุกผมก็อาศัยทีเผลอ  ยันโครมเข้าเต็มท้องไอ้เพื่อนหน้ามืดจนมันกระเด็น   ผมรีบลุกขึ้นวิ่งจะออกจากห้องแต่โดนไอ้ขลุ่ยกระโจนเข้าแทคตัวล้มโครมลง  หัวโขกกับพื้นจนมึนตื้บซ้ำรอยเดิมที่เพิ่งโขกกระจกรถมา    คราวนี้ไอ้นิคเลยสิ้นฤทธิ์ของจริง  โดนไอ้ขี้เมาคลั่งรักลากขึ้นเตียงอีกครั้ง   ใครก็ได้ช่วยกุด้วย  พ่อจ๋าแม่จ๋า  ช่วยนิคด้วย 

“เปิดประตูเดี๋ยวนี้ไอ้ระยำ   เปิดประตู” 

เสียงไอ้เชนทุบประตูโครมๆสร้างความโกรธให้ไอ้ขลุ่ยมากขึ้นอีก  ส่วนผมก็เหมือนได้ยินเสียงสวรรค์    รอดแล้วกุ 

“ไอ้เชน  ช่วยกุด้วย”

ผมพยายามตะโกนเรียกเลยโดนไอ้ขลุ่ยกัดเข้าที่หัวไหล่จนเลือดซิบ  สาดดดด  ไอ้ซาดิสต์  ผมโกรธจนตาลาย   ทั้งผิดหวังทั้งเสียใจ   เสียความรู้สึกที่เพื่อนรักอย่างไอ้ขลุ่ยเปลี่ยนไปได้ถึงขนาดนี้
ไอ้ขลุ่ยไม่สนใจว่าผมจะเป็นยังไง   มันปลดเข็มขัดผมออกแล้วพยายามแกะกระดุมกางเกงยีนส์
ผมเห็นชะตากรรมของตัวเองที่จะต้องกลายเป็นเมียไอ้ขลุ่ยก็ตะโกนขอความช่วยเหลือเสียงลั่นอีก  ใครก็ได้รีบเข้ามาช่วยกุที  กุยังไม่อยากมีสามี 


ความชุลมุนวุ่นวายในห้องเกิดขึ้นเมื่อไอ้โก้ใช้กุญแจสำรองเปิดประตูเข้าห้องมาได้   ไอ้เชน ไอ้ปิงปอง กับไอ้เป้  รุมสหบาทายำไอ้ขลุ่ยไม่ยั้งฝีตรีน  เมื่อเห็นสภาพของผมที่หัวแตกเพราะล้มโหม่งพื้น  ไม่สวมเสื้อ  กางเกงยีนส์ก็ถูกปลดกระดุม   บนหัวไหล่มีรอยกัดของไอ้ขลุ่ยจนเลือดซิบ   

“เป็นยังไงบ้าง  เจ็บมากมั้ย  เดี๋ยวกุจะพาไปหาหมอนะ” 

ไอ้เชนละฝีเท้าจากไอ้ตัวก่อเหตุเข้ามากอดผมไว้แน่น  มันลูบหัวลูบไหล่ปลอบผม  แต่คนอย่างไอ้นิคสลดได้ไม่นานก็ฟื้นตัวได้ด้วยความรวดเร็ว  ผมลุกไปหาไอ้ขลุ่ยที่กลายสภาพเป็นมนุษย์ลาบเลือดไปแล้ว

“ไอ้สัดขลุ่ย   มรึงทำงี้ทำไม  มรึงจะให้กุเกลียดมรึงเลยใช่มั้ย  ไม่ต้องให้เหลือแม้แต่คำว่าเพื่อนเลยใช่มั้ย”

อยากกระทืบมันให้จมดิน  แต่เห็นมันโดนยำเละไปแล้วเลยแค่ตะคอกด่าให้หนำใจ  ไอ้ขลุ่ยเข้ามาคว้ามือผม  แต่โดนไอ้เป้ดึงตัวไว้ไม่ให้เข้าใกล้ไอ้นิคได้

“กุเมามากแล้วเผลอไปมีอะไรกับลูกสาวของเพื่อนแด้ด   กุทำเขาท้อง  ต้องรับผิดชอบ   กุพยายามยอมรับความจริง   แต่จู่ๆไอ้โก้มันก็ส่งเมล์มาให้   ในนั้นมีรูปมรึงนอนอยู่กับผู้ชาย    กุเห็นแล้วทั้งโกรธทั้งโมโหเพราะมรึงเคยบอกว่าไม่คิดจะชอบผู้ชายด้วยกันทำให้กุต้องตัดใจตามแม่ไปอเมริกาทั้งที่ไม่เคยบอกความรู้สึกกับมรึง   แต่พอคิดอีกทีกุก็อดดีใจไม่ได้    กุคิดว่าถ้ากลับมาหามรึง  กลับมาบอกว่ากุรู้สึกยังไงกับมรึง   บางที....กุอาจจะพอมีหวังบ้าง  แต่ที่ไหนได้  กุกลับต้องมาเห็นมรึงอยู่กับไอ้ห่ะนั่น  กุทนไม่ได้  กุยอมไม่ได้  กุรักมรึงมาก่อนมันตั้งนานแล้ว  มันไม่มีสิทธิ์มาแย่งมรึงไปจากกุ”

ไอ้ขลุ่ยพูดไปร้องไห้ไป   

“พอแล้วไอ้ขลุ่ย   มรึงพอเสียที  กุไม่ใช่ของใครทั้งนั้น   เรื่องไอ้เชน  กุก็บอกแล้วว่ากุกับมันเป็นเพื่อนกัน  แล้วรูปที่มรึงเห็นนั่นน่ะ   มรึงโดนไอ้เวงโก้มันอำต่างหาก   รูปอุบาทว์ๆที่กุนอนเอาตรีนก่ายคอไอ้เชนก็ยังมีเลย  มรึงไม่เชื่อก็ให้ไอ้คนส่งรูปมันพาไปดูก็ได้”

ว่าแล้วผมก็หันไปหาไอ้คนส่งรูปกับไอ้พวกปาปารัซซี่วันนั้นทั้งหมด  แต่ละคนก็ได้แต่ทำหน้าแหยๆไม่มีข้อแก้ตัว

“แล้วพวกมรึง  กุบอกให้ลบทิ้งทำไมยังไม่ลบ  เล่นพิเรนทร์จนได้เรื่อง  มรึงก็อีกคนไอ้เชน  จะไปยั่วโมโหไอ้ขลุ่ยมันทำไม  บอกมันอยุ่ได้ว่ากุเป็นแฟนมรึง  มรึงเห็นมั้ยว่าเมาจนขาดสติทำอะไรกับกุเนี่ย  ห่าเอ้ย แมร่ง  แล้วมรึงนะไอ้ขลุ่ย   กุบอกมรึงไว้เลยนะ  ปัญหามันไม่ได้อยู่ที่ว่ากุจะชอบผู้ชายหรือชอบผู้หญิง  แต่กุกับมรึงคบกันมานาน  กุรักมรึงได้อย่างเพื่อนเท่านั้น  ไอ้เวงตะไล  เสือกจะข่มขืนกุ  มรึงใช้ง่ามสมองส่วนไหนคิด  ไอ้เลว  เพื่อนกันแท้ๆยังคิดอะไรชั่วๆกับกุได้ลงคอ”

คนอย่างไอ้นิคทั้งที่เกือบโดนข่มขืนยังไม่คิดจะร้องไห้ตอนนี้กลับน้ำตาไหลเพราะความเสียใจ  ผมใช้หลังมือปาดน้ำตา   ไม่มีเสียงสะอื้น  ไม่ได้เบะปากร้องไห้โฮๆ   แต่น้ำตาไหลออกมาเอง แถมยังไหลเป็นท่อประปาแตกไม่มีทีท่าว่าจะหยุด

“แมร่ง  เสียดายเวลา  กว่าจะเป็นเพื่อนกัน  กว่ากุกับมรึงจะสนิทกันได้ขนาดนี้  แต่ทำไมมรึงโง่ถึงขั้นทำกับกุอย่างนี้วะ  เชี้ยเอ้ย  เจ็บใจ”

ไอ้ขลุ่ยร้องไห้ฮือๆยิ่งร้องหนักเข้าไปอีก   เมื่อผมทรุดตัวเข้าไปกอดมันไว้แล้วตบไหล่เบาๆเหมือนจะบอกว่าผมไม่ได้โกรธมันแล้ว

“พอแล้วนะขลุ่ย  พอเถอะ  ยังไงมรึงก็เป็นเพื่อนกุเสมอ  เรื่องวันนี้กุจะถือว่ามรึงทำไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ”     

“กุขอโทษนิค  กุขอโทษ  กุมันบ้า  กุเลว  กุขอโทษ” 

ไอ้ขลุ่ยกอดผมแน่นพร่ำขอโทษร้องไห้เสียงดังไม่อายใคร   ผมสงสารมันแต่ก็จำต้องผละออกเพราะโดนไอ้เชนดึงตัวออกมา  สายตาของไอ้หน้าหล่อยังบอกว่าไม่ไว้ใจไอ้ขลุ่ย

“มรึงรีบไปเก็บข้าวของอีกเดี๋ยวพวกกุจะพาไปส่งสนามบิน  ยังไงมะรืนนี้มรึงก็จะกลับแล้วจะเลื่อนมาเป็นวันนี้ก็คงไม่เป็นไรใช่มั้ย”

ไอ้ขลุ่ยลุกขึ้นยืน  เดินคอตกทำตามคำสั่งของไอ้เชนอย่างไม่มีปากเสียง  เพราะเห็นสายตาพร้อมฆ่าคนได้ของอีกฝ่าย  แต่ก่อนจะออกจากห้องไปมันก็หันมามองหน้าผมด้วยสายตาอาลัยอาวรณ์  จนไอ้โย่งเดือนคณะต้องเข้ามายืนบังไว้  ไอ้ห่ะนี่ก็ยังอาฆาตไอ้ขลุ่ยมันไม่เลิก   ผมยิ้มชืดๆให้เพื่อนรักที่เพิ่งหักเหลี่ยมโหดกันไปเมื่อครู่   ไอ้ขลุ่ยมันออกจากห้องไปแล้วพร้อมกับผู้คุมเป็นไอ้โก้กับพวกข้างบ้าน     ผมเลยเดินไปคุ้ยๆตู้หาเสื้อมาใส่   หันไปมองสภาพห้องของตัวที่ระเนระนาดเพราะฝีมือไอ้เพื่อนคลั่งรักด้วยความเซ็ง    นี่กุควรจะภูมิใจกับความเสน่ห์แรงของตัวเองถึงขั้นมีผู้ชายด้วยกันมาคลั่งไคล้ถึงขนาดจะปล้ำดีหรือเปล่าวะเนี่ย 

“คืนนี้ไปนอนกับกุก่อน  แล้วพรุ่งนี้ค่อยมาเก็บกวาด”

ไอ้เชนคงรู้ว่าผมกำลังปวดหัวกับสภาพห้องของตัวเองเลยออกคำสั่ง    แต่ถึงไอ้หน้าหล่อมันจะไม่บอก   ยังไงคืนนี้ผมก็ต้องย้ายไปนอนที่อื่นเป็นการชั่วคราวอยู่ดี   เพราะเหตุการณ์เฉียดเสียตัวยังเพิ่งผ่านมาสดๆร้อนๆ  จะให้ข่มตานอนหลับในสถานที่เกิดเหตุก็ยังแหยงๆอยู่



.....................................
 :mc2: :mc2: :mc2:            ฉบับรีไรท์              :pig4: :pig4: :pig4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-01-2008 09:42:44 โดย ja ne »

Pztor

  • บุคคลทั่วไป
 :m4: :m4: :m4:
ตอนหน้าต้อง......นะ

ออฟไลน์ ben~ya

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-0
ดีใจที่ได้อ่านอีกครั้งตอนไปเปิดที่dek-d อ้าวหายไปไหน งง!มาก!งั้ยเป็นแบบนี้
เจอทางลิงก์มาที่ไทยบอย อ้าว!เราสมาชิกอยู่แล้วนิ เสร็จละเป็นเว็บเฉพาะกลุ่มอยู่แล้ว

acht

  • บุคคลทั่วไป
ไอ่คุณชายนิค เกือบไปแล้ววววว   :m29:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด