อ่านต่อเลยละกัน เน๊อะ

...............................................................
ตอนที่ 10 ป่วนแตก
ผมตื่นขึ้นมาพร้อมกับอาการปวดแผลตุบๆ โมโหสุดขีดกับเสียงโทรศัพท์ที่ดังไม่ยอมหยุด เลยบูทพลังจอมมารจนเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์กะจะด่าไอ้คนที่มันกล้าโทรมาปลุกไอ้นิคจากการนิทรารมย์อันแสนสุขให้เป็นหมันกันไปข้างหนึ่ง
“นคินทร์ทำไมไม่รักษาสัญญากับแม่ ไหนว่าจะไม่มีเรื่องให้เจ็บตัวอีกแล้วไงล่ะลูก”
ผมหุบปากฉับ ตาตื่น เมื่อปลายสายเป็นท่านแม่ที่เคารพโทรมาเทศน์เรื่องพี่เจนี่เมื่อคืน แถมแม่ยังเรียกชื่อจริงของผมซะเต็มยศ แสดงว่าแม่กำลังโกรธจริงๆแล้วครับ ก็ปกติแม่ผมเย็นเป็นน้ำแข็งเคยโกรธใครเสียที่ไหน
“แม่อย่าดุนิคสิครับ นิคไม่เป็นไรจริงๆแม่ไม่ต้องห่วงนะ โหย สบายมากเลย เตะกระสอบทรายทะลุได้เหมือนเดิม แค่ช้ำๆนิดหน่อยเอง คนสวยอย่าขี้งอนเลยน่า”
แล้วผมก็อ้อนท่านแม่ทางโทรศัพท์ไปอีกยืดยาว กว่ามารดาที่เคารพรักท่านจะยอมใจอ่อนหายโกรธ เจ็บใจจ่ายศจริงๆ ครับ แกเล่นหักหลังคุณชายโทรไปรายงานปู่ไอ้คุณนิคซะหมดเปลือก นี่โชคยังดีที่ปู่ปราณีผม ไม่บอกแม่จนหมดเหมือนที่จ่ายศบอกปู่ ไม่อย่างนั้นท่านแม่คงรีบลงจากเหนือมาหาผมถึงบ้านแบบเซอร์ไพรส์อย่างที่แม่ชอบทำตอนผมอยู่ปีหนึ่งแน่
“นิคไม่เป็นไรจริงๆครับ น่านะ งอนนานๆเดี๋ยวไม่สวยน๊า มันเป็นเหตุสุดวิสัยจริงๆนิคไม่ได้หาเรื่องเขาก่อนนะครับ ก็แค่ป้องกันตัว ฟกช้ำดำเขียวแค่แผลสองแผล คนสวยไม่ต้องห่วงนะครับ”
กว่าคุณแม่จะยอมวางใจแล้ววางสายไปก็คงหมดเงินค่าโทรไปหลาย ผมกดวางโทรศัพท์แล้วถอนใจโล่งอกเฮือกใหญ่ เงยหน้าขึ้นแล้วก็ต้องสะดุ้งนึกว่าผีเปรตที่ไหนมายืนสูงโย่งแถวนี้
เป็นไอ้เชนเองครับ ไอ้โย่งมันใส่แค่ผ้าเช็ดตัวผืนเดียวหัวหูเนื้อตัวยังเปียกน้ำมายืนทำหน้าดุอยู่ข้างเตียง พอไอ้หน้าหล่อมันเห็นไอ้คุณนิคนอนเน่าหน้าระรื่นคุยโทรศัพท์อยู่บนเตียงนอนเลยเดินไปคว้าผ้าเช็ดตัวในตู้โยนลงมาเต็มหัว แมร่ง ไอ้เวงนี่ทำอย่างกับอยู่ห้องตัวเอง
“ไปอาบน้ำซะ แล้วระวังอย่าให้น้ำโดนแผลล่ะ” สั่งเสียงแข็งอีก เป็นอะไรของมันอีกล่ะเนี่ย
“มรึงนี่นับวันจะบ่นเป็นแม่กุเข้าไปทุกที” ผมคว้าผ้าออกจากหัวแล้วลุกจากเตียง
“กุไม่อยากเป็นอะไรกะมรึงทั้งนั้นแหละ”
ไอ้เชนเสียงแข็งใส่หลังจากเดินหน้าบูดเป็นตูดเป็ดป่วยไปที่ตู้เสื้อผ้า มันเปิดตู้แรงๆดังโครมใหญ่ ผมก็งงๆกับอาการผีบ้าของมันแต่ก็ไม่ได้คิดติดใจอะไรมากมาย เดินเข้าห้องน้ำ หายตัวไปล้างขี้ไคลอยู่นานพอสมควร แต่ออกมาแล้วไอ้เชนมันก็ยังโครมครามๆอยู่กับตู้เสื้อผ้าของผมอยู่ ท่าทางอย่างนี้ต่อให้โง่แค่ไหนก็ต้องดูออกว่าไอ้หน้าหล่อมันกำลังอารมณ์เสียอยู่
“เมนส์ไม่มาเหรอมรึง สาดดดด ถ้าตู้มันพังมรึงซื้อใช้กุเลยนะ เป็นเชี้ยอะไรเนี่ย”
“ใครจะดีเหมือนมรึง เพิ่งมีเรื่องกับแฟนเก่าจนเลือดตกยางออกไปเมื่อวานนี้ พอมาวันนี้ก็คุยกับผู้หญิงคนใหม่แล้ว”
ออ อ่อ อ้อ อ๊อ อ๋อ ขออนุญาตร้องอ๋อในเสียงผันวรรณยุกต์จัตวาให้มันยาวๆหน่อยนะครับ ที่แท้ไอ้เชนมันก็คิดว่าผมคุยโทรศัพท์กับสาวๆนี่เอง แต่มันคงไม่ได้ยินตั้งแต่ตอนแรกถึงสรุปเอาเองเป็นตุเป็นตะได้ขนาดนี้ กุคุยกับแม่มันก็คิดว่าโทรคุยกับสาว ไอ้นี่ก็จินตนาการบรรเจิดเสียจริง ว่าแต่มรึงโมโหกุเรื่องนี้เนี่ยนะ อะไรของมันวะ ผมล่ะงงกับมัน แต่ไอ้นิคก็ยังเป็นไอ้นิคครับ ถึงจะสงสัยแต่ก็เอาไว้ก่อน เห็นช่องทางแกล้งคนได้ก็รีบคว้าโอกาส
“หึงกุล่ะซี้ โธ่เอ้ย ไอ้เชน แอบรักกุก็ไม่บอก อืม รู้ละๆ ที่มรึงเคยบอกว่าไม่อยากเป็นพ่อกุแต่อยากเป็นอย่างอื่นนี่มรึงอยากเป็น.... อยากเป็นเมียกุนี่เอง กร๊ากกกกก เมียจ๋า มะม๊ะ มาให้ที่รักหอมหน่อย แหมมมมม หึงก็ไม่บอก”
ผมทำหน้าหื่นแล้วกระโดดเข้าล็อคคอไอ้เชน ทำท่าจะปล้ำจูบมันโดยลืมไปว่าตัวเองเคยโดนไอ้หน้าหล่อนี่มั่วจูบมาแล้วตอนที่มันมาเมาอยู่ที่บ้านผมครั้งแรก และก็ลืมว่าตัวเองยังอยู่ในสภาพล่อแหลมมีแค่ผ้าขนหนูผืนเดียวพันท่อนล่างอยู่
“เฮ้ย อย่าเล่นบ้าๆนะมรึง”
ไม่ใช่เสียงไอ้เชนครับ กลับกลายเป็นผมที่ต้องวิ่งหนีเสียเองเพราะมันดันรับมุกกอดตอบผมแน่น แล้วทำท่าจะจูบผมเสียเองแบบไม่มียางในหนังหน้า ไอ้นิคก็เอนตัวหนีสุดชีวิต ผ้าเช็ดตัวก็จะหลุดแหล่ไม่หลุดแหล่แถมแขนยังเจ็บอีก เรียกว่าเสียเปรียบอยู่หลายขุม แต่กว่าจะรู้ว่าตัวเองเสียเปรียบไม่ควรหาเรื่องก็สายไปแล้วครับ ไอ้เชนมันหัวเราะหื่นๆ ได้โอกาสแกล้งกลับเลยไม่ยั้งมือ
ไอ้คุณนิคขนหัวลุกทันทีที่หน้าหล่อๆของมันซบลงกับซอกคอของผม แถมยังกัดคอผมแรงๆแบบไม่รู้จะแพร่เชื้ออะไรใส่รึเปล่า
“ไอ้หื่นนนน เชนนนนน ปล่อยกุ......”
ผมดิ้นจนเหนื่อยก็ไม่หลุด ในที่สุดก็ยอมยกธงขาว ยืนหอบหายใจแฮ่กๆเป็นหมาหอบแดดให้ไอ้เชนมันกอด ผมโมโหครับ สู้ไม่ได้เลยสะบัดหัวเปียกๆของตัวเองใส่ไอ้หน้าหล่อเต็มที่ แต่เพราะตกเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำเลยโดนมันล็อคคอไว้แล้วใช้ผ้าขนหนูผืนเล็กเช็ดหัวของไอ้คุณนิคอย่างกับหัวของผมเป็นต้นตะเคียนทอง ขัดๆถูๆแล้วเลขเด็ดจะปรากฏ
จะว่าไปผมก็เพิ่งมีโอกาสได้สังเกตไอ้เดือนคณะหน้าหล่อนี่ชัดๆใกล้ๆเป็นครั้งแรก ไอ้เชนมันหน้าไทยครับ แต่ถ้าสังเกตให้ดีๆเหมือนที่ผมกำลังสังเกตตอนนี้ก็จะเห็นว่าจมูกมันโด่งสวยเป็นสันเหมือนจมูกพวกแขกพวกฝรั่งเลยแฮะ คิ้วเข้มอยู่เหนือดวงตาที่มีแพขนตางอนยาว ดูสวยยิ่งกว่าดวงตาของผู้หญิงบางคนเสียอีก เวลายิ้ม ที่แก้มซ้ายมีรอยบุ๋มทำให้เวลาที่มันยิ้มที ดูหน้าสว่างไสวน่ามองเข้าไปอีก ผิวขาวโดนแดดคล้ำขึ้นเล็กน้อยเพราะเจ้าตัวชอบว่ายน้ำ เส้นผมสีดำสนิทยาวระต้นคอมีกลิ่นแชมพูกลิ่นเดียวกับผมด้วย ด้วยส่วนสูงเกือบ 190 เซนติเมตร จึงไม่แปลกเลยที่ไอ้เชนจะเป็นเดือนคณะที่สาขามันแสนจะหวงนักหวงหนาประหนึ่งว่าเป็นสมบัติของชาติกันเลยทีเดียว ผมคงเผลอมองมันนานไปหน่อยจนไอ้เชนรู้ตัว
“มองแบบนี้เก็บตังค์นะ”
ว่าแล้วไอ้เชนก็ยักคิ้วข้างเดียวใส่มือก็ยังไม่ปล่อยจากผ้าขนหนูบนหัวไอ้นิค เออ กุรู้ว่ามรึงหล่อ ทำยังไงก็หล่อ อิจฉาสิครับ แมร่ง อิจฉามันแต่ไม่แสดงออก
“เป็นเมียงูเหรอมรึง มองแค่นี้จะเก็บตังค์”
“ไม่เอา เป็นเมียมรึงดีกว่า”
พูดแล้วก็ยิ้มให้ผมอิจฉาในความหน้าตาดีของมันอีกเป็นระลอกสอง ปกติถ้าผมใช้มุกที่รักจ๋ากับไอ้แม็คหรือไอ้โก้ ไอ้พวกนั้นมันจะวิ่งหนีแล้วด่าผมซะไม่มีชิ้นดี แต่กับไอ้เชนนี่แกล้งไม่สนุกเลยครับก็ดันรับสมอ้างเป็นเมียผมหน้าตาเฉย
“มีเมียตัวโตเป็นควายอย่างมรึงนี่คงสยองพิลึกว่ะ ไปๆถอยไป กุจะแต่งตัว”
ผมเบี่ยงตัวออก ไอ้เชนก็ยอมปล่อยมือแต่โดยดี แต่มันยังติดใจเอาความไม่เลิกกับเรื่องที่ผมคุยโทรศัพท์กับท่านแม่
“แล้วตกลงเมื่อกี้มรึงคุยกับใคร”
“แม่กุเอง มรึงนี่อะไรวะ ซักอย่างกับผัวแอบไปมีเมียน้อย ไม่เชื่อก็โทรกลับไปดิ”
“อ้าว ก็กุเป็นเมียมรึงนี่ เห็นที่รักทำตัวน่าสงสัย เมียจ๋าเลยต้องตรวจสอบเสียหน่อย”
ไอ้เชนมันทำเสียงซื่อหน้าซื่อ แต่ดวงตานี่พราวระยับเสียจนน่าเอานิ้วจิ้มแรงๆสักทีสองทีให้หายหมั่นไส้ แต่เหมือนมันรู้ว่าผมคันมืออยากเอานิ้วจิ้มตาคน ไอ้หน้าหล่อมันเลยเดินหน้าชื่นออกจากห้องไป บอกว่าจะไปทำหน้าที่เมียที่ดีให้ผม เริ่มจากการเตรียมมื้อเช้าที่สมควรจะเรียกว่ามื้อบ่ายให้เป็นอันดับแรกก่อน ดูมันพูดครับ ช่วงนี้ฝนฟ้ายิ่งไม่น่าไว้ใจอยู่ด้วย เกิดผ่าเปรี้ยงปร้างลงแถวนี้จะวิ่งทันมั้ยเนี่ย
ผมทำเสียงจึ๊กจั๊กในลำคออย่างขัดใจรีบแต่งตัวแล้วตามลงไปชั้นล่าง โอ้โห ครับโอ้โห ไอ้คุณนิคล่ะตาโตกับอาหารบนโต๊ะ มีทั้งผัดกุ้งเห็ดหอม ปลาราดพริก และอะไรไม่รู้อีกหลายอย่าง แต่อย่าเพิ่งคิดว่าไอ้เชนมันจะลงมือทำเองได้เองในระยะเวลาอันสั้นนะครับ มันสั่งมาจากร้านอาหารหน้าหมู่บ้านแน่ๆ ก็เล่นเทออกจากถุงออกจากกล่องโฟมอย่างนั้น ไม่บอกก็รู้ว่าซื้อมา
เราสองคนนั่งทานข้าวกันจนอิ่มแล้วไอ้เชนมันก็บังคับให้ผมกินยาให้มันดู เพราะเมื่อคืนไอ้หน้าหล่อมันจับได้ว่าผมแอบบ้วนยาทิ้ง ไอ้คุณนิคเลยตีหน้าเหยเกเมื่อเม็ดยาขมๆไหลผ่านลำคอลงไปก่อนจะรีบยกน้ำส้มที่เตรียมไว้บนโต๊ะขึ้นกระดกซดโฮกรวดเดียวหมดแก้ว จนไอ้คนคุมมันหัวเราะน้ำหูน้ำตาไหล
“กินยาแล้วก็นอนซะ เดี๋ยวเย็นๆจะกลับมาดูอีกที”
“จะไปไหนอ่ะ” อ้อนเล็กๆครับ ก็อยู่บ้านคนเดียวมันเหงานิ
“ไปทำธุระให้ที่บ้าน”
หมายถึงครอบครัวของมันครับ ไอ้นี่มันลูกคนโตแล้วที่บ้านก็เรียกหาบ่อยๆเพราะเป็นลูกชายคนโปรด ไอ้เดือนคณะมันสั่งเสียผมเป็นการใหญ่ทำนองว่าให้พักผ่อนแล้วอย่าลุกขึ้นเล่นอะไรพิเรนทร์ก่อนจะออกจากบ้านไปพร้อมกับเป้เสื้อผ้าใบใหญ่ ก็เมื่อคืนมันมาค้างกับผมที่นี่ บอกว่าจะเฝ้าไข้เพราะหมอบอกว่าตอนกลางคืนผมอาจจะไข้ขึ้น แต่ก็ไม่เห็นเป็นอะไรสักนิด บ้าๆอย่างผมนี่เชื้อโรคกลัวไม่กล้าเข้าครับ นานทีปีหนถึงจะเป็นหวัดไม่สบายสักทีหนึ่ง
พอกินอิ่มหนังตาก็เริ่มหย่อน ผมนอนหลับอยู่บนโซฟานานเท่าไหร่ไม่รู้สะดุ้งตื่นเพราะเสียงโทรศัพท์จากเฮียสิทธิ์
“เห็นมั้ยฉันเตือนแกแล้วว่าอย่าไปยุ่งกับอิเจนี่ แล้วเป็นไง สวดกี่วันถึงจะเผา คืนสุดท้ายเลี้ยงน้ำเต้าหู้ปาท่องโก๋รึว่าข้าวต้มกุ้งยะ”
“เปล่า แค่กระเพาะปลา โหย ยังไม่ตายเฮีย” ดูปากเฮียแกซิครับ เป็นมงคลกับชีวิตผมเหลือเกิน
“งั้นเดี๋ยวฉันจะไปเยี่ยม แกอยากกินไร”
“รังนกตุ๋น หูฉลามน้ำแดง พระกระโดดกำแพง เป๋าฮื้อ เห็ดหลินจือ เอาโสมเกาหลีมาด้วยก็ดี”
“โอเค แล้วจะทำบุญถวายไปให้แล้วกัน อิบ้า กวนได้กวนดี ลาออกไปกวนกาละแมขายป่ะ”
เฮียสิทธิ์สาปแช่งมาตามสายกับอาการกำเริบอยากกินหรูของผมก่อนจะวางสาย แต่ยังไม่ทันไร เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นอีก คราวนี้เป็นของไอ้พวกสาขามันโทรมาครับ ฮอตฮิตจริงไอ้นิค
“ไงมรึง ตายรึยัง สมน้ำหน้า ไปเที่ยวแล้วไม่ชวนกุ”
ดูปากแต่ละคนนี่แสนจะห่วงใยกันจริงๆเลยครับ ว่าแล้วมันก็กดวางสายไปและทำเซอร์ไพรส์ด้วยการโผล่หน้ากวนส้นเข้ามาในบ้านพร้อมสองสาวเจ้าแม่ ไอ้ตะวันนี่มันท่าจะบ้า มาถึงแล้วไม่รู้จะโทรมาหาสวรรค์วิมานอะไรให้เปลืองแบต แต่ไม่ถือครับ ก็แต่ละคนเล่นหอบของพะรุงพะรังเข้ามาจนไอ้นิคน้ำลายสอ ซะขนาดนั้น โดยเฉพาะไอ้ตะวัน ไม่รู้มนุษย์ประเทศไหน เขาหอบเอาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาฝากคนเจ็บกันครับ แต่ที่แน่ๆ มนุษย์นิคช้อบ ชอบ
“กุรู้ว่ามรึงอยากถอน เอาไปเลย”
ไอ้ตะวันเปิดฝาขวดเบียร์ด้วยไฟแช็ค เด็กดีห้ามเลียนแบบขี้เหล้าของแท้เท่านั้นที่ทำได้ครับ หรือจะใช้ฝาขวดด้วยกันก็เปิดได้ ทำข้อมือแข็งๆ งัดแรงๆเสียงดังป๊อก ใส่หลอดลงไป ดูดกินอร่อยๆเหมือนกินน้ำหวาน แอลกอฮอล์ลิซซึ่มจริงตรู
มองนาฬิกาแล้วถึงรู้ว่าตัวเองหลับไปนานเหมือนกัน ผมลากสังขารอันไม่ปกติพร้อมขวดเบียร์เย็นเชี้ยบออกจากโซฟาไปที่โต๊ะหินอ่อนหน้าบ้านเพราะตอนเย็นๆอย่างนี้ลมดีครับ แถมในมือยังมีเครื่องดื่มผิดศีลอีก ดังนั้นจะให้นอนแบ่บอยู่แต่บนโซฟาก็กระไรอยู่ พอไอ้ตะวันมันสังเกตเห็นสารรูปของเพื่อนอย่างถ้วนถี่ก็เกิดอยากจะพิสูจน์ว่าไอ้คุณนิคยังไม่ถึงขั้นพิการถาวร มันยกมือขึ้นจะ give me 5 พร้อมทำหน้าท้าทายประมาณว่า มรึงยังไหวอ๊ะป่าว มันท้ามา ผมเลยตอบไป ยกแขนข้างไม่เจ็บทัชกับมันหน่อยครับ แต่มันแกล้งผม ตบมาสุดแรงจนแผลกระเทือน ไอ้นี่ท่าจะแค้นหนัก
“เปี้ยวจริงเพื่อนกุ รู้มั้ย ข่าวมรึงเมื่อคืนแพร่เป็นไข้หวัดนก H5N1 แล้ว เดี๋ยวมรึงโดนจารย์เรียกสอบแน่ แมร่ง ไปแด๊กเหล้าแล้วไม่ชวนกุ กรรมเลยสนอง สม”
“ห่ะนี่ กุโทรหาแล้วแต่ไม่รู้ควายตัวไหนมันปิดโทรศัพท์”
“แบตหมดว้อย แล้วมรึงทำไมไม่โทรเข้าหอกุ แมร่งสาดดไม่รักกันจริง สาธุ้.... ขอให้มรึงโดนจารย์ทำโทษให้ล้างส้วมทั้งคณะเลยมรึง”
(ต่อ)
...........................

ฉบับรีไรท์
