มาอีกแล้ว
คุณ kuza..bapun ฝากให้มาลงแทน 555+(จัดให้
)
ต่อกันเลยละกานเน๊อะ
...............................................
ตอนที่ 8 ไม่อยากเป็นพ่อ
“จะไปไหน”
เชี้ยเชนคว้าแขนผมไว้ ท่ามกลางสีหน้าตื่นๆและเสียงห้ามของเพื่อนๆ ที่แต่ละคนพากันทำหน้าโหด หวีด หยอง อาจจะเพราะจินตนาการกันไปไกลสุดกู่แล้วว่าผมจะพาไอ้แม็คคินไปวางระเบิดบ้านไอ้แฟนใหม่พี่แคลร์กัน ไอ้พวกนี้เป็นเอามากแฮะ ผมมองหน้าแต่ละคนแล้วก็ต้องหัวเราะออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่
“เอ้า แมร่ง แต่ละคนทำหน้าอย่างกับกุจะไปก่อวินาศกรรม กุแค่จะไปหาเฮียสิทธิ์ล้วงความลับศัตรูก่อน จะคิดการใหญ่มันต้องวางแผนดีๆก่อนเว้ย ว่าแต่ที่พวกมรึงห้ามกุเสียงหลงกันนี่เพราะเป็นห่วง หรือกลัวจะว่าจะต้องเอาโอเลี้ยงข้าวผัดไปเยี่ยมกุกับจ่ายศอีกวะ”
เล่าแล้วจะหาว่าคุยครับ ตอนปีหนึ่งผมเคยไปมีเรื่องชกต่อยกับเด็กสถาบันอื่นที่ปั๊มปตท. หลังมอ จนถูกจับยัดซังเตไปหนึ่งคืนข้อหาทะเลาะวิวาทแล้วไม่มีตังค์จ่ายค่าปรับ เดือดร้อนเชี้ยโก้ต้องหาซื้อโอเลี้ยงข้าวผัดไปเยี่ยมผมเพราะมันบอกว่าถ้าติดคุกแล้วจะให้ถึงอารมณ์มันก็ต้องมีโอเลี้ยงข้าวผัดด้วย โห น้ำใจเชี้ยโก้ครับ ออกแนวสมน้ำหน้าแบบไม่ปิดบัง แล้วข้าวผัดมันก็สมชื่อข้าวผัดจริงๆ จะเขี่ยจะคุ้ยหายังไงก็มีแต่ข้าวกับน้ำมันกับก้านคะน้าอีกสองสามก้าน
นอนมุ้งสายบัวได้คืนเดียว วันต่อมาผมก็ถูกปล่อยตัวเพราะท่านปู่ของผมแกรู้จักกับคนใหญ่คนโตเลยโทรหาจ่ายศให้ปล่อยตัวผมได้ เรื่องดีๆนี่ไม่ค่อยจะทำ แต่ไอ้เรื่องเลวๆนี่ประสบการณ์เต็มเปี่ยมจริงๆเลยชีวิตผม
ตอนจ่ายศแกปล่อยผมกลับบ้าน แกก็ไม่วายสั่งสอนอีกเป็นกระบุงกระโบย แถมยังแอบมีกระซิบส่งท้ายเย้ยผมหน่อยๆว่า ปู่ผมโทรมาคุยกับแกว่าความจริงอยากให้ผมนอนซังเตต่ออีกสักคืนสองคืนก่อนแล้วค่อยปล่อยตัวไป โทษฐานที่ซ่าเกินพิกัด แต่มารดาที่รักยิ่งของผมไปร้องห่มร้องไห้เพราะทนไม่ได้ที่รู้ว่าลูกชายหัวแก้วหัวแหวนต้องนอนในมุ้งสายบัว แถมดินเนอร์ด้วยโอเลี้ยงข้าวผัด ปู่เลยต้องโทรมาจัดการเรื่องปล่อยตัวผมให้ ปู่บอกว่าผมบ้าเลือดเกินไปที่เข้าไปลุยกับคู่ต่อสู้แบบหนึ่งต่อสี่ เรียกว่าไม่ประมาณกำลัง ผิดหลักตำราพิชัยยุทธ์ที่ปู่เคยสอน
ผมคว้ากุญแจรถมาจากไอ้แม็คว่าจะไปหาเฮียสิทธิ์ที่หอพักแถวๆหน้ามอแต่ไอ้เชนยังไม่วายคว้าแขนผมไว้ จนผมต้องหันไปทำสายตาแลควายใส่มัน
“มรึงไม่ต้องมาทำตาขวาง ไปกับกุ เดี๋ยวกุไปส่งเอง บอกตามตรงว่าไม่ไว้ใจว่ะ”
ไอ้เชนไม่ยอมปล่อยแขนผมแถมยังลากหลุนๆออกไปที่รถมัน ผมเลยฉลองศรัทธาโดยการให้ไอ้เดือนคณะขับรถอ้อมเมืองเสียจนน้ำมันแทบหมดกว่าจะไปถึงหอเฮียสิทธิ์ที่อยู่แค่หน้ามอนี่เอง
พอไอ้เชนมันรู้ว่าผมหลอกให้มันขับรถผลาญทรัพยากรอันมีค่าราคาแพงไปเล่นๆ มันก็จัดการล๊อค
คอผมซะจนลูกกระเดือกแทบระเบิด ผมเลยต้องระดมเคาะประตูห้องเฮียสิทธิ์ขอความช่วยเหลือก่อนจะขาดอากาศหายใจตายเสียก่อน แล้วพอเฮียแกออกมาเปิดประตูมาเห็นฉากฆาตกรรมของผมกับไอ้หน้าหล่อ เท่านั้นแหละครับ แกก็สาวแตกแหกปากเสียดังลั่นตึก
“ต๊าย อีตานิค นี่แกเปลี่ยนแนวมาควงหนุ่มตั้งแต่เมื่อไหร่ยะเนี่ย”
เฮียสิทธิ์แกเป็นรุ่นพี่สมัยม.ปลาย ที่เอนท์ติดมาอยู่มหาวิทยาลัยที่นี่ก่อนผมสองปี เฮียแกมีชื่อในวงการว่าเจ๊ซี่ เรียนวิดยาอยู่ปีสี่เหมือนกับไอ้แฟนใหม่พี่แคลร์ ผมเลยต้องมาสืบข่าวเสียหน่อย
“แล้วนี่มากอดรัดฟัดเหวี่ยงอะไรหน้าห้องฉัน ต้าย บัดสีบัดเถลิง”
ปากก็ว่าผมอย่างนั้น แต่ดูเฮียสิทธิ์แกทำท่าวี้ดว้ายกระตู้วู้กับความหล่อบาดใจของไอ้เชนอย่างออกนอกหน้า ผมเลยอำแกไปเล็กน้อย ก็กะเอาคืนไอ้เชนที่มันกล้าเฮดล็อคผมด้วยแหละครับ ไอ้นิคเลยเดินนำไอ้เชนเข้าไปในห้องเฮียสิทธิ์ก่อนแล้วแจ้งจึงความประสงค์
“ใช่ที่ไหน ผมเอามันมาเซ่นเฮียต่างหาก พอดีมีเรื่องจะขอให้ช่วยหน่อยน่ะ”
พอผมพูดจบ เฮียสิทธิ์ก็ไม่พูดพล่ามทำเพลง ถลาเข้ากอดไอ้หน้าหล่อแบบสุดตัวสุดแรงเกิด แต่แกช้าไปแค่เสี้ยววินาที ไอ้เชนมันเลยกระโจนเข้ามาหลบหลังผมได้ทันแบบเฉียดฉิว เฮียสิทธิ์เลยไถลไปจูบตู้เย็นเข้าเต็มรักแทน
“ล้อเล่นน่าเฮีย นี่ไอ้เชนเพื่อนผมเอง คืองี้นะเฮีย....”
ผมหัวเราะจนน้ำตาเล็ด ท้องแข็งอยู่นานกว่าจะตั้งสติได้ แล้วเล่าเรื่องแฟนใหม่พี่แคลร์แบบย่อๆให้เฮียแกฟัง พอฟังจบเฮียสิทธิ์ก็เอามือทาบอก ทำตาโต ปากเผยอเล็กๆพอเซ็กซี่ ไม่มองหน้าผมซึ่งคุยอยู่กับแก แต่หันไปชม้ายสายตาให้ไอ้เชนที่ยังคงเกาะแขนผมแจเป็นลูกค่างบ่างชะนีด้วยความหวาดหวั่นในตัวเฮียสิทธิ์
“อินั่นมันชื่อเจ อยู่วิดยาฟิสิกส์ แต่ฉันว่าแกอย่าไปยุ่งกับมันเลย ได้ไม่คุ้มเสีย”
“ทำไมอ่ะเฮีย พ่อมันเป็นอบต.ทรงอิทธิพลเหรอ”
จะมีก็แต่ผมนี่แหละครับที่เฮียแกหยวนๆยอมให้เรียกชื่อจริงได้ พอดีบ้านเฮียอยู่ใกล้บ้านผมเราเลยรู้จักกันมาแต่เด็กเหมือนกัน แกคงจะกลัวว่าถ้าให้ผมเรียกว่าเจ๊ซี่แล้วผมจะเผลอหลุดปากเรียกตอนที่ไปบ้านเฮียแล้วความลับอาจเปิดเผยได้ สมัยก่อนแกเคยแฝงกายไปสมัครค่ายมวยของปู่ผม แต่แกมาเหล่นักมวยนะครับไม่ได้มาซ้อมมวยแต่อย่างใด
“อินี่ก็กวนได้ตลอดศก ฉันกำลังจะบอกว่าอิเจมันมีชื่อเต็มๆว่าเจนี่ แกโดนนังชะนีแฟนเก่าสมคบเกย์ มาหลอกปั่นหัวแล้วล่ะย่ะ แล้วแกก็มีสโลแกนสุภาพบุรุษลูกผู้ชายไม่ทำร้ายสตรีเพศห่ะเหวอะไรนั่นไม่ใช่เหรอยะ แล้วอิเจนี่มันแรงจะตาย เห็นมันแต๊บดีไม่มีหลุดอย่างนั้น แต่ระวังมันจะเอาผัวเด็กช่างมายำแก”
ผมเลยเอ๋อแด๊ก เพราะเรื่องมันพลิกล็อคแบบหน้ามือเป็นหลังเท้า อุตส่าห์เตรียมลุยมาเต็มที่
“โห เฮียพูดซะผมหมดอารมณ์”
“อะไรยะ ยังหนุ่มยังแน่นมาเซ็กเสื่อมหมดสมรรถภาพอะไรแถวนี้”
เฮียสิทธิ์หรือเจ๊ซี่ค้อนปะหลับปะเหลือกเป็นที่น่าสยดสยองสยึมกึ๋ยส์ใส่
“ผมหมายถึงว่าหมดอารมณ์เล่นงานไอ้หน้าเหียกนั่นต่างหาก อุตส่าห์วางแผนเอาไว้เสียดิบดีว่าคืนนี้จะไปเจาะยาง ขูดสีรถมันเป็นการทักทายซะหน่อย แล้วแบบนั้นมันใช่สตรีเพศซะที่ไหน ผมไม่ชอบลงมือกับผู้หญิงหรือสาวๆอย่างเฮียก็จริง แต่ไอ้พี่เจนี่ มันกรณียกเว้น เพราะถึงมันจะสาวอย่างเฮียแต่มันกล้ามาทำแมนสมคบพี่แคลร์หลอกผม อย่างนี้ต่อให้ตัดไอ้นั่นทิ้งไปแล้วก็เอาไว้ไม่ได้”
เฮียสิทธิ์ทำคอย่นกับคำประกาศกร้าวอาฆาตแค้นของผม แถมยังทำเนียนสะดุ้งผวาเข้าไปซบไหล่ไอ้เชนอีก ผมเลยเปลี่ยนโหมดโหดเป็นอาการฮาจนน้ำตาเล็ดไปอีกรอบ เอาเถอะวะไอ้เชน ถือว่าช่วยกุสักวัน ปล่อยให้เฮียเขาแทะโลมนิดๆหน่อยๆพอเป็นค่าข่าวแล้วกัน
สรุปแล้ววันนั้นเมกะโปรเจคทั้งสองแผนของผมก็พังไม่เป็นท่า ทั้งแผนแกล้งไอ้เพื่อนแม็คคินเป้ แผนเล่นงานแฟนใหม่พี่แคลร์ที่ดันแอ๊บแมนอีก กลับมาถึงบ้านเลยเซ็งจัดจนใครเข้าหน้าไม่ติด
แถมก่อนจะลงจากรถ ไอ้ขี้เก๊กเชนมันยังมีหน้ามาจับผิดผมอีก
“เมื่อกี้บอกเฮียสิทธิ์ว่าจะไปเจาะยางขูดรถเขาใช่มั้ย”
“เออ ! กุจะเจาะยางมัน แล้วนี่ใช่เรื่องมรึงมั้ย” ยอมรับพร้อมกับหลอกด่ามันไปนิดหน่อย
“แล้วไหนตอนอยู่ที่ซุ้มบอกว่าจะแค่ไปหาเฮียสิทธิ์เฉยๆ” จับผิดกุอีก
“เออ ! กุจะไปหาเฮียสิทธิ์แล้วจะไปเจาะยางมันต่อ แล้วมรึงจะถามทำซากทำไรวะ ถ้ากุติดคุกอีกกุจะโทรหาไอ้โก้เอง ไม่เดือดร้อนไปถึงบ้านพวกมรึงหรอก”
แล้วก็ประชดไปอีกหนึ่งที ผมเปิดประตูลงจากรถแล้วปิดแรงๆกะให้รถมันพัง แต่ไอ้เจ้าของรถมันกลับไม่ว่าอะไร แค่ส่ายหน้าเล็กๆคล้ายระอา เลื่อนกระจกรถลงแล้วเรียกผมให้เดินอ้อมรถไปหามัน อะไรของมันวะ
“ไอ้ความใจร้อนนี่เพลาๆลงบ้างนะนิค ทำอะไรอย่าให้มันเกินตัว เพราะที่ผ่านมามรึงอาจจะยังโชคดีที่ไม่เจอของแข็งเข้าจริงๆ” นี่แช่งกุรึไง
“ไว้กุโดนโจทย์เก่ายิงตายเมื่อไหร่ เดี๋ยวไอ้พวกนั้นก็เชิญมรึงไปฟังสวดอภิธรรมวางหรีดเองนั่นแหละ ไอ้นี่ก็ทำอย่างกับเป็นพ่อกุ”
“กุไม่อยากเป็นพ่อมรึงหรอก มีลูกอย่างมรึงคงปวดหัวตายชัก แต่ถ้าให้เป็นอย่างอื่นล่ะไม่แน่”
ยิ้มที่มุมปาก ไม่ทันให้ตั้งตัว หน้าหล่อๆจมูกโด่งเป็นสันสวยนั่นก็กดลงมาบนแก้มผมแรงๆกระซิบข้างหูให้ได้สยิวและสยองเล่นๆว่าหลับฝันดีแล้วพรุ่งนี้มันจะมารอรับตอนเก้าโมง
ก่อนที่ไอ้หน้าหล่อมันจะเร่งเครื่องเลี้ยวรถเข้าบ้านมันไปท่ามกลางเสียงตะโกนโวยวายด่าตามหลังของผม
แมร่ง ไอ้นิคเลยเซ็งแด๊กซ้ำซ้อน
นั่งดูทีวี ออกอาการเซ็งไม่สบอารมณ์คุณชายอยู่นาน ผมก็เห็นเหยื่อที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่หลงเข้ามาหนึ่งราย ก็ไอ้ต่อหน้าตี๋ข้างบ้านนี่แหละครับ ไม่รู้ลมอะไรหอบมันมา เห็นทำหน้าผ่องเข้ามาแต่ไกล
“ได้ข่าวว่าแฟนมรึงเรียนเศรษฐศาสตร์เหรอวะ คืองี้ กุไปปิ๊งน้องตาคมปีหนึ่งเศรษฐศาสตร์เหมือนกันว่ะ น้องเขาชื่อ เกี๊ยวที่ตาคมๆผิวสีน้ำผึ้งง่ะ มรึงให้แฟนมรึงไปขอเบอร์น้องเขาให้กุหน่อยดิ”
ช่วงนี้ไม่ค่อยเห็นมันอยู่บ้าน ไอ้แซ็คก็เคยเปรยๆให้ฟังว่าช่วงนี้ไอ้ตี๋ต่องานยุ่ง แล้วทั้งบ้านก็มีมันเรียนวิศวะไฟฟ้าอยู่คนเดียว มันเลยต้องระเห็จไปทำงานกลุ่มที่หอกับเพื่อนสาขามันครับ ก็เข้าใจนะครับว่ามันคงจะพลัดพรากจากบ้านไปนาน แต่ไม่คิดว่ามันจะตกข่าวถึงขนาดนี้ นี่ผมเลิกกับวิกกี้ แล้ววิกกี้เป็นแฟนไอ้โก้ จนผมเลิกกับพี่แคลร์ไปอีกคนแล้ว แต่มันยังเข้าใจว่าแฟนผมเรียนเศรษฐศาสตร์อยู่อีก ไอ้นี่ก็หล่อไปวันๆแต่ไม่รู้จักติดตามข่าวสาร
“จะถามไอ้โก้เดี๋ยวมันจะหาว่ากุไปล่อลวงน้องในคณะมันอีก นะๆเดี๋ยวกุจีบติดแล้วเลี้ยงมื้อใหญ่”
มาสูตรเดียวกับไอ้แม็คเป๊ะเลยครับ พวกชอบเอาของกินเข้าล่อ
“อ๋อ น้องเกี๊ยวเหรอ นี่มรึงมาปรึกษาได้ถูกคนเลยไอ้ต่อ มาๆ เอามือถือมรึงมาเดี๋ยวกุเมมให้ เบอร์สาวๆน้องไอ้โก้ กุมีหมดแหละ”
ไอ้ต่อดีใจแทบจะโผเข้ามาจูบแก้มถ้าผมไม่ใช้บาทายันอกมันไว้ซะก่อน กุยังสยองกับจูบไอ้เชนไม่หายมรึงยังจะมาจูบกุอีก สงสัยไอ้บ้านนั้นมันจะมีเชื้อสายตะวันตกหรือไม่ก็ดูหนังฝรั่งมากไป เอะอะก็กอดจูบลูกเดียว แต่เรื่องนี้ช่างเถอะ เอาไว้ก่อน ฮี่ๆๆ ไอ้ต่อเอ้ย คราวซวยของมรึงเองนะ ที่หลงเข้ามาตอนกุกำลัง รมบ่จอย มันส่งมือถือให้ผมอย่างง่ายดายโดยไม่เฉลียวใจสักนิด
“โหไอ้ต่อ นี่มีแต่เบอร์หญิงทั้งนั้นเลยนิหว่า”
“อ๊ะแน่นอน หล่อระดับกุเสียอย่าง สาวๆในสังกัดก็ต้องเยอะเป็นธรรมดา”
ภูมิใจครับ ภูมิใจเข้าไปนะมรึง 55 ผมกดๆเลือกเมนูในที่สุดก็เจอสิ่งที่ต้องการ รอยยิ้มพญามารปรากฏขึ้นบนใบหน้า ชั่วขณะ ไอ้ต่อมันคงรู้สึกตัวว่ารอยยิ้มของผมมีสิ่งเคลือบแฝง มันโหยหวนเสียงดัง เอื้อมมือจะคว้ามือถือลูกรักคืน แต่ไม่ทันการณ์แล้วครับ ผมแสยะยิ้มพร้อมกับกดปุ่มลบข้อมูลทั้งหมดอย่างไร้ความปราณีเหมือนกดจุดฉนวนระเบิด 555 ไอ้เลวนิค บุคคลผู้มีสามัญสำนึกและความยั้งคิดเป็นเลขติดลบ ไม่เคยคิดว่าจะทำให้คนอื่นเดือดร้อนแค่ไหน ไม่คิดว่าบางทีในข้อมูลที่ผมลบไปทั้งหมดนั้นอาจจะมีเบอร์สำคัญอย่างเบอร์พ่อแม่พี่น้องหรือเบอร์อาจารย์ที่ปรึกษาของมันอยู่ด้วยก็ได้ รู้อย่างเดียวคือ ไอ้นิคสะจายยยยย
“ม่ายยยยยยยยยยยย”
เหยื่อของผมส่งเสียงคร่ำครวญโหยหวนเหมือนชีวิตกำลังจะจบสิ้น ใบหน้าบ่งบอกอารมณ์เสียดาย เสียใจ และอาลัยอาวรณ์อย่างสุดซึ้ง
“สาดดดดนิค มรึงทำกับกุด้าย ฮือๆ ชิบหายหมด กว่ากุจะไปล่าเบอร์มาได้ขนาดนี้ แมร่ง ไอ้นิค
มรึงแกล้งกุ เวงตะไล เชี้ยยยยยยยย”
มันยังโหยหวนไม่เลิกคว้ามือถือของตัวเองกลับไปกดๆดู แต่เมื่อไม่สามารถเรียกคืนสิ่งที่เสียไปแล้วได้มันก็คร่ำครวญปิ่มจะขาดใจ
“เอาน่าๆหายไปก็หาใหม่ได้ เดี๋ยวกุจะเอาเบอร์น้องเกี๊ยวตาคม มาประเดิมเป็นเบอร์แรกให้มรึงเอง ”
ผมอารมณ์ดีขึ้นแล้วครับ ได้ทำชั่วทำเลวกับเพื่อนอย่างนี้แล้วหายเครียดหายเซ็ง
“แมร่ง มรึงไม่ต้องมาตบหัวลูบหลังเลย มรึงนะมรึงทำกุได้”
ไอ้นี่ก็โอเว่อร์อย่างกับผมไปผลาญพร่าพรมจรรย์ของมันมา
“งั้นเดี๋ยวกุจะบัญชาให้ไอ้โก้มันช่วยมรึงจีบน้องเกี๊ยวด้วย มรึงอย่างอนดิ นี่พูดดีๆไม่ฟัง ต้องให้กุใช้กำลังใช่มั้ยเชี้ยต่อ”
ง้อดีๆมันไม่ยอมหายโกรธ ผมเลยเสียงเหี้ยมแล้วก็ลงมือจี้เอวไอ้ตี๋ต่อ จนมันยอมแพ้หัวเราะลั่นกร๊ากดิ้นกระแด่วๆอยู่บนโซฟา พอไอ้พวกที่แอบดูสถานการณ์อยู่นอกห้องเห็นผมอารมณ์ดีแล้วก็เลยพากันโผล่กบาลเข้ามาทีละคนสองคน เพื่อนกุก็ช่างเป็นคนดีไม่แพ้กุซะจริง ปล่อยให้ไอ้ต่อที่ไม่รู้สถานการณ์บ้านเมืองหลงเข้ามาสังเวยความบ้าผมเสียก่อน พวกมันจึงจะกล้าเข้ามากัน
“นิค กุมีเรื่องจะคุยกับมรึงจริงๆนะ แต่ถ้ามรึงไม่แคร์ว่ากุเป็นเพื่อนแล้ว กุก็จะไปให้พ้นหูพ้นตา
มรึงสักที”
ไอ้คินทำตาแดงๆ ผมเลยไล่ไอ้ตี๋ข้างบ้านกลับไปก่อน พร้อมกับย้ำสัญญิงสัญญาเรื่องเบอร์น้องเกี๊ยว ไอ้ต่อมันเลยยอมกลับแต่โดยดี เมื่อคนนอก ออกจากบ้านไปแล้ว ไอ้คินก็เริ่มเปิดปากสารภาพความจริงเรื่องที่มันคบอยู่กับไอ้เป้
“ช่วงนั้นมรึงมัวแต่คั่วสาวมนุษยฯ ไม่ค่อยสนใจกุ วันที่มรึงโดดเรียนพาหญิงไปกินข้าว กุเลิกเรียนค่ำแล้วโดนไอ้พวกพี่แทนมันเข้ามาหาเรื่อง พอดีไอ้เป้กับไอ้แม็คมันมาพอดี ไอ้เป้มันเลยมีเรื่องกับไอ้พวกนั้นเพราะออกหน้าแทนกุ แล้วจากนั้นพวกกุก็เริ่มสนิทกัน แล้วจากนั้น....”
ไอ้คินเล่าตะกุกตะกักคงจะอายด้วยล่ะครับ มันย้อนไปถึงสมัยพระเจ้าเหาตอนที่ผมคั่วสาวมนุษยฯแล้วลืมมันไป ผมนึกย้อนไปก็ถึงบางอ้อที่ช่วงนั้นไอ้เป้มันหน้าแหกกลับมาบ้าน พอถามก็บอกแค่ว่าไปมีเรื่องมา ผมยังจำได้ว่าตอนนั้นไอ้เพื่อนๆในบ้านมันดูมึนตึงเย็นชากับผมยังไงพิกล มาเก็ทเห็นทางสว่างก็เอาตอนนี้แหละครับ ที่แท้ไอ้พวกหื่นกามนั่นมันเคยกินส้นตรีนผมไปแล้วอาฆาตแค้น อาศัยจังหวะที่ผมไม่อยู่จัดการเล่นงานไอ้คินที่มันหมายตาไว้ แต่โชคดีที่ไอ้เป้ไปขวางทัน ผมฟังแล้วก็รู้สึกผิดขึ้นมาแต่ยังวางฟอร์ม
“กุขอโทษที่ไม่ได้บอกมรึงเพราะกลัวมรึงจะรังเกียจ ถ้ามรึงอยากให้กุย้ายไปอยู่ที่อื่นมรึงก็บอกมาได้เลยนะ ของกุไม่ค่อยมีมากเก็บเดี๋ยวเดียวก็เสร็จแล้ว”
มันเห็นผมทำหน้านิ่งเลยคิดไปกันใหญ่ ไอ้คินเอ้ย หน้าตาอย่างมรึงนี่ขืนปล่อยไประหกระเหินก็หนีไม่พ้นไอ้พวกหื่นกามนั่นสิว้า ผมมองหน้ามันแล้วหันไปมองไอ้เป้ ไอ้เชี้ยนี่ก็ทำตาท้าทายกุซะ
แต่ก็นั่นล่ะ มีแฟนแล้วมันก็ต้องเห็นแฟนดีกว่าเพื่อน ผมก็คนหนึ่งที่ทำบ่อย แหะๆ
“เออ กุรังเกียจมรึง”
ผมด่ามันไป แค่นั้นไอ้คินมันก็ก๊อกน้ำตาแตก ไอ้เป้ฮึดฮัดจะเข้ามาแจกหมัดกับผมแต่โดนไอ้แม็คคว้าตัวไว้ทัน
“กุรังเกียจความคิดมรึง ทำไมกุจะต้องเกลียดมรึง ถ้ารู้ว่ามรึงคบกับไอ้เป้ ไอ้ห่ะคิน มรึงเห็นกุเป็นคนยังไง เรื่องแค่นี้ทำไมกุจะต้องรังเกียจมรึง กุแค่โกรธที่พวกมรึงรวมหัวกันปิดกุต่างหาก ว่าแต่ไอ้โก้มันรู้เรื่องนี้มั้ย”
ผมพยายามหาพวกว่าไม่ได้มีแค่กุที่โง่ไม่รู้เรื่องอยู่คนเดียว แต่เห็นมันพยักหน้าก็เลยออกอาการเซ็ง
“เออ สรุปว่ามีกุคนเดียวที่โง่ใช่มั้ย ห่ะเอ้ย แล้วมรึงจะร้องทำไม ยังไงกุก็รักมรึงเหมือนเดิมแหละ”
ไอ้คินยิ่งร้องหนักกว่าเดิม มันกระโจนเข้ากอดผมสุดแรงไม่ให้ตั้งตัวจนผมหงายหลังผลึ่งหัวไปชนโต๊ะที่วางอยู่ข้างโซฟาดังโป๊กใหญ่ แถมจุกแอ้กเพราะโดนไอ้คินนั่งทับทั้งตัวอีก สงสัยกรรมที่อำเฮียสิทธิ์จนแกจูบตู้เย็นกับเรื่องที่ลบเบอร์สาวๆของไอ้ตี๋ต่อคงตามทันแล้ว
“ขอบใจว่ะไอ้คุณนิค กุรู้ว่ามรึงต้องเข้าใจ”
ไอ้เป้ตบไหล่ผมป๊าบใหญ่ ไอ้นี่ก็ลามนะมรึง เห็นกุไม่โกรธล่ะได้ใจ ผมเลยกัดไปหนึ่งแผล
“แล้วเมื่อกี้หมาตัวไหนมันทำตาขวาง น้ำลายยืดจะเอาเรื่องกุถ้าไอ้แม็คมันไม่จับไว้”
แผนซาดิสต์แกล้งเพื่อนเลยจบลงทั้งๆที่ยังไม่สะใจไอ้นิคเท่าไหร่ แต่เอาเถอะครับ คุยกันให้เข้าใจก็ดีกว่าค้างคา ส่วนเรื่องแกล้ง ผมยังมีเวลาแกล้งพวกมันอีกเยอะ ก็จนกว่าจะตายจากกันไปข้างหนึ่งล่ะครับ พอหายโมโหเพื่อนแล้วกระเพาะก็เริ่มส่งเสียง ไอ้เชฟแม็คเลยเอาปลาเผา หมูมะนาวที่มันบอกไว้เมื่อตอนเย็นยกออกมาขึ้นโต๊ะ ไอ้เชฟนี่พูดจริงทำจริงแฮะ วันนั้นผมเลยได้กินหมูมะนาวแกล้มเบียร์เย็นเป็นวุ้น ไอ้คุณนิคท้องอิ่มหลับสบาย งานนี้เลยต้องยกประโยชน์ให้จำเลยไปครับ โทษฐานที่รู้ใจกัน อัดฉีดผมซะขนาดนี้ หายโกรธครับ หายโกรธ
........................
ฉบับรีไรท์