:oni2:มาต่อกันเลย ก่อนจะโดนยำซะก่อน

..................................................
ตอนที่ 9 ได้เลือด
“เชี้ยเป้ มรึงอยุ่ไหนแล้ววะ พวกกุรอจนรากงอกแล้ว ร้านก็คนเยอะสาดๆ กุให้เวลาอีก 10 วิ ถ้า
มรึงยังมาไม่ถึง เมียมรึงเสร็จกุแน่ 555”
แอลกอฮอล์เข้าสู่กระแสเลือดในระดับที่แน่ใจได้ว่าหัวใจยังสามารถทำหน้าที่สูบฉีดเลือดได้อย่างดีเยี่ยม วู้... คอนเซปท์เดิมครับ เมาแล้วปากหมา วันนี้พวกผมพากันยกโขยงมาดินเนอร์หมากระทุ หมูกระทะกันที่ร้านแถวบ้าน ยิ่งวันนี้มีบอลแมทช์หยุดโลก พวกบ้าบอลทั้งหลายเลยเต็มร้านส่งเสียงดังเอะอะแบบไม่มีใครสนใจใคร แต่ต้องเลือกฝั่งดีๆนะครับ เกิดไม่ดูตาม้าตาเรือไปนั่งเชียร์ผิดฟากอาจมีสิทธิ์เหลือแต่ซากได้ ก็ศึกวันแดงเดือดนี่ครับ
“สาดดดด กุถึงแล้วว้อย แต่หาพวกมรึงไม่เจอ อยู่ไหนวะ โบกมือหน่อยดิ๊”
มันมองไม่เห็นพวกผม แต่ผมเห็นมันแล้วครับ นั่นไงไอ้ตัวสูงหัวเดรดร็อคเดินแหวกฝูงชนมาโน่นแล้ว แต่มันยังคงตาถั่วมองไม่เห็นผมอยู่ดี ไอ้นิครำคาญ เลยจับแขนไอ้คินขึ้นโบกๆ แล้วก็ตะโกนดังลั่นร้านว่า สาดดดดดดดเป้ ได้ผลครับ มันหันมาเห็นพอดี แต่ยังไม่ทันจะเดินมาที่โต๊ะมันก็โดนสาวเชียร์เบียร์ดักไว้ ไอ้เป้มันก็ได้แต่ทำหน้าปูเลี่ยนเมื่อเจอฤทธิ์ตื้อสาวเชียร์เบียร์เข้า ก็ดูหน้าตาบวกกับอายุอานามแล้ว คุณพี่เธอน่าจะไปเชียร์ให้ซื้อมันทั้งโรงเบียร์เลยดีกว่าครับ ก็เล่นเขี้ยวซะขนาดนั้น ดูสิครับ พอไอ้เป้มันหนีไปทางซ้ายพี่แกก็รีบโยกตัวดักซ้าย พอไอ้เป้มันเลี่ยงไปทางขวาพี่แกก็เอี้ยวขวากางแขนกันไว้ทุกประตู แววดีอย่างนี้น่าจะส่งไปประกบคู่คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ให้รู้แล้วรู้รอด
“เฮ้ยไอ้คิน ไปช่วยที่รักมรึงหน่อยป่ะ เดี๋ยวจะโดนป้าแกซิวไปซะก่อน”
ผมไล่ไอ้คินที่ทำหน้าเขินๆให้ออกไปช่วยไอ้เป้จากป้าเชียร์เบียร์ ก่อนจะกดรับโทรศัพท์ที่ดังขึ้นมาอีก วันนี้ไอ้คุณนิคฮอตเหลือหลาย โทรมาสายแทบไหม้ตั้งกะหัวค่ำแระ
“ว่าไงไอ้ตี๋ กุอยู่ร้าน .....เนี่ย เออ อยู่มันครบทุกตัวแหละ มรึงจะมาก็มาเลยอย่าถามมาก”
จากไอ้ต่อหน้าตี๋น่ะครับ มันบอกว่าจะมาหาผมที่นี่ ไม่รู้ช่วงนี้เกิดฮอตอะไรหนักหนามีแต่คนอยากเจอตัว ไอ้คินลากตัวไอ้เป้กลับมาได้แล้วครับ ฮู้ย...จับมือถือแขนกันเข้ามาไม่อายเพื่อน
“แมร่ง จะจับไปถึงไหนเพื่อนกุช้ำหมด”
ผมทำตัวเป็นหมาหวงก้างแกะมือไอ้เป้ออกจากแขนไอ้คิน เลยโดนไอ้เป้มอบตะกวดให้หนึ่งตัว
“เจี้ย”
ด่าผมแล้วก็ลากไอ้คินที่เอาแต่หน้าแดงไปนั่งข้างตัวเอง ถ้ารู้ว่าไอ้คู่นี้มันแหย่แล้วสนุกอย่างนี้ผมคงยัดเยียดให้มันตกล่องปล่องชิ้นกันไปตั้งนานละ
ผมนั่งปิ้งปลาหมึกอย่างเมามันก่อนจะคีบหมูสามชั้นบางๆเกรียมๆที่ไม่ได้ตั้งใจปิ้งเท่าไหร่ให้ไอ้คิน เพราะผมรู้ว่ามันชอบกิน แล้วกะจะแกล้งยั่วโมโหหึงไอ้เป้มันด้วยน่ะครับ ไอ้คินก็น่ารักซะ ไม่ได้รู้ตัวเลยว่าตัวเองกำลังถูกเพื่อนใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง คีบกุ้งตัวเป้งที่มันปิ้งไว้ให้ผม ขนาดไอ้เป้ขอมันยังไม่ให้แต่ไอ้คินมันให้ผม กุซึ้งๆว่ะจริงเพื่อน
“เฮ้ยๆ มรึงหวานกันผิดคู่รึเปล่าวะ” เสียงไอ้แม็คแซว
“ผิดอะไร ไอ้คินมันของกุแต่แรกแล้ว แต่หมาที่ไหนไม่รู้คาบไปแด๊ก”
ผมเอาตะเกียบชี้หน้าไอ้เป้แบบขำๆ แล้วเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นอีก คราวนี้เป็นเบอร์ไอ้เชน ช่วงนี้มันบังคับให้ผมติดรถมันไปเรียนทุกวันจนผมต้องเมมเบอร์มันไว้เผื่อวันไหนกลับค่ำจะได้บังคับให้มันนั่งรอโทษฐานที่เจือกทำตัวเป็นคนดีของสังคม ใช้เหตุผลในการบังคับให้ผมไปกับมันว่าช่วยกันประหยัดทรัพยากรโลก พลเมืองดีซะจริงนะมรึง แต่มันไม่ยักเอาเพื่อนมันมาด้วยทั้งที่เรียนวิศวะกันทั้งบ้าน ไอ้นี่มันแปลกคนครับ
“กุถึงแล้ว พวกมรึงอยู่ไหนกัน คนเยอะหาไม่เจอว่ะ โบกมือหน่อยดิ๊”
ไอ้นี่ก็มามุกเดียวกับไอ้เป้ ผมเลยลุกขึ้นยืนโบกมือให้พอเป็นพิธี แล้วมันก็มุกเดียว อีหรอบเดียวกับไอ้เป้จริงๆ ผมนั่งหัวเราะจนปวดท้อง ก็ไอ้ห้าตัวครบเซ็ทบอยแบนด์โดนฝูงสาวเชียร์เบียร์ล้อมกรอบจนขยับเขยื้อนไปไหนมาไหนไม่ได้ ได้แต่ทำหน้าแหยงๆกันหมด แต่ผมไม่ส่งตัวช่วยเข้าไปกู้สถานการณ์ให้นะครับ เห็นไอ้เชนมันพูดอะไรไม่รู้กับป้าเชียร์เบียร์แล้วชี้ๆมาทางโต๊ะผม แค่นั้นป้าเชียร์เบียร์แกก็ทำหน้าเซ็งๆแล้วปล่อยให้พวกมันห้าตัวออกจากวงล้อม
“แมร่งคนเยอะชิบ พวกมรึงนี่ใจดำจริงว่ะ อยู่ข้างบ้านแท้ๆแทนที่จะชวนกันสักหน่อย หนีหายกันมาทั้งบ้านงี้ กุน้อยใจนะเนี่ย”
ไอ้ปิงปองกับไอ้บูมแทคทีมกันต้ดพ้อต่อว่า น่ารักตายล่ะมรึง
“ว่าแต่พวกมรึงทำไงให้ป้าเขาปล่อยตัวมาได้วะ เมื่อกี้กว่ากุจะชิ่งจากป้าแกได้เล่นเอาเหงื่อแตก”
“เหงื่อแตกหรืออะไรแตกวะ ไอ้เป้ กร๊ากๆ”
“ปากมรึงน่ะสิจะแตก ไอ้คุณชายนิค เดี๋ยวเหอะมรึง”
ไอ้เป้หันมาด่าผม มันถามพวกบอยแบนด์แบบอยากรู้จริงจังแต่โดนไอ้คุณนิคภาคเมาแล้วปากหมาขัดคอ จนไอ้โก้ต้องคีบเอาปลาหมึกที่ผมปิ้งไว้ยัดเข้าปากผมแบบร้อนๆจนลิ้นแทบสุก ต้องรีบกระดกเบียร์เข้าดับร้อนอึกใหญ่ แล้วผมกับมันก็มอบตะกวดให้กันอีกฝูงใหญ่
“เชี้ยโก้ / เชี้ยนิค” ประสานเสียงด่ากันดังลั่น
“ตอนแรกกุก็กลัวๆป้าเขาอยู่เหมือนกันแหละ แต่ไอ้เชนมันหัวใส พอเห็นไอ้คุณนิคชะเง้อมองมาที่พวกกุอยู่พอดี ไอ้เชนมันเลยบอกไปว่า ไอ้หน้าสวยที่ชะเง้อมองอยู่นั่นแฟนมัน แถมดุอย่างกับหมา ป้าแกเลยเซ็ง แกบอกว่าเมื่อกี้โต๊ะนี้ก็ซิวลูกค้าป้าแกไปคนหนึ่งแล้ว”
ไอ้บูมเล่าไปขำไป แล้วลูกค้าของป้าเชียร์(โรง)เบียร์ก่อนหน้าพวกไอ้บูมก็คงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากไอ้เป้ล่ะครับ
“ทำไมมรึงไม่บอกป้าเขาไปเลยว่าไอ้โต๊ะนี้มันผัวเมียกันแมร่งทั้งหมดไปเลยล่ะ สาดดดด”
ผมเลยเจริญพรอวยชัยไอ้เชนเสียยาวเหยียด คืนนั้นกะจะนั่งกันยาว ถ้าโต๊ะข้างๆไม่ตีกันซะก่อน เข้าทำนองบอลจบอารมณ์ไม่จบ เข้าคลุกวงใน ฟัดกันนัวเนีย แบบนี้ถ้าท่านปู่กับท่านตาผมมาเห็นคงรีบจับไปเซ็นสัญญาเป็นนักมวยในค่ายแน่
ไอ้พวกผมสิบตัวก็เหมือนกันครับ บอลจบแต่อารมณ์ไม่จบ ไม่ใช่อารมณ์ตีกันนะครับ แต่เป็นอารมณ์ติดลมแอลกอฮอล์ต่างหาก ว่าแล้วก็เลยปรึกษากันประมาณห้าวิฯ ก่อนจะเห็นพ้องต้องกันแบบมติเป็นเอกฉันท์ว่าเราจะแวะเซเว่นซื้อน้ำเมาไปโจ้กันต่อที่บ้านผม โดยฝั่งบ้านผมเอารถยนต์ไอ้เป้มาแค่คันเดียวแต่ฝั่งไอ้ข้างบ้านเอามาสองคัน ของไอ้เชนหนึ่ง ของไอ้แซ็คอีกหนึ่ง ผมเลยถูกเพื่อนๆอัปเปหิไปนั่งรถไอ้เชนเพราะเป่ายิ้งฉุบแพ้ต้องรับหน้าที่แวะซื้อของ
พอไอ้หน้าหล่อมันจอดรถ ผมเปิดประตูลงมาก็เจอของดีเลยครับ พี่แคลร์เดินอยู่กับไอ้หน้าเหียกแล้วก็เพื่อนผู้ชายอีกสามสี่คน แฟนเก่าผมเธอจ้องเขม็งมองมาอย่างไม่พอใจเพราะผมเดินเคียงกับไอ้เชนเข้าเซเว่นไปอย่างไม่แยแส พอซื้อของแล้วลำเลียงขึ้นรถเสร็จก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด
พี่แคลร์เดินเข้ามากระชากแขนผมแล้วถามเสียงดังแบบไม่อายคน
“ที่นิคไม่คิดจะง้อพี่เพราะนิคมีใหม่ใช่มั้ย”
“ใครกันแน่ที่มีใหม่ เห็นควงกันอย่างนี้แล้วยังจะมาโบ้ยความผิดให้ผมนี่ไม่แฟร์เลยนะ”
เล่นตามเกมเธอหน่อยแล้วกันครับ พี่แคลร์คงยังไม่รู้ว่าผมแอบไปสืบความลับของอิพี่เจนี่ แบบหมดไส้หมดพุงแล้ว
“ก็ดีกว่านิคที่มีแฟนใหม่เป็นผู้ชายด้วยกันล่ะ ทำไมล่ะนิค นิคไม่แคร์พี่เลยใช่มั้ย ไม่คิดจะโทรมาง้อเลยสักนิด พี่น่าจะรู้นะว่าหน้าตาอย่างนิคนี่ยังไงก็หนีไม่พ้นผู้ชายด้วยกันหรอก”
มาเป็นชุดเลยครับ เสียหายหมดกันคราวนี้ไอ้นิค ผมถอนใจเซ็งๆ เบื่อจริงๆครับ ผู้หญิงเรื่องมากไร้เหตุผลอย่างนี้ ผมแกะมือเธอยังไงก็ไม่ออก มือเหนียวอย่างกับทากาวช้างเลยครับพี่แคลร์
“ผมว่าเลิกแล้วต่อกันเถอะครับ” ไอ้เชนก็ไม่ได้โกรธเล้ย โดนว่าซะขนาดนั้นยังทำพระเอก
“ไม่ต้องมายุ่ง เรื่องของผัวเมียเขาจะเคลียร์กัน”
โห ผมล่ะอึ้งเลยครับ ไม่คิดว่าพี่แคลร์จะโกรธจนหน้ามืดพูดคำนี้ออกมาทั้งที่ตัวเองเป็นผู้หญิง ไม่พอพี่แคลร์ยังปล่อยมือจากผมหันไปผลักอกไอ้เชนมันสุดแรง แต่ไอ้นี่มันตัวโตสูงเป็นเปรต แรงเท่ามดของผู้หญิงตัวเล็กๆอย่างพี่แคลร์เลยไม่สะเทือน แต่กลับเป็นตัวพี่แคลร์เองที่เซเพราะใส่ส้นเข็มแบบสูงปรี๊ดเลยทรงตัวไม่ได้ก้นจ้ำเบ้าลงพื้นถนน
“สัด มรึงทำร้ายผู้หญิงได้ไงวะ”
อิพี่เจนี่ทำหน้าโหดเข้าพยุงพี่แคลร์ให้ลุกขึ้นแล้วถามเสียงเหี้ยม ฮู้ย กลัวจริงๆกลัวจนอุจจาระหดลมตดหายแล้ว ไอ้พี่เจนี่ ผมละหน่ายกับละครห่วยๆของคนทั้งคู่
“มรึงช่วยแหกตาดูหน่อยว่าเมื่อกี้เพื่อนกุไม่ได้ทำอะไรผู้หญิงของมรึงสักนิด จะมีก็แต่ผู้หญิงของ
มรึงนั่นแหละที่มาหาเรื่องพวกกุก่อน ใช่มั้ย พี่เจนี่”
ผมยิ้มเหี้ยมใส่มองหน้าซีดสลับแดงของอีกฝ่ายด้วยความสะใจ เป็นไงล่ะมรึง ไม่คิดว่ากุจะรู้เรื่อง
มรึงสินะ อิพี่เจนี่
และนาทีนั้นเอง เสียงกรี๊ดของใครไม่รู้ก็ดังลั่น ไอ้หน้าเหียกนั่นดึงตัวพี่แคลร์ออกไปแล้วปล่อยให้ไอ้ผู้ชายสี่คนที่มาด้วยกันเฮโลเข้ารุมผมกับไอ้เชนสองคนแบบไม่ยั้งมือ แต่มันคงไม่คิดว่าผมจะสายเลือดนักมวย หมัดเข่าศอกและตรีนผมหนักยิ่งกว่าไมค์ ไทสัน (รึเปล่า) ส่วนไอ้เชน ไอ้นี่ก็เก๋าพอตัวครับ เตะไอ้พวกนั้นดังพลั่กๆ อย่างกับเกมส์สตรีทไฟว์เตอร์ สี่ต่อสองแบบนี้เลยไม่ ระคายมือผมสักนิด จริงนะครับ ม่ายด้ายโม้....
“เฮ้ย นิคระวัง !”
เสียงไอ้เชนตะโกนบอก แต่ช้าไปครับ เสียงแหวกอากาศดังวืด แล้วก็เปรี้ยง ดังขึ้นพร้อมกับอาการมึนๆที่หัว เจ็บจี๊ดๆที่แขนของผม แล้วเลือดสีแดงสดก็ไหลออกมาจากแขนจนชุ่มเสื้อ เสียงกรี๊ดดังขึ้นอีกครั้งพร้อมกับไอ้เชนเข้ามาประคองผมไว้ มันหน้าซีดเป็นไก่ต้ม ก่อนจะถอดเสื้อยืดของมันนั่นแหละครับ ถอดออกแล้วใช้กดแผลห้ามเลือดไว้ให้ผม
“กุไม่เป็นไร มรึงทำใจดีๆไว้” กลับเป็นผมที่ต้องปลอบไอ้เชน
ก็ไอ้พวกนั้นมันสู้ผมไม่ได้เลยใช้ไม้บรรทัดเหล็กยาวเกือบช่วงแขนที่พกมาด้วยเป็นอาวุธ แต่พอดีผมยกแขนขึ้นตั้งการ์ดไว้ได้ทัน หัวผมเลยไม่แบะ แค่โดนแบบโนๆ แต่แขนแหกได้เลือดแทนครับ
พอดีพี่ยามกับคุณลุงร้านผัดไทยแถวๆนั้นวิ่งเข้ามาเลยรวบตัวไอ้คู่กรณีผมไว้ได้หมด แล้วก็ตามมาด้วยคุณตำรวจ และหน่วยกู้ภัยร่วมกตัญญูตามมาเป็นชุดสุดท้าย
ตอนแรกผมกะจะด่าว่าใครแช่งกุถึงได้เรียกร่วมกตัญญูมาอย่างนี้ เพิ่งมารู้ตอนหลังว่าพี่ๆเขาจะไปช่วยทุกงานที่มีอุบัติเหตุ แบบว่าไปทุกงานที่มีคนเดือดร้อนต้องการความช่วยเหลือเหมือนพี่เขาซุปเปอร์แมนน่ะครับ อย่างแมวติดบนต้นไม้ งูหลามเข้าบ้าน มีต่อเสือทำรังในห้องนอน อะไรทำนองนี้แหละครับ โทรเรียกได้แล้วพี่เขาจะไปช่วย ช่างเป็นคนศรีสังคมซะจริง ต่างจากไอ้พวกสี่ตัวคู่กรณีผม มันดัดจริตทำสั่นครับ แค่ขึ้นโรงพักแค่นี้ทำสั่น อะโด่ ไอ้พวกไม่แน่จริง
ผมไปให้หมอทำแผลก่อนแล้วจึงกลับมาให้ปากคำที่โรงพัก พอจ่ายศแกเห็นหน้าผมแกก็ทักแบบไม่ไว้หน้ากันเลยครับ
“ขึ้นโรงพักทุกเทอมเลยนะนคินทร์ แล้วคราวนี้จะนอนกี่คืนดีล่ะ ฉันจะได้โทรบอกปู่เธอถูก”
ผมกับจ่าซี้กันแล้วไปโดยปริยายครับ
“โหยจ่า นี่ผมเจ้าทุกข์นะครับ”
ว่าแล้วไอ้เชนก็ดึงผมให้นั่งลงข้างมันเบาๆ หันไปเห็นหน้าไอ้สี่ตัวนั่นกับไอ้หน้าเหียกแล้วคำพูดของเฮียสิทธิ์ว่า ระวังมันจะเอาผัวเด็กช่างมารุมยำแก ก็ดังขึ้นในหัว ไม่คิดว่าปากเฮียแกจะวาจาสิทธิ์สมชื่อซะขนาดนี้
“ผมจะลงบันทึกไว้ก็แล้วกันนะ ว่าแต่เธอจะไม่เอาเรื่องแน่นะ”
ประโยคหลังจ่ายศแกหันมาถามผมเพื่อความแน่ใจ
“แน่ใจครับ ยังไงพี่เจนี่เขาก็ปีสี่แล้วเดี๋ยวเรียนไม่จบผมจะบาปเอา ส่วนไอ้สี่ตัวนั่น จ่าลงบันทึกไว้ก็พอ แต่ถ้าวันไหนผมเกิดโดนมือมืดดักตีหัวขึ้นมาจ่าจะได้หาตัวคนร้ายได้ง่ายๆไม่ต้องสืบให้ปวดหัว”
เล่นกับใครไม่เล่น มาเล่นกับไอ้นิคครับ พอเสร็จเรื่องแล้วผมก็รีบชวนไอ้เชนกลับบ้านเพราะทิ้งเหล้าไว้ในรถนานเดี๋ยวมันจะบูด แหะๆ
“นิค พี่ขอโทษนะ” พี่แคลร์สะอื้นฮักๆเข้ามาขอโทษ
“ช่างเถอะครับ ถือว่าเลิกแล้วต่อกัน ต่อไปก็ต่างฝ่ายต่างอยู่”
ผมเกาะแขนไอ้เชนเดินลงจากสน.ไปที่รถเพราะยังปวดแผลที่โดนเย็บไปตั้งห้าเข็ม ส่วนไอ้พวกสี่ตัวนั่นก็เอาแต่เมียงๆมองๆกล้าๆกลัวๆ สุดท้ายมันเลยให้ไอ้หน้าเหียกเข้ามาขอโทษและขอบคุณที่ผมไม่เอาเรื่อง ผมได้ทีเลยขู่พี่เจนี่กับบรรดาผอสระอัวทั้งสี่ (รึเปล่า) ของพี่แกซะจนกลัวหงอ ก็มันโดนแม่ไม้มวยไทยของผมกับไอ้เชนไปกันจนหน้าแหก ปากเจ่อไม่น้อย แถมผมยังท่าทางซี้กับตำรวจที่นี่ซะขนาดนั้น บอกแล้วว่าเล่นกับใครไม่เล่น
กลับมาถึงบ้านในสภาพที่แขนผมโดนพันเป็นมัมมี่ ส่วนไอ้เชนก็ยืนอวดกล้ามสวยๆมีเสื้อเปื้อนเลือดพาดบ่าไว้ ไอ้พวกที่ทำท่าจะโวยวายเพราะคนซื้อเหล้าหายต๋อมไปก็เปลี่ยนไปทำหน้าตาตื่นพร้อมเข้ามาถามไถ่อาการผมเสียงดังเซ็งแซ่
“คิน กุเจ็บแผลว่ะ” เจ็บแล้วยังไม่เจียมครับ เห็นหน้าไอ้คู่รักแล้วเลยขอแกล้งไอ้เป้เสียหน่อย
“กุน่าจะไปกับมรึงด้วย เห็นมั้ยกุบอกแล้วว่าอย่าใจร้อน”
ไอ้คินเสียงสั่นๆตาแดงๆเป็นห่วงผมจนหน้าซีด ผมเลยได้ทีออเซาะมันพร้อมกับซบไหล่ไอ้คินจนไอ้เป้อดเขม่นไม่ได้ ก็ไอ้เป้มันรู้ว่าผมฟอร์มน่ะครับ
“มรึงถอยมาเลยไอ้คุณนิค”
ไอ้เป้ยังไม่ทันจะจับตัว ผมก็แกล้งร้องซะเสียงหลง กะจะให้ไอ้คินด่าแฟนมัน แต่ไอ้เชนไม่รู้มาจากไหน มันใส่เสื้อคอย้วยลายเด็กใส่ผ้าขาวม้าตัวโปรดของผมถลาเข้ามาหาซะก่อน
“ไอ้เป้มรึงถอยไปก่อน เป็นไรมากป่ะวะนิค”
ผมเห็นหน้าตื่นๆของไอ้เชนเลยหัวเราะกร๊ากเสียงดัง แค่นั้นทุกคนในบ้านก็รู้ว่าผมไม่ได้เจ็บมากเท่าไหร่ แต่แค่ฟอร์มทำสำออยไปอย่างนั้นเอง
คืนนั้นผมยังซ่าดวดเหล้าได้ต่อ แต่ก็แอบเซ็งเล็กน้อยที่ไอ้เชนมันประกบอยู่ไม่ห่างแถมเหล้าแต่ละแก้วที่มันชงให้ก็เห็นมีแต่เป๊ปซี่กับน้ำแข็ง เหล้าสักหยดก็ไม่เห็นจะได้กลิ่น พอถาม มันก็บอกใส่แล้วๆ แบบนี้ต่อให้กินทั้งชาติก็ไม่เมาหรอกครับ คุณชายนิคล่ะเซ็งจิต
..................................................
:m13:ฉบับรีไรท์