กาลกีรตี บทที่ 17
"คิดว่าสู้คนอื่นเขาไหวไหม 'ภัทร' ?"
หือ.....!? ชะงักกึกครับ กำลังดูงานดีไซน์ที่คุณราม ปริ้นท์มาให้อยู่ แถมอีกมือยังตักข้าวในสำรับเล็กเข้าปากไปด้วย...พอได้ยินชื่อนั้นคิ้วผมมันก็ขมวดโดยอัตโนมัติ....อีกแล้ว ... ไหนว่าเข้าใจไง? ชื่อนั้นมันให้เรียกได้แค่บางคน...[เฟ้ย!]
“...ไม่คุ้นหูหรือ? ไม่เป็นไรหรอก...พี่เรียก ภัทร บ่อยๆเดียวก็ชินไปเอง ... โปรเจคนี้นานอยู่แล้วหล่ะ 'ภัทร' ”
“...แล้วถ้า ‘ไอเดียร์’ ไม่รับงานนี้หล่ะครับ?”
ยิ้มหวานผมส่งไปพร้อมความกวนตีนในน้ำเสียง ...เริ่มเล่นสงครามประสาทกันแล้วครับ ระหว่างผมกับคุณราม ก็บอกแล้วไม่ใช่หรอให้เรียก ไอเดียร์ ถ้ามันยากไปเรียกเดียร์ ก็ได้... ทำไมคนๆนี้คิดเองเออเองตลอด ถ้าถามผมแล้วสุดท้ายก็ทำอย่างที่ตัวเองคิดอยู่ดี งั้นก็ไม่ต้องถามให้เมื่อยปากสิ เพราะยังไงก็จะทำอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ?
“ถ้า ‘ภัทร’ ไม่ได้งานนี้ก็ต้องเป็นเพราะ ทาง ‘พี่’ไม่ปล่อยงานผ่าน ไม่ใช่เพราะ ‘ภัทร’ ปฏิเสธ ครับ ”
“แต่ผมก็มีสิทธิ์ที่จะเลือกส่งหรือไม่ส่งงานก็ได้ไม่ใช่หรอครับ ? แล้วถ้าผมเห็นว่าความสามารถผมมีไม่พอบางทีผมก็อาจปฏิเสธงานนี้ก็ได้ครับคุณราม... ”
“...หรือครับ...? 'ภัทร' กล้าที่จะทิ้งงาน " Secret Tale Project " นี้จริงๆหรือครับ? หือ.....เด็กดื้อ ”
......................
.........................................
อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก! สงครามยกแรก แพ้อย่างหมดรูปครับ ...สำหรับผม เหมือนคุณราม หน้าตายนั้นจะรู้จุดอ่อนผมทุกอย่าง ปิดผมได้หมดทุดช่อง ดักผมได้หมดทุกทาง พอผมเริ่มจะวีนแตก พี่แกก็ดึงผมไปกอดแล้วลูบหัวซะอย่างนั้น ... ตอนแรกคิดเลยว่า งานนี้ผมบายแน่ เห็นตัวงานจากที่อื่นแล้วมันท้อครับ มาตรฐานมันต่างกันมากเลย น้ำตาจะไหล ... รับงานไปผมคงมีแต่เสียกับเสีย เสียทั้งชื่อกับเสียทั้งหน้า ....
ถามว่าอยากได้งานนี้ไหม คำถามนี้เลิกถามผมเลย ผมบอกตั้งแต่แรกแล้ว โปรเจค นี้เทพขนาดไหน เหมือนที่คุณรามแกถาม... ผมกล้าหรือที่จะปล่อยโปรเจคนี้ไป? คำตอบคือ ‘ไม่’ แต่ถ้าให้ผมทำคนเดียวงานนี้ จอดสนิท ..งานก็อยากได้ กลัวก็กลัว ...กังวลโคตรๆ กับไอ้ " Secret Tale Project " นี้หล่ะ
.....
..
“กลัวอะไร ครับ ภัทร คนเก่ง หือ...? มีพี่อยู่ทั้งคน”
“ทำไมคุณรามเลือกผม ?พี่วุฒิบอกว่า คุณรามเป็นคนคัดงานผมจาก เนมดีไซน์ ....อะไรคือ มาตรฐานที่คุณรามเลือกงานผมครับ ?ในเมื่อคุณราม มีงานดีไซน์อื่นที่ผมแทบเทียบไม่ติดด้วยซ้ำ? ”
“ตัวเธอไง ‘ภัทร’”
หง่ะ !!! เล่นเอาเสียววาบเลยครับ เสียงโทนต่ำของคุณรามอยู่ๆก็มากระซิบข้างๆ หู วงแขนที่กอดผมไว้...ก็ยิ่งแน่นขึ้นอีก...ไม่ได้กลัวนะ แต่มันเหมือนปฏิกิริยาอัตโนมัติ ผมได้แต่นิ่งอยู่ในวงแขนคุณราม แค่ขยับ ผมยังไม่กล้า...ก็ริมฝีปากกับหน้าคุณรามมันมาคลอเคลียอยู่ใกล้ๆ หน้าผม...ห่างไม่ถึงฝ่ามือด้วยซ้ำ....หง่ะ ! เอาคางมาเกยไหล่กูอีกหล่ะ...
“เคยฟังนิทานไหม ‘ภัทร’ เรื่องเล่าหน่ะ ... พี่ให้ ภัทร คิด...มีดินแดนหนึ่งอยู่บนหลังปลา ทุกครั้งที่ปลานั้นขยับตัว ดินแดนนั้นก็จะสั่นไหว ...ภัทร รู้ความลับของปลาตัวนั้นไหม?... มีความลับของครุฑ กับนาค ความลับของ อำนาจ... ภัทร รู้ความลับนั้นไหม? นั่นเป็นคำตอบ...ว่าทำไม พี่ถึงเลือก ภัทร ...วันไหนที่ ภัทร รู้คำตอบ ภัทร มาหาพี่ได้เสมอนะ ... ส่วนเรื่องงาน ไว้เจอกันวันจันทร์... พี่รู้ว่าเด็กดื้ออย่าง ภัทร ‘ทำได้’ คำตอบของ " Secret Tale Project " พี่รู้ว่า ภัทร ต้องรู้ ...”
เสียงกระซิบใกล้ๆซอกคอผมมัน....ใกล้เกินไป .....
......................
.........................................
ช็อคครับ!!! ...เก็บของวิ่งลงมาชั้นล่างแทบไม่ทัน ผมทั้งตกใจแล้วก็งงกับคำพูดของคุณราม ที่ว่าตกใจก็ตอนคุณราม ยึดไหล่ผมไว้แล้ว โน้มตัวลงมากัดแล้วเลียซ้ำที่รอยฟันของ ไอ้มังคุดนั้นหล่ะ... ผมวิ่งลงบันไดมาแบบลืมตาย! ถ้าโดนผู้หญิงลวนลามผมยอมพลีกาย แต่โดนผู้ชายลวนลาม ....อธิบายความรู้สึกไม่ออก ...
ถึงชั้นล่างกำลังจะเดินหลบออกจาก ร้านเรือนน้ำชาอยู่แล้ว จู่ๆ ป้าในร้านก็เรียกผมไว้ พร้อมยื่นถุงกับข้าวให้หลายถุงมีกระติกน้ำใบเล็กที่ผมเดาได้เลยว่าเป็นน้ำชาหอมๆที่ผมดื่มเอาดื่มเอาตอนอยู่บนห้องคุณราม แน่ๆ ....
“คุณคะ คุณราม เรียนสายด้วยคะ”
ป้าแกยื่นโทรศัพท์ให้.. ผมทำอะไรไม่ได้นอกจากรับสายแล้ว จ้องมองขึ้นไปที่บันไดชั้นบน …
“กับข้าวรสชาติใช้ได้อยู่ พี่ให้ภัทรเอากลับไปทานบ้านครับ ...หรือจะเอาไปฝาก ‘หมา’ ที่บ้านก็ได้เผื่อมันหายหิวจะได้ลดความดุลง แต่น้ำชาพี่ให้ ภัทร คนเดียวนะครับ ดื่มแล้วคิดถึงพี่ด้วยหล่ะ ...อย่าขมวดคิ้วครับ ไม่น่ารักเลย ... แล้วเจอกันวันจันทร์นะครับ ภัทร ....เรื่องคำตอบ พี่ไม่รีบร้อน ... ”
“แล้ว....ถ้าวันจันทร์ผมไม่มาหล่ะครับ”
“ภัทร คิดว่าพี่จะกล้าไปลาก ภัทร ออกมาจากบ้านพักไหมหล่ะครับ?ถ้า ภัทร ไม่มา...หือ..?”
"ต้องทำขนาดนั้นเลยหรอครับ? คุณรามเป็นแค่ 'ว่าที่นายจ้างผม' ก็แค่นั้น..."
"ไม่หรอก...สำหรับ ภัทร พี่เป็นมากกว่านั้นเยอะครับ 'ภัทร ' "
......................
.........................................
'ดื้อ...เหมือนเดิม'
เจ้าของร้านเรือนน้ำชา ได้แต่ยิ้มกับตัวเองเมื่อสายตาที่มองลงมาจากชั้นสอง หยุดอยู่ที่ ชายหนุ่มที่ถือของพะรุงพะรัง... ตนรู้ดีว่า ถ้าเป็นเหตุการณ์ปกติข้าวของเหล่านั้นจะโดนทิ้งไว้ที่ร้านแน่ เพราะ 'ภัทร' ไม่ชอบอะไรที่เป็นภาระ แต่ถ้าลองหอบของกินกลับไปด้วยแบบนี้ แถมร่องรอยบนตัวแบบนั้นอีก... แสดงว่า โดน 'มัน' เจอแล้วสินะ ... ก็ดี ... คราวนี้มันจะได้รู้กันไป ว่า... จะเลือกใคร ... ไม่สิ......ต่อให้ครั้งนี้ ไม่เลือก ก็จะทำให้เลือก ไม่มีทางที่จะเป็นอื่นอีกแล้ว ... ทางหนีมันไม่มีอีกแล้ว 'ภัทร'
......................
.........................................
[และฉันต้องรออีกนานสักเพียงไหน ใจที่มันละลายจะเริ่มชินกับความเหงา และฉันต้องทนต้องทรมานกับความปวดร้าว
กับเรื่องของเรา และฉันจะทำอย่างไรต่อจากนี้ วันเวลาดีๆ ที่มีหมดความหมาย แล้วฉันจะทนได้นานสักเพียงไหน กับช่วงเวลาทีมันเดียวดายไม่มีเธอ และฉันต้องรออีกนานสักเพียงไหน ใจที่มันละลายจะเริ่มชินกับความเหงา และฉันต้องทนต้องทรมานกับความปวดร้าว กับเรื่องของเราอีกนานเท่าไหร่]
ในเครื่องคอมพิวเตอร์ ....เสียงเพลงนั่นมันวนเวียนกันเป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วไม่รู้... เพราะดี... แต่ฟังไม่เข้าใจ ...ลืมตาตื่นมาได้ก็ตกใจอยู่เหมือนกันที่ไม่เห็น คนในความฝันที่ดันกลายเป็นความจริง 'กลิ่นหอมแปลก' ที่ติดมาจากความฝัน ไม่คิดว่าจะยังคงลอยอวลอยู่รอบห้อง และที่ยิ่งแปลก...ทำไมทั้งๆที่หลับเป็นตายขนาดนั้น ถึง 'ไม่กลับสภาพเดิม'
...กระดาษสีสดสะท้อนตา แปะอยู่ที่ช่วงท้อง หยิบคว้ามาได้ก็ทำให้อารมณ์ดีอย่างคาดไม่ถึง
'กิน ใน ตู้เย็น// Eat in Refrigerator//mangiare in frigorifero '
อักษรง่ายๆ สองบรรทัดล่างพอเข้าใจ อังกฤษ กับ อิตาเลี่ยน ...แต่อักษรแปลกบนสุด ไม่รู้เรื่องจริงๆ ความจริงภาษาอังกฤษก็พอเข้าใจอยู่ แต่ไม่ถนัดที่จะพูด ชาตินิยมมันค้ำคอ ภาษาอังกฤษไม่ใช่ภาษาบ้านเกิดสักหน่อย ทำไมต้องพูด ... ครั้งแรกที่เจอ 'ภัทร' ก็เหมือนกัน ฟังเข้าใจ จนเผลอตอบกลับไป เป็นภาษาอังกฤษ แต่อารมณ์นั้น ใครจะ 'พอ' ก็คนที่ฝันถึงมาตลอด มาอยู่ในอ้อมกอดแล้ว...ไม่เผลอ 'กินเข้าไปทั้งตัว' ก็ดีเท่าไหร่แล้ว... อยากกินเข้าไป อยากเก็บไว้คนเดียว ... แต่ถ้ากินเข้าไปแล้ว ก็จะไม่ได้เห็นดวงตาคู่นั้นอีก ไม่ได้กลิ่นหอมเฉพาะตัวนั้นอีก ไม่ได้กอด ไม่ได้ ดูแล และอยู่ใกล้ๆ อีก ... อยากกินเข้าไปทั้งตัวอยู่ แต่ถ้าทำอย่างนั้นจะมีอีกหลายอย่างที่หายไป ....
ตรงหน้าอก มีกระดาษนั่นอีกแล้ว ...
'รอ // wait // aspettare '
รองั้นหรอ? ต้องให้รออีกนานแค่ไหน ? เขียนได้ พูดได้ แต่ลองมาเป็นคนที่รอสิ... เสียงนาฬิกากับเข็มนาทีที่เคลื่อนไปช้าๆ มันช้าเกินไป
แล้วก็อีกแผ่นบนหน้าผาก ...
'ไปทำงาน // go to work //andare a lavorare '
ก็เข้าใจอยู่ แต่ก็อดคิดไม่ได้เหมือนกัน ถ้าอยากซื้อคนในความฝัน หล่ะ ซื้อไว้กับตัว ไม่ต้องห่างกัน ไม่ต้องไปทำงาน ลายเซ็นต์ที่เซ็นต์ลงบนเช็ค ลองระบุตัวเลขเสนอมาสิ จะเซ็นต์ให้ ... ไหนๆก็ลองสินค้าไปแล้ว แถมยังถูกใจมากเสียด้วยสิ ...
...เสียงเพลงเดิมๆ ยังดังอยู่ไม่ยอมหยุด พาให้ต้องก้าวลงจากเตียง มานั่งบนเก้าอี้ตัวใหญ่หน้าเครื่องคอมฯ ลากเม้าส์ ให้หน้าจอคอมนั้นสว่าง 'ภาพ' อีกด้านของตัวเองที่ถูกขึ้นเป็นพื้นหลังหน้าจอคอมฯ ... อดไม่ได้ที่จะหันหลังกลับไปมอง อีกภาพใหญ่ที่วาดพาดไว้บนผนังห้อง ... รอยยิ้ม มันหลุดออกมาจากไหนกันนะ ...
อีกนานไหม? สำหรับงาน... ชักอยากจะกอดอีกแล้วสิ .....