It's Real เดี๋ยวรักเลย♥ พิเศษ HAPPY FAMILY♥
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: It's Real เดี๋ยวรักเลย♥ พิเศษ HAPPY FAMILY♥  (อ่าน 198552 ครั้ง)

ออฟไลน์ aloney

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 743
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-4
เรื่องไปเร็วมาก ก

ขอให้จับคนชั่วให้ได้นะ

หวังว่าคงไม่มีดราม่าคู่โซลกับตาต้านะ

taem2love

  • บุคคลทั่วไป
จากนิยายรักหวานใสทำไมกลายเป็นแอ็คชั่นยิงกันเลือดสาดแบบนี้ล่ะ ฉันอยากไปกระฉากนางวิจิตรามากระทืบๆมากๆ โอ้ย!!!ไม่ปลื้มนะค่ะจบ!

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41

ออฟไลน์ Pupay

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +171/-1
กริ๊ดกร๊าดดดด เพิ่งมาเห็นเรื่องนี้ของคุณคนแต่งอ่ะ พลาดมากกกก
เรื่องนี้ก็ชอบบบ เรื่องของพี่อาร์ทที่เพิ่งจบไปก็ชอบบ
มาตามอ่านอีกเรื่องนึง น่าจะเรื่องยาวด้วย อิอิ  :man1:
ไอ้ป้องนี่โหดมากอ่ะ แค่หมั่นไส้ มันโรคจิตแหง่มๆ  :angry2:

 :pig4:นะคะ

ออฟไลน์ wanmai

  • ★รักใสปิ๊ง★(>_<)
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 936
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1195/-5
*ตอนนี้แอบยาวนิดนึงเนาะ แบบว่าไม่อยากตัดจบให้ค้างกับฉากสำคัญ* :a11:



It’s Real เดี๋ยวรักเลย


ตอนที่ ๑๗ เรื่องของเรา




ณ มลรัฐเนวาดา ประเทศสหรัฐอเมริกา

ลาสเวกัส มหานครแห่งคาสิโนและธุรกิจที่ยิ่งใหญ่ระดับโลก ผู้คนที่มา ณ ที่แห่งนี้ต่างต้องการมาแสวงหาผลประโยชน์ ไม่มีใครจะสนใจใครมากกว่าตนเอง ในยามค่ำคืนบนตรอกซอกซอยของเมืองนี้ ปรากฎร่างของชายหนุ่มหนึ่งนายที่กำลังออกวิ่ง และวิ่ง เพื่อที่จะให้หลุดพ้นจากการตามล่าของบุคคลพร้อมอาวุธ เขาเพียงก้าวพลาดไปก้าวเดียวเท่านั้น ไม่นึกว่าจะไปเหยียบเท้าผู้ที่มีอิทธิพลในโลกมืดเข้า จนต้องมาหนีตายอยู่เช่นนี้

แม้จะเหนื่อยล้าจนแทบสิ้นแรง แต่เขาก็หยุดไม่ได้ ชายหนุ่มคนนั้นวิ่งไปจนสุดทาง ด้านหน้าคือกำแพงหนาทึบ ไม่มีหนทางที่จะไปต่อ หัวใจที่เต้นระรัวด้วยความเหนื่อยเหมือนจะหยุดลงในเสี้ยววินาที หนีไม่ได้แล้ว

เมื่อหมดหนทางจะหนี ชายหนุ่มจึงหันกลับมาเผชิญหน้าชายฉกรรจ์ร่างสูงใหญ่สามนายบ่งบอกสัญชาติด้วยผิวสีดำ ในมือของทุกคนมีอาวุธที่จะปลิดชีวิตเขาได้ทุกเมื่อ ร่างสูงโปร่งที่จนหนทางยืดอกขึ้นอย่างไม่ยอมที่จะก้มหัวขอร้องใคร อย่างมากแค่ตายจะไปกลัวอะไร ชายฉกรรจ์ทั้งสามคนที่ตามล่าเขาเดินเข้ามาใกล้ก่อนจะพุ่งเข้าจับตัวเขาล็อกไว้ แม้อยากจะขัดขืนแต่ก็รู้ว่าไร้ประโยชน์ บทสรุปชีวิตของเขาต้องมาจบลงอย่างน่าอนาถขนาดนี้เชียวหรือ?



+++++++++



ประเทศไทย

ความคืบหน้าในคดีของดินได้รับการดำเนินการตามกฎหมาย คนที่ถูกซัดทอดอย่างปรเมศวร์แม้ในตอนนี้ก็ยังหาตัวไม่พบ ประสานงานไปยังประเทศที่ปรเมศวร์เดินทางไปแล้วแต่ยังไม่มีวี่แววว่าจะพบเจอ จนสืบค้นเจอที่สุดท้ายที่ปรเมศวร์ไป บ่อนการพนันหรือคาสิโนแห่งหนึ่งในลาสเวกัส และหลังจากนั้นก็ไม่มีข้อมูลของปรเมศวร์ว่าอยู่ที่ไหนอีก

ผู้ร้ายทั้งสองคนถูกดำเนินคดีถึงที่สุด คนที่เป็นเจ้าทุกข์ก่อนหน้าก็ร่วมเอาผิดด้วยทำให้ไม่สามารถลดหย่อนโทษให้ได้ด้วยประการทั้งปวง ทั้งข้อหาพยายามฆ่าในกรณีของดิน และข้อหาฆาตกรรมในอีกหลายคดี

“ยังหาเบาะแสมันไม่ได้หรือวะ?”

โซลเอ่ยถามเพื่อนเมื่อครั้งมารับฟังความคืบหน้าเรื่องคดีความของดิน ผู้ต้องหาทั้งสองคนนั้นศาลได้ตัดสินโทษในส่วนของดินไปแล้ว แต่ก็ยังมีส่วนของเจ้าทุกข์คนอื่นที่กำลังรื้อคดีกันขึ้นมาอีก นั่นก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของส่วนนั้นไป ที่คาใจในตอนนี้คือ คนจ้างวานอย่างปรเมศวร์ที่ยังหาตัวไม่พบนี่ล่ะ

“ท่าทางมันคงตายห่าไปแล้วมั้ง”

ไตรภพบอกกับเพื่อนเหมือนจะพูดเล่น แต่กลับฟังดูจริงจังจนเกินไปนิด ทั้งสีหน้าที่เรียบเฉยเวลาพูดนั่นอีก

“มันยากก็เพราะมันไม่ได้อยู่ในประเทศนี่ล่ะ กว่าจะประสานงานกับทางนั้นได้ ไหนยังต้องสืบค้นอีก กูว่ารอให้มันกลับมายังง่ายกว่าเลยว่ะ”

นายตำรวจหนุ่มกล่าวเสริมทั้งสีหน้าเหนื่อยหน่ายใจ โซลก็ได้แค่ฟัง ไม่ขอออกความเห็นในประเด็นนี้



++++++++++++



รถยนต์ของไตรภพเลี้ยวเข้ามาจอดในโรงพยาบาลที่ดินยังพักรักษาตัวอยู่ในช่วงเช้าของวันหยุด แม้อาการของดินจะดีขึ้นบ้างแล้วแต่ก็ยังต้องพักอยู่ที่นี่อีกสักระยะ ขายาวๆก้าวลงจากรถที่จอดสนิทดีแล้ว ตรงเข้าไปในตัวโรงพยาบาล ขึ้นลิฟท์โดยสารไปยังห้องพักของดิน ร่างสูงใหญ่มาหยุดยืนหน้าประตู ก่อนหมุนลูกบิดเปิดประตูเข้าไป

ใบหน้าคมเข้มที่บัดนี้เริ่มมีสีเลือดขึ้นมาบ้างแล้ว เนื่องจากสภาพทางร่างกายดีขึ้น ดินหันมามองเมื่อประตูห้องถูกเปิดเข้ามา ไตรภพส่งยิ้มนำไปให้คนที่นั่งเอนอยู่บนเตียงปรับระดับ ไหว้ป้าพิศที่เป็นคนมาเฝ้าไข้วันนี้ ส่งกระเช้าของบำรุงให้ป้าพิศ ก่อนจะเดินเข้าไปหาดินที่ทำเป็นสนใจทีวีที่เปิดอยู่ไม่ยอมมองมาทางเขา สายตาของนายตำรวจหนุ่มยังจับจ้องคนตรงหน้าอยู่ ต่อเมื่อไปหยุดอยู่ข้างเตียง แล้วนั่งลงจ้องมองหน้าคนทำเฉยถึงได้ยินเสียงพูดเหมือนบ่นเบาๆ

“หน้าผมมีอะไรติดอยู่หรือไง จ้องอยู่ได้”

ไตรภพอมยิ้มแล้วหัวเราะในลำคอ ก่อนจะตอบ

“ก็เปล่าหรอก แต่อยากมองน่ะ”

“เฮอะ!”

ดินทำเสียงขึ้นจมูกกับการหยอดของนายตำรวจหนุ่ม ไตรภพนั่งมองหน้าคนทำเข้มอยู่อย่างนั้นไม่ไปไหน ป้าพิศแค่มองเฉยไม่ได้ว่าอะไร เห็นนายตำรวจหนุ่มคนนี้มาเยี่ยมลูกของนางทุกวันนั่นล่ะ ไม่ใช่ชินหรืออะไร แต่เมื่อนึกว่าคนที่ช่วยเหลือลูกชายของนางจนรอดปลอดภัยกลับมาจนวันนี้คือคนๆนี้แล้ว ไม่ว่าเรื่องอะไรนางก็ไม่อยากเข้าไปก้าวก่าย เพราะที่ไตรภพทำอยู่ทุกวันมันไม่ได้มีส่วนไหนที่ไม่ดีสักอย่าง แค่มาเยี่ยม มาอยู่ข้างๆลูกชายของนางเพียงเท่านั้นเอง

ไม่นานจากนั้นประตูห้องก็ถูกเปิดเข้ามาอีกครั้ง น้ำเสียงร่าเริงของตาต้าน้อยดังมาก่อนตัว เมื่อเด็กหนุ่มวิ่งนำพี่โซลเข้ามาด้านใน อ้อมแขนยังหอบหิ้วตุ๊กตาหมีน้อยมาด้วย

“พี่ดินนนน”

โซลมองน้องที่ร่าเริงเกินเหตุแล้วส่ายหน้า เอาถุงอาหารที่ตนเองถือมาไปวางบนโต๊ะที่ถูกจัดไว้อีกห้อง แล้วจึงเดินตามน้องไปหาดิน ตาต้ายกมือไหว้ผู้ใหญ่รอบห้องก่อนจะเข้าไปนั่งข้างเตียงแทนพี่ผู้กองไต๋ที่ลุกให้เด็กหนุ่มนั่ง

“พี่ดินเป็นไงบ้าง ยังเจ็บอยูไหมครับ?”

“ดีขึ้นมากแล้วครับ ขอบคุณคุณตาต้าที่เป็นห่วง”

ดินตอบรับน้ำใจของน้องชายเจ้านายด้วยรอยยิ้ม ตาต้ายิ่งยิ้มกว้างกว่าเดิม กว่าที่ตาต้าจะได้มาเยี่ยมพี่ดินก็ตั้งนาน เพราะพี่ไม่พามาสักที บอกว่าพี่ดินต้องการพักผ่อนเยอะๆ เพิ่งจะได้มาก็วันนี้เอง ตอนนี้ตาต้าและแม่ยังอยู่ที่ไร่รณวีร์ คุณพ่อกับพี่ชายกลับกรุงเทพฯไปแล้วเพราะหมดวันลา จำต้องกลับไปทำงาน จึงเหลือตาต้าที่ยังดื้อจะอยู่ที่ไร่ต่อ ทำให้คุณแม่ต้องอยู่เป็นเพื่อนด้วย

“ไม่เฉพาะต้าหรอกนะที่เป็นห่วง จินนี่ก็เป็นห่วงพี่ดินด้วย”

หนุ่มน้อยยกความดีความชอบให้น้องสาวเต็มที่ โซลที่ยกเก้าอี้อีกตัวมานั่งข้างน้องจึงเอ่ยบอกกับดิน

“จินนี่ถามหานายน่ะ ฉันเลยบอกไปว่านายไม่สบาย นอนพักอยู่ที่โรง’บาล เขาเลยฝากของมาให้”

ตาต้าเอาตุ๊กตาหมีตัวน้อยที่ตัวเองกอดอยู่ยื่นให้พี่ดิน ดินรับมางงๆ มองหน้าคนให้ก็เห็นยิ้มตอบกลับมาจนตาหยี โซลจึงเป็นคนเฉลยให้อีกครั้ง

“จินนี่เขากลัวนายนอนโรงพยาบาลคนเดียวแล้วจะเหงา เลยยกน้องชายของเขาให้มาอยู่เป็นเพื่อน ถ้านายกลับบ้านเมื่อไหร่ค่อยเอาไปคืน”

ไตรภพมองภาพหนุ่มหน้าเข้มที่นั่งทำหน้ามึนงงในมือถือตุ๊กตาหมีแล้วแอบยิ้ม เลยถูกคนป่วยที่เห็นด้วยหางตาส่งสายตาเคืองไปให้

“เปล่านะ ผมไม่ได้ขำคุณ ไม่ใช่”

นายตำรวจรีบโบกไม้โบกมือปฏิเสธอย่างเร็วรี่ แต่ริมฝีปากยังยิ้มอยู่ ดินไม่ได้ว่าอะไรต่อจากนั้น หันกลับมาหาหนุ่มน้อยน่ารักหนึ่งเดียวในห้อง

“ฝากขอบคุณน้องจินนี่ด้วยนะครับ คุณตาต้า”

ตาต้ายิ้ม พยักหน้าหงึกหงัก แล้วชวนพี่ดินกับป้าพิศดูทีวีกัน ชวนคุยเรื่องนั้นเรื่องนี้ไปเรื่อย คนที่ไม่ค่อยพูดอย่างดินก็ได้แต่รับฟัง ตอบคำถามแสดงความคิดเห็นบ้างในบางครั้ง หนุ่มน้อยชักชวนให้พี่ดินดูทีวีรายการโปรดของตนเอง มาเยี่ยมคนป่วย ไม่ได้ตามใจคนป่วย แต่ตามใจตาต้า

สองหนุ่มโซลและไต๋ที่เห็นว่าตนเองกลายเป็นส่วนเกินไปแล้ว จึงเลี่ยงไปนั่งคุยกันที่โซฟา มองดูคู่พี่น้องเขาคุยกัน

“เป็นไงบ้าง?”

โซลเอ่ยถามไตรภพขึ้นมาโดยไม่มีสรรพนามเช่นเคย ตายังมองน้องที่คุยเล่นกับดินอยู่ไม่วาง

“ใจแข็งสุดๆเลยว่ะ” ไตรภพตอบกลับคำถามเพื่อนด้วยประโยคไร้สรรพนามเช่นกัน

“นี่ก็อ่อนสุดแล้วที่ไม่ไล่ตะเพิดมึงหนีน่ะ” โซลว่ายิ้มๆ

“กูจะคิดว่ามันเป็นสัญญาณที่ดีละกัน”

ไตรภพว่าออกแนวประชดเพื่อนมากกว่าจะพูดจริงจัง ถึงตอนนี้จะยังไม่คืบหน้าไปไหน แต่ก็ยังดีที่เขาไม่ไล่ล่ะนะ

“แล้วมึงล่ะ?”

ไตรภพเอ่ยถามถึงสถานการณ์ของเพื่อนบ้าง ว่ามันต่างไปจากเขาเท่าไหร่แล้ว เดินหน้าไปไกลหรือยัง กับน้องชายที่น่ารักคนนั้น

“กูคงต้องคุยกับทั้งพ่อแม่กูกับพ่อแม่น้องให้เป็นกิจลักษณะแล้วว่ะ ปล่อยไว้แบบนี้มันไม่ดีกับตัวน้องเท่าไหร่”

“ก็ดีนี่” ไตรภพพยักหน้าเห็นด้วย

“แต่กูไม่รู้ว่าพ่อแม่กูจะรับเรื่องนี้ได้มากน้อยแค่ไหน”

โซลบอกเสียงเครียด ไม่ใช่ไม่คิด คิดจนหัวจะแตกแล้วว่าจะเริ่มต้นบอกพ่อกับแม่ว่าอย่างไร

“กูว่ารับไม่ได้หรอกว่ะ มึงมันลูกชายคนเดียว แถมยังหน้าตาดีมีหลักมีฐาน เคยแต่งงานมีครอบครัว มีเมียเป็นผู้หญิง แล้ววันนึงพ่อแม่มึงกลับต้องมารับรู้ว่ามึงมารักชอบผู้ชายด้วยกัน แถมคนที่มึงรักยังเป็นน้องตาต้าที่น่ารักอีกต่างหาก กูว่า ไม่มีทางที่พ่อแม่มึงจะรับได้ โดยเฉพาะพ่อแม่น้องตาต้า”

ไตรภพทำสีหน้าจริงจังจนโซลอยากจะมอบรางวัลเป็นลูกถีบให้ เนียนจริงๆ

“หึ ไม่ให้กำลังใจกูแล้วยังตัดกำลังใจกูอีกนะมึงน่ะ”

“จะได้เท่าเทียมกับกูไง ปล่อยให้มึงทำคะแนนนำไปก่อนได้ไงวะ” ไตรภพยักคิ้ว แล้วยิ้มกวนอารมณ์

“โถ่ ไอ้ผู้กอง มึงอยากลงไปกองที่พื้นแบบไม่รู้ตัวบ้างไหม?”

โซลตั้งท่าถลกแขนเสื้อ ไตรภพก็ตั้งรับด้วยกำปั้นไม่ยอมกัน ตาต้ากับดินหันมามองคู่เพื่อนสนิทที่เล่นอะไรกันไม่รู้ โซลกับไตรภพที่ตั้งท่าจะวางมวยกันเมื่อครู่มองหน้าของอีกฝ่ายแล้วหัวเราะ เล่นอะไรไม่รู้เรื่องเล้ย

เฮ้อ ปัญหามีก็แก้กันไป ก็ไม่รู้ว่าใครจะแก้ได้ก่อนกันล่ะนะ



++++++++++++++



ตาต้ากับโซลอยู่ที่โรงพยาบาลจนเที่ยง จึงได้ทานกลางวันร่วมกัน ตาต้านำเสนออาหารที่ตนเองกับพี่เอามาจากที่ไร่เต็มที่ พอถามว่าตาต้าทำเองหรือถึงได้บรรยายสรรพคุณเสียขนาดนี้ หนุ่มน้อยก็ยิ้มแหยแล้วบอกว่าป้าน้ำกับแม่เป็นคนทำ ส่วนต้ายืนให้กำลังใจเฉยๆ

หลังจากทานข้าวเสร็จ โซลกับตาต้าและป้าพิศจึงกลับไร่ โดยที่ป้าพิศจะให้พิมพิกามาเปลี่ยนดังเช่นทุกที เมื่อทั้งสามคนกลับไปแล้ว แต่ไตรภพก็ยังอยู่ นั่งอยู่ที่โซฟาไม่ไกลจากเตียงคนป่วยนักเผื่อมีอะไรให้ช่วย บรรยากาศภายในห้องเงียบลงมีเพียงเสียงจากทีวีที่เปิดทิ้งไว้ตั้งแต่ทีแรก เมื่อไม่มีใครเอ่ยปากพูดอะไรออกมาก่อน ไตรภพเองก็ไม่อยากกวนอารมณ์คนป่วยมากกว่านี้ ยิ่งไม่มีคนห้ามอยู่ด้วย

เงียบกันอยู่เช่นนั้นสักพักดินก็ขยับตัวจะเอื้อมไปหยิบน้ำบนหัวเตียง ไตรภพที่มองอยู่ก่อนแล้วลุกขึ้นมาหา มองหน้าคนป่วยว่าจะให้ช่วยอะไร

“ผมหิวน้ำ”

เมื่อเขามีน้ำใจดินจึงไม่ได้ปฏิเสธที่จะบอกความต้องการ ไตรภพรินน้ำในเหยือกใส่แก้วพร้อมหลอดดูดแล้วมาส่งให้คนป่วยถึงปาก แต่ดินก็รับมาถือเอง ยกน้ำขึ้นดื่ม เหลือบมองคนที่มานั่งใกล้ๆบ้าง พอดื่มเสร็จจึงขอนอนพัก

“คุณไม่ได้ทำงานหรือครับวันนี้?”

ดินถามคนที่กำลังเอาแก้วใบใหม่มาเปลี่ยนให้ที่โต๊ะ อย่าดูแลกันดีขนาดนั้นเลยไตรภพ

“ไม่ล่ะ นอกเสียจากมีคดีฉุกเฉิน”

ไตรภพหันมายิ้มให้คนป่วย ก่อนจะกลับมานั่งลงที่ข้างเตียงเหมือนเดิม

“คุณตำรวจ…”

“คุณชอบเรียกอาชีพผมจัง เรียกชื่อผมบ้างสิครับ”

คุณตำรวจทำอ้อน แต่คนหน้าเข้มก็ยังคงทำเฉย ไม่ยอมตามน้ำไปด้วย ดินมองหน้าไตรภพด้วยแววตาและสีหน้าที่จริงจัง ก่อนจะบอกสิ่งที่ไตรภพไม่อยากฟังที่สุดออกไป

“คุณมาเฝ้าผมแทบทุกวันแบบนี้ ผมลำบากใจนะผู้กอง”

คนฟังถึงกับนิ่งไปกับคำบอกกล่าวนั้น รอยยิ้มที่มีจึงจืดเจื่อนเต็มที คำถามที่ถามกลับไปจึงมีแต่ความสับสน

“ทำไมล่ะ ผมทำให้คุณรำคาญเหรอ หรือว่าผมพูดมากไป?”

“เปล่า ผมไม่อยากให้คุณเสียเวลาน่ะ เพราะไม่ว่ายังไง…”

“อย่าดิน…”

ก่อนที่ดินจะได้พูดอะไรออกมาอีก ปลายนิ้วของนายตำรวจหนุ่มก็แตะริมฝีปากหยุดทุกคำพูดไว้ เขาไม่อยากฟัง แต่ใจหนึ่งก็อดไม่ได้ที่อยากจะรู้ ดินเม้มปากเงียบ เบือนสายตาไปมองทางอื่นที่ไม่ใช่แววตาเจ็บปวดของไตรภพ

“คุณไม่รู้สึกว่าชอบผมบ้างสักนิดเลยเหรอ?”

ในที่สุดแล้วไตรภพก็ต้องถามออกไป แม้ในใจจะรู้อยู่ แต่มันก็ยังรั้นจะฟังให้ได้ เผื่อบางทีสิ่งที่คิดอาจจะไม่ใช่ก็ได้ บางทีคนตรงหน้าเขานี้อาจจะรักชอบเขาบ้างก็ได้ หรือไม่ใช่?

“…ไม่”

ดินเงียบไปพัก ก่อนจะตอบคำถามของไตรภพเสียงหนัก เน้นย้ำให้รู้และเข้าใจให้ตรงกัน ให้นายตำรวจหนุ่มเข้าใจ และให้หัวใจของตัวเองเข้าใจเช่นนั้นด้วย

“เจ็บนะ ถึงจะเคยได้ยินมาแล้วก็ยังเจ็บอยู่” ไตรภพผ่อนลมหายใจช้าๆสะกดกั้นความรวดร้าวในอก

“ผมว่าคุณน่าจะคบกับคนที่เหมาะสมกับคุณมากกว่า มีผู้หญิงอีกมากมายที่ดีและเหมาะสมกับคุณ และพร้อมที่จะรักและดูแลคุณ หรือไม่ก็หนุ่มน้อยน่ารักที่จะคอยเอาอกเอาใจคุ…”

คำพูดของดินขาดหายเมื่อริมฝีปากหนากดจูบลงมาปิดกั้นคำพูดของเขา ไตรภพโน้มตัวคร่อมคนบนเตียงไว้ กดข้อมือทั้งสองข้างที่จะต่อต้านเขาไว้กับเตียง บดเบียดกลีบปากบางของคนใจร้ายที่เอาแต่ปฏิเสธเขาอยู่ร่ำไป มันไม่ได้เป็นไปด้วยความพิศวาส แต่มันคือการลงโทษ ไม่มีความอ่อนหวาน ไม่มีอะไรทั้งนั้น นอกจากความเจ็บปวดทั้งริมฝีปากและ…หัวใจ

ไตรภพถอนจูบเชื่องช้า มองหน้าดินในระยะประชิด เลื่อนมือเกลี่ยริมฝีปากบางที่เจ่อบวมด้วยแรงบดขยี้ ดวงตาที่ฉายแววเจ็บปวดจนดินไม่กล้าที่จะหันหลบไปไหน

“ที่คุณพูดมาทั้งหมด คุณกำลังกังวลเรื่องอะไรอยู่กันแน่ดิน ถ้าไม่รักก็ไม่ต้องมาทำเป็นหวังดีกับผมหรอก ไม่ต้องมาสอนผมว่าอะไรดีไม่ดี ไม่ต้องมาบอกว่าผมควรรักใครหรือไม่ควรรักใคร เพราะผมรู้ใจของตัวผมเองดีว่า…ผมรักคุณ”

“ผมไม่ได้รักคุณ”

ดินยังคงย้ำคำเดิมกลับไป ไตรภพพยักหน้าเนิบช้าหลายครั้ง รอยยิ้มเยาะหยันปรากฎบนริมฝีปาก เขาไม่ได้ยิ้มเยาะดิน แต่เขากำลังยิ้มเยาะในความดันทุรังที่ไร้ค่าของตนเองต่างหาก ร่างสูงใหญ่ผละห่าง

“หึ เอาซะให้พอเถอะ ถ้าใจผมยังเจ็บไม่พอก็เชิญเหยียบย่ำมันจนกว่าคุณจะพอใจ”

ไตรภพไม่ได้อยากจะฉุนเฉียวใส่ ไม่ได้อยากจะต่อว่า คำพูดที่พูดออกมาจึงเป็นเพียงแค่เสียงที่แผ่วเบา แต่นั่นกลับยิ่งทำให้คนฟังเจ็บยิ่งกว่า ไตรภพเดินไปหยิบมือถือกับกระเป๋าสตางค์ที่โต๊ะ ก่อนจะย้อนมาหาคนใจร้ายอีกครั้ง

“ผมกลับก่อนนะ แล้ววันหลังจะมาเยี่ยมใหม่”

คำบอกกล่าวของเขาไม่ได้รับการตอบรับ หรือจะพูดให้ถูกคือมันไม่ได้รับความสนใจเลยต่างหาก ตอนนี้เขากำลังน้อยใจ แต่ใช่ว่าจะยอมแพ้ แค่ขอเวลาตั้งหลักสักพักเท่านั้น บางทีการที่ไม่มาให้เจอหน้าสักพัก อาจจะดีกว่านี้ก็ได้มั้งนะ

ไตรภพออกจากห้องไปแล้วดินถึงได้ถอนหายใจอย่างหนักหน่วง มือเรียวยกขึ้นแตะริมฝีปากของตนเอง แม้ตอนนี้มันก็ยังเจ็บอยู่ แต่มันคงไม่เจ็บเท่าหัวใจของคนที่เพิ่งเดินออกไปนั่นหรอก

‘ผมขอโทษ แต่ผมรักคุณไม่ได้… ไม่ใช่ไม่ได้รัก’



+++++++++++



โซลที่พาน้องกลับมาที่ไร่หลังจากที่พาไปเยี่ยมดินมาแล้ว แวะส่งป้าพิศที่หน้าบ้านพักคนงาน แล้วจึงตรงมาที่บ้านของตนเอง เอารถไปเก็บแล้วเดินจูงมือคุยกันมาตามทาง แต่ก็ต้องชะงักเมื่อคุณน้ำทิพย์ยืนกอดอกเหมือนกำลังรอการกลับมาของพวกเขาอยู่ ข้างกันคือน้านิ้ง แม่ของตาต้า โซลมองตอบแม่ไม่หลบ มือที่จับกับน้องกระชับแน่นขึ้นอย่างให้กำลังใจกัน

“เราพร้อมจะคุยกับแม่หรือยังโซล?”

“ครับแม่”

โซลตอบรับอย่างหนักแน่นในน้ำเสียงเมื่อตัดสินใจแล้ว จับจูงน้องไปส่งให้คุณแม่น้อง แล้วเดินตามคุณน้ำทิพย์เข้าบ้านไป

ตาต้ามองตามพี่อย่างเป็นกังวล จนมือของคุณแม่เอื้อมมาจับ หนุ่มน้อยถึงหันกลับมาหา

“ตาต้า มากับแม่”

“ครับ”

หนุ่มน้อยตอบเสียงเบา เดินตามคุณแม่ต้อยๆ ผ่านจินนี่ที่วิ่งเข้ามาตอนที่ได้ยินเสียงรถคุณพ่อขา แต่ขาเล็กๆนั้นก็ต้องหยุดอยู่กับที่เพราะเห็นคุณย่าขาทำหน้าเหมือนโกรธ อรณีที่เดินตามหลานสาวออกมาด้วยแตะไหล่เล็กให้หันกลับ แล้วจูงมือน้อยให้เดินไปอีกทาง

“อาซีขา คุณย่าขากับคุณย่านิ้งจะตีพ่อขากับพี่ตาต้าไหมคะ?” เสียงเล็กเอ่ยถามคุณอา สีหน้าไม่สู้ดีนัก กลัวคุณพ่อขากับพี่ตาต้าจะถูกตี

“ทำไมคุณย่าขากับคุณย่านิ้งต้องตีพ่อขากับพี่ตาต้าด้วยล่ะคะ สองคนนั้นทำอะไรผิดเหรอ?”

“ไม่ค่ะ พ่อขากับพี่ตาต้าไม่ได้ทำอะไรผิด” จินนี่ตอบกลับคำถามคุณอาสาว เมื่อคิดดีแล้วว่าพ่อขากับพี่ตาต้าไม่มีความผิดใดๆ

“ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต้องกลัวหรอกค่ะ คุณย่าไม่ตีหรอก”

“จริงนะคะ” ตาโตๆนั้นโตยิ่งกว่าเดิมเมื่อได้คำตอบ

“ค่ะ อาซีรับประกันเลย”

เมื่อได้คำตอบเป็นที่พอใจแล้ว น้องจินนี่น้อยจึงไม่ได้ซักอะไรคุณอาต่อ ตามคุณอาไปเล่นกับน้องพูห์ที่ห้องนั่งเล่น หลานสาวไม่คิดอะไรแล้ว แต่คุณอานี่สิที่เป็นกังวลแทน ขอให้ทุกอย่างผ่านไปด้วยดีเถอะนะพี่ชาย



+++++++++++


ต่อด้านล่างค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-10-2012 20:14:22 โดย wanmai »

ออฟไลน์ wanmai

  • ★รักใสปิ๊ง★(>_<)
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 936
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1195/-5


“จะอธิบายกับแม่ว่ายังไงโซล แม่ให้เราคอยดูแลน้อง แต่นี่อะไร เป็นผู้ใหญ่เสียเปล่า ทำแบบนี้จะให้แม่มองหน้าน้านิ้งยังไง ฮึ!”

ภายในห้องหนังสือชั้นบนของบ้าน ถูกใช้เป็นที่ไต่สวน คุณน้ำทิพย์เอ่ยถามลูกชายเสียงเครียดเมื่อเข้าใจถึงเรื่องที่ลูกชายเคยบอกว่าอยากปรึกษา คุณรณวีร์ที่ถูกตามตัวมารับรู้สถานการณ์ด้วยยังนิ่งฟังสองแม่ลูกคุยกัน

“ขอโทษครับแม่ ที่ทำให้แม่กับคุณน้านิ้งรู้สึกไม่ดี”

โซลไหว้ขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้น สีหน้าของคุณน้ำทิพย์ยังเครียดขึ้ง แม้เธอจะทำใจมาบ้างแล้ว แต่เมื่อต้องมาพูดกันจริงจังแบบนี้ก็อดไม่ได้ที่จะใส่อารมณ์กับลูก มันน่าขัดใจจริงๆ

“แต่ไม่ว่ายังไง ผมก็รักตาต้าครับ” โซลยังยืนยันเช่นนั้น คุณน้ำทิพย์มองลูกชายตาโต

“โซล นี่ลูกพูดอะไรออกมา ลูกเป็นผู้ชาย น้องก็เป็นผู้ชาย ใครเขารู้เข้าเขาจะมองยังไง”

“แม่ครับ ผมไม่ได้สนใจหรอกว่าคนอื่นเขาจะมองยังไง ที่ผมสนใจตอนนี้คือแม่มองผมกับน้องยังไงมากกว่า ที่เรารักกันแบบนี้แม่เห็นว่าพวกเราเป็นตัวประหลาดรึเปล่า?”

คำถามของลูกทำให้คุณน้ำทิพย์ชะงัก ก่อนจะผ่อนลมหายใจยาวแล้วพูดกับลูกชายอย่างจริงจัง

“ลูกไม่เข้าใจหรือไงโซล สิ่งที่แม่กังวลลูกไม่รู้เหรอ?”

“………….” โซลเงียบฟังที่แม่พูด จนตอนนี้พ่อของเขาก็ยังไม่พูดอะไรออกมาสักคำหนึ่ง นิ่งๆแบบนี้ยิ่งทำให้โซลหวั่นใจ

“โซลจะว่าแม่ลำเอียงหรือะไรก็ได้ แต่แม่เป็นห่วงตาต้า อนาคตของน้องจะเป็นยังไง สำหรับโซล แม่ถือว่าโซลโตแล้ว คิดและตัดสินใจอะไรเองได้โดยที่แม่ไม่ต้องเป็นห่วงหรือกังวลอีก แต่สำหรับตาต้ามันไม่ใช่ น้องยังเด็ก”

“ผมทราบครับแม่ว่าน้องยังเด็ก เด็กมาก แต่ผมก็รักที่เขาเป็นเขาแบบนั้น ที่ผมอยากจะขอพ่อกับแม่คือ อย่าเห็นว่าเราประหลาด อย่าแยกเราจากกันเพียงเพราะว่าเราสองคนเป็นผู้ชาย”

โซลร้องขอ คนเป็นแม่ถึงกับถอนหายใจอย่างหนักอก กอดอกเบือนหน้าหนีเพราะจนต่อคำพูดแล้ว คุณรณวีร์ที่นั่งเงียบอยู่นานจึงเอ่ยกับลูกชายต่อ

“ตอบพ่อตามตรงนะโซล”

“ครับพ่อ” โซลตอบรับด้วยหัวใจที่เต้นตุ้มๆต่อมๆ

“เรามีอะไรเกินเลยกับน้องไปหรือยัง?”

คำถามตรงเผงนั้นทำให้ทั้งผู้เป็นแม่อย่างคุณน้ำทิพย์และลูกชายอย่างโซลถึงกับนิ่งสนิท ก่อนที่โซลจะเรียกสติตัวเองกลับมาเมื่อพ่อรอคำตอบอยู่

“เอ่อ… ยังครับ น้องยังเด็ก”

“แสดงว่าก็คิดอยู่” ท่านถามสีหน้าเรียบนิ่ง

“โธ่ พ่อ” โซลทำสีหน้าเหมือนจะตายกับคำถามแต่ละอย่างของพ่อ ถึงมันจะเป็นเรื่องปรกติสำหรับผู้ชาย แต่พอมีตาต้าเข้ามาเกี่ยวก็ทำให้โซลกระดากที่จะพูดถึงเหมือนกัน

“ลุกขึ้นซิ”

คุณรณวีร์ลุกขึ้นยืนแล้วสั่งให้ลูกชายยืนขึ้นตาม โซลมองพ่องงๆก่อนจะทำตามที่พ่อบอก

ผลัวะ!!

เสียงหมัดหนักๆกระทบซีกแก้มของโซลอย่างไม่เบาแรง ร่างกายสูงใหญ่แทบเซถลา ใบหน้าที่หันตามแรงชกยังนิ่งค้างอยู่ท่าเดิม เสียงคนเป็นพ่อก็ตวาดก้อง

“เป็นลูกชายฉันมันต้องเด็ดขาด รักก็บอกไปว่ารักมันก็ดี แต่นึกถึงอนาคตน้องมันบ้างไหม ตาต้าน่ะยังเด็กมากนะโซล น้องเขาอาจจะแค่หลงไหลชั่วครู่ชั่วยาม ไม่ได้เป็นอย่างแกก็ได้ อีกหน่อยตาต้าก็จะได้พบเจอสังคมใหม่ๆ มีเพื่อนมีฝูงทั้งหญิงชาย แกไม่คิดหรือว่าน้องมันจะได้เจอใครที่ดีกว่า!!”

โซลหันกลับมาเผชิญหน้าพ่ออีกครั้ง ก่อนจะตอบทุกคำถามที่พ่ออยากจะรู้ คุณน้ำทิพย์ที่เห็นว่าสถานการณ์มันชักจะไปกันใหญ่จึงลุกขึ้นมาลูบแขนสามีให้คลายความร้อนของอารมณ์ลงมา แล้วฟังที่ลูกพูด

“นี่เป็นสิ่งแรกที่ผมคิดเมื่อตอนที่เริ่มรู้สึกพิเศษกับน้อง พ่ออาจจะมองว่าผมเห็นแก่ตัวก็ได้ที่ผมเชื่อคำบอกรักของตาต้าและเห็นว่าเรื่องมากมายที่ผมกังวลมาตลอดนั้น มันเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยถ้าต้องแลกกับการได้อยู่ด้วยกันกับน้องชายที่น่ารักคนนี้”

คุณรณวีร์กำหมัดเกร็งแน่น พยายามผ่อนลมหายใจยาวเพื่อที่จะระงับอารมณ์ ความรู้สึกมากมายมันจุกอกไปหมดแล้วเวลานี้

“อย่าดูถูกความรักของผมกับน้องเลยนะครับ ผมเคยคิดแบบพ่อ อยากปล่อยน้องไปให้น้องได้เจอสิ่งดีๆ ที่ไม่มีตำหนิเหมือนผม แต่นั่นนอกจากผมจะเจ็บที่ต้องปล่อยหัวใจของตัวเองไปแล้ว มันยังเป็นการทำร้ายคนที่ผมรักด้วย ผมได้แต่คาดหวัง ว่าพ่อกับแม่จะเข้าใจ”

จบคำพูดนั้นของโซล คุณรณวีร์ก็ทิ้งตัวลงนั่ง ไม่ว่าอย่างไร ความจริงก็คือความจริง ต่อให้ทำร้ายลูกไปมันก็ไร้ประโยชน์ ทำไมท่านจะไม่รู้ว่าตอนที่โซลเรียนอยู่ที่ต่างประเทศเสเพลแค่ไหน รสนิยมของลูกชายที่มีต่อเพศเดียวกันท่านก็รู้ดี แต่ที่โกรธจนสั่นไปทั้งตัวขนาดนี้ก็เพราะลูกไม่รู้จักหักห้ามใจ จะพาเด็กน้อยอย่างตาต้าลำบากไปด้วย คุณนิ้งกับสามีก็สนิทกับครอบครัวท่านมาตั้งนาน แล้วลูกชายท่านมาพาลูกชายบ้านนั้นเป็นแบบนี้ไป มันจะดีหรือ

บรรยากาศมาคุภายในห้องเริ่มจะคลายตัวลง เมื่อต่างได้ใช้ความเงียบในการคิดทบทวน ระหว่างนั้นเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น ก่อนที่คุณแม่น้องตาต้าจะเดินเข้ามา คุณรณวีร์ลุกจากโซฟาตัวยาวไปนั่งอีกตัว ให้คุณนิ้งนั่งข้างภรรยาของตนเองแทน คุณแม่น้องตาต้านั่งลงก่อนจะพูดกับโซล

“โซล”

“ครับ”

“ถ้าโซลไม่คิดจะจริงจังกับน้องก็อย่าให้ความหวังน้องเลยนะลูก ตาต้าน่ะยังเด็กมากนะ น้าไม่อยากให้น้องเสียใจ ถ้าวันหนึ่งโซลจะทิ้งน้องไป”

น้ำเสียงที่ท่านใช้ไม่ได้มีแววตำหนิ ออกจะเป็นกังวลดังที่ว่ามามากกว่า คุณแม่ของน้องคงรู้อะไรมาบ้างแล้วถึงได้ไม่แสดงท่าทีว่าตกใจกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นนี้เลย ดูนิ่งมากด้วยซ้ำ

“ผมไม่มีวันทิ้งน้องหรอกครับคุณน้า ผมรักตาต้าจริงๆ ทุกคนอาจไม่เชื่อว่ามันเป็นแบบนั้น เพราะฉะนั้นผมจึงอยากขอโอกาสพิสูจน์ตัวเองบ้าง”

โซลตอบกลับไปอย่างที่ใจคิด แม่ของน้องมองหน้าเขาด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก ก่อนจะพูดเสียงเรียบ

“น้องยังเรียนไม่จบ”

“ผมทราบครับว่าการเรียนสำคัญ ผมไม่คิดจะให้น้องทิ้งการเรียนหรอกครับ”

ดูเหมือนคำตอบโซลจะเป็นที่พอใจ โซลคิดไปแบบนั้น แต่เมื่อฟังประโยคต่อมาแล้วถึงได้รู้สึกว่าตัวเองน่าจะคิดผิดไป

“น้าอยากให้ตาต้ามุ่งมั่นกับเรื่องการเรียนในตอนนี้เพียงอย่างเดียว ไม่อยากให้ต้องมาวอกแวกไปกับเรื่องรักๆใคร่ๆ”

“……….”

“ถ้าโซลยังยืนยันว่าโซลรักน้องจริง โซลต้องรอน้องได้ใช่ไหม?”

“หมายความว่ายังไงครับ?” คิ้วเข้มเริ่มขมวดกับแต่ละประโยคที่แม่น้องพูด

“ทำทุกอย่างให้มันถูกต้องเหมาะสม แม้ว่าตาต้าจะเป็นผู้ชาย แต่น้องก็เป็นลูกมีพ่อมีแม่ และแม่อย่างน้าอยากให้โซลหยุดความสัมพันธ์ที่มีต่อตาต้าเอาไว้เพียงเท่านี้”

“…………!!”

โซลถึงกับชะงักค้างกับคำว่าให้หยุดความสัมพันธ์ที่มีต่อน้อง แม้แต่คุณน้ำทิพย์ที่ไม่ได้แสดงอาการเห็นด้วยกับลูกชายมาตั้งแต่ต้นก็ยังมีสีหน้าแปลกๆ เหมือนจะตกใจตามโซลไปด้วย ถ้าแม่น้องตาต้าไม่พูดประโยคต่อมาให้เร็วกว่านี้ โซลคงได้ขาดใจจริงๆ

“จนกว่าตาต้าจะจบม.ปลาย และสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ หลังจากนั้นเราจะมาคุยเรื่องนี้กันอีกครั้งหนึ่ง พร้อมกับพ่อของตาต้าด้วย โซลจะตกลงไหม?”

แอบเห็นว่าคุณพ่อกับคุณแม่ถอนหายใจโล่งอกตามตนเองแล้วโซลก็แอบยิ้มขำ เมื่อครู่ยังต่อต้านเรื่องเขากับน้องอยู่เลย โซลมองหน้าคุณแม่ของน้องตาต้าและยอมรับข้อเสนอนั้นด้วยความจริงจัง

“ครับ ผมตกลง”

ในเวลานี้ไม่ว่าอะไรเขาก็ยอมทุกอย่างแล้ว ขอเพียงให้ได้รัก ได้อยู่ด้วยกัน ไม่ว่าอะไรก็เป็นเพียงเรื่องน้อยนิดสำหรับโซลเท่านั้น




TBC


•   รวบกอดนักอ่านทุกท่าน บวกทุกบวกจัดไปค่ะ :กอด1:

•   สำหรับเรื่องของปรเมศวร์ ใหม่ขอจบมันลงเพียงเท่านี้นะคะ บทสรุปที่เกิดขึ้นกับเขาให้ทุกคนคิดต่อยอดได้ตามสะดวก เพราะใหม่ไม่อยากให้เรื่องมันดาร์คมากกว่านี้ เรื่องนี้คือเรื่องรักใสๆนะเออ :oni1: (งั้นเรอะ!! o12)

(เวิ่น)

ขอบคุณสำหรับกำลังใจจากทุกท่านที่ยังติดตามกันอยู่ ซึ่งบางทีอาจจะกดเข้ามาอ่านเพราะเห็นชื่อเรื่องใสแบ๊ว แต่พอมาอ่านแล้วไม่ใช่อย่างที่คิดใหม่ก็ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย o1

เรื่องราวทุกอย่างในเรื่องนี้ ใหม่วางพล็อตเอาไว้แล้ว ดังนั้น ฉากตอนที่15-16จึงไม่ได้ตัดออกไป เพื่อโยงไปสู่ตอนจบที่สมบูรณ์ รวมทั้งความสัมพันธ์ระหว่างไต๋และดินที่จะดำเนินต่อไปด้วย จึงอยากให้เข้าใจกันตามนี้นะคะ ไม่ได้เปลี่ยนพล็อตปุบปับแต่อย่างใด มันเป็นไปตามพล็อตนะคะทุกท่าน :กอด1:


ขอบคุณค่ะ

วันใหม่ :L2:

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-10-2012 20:16:47 โดย wanmai »

ออฟไลน์ choijiin

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2082
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +445/-5
วันนี้เป็นวันอะไรกันค้า
พี่ไต๋ของเจ๊ก็น้ำตาตกในไปคนนึงแล้ว
พี่โซลก็โดนคุณพ่อต่อยอีก
มาม่าไปเลยไป๊ ชิ่วๆ กระซิกๆ
 :sad5: o9

ขอให้สายลมพัดพาเอาความเศร้าโศกของทุกคนให้ผ่านพ้นไปไวๆนะ
คนอ่านคนนี้เอาใจช่วย
 :impress3: :o12:

ออฟไลน์ gupalz

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +604/-20
ดีจัง ทีนี้ก็แค่รอตาต้าจบมอปลาย

zaabbo

  • บุคคลทั่วไป
แล้วทำไมดินถึงรักผู้กองไต๋ไม่ได้อ่ะ??  :sad4: รอติดตามตอนต่อไป  :o12:

ออฟไลน์ pare_140

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1192
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-6

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ love2y

  • (′~‵)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2059
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-11
ดินต้องมีปมอะไรในใจแน่ๆเลยอ่ะ

ว่าแต่...เรื่องที่พ่อแม่คุยกันกับโซล ตาต้ายังไม่รู้ใช่มั้ยเนี่ย? ถ้ารู้น้องจะเป็นไงหนอ??

ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41
อยากรู้อ่ะ
ว่าทำมัยดิน
ถึงรักไต๋ไม่ได้ :z3:

บวกเป็ด

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
พี่ดินจะทำร้ายหัวใจตัวเองทำไม มีเหตุผลอะไร
เรื่องพี่โซลกับน้องตาต้าไม่น่าห่วงแล้วเนาะ แค่รอเวลาอีกนิด

ออฟไลน์ MooJi

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 190
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-0
สงสารผู้กองไต๋อ่ะ
พี่ดินทำไมถึงรักไม่ได้ล่ะ
ทำร้ายหัวใจผู้กองไต๋แล้วก็ทำร้ายหัวใจตัวเองด้วยน๊า
อยากให้รักกันรักกัน
แอบเครียดกับพี่โซล
โดนคุณแม่บ่นแล้วยังโดนคุณพ่อชกด้วย
แต่จะมาหลุดฮาก็ตอนคุณพ่อบอกว่า “แสดงว่าก็คิดอยู่” นี้แหละ
เหมือนจะเครียดแต่มันให้ความรู้สึกฮาไปด้วยอ่ะ
นึกว่าคุณแม่น้องตาต้าจะกีดกันเล็กๆแอบตกกะใจ
แต่พอพูดจบก็โล่งใจตามพ่อแม่พี่โซลไป
ความรักของพ่อแม่ก็ยิ่งใหญ่เสมอเนอะ
^^

ออฟไลน์ Pupay

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +171/-1
ตอนนี้แอบเศร้านิดๆ  :monkeysad:
แต่เด๋วมันก็กลายเป็นรักใสๆ แล้วใช่ไหมคะ?  o18

 :pig4:นะคะ

ออฟไลน์ wanmai

  • ★รักใสปิ๊ง★(>_<)
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 936
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1195/-5
*ใกล้จะใสแล้วค่ะทุกท่าน คนอ่านสู้ๆ :ped149:


It’s Real เดี๋ยวรักเลย


ตอนที่ ๑๘ เพื่อเธอ



โซลออกมาจากห้องหนังสือหลังจากที่ได้พูดคุยตกลงกับแม่ของตาต้าแล้วว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับน้องในเชิงชู้สาว จนกว่าน้องจะเรียนจบและมาพูดคุยกันอีกที ตัวเขาเองรับรู้และทำความเข้าใจกับเรื่องนี้ดีแล้ว และหวังว่าตาต้าก็จะเข้าใจตรงกันด้วย หวังว่านะ

โซลมาหยุดยืนหน้าห้องของน้อง เคาะประตูแค่ครั้งเดียวน้องก็มาเปิดให้อย่างรวดเร็ว สีหน้าเป็นกังวลนั่นทำให้โซลหายใจไม่ทั่วท้อง คำพูดที่เตรียมมาดูจะหายวับไปกับสายลมตั้งแต่เห็นหน้าน้องแล้ว

“เข้าไปคุยกันข้างในนะ”

ตาต้าพยักหน้าก่อนจะเดินนำพี่เข้าไปในห้องนอน แล้วหยุดยืนอยู่กลางห้องหันกลับมาเผชิญหน้าเพื่อจะพูดคุยกันกับพี่ ตาต้าไม่ชอบเลยที่ถูกกันไม่ให้เข้าไปร่วมรับรู้เรื่องราวต่างๆด้วย ทั้งที่เรื่องนั้นมันเกี่ยวกับตัวเขาโดยตรง

“แม่ว่ายังไงบ้างครับพี่โซล แล้วป้าน้ำกับลุงวี…”

ตาต้าพูดค้างไว้แค่นั้นแล้วก็เงียบไป โซลกุมมือน้องแล้วพูดกับน้องด้วยสีหน้าจริงจัง จนตาต้าต้องตั้งใจฟังตามไปด้วย

“ฟังพี่นะตาต้า”

“……….” เด็กดื้อแอบพยักหน้าอย่างเผลอๆ

“ตาต้าไม่ต้องกังวลกับเรื่องอะไรทั้งนั้น พี่คุยเรื่องของเรากับพ่อแม่ของพี่และแม่ของตาต้าแล้ว”

“……………”

“ตอนนี้ตาต้าแค่ตั้งใจเรียนก็พอ หน้าที่ของตาต้าคือการเรียนให้จบ ไม่ต้องคิดเรื่องอื่นให้วุ่นวาย แล้วทุกอย่างมันก็จะดีเอง”

พอพี่ยิ่งพูด คิ้วของคนเป็นน้องก็ยิ่งขมวด เอียงคอมองหน้าพี่แล้วถามกลับงงๆ

“ต้าไม่เห็นเข้าใจ ที่ต้าอยากรู้คือครอบครัวเรายอมให้เราคบกันไหม แต่พี่โซลกลับพูดเรื่องอะไรก็ไม่รู้อ่ะ”

เห็นท่าทางแบบนั้นของน้องแล้วโซลก็แทบอยากจะกลั้นใจตาย เขาจะกล้าบอกน้องไหมว่า…

“ตาต้า จะเป็นอะไรไหมถ้าพี่จะขอให้เราหยุดคิดเรื่องนี้สักพัก”

“อะไร พี่โซลกำลังจะพูดเรื่องอะไรอ่ะ?”

คนเป็นน้องตาโตทันทีที่พี่พูดประโยคนั้นออกมา ให้หยุดคิด หมายถึงอะไร? จะให้ทำอะไรกันแน่!

“พี่รับปากคุณแม่ของตาต้าเอาไว้แล้วว่า ระหว่างที่ตาต้ายังเรียนมัธยมปลายไม่จบ พี่จะไม่สานสัมพันธ์ใดๆกับตาต้า จนกว่าตาต้าจะเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว เราถึงจะคุยกันเรื่องนี้อีกครั้ง เพราะฉะนั้น…”

“พี่ไม่รักต้าแล้วเหรอ?”

ก่อนที่โซลจะได้อธิบายอะไรต่อตาต้าก็แทรกขึ้นมา โซลถึงกับชะงักกับคำถาม ถามว่าไม่รักแล้วอย่างนั้นหรือ ทำไมถึงได้คิดไปถึงขนาดนั้นกัน

“พี่ยังรักตาต้าอยู่ ไม่มีวันไหนที่จะไม่รักหรอก แต่ที่พี่ต้องรับปากไปแบบนั้นเพราะพี่ไม่อยากให้ตาต้าต้องเสียการเรียน อยากให้เรามุ่งมั่นกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งให้มาก เรื่องของพี่เอาไว้ทีหลังพี่ก็ไม่ว่า เพราะยังไงพี่ก็รักตาต้าไม่เปลี่ยนแปลง”

“แต่พี่ไม่อยากอยู่กับต้านี่นา ต้าอุตส่าห์มาที่นี่ มาหาพี่ที่นี่ แต่พี่กลับไล่ต้ากลับอ่ะ บอกให้ต้าหยุดคิดอ่ะ”

“ตาต้าฟังพี่หน่อยสิ เราเข้าใจไปคนละทางกันแล้วนะ”

“ต้าไม่ฟัง ไม่ฟัง ฮึ่ก…!”

เด็กดื้อใช้มือทั้งสองข้างปิดหูไม่ยอมรับฟังที่พี่จะพูด เมื่อเห็นว่าน้องเริ่มสะอื้น โซลจึงต้องหยุด เดินเข้าไปหยุดตรงหน้าน้อง เชยคางเรียวให้น้องเงยหน้าขึ้นมา มองตากลมใสที่ตอนนี้เริ่มคลอด้วยหยาดน้ำตา ลูบแก้มน้องเบาๆ ก่อนจะบอกด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา เหมือนหัวใจของเขาที่มันเต้นเบาลงไปเพราะคำพูดของน้อง

“พี่คงไม่ดีเอง ที่ทำให้ตาต้าเชื่อไม่ได้ว่าพี่รัก แต่ไม่ว่ายังไงพี่ก็จะรอวันที่เราจะได้อยู่ด้วยกัน ถึงแม้วันนั้นตาต้าอาจเลิกรักพี่แล้วก็ได้”

โซลผละเดินออกจากห้อง เด็กดื้อได้แต่มองตาม เขาทำให้พี่รู้สึกไม่ดีอีกแล้ว ทำไมถึงเป็นแบบนี้ตลอดเลยล่ะ

“พี่โซล”



+++++++++++



โซลออกจากห้องน้องมาด้วยความรู้สึกที่เรียกได้ว่าย่ำแย่ ไม่ได้โกรธน้องที่เอาแต่ใจหรอก แต่มันก็อดรู้สึกเสียใจไม่ได้ที่น้องไม่เข้าใจในความหวังดีของเขา

“คงดื้อไม่ยอมฟังอะไรเลยล่ะสิ”

คุณแม่น้องตาต้าที่ออกมาจากห้องหนังสือแล้ว เดินเข้ามาหาโซลแล้วพูดอย่างรู้ทันนิสัยลูกชายตนเอง โซลยิ้มแห้งก่อนจะตอบกลับไป

“ครับ”

“แบบนี้ยังจะรักลูกชายน้าอยู่อีกไหม?” คุณแม่น้องถามกลับมา

“ถึงมากกว่านี้ก็รักครับ”

คำพูดนั้นทำให้คุณแม่น้องถึงกับอมยิ้ม โซลเองก็แอบเขินเหมือนกันที่พูดอะไรแบบนั้นออกไป จึงได้แต่ทำหน้าเก้อกระดากกับสายตายิ้มๆที่คุณแม่น้องส่งมาให้

“โซลไปพักเถอะไป เดี๋ยวน้าจัดการเอง”



+++++++++++



บอกให้โซลไปพักแล้วคุณแม่ของตาต้าก็เข้ามาในห้องลูกชาย หนุ่มน้อยตาต้านั่งก้มหน้านิ่งอยู่ที่เตียงนอน ไม่รับรู้ว่าแม่เดินเข้ามาหา คุณนิ้งนั่งลงข้างๆคนเป็นลูกก่อนจะถาม

“ทะเลาะกับพี่เขาหรือลูก?”

ตาต้ายังก้มหน้าอยู่ แต่น้ำเสียงอู้อี้ยังตอบแม่กลับมา

“แม่ ทำไมแม่ต้องตั้งเงื่อนไขแบบนั้นด้วย แม่ก็รู้ว่าต้ารักพี่โซล ทำไมแม่ยังให้ต้าแยกกับพี่เขาอีก”

คุณแม่ขยับเข้าไปโอบไหล่เล็กนั้น ก่อนจะพูดคุยกับลูกด้วยน้ำเสียงอาทร กับตาต้าต้องค่อยๆพูด ต้องให้รู้เองว่าตัวเขาผิดตรงไหน บังคับให้เข้าใจแบบคนอื่นไม่ได้ ต้องเอาความใจดีแลกกับความเข้าใจ

“ตาต้ารักพี่โซลใช่ไหมลูก?”

เด็กดื้อพยักหน้า คุณแม่จึงถามต่อ

“แล้วตาต้าไม่รักพ่อกับแม่เหรอ?”

“รักสิครับ!”

คราวนี้หนุ่มน้อยถึงกับต้องรีบเงยหน้าขึ้นมาตอบ แม่จะเข้าใจผิดว่าเขาไม่รักหรือเปล่า

“ถ้ารักแล้วทำไมไม่อยากอยู่กับพ่อแม่ล่ะ?”

คุณแม่ยังถามต่อด้วยน้ำเสียงเดิม ไม่ได้บีบคั้น ทำเหมือนกำลังคุยกันเรื่องทั่วๆไป

“ต้าอยากอยู่กับพ่อแม่นะครับ แต่ต้าก็อยากอยู่กับพี่โซลด้วย…”

น้ำเสียงตอนท้ายของคนตอบเริ่มออดอ่อย คุณแม่มองหน้าลูกชายแล้วยิ้มบาง ลูบแก้มใสเบาๆ ตาต้าเลื่อนมือมากุมทับมือแม่ มองหน้าแม่แล้วบอกเหมือนต้องการความเห็นที่ตรงกัน

“เราย้ายมาอยู่ที่นี่เลยดีไหมแม่ ต้าจะทำงานเก็บเงินสร้างบ้านให้พ่อกับแม่อยู่ เรามาอยู่ที่นี่กันนะ อยู่ใกล้ตากับยายด้วย”

“แล้วตาต้าจะทำอะไรล่ะลูก เรียนยังไม่จบม.ปลายเลยนะ”

คุณแม่ยังถามอย่างใจเย็น ตาต้าที่ถูกถามกลับตรงประเด็นแบบนั้นก็ชะงัก โครงการที่วาดฝันไปเมื่อครู่ดูจะเป็นแค่ความฝันลมๆแล้งๆ

“ต้า… ต้าก็จะเรียนให้จบสิครับ แล้วค่อยหางานทำ” ตอบไม่เต็มเสียงนัก เริ่มรู้ว่าตัวเองเอาแต่ใจอีกแล้ว

“แต่ตอนนี้ยังไม่จบใช่ไหม?”

พยักหน้าหงอยๆ เขาเป็นแบบนี้อยู่เรื่อย คงมีแต่คนเบื่อกับนิสัยแบบนี้ แม้แต่พี่โซลเองก็ด้วย ยิ่งคิดหน้าก็ยิ่งจ๋อย คุณแม่ลูบผมคนหน้าจ๋อยอย่างปลอบใจ

“ทำวันนี้ให้ดีก่อนดีไหมลูก อนาคตเราค่อยว่ากันนะ”

“แม่…”

เด็กดื้อโผกอดคุณแม่แน่น รู้สึกแย่ที่ทำให้พี่กับแม่ต้องวุ่นวาย คุณแม่โยกตัวเด็กดื้อเบาๆก่อนจะบอกอย่างกระเซ้าลูกชาย

“พี่โซลเขาไม่หนีไปไหนหรอก หรือถ้าเขาจะหนีนะ แม่จะให้พ่อเอาไม้ตะพดไล่ตีพี่เขาให้เลยดีไหม?”

“แม่อ่ะ ต้าไม่ใช่เด็กนะ หลอกอะไรต้าเนี่ย”

“ไม่ใช่เด็กเหรอแบบนี้ ขี้แย เดี๋ยวพี่เขาก็ไม่รัก” คุณแม่ยังล้ออีก คุณลูกเลยออกอาการงอแง

“ฮื้อ~ รักสิ”

“เด็กน้อยจริงๆเล้ย ลูกใครกันนี่”

“ลูกแม่นิ้งครับ”

หนุ่มน้อยตอบกลับมาน้ำเสียงทะเล้น หน้าซื่อๆตาใสๆนี่ล่ะที่ทำให้ท่านแพ้ทางทุกที คุณแม่ถอนหายใจ แพ้ลูกอ้อนเจ้าเด็กดื้อนี่ทุกทีสิน่า

“ขอบคุณนะครับแม่”

ตาต้ากอดแม่แน่นเข้า แม่เข้าใจเขาทุกอย่าง ไม่ว่าเรื่องอะไรแม่ก็มักจะอยู่ข้างเขา จนบางทีตาต้าก็แอบเอาแต่ใจจนเกินขอบเขต เพราะรู้ว่ายังมีคนเข้าข้าง แต่นั่นมันเป็นสิ่งที่ไม่ดีเลย มันทำให้ตาต้าไม่รู้จักโตเสียที แบบนี้โซลจะเอาอยู่ไหมล่ะนี่ หรือจะคอยแต่ตามใจกันจนเหลิง เฮ้อ~ คุณแม่แอบหนักใจ



+++++++++++



พอได้คุยกับแม่แล้วตาต้าก็เริ่มเข้าใจอะไรมากขึ้น เข้าใจถึงเจตนาที่ดีของพี่ที่มีต่อตนเอง รู้เลยว่าตนเองเอาแต่ใจแค่ไหน ไม่รู้ว่าพี่จะโกรธมากหรือเปล่าที่ทำตัวไม่ดี ตาต้าจึงมาหาพี่ที่ห้อง เคาะประตูแล้วรออยู่ชั่วครู่พี่ถึงมาเปิดให้ โซลเพิ่งอาบน้ำเสร็จเลยใส่แค่กางเกงและมีผ้าขนหนูพาดบ่า เด็กดื้อไม่กล้ามองหน้า เวลาทำผิดทีไรมักจะก้มหน้าอยู่ตลอด โซลรั้งแขนเรียวให้เข้ามาด้านใน แล้วจะพาไปนั่งที่โซฟา แต่ตาต้าก็ขืนตัวไว้ มือเรียวแตะมือพี่ที่จับแขนตนเองอยู่ ขยับเข้าไปชิดตัวพี่แล้วกอดเอวหนาไว้หลวมๆ ก่อนจะซบหน้าลงบนแผงอกเปลือยเปล่า

“พี่โซล ต้าขอโทษนะ”

วิธีการอ้อนฉบับตาต้านี่ทำให้เขาใจสั่นได้ทุกทีสิน่า ที่อาบน้ำมานี่รู้สึกว่ามันจะเริ่มร้อนอีกแล้ว วิ่งกลับไปอาบอีกทีตอนนี้จะทันไหม? โซลก็คิดไปเรื่อย เบี่ยงเบนความสนใจของตนเองไม่ให้จมจ่ออยู่กับร่างกายเพรียวบางที่กอดเกี่ยวตนเองอยู่ กลิ่นหอมประจำตัวน้องมันช่างรบกวนจิตใจดีแท้

“พี่ไม่โกรธตาต้าหรอก พี่โกรธตัวเองมากกว่าที่ทำให้ตาต้าคิดไปได้แบบนั้น”

“ไม่เอาสิ ต้าต่างหากที่ไม่ดี พี่โซลดีทุกอย่างเลย”

เด็กดื้อว่าอย่างนั้น โซลหัวเราะในลำคอกับการเอาใจเขาแบบแปลกๆของน้อง แขนแกร่งเลื่อนไปโอบกอดน้องบ้าง แล้วถามกลับทั้งรอยยิ้มเกลื่อนใบหน้า

“ดีขนาดนั้นเลย”

“อื้อ เพราะพี่โซลดีขนาดนี้แหละ ต้าถึงได้รัก”

‘จะอ้อนกันไปถึงไหนครับน้องชายที่น่ารัก แค่นี้พี่ก็หลงเราจะแย่แล้ว’

ทั้งสองคนยังยืนกอดกันนิ่งอยู่แบบนั้น เหมือนอยากจะซึมซับช่วงเวลาที่มีอยู่ให้มากที่สุด ไม่ได้จะจากกันไปไกล หรือไม่ได้พบกันอีก แต่ถึงอย่างไรในความรู้สึกมันก็เหมือนห่างกันแสนไกลอยู่ดี

“พี่โซล” ตาต้าที่กอดพี่เงียบอยู่นานเอ่ยเรียกพี่ขึ้นมา

“ครับผม” โซลขานรับแล้วกดจูบหน้าผากเนียน กระชับอ้อมกอดมากขึ้น

“คิดถึงต้าบ้างนะ”

จังหวะหัวใจโซลกระตุกเล็กๆกับคำขอนั้น เขาหรือจะไม่คิดถึง

“ทุกลมหายใจเลยครับ”

“เวอร์จัง”

ถึงจะพูดแบบนั้น แต่ริมฝีปากกลับยิ้มกว้าง ถ้าคิดถึงต้าทุกลมหายใจจริงๆก็ดีสิ



TBC


•   ขอบคุณทุกกำลังใจค่ะ สั้นไปนิดเนาะ แต่ตอนหน้ารู้สึกจะยาวมาก ทำไมมันไม่เท่ากันไม่รู้(= =)

•   บวกให้ทุกบวกค่า :L2:

•   ใกล้แล้วๆ ย้ำกันอีกรอบ คนเขียนก็ดีใจที่มันกำลังจะใสแบ๊วเหมือนกัน เขียนฉากที่บีบคั้นจิตใจแล้วก็จิตตก ต้องวิ่งไปอ่านน้องคูล-มินย้อมใจ55

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-10-2012 20:18:54 โดย wanmai »

ออฟไลน์ choijiin

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2082
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +445/-5
ตาต้าเด็กดื้อเนอะ
 :-[
แต่พี่โซลกับคนอ่านก็รักตาต้ามากๆเลย
 :กอด1:
หมดไปอีกเรื่อง โล่งอกโล่งใจกันไป

แต่พี่ไต๋ของพี่ล่ะค้าวันใหม่
ชาตินี้จะได้น้องดินเป็นแควนมั้ยเนี่ย
 :sad4:

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
เด็กดีมีหน้าที่เรียน ผู้ใหญ่ดีก็มีหน้าที่รอไป

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
พี่โซลต้องรอจนเหนียงยานหรือเปล่า กว่าต้าจะโต
โตแล้วความคิดก็เปลี่ยนไปด้วย

ออฟไลน์ gupalz

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +604/-20
มอปลายแปบเดียวก็จบแล้ว ตาต้า

ออฟไลน์ nongrak

  • ยังไงก็รักคาเมะจังที่สุด
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +912/-14
ต้องแยกกันตาต้าไม่คิดถึงพี่โซลแย่หรือ แล้วน้องจินนี่อีก

+1+เป็ดให้กำลังใจน้องตาต้า

ออฟไลน์ love2y

  • (′~‵)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2059
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-11
อดทนไว้พี่โซล น้องตาต้า >_<

ออฟไลน์ pare_140

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1192
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-6

ออฟไลน์ Pakbung Mazo

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 505
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-3
หลังจากไม่ได้เข้ามาอ่านนิยายในเล้านานมากกกกกก เพราะติดการเรียนแสนหนักหน่วง
 แต่พอเข้ามาดู อ้ะ อุ้ อ้ะ เอ้ะ! นิยายของคุนวันใหม่อัพ ! บุ้งก้อจิ้มปั๊บๆๆๆ โอ๊ววว บร๊ะ อัพเยอะเรยย สนุกมากกกกกก ทั้งยิ้ม ทั้งหัวเราะ ทั้งร้องไห้ TT'
  รอตอนต่อไปนะคะ แค่นี้บุ้งก้อนอนเรียน ตาหลับแล้ว
(บุ้งเวิ่นยาวเว่อร์!!)

zaabbo

  • บุคคลทั่วไป
อิอิ แอบหวานนะเนี่ย ถึงสั้นแต่ก็มีความสุขที่ได้อ่าน ขอบคุณนะครับ  :L2:

ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5
พี่โซลคงไม่แก่เกินไปนะ...  :laugh:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-05-2012 05:00:19 โดย PetitDragon »

ออฟไลน์ wanmai

  • ★รักใสปิ๊ง★(>_<)
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 936
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1195/-5
ถามถึงพี่ไต๋ พี่ไต๋ก็มา :m19:



It’s Real เดี๋ยวรักเลย

ตอนที่ ๑๙ ระยะทางที่ห่างกัน



โรงพยาบาล

พิมพิกาที่รับหน้าที่เฝ้าไข้พี่ชายในวันนี้เปิดประตูเข้ามาในห้อง สังเกตคนเป็นพี่ที่กึ่งนั่งกึ่งนอนอ่าน
หนังสือพิมพ์อยู่บนเตียงแล้วแอบยิ้ม ก็ทุกทีที่มีคนเปิดประตูห้องเข้ามาพี่ชายของเธอก็รีบชะเง้อมองใน
ทุกครั้งไปน่ะสิ แต่พอถูกจับได้ก็ทำเป็นเฉไฉไม่รู้ไม่ชี้ รู้หรอกว่ารอใครอยู่

“พักนี้ไม่เห็นผู้กองเขามาเยี่ยมพี่เลยเนอะ ท่าทางเขาจะงานยุ่ง”

น้องสาวแกล้งเปรยขึ้นมา ดินยังเงียบไม่มีปฏิกิริยาตอบรับอย่างเคย นิ่งให้ได้ตลอดนะ

“พี่ดินไม่คิดถึงพี่ผู้กองเขาบ้างเหรอ?”

ดินสะดุดกับคำถามของน้อง ก่อนจะปรับสีหน้ามานิ่งเหมือนเคย แล้วติงคำพูดของน้องสาว

“ถามอะไรแปลกๆ”

“เอ้า! คนมันเคยเจอหน้ากันทุกวัน อยู่ๆเขาก็หายไปไม่บอกไม่กล่าวแบบนี้ ไม่สงสัยบ้างหรือไงว่าเขา
หายไปไหน ไปทำอะไรแบบนี้น่ะ”

“อยากรู้ก็โทรไปถามเขาสิ”

คนเป็นพี่ชายยังตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งไม่เปลี่ยน

“เออ จริงด้วย ในมือถือพิมพ์เมมเบอร์ผู้กองเขาไว้ด้วยนี่”

พิมพิกาแกล้งรับมุก ไปหยิบมือถือของตนเองมาทำท่าจะกดโทรไปถามไตรภพจริงๆ แต่พอสบสายตา
กับพี่ชายเท่านั้นล่ะ ถึงกับสะดุ้งในใจ

“ไปให้เบอร์กันตอนไหน?” ดินถามน้องเสียงเข้มงวด เข้มทั้งน้ำเสียงทั้งสีหน้า

“ก็… แหม~ พี่ชายคะ น้องโตเป็นสาวแล้วนะคะ มันก็ต้องมีหนุ่มมาติดพันกันบ้างแหละเนาะ”

คนเป็นน้องแกล้งเฉไฉ แต่พอเห็นว่าพี่มีสีหน้าจริงจัง เลยต้องหยุดทำทะเล้น ไม่อย่างนั้นอาจจะโดน
เทศนากัณฑ์แปดให้ฟังเอาได้

“อุ้ย! ไม่เห็นต้องทำหน้าดุเลย ก็เผื่อมีเหตุฉุกเฉินอะไรเราจะได้เรียกผู้กองเขาได้ไงคะ มีเบอร์เขาไว้ไม่
เห็นเสียหาย”

ดินหรี่ตามองน้องสาวที่ไหลไปได้เรื่อยๆ คำพูดของน้องนี่ลอกคนๆนั้นมาทุกเม็ดเลย ต้องสอนกันมาแน่ๆ
พิมพิกาที่ถูกพี่ชายส่งสายตาพิฆาตให้เลยเลี่ยงไปเปิดทีวี พอเห็นน้องเปิดทีวีแล้วต่อดูดีวีดี ดินก็แทบ
อยากเอาหมอนปิดหู มาเฝ้าเขานี่ก็เอาแต่หนังเกาหลีมาให้เขาดู ไอ้กับดักรักสะดุดใจนายซู่ซ่าอะไรไม่รู้
เขาอยากดูคุณชายตำระเบิดมากกว่านะ ไอ้ตุ๊ดจี่น่ะ ฮาดี

หลังจากจัดการเปิดหนังเรื่องโปรดเอาไว้พิมพิกาก็เดินเข้ามานั่งที่เก้าอี้ข้างเตียงคนป่วย มองหน้าพี่ชาย
แล้วถามอย่างจริงจัง

“พี่คะ พิมพ์ถามจริงๆนะ”

ดินขมวดคิ้วเล็กๆกับท่าทางของน้อง ก่อนจะนิ่งฟังคำถาม

“พี่ชอบผู้กองไตรภพเขาบ้างไหม?”

หมัดขวากลางลำตัวที่พิมพิกาส่งมาทำเอาหนุ่มหน้าเข้มถึงกับสำลักอากาศ มองหน้าน้องสาวเหมือนเห็น
ตัวประหลาด ทำไมถึงพูดเรื่องนี้ได้หน้าตาเฉยขนาดนี้กัน

“ไม่ใช่ว่าพิมพ์จะดูไม่ออกนะ ความสัมพันธ์ระหว่างพี่กับผู้กองน่ะ แค่เห็นสายตาผู้กองเขาก็รู้แล้วว่าคิด
ยังไงกับพี่”

“ไร้สาระน่าพิมพ์ พูดแบบนี้ผู้กองเขาจะเสียหายได้นะ คนเขามีน้ำใจดีเรากลับมองไปเป็นอื่นแบบนี้น่ะ”

ดินเบี่ยงประเด็น แต่พิมพิกาไม่ยอมปล่อยผ่าน ยังดึงพี่ชายกลับเข้ามาสู่ประเด็นร้อนที่ตนเองเป็นผู้เริ่ม

“ไม่ใช่แค่พิมพ์หรอกนะ แม้แต่แม่เองก็ยังรู้เลย”

“แม่บอกเหรอ?”

คาวนี้หนุ่มหน้าเข้มแทบจะเปลี่ยนเป็นหน้าซีดเมื่อน้องเอ่ยถึงมารดา ถ้าแม่ของเขารู้เรื่องนี้เข้าจริงๆ ท่าน
จะรู้สึกอย่างไรกัน

“เปล่า แต่พิมพ์ว่าใครๆเขาก็ดูออกกันทั้งนั้นแหละพี่ หรือว่า…พี่ดูไม่ออก?”

ดินถึงกับนิ่งไปกับคำถามชี้นำของน้อง เขาน่ะยิ่งกว่าดูออกอีก

“ผู้กองเขาก็เป็นคนดีน้า คอยดูแลพี่ตลอดเลย ตอนที่พี่ฟื้นขึ้นมาน่ะ พิมพ์แอบเห็นผู้กองเขาน้ำตาคลอ
ด้วย รู้เลยว่าเขาต้องรู้สึกพิเศษกับพี่แน่ๆ ทั้งยังช่วยเรื่องคดีความอีก จะหาคนดีๆอย่างนี้ได้ที่ไหนกัน พี่
ว่าไหม?”

“เราพูดเหมือนเรื่องนี้มันเป็นเรื่องปรกติธรรมดาอย่างนั้นล่ะ”

“แล้วมันไม่ปรกติตรงไหนล่ะคะ” พิมพิกาถามเหมือนไม่รู้ จนดินต้องเอ่ยเรียกน้องเสียงหนัก

“พิมพ์…”

“พี่ดิน ถ้าพี่จะทำเพื่อตัวเองบ้างมันก็ไม่ผิดหรอกนะ พิมพ์รู้ว่าพี่รักครอบครัว พี่ทำทุกอย่างพี่ก็ต้องนึกถึง
ครอบครัวมาเป็นอันดับแรก เราทุกคนในบ้านรู้ดี พี่อยากให้ทุกคนอยู่กันอย่างมีความสุข พวกเราก็อยาก
ให้พี่มีความสุขเหมือนกันนะ”


“พิมพ์ไม่เข้าใจ มัน…”

เมื่อไม่เห็นประโยชน์ที่จะบอกอะไรกับน้องสาว ดินจึงหยุดต่อปากต่อคำ เพราะหากว่ายิ่งพูดเรื่องมันก็ยิ่ง
เข้าตัวเขามากขึ้น ชายหนุ่มถอนหายใจยาว ก่อนจะพับหนังสือพิมพ์ที่ถือค้างอยู่ แล้ววางไว้ที่โต๊ะข้างหัว
เตียง ขยับลงนอนตะแคงหันหลังให้น้องสาว เลิกสนใจน้องแต่เพียงเท่านี้

“น่าสงสารผู้กองเขานะ ทุ่มเททำทุกอย่างเพื่อใครบางคนขนาดนี้ แต่เขาก็ไม่สนใจไยดี เฮ้อ เป็นพิมพ์นะ
คงเลิกรักคนๆนั้นไปแล้วล่ะ” คำพูดลอยลมของน้องสาวยังลอยมากวนอีก

“เพ้อเจ้อ”

ดินตอบกลับสั้นๆ พิมพิกาส่ายหน้ากับความเข้าใจยากของพี่ชาย เมื่อเห็นว่าพี่ไม่สนใจตนเอง
แล้วพิมพิกาจึงลุกไปดูหนังที่ตนเองเปิดเอาไว้ ดินนอนคิดอะไรเพลินๆเสียงโทรศัพท์มือถือของน้องสาว
ก็ดังขึ้น และมันก็ยังดังอยู่อย่างนั้น ดินจึงต้องหันกลับมามองหาน้อง เห็นว่าเจ้าตัวเขาไม่ได้นั่งอยู่ที่เดิม
น่าจะเข้าห้องน้ำ โทรศัพท์เจ้าปัญหานั้นวางอยู่ข้างเตียงเขานี่เอง ดินจึงต้องตะโกนบอกน้องสาว

“พิมพ์ โทรศัพท์”

“พี่ดินรับให้หน่อย”

เสียงของน้องดังมาจากในห้องน้ำ ดินจึงต้องขยับลุกและคว้ามือถือน้องมาดู ก่อนที่จะชะงักกับชื่อบน
หน้าจอ

‘ผู้กองไตรภพ’

แต่ไม่รู้ว่าชะงักอีท่าไหนมือถึงได้เผลอไปกดวางสาย พอชื่อที่ปรากฎบนหน้าจอหายวับแล้วถึงเพิ่งรู้ว่า
ตัวเองทำอะไรลงไป

“อ้าว?”

ดินเผลออุทานกับความป้ำเป๋อของตนเอง พิมพิกาออกมาจากห้องน้ำแล้วเดินมาหาพี่ชายที่กำลังนั่ง
งวยงงกับตัวเอง

“ใครโทรมาน่ะพี่ดิน?”

“ไม่รู้สิ พี่เผลอตัดสายไปแล้ว”

ดินบอกปฏิเสธหน้าตาย พิมพิกามองโทรศัพท์ของตนเองก่อนจะกดดูสายที่โทรเข้าเมื่อครู่ ริมฝีปากคน
เป็นน้องเปิดยิ้ม มองหน้าพี่ชายล้อๆ คนเป็นพี่ก็ยังทำเฉย ทั้งที่ในใจมันไม่ได้เฉยอย่างหน้าตาเลยแม้แต่
น้อย

พิมพิกาวางโทรศัพท์ไว้ที่ข้างเตียงพี่เหมือนเดิม ก่อนจะไปหยิบรีโมตมาเปลี่ยนทีวีเป็นช่องปรกติ แล้ว
เอามาให้พี่ชาย ดินลอบมองมือถือของน้องที่ยังเงียบสนิทอยู่ เขาไม่ได้รอนะ แค่… แค่อะไรล่ะ?

“พี่ดิน เดี๋ยวพิมพ์ลงไปรอพ่อข้างล่างนะ น่าจะมาแล้วล่ะ”

เป็นอันรู้กันว่าใกล้เที่ยงลุงสนจะเอาอาหารกลางวันมาให้ลูกทั้งสองคน แม้พิมพิกาจะบอกว่าหาซื้อเอา
ใกล้ๆโรงพยาบาลก็ได้ แต่ป้าพิศก็ยังยืนยันจะทำมาให้ ทั้งสองคนพี่น้องก็เลยแล้วแต่แม่

“อือ”

คำบอกกล่าวของน้องสาวเรียกสติสตังของดินให้กลับมา เมื่อครู่มันลอยไปไหนแล้วน่ะ

“พี่ดิน”

พิมพิกาที่กำลังจะเดินไปที่ประตูหยุดเท้าแล้วหันมาเรียกพี่ชาย

“หือ?”

“โทรศัพท์พิมพ์อ่ะ ใช้ได้นะ พิมพ์ไม่ว่าหรอก”

“อะไรของเราน่ะ” ดินตีหน้าเคร่งกับคำพูดล้อเลียนของน้องสาว

“เปล่าค่า ไปแล้ว”

คนเป็นน้องหัวเราะคิกคักออกจากห้องไป ดินเหลือบมองมือถือที่ยังนิ่งสนิทอีกครั้ง ทำเป็นไม่สนใจมัน
อยู่สักพัก แต่มันก็ยังเงียบอยู่ เดี๋ยวสิเราไม่สนใจมันไม่ใช่หรือ แล้วจะใส่ใจทำไมว่ามันเงียบหรือมันดัง
บ้าชะมัด!

สุดท้ายหนุ่มหน้าเข้มก็หยิบมือถือเครื่องบางของน้องสาวขึ้นมา แล้วนิ่งค้างอยู่อย่างนั้น หัวคิ้วเข้มเริ่ม
ขมวดปมแทบจะเป็นโบว์ และแล้ว… ก็วางมันเอาไว้ที่เดิม

‘จะโทรไปทำไมกันล่ะ มีธุระอะไรอย่างนั้นหรือ? ก็ไม่มีนี่นะ อืม ไม่มีอะไรสักหน่อย’

ดินล้มตัวลงนอนแล้วห่มผ้า หันหลังให้โทรศัพท์มือถือเครื่องนั้น และไม่สนใจมันอีก



+++++++++



หลังจากนั้นอีกไม่กี่วันดินก็ได้รับอนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาลกลับมาพักฟื้นที่บ้านได้ และวันนั้นก็ยัง
ไร้วี่แววของนายตำรวจหนุ่ม โทรศัพท์ของดินมันก็แหลกไปกับอุบัติเหตุไปแล้ว ถ้าจะมีใครโทรหาเขา…

ดินรีบสลัดความคิดแปลกๆออกจากหัว ทำไมพักนี้เขาถึงได้คิดอะไรสับสนวุ่นวายไปหมด หรือเป็น
ผลกระทบมาจากอุบัติเหตุกันนะ

ดินเพิ่งกลับมาที่ไร่รณวีร์ แต่ตาต้าก็ต้องจากไปอีกแล้ว พอจินนี่รู้ว่าพี่ชายคนสนิทจะกลับบ้าน หนูน้อยก็
คอยแต่จะอยู่ติดพี่ไม่ห่างไปไหน เกเรไม่ยอมไปเรียนบัลเล่ที่ต้องเรียนทุกวันหยุดด้วย ก็พี่จะไม่อยู่แล้วนี่
อะไรมันจะสำคัญกว่าการได้อยู่กับพี่ตาต้านานๆล่ะ

หลังทานข้าวเย็นมักเป็นเวลารวมตัวของครอบครัว อยู่พูดคุยกันสักพักก่อนจะขึ้นห้องของแต่ละคน
ตอนนี้น้องจินนี่ดูจะเป็นศูนย์กลางของวงสนทนา เพราะหนูน้อยเปิดฉากออดอ้อนไม่อยากให้พี่ตาต้า
กลับบ้าน

“พี่ตาต้าไม่ไปไม่ได้เหรอคะ พ่อขา ให้พี่ตาต้าอยู่กับเราไม่ได้เหรอคะ?”

เสียงเล็กๆนั้นอ้อนออด นั่งบนตักพี่ชายคนสนิทแล้วกอดซบพี่ ดวงตากลมโตมองคุณพ่อขาอย่างร้องขอ
พรุ่งนี้ตาต้าก็จะกลับกรุงเทพฯแล้ว จินนี่เลยอ้อนมากกว่าปรกติ

“พี่ตาต้าเขากลับบ้านไปเรียนหนังสือนะคะจินนี่ เหมือนจินนี่ไงคะ เดี๋ยวเปิดเทอมจินนี่ก็ไปโรงเรียนแล้วนี่
ใช่ไหม?”

โซลพยายามล่อหลอก จินนี่เอียงคอคิดตามที่คุณพ่อขาพูด แต่ไม่ใช่จะยอมจำนนง่ายๆ

“ถ้างั้น… พี่ตาต้าก็มาเรียนกับจินนี่ก็ได้นี่คะ เราจะได้ไปโรงเรียนด้วยกันไงคะ”

น้องจินนี่ยังเสนอทางออกให้พี่ชายได้เลือก สีหน้าและแววตาคาดหวังกับสิ่งที่เสนอไป ตาต้ายิ้มบางลูบ
ศีรษะน้องแผ่วเบา เขาต้องคิดถึงน้องมากแน่ๆ อยู่ด้วยกันทุกวันขนาดนี้ ผู้ใหญ่ในวงสนทนามองสองพี่
น้องที่กอดกันเงียบๆแล้วพลอยสงสารเด็กน้อยทั้งสอง คุณแม่ของตาต้าจึงเป็นคนเสนอแนวทางอื่นให้
น้องจินนี่

“ถ้าจินนี่คิดถึงพี่ตาต้า จินนี่ก็โทรคุยกันกับพี่ตาต้าก็ได้นี่คะ หรือถ้าพี่ตาต้าปิดเทอมย่าจะพาพี่ตาต้ามา
เยี่ยมดีไหมคะลูก?”

จินนี่ฟังที่ย่านิ้งพูดแล้วเงยหน้ามองพี่ชาย ก่อนจะหันไปมองคุณพ่อ แล้ววกกลับมาหาย่านิ้งอีกครั้ง เอ่ย
ถามย่านิ้งเสียงเบา

“แล้ว… ถ้าจินนี่จะให้คุณพ่อขาพาไปหาพี่ตาต้าได้ไหมคะ?”

คุณย่านิ้งเงียบไปกับคำถามของหนูน้อย เพิ่งจะห้ามคนเป็นพ่อไม่ให้สานสัมพันธ์ใดๆกับตาต้า แต่นี่คน
เป็นลูกกลับอ้อนอยากให้คุณพ่อพาไปหาพี่ตาต้า แล้วแบบนี้คุณย่านิ้งจะทำยังไงล่ะคะจินนี่

“ได้ไหมคะย่านิ้ง?”

เด็กหญิงตัวน้อยยังรอคำตอบ สมกับที่เป็นพี่น้องคนสนิทจริงๆ อ้อนได้เหมือนกันไม่ผิดเพี้ยน คุณย่านิ้ง
ลอบถอนหายใจก่อนจะบอกกับน้องจินนี่น้อยอย่างยอมยกธงขาว ใจอ่อนให้กับสายตาเว้าวอนของเด็ก
น้อยน่ารัก

“ก็ได้ค่ะ จินนี่จะให้คุณพ่อขาพาไปหาพี่ตาต้าก็ได้ค่ะลูก”

“เย้! ถ้างั้นๆ จินนี่จะไปหาพี่ตาต้าที่กรุงเทพนะคะ พี่ตาต้าอยู่กรุงเทพคนเดียวก็ไม่ต้องเหงานะคะ เดี๋ยว
จินนี่จะไปหาน้า~”

จินนี่น้อยออกอาการดีใจมากมาย รีบบอกกับพี่ชายเสียงรัว ตาต้ายิ้มให้น้อง กอดตัวเล็กป้อมนั้นโยกกาย
ไปมา

“ครับผม พี่จะรอนะ”

“ค่า~”

สองพี่น้องกอดกันกลม ผู้ใหญ่ที่นั่งมองแล้วก็ยิ้มเอ็นดู ถึงคุณแม่ของตาต้าหรือคุณย่านิ้งของน้องจินนี่จะ
แอบหนักใจเล็กๆกับสิ่งที่รับปากเด็กหญิงตัวน้อยไป แต่พอเห็นว่ามันทำให้ทั้งเด็กหญิงและลูกชายของ
ตนเองยิ้มได้อย่างมีความสุข เธอก็ได้แต่คิดว่ามันไม่ได้หนักหนาอะไรกับการยอมให้กับเรื่องเล็กน้อย
เท่านี้

ตาต้าเหลือบมองหน้าพี่ที่แอบยิ้ม โซลได้แต่แอบคิดในใจ ความไร้เดียงสาของเด็กก็ช่วยเขาได้
เหมือนกันนะนี่



++++++++++++



ท่าอากาศยานประจำจังหวัด

วันเดินทางกลับของตาต้ามาถึง สมาชิกทุกคนในบ้านตามมาส่งกันถึงสนามบิน รวมทั้งพี่ดินกับพี่พิมพ์
แล้วก็พี่ผู้กองไต๋ของตาต้าด้วย อรณีเองก็จะกลับเที่ยวบินเดียวกัน หลังจากให้สามีล่วงหน้าไปก่อนแล้ว
หลายวัน คุณรณวีร์กับคุณน้ำทิพย์ยังจะอยู่ช่วยโซลเคลียร์งานที่ไร่สักพักก่อนจะตามไปเลี้ยงน้องพูห์
หลานชายตัวน้อยที่เมืองกรุง

เมื่อใกล้เวลาเที่ยวบินจะออก ตาต้าจึงร่ำลากับทุกคน จินนี่ที่นั่งเก้าอี้ข้างพี่ยังกอดแขนพี่ไว้ไม่ปล่อย คุณ
รณวีร์จึงเข้ามาอุ้มหลานสาวตัวน้อยออกมา จินนี่เอนศีรษะพิงซบคุณปู่ สีหน้าเหมือนอยากจะร้องไห้
ตาต้าเข้าไปจับมือน้องน้อย

“ถึงกรุงเทพฯแล้ว พี่จะโทรหานะคะ”

เด็กหญิงพยักหน้าเบาๆรับรู้ ตาต้าหอมแก้มน้องก่อนจะผละมา น้ำตาเม็ดโตของเด็กหญิงตัวน้อยก็ร่วง
ผล็อยทั้งสะอื้นฮัก คุณปู่จึงต้องพาออกไปเดินบริเวณรอบๆนั้นให้หนูน้อยหยุดร้องไห้ เดี๋ยวจะพาเอา
พี่ชายคนสนิทร้องตามไปด้วย

“ไม่ลืมอะไรนะ” โซลเข้ามาถามความเรียบร้อยกับน้อง

“หึ!” ตาต้าส่ายหน้า ไม่ได้ตอบเป็นคำพูดเพราะพยายามที่จะไม่ร้องไห้ตามน้องสาวอยู่

“เดินทางปลอดภัยนะลูกตาต้า”

“ขอบคุณครับป้าน้ำ”

ตาต้าไหว้ขอบคุณคุณน้ำทิพย์ บอกขอบคุณทุกคนที่มาส่ง ก่อนจะเดินตามคุณแม่ไปขึ้นเครื่อง โซลมอง
ตามแผ่นหลังน้องไม่ได้ละสายตาไปไหน ก่อนจะทำหน้างง เมื่อน้องหยุดเดินนิ่งอยู่กับที่ หันกลับแล้ววิ่ง
ย้อนกลับมาหาเขาหน้าตาตื่น

“พี่โซล ต้าลืม!”

สีหน้าแตกตื่นของน้องทำให้โซลออกอาการตกใจตามไปด้วย

“หือ ลืมอะไรล่ะ พี่ก็บอกแล้วว่าให้ดูดีๆ แล้วนี่จะทันไหม เครื่องก็จะออก…!”

จุ๊บ!

ตาต้าเขย่งปลายเท้าขึ้นจูบพี่เร็วๆ ก่อนผละออกมายิ้มทะเล้น

“ได้ละ”

โซลมองหน้าเด็กดื้ออึ้งๆ มือหนารั้งเอวบางเข้ามาชิดกาย โน้มใบหน้าลงไปกดจูบริมฝีปากอมชมพูหนัก
หน่วง แต่ละคนที่มาส่งต่างเบือนหน้าไปคนละทิศละทาง ยังดีที่จินนี่ไม่ได้อยู่ตรงนี้ด้วย

โซลจูบน้องจนพอใจแล้วจึงผละออกมามองตาใสๆ

“เด็กดื้อ เล่นซนจนหยดสุดท้ายเลยนะ”

ตาต้าอมยิ้ม กอดพี่แล้วบอกคำรักกับอกข้างซ้ายที่ตนเองซบอยู่

“ต้ารักพี่โซล”

“พี่ก็รักตาต้า อีกไม่นานเราจะได้อยู่ด้วยกัน”

“ครับ อีกไม่นาน”

โซลกดจูบหน้าผากเนียนอีกครั้งก่อนจะปล่อยน้องจากอ้อมแขน

“ตาต้า รีบมาเร็วลูก”

คุณแม่ที่ยืนมองสถานการณ์ล่อแหลมเมื่อครู่เอ่ยเรียก เมื่อทางสนามบินประกาศเรียกอีกครั้ง ตาต้าก้าว
ถอยหลังยาวๆโบกมือให้ทุกคนที่มาส่ง

“อย่าลืมคิดถึงต้าบ้างน้า~”

ทางฝั่งคนมาส่งก็โบกมือตอบหนุ่มน้อยที่หันกลับแล้ววิ่งตื๋อไปหาคุณแม่อย่างเร็วไว ก่อนเดินเข้าประตูก็ยัง
โบกมือลาอีกรอบ โซลมองน้องที่เดินเข้าไปด้านในแล้วถอนใจเบาๆ ย้ำกับตนเองเอาไว้ว่า

‘อีกไม่นาน’



+++++++++++



ขบวนที่มาส่งตาต้าทยอยออกมาจากอาคารสนามบินเพื่อจะกลับไร่ ไตรภพที่มองหนุ่มหน้าเข้มมาตั้งแต่
เจอกันในสนามบินแล้วเดินตามออกมาติดๆ รั้งแขนคนที่เดินไล่หลังเพื่อนเอาไว้

“ดิน เดี๋ยว…”

ดินชะงักเมื่อข้อมือถูกจับเอาไว้ มองหน้าเจ้าของมือที่จับด้วยใบหน้านิ่งเฉย เมื่อมีโอกาสแล้วไตรภพจึงรีบ
บอก

“ขอโทษนะที่ผมไม่ได้ไปรับคุณออกจากโรงพยาบาลน่ะ พอดีผมติดงานนิดหน่อย”

“ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่ครับ”

สีหน้าดินยังไม่เปลี่ยนไปจากเดิมแม้แต่น้อย จนคนบอกใจแป้ว เขาไม่คิดถึงเราบ้างเลยหรือไงนะ

“กลับรถผม” ไตรภพเสนอแกมร้องขอ

“แต่ผมมารถนาย”

ดินตอบกลับเสียงนิ่งดังเคย นายตำรวจหนุ่มมองใบหน้าที่แสนเรียบเฉยของคนตรงหน้าแล้วยกมือยอมแพ้

“ก็ได้ ผมเข้าใจละ”

ไตรภพก้าวถอยหลัง ทิ้งสายตาและสีหน้าเศร้าไว้ก่อนจะหันกลับ กำลังจะผละไป แต่แขนก็ถูกดึงไว้
เสียก่อน หันกลับมามองคนที่ดึงแขนตนเองไว้ เก็บสีหน้าและแววตาเปี่ยมความหวังไว้ให้มิดชิดที่สุด ดิน
นิ่งอยู่อย่างนั้นชั่วครู่ก่อนจะพูด

“รถคุณอยู่ไหน?”



+++++++++++



หลังจากที่ทุกคนกลับไร่รณวีร์กันไปแล้ว แต่ดินกลับหายตัว ลุงสนถามลูกสาวก็ได้ความว่าดินไปกับผู้
กองไตรภพ เมื่อเห็นว่ามันมืดค่ำลูกก็ยังไม่ติดต่อมาทั้งที่ก็มีโทรศัพท์ใช้แล้ว ไม่คิดว่าพ่อแม่จะเป็นห่วง
บ้างหรืออย่างไร เกิดเหตุการณ์แบบนั้นขึ้นมันไว้ใจใครไม่ได้หรอก ลุงสนบ่นให้พิมพิกาได้ยิน หญิงสาว
จึงต้องโทรตามพี่ชายอย่างเร่งด่วน กัณฑ์เทศบทที่หนึ่งเริ่มแล้ว

คนที่รับโทรศัพท์กลับเป็นไตรภพไปเสียได้ พิมพิกามึนเล็กๆก่อนจะถามหาพี่ชาย

“ดินเขาหลับไปแล้วน่ะครับ”

“หลับ?”

พิมพิกาทวนคำงงๆ พี่ชายเธอนี่นะหลับไปแล้ว นี่มันเพิ่งจะสามทุ่มเองนะ ขณะที่คิดอย่างแปลกใจ
ไตรภพก็บอกสำทับมาอีก

“บอกคุณพ่อด้วยว่าไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมพาดินไปส่งเอง อ้อ! บอกโซลด้วยนะครับว่าดิน
ขอลางานพรุ่งนี้หนึ่งวัน”

“เอ่อ… ค่ะ”

พิมพิการับคำงงงันกว่าเดิม เกิดอะไรขึ้น พี่ชายเธอถึงยอมนอนค้างที่บ้านคนอื่น โดยเฉพาะบ้านคุณ
ตำรวจคนนั้น อะไร ยังไงกัน น้องสาวงงแล้วนะพี่ชาย!!?



++++++++++++


ต่อด้านล่างค่ะ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-10-2012 20:20:56 โดย wanmai »

ออฟไลน์ wanmai

  • ★รักใสปิ๊ง★(>_<)
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 936
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1195/-5


กรุงเทพมหานคร

โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งที่ตาต้าเรียนอยู่ ก่อนโรงเรียนเลิกตาต้ากับเพื่อนในกลุ่มที่ประกอบไปด้วย

อะดิว เด็กหนุ่มหน้าตี๋ ผิวขาว ตัวผอมสูง พูดจาสุภาพ และเป็นมิตร

ปอมปอม เพื่อนรุ่นน้องที่อายุห่างกันสามปี เด็กผู้ชายตัวเล็ก แก้มป่อง ตาโต ครบสูตรของเด็กผู้ชาย
น่ารัก

และชีวา เด็กหนุ่มที่มักทำเหมือนตนเองอายุมากแล้ว ชอบสั่งสอนเหมือนเป็นพ่อ ปอมปอมกับอะดิวชอบ
เรียกชีวาว่า ป๋า

มักจะมานั่งเล่นที่โต๊ะใต้ต้นจามจุรีอยู่บ่อยๆ ลมพัดเย็นดี ไม่ต้องพึ่งแอร์ให้เปลืองพลังงาน

“รูปใครน่ะตาต้า น่ารักจัง”

ปอมปอมโผล่หน้ามามองหน้าจอมือถือของตาต้าที่เจ้าตัวเขานั่งมองอยู่นานแล้ว ปอมปอมไม่เรียกใครใน
กลุ่มว่าพี่ เพราะถือว่าทุกคนเป็นเพื่อน ยกเว้นกับชีวาที่ปอมปอมเรียกป๋า

“น้องสาวเราเอง”

“ตาต้ามีน้องสาวด้วยเหรอ?”

เด็กตัวเล็กเอียงคอมอง ยื่นหน้าเข้าไปดูหน้าจอมือถือเพื่อนอีกที เด็กผู้หญิงตัวเล็กกับตาต้าที่เอาแก้ม
แนบแก้ม ส่วนอีกข้างของเด็กหญิงตัวน้อยคือ… ผู้ชายหน้าตาหล่อเหลาแต่ออกจะเถื่อนในสายตาของ
ปอมปอม กับหนวดเคราที่ผู้ชายในรูปไว้

ตาต้ามองเพื่อนตัวเล็กแล้วยิ้มไม่ตอบ เพื่อนทำหน้างงๆ เพราะดูๆไปเด็กผู้หญิงในรูปก็คล้ายตาต้า
เหมือนกัน แต่ก่อนที่ปอมปอมจะได้ถามอะไรไปอีก มือเรียวเล็กก็รีบคว้าแก้วน้ำลอยได้หมับ ทั้งตาต้า
และปอมปอมหันไปมองตัวต้นเหตุทันที

“อะดิว อีกแล้วนะ!”

“ขอโทษๆ เราเผลออ่ะ” อะดิวยกมือขอโทษเพื่อน พอตื่นเต้นหรือตกใจเขามักจะควบคุมพลังพิเศษที่มี
อยู่น้อยนิดของตนเองไม่ได้ทุกที

“ป๋าแหละ นั่งอยู่ใกล้ๆทำไมไม่สะกิดบอกอะดิวเลย” ปอมปอมโบ้ยความผิดให้คนตัวโต ไม่โทษว่าเพื่อน
ของตนเองผิด

“อะไร เจ้าหนูกะปอมตัวจ้อย มาโทษคนอื่นนะ”

พอถูกเรียกว่ากะปอม เด็กตัวเล็กก็ฟาดพลัวะไปที่ต้นแขนคนเรียกทันที คนถูกตีก็ดึงตัวผอมๆนั่นมากอด
แล้วจี๋เอวอย่างบ้าคลั่ง ไม่กล้าเล่นแรงตัวเจ้าหนูน้อยปอมปอมยิ่งเล็กๆอยู่

“ทะเลาะกันตลอดเลยนะคู่นี้ เดี๋ยวก็ได้กันเองอ่ะคอยดูดิ” ตาต้าเอ่ยขึ้นมายิ้มๆ มียักคิ้วกวนๆให้อีก

“เฮ้ย!!”

ทั้งสองคนร้องเสียงดัง ผละห่างกันทันทีโดยไม่ต้องมีใครบอก ปอมปอมปัดเนื้อปัดตัวแล้วทำเป็นหยีหน้า
ท่าทางว่ารังเกียจ ชีวาเลยจะเอื้อมคว้าตัวเล็กๆนั้นมาสั่งสอนอีกที เด็กตัวเล็กก็วิ่งปร๋อไปนั่งข้างตาต้า
ทันที มีแลบลิ้นส่งท้ายให้ด้วย

“กลับรึยัง?”

เสียงของเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่ก้าวเดินเข้ามาหาเพื่อนของตาต้า คนๆนั้นคือกราฟ ไม่ได้สนิทกับกลุ่มตาต้า
เท่าไหร่หรอก รู้สึกจะมีแต่อะดิวที่สนิทกับหนุ่มคนนี้ เด็กหนุ่มที่มาใหม่เอ่ยถามกับเด็กหน้าตี๋อย่างอะดิว
สั้นๆ ตาต้าเหลือบมองเพื่อน สองมือกดข้าวของบนโต๊ะไว้กลัวมันจะลอยได้อีก

“ผมจะกลับพร้อมเพื่อนน่ะ ถ้ากราฟมีธุระจะกลับก่อนก็ได้ครับ”

เด็กหน้าตี๋บอกไปแบบนั้น กราฟมองหน้าเพื่อนของอะดิว นิ่งคิดชั่วครู่ ก่อนจะนั่งลงข้างๆอะดิว

“ใครให้นั่งวะ?” คนถามถามอย่างหาเรื่อง กราฟปรายตามองก่อนจะบอก

“นี่มันพื้นที่สาธารณะของโรงเรียน” หนุ่มกราฟตอกกลับเสียงเรียบ ชีวาตั้งท่าจะลุกเข้าใส่ แต่เสียงดุๆ
ของอะดิวก็ดังหยุดเขาเอาไว้ก่อน

“ชีวา”

อะดิวปรามเพื่อนเสียงหนัก ไม่อยากให้มีเรื่องกัน สองคนนี้ไม่ถูกกันเท่าไหร่ เหตุที่ชีวาไม่ถูกกับกราฟก็
พอรู้ แต่สำหรับกราฟที่ไม่ถูกกับชีวามันเพราะอะไรก็ไม่อาจรู้แน่ อาจจะเพราะหน้าตาของชีวามันกวน
อวัยวะเบื้องล่างมากจนเกินไปก็ได้นะ

“เข้าข้างมันนะ เดี๋ยวจะจำไว้” ชีวาคาดโทษเด็กหน้าตี๋ เลยได้เสียงเยาะจากคนที่ย้ายไปนั่งตรงข้ามมา
ให้ระคายหู

“คนแก่ขี้ใจน้อย” เจ้าหนูน้อยปอมปอมเบ้ปากใส่

“กะปอม!”

ชีวาเรียกชื่อเด็กตัวกวนเสียงดัง คว้าคอเจ้าหนูตัวเล็กข้ามโต๊ะ ปอมปอมเองก็ดิ้นไปมาโวยวายไม่หยุด
เพื่อนในกลุ่มมองแล้วส่ายหน้า ก็รู้ว่าปอมปอมยังเด็ก แต่ชีวาก็ยังจะเล่นกับเด็กอย่างปอมปอม ก็ไม่รู้ว่า
ใครกันแน่ที่เด็กกว่ากัน

ทุกวันของชีวิตตาต้าก็ยังคงเป็นเช่นนี้ ไม่มีอะไรเปลี่ยนไปจากเดิม เด็กหนุ่มยกโทรศัพท์ขึ้นมามองรูป
หน้าจออีกครั้ง แล้วยิ้มให้กำลังใจตนเอง

‘ตอนนี้พี่กำลังทำอะไรอยู่นะ จะคิดถึงต้าบ้างหรือเปล่า?’



++++++++++++



กิจวัตรที่โซลต้องทำอยู่ทุกวันคือดูแลต้นสตรอเบอร์รี่ที่น้องปลูกเอาไว้ และคอยถ่ายรูปส่งไปให้น้องดู
การเจริญเติบโตของมัน แต่พอมาทำแบบนี้ยิ่งเห็นก็ยิ่งคิดถึง ที่ที่น้องไปมันมีอยู่แทบทุกที่ในไร่นั่นล่ะ
แล้วอย่างนี้จะหลบไปที่ไหนได้ ทุกวันที่ต้องเข้าไปราตรีสวัสดิ์ลูกสาวตัวน้อย ก็มักมีภาพทับซ้อนในหัว
ว่าน้องจะนอนอยู่ในห้องนั้น เหมือนกับวันแรกๆที่น้องมาที่นี่

ทุกคืนก่อนนอน สองพี่น้องตาต้ากับจินนี่เขามักจะโทรคุยกันงุ้งงิ้งก่อนนอนเสมอ ทำให้โซลได้อานิสงส์
คุยกับน้องไปด้วย ทั้งที่บอกกับตัวเองว่าอีกไม่นาน แต่ตอนนี้ชักจะไม่ไหว คิดถึงมากๆแล้วในตอนนี้

“คิดถึงพี่ตาต้าจัง”

จินนี่น้อยที่เพิ่งวางสายจากพี่ตาต้าบ่นงุ้งงิ้งเบาๆอยู่บนเตียงนอนนุ่มของตนเอง พูดได้จังหวะเหมือนจะรู้
ใจคุณพ่อด้วยนะนั่น คุณพ่ออย่างโซลหัวเราะขำลูกสาวตัวน้อย เพิ่งคุยกันไปเมื่อกี้นี้เอง คิดถึงกันอีกแล้ว

“เห็นโทรคุยกันทุกวันนี่คะลูก”

“แค่โทรศัพท์เองพ่อขา จินนี่อยากเจอตัวพี่ตาต้ามากกว่า”

เด็กตัวเล็กทำแก้มพอง คว้าตุ๊กตาหมีน้อยมากอด แล้วนอนขดตัวกลมกอดน้องหมีตัวน้อย โซลล้มตัวลง
นอนข้างๆลูกสาว มองเพดานห้องแล้วคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย พอคิดไปคิดมาแล้วความคิดมันวนเวียนอยู่
แต่เรื่องเดิมๆ โซลจึงเอ่ยเรียกลูกสาวตัวน้อย

“จินนี่”

“ขา”

จินนี่ที่เขี่ยแก้มน้องตุ๊กตาหมีเล่นขานตอบคุณพ่อ โซลหันหน้ามาหาลูกสาว ก่อนจะถามคำถามที่แสนจะ
โดนจิตโดนใจจินนี่น้อย

“เราไปหาพี่ตาต้ากันไหม?”



TBC



•   หนุ่มชาวไร่จะเข้ากรุงตามหารัก เอิ๊ก!

•   ขอบคุณทุกกำลังใจและทุกบวกที่ให้ค่ะ ขอบคุณมากมาย :pig4:

•   จัดบวกคืนทุกท่านไปทุกบวกเช่นกันค่ะ :L2:

หลังจากไม่ได้เข้ามาอ่านนิยายในเล้านานมากกกกกก เพราะติดการเรียนแสนหนักหน่วง
 แต่พอเข้ามาดู อ้ะ อุ้ อ้ะ เอ้ะ! นิยายของคุนวันใหม่อัพ ! บุ้งก้อจิ้มปั๊บๆๆๆ โอ๊ววว บร๊ะ อัพเยอะเรยย สนุกมากกกกกก ทั้งยิ้ม ทั้งหัวเราะ ทั้งร้องไห้ TT'
  รอตอนต่อไปนะคะ แค่นี้บุ้งก้อนอนเรียน ตาหลับแล้ว
(บุ้งเวิ่นยาวเว่อร์!!)

•   นอนเรียน มันจะดีรึคะ? พยายามเข้าค่ะคุณผักบุ้ง สู้ๆ :a2:

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-10-2012 20:22:21 โดย wanmai »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด