รู้สึกคอมเม้นต์จะมันกว่านิยายอีกนะเรื่องนี้ โดยเฉพาะตอนที่ผ่านมา คำว่า แก่ นี่เต็มหน้าพี่โซลเลย
น่าจะตั้งชื่อตอนว่า…โคแก่
It’s Real เดี๋ยวรักเลย
ตอนที่ ๒๑ เก็บไว้คิดถึงกันเช้าวันถัดมาครอบครัวของตาต้าก็มาที่บ้านของอรณีกับสามีแต่เช้า ก่อนเวลานัดที่โซลจะไปรับอีก
เพราะคุณแม่ของตาต้าจะมาช่วยคุณน้ำทิพย์แม่ของโซลทำอาหารด้วย ที่สำคัญคือคุณพ่อของ
ตาต้ามีเรื่องจะคุยกับโซล
โซลแยกไปคุยกับคุณพ่อน้องและพ่อของตนเอง ส่วนตาต้าก็ถูกดึงไปอีกทางตามเคย หนุ่มน้อย
ได้แต่ขัดใจที่ถูกกันออกมาอีกแล้ว
“ทำไมต้าไม่มีสิทธิ์เข้าไปร่วมรับรู้ด้วยล่ะครับ”
“ก็พ่อจะคุยกับพี่เขา เราจะเข้าไปทำไมล่ะ เอ้อ~”
คุณแม่ส่ายหน้าไม่เห็นเป็นสำคัญ คุณลูกเลยได้แต่หน้ามุ่ย เพราะเป็นห่วงพี่ด้วย กลัวพี่ถูกดุ
ต้นที่เป็นสารถีให้ครอบครัวในวันนี้แยกออกไปเดินเล่นด้านนอก กดโทรศัพท์หาสาวเหนือยอด
ยาใจ ตอนนี้ต้องเริ่มต้นสานสัมพันธ์กับพิมพิกาใหม่ เพราะก่อนหน้านี้เคยทำไม่ดีกับเขาเอาไว้
ยังดีที่เขายอมให้โอกาสได้คบหาดูใจกัน และครั้งนี้เป็นรักทางไกลด้วย ต้องหมั่นดูแลเอาใจใส่
ให้มาก อีกไม่นานจะได้ให้แม่ไปขอ และเรื่องนี้ก็ดูจะเป็นอีกหนึ่งประเด็นสำคัญที่ทำให้ทั้งพ่อ
และแม่ของเขาต้องคิดหาลู่ทางที่จะไปดำเนินชีวิตบั้นปลายที่ภาคเหนือ เพราะทั้งเขากับน้อง
ต่างรักชอบหนุ่มสาวภาคเหนือเหมือนกันหมดแล้วนี่นะ
ภายในห้องทำงานบ้านอรณี บรรยากาศภายในนั้นดูจะอึดอัดสักเล็กน้อยกับการพูดคุยกันของ
ชายทั้งสามคน โซลเป็นคนที่โดนกดดันมากสุด เพราะถูกตำหนิกับสิ่งที่ทำอยู่ ซึ่งโซลก็ไม่ได้แก้
ตัวอะไรกับคำตำหนินั้น พูดคุยตกลงกันสักพักทั้งสามคนก็ลุกออกไปด้านนอก ก่อนจะเดินพ้น
ประตูไป คุณพ่อน้องตาต้าก็พูดขึ้นมาลอยๆ
“ถ้าอยากอยู่ด้วยกันนัก ก็ให้เจ้าต้ามันสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่นั่นให้ได้ก็แล้วกัน”
โซลไหว้ขอบคุณท่านแล้วยิ้ม มองตามแผ่นหลังของคุณพ่อน้องที่เดินห่างออกไป นี่ถือเป็น
สัญญาณที่ดีมากสำหรับสถานการณ์ระหว่างเขากับน้อง พ่อของน้องน่าจะรับรู้มาตลอดว่าตาต้า
คิดกับเขาเกินเลยความเป็นพี่น้องมานานแล้ว แต่ท่านไม่อยากจะยอมรับสักเท่าไหร่จึงทำเป็น
เฉยไปเสีย เพราะหากยิ่งแสดงออกว่ารู้และห้าม เด็กน้อยอย่างตาต้าจะยิ่งต่อต้านและสิ่งที่มันยัง
ไม่เกิดก็จะเกิดตามมา
ต้องขอบคุณครอบครัวที่น่ารักของเขากับตาต้าจริงๆ ที่รัก ห่วงใย และเข้าใจพวกเขาขนาดนี้
เพื่อตอบแทนความรักนั้น ทั้งโซลและน้องก็ยิ่งจะต้องดูแลรักษาความรักครั้งนี้ของตนเองให้ดี
ที่สุด
+++++++++++
เมื่อใกล้เวลาอาหารกลางวัน คุณแม่ทั้งสองและตาต้ากับจินนี่จึงเข้าครัว ก็เข้าใจว่าคุณแม่จะเข้า
ไปทำอาหาร แล้วตาต้าล่ะ จะเข้าไปช่วยหรือเข้าไปป่วน
ตาต้ากับน้องสาวตัวน้อยนั่งมองคุณแม่ทั้งสองและแม่บ้านผู้เป็นลูกมือทำงานกันไป อยากจะ
หยิบจับทำอะไรก็เกรงจะทำเละเทะไปกันใหญ่ รายการอาหารวันนี้ก็มี แกงเขียวหวานไก่ยอด
มะพร้าวอ่อน ปลาสามรส แกงจืดกระหล่ำยัดไส้ และผัดผักรวมมิตร ของหวานคือทับทิมกรอบ
ราดน้ำเชื่อมเติมน้ำแข็งเกร็ดเย็นๆชื่นใจ
ตาต้าลุกไปดูคุณน้ำทิพย์ทำกับข้าวอยู่หน้าเตา หยิบจับนั่นนี่ใส่ๆแล้วก็เสร็จ หนุ่มน้อยมองทึ่งๆ
อยากจะปรบมือให้ความรวดเร็วของคุณป้าน้ำของตัวเองจริงๆ คุณน้ำทิพย์เห็นตาต้าน้อยมาเมียง
มองเหมือนจะสนใจจึงถามว่าอยากลองทำดูไหม เด็กดื้อรีบส่ายหน้าทันที คุณแม่กับคุณป้าเลย
ยิ้มขำ ก่อนที่คุณน้ำทิพย์จะเอ่ยแซวเล็กๆ
“เสน่ห์ปลายจวัก สามีรักสามีหลงนะลูก”
ตาต้าอ้าปากเหวอกับคำแซว ก่อนจะหุบฉับแล้วเปลี่ยนเป็นยิ้มแหยแทน
“แต่ต้าว่า มันจะกลายเป็นเสน่ห์ทัพพีหักมากกว่าครับป้าน้ำ”
คำพูดนั้นเรียกเสียงหัวเราะของคนในครัวได้เป็นอย่างดี หนุ่มน้อยตาต้าลูบท้ายทอยเก้อเขิน แต่
ก็ไม่เพียงเท่านั้น เพราะคุณแม่ของตนเองยังคุยกับจินนี่กึ่งแซวมาอีก
“ถ้าพี่ตาต้าไปอยู่ด้วยจินนี่คงผอมแย่ เพราะพี่ตาต้าทำกับข้าวไม่เป็น”
“ไม่เป็นไรค่ะย่านิ้ง เดี๋ยวจินนี่จะทำให้พี่ตาต้ากินเอง”
หนูน้อยจินนี่ว่าอย่างภาคภูมิ ทำสีหน้ามั่นใจเต็มที่
“โอ้~” ผู้ใหญ่ทุกคนพากันร้องอุทานเป็นเสียงเดียวกันกับท่าทางน่าเอ็นดูนั่น
“จินนี่ทำเป็นน้า ใช่ไหมคะคุณย่าขา”
หนูน้อยกลัวไม่มีใครเชื่อเลยถามคุณย่าเพื่อขอคำยืนยัน คุณน้ำทิพย์มองหลานสาวยิ้มๆ ก่อนจะ
หยิบชามพลาสติก กับวัตถุดิบสำหรับทำอาหารเมนูถนัดของหลานสาวตัวน้อยไปส่งให้
“ใช่ค่า อ่ะนี่ อุปกรณ์สำหรับแม่ครัวตัวน้อยของย่า”
“ขอบคุณค่า”
ที่คุณน้ำทิพย์นำมาให้คือไข่ไก่ และเครื่องปรุงสำหรับทำไข่ตุ๋น เมนูง่ายๆที่จินนี่ก็ทำได้ และชอบ
ทำมากด้วย มีผักสีสันต่างๆสำหรับตกแต่งกระจุกกระจิก จินนี่หันไปมองพี่ชายคนสนิทแล้วเรียก
ให้มาหา หยิบไข่หนึ่งฟองยื่นไปตรงหน้าพี่ชาย
“พี่ตาต้าตีไข่เป็นป่ะคะ?”
เอียงคอมองทำท่าใสซื่อ จนคนเป็นพี่ต้องหยิกแก้มป่องๆที่แอบอมยิ้มนั่น
“หื้อ ดูถูกนะยัยตัวเล็ก มา เดี๋ยวพี่จะทำให้ดู”
ตาต้าแกล้งทำท่าถลกแขนเสื้อเตรียมลงมือตีไข่ไก่ให้น้องดู จินนี่ก็ตบมือเปาะแปะรับลูกให้
พี่ชายทันทีเหมือนกัน
“พี่ตาต้าสู้ๆ”
ตาต้ามองน้องสาวแล้วแยกเขี้ยวใส่ คนเป็นน้องก็หัวเราะคิกคัก ขนาดตีไข่ยังต้องเชียร์กันด้วย
ทำไมไม่มีใครเชื่อฝีมือต้าสักคนเลยอ้า ฮือออ
สองพี่น้องช่วยกันทำไข่ตุ๋นจนเสร็จไป คุณแม่ของตาต้าจึงเอาไปใส่หม้อหุงข้าวตั้งระบบนึ่ง
เอาไว้ หลังจากนั้นจึงให้สองพี่น้องช่วยมาปั้นหมูเป็นก้อนใส่ในกระหล่ำที่เจาะตรงกลางเอาไว้ทำ
เป็นไส้ผักกระหล่ำเพื่อทำแกงจืด ให้ใส่ถุงมือกันเปื้อนแล้วลงมือทำ พอเสร็จก็ให้ตาต้าเอาไปใส่
ในหม้อที่ต้มน้ำซุปกระดูกหมูเอาไว้จนเดือดดีแล้ว
“ระวังนะลูก ค่อยๆใส่ เดี๋ยวน้ำร้อนกระเด็นโดนแขนเอา”
“ครับ”
อาหารทุกอย่างถูกทำไปอย่างครบถ้วน ยังมีแกงจืดที่ยังตั้งเตาอยู่ให้ผักนิ่มมากกว่านี้ และเสิร์ฟ
ร้อนๆจะได้ซดน้ำคล่องคอ แม่บ้านช่วยกันเก็บข้าวของเตรียมล้าง คุณแม่นิ้งเห็นไข่ไก่ที่จินนี่ทำ
ไข่ตุ๋นยังเหลืออยู่จึงถามลูกชายว่าอยากลองทำไข่ยัดไส้ด้วยไหม คุณแม่ให้ตาต้าเป็นคนปรุงไส้
เอง ส่วนวิธีการทำมีคุณแม่คอยกำกับอยู่ข้างๆ หน้าตาที่ออกมาก็… พอดูได้ เกือบเละไป
เหมือนกันเพราะเป็นมือใหม่ เจียวไข่ได้อย่างเดียวก็ถือว่าเก่งแล้ว
+++++++++
อาหารทุกอย่างถูกทยอยนำมาวางบนโต๊ะ สมาชิกสองครอบครัวอยู่กันโดยพร้อมหน้า และร่วม
รับประทานอาหารด้วยกัน ตาต้านั่งฝั่งตรงข้ามกับพี่ มีจินนี่น้อยนั่งข้างๆ ตาต้าตักไข่ยัดไส้ที่
ตัวเองทำส่งให้พี่ได้ชิมก่อน ทั้งโต๊ะดูจะลุ้นตามตาต้าไปด้วย ก็ดูเด็กดื้อเขาสิ อะไรจะเกร็งขนาด
นั้น ตาโตๆมองหน้าพี่ แอบลุ้นตอนพี่ตักเข้าปาก โซลกลั้นขำกับท่าทางลุ้นเกินเหตุของน้อง
เคี้ยวช้าๆแกล้งน้องเข้าไปอีก
“เป็นไงบ้างอ่ะ?” ตาต้ารีบถามเมื่อพี่กลืนลงไปแล้ว
“อืม”
โซลยังแกล้งทำท่าคิดต่อจนน้องอดไม่ไหวถามขึ้นมาอีก
“ว่าไงอ่ะครับ?”
“อันนี้ซื้อมาเหรอ?” ก็รู้อยู่ว่าใครทำ แต่ก็ยังอยากแกล้ง เห็นแล้วหมั่นเขี้ยวจริงๆเลยเด็กน้อย
“แล้วมันเป็นยังไงล่ะ พี่โซลอ้า ต้าอยากรู้”
ตาต้าเร่งเอาคำตอบ อยากจะลุกขึ้นมาเขย่าคนทำเฉยจริงๆเลย แกล้งต้าใช่ไหมล่ะ เหลียวซ้าย
แลขวาก็เห็นผู้ใหญ่ในโต๊ะแอบขำด้วย พากันแกล้งต้าหมดเลยอ่ะ!
“พี่โซลลลล”
เด็กดื้อลากเสียงยาวที่พี่ทำยึกยัก โซลอมยิ้มก่อนจะตอบสั้นๆ
“ก็ดี”
“เฮ้อ~ อย่างน้อยก็ยังดีอ่ะนะ”
หนุ่มน้อยทำท่าโล่งใจเกินจริงจนโซลหลุดหัวเราะ ตาต้าย่นจมูกใส่ ก่อนเสียงเล็กๆของเด็กหญิง
ตัวน้อยข้างกายพี่ชายคนสนิทอย่างตาต้าจะดังขึ้นมาแก้ต่างให้พี่ชายของตัวเอง
“จินนี่ว่าพี่ตาต้าทำอร่อยดีออกนะคะพ่อขา ไม่ใช่แค่ก็ดีสักหน่อย”
“ตาต้าทำเหรอ?”
ตาต้าทำลอยหน้าไม่ตอบ จินนี่น้อยจึงพยักหน้ายืนยันให้แทน
“ถ้ารู้ก่อนว่าตาต้าทำ พี่จะได้บอกว่าอร่อยมาก” โซลแอบหยอดจึงได้เสียงกระแอมจากพ่อน้อง
มาเป็นรางวัล
“พี่โซลอ่ะ ไม่จริงใจเลย”
ปากบ่นว่าอุบอิบ แต่ก็แอบยิ้มกับคำหยอดหวานของพี่ บรรยากาศในโต๊ะจึงอวลไปด้วยความสุข
ของครอบครัวใหญ่ที่เพิ่มครอบครัวของตาต้ามาอีก
เมื่อทานข้าวเสร็จก็ต่อด้วยของหวาน จินนี่กับตาต้าที่ทานเยอะจนอิ่มแปล้ต้องขอจรลีไปนั่งย่อย
ที่ห้องนั่งเล่น เปิดทีวีช่องสัตว์น้อยน่ารักดูไปด้วย ต้นตามมานั่งดูกับน้อง อยู่กับเด็กแล้วมี
ความสุขดี น่าจะมีบ้างสักคนได้แล้วมั้ง
++++++++++
หลังจากรับประทานอาหารกลางวันกันเรียบร้อยและอยู่พูดคุยกันสักพัก พ่อกับแม่ของตาต้าก็ขอ
ตัวกลับโดยมีต้นขับรถให้ดังเคย ส่วนตาต้าได้รับอนุญาตเป็นกรณีพิเศษให้อยู่ต่อได้ และให้โซล
ไปส่งก่อนค่ำ
ตาต้ากับโซลมาส่งพ่อ แม่ และพี่ชายที่รถ ก่อนไปคุณพ่อก็ยังกำชับสั่งเรื่องเวลาอีกครั้ง โซลเอง
ก็รับปากเป็นอย่างดี ได้เท่านี้ก็ดีมากแล้ว
รถของครอบครัวตาต้าขับออกไปแล้ว โซลจึงจูงมือน้องไปนั่งที่ม้านั่งในสวนสวย พูดคุยกันเบาๆ
เก็บช่วงเวลาเล็กๆนี้ไว้ยามคิดถึง
“พ่อคุยอะไรกับพี่โซลบ้างอ่ะครับ?”
ตาต้าถามอย่างอยากรู้ มันคงไม่ใช่ความลับหรอกใช่ไหม
“อืม ก็… เรื่องที่พี่มาหาตาต้าที่นี่…”
“พี่โซลโดนว่าเหรอ?”
ตาต้าถามสีหน้าเป็นกังวลขึ้นมา เมื่อครู่ที่อยู่ด้วยกันเยอะๆตาต้าก็ไม่กล้าถามพี่ว่าเป็นอย่างไรกับ
การพูดคุยระหว่างพ่อกับพี่ เพราะเห็นว่าไม่เหมาะ
“ก็… ไม่หรอก ท่านก็ตำหนินิดหน่อยกับความเจ้าเล่ห์ของพี่ที่ใช้ลูกเป็นกันชนน่ะ มันก็ถูกอย่างที่
ท่านว่า พี่นี่แย่จริงๆ”
มือเรียวกุมมือพี่ไว้ อยากบอกว่าพี่ไม่ผิด แต่ก็พูดไม่ได้ ก็เขาเองก็ผิดเหมือนกันที่ทำให้เรื่องมัน
ยุ่งยากเช่นนี้ โซลมองความห่วงใยที่ฉายชัดในแววตาใสของน้องแล้วยิ้มบาง วางมือทับมือน้อง
อีกทีแล้วบอก
“พี่ไม่เป็นไร เพราะอย่างน้อยท่านก็ไม่ได้ใจร้ายกับพี่นัก เรียกได้ว่าใจดีมากๆด้วยที่ให้พี่มี
ช่วงเวลาได้อยู่ใกล้ตาต้าอย่างตอนนี้”
ตาต้ามองพี่แล้วยิ้มเศร้า พี่ต้องอดทนมากหรือเปล่ากับคนๆนี้ เขาเอาแต่ใจ ไม่รู้จักโต ทั้งยังนำ
ปัญหามาให้พี่อีก
“พี่โซล ท้อไหม?”“ไม่ ถ้าเพื่อตาต้า เพื่อเรา พี่ทนได้ แล้วตาต้าล่ะครับ”
คำตอบที่จริงจังนั้นพัดพาความกังวลให้ปลิวหาย เขายังเด็กจริงๆสินะ ที่แค่คำพูดไม่กี่คำของพี่ก็
ทำให้เขาเชื่อมั่นว่ามันจะเป็นเช่นนั้นได้แล้ว ความกังวลใจที่มีมันกลับกลายเป็นเพียงเรื่องไร้
สาระที่เขาคิดไปเอง
“ถ้าพี่โซลไม่ท้อ ต้าก็ไม่ท้อเหมือนกัน”โซลยิ้มให้น้อง โอบไหล่บางให้เอนมาพิงซบ หัวใจดูจะเต้นเร็วขึ้นกว่าก่อนหน้านี้ที่ห่างกัน อยาก
ให้ถึงวันเวลาที่จะได้อยู่ข้างกายกันเร็วๆ ถึงแม้อยากให้มันเป็นเช่นนั้น แต่เวลามันก็ยังคงเดินไป
เท่าเดิมอยู่ดี
++++++++++++
เมื่อถึงเวลาโซลก็มาส่งน้องที่บ้านตามที่รับปากกับพ่อของน้องเอาไว้ จอดรถข้างกำแพงรั้วบ้าน
ยังไม่เลี้ยวไปที่หน้าประตู ตาต้าเลิกคิ้วหันมามองพี่งงๆ
“พรุ่งนี้พี่กลับแล้วนะครับ”
โซลบอกน้องไปแบบนั้นแล้วก็รู้สึกใจหายเสียเอง เอื้อมมือไปกุมมือน้อง ตาต้าก้มหน้ารับคำพี่
เบาๆ
“ครับ”
“อยากพาตาต้ากลับไปด้วยจัง”
โซลแหงนหน้าขึ้นเอนศีรษะพิงเบาะรถ แล้วนิ่งเงียบกันอยู่อย่างนั้น เขาว่ากันว่าเวลาแห่ง
ความสุขมักผ่านไปเร็วเสมอ เวลาแห่งความทุกข์มักจะอยู่กับเรานานกว่ามาก ทั้งที่วันเวลามันก็
ยังคงดำเนินไปเท่ากัน มีเพียงจิตใจเราเท่านั้นที่รู้สึกไปเอง
โซลขยับนั่งตัวตรง ก่อนจะโน้มกายไปหาน้อง ตาต้าเอนหลังชิดเบาะเมื่อพี่เลื่อนใบหน้าใกล้เข้า
มา หลับตาลงรับจูบลึกซึ้งจากพี่ โซลค่อยกวาดไล้ปลายลิ้นช้าๆ อยากทำให้มันเป็นจุมพิตแสน
หวานดื่มด่ำมากกว่าจะดูดดื่มร้อนแรง ค่อยๆละเลียดเลาะเล็มริมฝีปากอิ่ม กดย้ำชิมรสหวาน
หัวใจใต้อกแกร่งเต้นตุ้บ รู้สึกตื่นเต้นมากกว่าจูบครั้งไหนๆ พร้อมๆกันกับความเจ็บแปลบที่ปะปน
เข้ามายามนึกถึงวันไกลห่าง
โซลผละออกมาเมื่อรู้สึกถึงแรงสะอื้นน้อยๆ ทั้งหยาดน้ำอุ่นที่ไหลลงข้างแก้มเนียน กดจูบซับ
น้ำตาให้เด็กขี้แย
“อุ้มกลับไร่ด้วยได้ไหมเนี่ย”
เด็กขี้แยหัวเราะน้อยๆ ยกมือเช็ดน้ำตาจากแก้ม โซลหยิบทิชชู่มาเช็ดน้ำตาให้น้องอีกที
ก๊อก ก๊อกเสียงเคาะกระจกรถฝั่งคนขับ ทำให้โซลเอี้ยวหน้าหันกลับไปมอง
“อุ้ย!”
ถึงกับสะดุ้งเมื่อเห็นคุณพ่อของน้องก้มมองอยู่ข้างๆตัวรถ ท่าของเขาล่อแหลมเสียด้วยนะตอนนี้
กำลังคร่อมลูกชายของท่านเลยเชียว คราวนี้คนเป็นน้องถึงกับหลุดขำ ทั้งที่สูดจมูกฟืดๆไปด้วย
ไม่รู้จะร้องไห้หรือหัวเราะดีแล้ว หน้าพี่โซลตลกอ่ะ
โซลเปิดประตูลงมาจากรถแล้วไหว้พ่อน้อง ท่านก็รับไหว้ด้วยสีหน้าเคร่งขรึมไม่เปลี่ยน ขณะที่
ตาต้าก็ลงมาจากอีกด้านแล้วเข้าไปยืนข้างๆคุณพ่อ
“พรุ่งนี้จะกลับแล้วนี่นะ” คุณพ่อน้องตาต้าถามขึ้นมา
“ครับ”
“เดินทางปลอดภัย”
โซลไหว้ขอบคุณท่าน ก่อนจะลากลับ ไหว้ลาคุณพ่อน้องอีกครั้ง และขึ้นรถขับออกไป มองส่งพี่
แล้วตาต้าก็ชวนคุณพ่อเข้าบ้าน ยังไม่ทันได้ก้าวขาคุณพ่อก็พูดดักขึ้นมาเสียก่อน
“เราก็อย่าไปยอมให้มันมากนักนะเจ้าต้า”
คุณพ่อย้ำเตือนอีกหน หนุ่มน้อยหันมายิ้มแหย ก่อนจะดันหลังคุณพ่อเข้าบ้านไป
‘โดนอีกดอกแล้วอ้า ต้าเจ็บปวดดดด’
TBC• ขอบคุณทุกกำลังใจ บวกทุกบวกเมื่อบวกได้ค่ะ
• พบกันตอนหน้าค่ะชี้แจงแถลงไข
อีกสองตอนนิยายเรื่องนี้จะจบลงแล้วนะคะทุกท่าน
ตั้งแต่เริ่มเขียน ใหม่วางพล็อตเอาไว้ 24 ตอนจบ ไม่ได้เปลี่ยนพล็อตไปจากเดิม แต่ตัดฉากของ
ปรเมศวร์ออกเพราะเขียนแล้วมันดาร์คจนเกินไป ไม่เหมาะกับนิยายใสๆ (เหรอ?) เท่าไหร่ พอตัด
ตอนของปรเมศวร์ออกจึงเหลือเพียง 23 ตอนจบเช่นนี้ค่ะ
หลังจากตอนจบแล้วจะมีตอนพิเศษของพี่โซลกับตาต้า1ตอน พี่ไต๋กับพี่ดิน1ตอน และตอน
พิเศษภาคตาต้าเข้ามหาวิทยาลัยอีก…กี่ตอนยังไม่รู้เหมือนกัน แหะ กำลังปั่นอยู่ค่ะ
สรุปคือ It’s Real เดี๋ยวรักเลย จะจบในอีกสองตอนข้างหน้า และจะต่อตอนพิเศษตาต้า&โซล +
ไต๋&ดิน อย่างละ1ตอน จากนั้นจะตามด้วยตอนพิเศษภาคมหาวิทยาลัยของตาต้า เมื่อจบอันนี้
แล้วก็จะเป็นอันจบโดยสมบูรณ์ค่ะ ไม่งงกันเนาะ หรือจะงง?ปล. สำหรับเรื่อง MAGICA ยังไม่ลงในเล้านะคะ ขอปั่นให้ได้หลายๆตอนก่อนจะได้ไม่ทิ้งช่วงไป
นาน ขอบคุณท่านที่ให้ความสนใจด้วยค่ะ วันใหม่