It's Real เดี๋ยวรักเลย♥ พิเศษ HAPPY FAMILY♥
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: It's Real เดี๋ยวรักเลย♥ พิเศษ HAPPY FAMILY♥  (อ่าน 193283 ครั้ง)

ออฟไลน์ gupalz

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +604/-20
ตาต้าจะเป็นอะไรป่ะเนี่ย

Hakken

  • บุคคลทั่วไป
 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
เหมือนตาต้าของเรา
จะต้องรับศึกหนัก

ออฟไลน์ MooJi

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 190
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-0
น้องตาต้าไม่ได้เจ็บตัวฟรีแล้วนะถึงจะไม่ได้ตั้งใจก็ตามที
เพราะพี่โซลก็แสดงออกเต็มที่ถึงความรักความห่วงใยที่มีให้
แถมแสดงออกให้เห็นกันถ้วนหน้าเลยด้วย
ฮฺฮฺ
หวังว่าคุณพี่จารุคงจะไม่มาทำตัวเป็นมารความสุขของคนอิ่นเค้าหรอกนะ
ทำไงได้ต้องโทษตัวเองเถอะที่ทำผิดต่อพี่โซลกับน้องจินนี่
แถมพี่โซลยังอภัยให้ด้วย  จงเจียมตัวด้วย

น้องตาต้าอย่าได้สนใจใครความรักชนะทุกสิ่งนะลูก
อุปสรรคคือสิ่งที่ทำให้เราเห็นความสำคัญของสิ่งที่ได้มานะ
สู้ๆตาต้า

ออฟไลน์ love2y

  • (′~‵)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2059
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-11
อยากรู้จุดประสงค์ของแม่ของจินนี่มาก เธอมาทำไม?

ออฟไลน์ wanmai

  • ★รักใสปิ๊ง★(>_<)
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 936
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1195/-5
มาก่อนวันนัดวันนึงอีกละ คราวหน้าไม่นัดดีกว่าเนอะ :try2:



It’s Real เดี๋ยวรักเลย


ตอนที่ ๑๒ อดีต vs ปัจจุบัน = อนาคต (๒)



โซลอุ้มเด็กดื้อเข้ามาในบ้าน ค่อยวางน้องลงที่โซฟาตัวยาว เรียกได้ว่าประคับประคองกันเต็มที่จนดูออกนอกหน้าไปสักนิด จินนี่รีบมานั่งข้างพี่ชายคนสนิท ดวงตากลมแป๋วมองสำรวจพี่แล้วหน้าม่อย สงสารพี่จัง

“พี่ตาต้าเป็นยังไงบ้างคะ เจ็บมากรึเปล่า?”

มือเล็กๆลูบแขนคนเป็นพี่เบาๆ กลัวพี่เจ็บ

“ไม่เป็นไรค่า เจ็บนิดเดียวเอง เดี๋ยวก็หายแล้วเนอะ”

ตาต้ายิ้มบอกน้อง ใช้มือข้างที่ไม่เจ็บลูบศีรษะน้องน้อยอย่างเอ็นดู จินนี่จึงยิ้มได้ ประคองแขนข้างที่เจ็บของพี่ชายเบาๆ แล้วบอก

“มาจินนี่เป่าให้”

จินนี่น้อยสูดลมหายใจเข้าลึกเหมือนจะรวบรวมพลัง จนคนเป็นพี่ต้องกลั้นขำ แล้วมองดูน้องเงียบๆ

“โอมมม ความเจ็บจงหายไป เพี้ยงๆๆ”

ผู้ใหญ่ในห้องต่างยิ้มให้กับความน่าเอ็นดูของเด็กหญิงตัวน้อย ตาต้าหัวเราะออกมาเบาๆ หยิกแก้มยุ้ยอย่างเอ็นดูเป็นที่สุด ก่อนจะชะงักเมื่อสบสายตากับหญิงสาวที่ยืนกอดอกมองมาทางเขาอยู่

“ตาต้าขึ้นห้องไหม เดี๋ยวพี่พาไป”

“ไม่!.. คือ…ต้าไปเองได้ ใช้ไม้ค้ำนิดหน่อยก็เดินได้แล้ว”

ตาต้าที่มัวคิดกังวลกับสายตาของจารุเผลอตอบพี่ไปเสียงดัง พอเห็นพี่ขมวดคิ้วเลยรีบอธิบายใหม่ด้วยน้ำเสียงที่เบาลง ยิ้มให้พี่ตบท้ายประโยคยืนยันในคำพูดของตนเอง โซลหรี่ตามองคนทำบ่ายเบี่ยง บีบจมูกโด่งอย่างหมั่นเขี้ยว

“ดื้อ”

“งื้อ พี่โซล ทำไมชอบบีบจมูกต้าจังอ่ะ เดี๋ยวมันก็แบนหรอก”

ต่อว่าพี่หน้ามุ่ย ลูบจมูกตัวเองป้อยๆกลัวมันจะยุบจริงๆนะ โซลยิ้มขำ ก่อนจะขยับลุก โน้มตัวมาให้น้องเกาะลุกจะได้อุ้มได้สะดวกหน่อย

“มาครับ”

อ้าแขนรอน้องแล้ว แต่ตาต้ามองท่าทางของพี่แล้วก็ยังเฉย คนเป็นพี่จึงย่อตัวลงช้อนตัวคนทำเฉยขึ้นอุ้มทันที แขนเรียวคว้าต้นคอพี่เร็วไวกลัวตก เผลอใช้ข้างที่เจ็บจนต้องสูดปาก แต่พอสบตากับพี่ในระยะประชิดความเจ็บก็เริ่มจะกลายเป็นความเขิน โซลยกยิ้มเมื่อคนเป็นน้องหน้าแดงขึ้นทันตา อยากจะหอมแก้ม แต่ก็ชะงักเมื่อนึกได้ว่าไม่ได้อยู่กันเพียงสองคน จินนี่หัวเราะคิกคัก ก่อนจะชูแขนให้พี่นุ่นอุ้มบ้าง โซลอุ้มคนเป็นพี่ขึ้นบ้านไป ตามด้วยนุ่นที่อุ้มคนน้องที่ตบมือเปาะแปะอารมณ์ดีตามไปอีกที

ส่วนจารุที่ไร้คนสนใจก็มองตามโซลที่อุ้มน้องชายขึ้นบ้านไปด้วยสีหน้าครุ่นคิด



++++++++++++



โซลมาส่งน้องบนห้องแล้วขอไปสะสางงานสักพัก จินนี่เลยมานั่งเล่นเป็นเพื่อนพี่ชายในห้อง อ่านหนังสือให้กันฟังบ้าง ดูทีวีกันบ้าง ก่อนที่จินนี่จะไปอาบน้ำเมื่อพี่นุ่นมาตาม ตาต้าเลยนั่งดูทีวีอยู่บนเตียงคนเดียว กดเปลี่ยนช่องไปมาแล้วก็เริ่มเบื่อ จึงปิดแล้วล้มตัวลงนอน

ไม่นานหลังจากนั้นโซลก็กลับมา นำอาหารเย็นมาให้น้องทานบนห้อง โดยเอาโต๊ะเล็กมาวางข้างเตียง ก่อนจะให้น้องทานยาหลังอาหาร เสร็จแล้วถึงเรียกสาวใช้ให้มาเอาไปเก็บ

“ตาต้าอาบน้ำไหม?”

โซลถามน้องที่ยังอยู่ชุดเดิมกับที่ไปเล่นซนจนตกต้นไม้ลงไปคลุกฝุ่น อากาศก็ร้อนน้องน่าจะเหนียวตัวอยู่ไม่น้อย

“ต้าจะอาบได้ยังไงล่ะ แขนเจ็บอยู่นะ แล้วแผลถลอกพวกนี้อีก”

หนุ่มน้อยพูดเหมือนบ่นไปในที มองสภาพถลอกปอกเปิกของตนเองแล้วถอนหายใจ ดูไม่ได้เลย

“เดี๋ยวพี่อาบให้”

“ห๊ะ!”

เด็กดื้อทำตาโต อุทานเสียงดัง โซลหรี่ตามองน้อง ขำกับท่าทางนั้น แล้วถาม

“ทำไมต้องตกใจ?”

“จะไม่ให้ตกใจได้ไงอ่ะ พี่โซลจะอาบน้ำให้ต้านะ!”

“ก็ใช่ไงครับ”

ตาต้าทำราวกับว่ามันคือปัญหาใหญ่ หน้าตายังตื่นเมื่อบอกกับพี่ แต่คนเป็นพี่ก็ยังคงพูดเรื่อยๆ ไม่ได้ออกอาการเหมือนน้องเลยแม้แต่น้อย

“ไม่เอาอ่ะ”

“ทำไมล่ะ?”

โซลเลิกคิ้วถามหาเหตุผล ดวงตาเต้นระริกไหวเพราะกลั้นขำ

“พี่โซล”

เด็กดื้อลากเสียงยาวเมื่อพี่ทำเป็นไม่รู้เรื่อง

“อะไรครับ พี่ไม่เห็นเข้าใจ”

ตาต้ามองคนทำเป็นไม่เข้าใจแล้วทำแก้มพอง บ่นอุบอิบ

“อาบน้ำต้าก็ต้องโป๊สิ”

“พี่ไม่มองก็ได้”

คนเป็นพี่รับปาก แต่คนเป็นน้องกลับเลิกคิ้วเอียงคอแล้วถาม

“ไม่มองแล้วจะอาบยังไงอ่ะครับ?”

“เออ นั่นสิ” โซลทำเสียงเห็นด้วย ก่อนจะเปลี่ยนมานำเสนอแนวทางอื่น “งั้น…เช็ดตัว”

ตาต้าที่คิดว่ารอดจากการโป๊ต่อหน้าพี่แล้วถึงกับสะดุ้ง เมื่อพี่จะถอดเสื้อให้ เด็กดื้อจะเบี่ยงตัวหลบแต่ก็ทำได้ลำบาก เพราะมันเคล็ดขัดยอกไปทั้งตัว จึงได้แต่ใช้มือข้างที่ไม่เจ็บดึงชายเสื้อยืดของตนเองไว้

“อื๊ออออ” ส่งเสียงขู่อย่างไม่ยอม

“อายอะไรครับตาต้า เราผู้ชายเหมือนกันไม่ต้องอายหรอก” โซลกล่อมคนขี้อายที่ไม่ยอมปล่อยมือจากชายเสื้อ คราวนี้เล่นขยุ้มเสียยับย่นเลยทีเดียว

“งั้นพี่โซลกล้าแก้ผ้าต่อหน้าต้าไหมอ่ะ”

เด็กดื้อร้องท้า โซลมองหน้าคนท้าที่ลอยหน้าลอยตาท้าทายเขาอยู่ ปล่อยมือจากเสื้อน้อง ถอยไปสองก้าว แล้วจับชายเสื้อตนเองถอดออกในทันที แต่เท่านั้นมันคงทำให้เด็กดื้อตาโตไม่พอ โซลจึงเลื่อนมาที่หัวเข็มขัดตั้งท่าจะถอดอีกชิ้น จนคนร้องท้าเมื่อครู่เปลี่ยนมาร้องโวยวายแทน

“ว้ากกก พี่โซลลลล บ้า!”

คนบ้าหัวเราะในลำคอ ก่อนจะก้าวเข้ามาหาน้องที่นั่งหน้าแดงอยู่บนเตียง และคราวนี้เด็กดื้อก็ยอมให้ถอดเสื้อแต่โดยดี แต่หน้านี่แดงจนแทบไหม้ พี่อาจจะไม่รู้สึกอะไร แต่ต้าอายนะ!

เมื่อจัดการลอกคราบเด็กดื้อเสร็จ โซลจึงอุ้มร่างเพรียวบางเข้าห้องน้ำ ปล่อยให้น้องลงนั่งที่เก้าอี้นั่งอาบน้ำ จัดการเปิดน้ำอุ่น แล้วลงมืออาบน้ำฟอกสบู่ให้คนเจ็บอย่างเร็วไว

โซลให้น้องนั่งบนเก้าอี้โดยหันหลังให้ แล้วจัดการลูบไล้เนื้อสบู่บนผิวกายขาวเนียน ในใจไม่ได้คิดอะไร แต่พอลูบไปลูบมามันก็คอยแต่จะวนอยู่ที่เดิม และวนอยู่อย่างนั้น จนคนเป็นน้องต้องทักเพราะรู้สึกจั๊กจี๋แปลกๆ

“พี่โซล ต้าหนาว”

“อะ อ้อ ขอโทษที เดี๋ยวพี่ล้างตัวให้”

โซลรีบลุกไปจับฝักบัวมาล้างตัวให้น้อง เขาได้รับอนุญาตให้ช่วยถูด้านหลังให้ แต่เมื่อครู่มือเจ้ากรรมมันกลับจะเคลื่อนไปด้านหน้าแล้ว ยังดีที่น้องบอกว่าหนาวก่อน ไม่อย่างนั้นเขาคงลูบไปถึงไหนต่อไหน…

โซลแทบจะเขกหัวตัวเองกับความคิดไม่เข้าท่า

‘คิดบ้าอะไรอยู่โซล น้องไม่สบายนะ!’

เมื่อล้างตัวให้น้องเสร็จ โซลจึงพยุงน้องลุกขึ้น ใช้ผ้าขนหนูซับน้ำเบาๆก่อนรอบหนึ่ง ก่อนจะใช้พันรอบเอวน้องจากด้านหลัง แขนแกร่งโอบรอบเอวบางแล้วผูกปมผ้าให้ กลิ่นสบู่หอมๆที่มักติดกายน้องอยู่ตลอดลอยมาปะทะจมูกในระยะประชิด เกินจะอดใจไหว โซลก้มลงไปหอมลาดไหล่เนียนแล้วเลยมาที่ซอกคอขาว จนเจ้าตัวเขาสะดุ้งกับลมหายใจผ่าวร้อน

“พี่โซล…”

ตาต้าเรียกพี่เสียงสั่น ไม่รู้ว่าสั่นเพราะหนาวหรือเพราะอะไรกันแน่

“ออกไปข้างนอกเถอะตาต้า ห้องน้ำนี่แคบจนพี่จะหายใจไม่ออกแล้ว”

คำพูดของพี่ทำให้ตาต้าขมวดคิ้ว ห้องน้ำแคบหรือ ออกจะกว้างนะ ต้าว่า



++++++++++++++



โซลพาน้องมาที่เตียงอีกรอบ หาเสื้อผ้าชุดใหม่ที่ถอดง่ายหน่อยมาสวมให้น้อง เผื่อเจ้าตัวเขาอยากเข้าห้องน้ำเองจะได้ไม่ลำบากในการถอด จนตอนนี้ตาต้าก็ยังหน้าแดงไม่เลิก ใครจะไปชินกันล่ะ

“ขอบคุณครับ”

ตาต้าขอบคุณพี่ โซลยิ้มรับ โยกศีรษะเด็กดื้อเบาๆ

“เอาล่ะ ทีนี้ก็นอนได้แล้วนะเด็กดื้อ”

ตาต้าพยักหน้าอย่างว่าง่าย รู้สึกมึนๆง่วงๆอยู่เหมือนกัน โซลเอนตัวน้องลงนอน ก้มลงจูบหน้าผากเนียน ยิ้มบางให้คนที่ตาเริ่มปรือเพราะฤทธิ์ยา จัดการห่มผ้าให้ก่อนจะเดินออกไป แต่มือเรียวคว้ามือพี่ไว้ โซลหันกลับมาเลิกคิ้วมอง ตาต้ายิ้มให้ทั้งที่ดวงตาหรี่ปรือแทบจะปิด

“ขอบคุณมากนะครับพี่โซล ต้ารักพี่โซลนะ…”

โซลยิ้มกับการบอกรักของคนง่วง ขยับโน้มตัวลงแตะจูบริมฝีปากอิ่มอีกครั้ง ก่อนผละเดินไปที่ประตู เปิดประตูออกไปก่อนปิดล็อคห้องให้คนที่นอนอมยิ้มมีความสุขอยู่บนเตียงนอน



++++++++++



เช้าวันใหม่ บนโต๊ะทานข้าว จินนี่คอยแต่จะตักกับข้าวใกล้มือใส่จานให้พี่ชายคนสนิทที่นั่งข้างกันอยู่เรื่อยๆ รวมทั้งคนเป็นพ่อของน้องจินนี่เองที่คอยเอาใจ จารุมองภาพบรรยากาศที่ทั้งสามคนสร้างขึ้นด้วยความรู้สึกประหลาด หัวคิ้วสวยขมวดนิดๆ

“ทานเยอะๆนะจะได้หายเร็วๆ”

โซลตักแกงให้น้อง ตามด้วยจินนี่ที่ตักผัดผักให้ด้วยอีกคน

“พี่ตาต้าทานผักด้วยนะคะ ผักมีประโยชน์” น้องน้อยว่าอย่างนั้นแล้วยิ้มตาหยิบหยี

“ขอบคุณค่ะจินนี่ แต่ว่านะ สองพ่อลูกตักโน่นนี่มาให้พี่อยู่เรื่อยแล้วแบบนี้พี่จะกินหมดเหรอ?”

พอพี่ชายพูดแบบนั้นจินนี่ก็มองจานข้าวของพี่ที่มีกับข้าวมากกว่าข้าวในจานเสียอีก จากนั้นค่อยหันไปมองหน้าคุณพ่อขาแล้วพากันหัวเราะ

ตาต้าส่ายหน้าให้กับสองพ่อลูก เอื้อมตักผัดผักให้พี่จารุ แม้ไม่ถนัดนักกับการใช้มือข้างนี้ก็ตาม

“พี่จารุก็ทานเยอะๆนะครับ”

ตาต้าส่งยิ้มจริงใจให้สาวสวยอดีตภรรยาของพี่โซล สร้างมิตรดีกว่าสร้างศัตรูล่ะน่า

“อ… อ้อ จ้ะ ขอบใจ”

จารุตีหน้าไม่ถูกเมื่อเด็กหนุ่มหยิบยื่นน้ำใจให้ ความคิดไม่ดีทั้งหลายดูจะตีกันยุ่งเหยิงอยู่ในหัว แต่แค่เพียงยิ้มเดียวก็ทำให้ใจที่ฟุ้งซ่านของเธอทุเลาลงได้ หญิงสาวจึงลงมือทานข้าวในจานต่อ ลอบดูปฏิกิริยาของโซลและหนุ่มน้อยตาต้าไปด้วย เธอไม่น่าจะดูผิด เด็กคนนี้ต้องมีความสำคัญกับโซลมากในระดับหนึ่งแน่ อาจมากกว่าความเป็นพี่น้องธรรมดา สิ่งที่เธอพยายามปฏิเสธมันในตอนแรก ในตอนนี้กลับกำลังตอกย้ำให้เธอได้คิดกับการดูแลเอาใจใส่ของคนสองคนตรงหน้า

“จา เดี๋ยวทานข้าวเสร็จ ผมขอคุยอะไรด้วยหน่อยนะ”

จารุที่กำลังจมอยู่ในภวังค์แทบสะดุ้ง ก่อนจะปรับสีหน้าให้เป็นปรกติเมื่อหนุ่มน้อยตาต้าหันมามองเธอ

“ค่ะ จาก็มีเรื่องอยากคุยกับคุณเหมือนกัน”

จารุรับคำ เหล่มองตาต้าไปด้วย เห็นเด็กหนุ่มรีบหันไปหาโซลทันทีที่จารุพูดจบ นั่นยิ่งยืนยันได้ว่าสิ่งที่เธอคิด มันคือความจริง


++++++++++++++



เนื่องจากการเจ็บตัวของตาต้า ทำให้หนุ่มน้อยของเราไม่ได้ออกไปซ่าที่ไหนหลายวันจนกว่าขาจะหายบวม บ้านจึงเป็นที่ๆตาต้าอยู่เยอะสุดในบรรดาทุกที่ที่ตาต้าเคยไป

ตาต้านั่งดูทีวีในช่วงบ่าย ข้างกันคือจินนี่ที่กำลังหลับปุ๋ย หนุ่มน้อยจึงต้องหรี่เสียงทีวีลง ส่วนพี่นุ่นตาต้าก็ให้ไปพักแล้วรับบทเฝ้าน้องเอง ดูไปสักพักจารุก็เดินลงมาจากด้านบน ในมือคือโทรศัพท์มือถือ พ่นภาษาต่างประเทศใส่ปลายสายเสียไฟแลบ แน่ล่ะว่ามันไม่ใช่ภาษาอังกฤษที่ตาต้าจะฟังรู้เรื่อง หรือต่อให้เป็นภาษาอังกฤษตาต้าก็ฟังไม่ทันหรอก รัวขนาดนั้น

จารุที่กดวางสายโทรศัพท์ไปแล้ว เดินฮึดฮัดมาทางที่ตาต้านั่งอยู่ ก่อนจะหยุดเท้าเมื่อจะเดินผ่านเลยไป เปลี่ยนมานั่งที่โซฟาตัวเดียวกับที่จินนี่นอนอยู่ ลูบผมนิ่มแผ่วเบา แววตารักใคร่ระคนเจ็บปวด

“ดูน้องตาต้าจะสนิทกับจินนี่จังเลยนะ”

“ครับ?”

อยู่ๆจารุก็ชวนคุย ตาต้าที่ไม่คิดว่าหญิงสาวจะอยากพูดคุยกับตนเองจึงตอบรับไปอย่างมึนงง

“พี่เป็นแม่แท้ๆ แต่ลูกกลับไม่อยากเข้าใกล้”

น้ำเสียงที่เศร้า ทั้งสีหน้าที่ดูเหมือนจะร้องไห้ ทำให้ตาต้าขยับตัวอย่างอึดอัด เขาปลอบใครไม่เป็นนี่นา เคยมีแต่ถูกปลอบ

“เอ่อ… ผมว่าจินนี่อาจจะยังไม่ชินน่ะครับ”

“แล้วกับตาต้าตอนแรกก็เป็นแบบนี้เหรอ?”

“เอ่อ…”

จารุยังถามทั้งๆที่ไม่ได้มองมา ตาต้าไม่รู้ว่าจะตอบคำถามนั้นยังไง ก็เขากับน้องจินนี่สนิทกันเร็วมาก เรียกได้ว่าคุยกันแค่ไม่กี่คำก็เหมือนสนิทกันมาตั้งนมนานแล้ว แต่กับพี่จารุ ตาต้าก็ไม่รู้จะบอกอะไรได้มากไปกว่าที่ว่าน้องยังไม่คุ้นชิน

จารุนั่งมองลูกสาวนิ่งอยู่แบบนั้น ไม่มีคำถามใดมาให้ตาต้าตอบอีก ตาต้าเองก็ไม่กล้าที่จะขยับไปไหน กลัวเป็นการรบกวนเธอ การสนทนาทางโทรศัพท์เมื่อครู่คงสำคัญ ตอนนี้เธอถึงได้เศร้าจนเห็นได้ชัดขนาดนี้ จิตใต้สำนึกของคนเป็นแม่ทุกคนก็คงรักลูกด้วยกันทั้งนั้นล่ะนะ อาจมีเหตุบางประการทำให้ไม่ได้อยู่ด้วยกัน แต่สายสัมพันธ์มันก็ไม่มีทางตัดขาด โดยเฉพาะสายโลหิต

“โซลเขาเจ็บมามากนะ”

“เอ๊ะ?”

จารุที่เงียบไปนาน จนตาต้าคิดว่าเธอคงไม่มีอะไรจะพูดกับตนเองแล้วกลับเปรยขึ้นมาไม่มีปี่มีขลุ่ย

“ฝากดูแลเขาด้วยละกันหนุ่มน้อย”

จารุพูดทิ้งไว้เพียงเท่านั้นก็ลุกเดินออกไปด้านนอกบ้าน ต่อโทรศัพท์อีกครั้ง ก่อนภาษาต่างประเทศที่ตาต้าฟังไม่รู้เรื่องจะแว่วมาให้ได้ยิน แต่หนนี้ดูจะต่างจากครั้งก่อนหน้า เพราะลักษณะการพูดจาไม่ได้ใส่อารมณ์เหมือนก่อนหน้านี้ คงปรับความเข้าใจกับปลายสายล่ะมั้ง ตาต้าก็เดาไปเรื่อยๆ

แต่คำพูดก่อนที่พี่จารุจะลุกไปนั้นต่างหากที่ตาต้ากำลังให้ความสนใจอย่างแท้จริง ฝากดูแลพี่โซลอย่างนั้นหรือ หรือเขาเข้าใจผิด?



++++++++++++



“จารุน่ะเหรอพูดแบบนั้น?”

ตาต้าพยักหน้าบอกว่าจริงแท้และแน่นอน พอโซลกลับมาจากไร่ตาต้าก็ขอคุย โซลเลยต้องพยุงน้องขึ้นบ้าน เด็กดื้อเขาไม่ให้อุ้มแล้ว เขาอาย เลยต้องตามใจกันหน่อย

เมื่อเข้ามาในห้องน้องแล้ว ตาต้าเลยเล่าให้ฟังว่าจารุพูดจาแปลกๆกับตนเอง เกิดอะไรขึ้นก็ไม่ทราบได้ โซลเลยต้องเล่าความเป็นมาเป็นไปให้น้องฟังว่าคุยอะไรกับจารุบ้างเมื่อวันก่อนนั้น

“พี่ก็ถามเขาน่ะ ว่าที่เขามาที่นี่มีเรื่องอะไรให้ช่วยหรือเปล่า เขาก็เลยบอกว่าทะเลาะกับสามีเขาเรื่องลูกนิดหน่อย เพราะทางนั้นอยากมีลูกมากๆ แต่ทำยังไงก็ไม่สำเร็จสักที พอหงุดหงิดมากเข้าคงทะเลาะกันล่ะมั้ง เลยมาที่นี่เพราะคิดถึงจินนี่ขึ้นมา”

โซลเล่าไปเรื่อยๆโดยไม่ได้สังเกตว่าน้องทำสีหน้าอย่างไร มือก็ถอดผ้ากอซที่พันแขนน้องออก จะให้ไปอาบน้ำแล้วค่อยนวดยาใหม่อีกที

“เดี๋ยวนะพี่โซล พี่โซลบอกว่าพี่จารุทะเลาะกับสามีเหรอ ต้าไม่เห็นรู้ว่าเขาแต่งงานใหม่แล้ว พี่โซลไม่เห็นบอกต้าเลยอ่ะ”

คนเป็นน้องโวยที่พี่ไม่บอกกล่าวเล่าเรื่อง เรื่องที่พี่เคยเล่าเกี่ยวกับพี่จารุกับคุณปรเมศวร์นั่นก็เล่าไม่หมดสินะ โธ่

“อ้าว? พี่ไม่ได้บอกเหรอ?”

“ก็ไม่ได้บอกน่ะสิ ปล่อยให้ต้ากังวลอยู่ได้”

“โอ๋ๆ ไม่งอนนะครับ พี่ขอโทษที่ไม่ได้บอกตาต้า”

รวบกอดตัวบางไว้หลวมๆ คนเป็นน้องทำเสียงฮึขึ้นจมูก มือหนาเลยลูบหลังบางอย่างเอาใจ เงียบกันอยู่สักพักโซลถึงได้พูดกับคนที่อยู่ในอ้อมแขน

“เขามีครอบครัวของเขาไปแล้วนะ ส่วนพี่ก็มีคนสำคัญของพี่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นตาต้าไม่ต้องกังวลอะไรทั้งนั้น ถ้าเรื่องเกี่ยวกับจารุ พี่ยังยืนยันว่าพี่หมดรักเธอแล้วอย่างแน่นอน ความสัมพันธ์ที่คงอยู่ในตอนนี้คือพ่อและแม่ของจินนี่ เธอเป็นเพียงแม่ของจินนี่เท่านั้นนะ”

“………..”

ตาต้าเงียบฟังพี่ ช่วงเวลานี้สิ่งที่เขาควรทำคือการเงียบ ฟังเสียงหัวใจพี่ที่เต้นอยู่ข้างหู กับเสียงนุ่มๆที่คอยอธิบายทุกอย่างกับเขา

“พี่เจ็บแล้วจำเสมอนะตาต้า ถึงพี่ไม่ได้นำมันมาเป็นอุปสรรคในปัจจุบันนี้ นั่นเพราะทุกคนก็ได้เรียนได้รู้กับเหตุการณ์ที่ผ่านมากันมากพอแล้ว จาเขาจากไปเพราะเขาหมดใจ พี่รั้งไว้มันก็ไม่มีประโยชน์ สู้ปล่อยเขาไปแล้วเราก็เริ่มต้นชีวิตใหม่ของเราจะดีกว่า”

โซลคลายอ้อมกอดแล้วดันตัวน้องออกอย่างเบามือ สบสายตาใสๆที่มองมาแล้วบอกทุกถ้อยคำอย่างมั่นใจ

“การทอดทิ้งของจาไม่ได้เลวร้ายเสียทีเดียวหรอก แต่จายังมีของขวัญล้ำค่าอย่างจินนี่ไว้ให้พี่ และการทอดทิ้งของจา…”

“………….”

“ยังทำให้พี่…ได้รักตาต้า”

คำหวานที่บอกกล่าวได้รับรอยยิ้มหวานๆตอบกลับมา หัวใจคนพูดก็แช่มชื่น ถ้าไม่มีคำพูดกวนๆจากคนตาใสนี่ตามมาล่ะก็นะ

“ต้าต้องขอบคุณพี่จารุไหมอ่ะ?”

เด็กตาใสทำหน้าซื่อเอียงคอเอ่ยถามพี่ เลยโดนตีหน้าผากไปที มันใช่เวลาเล่นไหม แต่พอโซลมองหน้าน้องที่อมยิ้มน้อยๆนั่นแล้วก็อดยิ้มตามไม่ได้ เด็กดื้อของเขา น้องชายที่น่ารัก และคนรักเพียงหนึ่งเดียวในหัวใจ


+++++++++



หลังจากเคลียร์ปัญหากันเรียบร้อย โซลจึงพยุงน้องเข้าห้องน้ำ ตอนนี้ยังต้องอาบน้ำให้อยู่ เพราะถ้าให้อาบเองก็อาบได้แค่ข้างเดียวอีก โซลเลยต้องอาบน้ำให้น้องไปข่มใจไป ก็อยากหาเรื่องใส่ตัวเสนอตัวอยากอาบน้ำให้น้องเองก็ต้องอดทนไปอย่างนี้ล่ะ ทนไม่ไหวก็แอบเลาะเล็มบ้างเล็กน้อย แต่ถ้าตาต้ายังไม่หายในเร็ววันนี้โซลอาจจะลงแดงได้เพราะของชอบอยู่ใกล้มือแต่กินไม่ได้แบบนี้ มันแย่ที่สุดแล้ว

“ต้าอยากเล่นกับน้องจัง มันเหงาๆบอกไม่ถูกอ่ะ”

เด็กดื้อเปรยขึ้นมาเสียงเหงา เมื่อจัดการแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้วมานั่งให้พี่ช่วยทายาให้ ก็อย่างว่าเคยตัวติดกันตลอด แต่ช่วงนี้ทำแบบนั้นไม่ได้ แถมยังมาเจ็บตัวอีก ตอนนี้สถานที่จัดงานเทศกาลของไร่ก็เสร็จหมดเรียบร้อย เหลือก็แต่รอวันเปิดงานที่เจ้าภาพอย่างคุณรณวีร์จะมาซึ่งก็คืออีกสองวันข้างหน้า ไม่รู้ว่าแขนตาต้าจะหายทันไหม พอพ่อกับแม่มาจะโดนแม่ดุหรือเปล่าก็ไม่รู้ที่เล่นซนจนได้เรื่องแบบนี้

“ก็แล้วทำไมไม่ไปล่ะครับ หือ?”

โซลที่ใช้ผ้ากอซพันแขนให้น้องเอ่ยถาม ก่อนจะต้องหยุดมือมามองคนพูดเพราะประโยคคำตอบของน้อง

“ก็พี่จารุเขาก็คงอยากมีเวลาอยู่กันตามประสาแม่ลูกบ้าง ต้าก็ไม่อยากไปขัดช่วงเวลานั้นนี่ครับ”

ตาต้าพูดเสียงอ่อย โซลเลยหอมแก้มน้องอย่างถูกใจในคำตอบ

“น่ารักอย่างนี้ รักตายเลย”

ตาต้าอมยิ้ม ก่อนจะยื่นหน้าเข้าไปหอมแก้มพี่คืนบ้าง

“หน้าตาแบบนี้ ต้าก็รักเหมือนกัน”




TBC


•   ขอบคุณทุกกำลังใจค่ะ

•   บวกให้ทุกบวกค่ะ :กอด1:

สปอยส์ (เวิ่นเว้อเบาๆ)
   
สำหรับส่วนนี้ ถ้าใครไม่อยากอ่านก็ข้ามไปเลยนะคะ มันไม่ค่อยมีสาระเท่าไหร่

อีกสองตอนนิยายเรื่องนี้จะเข้าสู่ช่วงหน่วงอารมณ์ หากใครมีความประสงค์จะงดอ่านในช่วงนี้เราก็ไม่ว่ากันค่ะ

คนที่ติดตามงานของใหม่มาตั้งแต่เรื่องแรก (เหมือนจะเขียนมาเยอะทั้งที่เพิ่งผ่านไปแค่3เรื่องสั้นๆ ฮะๆ) คงพอจับทางงานเขียนของใหม่ได้ว่า ช่วงกลางๆเรื่องจะหน่วง และจะหวานในตอนท้าย

สำหรับคนที่ยังติดตามกันอยู่ใหม่ก็ต้องขอบคุณมากค่ะ

ใหม่ยังยืนยันว่าไม่ชอบดราม่า เพราะฉะนั้น มันจะผ่านไปอย่างรวดเร็วเช่นเคยค่ะ

ขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจที่มีให้กันมากๆค่ะ

วันใหม่ :L2:




มาทำไมให้อายบ้านนา....นวลน้อง
ไม่ต้องกลับคืนมา :music:

เห็นหน้าลุงหม่ำลอยมาเลยอ่ะ :m20:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-10-2012 20:05:36 โดย wanmai »

Giniz

  • บุคคลทั่วไป
จะหวานอะไรกันขนาดนั้นพ่อคุ๊ณณณณณณณณณณณณ  :-[

ออฟไลน์ badcow

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-10
ยกมือขอข้ามตอนหน่วงอารมณ์นะ
แล้วจะกลับมาอ่านตอนหวานชื่นใหม่ ...มาเร็วๆนะครับ

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
โล่งใจกับตาต้า น้องยังเยาว์คงไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมผู้ใหญ่
โชคดีที่จารุไม่ได้ร้ายอย่างที่กังวลไว้ตอนแรก

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
มาม่าจะมาแล้วเหรอะ!!!
เอาแค่แสบๆคันๆพอให้รู้ว่าเรารักกันก็พอเน๊อะ :)

แด่ดราม่า..... :music:
มีได้....แต่อย่ามาก เพราะมันจะทำให้ใจฉันบอบช้ำ
เจ็บได้...แต่อย่านาน อย่าสร้างความกดดันให้ใจฉันไหวหวั่น
เขียนได้...แต่อย่าเพลิน เดี๋ยวมันจะเกินมากกว่าสองสามตอน
ที่ไม่ได้และขอไว้นั้น....คือรักที่ให้ต้า โซลอย่าปันให้ใคร

ยำจากเพลง...มองได้แต่อย่าชอบ
เอาซะเละ 5555


ออฟไลน์ love2y

  • (′~‵)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2059
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-11
โอเคที่เธอมาดี(?) คึคึ แค่คิดถึงลูกไม่มีจุดประสงค์ร้ายก็โอเคแล้ว ยินดีต้อนรับ (พูดเหมือนเป็นเจ้าของบ้านเลย ฮี่ๆ)

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ gupalz

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +604/-20
เราทำใจอ่านได้ อีกสองตอนจะมาม่า
เด๋วไปต้มน้ำร้อนรอลวกเส้นก่อนนะ 5555

ออฟไลน์ choijiin

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2082
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +445/-5
ตาต้าน่ารัก
 :-[
ยิ่งอ่านยิ่งรู้สึกว่าพี่โซลนี่โคตรหลอกเด็ก
(เอ๊ะ หรือโดนเด็กหลอกแน่  :laugh:)
เพราะตาต้าแบบว่าเด็กมากกกกกกกกกกกกกกก
ยิ่งที่น้องบอกว่าอยากไปเล่นกับจินนี่
นี่ยิ่งแสดงวุฒิภาวะของหนูเลยลูกว่าเด็กขนาดไหน
แต่ไอ้ความเป็นเด็กของตาต้านี่แหละที่เป็นสเน่ห์
ทำให้ป้าๆ น้าๆคนอ่านติดกันงอมแงม
แถมพี่โซลก็โงหัวไม่ขึ้นซะด้วยสิเนอะ
 :กอด1:

ปลล.มาม่าพอประมาณพอนะคะวันใหม่
พี่ล่ะไม่อยากให้ตาต้าร้องไห้
อกป้ามันร้าวรานนนนนนน
 :sad4: :o12:

ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5
ตาต้าไปพูดแบบนั้นเดี๋ยวก็โดนพี่โซลกินหรอก  :haun4:

ออฟไลน์ takara

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +379/-13
ทั้งน่ารัก ทั้งหวานเลยอะ

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41
ตาต้าจ๋าพูดแบบนั้น
เดี๋ยวพี่โซลก็จับกินพอดี :z1:

ออฟไลน์ pare_140

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1192
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-6
ว้ายย ชะนีคนนี้นิสัยดี o13

Hakken

  • บุคคลทั่วไป
นึกว่าจะมีเรื่องให้ตาต้าของเราดราม่า
โล่งอกไปที แต่อีกไม่นานตาต้าก็จะกลับ
บ้านแล้วพี่โซลเราจะทำไงอ่ะ
ที่บอกว่าจะเริ่มหน่วงเรื่องนี้อะป่าว
 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:

ออฟไลน์ wanmai

  • ★รักใสปิ๊ง★(>_<)
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 936
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1195/-5
It’s Real เดี๋ยวรักเลย


ตอนที่ ๑๓ เทศกาล งานแห่งรัก :L1:


ก่อนงานเทศกาลประจำปีของไร่รณวีร์หนึ่งวัน ครอบครัวของโซลและครอบครัวของตาต้าก็มาถึง ในทีแรกโซลว่าจะพาน้องกับลูกสาวตัวน้อยไปรอรับทุกคนที่สนามบิน แต่คุณรณวีร์ คุณพ่อของโซลให้รออยู่ที่บ้านจะดีกว่าขนกันไปมา ให้รถที่ไร่ไปรับเท่านั้นเป็นพอ ดังนั้น ตอนนี้สมาชิกในบ้านของโซลจึงมารวมตัวกันรอรับการมาถึงของคนสำคัญ

รถตู้ที่โซลส่งไปรับคนที่สนามบินมาถึงในเวลาไม่นานนัก ตาต้าจูงมือน้องออกมาด้านนอกบ้านเมื่อได้ยินเสียงรถเข้ามาจอดหน้าบ้าน ตามมาด้วยจารุและโซล ไม่ทันเด็กน้อยสองคนเขาหรอก ชะเง้อชะแง้กันแต่เช้าแล้ว พอได้ยินเสียงรถปุ๊บรีบลุกกันทันที

หนูน้อยจินนี่วิ่งเข้าไปหาคุณปู่คุณย่าทันทีที่เห็นว่าท่านลงมาจากรถ คุณรณวีร์อุ้มหลานสาวตัวน้อยขึ้นมา สองมือน้อยๆจึงยกขึ้นไหว้คุณปู่คุณย่าและอาๆรอบทิศ อรณีและสามีตามลงมาต่อจากนั้น และปิดท้ายกับครอบครัวของตาต้า

หนุ่มน้อยตาต้าไหว้ทักทายทุกคน ก่อนเดินเข้าไปหาพ่อ แม่ และพี่ชาย อ้อมแขนอบอุ่นของคุณแม่ก็รอรับลูกชายคนเล็กในทันที สองแม่ลูกเลยกอดกันกลม ก่อนคุณแม่จะมองสำรวจลูกชาย แล้วหรี่ตาคาดโทษเด็กซนที่เดินเขยก แถมแขนยังเจ็บอีก เด็กซนเลยรีบยิ้มประจบคุณแม่ ออดอ้อนทำคะแนนก่อนจะโดนดุ เมื่อสวัสดีทักทายกันเป็นที่เรียบร้อย โซลจึงเชิญทุกคนเข้าบ้านไปพักให้หายเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทาง

ห้องพักของพ่อและแม่ของโซลยังอยู่ที่ห้องใหญ่เช่นเดิม อรณีก็พักที่ห้องเดิมของเธอเช่นกัน ส่วนต้นพี่ชายตาต้าก็นอนห้องเดียวกับน้อง และเปิดห้องอีกหนึ่งห้องให้พ่อและแม่ของตาต้า เมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จสิ้นแต่ละคนจึงไปพักผ่อนกันตามอัธยาศัย ตาต้าแอบแวบไปเล่นกับน้องพูห์ ลูกชายตัวน้อยของพี่ซี หรืออรณี ก่อนจะเข้าไปหาพ่อกับแม่ที่ห้อง

เด็กหนุ่มเคาะประตูห้องนอนก่อนจะเปิดเข้าไปด้านใน คุณแม่กำลังเอนหลัง เพราะรู้สึกเมื่อยจากการนั่งเครื่องบิน ส่วนคุณพ่อก็กำลังเพลินกับบรรยากาศรอบๆบ้านที่เห็นจากระเบียงที่ท่านยืนอยู่ ไร่องุ่นเขียวๆเรียงตัวเป็นแนวยาวสุดลูกหูลูกตา น่าชื่นชมเจ้าของๆที่นี่ ที่ดูแลมันจนเจริญงอกงาม และสร้างเงินสร้างงานให้คนในท้องที่ได้ดีขนาดนี้

ตาต้าเดินออกมาหาคุณพ่อที่ระเบียง ยืนเกาะราวระเบียงอยู่ข้างๆท่าน ท่านเหลือบมองลูกชายเล็กน้อย ก่อนจะเปรยขึ้นมา

“โซลนี่เก่งนะ ดูแลคนงานกับไร่ที่ใหญ่โตขนาดนี้เพียงคนเดียว น่าชื่นชมทีเดียว”

เมื่อได้ยินพ่อพูดแบบนั้น ตาต้าก็ยิ้มปลื้มราวกับว่าพ่อกำลังชมตนเอง ก่อนจะเอ่ยเสริมชื่นชมพี่เข้าไปอีก

“แน่นอนอยู่แล้วล่ะครับ ก็พี่โซลซะอย่าง”

“ไม่ค่อยจะยกยอกันเองเลยนะ”

คุณพ่อว่า ขำกับสีหน้าของลูกชายที่ชื่นชมเจ้าของชื่อที่อยู่ในการสนทนาอย่างออกนอกหน้า เห็นมาแต่เล็กว่าลูกชายชื่นชมพี่ชายคนนี้แค่ไหน จนตอนนี้ก็ยังคงเป็นอย่างนั้นอยู่ เคยกังวล จนตอนนี้ความกังวลมันชักจะสูญเปล่า เพราะอะไรนั้นท่านรู้อยู่ แค่เพียงไม่เอ่ยถึงให้สะกิดใจตนเองเท่านั้น

“แล้วนี่เรามากวนพี่เขารึเปล่าหือ พ่อเตือนแล้วไม่ฟัง ดื้อจะมาให้ได้ ดูสิไปเล่นซนมาอีกแล้วใช่ไหม?”

คุณพ่อจับแขนลูกชายขึ้นมาดู เริ่มหายบวมแล้ว แต่ยังเป็นจ้ำเขียวอยู่ รอยถลอกก็ตกสะเก็ดไปแล้ว นี่น่าจะหลายวันแล้วสินะ

“นิดหน่อยเอง”

ตาต้ายิ้มแหย กลัวคุณพ่อจะดุเอา ที่จริงคุณพ่อไม่ค่อยดุว่า แต่เวลาโกรธขึ้นมาก็ไม่ต่างจากพี่โซลเท่าไหร่ เล่นเอาตาต้าไม่กล้าเข้าใกล้ไปหลายวัน เพราะฉะนั้น ทางที่ดีอย่าทำให้คุณพ่อโกรธเป็นดีที่สุด

“นิดหน่อยเหรอเจ้าตัวยุ่ง เป็นหนุ่มแล้วนะเรา ยังเล่นซนเป็นเด็กๆไปได้”

ท่านว่าอย่างไม่จริงจังนัก ที่เจ็บตัวคราวนี้ท่านไม่โทษว่าเป็นความผิดใคร นอกจากเจ้าลูกชายตัวยุ่งคนนี้ที่นิสัยยังเหมือนเด็ก การเลี้ยงดูคือสิ่งสำคัญ สภาพแวดล้อมก็ใช่ เพราะท่านไม่เคยให้ลูกชายคนเล็กทำอะไรเอง ไม่เคยต้องให้เผชิญกับอะไรที่หนักหนา ทุกอย่างจึงดูเป็นเรื่องง่ายไปหมดสำหรับลูกของท่านคนนี้

“ใครจะเอาเราอยู่ฮึ แบบนี้” คุณพ่อว่าเย้าหยอก

“ก็พ่อไงครับ” คนนี้ก็พูดเอาใจกันสุดฤทธิ์ ยิ้มตาหยีให้ด้วยเพื่อเป็นการยืนยัน

“จริงเรอะ ไม่เห็นจะเคยฟังกัน”

คุณพ่อทำสีหน้าไม่เชื่อ เด็กดื้อทำแก้มพองปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา

“หื้อ ต้าฟังอยู่นะ พูดเหมือนต้าเกเรอย่างนั้นล่ะ”

“ไม่เกเร แต่ดื้อ” คุณพ่อยังไม่หมดข้อกล่าวหา คุณลูกเลยทำตาโตก่อนจะบ่นอุบอิบ

“ทำไมใครๆถึงชอบว่าต้าดื้อ ต้าเปล่าดื้อสักหน่อย…”

“เจ้าดื้อ”

“พ่ออ่ะ~”

ตาต้าลากเสียงยาวกระเง้ากระงอด คุณพ่อกอดคอลูกชายมองหน้ากันแล้วหัวเราะเบาๆ ซึมซับกับบรรยากาศนั้นด้วยรอยยิ้มอยู่สักพักตาต้าถึงพูดขึ้นมา

“พ่อครับ… ต้ารักพ่อนะ ต่อให้ต้าจะเป็นอะไรแบบไหนก็ตาม ต้าอยากให้พ่อรู้ ว่าต้ารักพ่อนะครับ”

ตาต้าพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังจนคุณพ่อเลิกคิ้วแปลกใจ เพราะตามอารมณ์หนุ่มน้อยไม่ทัน แม้ในใจจะแอบคิดตาม แต่การแสดงออกของท่านแค่หรี่ตามองล้อๆทำให้มันดูสบายๆไม่เครียดไปก่อนเท่านั้น

“เอ้อ อารมณ์ไหนล่ะนี่ พูดจาอะไรแปลกๆนะเด็กคนนี้”

ตาต้าเพียงแต่ยิ้ม ไม่ได้อธิบายต่อ มันยังไม่ใช่ตอนนี้ ขอเวลาอีกนิดนะครับ ต้าจะเป็นคนบอกพ่อเอง



+++++++++++



หลังจากปล่อยให้ทุกคนพักผ่อนกันไป เมื่ออาหารมื้อค่ำมาถึงทุกคนก็ได้รวมตัวกันอีกครั้ง รับประทานอาหารและร่วมพูดคุยกันหลังอาหารมื้อนั้น โซลได้ขอโทษพ่อกับแม่น้องที่ดูแลน้องไม่ดีทำให้น้องต้องเจ็บตัว ท่านทั้งสองก็ไม่ได้ติดใจเอาความอะไรเพราะความผิดมันไม่ได้อยู่ที่โซล มันอยู่ที่เด็กดื้อที่นั่งมองผู้ใหญ่คุยกันตาปริบๆนั่นต่างหาก

“เออ โซล ไหนลูกบอกมีเรื่องจะคุยกับพ่อแม่ไงจ๊ะ”

คุณน้ำทิพย์เอ่ยถามลูกชายเมื่อนึกขึ้นได้ โซลมองหน้าทุกคนที่มองมาที่เขาแล้วยิ้มบอก

“เอาไว้วันหลังดีกว่าครับ วันนี้พ่อกับแม่พักผ่อนกันให้สบายใจจะดีกว่า พรุ่งนี้ยังมีงานเทศกาลรออยู่นะครับ เรื่องของผมยังรอได้ครับ”

เมื่อลูกชายบอกมาแบบนั้นท่านก็ไม่ได้ซักต่อ พูดคุยกันเรื่องสัพเพเหระอื่นๆอีกเล็กน้อยจารุที่อยู่ร่วมในวงสนทนาก็ขอลุกไปรับโทรศัพท์ ไม่นานนักหลังจากนั้นเธอก็กลับเข้ามาพร้อมชายต่างชาติตัวโต อาเธอร์ สามีชาวอิตาเลี่ยนของเธอที่ตามมาง้อเธอถึงที่นี่ จารุจึงได้แนะนำให้ทุกคนรู้จัก และบอกว่าจะไปหาที่พักในตัวเมืองพักในคืนนี้ ตอนเช้าจะขอมาที่ไร่อีกครั้ง โซลจึงมีน้ำใจดีบอกให้พักด้วยกันเสียที่นี่จะดีกว่า ห้องพักยังไม่ได้จองด้วยพักห้องเดียวกับจารุก็ได้ จึงตกลงกันได้ว่าหลังอยู่ร่วมวันงานเทศกาลของไร่แล้วทั้งคู่จึงจะบินกลับประเทศ

อาเธอร์เป็นคนที่ชอบเด็กและของน่ารัก ดังนั้นเขาจึงเปิดร้านขายผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับเด็กทุกช่วงวัย มีแบรนด์ของตนเอง และขยายกิจการไปได้สวย เมื่อได้พบและแต่งงานกับจารุเขาก็คาดหวังที่จะมีลูกสาวหรือลูกชายตัวน้อยๆเป็นของตนเอง แต่ไม่ว่าจะพยายามทำอย่างไรก็ไม่เป็นผล ตรวจสุขภาพแล้วก็แข็งแรงดีทั้งคู่ แต่พอนานวันเข้า การที่อาเธอร์อยากมีลูกมากแบบนี้มันยิ่งทำให้จารุเครียด เรื่องของจินนี่ลอยวนอยู่ในหัวเธอตลอดเวลา ยิ่งเธอเครียดฮอร์โมนยิ่งไม่ปรกติมีลูกยากมากขึ้นไปอีก จนถึงขั้นที่ทั้งคู่ทะเลาะกัน และจารุกลับมาที่นี่ ไร่รณวีร์ กลับมาหาลูกสาวตัวน้อยที่เธอทอดทิ้งไป



++++++++++++



เมื่อวันงานมาถึง ลานกว้างไม่ไกลจากแปลงองุ่นนักถูกรังสรรให้กลายเป็นพื้นที่จัดงานรื่นเริง โดยฝีมือของคนในไร่เองที่แบ่งงานกันทำจนออกมาเป็นรูปเป็นร่างอย่างที่เห็น มีเวทีเล็กๆสำหรับความบันเทิงถูกตกแต่งด้วยลูกโป่งหลากสีสัน มีวงดนตรีเล็กๆไว้สำหรับบรรเลงเมื่อมีผู้ขึ้นมาขับร้องเพื่อการประกวดประขันและเพื่อความสนุกสนานเฮฮาของเหล่าคนในงานเองด้วย โต๊ะเก้าอี้ถูกตั้งเรียงรายไว้สำหรับทุกคนในไร่ อาหารและเครื่องดื่มต่างๆก็ถูกจัดไว้ตามซุ้มตักกันได้ไม่ต้องเกรงใจ

โต๊ะของโซลประกอบไปด้วยพ่อแม่ของเขากับพ่อแม่ของตาต้า จารุกับสามี และครอบครัวของอรณีที่ตอนนี้เจ้าหนูพูห์ลูกชายตัวน้อยของอรณีก็หลับปุ๋ยไปแล้ว หญิงสาวจึงได้พาลูกขึ้นไปนอนบนบ้านโดยมีสามีที่น่ารักตามไปด้วย อีกโต๊ะข้างกันคือกลุ่มของตาต้ากับกาย แก้ว และจินนี่กับพี่นุ่น พ่วงรวมไปถึงต้น พี่ชายของตาต้าเองด้วย

คุณรณวีร์ขึ้นไปกล่าวเปิดงานก่อนที่งานจะดำเนินไปอย่างสนุกสนาน บรรยากาศบ้านๆและเป็นกันเอง ทุกคนที่มาร่วมงานมีสีหน้ายิ้มแย้ม หลังจากเหน็ดเหนื่อยกันมาทั้งปีแล้ว

“โซลคะ”

เสียงหวานทักมาก่อนตัว วิจิตราเดินนวยนาดเข้ามาหาโซลที่โต๊ะ ยกมือไหว้ผู้ใหญ่ทุกคนที่นั่งอยู่ พวกท่านก็รับไหว้ คุณรณวีร์กับคุณน้ำทิพย์พอรู้จักหญิงสาว แต่พ่อแม่ของตาต้ากลับมองเธองงๆว่าเธอคนนี้คือใครกัน วิจิตราจึงแนะนำตนเองกับทุกคนอีกครั้งและบอกว่าเอาอาหารมาสมทบเช่นทุกปีที่มีงานเช่นนี้ เธอเสนอตัวเอง ไม่มีใครได้เชิญเพราะเป็นงานภายในไร่ แต่โซลก็ปฏิเสธน้ำใจของเธอไม่ได้ จึงปล่อยให้มันเป็นไปเช่นนั้น

“จารุ”

วิจิตราที่มัวเพลินกับการนำเสนอตนเองเพิ่งสังเกตเห็นว่าคนที่นั่งร่วมโต๊ะนี้มีใครบ้าง ใบหน้าสวยซีดไปเล็กน้อยก่อนจะปรับสีหน้าให้เป็นปรกติอย่างรวดเร็ว

“สวัสดีวิจิตรา”

จารุทักทายคนเคยรู้จักด้วยน้ำเสียงกระแทกเล็กๆ เหยียดยิ้มมุมปากเมื่อเห็นว่าฝ่ายนั้นชะงักไป

“ก… เธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?”

“แล้วทำไมฉันจะมาไม่ได้ล่ะ เขาปักป้ายเอาไว้หรือไงว่าห้ามเข้าน่ะ เธอต่างหาก มาทำไมยะ นี่มันงานเฉพาะของไร่นี้ ไม่เกี่ยวกับเธอเสียหน่อย”

จารุเริ่มรวนคนทำสวย โธ่เอ้ย! ทำเป็นคนดีมีน้ำใจ ไส้เธอมีกี่ขดฉันรู้หมดแล้วล่ะยัยบ้า!

สองสาวที่ส่งสายตาฟาดฟันกันทำให้ทั้งโต๊ะเริ่มจะกระอักกระอ่วน อาเธอร์สะกิดแขนภรรยาเบาๆให้ลดความฉุนเฉียวลง จารุจึงสะบัดหน้ากลับมาไม่มองทางวิจิตราอีก เดี๋ยวงานจะกร่อยเสียเปล่าๆ กลุ่มตาต้าที่มองมาทางนี้ตั้งแต่คุณคนสวยเดินมาต่างพากันขมวดคิ้ว แต่เมื่อเห็นว่าสถานการณ์เริ่มลดความตึงเครียดลงเด็กๆเลยเลิกสนใจ มีเพียงตาต้าที่ยังคงมองอยู่ มองคุณคนสวยที่นั่งลงข้างๆพี่โซลของตนเอง

โซลลุกออกมาจากโต๊ะหลังจากนั้น เพื่อไปเอาอาหารและเครื่องดื่มมาเพิ่มอีกหนึ่งที่ แวะถามที่โต๊ะน้องเผื่อมีใครอยากได้อะไร ต้นเลยอาสาลุกไปเอาเป็นเพื่อนโซล ขณะที่โซลยืนตักอาหารอยู่จารุก็เดินมาหา ก่อนจะพูดให้ได้ยินกันแค่สองคน

“ระวังวิจิตราบ้างก็ดีนะคะ”

“มีอะไรอย่างนั้นเหรอ”

โซลเหลือบตามองที่วิจิตรานั่งอยู่ที่โต๊ะเดียวกับพ่อแม่ของตนเอง แล้วถามจารุ

“เธอไม่น่าไว้ใจหรอกนะ ถ้าคุณคิดจะคบกับน้องชายตัวน้อยนั่น ก็ควรจะระวังวิจิตราไว้ ตาต้าอาจจะไม่ปลอดภัย”

“เกี่ยวกับปรเมศวร์รึเปล่า?”

โซลถามในสิ่งที่คาใจมานานกับความสัมพันธ์ระหว่างสองคนนี้ เมื่อเห็นว่าจารุพยักหน้าก็เหมือนความสงสัยของตนเองมันเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา จารุหยิบจานที่โซลตักอาหารใส่ไว้เมื่อครู่ก่อนจะเดินกลับไปที่โต๊ะ โซลขมวดคิ้วคิดตามที่จารุบอก ต้องเพิ่มชื่อวิจิตราในข้อห้ามให้ตาต้าแล้วอย่างนั้นหรือ



++++++++


อีกมุมหนึ่งของงาน นายตำรวจตัวโตก็กำลังตามติดอยากจะพิชิตใจหนุ่มหน้าเข้มที่เอาแต่เมินเฉย จนคนที่ถูกตามชักจะเริ่มรำคาญขึ้นมาตงิดๆ แรกๆมันยังไม่เท่านี้เลยนี่ ไอ้ท่าทางมาดเนี้ยบไว้ตัวนั่นหายไปไหนหมด ถึงได้เหลือแต่ท่าทางกะล่อนแบบนี้

“ผมว่าคุณอยู่ห่างๆผมจะดีกว่านะครับคุณตำรวจ”

ดินบอกกับคนที่ตามติดตนเองอย่างข่มอารมณ์ นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันวะ!

“แต่ผมยังไม่ได้เบอร์ของคุณเลยนี่”

คุณตำรวจของดินยังต่อรองหน้าตาย ทำเป็นเก๊กขรึมก็แล้ว เข้าหาตรงๆก็แล้ว แอบหยอดทุกวันก็แล้วยังไม่ใจอ่อนอีก อย่างนั้นก็ต้องตื้ออย่างเดียวแล้วล่ะที่จะครองโลก!

“เผื่อมีเหตุฉุกเฉินอะไรจะได้เรียกผมได้ตลอดเวลาเลยไงครับ”

เหมือนจะหวังดี แต่มันเป็นการหวังดีประสงค์รักนะครับ ฮิ้ววว

“คุณตำรวจคิดว่ามันจะเกิดเหตุด่วนอะไรกับชีวิตผมหรือครับ?”

อยากให้เล่นด้วยใช่ไหมคุณตำรวจ ได้ ดินจัดให้!

“ก็เผื่อรถคุณเสียกลางทาง”

“ผมซ่อมเองได้หรือไม่ก็เรียกช่างมารับรถก็ได้” ดินผายมือว่านั่นมันไม่ใช่ปัญหาใหญ่สำหรับตนเองแม้แต่น้อย

“เผื่อมีผู้ร้ายมันมาปล้น…”

“นี่คุณกำลังแช่งผมอยู่นะครับ”

คหน้าเข้มตีสีหน้าเคร่งจนคุณตำรวจตัวโตอ่อนอกอ่อนใจ

“โธ่~ คุณ”

“ผมว่านะครับคุณตำรวจ คุณช่วยเอาเวลาที่จะมาทำเรื่องแบบนี้ไปจับผู้ร้ายที่เกลื่อนเมืองไม่ดีกว่าหรือครับ น่าจะมีประโยชน์กว่าเยอะนะครับ”

“ผู้ร้ายผมก็จับอยู่แล้วล่ะ แต่ตอนนี้ผมอยากจับหัวใจคุณมากกว่า” ขออีกสักทีเผื่อฟลุคขึ้นมานี่มีเฮนะครับ

“ถ้าผมอ้วกตอนนี้ ผมจะถูกจับไหม?”

ดินทำหน้าปุเลี่ยนๆแล้วจะเดินออกไป มือหนาคว้าข้อมือคนหน้าเข้มเอาไว้ เรียกคนตรงหน้าด้วยน้ำเสียงจริงจังต่างจากเดิม

“ดิน”

“……….”

“ผมจริงจังนะ”

ไตรภพเอ่ยบอกไปเช่นนั้น ความคาดหวังของเขามันยังอยู่ ความจริงใจของเขาก็มีให้อย่างเต็มที่ ขอแค่คนๆนี้จะยอมให้โอกาสบ้าง เขาพอดูออกว่าดินไม่ได้รังเกียจ แต่ก็ไม่เคยตอบรับไมตรีที่เขามีให้เช่นกัน

“ผมก็จริงจังครับ”

ดินตอบกลับมาหลังจากเงียบไปชั่วครู่ หันกลับมามองหน้าไตรภพด้วยสีหน้าจริงจัง บิดข้อมือเบาๆให้อีกคนปล่อยมือ บังเกิดความเงียบที่แสนอึดอัดขึ้นมาอีกครั้ง ก่อนคำพูดตัดรอนของคนหน้าเข้มจะตามมากระแทกใจนายตำรวจหนุ่มเสียเต็มเปา

“ผมไม่ได้ชอบคุณ”

“………….”

ดินเดินจากไปแล้วพร้อมกับทิ้งถ้อยคำที่แสนจะทำร้ายจิตใจไว้ให้นายตำรวจตัวโต ไตรภพยังยืนนิ่งอยู่ที่เดิมไม่ขยับเขยื้อนไปไหน ก่อนจะผ่อนลมหายใจช้าๆต่อจากนั้น เงยหน้าขึ้นมองตามทางที่คนหน้าเข้มเดินไป สีหน้ามุ่งมั่นเริ่มจะกลับมา พร้อมกับตะโกนก้องในใจอย่างไม่ยอมพ่ายแพ้ ก่อนจะเดินไปทางเดียวกับที่อีกคนเดินไปเมื่อครู่

‘สู้แค่ตายเว้ย!!’



+++++++++



ซุ้มอาหาร โซลที่ตักอาหารเสร็จแล้วให้เด็กยกไปให้ที่โต๊ะของตนเอง ส่วนตัวเขาถือแก้วน้ำในถาดไปให้น้องที่โต๊ะ ต้นที่กำลังจะเดินตามโซลไปแต่สายตากับไปสะดุดกับหญิงสาวที่กำลังสั่งการอยู่ใกล้ๆนั่น เมื่อหันไปมองเต็มตา ริมฝีปากบางก็คลี่ยิ้ม วางถาดที่ตนเองถืออยู่ ตรงรี่เข้าไปทักหญิงสาวทันที

“พิมพ์ นั่นพิมพ์ใช่ไหม?”

พิมพิกาที่ได้ยินเสียงเหมือนมีคนเรียกจึงหันกลับไปมองก่อนจะสะดุ้งชาวาบไปทั้งตัวและหัวใจ ผู้ชายคนนั้น…

“เอ่อ เดี๋ยวจัดการดูแลตรงนี้ด้วยนะมะนาว พี่จะไปดูด้านโน้นหน่อย”

พิมพิการีบสั่งลูกน้อง ก่อนจะก้าวเดินฉับๆไปแทบจะกลายเป็นวิ่ง ไม่อยากจะหนี แต่เธอทำไปแล้วจะทำอย่างไรดี

“เดี๋ยวสิพิมพ์ คุณจะหนีผมไปไหนอีก”

ต้นรีบตามหญิงสาวไปทันที คราวนี้เขาจะไม่ปล่อยให้เธอหนีไปไหนได้อีกแล้ว



“นี่พี่ต้นกับพี่พิมพ์รู้จักกันด้วยเหรอ?”

ตาต้าเปรยกับตนเองเบาๆ เมื่อเห็นพี่ชายเดินตามพี่พิมพ์ที่เหมือนกำลังเดินหนีพี่ชายของตนเองอยู่ มีฉุดมีดึงกันด้วย ถ้าพี่ดินเห็นจะว่ายังไงนี่?

“ตาต้าถามเราเหรอ?” กายที่นั่งข้างกันถามขึ้นมาเมื่อได้ยินเพื่อนพูดเหมือนจะถามใครสักคนในนี้

“เปล่า เราพูดคนเดียว”

ตาต้าตอบแค่นั้นแล้วก็หันไปสนใจเวทีดนตรีต่อ ไม่ได้ต่อความกับเพื่อนอีก กายพยักหน้าเบาๆและเลิกสนใจ หันไปดูเขาร้องเพลงตามตาต้าไปด้วย



+++++++++++



เริ่มดึก โซลจึงให้นุ่นพาน้องจินนี่ไปนอน ตาต้าเลยขอตามไปเข้าห้องน้ำด้วย โซลจึงอุ้มจินนี่พร้อมพาตาต้าไปห้องน้ำด้วย วิจิตราจะลุกตามไป แต่ดินที่กลับเข้ามาในงานแล้วลุกมาขวาง ทำให้วิจิตราต้องนั่งลงที่เดิมอย่างขัดใจ


โซลไปส่งลูกสาวตัวน้อยขึ้นห้องนอน ให้ตาต้าใช้ห้องน้ำด้านล่างจะได้ไม่ต้องเดินขึ้นลงให้ปวดขา เมื่อตาต้าที่เข้าห้องน้ำเสร็จเดินออกมาด้านนอกก็ถูกรวบตัวเข้าไปกอด หนุ่มน้อยดันตัวคนกอดเบาๆ ย่นจมูกแล้วบอก

“เหม็นเหล้า”

โซลเลิกคิ้วแล้วก้มดมตัวเอง ก่อนจะยิ้มหวานแก้ตัวกับคนในอ้อมแขน

“มันก็ต้องดื่มกันบ้างนะ”

“ทีต้าล่ะห้าม” หนุ่มน้อยว่าอย่างร้องหาความยุติธรรม

“เด็กดีต้องไม่ดื่มแอลกอฮอล์”

โซลยิ้มให้คนในอ้อมกอด ก้มลงไปจนปลายจมูกชนกันกับน้อง จ้องตาใสๆอย่างหวานเชื่อม

“ย้ำจัง”

ริมฝีปากที่ขยับยกอยู่ใกล้เพียงน้อยนิด โซลเอียงใบหน้าเล็กน้อยก่อนจะเคลื่อนริมฝีปากเข้าไปใกล้น้อง เริ่มจากกดจูบเบาซ้ำๆ ก่อนจะแทรกลิ้นแยกเรียวปากอิ่ม จูบที่แสนจะแผ่วเบาจึงกลายเป็นร้อนแรงจนตาต้าแทบตั้งรับไม่ทัน มือเรียวกำเสื้อพี่เมื่อหัวเริ่มหมุนกับการจูบที่ดูดดื่มมากขึ้น โซลบดจูบหนักหน่วง แทรกปลายลิ้นหยอกล้อในโพรงปาก ดูดลิ้นเล็กที่ไล่ตามมาอย่างย่ามใจ ชิมความหวานไม่รู้เบื่อ ครั้งแล้วครั้งเล่า จนตาต้าต้องครางในลำคอประท้วง คนเป็นพี่จึงยอมผละออก แต่ก็ยังตามคลอเคลียกลีบปากอิ่มอยู่ไม่ห่าง

“ถึงไม่ได้ดื่ม ต้าก็จะเมาเพราะจูบพี่โซลนี่แหละ”

คนโดนต่อว่าหัวเราะในลำคอ กดจูบน้องอีกครั้งก่อนจะพาน้องออกไปร่วมงาน วันนี้พอแค่นี้ก่อน เดี๋ยวน้องตื่นตกใจไปมันจะแย่เอาได้ หึหึ



TBC


•   หวานแหวว :L1:

•   ขอบคุณทุกกำลังใจค่ะ บวกไปทุกบวกค่ะ :กอด1:

Giniz น้ำตาลขาดตลาดแล้วค่ะตอนนี้ พี่โซลเอามาใช้หมดละ 55

badcow รับทราบค่า ขอบคุณที่ติดตามกันค่ะ^^

yeyong ตาต้ายังเด็กจริงๆค่ะ คิดแบบเด็กๆ

bulldog17 จัดไปตามคำขอค่ะ ปล.เพลงฮาอ่ะ :jul3:

love2y จารุไม่ร้ายค่ะ ที่ร้ายคือ…

gupalz น้ำร้อนไม่ต้องต้มเยอะนะคะ เส้นมันน้อย เดี๋ยวเปลืองน้ำ คึคึ

choijiin ความแตกต่างระหว่างพี่โซลกับตาต้าคืออายุ ความนึกคิด และประสบการณ์ในชีวิตค่ะ อุ๊บ! สปอยส์อีกแล้ว ไปดีกว่า :oni1:

PetitDragon เดี๋ยวพี่โซลได้ไอคุกๆ 55

mild-dy มาแล้วค่ะ^^

takara ยังหวานกันได้อยู่ค่ะ ตอนนี้อาจจะเบๆด้วยซ้ำนะ หลังจากนี้น้ำตาลคงท่วมกระทู้ คึคึ

CarToonMiZa ตาต้าบอก กินไม่กลัว กลัวไม่กินอ่ะ555

pare_140 แม่น้องจินนี่ไม่ร้ายหรอกค่ะ

Hakken โปรดติดตามตอนต่อไป ฮา

ขอบคุณทุกความเห็นมากๆค่ะ :pig4: พบกันตอนหน้าค่ะ :bye2:

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-10-2012 20:06:47 โดย wanmai »

ออฟไลน์ pare_140

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1192
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-6
 o13 คุณจาน่ารักจริงๆ

ออฟไลน์ choijiin

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2082
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +445/-5
ตอนแรกคิดว่าคุณจาจะร้ายกว่านี้
ไปๆมาๆก็น่าสงสารนะ
 :เฮ้อ:
ต้องถูกตราหน้าว่ามีชู้ทั้งๆที่ไม่ได้ตั้งใจ
ตกเป็นเหยื่อของไอ้อิคนชั่วทั้ง 2
 :3125:
แต่ตอนนี้ต้องยกรางวัลยอดหญิงแห่งปีให้
โทษฐานรู้สันดานชะนีตัวร้ายดีเกิน
 :laugh:

ตาต้าสู้ๆนะลูก
 :กอด1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41

ออฟไลน์ Meen_Emp

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 447
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-2
อ่านมาซักพักแล้วค่ะ
ต้องขอโทษด้วยที่ไม่ได้เมนท์ตอบ :call: :call:
ชอบตาต้า กับจินนี่มากค่ะ
ให้จารุจัดการวิจิตราเลย

เอาใจช่วยค่ะ  บวก 1จ้า 
 :L2:

Giniz

  • บุคคลทั่วไป
ตอนนี้ผู้ใหญ่อยู่เยอะ เค้าเลยไม่ค่อยสวีทกันเลยเนอะ แย่จัง  :เฮ้อ:

ออฟไลน์ gupalz

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +604/-20
 ดีแล้วที่จารุมา เตือนโซล

ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5
แหมพี่โซลไม่ค่อยเลยนะ...แอบตอดนิดตอดหน่อยก็ขอให้ได้ทำ

แน่จริงพาขึ้นเตียงเลยสิ  :haun4:


มาม่าใกล้จะมาแล้วใช่มั๊ย????  :z3:

ออฟไลน์ MyTeaMeJive

  • MyTeaMeJive
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1894
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3313/-9
พี่โซลนี่อดทนขั้นเทพ ตาต้า้อ้อนขนาดนี้ยังผ่านมาได้ตั้งนาน

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
พี่โซลเริ่มสอนขั้นเบสิคให้ตาต้าแล้ว ^_^

ออฟไลน์ wanmai

  • ★รักใสปิ๊ง★(>_<)
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 936
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1195/-5
It’s Real เดี๋ยวรักเลย

ตอนที่ ๑๔ ภัยคุกคาม



หลังจากที่งานเทศกาลประจำปีของไร่รณวีร์จบลง พื้นที่ที่ถูกใช้ในการจัดงานจึงถูกปรับให้เป็นเหมือนเดิมอีกครั้ง ข้าวของทุกอย่างถูกจัดการอย่างเรียบร้อย โต๊ะเก้าอี้ที่ไปเช่ามาดินก็จัดการคุมคนงานในไร่เอาไปส่งคืน

จารุที่จะกลับในวันพรุ่งนี้พาสามีทัวร์ทั่วไร่รณวีร์ อาเธอร์จึงได้ของถูกใจติดไม้ติดมือกลับประเทศหลายอย่าง ครอบครัวของตาต้าก็ยังอยู่ต่ออีกสองสามวัน เนื่องด้วยคุณน้ำทิพย์จะพาเที่ยวไหว้พระขอพรกัน ดังนั้นช่วงเช้าเด็กน้อยสองพี่น้องคนสนิทจึงติดสอยห้อยตามผู้ใหญ่ไปทำบุญไหว้พระด้วย

“เป็นเด็กดีนะคะจินนี่”

“ค่า~”

โซลที่มาส่งลูกสาวขึ้นรถบอกกับลูก น้องหนูจินนี่ก็รับคำเสียงใส พี่ชายคนสนิทจะก้าวตามขึ้นรถไปโซลจึงรั้งแขนน้องไว้แล้วกระซิบเบาๆ

“เป็นเด็กดีนะครับ”

ตาต้ายิ้มขำก่อนจะทำท่าวันทยหัตถ์รับคำ

“ครับผม!”

โซลโยกศีรษะน้องไปมาก่อนจะปล่อยให้ขึ้นรถ ตาต้าเข้าไปนั่งข้างๆน้องจินนี่ สองพี่น้องโบกมือให้โซลและจารุที่ยืนข้างกันเมื่อประตูรถปิดลง และรถแล่นออกไปจากไร่

“เด็กๆไม่อยู่นี่เงียบเลยนะคะ”

จารุเปรยขึ้นมา โซลหัวเราะในลำคอ เห็นด้วยกับจารุ

“แล้วนี่ อาเธอร์ไปไหนล่ะ?”

โซลถามหาหนุ่มอิตาเลี่ยนตัวโต แล้วชวนจารุไปรออาเธอร์ที่สำนักงานด้วยกัน

“โน่นค่ะ อยู่หน้าโรงบ่มไวน์แหนะ ท่าทางจะติดใจไวน์ที่ไร่นี้ซะแล้ว”

จารุบอกยิ้มๆขณะที่เดินไปสำนักงาน โซลมองหน้าอดีตภรรยาที่มีท่าทางอิ่มสุขก็พลอยรู้สึกดีด้วย เอ่ยถามคำถามที่อยู่ในใจตอนนี้ออกไป

“จา มีความสุขดีไหม?”

จารุนิ่งไปนิดกับคำถาม ก่อนจะเปิดยิ้มบางแล้วตอบกลับไป

“ค่ะ จามีความสุขดี”

“ก็ดีแล้วล่ะ ดีกว่าอยู่กับปรเมศวร์”

หัวคิ้วสวยเริ่มขมวดที่โซลเอ่ยพาดพิงถึงอีกคน จารุไม่ได้ตอบอะไรโซลในทันที จนเมื่อถึงสำนักงานของโซลจารุจึงตามโซลเข้าไปในห้องทำงาน นั่งที่เก้าอี้หน้าโต๊ะทำงานของโซลแล้วบอกสิ่งที่คิดเมื่อโซลนั่งลงฝั่งตรงข้าม

“จาไม่คิดที่จะอยู่กับผู้ชายคนนั้นนะคะโซล แค่พูดชื่อเขาจาก็รู้สึกอยากอาเจียน”

จารุพูดด้วยน้ำเสียงขุ่นมัวจนโซลหน้าเสีย

“ผมขอโทษนะจา ผม…”

เมื่อเห็นว่าคำพูดของตนเองทำให้ชายหนุ่มตรงหน้าคิดมาก จารุจึงรีบบอก

“ไม่เป็นไรค่ะ โซลอาจไม่รู้ และจา… ไม่อยากพูดถึงมัน แต่วันนี้จาคงต้องบอก เพื่อที่โซลจะได้ระวังตัว”

โซลขมวดคิ้วกับท่าทางเป็นจริงเป็นจังของหญิงสาว นิ่งฟังอย่างตั้งใจ

“วิจิตรากับปรเมศวร์เขาสนิทกันเกินกว่าที่โซลจะนึกถึง ทั้งคู่วางแผนให้จาไปให้พ้นจากที่นี่โดยไม่เลือกว่าวิธีนั้นมันดีหรือไม่ ส่วนหนึ่งก็มาจากจาเองด้วยที่รักสบายชอบอยู่ในสังคมที่มีแสงสี จึงทนไม่ได้ที่จะอยู่ที่นี่ เลยเป็นการเปิดโอกาสให้พวกเขาเข้าหาจาได้ง่ายขึ้นไปอีก”

“เดี๋ยวนะจา นี่จาจะบอกว่าจาไม่ได้รักปรเมศวร์ และเต็มใจไปกับปรเมศวร์เหรอ?”

โซลขยับนั่งตัวตรง ก่อนจะถามคำถามที่เสียดแทงใจออกไป ใจเต้นระส่ำกับความจริงที่จะได้รับรู้ นี่เขาเข้าใจผิดมาโดยตลอดเลยหรือ เมื่อเห็นว่าอดีตภรรยานิ่งไปทันทีที่เขาถาม โซลถึงกับกุมขมับ

“นี่มันเรื่องอะไรกัน”

“โซลคิดว่าที่จาไปจากที่นี่ เพราะจารักปรเมศวร์เหรอคะ?”

“ผมมันโง่ ที่เชื่อแบบนั้นมาตลอด ทั้งที่จา…”

โซลพูดไม่ออกเมื่อภาพของจารุตอนที่กลับมาหาเขาหลังจากที่ทิ้งเขาไปแล้วนั้นมันยังแจ่มชัด เธอถูกทำร้ายร่างกาย และจิตใจเธอก็บอบช้ำ

จารุที่ได้รับรู้ในสิ่งที่ทุกคนคิดกับเธอถึงกับต้องกล้ำกลืนความปวดร้าวลงในอก การไปโดยไร้ซึ่งคำอธิบายทำให้ใครต่อใครคิดไปได้ต่างๆนานา หญิงสาวยกมือปิดปากอย่างสะกดกั้นอารมณ์ แต่ก็สุดจะห้ามไหวเมื่อน้ำตาอุ่นร้อนไหลรินลงมา ที่เธอร้องไห้ไม่ใช่เพราะโซล แต่เธอร้องไห้ให้กับความโง่งมของตนเองมากกว่าที่หลงเชื่อวิจิตราจนตัวเองต้องเผชิญกับเรื่องเลวร้ายในชีวิต ทั้งยังถูกตราหน้าว่าคบชู้อีก

“จา ผมขอโทษ”

โซลอยากจะพูดอะไรที่มันดีกว่านี้ แต่มันกลับไม่มีคำใดที่จะทดแทนความรู้สึกย่ำแย่ในใจเขาตอนนี้ได้เลยแม้แต่คำเดียว

“มันผ่านไปแล้วค่ะโซล มันผ่านไปแล้ว…”

จารุบอกย้ำคำนี้อยู่หลายรอบ เหมือนจะบอกกับโซล และบอกย้ำกับตนเองให้ลืมทุกสิ่งอย่าง ให้จดจำแค่ว่า ทุกอย่างมันผ่านไปแล้วเท่านั้น


++++++++++++


เมื่อวันเดินทางมาถึงโซลกับตาต้าและจินนี่ไปส่งจารุที่สนามบิน วันนี้จินนี่ยอมเข้าใกล้คุณแม่อย่างไม่อิดออด ขณะรอเที่ยวบินออกสองแม่ลูกก็ยังคุยกันเบาๆอยู่สองคน จนเมื่อทางสนามบินประกาศเรียกจารุจึงอุ้มลูกสาวมาหาโซล พอวางลูกลงจินนี่น้อยก็เดินไปยืนข้างๆพี่ชายคนสนิททันที ตาต้าเลยนั่งยองลงให้น้องเข้ามายืนพิงตัวเองแล้วมองผู้ใหญ่เขาคุยกัน

จารุมองภาพความสนิทสนมของลูกสาวกับหนุ่มน้อยตาต้าแล้วยิ้มบาง หันมาพูดกับโซล

“ดูแลหัวใจตัวเองให้ดีนะโซล อย่าปล่อยเขาให้โดดเดี่ยว ตาต้ากับจาอาจไม่เหมือนกัน แต่ความเหงาเรามีเท่ากันแน่ๆ”

“เรื่องปรเมศวร์ คุณจะไม่เอาเรื่องเขาจริงๆเหรอ?”

“มันผ่านไปแล้วค่ะโซล” จารุยังย้ำคำเดิม มองสามีที่ส่งยิ้มมาให้

“ตอนนี้จาพบคนที่จาจะฝากชีวิตไว้กับเขาแล้ว อดีตที่ผ่านมาเพราะจาไม่ระวังตัวเอง เชื่อคนง่ายจนเกินไปมันถึงได้กลายมาเป็นแบบนี้ แต่นั่นมันคือสิ่งที่ไม่น่าจดจำ จาไม่อยากนึกถึงมันอีก เราจะจบมันเพียงเท่านี้นะคะ”

จารุหันมายิ้มให้ โซลถึงกับเจ็บหน่วงในหัวใจ เขาควรได้รับรอยยิ้มนี้หรือเปล่า

“ผมขอโทษ สำหรับทุกอย่าง ผมบกพร่องต่อคุณจริงๆ”

“จาลืมมันไปแล้วล่ะค่ะ เรามีชีวิตใหม่แล้วค่ะโซล”

จารุจับมือโซลมากุม ตบหลังมือเบาๆไม่ให้คิดมากกับเรื่องที่ผ่านมา ทุกอย่างที่เกิดขึ้น วันนี้ล้วนเป็นอดีตไปแล้ว อดีตที่กลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้ แต่คนเราก็ยังต้องก้าวเดิน การเก็บอดีตไว้เตือนใจไม่ใช่เรื่องผิด แต่ไม่ควรเก็บอดีตมาเป็นอุปสรรคในการดำเนินชีวิต อาจจะไม่ได้ลืม แค่เก็บเฉพาะส่วนที่ดีเอาไว้ในห้วงความทรงจำเพียงเท่านั้นพอ

“ขอบคุณ ขอบคุณมากๆ”

โซลบอกย้ำ จารุยิ้มให้โซลอีกครั้ง ก่อนจะเดินเข้าไปหาจินนี่ กอดและหอมลูกอีกครั้งก่อนจะไปขึ้นเครื่องบินไปไกลอีกซีกโลก

ตาต้ามองส่งพี่จารุ ก่อนจะหันมายิ้มให้พี่ โซลมองรอยยิ้มแสนซื่อนั้นแล้วรู้สึกว่าภายในใจที่ว้าวุ่นมันเบาลง กับแค่รอยยิ้มเล็กๆที่น้องมีให้เท่านั้น โซลอุ้มลูกสาวตัวน้อยขึ้นมาแล้วจับจูงมือน้องชายที่รักเดินออกไปขึ้นรถกลับบ้าน บ้านของเรา

ภายในรถ ตาต้ายังนั่งข้างโซลเหมือนขามา แต่ที่ต่างไปคือมีน้องสาวตัวน้อยมานั่งตัก จินนี่นั่งตักพี่ชายนิ่งเงียบกว่าปรกติ คนเป็นพี่ลูบศีรษะกลมๆของน้องสาวปลอบน้องที่นั่งซึม ถึงจะไม่ได้อยู่ด้วยกันนาน แต่สายใยระหว่างแม่ลูกมันก็ทำให้จินนี่รู้สึกผูกพันกับคนเป็นแม่ได้ไม่ยาก โซลมองคนที่ตนเองรักทั้งสองแล้วให้คำมั่นในใจ เขาจะดูแลหัวใจทั้งสองดวงนี้ให้ดีที่สุด จะไม่ให้ซ้ำรอยเดิมที่ผ่านมา

“ตาต้า”

“ครับ?”


“พี่รักตาต้านะ”



+++++++++++++



ไร่รณวีร์กลับเข้าสู่สภาวะปรกติหลังจากงานเทศกาลผ่านไป ทุกคนต่างดูแลงานในส่วนของตนเองไม่มีบกพร่อง ตอนนี้ยังไม่มีงานหนักๆเพราะเพิ่งจะเก็บเกี่ยวกันเสร็จไป แต่งานปลีกย่อยอื่นๆก็ยังมีให้ทำไม่ได้ขาด โซลเลยอยากถือโอกาสที่แสนสงบนี้บอกกล่าวเรื่องราวของตนเองกับน้องให้ทั้งสองครอบครัวได้รับทราบ ลำดับแรกคงต้องเริ่มจากครอบครัวของเขาเองก่อน แต่สิ่งที่คิดก็ยังคงเป็นแค่ความคิด เพราะโอกาสไม่เอื้ออำนวยสักเท่าไหร่

พักนี้วิจิตรามาที่ไร่บ่อยขึ้น ก็รู้อยู่ว่าจุดประสงค์ของหญิงสาวอยู่ที่โซล แต่เมื่อเธอไม่ได้ก้าวล้ำเข้ามามากเกินกว่าที่โซลจะทนได้ เขาก็ยังจะไม่จัดการอะไรลงไป เพราะยังเกรงใจเธอและพี่ชายของเธออยู่

การที่หญิงสาวยังมาที่นี่โดยไม่ได้รู้สึกตะขิดตะขวงใจนั่นเป็นเพราะเธอเชื่อมั่นว่าจารุจะไม่บอกอะไรกับโซล แต่ถึงบอกหลักฐานอะไรก็ไม่มีมาบ่งชี้ถึงเธอได้ เพราะฉะนั้นเธอจึงไม่ควรร้อนตัวไปก่อน เพราะโซลก็ไม่ได้มีท่าทีที่แปลกไปแต่อย่างใด แต่ที่วิจิตรามาที่นี่ก็ใช่ว่าจะเป็นการมาที่ราบเรียบและราบลื่น เมื่อมาหาโซลทีไรดินก็คอยขัดอยู่เสมอจนวิจิตรารำคาญใจ หญิงสาวได้แต่เก็บความไม่พอใจเอาไว้ภายใต้สีหน้าแย้มยิ้มมีไมตรี แต่ภายในใจกลับแช่งชักหักกระดูกดินอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน

‘ถ้าไม่มีนายดินสักคน อะไรๆมันคงง่ายกว่านี้’


+++++++++++



ช่วงสายในวันเดียวกันนั้น ดินต้องเข้าเมืองไปติดต่อเรื่องปุ๋ยแทนโซล กายที่จะเข้าเมืองไปซื้อของจึงขอติดรถไปด้วย เมื่อมาถึงดินจึงส่งหนุ่มน้อยกายที่ศูนย์การค้า ก่อนแยกไปทำธุระ และจะกลับมารับให้กายรออยู่ที่นี่

เมื่อทำธุระเสร็จดินก็ย้อนกลับมารับกาย โทรหาเด็กหนุ่มถามว่าอยู่ที่ไหนแล้วจึงเลี้ยวรถเข้าไปจอดใกล้ๆ แต่พอมาถึงจุดที่กายอยู่เห็นว่าตัวอันตรายกำลังเดินตามเด็กหนุ่มมา ดินจึงรีบเข้าไปแทรกในทันที

ปรเมศวร์ที่พาสาวๆในคอนโทรลมาเดินเที่ยวห้างสรรพสินค้าตากแอร์เย็นๆ พอสายตาเหลือบแลมาเห็นเด็กหนุ่มหน้ามนเป็นที่ถูกตาจึงจะเดินเข้ามาทายทักทำความรู้จักให้ลึกซึ้ง เขาไม่เกี่ยงหรอกว่าจะหญิงหรือชาย ขอให้ถูกใจเป็นพอ แต่ไม่นึกว่าโลกมันจะแคบขนาดนี้ เด็กหนุ่มที่เขาหมายตาท่าจะเป็นเด็กในไร่รณวีร์เสียด้วย ไอ้ตะเข้ขวางคลองมันถึงได้มาขวางเขาอยู่แบบนี้

“ไปรอพี่ที่รถไปกาย”

ดินบอกให้กายเดินไปขึ้นรถรอ ส่วนตนเองหันกลับมาเผชิญหน้ากับตัวอันตรายด้วยสีหน้าเรียบเฉย

“ยุ่งไม่เข้าเรื่องนะ”

ปรเมศวร์กอดอกเบ้ปากหมิ่นหนุ่มหน้าเข้ม ดินมองอย่างไม่อนาทร แล้วบอกแกมเตือนคนที่วางท่าเหนือกว่าเขาอยู่ตอนนี้

“อย่ายุ่งกับคนของไร่รณวีร์”

“ท่าทางนายคงอยากลองของนะดิน”

ดินเงียบไม่ต่อคำ หันหลังกลับแล้วเดินไปขึ้นรถพากายกลับไร่ โดยมีสายตามาดร้ายของปรเมศวร์มองตาม


‘อย่างนี้มันต้องโดนสั่งสอนสักหน่อยแล้ว จะได้รู้ ว่าอย่ายื่นเท้าเข้ามาสอดเรื่องชาวบ้าน ไอ้ดิน!!’




++++++++++++


ปรเมศวร์กลับไร่มาด้วยความหงุดหงิดใจ เจอหน้าพี่สาวก็บ่นให้ว่าไม่ช่วยทำงานทำการ ดีแต่เที่ยวเล่นไปวันๆ คนที่หงุดหงิดมาเป็นทุนเดิมอยู่แล้วจึงใส่อารมณ์กับพี่ไปไม่ยั้งปาก

“ผมจบอะไรมา พี่จะให้ผมมาทำไร่ไถนาอยู่อย่างนี้หรือไง สามีพี่มี พี่ก็ใช้ไปสิ อย่าดีแต่ให้เขาเกาะพี่กินไปวันๆ”

“ปรเมศวร์!!”

คนที่ได้ชื่อว่าเป็นพี่เขยเรียกชื่อปรเมศวร์เสียงดัง รู้สึกโกรธกรุ่นกับคำดูถูกเหยีดหยามศักดิ์ศรีที่น้องภรรยาพ่นออกมา

ปรเมศวร์ทิ้งสายตาดูถูกไปยังสามีของพี่สาว พวกเหลือบไรอยู่ไปก็ดีแต่จะสูบเลือดสูบเนื้อพี่เขาเท่านั้น ปรเมศวร์ไม่เข้าใจว่าทำไมพี่ถึงไม่เลือกคนที่ร่ำรวยมากกว่าไอ้พี่เขยบ้านนอกนี่ ถ้าพ่อแม่ยังอยู่อย่าหวังเลยว่าพี่จะได้แต่งงานกับนายคนนี้ เมื่อได้ระบายอารมณ์กับคนที่แสนเกลียดชังแล้ว ปรเมศวร์ก็เดินตึงๆขึ้นบ้านไม่สนใจใครหน้าไหนอีก

“ทำไมมันถึงได้เป็นคนแบบนี้ เพราะฉันเลี้ยงมันไม่ดีใช่ไหม ไม่เคยตักเตือนห้ามปรามมันอย่างจริงจัง เวลามันทำผิดมาก็แค่ช่วยวิ่งเต้นแก้ปัญหาให้มัน แล้วก็ด่ามัน มันถึงได้ไร้จิตสำนึกแบบนี้ สาเหตุมันมาจากฉัน”

คนเป็นพี่สาวร่ำร้องอย่างเจ็บปวดกับพฤติกรรมของน้องชาย เธอมีแค่สองคนพี่น้องมานานแล้ว พ่อแม่ของทั้งคู่ได้จากไปไม่มีวันกลับด้วยอุบัติเหตุตั้งแต่ปรเมศวร์เพิ่งเข้ามัธยมปลาย ตอนมีพวกท่านอยู่ก็ยังพอคุมน้องชายของเธอได้ แต่พอสิ้นท่านไปแล้ว เธอที่เป็นพี่สาวเพียงคนเดียวก็ไม่รู้จะตักจะเตือนอะไรได้ การรับภาระทุกอย่างมาไว้บนบ่าตั้งแต่อายุยังน้อยทำให้เธอและน้องห่างเหินกันมากขึ้น จนวันนี้ คำพูดคำเตือนของเธอมันคงไม่น่าเคารพเชื่อถืออีกต่อไปแล้ว

“คุณทำดีที่สุดแล้วป่าน ต่อไปคงต้องให้เขาได้เผชิญปัญหาด้วยตัวเขาเองบ้าง ป้องเขาโตแล้ว ไม่ใช่เด็กๆคุณจะตามเช็ดตามล้างให้ตลอดไม่ได้แล้วนะ คราวนี้ถ้าเขาทำผิดมาอีก คุณต้องปล่อยให้เขาจัดการเอง”

ธงชัยพยายามปลอบปัณฑารีย์ ผู้เป็นภรรยาให้หยุดความโศกากับน้องชายที่ร้ายกาจคนนั้น แม้คำพูดจะฟังดูดี แต่สายตาของผู้เป็นพี่เขยที่มองตามปรเมศวร์ไปนั้นมันเต็มไปด้วยความเกลียดชัง

เรื่องเงินเรื่องทองมันไม่เคยเข้าใครออกใครอยู่แล้ว ธงชัยก็เป็นเพียงคนๆหนึ่งที่มีความอยากอยู่ในตัว ไม่ได้มากกว่าใครอื่น แต่มันจะมากขึ้นก็เพราะน้องชายของภรรยาที่ดูถูกดูแคลนเขาอยู่ตลอดเวลานี่ล่ะ หาว่าเขาเป็นปลิงดูดเลือดโดยที่ไม่ได้ดูตนเองเลยว่าไม่ได้ต่างจากเขานักหรอก เขาไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับทรัพย์สมบัติของภรรยา แต่เขาก็ยังร่วมสร้าง ร่วมพัฒนาให้ไร่นี้ดีขึ้น ส่วนปรเมศวร์ก็แค่รอเงินปันผลของแต่ละปี และเงินที่ได้ใช้ในทุกเดือน มันมาจากหยาดเหงื่อของเขาด้วยซ้ำ ความแค้นมันแน่นในหัวอก แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ หวังแต่ว่าสักวันคนอย่างปรเมศวร์จะได้รับผลของการกระทำของตนเองบ้างเท่านั้น



+++++++++++



เมื่อเบื่อหน่ายกับที่บ้านมากเข้า ปรเมศวร์จึงชวนวิจิตราออกท่องราตรี และมีความสัมพันธ์ดังเคย เมื่อทุกอย่างผ่านพ้นวิจิตราจึงเปรยเรื่องที่ดินคอยขวางเธอกับโซลจนน่ารำคาญ จะแสดงท่าทางไม่พอใจมากไปก็ไม่ได้ เพราะดินก็ไม่ได้ขวางจนออกนอกหน้า เพียงแต่ไม่เปิดโอกาสให้เธอได้เข้าใกล้โซลเพียงลำพังเท่านั้น

“ผมจัดการให้คุณได้นะ”

ปรเมศวร์ที่นั่งเนื้อตัวเปลือยเปล่าอยู่บนเตียงนอนในโรงแรมแห่งหนึ่ง มองวิจิตราที่กำลังสวมใส่เสื้อผ้า และเอ่ยออกมานิ่งๆ วิจิตราชะงักมือที่กำลังติดกระดุมชุดแซ็คแสนสั้นของตนเองแล้วมองคนพูด ก่อนจะถาม

“คุณจะทำอะไร?”

ปรเมศวร์ยิ้มอย่างมีเลศนัย วิจิตรามองอย่างหวาดระแวง คงจะไม่ทำอะไรรุนแรงหรอกนะ ไม่น่าไว้ใจเอาเสียเลย บางทีก็ดูน่ากลัวจนเกินไปด้วยซ้ำผู้ชายคนนี้



++++++++++



เช้าวันต่อมาปรเมศวร์ยังคงขลุกอยู่ในห้องดังเคย การหอบสาวบริการมาร่วมหลับนอนด้วยไม่เคยเป็นเรื่องผิดสำหรับเขา ความต้องการที่มันมีมากเกินกว่าปรกติ บางทีก็อยากให้คู่นอนของตนเองได้รับความเจ็บปวด มันเหมือนมีความสะใจลึกๆที่ได้เป็นผู้ควบคุมทุกอย่าง เรียกได้ว่าอยู่ในขั้นมีปัญหาทางจิตระดับที่ยังควบคุมตนเองได้ ปรเมศวร์จึงยังเป็นเพียงคนธรรมดาที่ไม่มีอาการใดๆให้ใครได้เห็น นอกจากจารุ

ชายหนุ่มลุกขึ้นมาจากที่นอน เข้าไปนั่งหน้าคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คบนโต๊ะ จัดการอะไรบางอย่างอยู่ชั่วครู่ เสร็จแล้วก็นำเงินไปวางข้างเตียงสำหรับสาวสวยที่ยังนอนอยู่บนเตียงนอนที่ผ่านสมรภูมิรักเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา เข้าไปอาบน้ำชำระร่างกาย ออกมาจากห้องน้ำสาวสวยก็จากไปแล้วเช่นทุกที ปรเมศวร์จึงเข้าไปเช็คเมลที่ตนเองส่งไปเมื่อครู่ เมื่อเห็นว่าได้รับการตอบกลับจึงโทรหาใครบางคนที่ปลายสาย

“ฉันมีงานให้พวกแกทำ… เห็นรูปที่ฉันส่งไปแล้วใช่ไหม?”

มือหนาใช้เม้าส์เลื่อนรูปภาพในโน๊ตบุ๊คของตนเองขึ้นมา ภาพชายหนุ่มหน้าตาคมเข้ม คนที่คอยเป็นเสี้ยนตำมือตำเท้าเขาอยู่ตลอด มันไม่เจ็บ แต่รำคาญ

“…………….” ทางนั้นตอบรับกลับมาสองสามคำ ปรเมศวร์จึงพูดต่อ

“สั่งสอนมันซะ ไม่ต้องให้ถึงตาย เอาแค่… เกือบตายก็พอ”

รอยยิ้มชั่วร้ายปรากฎบนริมฝีปาก คนที่จิตใจตกต่ำ ต่อให้มีใครมาช่วยฉุดดึงมันก็ไร้ผล หากเขายังไม่รู้สำนึกและอยากที่จะขึ้นมาจากโคลนตมที่กลบจิตใจของเขาอยู่ และมันคงจะเป็นเช่นนั้น จนกว่าลมหายใจสุดท้ายของคนนั้นจะหมดลง



TBC


•   ดาร์คT^T มันเป็นไปตามพล็อตนะคะทุกท่าน

•   ขอบคุณทุกกำลังใจค่ะ บวกให้ทุกบวกเมื่อบวกได้ค่ะ

•   กอดนักอ่านที่น่ารักทุกคน :กอด1:


ปล. นักอ่านที่น่ารักทุกท่านคะ ใหม่ขออะไรอย่างนึงได้หรือเปล่า :m17: อย่าโกรธกันนะ คือว่า…


ขออนุญาตกรี๊ดดังๆให้ไจฟ์ทีได้ไหมคะ อ๊ายยยยยยย :m3:

นักเขียนในดวงใจเขา ปลื้มมมมมม :m1:

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-10-2012 20:08:41 โดย wanmai »

ออฟไลน์ choijiin

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2082
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +445/-5
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
น้องดินแย่แล้วจ้า
 :sad4:
ผู้หมวดอยู่ไหนมาช่วยด้วยเร้ว(อินี่ตื่นตูม)
อิปรเมศวร์แม่มสารเลว ไอ้เปรตตตตตตตตตตตตต
 :z6:

ปลล.ไจฟ์ทีเป็นขวัญใจคนในเล้าอยู่แล้วค่า
เอนเอียงเชียร์น้องทีสุดชีวิต น่าร้ากกกกกกกกกกกก
 :m3:

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
ถ้าทำร้ายร่างกายก็พอไหว แต่อย่าถึงกับต้องให้ดินต้องเสียศักดิ์ศรีถูกกระทำรุมโทรมแบบนั้นเลยนะ รับไม่ได้

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด