ผมจำได้ว่าเคยบอกไว้ว่าจะไม่มีตอนพิเศษให้กับทุกเรื่องที่ตัวเองเขียน
มีความรู้สึกว่าอยากให้มันจบไปเลย เหมือนละครที่จบแล้วก็จบไป
แต่...ผมก็รู้สึกว่าผมลืมเขียนเล่าถึงตอนที่สนแอบคบต้นเป็นแฟน (ช่วงปีสี่ของการเรียน)
ก็เลยอยากจะเล่าเรื่องตรงช่วงนี้ขึ้นมาบ้าง พอดีกับที่ไปเห็นอะไรน่ารักๆ เข้า
ผมแชร์ไว้ที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=34799.0ก็เลยยิ่งทำให้อยากเขียนตอนพิเศษของเรื่องนี้ สุดท้ายก็เลยตัดสินใจแล้วครับว่าจะเขียน
ส่วนใครที่รอเรื่องใหม่ของผม อีกไม่นานนี้ครับ ได้ชื่อเรื่องแล้วครับ ดัดแปลงมาจากประสบการณ์จริงของตัวเองเลย
"อัปไลน์ที่รัก" รอติดตามนะครับ ที่นี่........... เร็วๆ นี้
ป.ล.
ไม่รู้จะมีใครได้แวะมาอ่านไหม แต่จะพยายามแจ้งไปทาง P.M. นะครับ
----------------------------------------------------------------
ต้นสน: ตอนพิเศษ (ไม่ต้องรู้ว่าเรารักกันแบบไหน)เสียงเคาะประตูห้องรัวๆ พร้อมกับเสียงร้องเรียกชื่อของต้นซ้ำๆ ทำให้ต้นต้องรีบใส่กางเกงอย่างรวดเร็ว กำลังชั่งใจว่าจะใส่เสื้อก่อนดีไหมแต่เสียงเคาะและเสียงเรียกที่ไม่ยอมหยุดนั้นทำให้ต้นตัดสินใจรีบเดินไปเปิดประตู
"ต้น ต้น ต้น เรากลับมาแล้ว เปิดประตูให้หน่อย ต้น ต้น อยู่หรือเปล่า เปิดประตูให้เราหน่อย" สนร้องเรียกพร้อมกับเคาะประตูห้องของต้นไปด้วย ไม่ได้เคาะหรือเรียกเสียงดังมาก แต่น้ำเสียงก็ดูเร่งเร้าอยู่ไม่น้อย
พอต้นเปิดประตูออกมาเท่านั้น สนก็ยิ้มดีใจจนแก้มแทบปริ
"คิดถึงต้น...ไม่ได้เจอตั้งหลายวันเลย ขอกอดหน่อย" สนไม่พูดเปล่า แต่เดินเข้าไปกอดต้นที่ยืนตัวแข็งทื่ออยู่ ไม่ใช่อะไร ต้นยังไม่ได้ใส่เสื้อเลย เวลาสนมากอดเขาทั้งที่ยังไม่ได้ใส่เสื้อมันก็รู้สึกแปลกๆ อยู่เหมือนกัน
พอสนกอดจนหนำใจแล้วต้นก็เลยถาม "ทำไมรีบมาล่ะ"
"ก็รีบมาหานายไง เรานั่งนับวันนับคืนจะได้กลับเร็วๆ มาเจอนายรู้หรือเปล่า เนี่ย...พอลงจากรถทัวร์นะ เราก็รีบขึ้นแท็กซี่กลับมาเลย กลัวนายจะไปข้างนอกซะก่อน น้ำก็ยังไม่ได้อาบ ของก็ยังไม่ได้เอาไปเก็บเลยเห็นไหมเนี่ย" สนบอกพลางชี้ไปที่กระเป๋าเสื้อผ้าที่เขาวางไว้ข้างประตูห้องของต้น
ต้นมองตามแล้วก็ขำ "ไปแค่ไม่ถึงอาทิตย์เอง คิดถึงขนาดนี้เลยเหรอ"
"ก็ใช่สิ...นายไม่คิดถึงเราหรือไง"
พอสนถามกลับมาแบบนั้นต้นก็หยุดคิดพร้อมกับมองหน้าสนเหมือนกับไม่รู้จะตอบยังไง ช่วงหลังๆ มานี้สนทำตัวแปลกๆ กับเขาหลายอย่างมาก จนต้นอดสงสัยไม่ได้ว่าสนคิดอะไรกับเขากันแน่
"คิดถึงสิ" ต้นตอบสั้นๆ พลางยิ้มน้อยๆ
"แล้วนี่นายจะไปไหนหรือเปล่า" สนสงสัย
"อืม...ไปบ้านเพื่อน พอดีจะไปช่วยมันทำงานส่งอาจารย์น่ะ"
"เราไปด้วยได้ไหม" สนรีบถามกลับมาแทบจะทันทีที่ต้นพูดจบ
"อย่าเลย...นายเพิ่งกลับมาเหนื่อยๆ เราไปนานนะ อาจจะทำงานจนดึกเลย นายพักก่อนดีกว่า" ต้นบอกอย่างหวังดี
"ไม่เป็นไร เดี๋ยวเราไปเป็นเพื่อน ไปดูแลนายไง เผื่อใครมารังแกนาย"
"ไม่มีใครเขารังแกเราหรอก ในคณะเราไม่มีใครกล้าทำแบบนี้กับเราอยู่แล้ว"
"นายเดินทางไปคนเดียวก็เหงาแย่สิ ไม่เป็นไรให้เราไปเป็นเพื่อนเถอะ...นะ" สนยังไม่ลดละ
ต้นขมวดคิ้วอย่างสงสัย แม้ว่าจะเกรงใจสนที่เพิ่งจะกลับมาจากไปทำกิจกรรมกับเพื่อนที่ต่างจังหวัดมา แต่พอเห็นสนตั้งใจแบบนี้ ต้นก็คงจะไม่กล้าขัด ทำไมสนถึงอยากไปเป็นเพื่อนกับเขาขนาดนี้นะ จริงๆ ไม่ต้องไปก็ได้ เมื่อก่อนสนก็ไม่เห็นไปด้วยเลย สนไม่ค่อยสนิทกับกลุ่มเพื่อนๆ ของต้นเท่าไร เขาก็ไม่รู้ว่าสนจะเบื่อหรือเปล่าที่ไม่รู้จักใคร แถมต้นยังต้องทำงานกับเพื่อนๆ อาจจะไม่ได้มีเวลามาคุยกับสนมากนักเสียด้วย
ต้นพยักหน้าตกลง "ตามใจละกัน ถ้านายไม่เหนื่อยจนเกินไป แต่เราบอกไว้ก่อนนะว่า...เราอาจจะต้องทำงานกับเพื่อนๆ เราคงไม่ค่อยได้คุยกับนายแน่ๆ เลย เรากลัวนายจะเบื่อเสียก่อน"
"ไม่เป็นไร เดี๋ยวเราก็หาอะไรทำได้เองแหละน่า เดี๋ยวทำอาหารเที่ยงให้กินด้วย ดีไหม"
ต้นพยักหน้าแล้วก็ยิ้ม
"เดี๋ยวเราไปอาบน้ำก่อนนะแป๊บนึง นายรอเราด้วยนะ" สนบอกแล้วทำท่าจะวิ่งออกไป แล้วก็หยุดหันมาถาม "แล้วไอ้สองคนนั้นล่ะ ไปไหนซะล่ะวันนี้"
"อ๋อ...กลับบ้านทั้งคู่เลย กลับมาเย็นวันจันทร์โน่นมั้ง" ต้นตอบไป
"ใช้ไม่ได้เลยนะไอ้สองคนนี้ ปล่อยให้นายอยู่คนเดียว เดี๋ยวกลับมาจะเล่นงานทั้งสองคนเลย" สนว่าอย่างไม่จริงจังนัก "โอเค...เดี๋ยวเราไปอาบน้ำก่อนนะ ไม่นาน ไม่ถึงสิบนาที"
สนบอกแล้วก็เดินมาหยิบกระเป๋าเสื้อผ้าของเขา ก่อนจะผลุนเข้าห้องตัวเองไป ต้นเห็นแล้วก็อดยิ้มและส่ายหน้าด้วยความเอ็นดูไม่ได้ ชีวิตช่วงนี้ของเขากับสนก็ดูจะมีความสุขมากทีเดียว ยิ่งนับวันสนก็ยิ่งดูเหมือนจะเป็นมากกว่าเพื่อน คอยดูแลเขาดีเป็นพิเศษจนรู้สึกได้ว่าไม่ใช่แบบที่สนเคยทำให้กับเขามาก่อน มันทำให้ต้นอดที่จะคิดไปในทางนั้นไม่ได้จริงๆ สนกำลังเล่นอะไรของเขาอยู่นะ สนจะรู้ไหมว่าแม้ว่าต้นจะมีความสุขมากแค่ไหน แต่มันก็มีความทุกข์ด้วยเหมือนกัน ทุกข์ที่ไม่รู้ว่าสนคิดอะไรกับเขากันแน่
---------------------------------------------------------------
ต้นพาสนนั่งแท็กซี่มาถึงบ้านเพื่อนก็ประมาณสิบเอ็ดโมงเช้า มีคนอื่นๆ มารอกันอยู่ก่อนแล้วสามสี่คน ถามไปถามมาก็ได้ความว่าต้นมาถึงเป็นคนสุดท้าย แต่ก็ยังมาทันเวลาที่นัดไว้พอดี แต่พอทุกคนเห็นว่าต้นมากับใครต่างก็ทำสีหน้าแปลกใจเล็กน้อย จริงๆ หลายคนก็รู้จักสนอยู่บ้างแล้ว แม้จะไม่สนิทแต่ก็รู้ว่าสนเป็นเพื่อนที่สนิทมากของต้น
"อ๋อ...วันนี้สนเขาอยากมาด้วย มาช่วยทำอะไรอร่อยๆ ให้พวกมึงกินด้วย" ต้นบอกเมื่อเห็นสายตาของเพื่อนๆ แต่ละคนที่มองมาด้วยความสงสัย เพื่อนๆ ของต้นก็ร้องอ๋อ
แต่ก่อนจะลงมือทำงานกัน "เต้" หรือเพื่อนที่เป็นเจ้าของบ้านก็พาต้นกับสนไปไหว้พ่อกับแม่ที่นั่งดูทีวีด้วยกันอยู่อีกมุมหนึ่งของบ้าน พร้อมกับขออนุญาตให้สนใช้ครัวทำอาหารให้เพื่อนๆ กินกันด้วย ดูเหมือนเจ้าของบ้านจะทำสีหน้าแปลกใจปนทึ่งนิดๆ แต่ก็อนุญาตแต่โดยดี
จากนั้นต้นกับเพื่อนๆ จึงได้ลงมือกันทำงาน ส่วนสนก็วิ่งเข้าครัวไป มีแม่ของเพื่อนต้นตามเข้าไปด้วยเพราะความอยากรู้ว่าเด็กหนุ่มอย่างสนทำไมถึงสนใจทำอาหาร ลูกสาวของบ้านนี้เองสอนเท่าไรก็ยังไม่เห็นอยากทำเลย
แม่ของเต้เห็นสนทำอาหารอย่างคล่องแคล่วว่องไวก็เอ่ยปากชม ไม่เท่านั้นยังไปตามน้องสาวของเต้ที่นอนดูทีวีอยู่ข้างบนลงมาช่วยเป็นลูกมือของสนด้วย ตอนแรกเธอก็อิดออด แต่พอเห็นหนุ่มหล่อหน้าตาดีอย่างสน เต้ยซึ่งเป็นน้องสาวของเต้ก็ดูเหมือนจะเต็มใจช่วยมากขึ้น สนบอกให้ช่วยทำอะไรก็ไม่ขัดแม้แต่น้อย แถมยังขอให้สนช่วยสอนเธอทำอาหารอีก สนก็ยินดีสอนให้ด้วยความเต็มใจ
ด้วยเหตุนี้ ในช่วงกินข้าวกลางวัน เต้ยจึงดูตื่นเต้นกับอาหารที่เธอช่วยสนทำมากเป็นพิเศษ เต้ยอวดเพื่อนๆ ของพี่ชายและพ่อกับแม่อย่างภาคภูมิใจ ใครๆ เห็นก็ต้องรู้ว่าเธอปลื้มสนมากแค่ไหน
"เนี่ยพี่เต้เห็นไหม เต้ยทำอาหารเป็นตั้งหลายอย่างแล้วนะ พี่สนเก่งมากเลย สอนเก่งด้วย" เต้ยเล่าด้วยรอยยิ้มพลางหันไปมองสนอย่างชื่นชม
"อะไรยัยเต้ย เมื่อก่อนพี่ไม่เห็นเราชอบเข้าครัวเลย แม่สอนก็ไม่ยอมทำ พอมีหนุ่มๆ มาสอนกลับไม่บ่นสักคำเลยนะ" เต้แซวน้องสาวเล่น แต่นั่นก็ทำให้ต้นรู้สึกแปลกๆ ได้เหมือนกัน เต้ยแสดงออกว่าปลื้มสนมากทีเดียว สนเองก็ยิ้มไม่หุบ
"ก็แม่สอนไม่สนุกนี่" เต้ยตอบเสียงอ่อยๆ แล้วก็ยิ้มร่า "แต่ถ้าได้เรียนทำอาหารกับพี่สนบ่อยๆ นะ เต้ยต้องทำอาหารเก่งแน่ๆ เลย ต่อไปจะได้ทำให้ทุกคนในบ้านทานไง ดีไหมคะคุณแม่"
คุณแม่ของเต้ยยิ้มแต่ไม่ตอบอะไร
"วันหลังพี่สนมาที่นี่อีกนะคะ เต้ยจะได้เรียนทำอาหารด้วย พี่สนสอนสนุกดีค่ะ ขนาดเต้ยไม่ชอบทำอาหารนะคะ วันนี้ยังทำได้ตั้งหลายอย่างแน่ะ" สาวน้อยหันไปคุยกับชายหนุ่มที่ตัวเองเพิ่งรู้จักได้ไม่นาน แต่ก็ถามด้วยน้ำเสียงที่บ่งบอกถึงความสนิทสนมมากทีเดียว
"ครับ ถ้ามีโอกาส" สนตอบพลางยิ้ม แต่ก็แอบชำเลืองมองต้นที่นั่งอยู่ข้างๆ ด้วยเช่นกัน ไม่รู้ว่าต้นจะคิดอะไรหรือเปล่า แต่ก็ดูเงียบๆ ไปเหมือนกัน คงจะคิดน้อยใจไปใหญ่แล้วแน่ๆ เลย
แน่ล่ะ ต้นย่อมคิดอะไรบางอย่างในใจแน่นอน ที่ต้นเคยเข้าใจว่าสนอาจจะคิดอะไรบางอย่างที่พิเศษกับเขา พอมาวันนี้ต้นก็ชักไม่มั่นใจอีกแล้ว ยังไงๆ สนก็คงเป็นผู้ชายธรรมดาคนหนึ่ง เขาก็คงต้องชอบสาวๆ อย่างน้องเต้ยมากกว่าต้นแน่นอน ฟุ้งซ่านมาอยู่ได้ตั้งนานนะต้น ก็คงต้องกลับมาสู่โลกแห่งความเป็นจริงเสียที
"ต้น กินนี่สิ เรารู้ว่านายชอบ"
เสียงพูดของสนพร้อมกับอาหารที่ตักใส่ลงมาในจานของต้นทำให้ต้นค่อยๆ ตื่นจากความคิดดังกล่าว ต้นหันไปยิ้มกับเพื่อนจางๆ ปนเศร้านิดๆ แล้วก็หันมาตักอาหารที่สนตักมาให้เข้าปาก คงไม่มีอะไรหรอก สนก็คงแค่ดูแลเขาตามประสาที่เป็นเพื่อนกันมานั่นแหละ ไม่มีอะไรพิเศษอย่างที่ต้นสงสัยแล้วล่ะ ต้นคิดในใจ
---------------------------------------------------
ตกบ่าย ต้นกับเพื่อนๆ ก็ยังคงทำงานกันต่อ สนเดินเข้ามาคุยด้วยบ้าง ไปหาหนังสืออ่านเล่นบ้าง ดีที่ว่าเต้ยออกไปธุระกับเพื่อนที่เธอนัดไว้ข้างนอก ไม่อย่างนั้นเขาก็คงต้องนั่งคุยกับเธอไม่เลิกเป็นแน่
"ทำไมไอ้สนมันเงียบๆ ไปวะต้น" เต้เอ่ยขึ้นในช่วงหนึ่งของการนั่งทำงาน
ต้นหันไปมองตรงโซฟาที่เห็นสนนั่งอ่านหนังสือเมื่อสักครู่นี้ ไม่เห็นสนแล้ว
"เดี๋ยวเราไปดูเอง" ต้นบอก แล้วก็ลุกเดินออกไปตรงโซฟา
แล้วก็ได้เห็นว่าเพื่อนที่แสนรักของเขานอนหลับไปแล้ว สนคงจะเหนื่อยนั่นเอง ตอนที่อยู่บนรถทัวร์สนก็นอนแบบหลับๆ ตื่นๆ แถมตอนเช้าต้นบอกให้พักก็ยังไม่ยอมพัก ยังอุตส่าห์ตามมาเป็นเพื่อนต้นจนได้
ต้นแอบยิ้มอย่างเอ็นดู เหนื่อยขนาดนี้สนก็ยังอุตส่าห์จะตามมาคอยดูแล ตอนที่เดินทางมาสนก็ช่วยถือของให้ทั้งหมด ต้นจะถือเองเขาก็ไม่ยอม จัดการเรียกแท็กซี่ให้เสร็จสรรพ ต้นแทบไม่ต้องทำอะไรเลย ถ้าอุ้มได้สนก็คงจะอุ้มไม่ให้ต้นเดินแล้วล่ะ แต่พอถึงตอนนี้ก็หมดแรงข้าวต้มเสียแล้วเพื่อนรัก
"หลับไปแล้ว" ต้นหันไปบอกเพื่อนๆ เขาค่อยๆ ก้มลงเก็บหนังสือที่ตกอยู่ข้างตัวสนขึ้นมาวางไว้บนโต๊ะใกล้ๆ แล้วก็กลับมานั่งทำงานกับเพื่อนตามเดิม
"ไอ้สนนี่ดูมันเป็นห่วงมึงมากเลยนะต้น" เพื่อนคนหนึ่งของต้นเอ่ยขึ้นหลังจากที่ต้นกลับมานั่งทำงานต่อได้สักพัก
ต้นพยักหน้ายอมรับ ไม่มีเหตุผลใดๆ ที่เขาจะปฏิเสธเรื่องนี้
"บางทีนะเว้ย พวกกูก็คิดว่ามึงกับไอ้สนเป็นคู่เกย์กันเสียอีกว่ะ" เพื่อนคนเดิมพูดด้วยน้ำเสียงล้อเล่นสนุก แต่คนอื่นๆ ก็หัวเราะขบขันกัน ต้นได้แต่ยิ้มเจื่อนๆ เขามักจะโดนเพื่อนล้อเรื่องนี้อยู่บ่อยๆ แต่ต้นก็ไม่เคยโต้ตอบใดๆ
"แล้วนี่มันมีแฟนหรือยังวะ ตอนนั้นที่เห็นมันคั่วกับผู้หญิงรุ่นน้องที่เข้ามาใหม่ ชื่ออะไรนะ...จำไม่ได้ละ เออ...นั่นแหละ ตั้งแต่นั้นมากูก็ยังไม่เห็นมันมีแฟนกับเขาเลยว่ะ พวกมึงสองคนนี่ชักยังไง มึงก็ไม่มีแฟน ไอ้สนก็ไม่มีแฟน เป็นอะไรกันหรือเปล่าวะ" เพื่อนอีกคนแซวขึ้นมาอีก เต้เห็นต้นมีสีหน้าอึดอัดใจก็เลยรีบปราม
"พอแล้วพวกมึง ไอ้ต้นมันอุตส่าห์มาช่วยทำงานแล้วยังมาล้อมันอีก เดี๋ยวก็ให้ทำเองซะเลยนี่"
นั่นแหละจึงทำให้เพื่อนๆ ของต้นหยุดเล่นเรื่องนี้ได้ เต้นับว่าเป็นเพื่อนที่สนิทและรู้ใจของต้นมากทีเดียว ในคณะที่ต้นเรียนนั้นต้องบอกว่าเต้นี่แหละคือเพื่อนที่ต้นสนิทด้วยมากที่สุด แต่จะว่าไปแล้ว เต้ก็สงสัยในความสัมพันธ์ของต้นกับสนเช่นเดียวกัน แม้ว่าจะไม่ได้พูดออกมาก็ตาม
------------------------------------------------------------------
"สน ตื่นได้แล้ว กลับกันเถอะ"
เสียงเรียกพร้อมกับอะไรบางอย่างที่มาเขย่าแขน ทำให้สนค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้น พอเห็นว่าต้นมานั่งย่อเข่าอยู่ข้างๆ ก็ยิ้ม
"นายทำงานเสร็จแล้วเหรอ" สนถามด้วยน้ำเสียงงัวเงียเล็กน้อย
"เออ เสร็จตั้งนานแล้ว ไอ้ต้นมันไม่อยากปลุกมึงมันก็เลยนั่งคุยเล่นกับกูรอให้มึงตื่น แต่ดูท่ามึงจะไม่ตื่นง่ายๆ ก็เลยให้ไอ้ต้นมาปลุก" เต้บอก
สนได้ยินเสียงอีกคนแล้วก็เลยหันไปมอง เขาค่อยๆ ลุกขึ้นนั่งอย่างงงๆ แล้วก็ถาม "กี่โมงแล้ว"
"จะทุ่มหนึ่งแล้วล่ะ" ต้นบอกแล้วก็ลุกขึ้นยืน "พอดีเต้เขาจะต้องพาครอบครัวไปบ้านย่า เราก็เลยต้องมาปลุกให้นายตื่น ขอโทษด้วยนะ"
"ขอโทษทำไม เราสิต้องขอโทษนาย ไม่ได้ดูแลนายเลย มัวแต่หลับ" สนรีบบอก
"พวกมึงสองคนนี่คุยกันเพราะเกินไปไหมเนี่ย คุยกันแบบนี้มาตั้งแต่เด็กๆ เลยหรือเปล่าวะ" เต้ถามด้วยความสงสัย เขาไม่เคยเห็นเพื่อนที่ไหนคุยกันแบบนี้มาก่อนเลย
"เออดิ กูกับต้นก็คุยกันแบบนี้แหละ เดี๋ยวขอไปเข้าห้องน้ำแป๊บนึงก่อนนะ" สนเปลี่ยนเรื่องพูดพลางลุกขึ้น
"เออๆ ตามสบาย ขอโทษด้วยนะเว้ยไม่ได้เลี้ยงข้าวเย็นพวกมึง พอดีต้องไปธุระที่บ้านย่าว่ะ" เต้บอก นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาอะไรสำหรับสนหรอก เพราะพอเขานั่งแท็กซี่ออกมาแล้ว เขาก็ชวนต้นไปกินข้าวเย็นด้วยกันที่ร้านอาหารริมฟุตบาทแห่งหนึ่งที่สนมักจะมากินกับเพื่อนๆ บ่อยๆ
"เรื่องน้องเต้ยน่ะ นายไม่ต้องคิดมากนะ" อยู่ดีๆ สนก็พูดขึ้นมาหลังจากที่กินไปได้สักพัก
ต้นดูจะงงมากทีเดียว เขาต้องคิดทบทวนอยู่เกือบยี่สิบวินาทีจึงได้เข้าใจว่าสนหมายถึงอะไร
"เราก็ไม่ได้คิดอะไรนี่ อีกอย่าง...ถ้านายจะชอบน้องเขาก็เป็นสิทธิ์ของนาย" ต้นบอกพลางยิ้มกลบเกลื่อนความรู้สึกบางอย่าง
"เรายังไม่ชอบใครหรอกตอนนี้ เพราะเรา..." แล้วสนก็เงียบไปเหมือนกับหยุดคิดอะไรบางอย่าง "เราอยากจะเรียนหนังสือให้จบไง ไม่อยากมีแฟนตอนนี้หรอก เดี๋ยวไม่มีสมาธิเรียนหนังสือ นายอุตส่าห์ช่วยเรามาตั้งเยอะ เราจะต้องเรียนให้จบ ตอบแทนบุญคุณของนายไง นายจะได้ภูมิใจที่ช่วยเพื่อนคนนี้แล้วไม่เสียเปล่า"
สนเสไปเรื่องอื่นหลังจากที่คิดไตร่ตรองแล้วว่าเขายังไม่ควรพูดเรื่องนั้นตอนนี้ ถ้าสนรู้ว่ามันจะมีเหตุผิดพลาดบางอย่างเกิดขึ้นหลังจากนี้ เขาก็คงจะบอกต้นเรื่องนี้ไปตั้งนานแล้ว
"เฮ้ย...บุญคุณอะไรกัน เราเป็นเพื่อนกันก็ต้องช่วยกันเป็นธรรมดา นายก็ยังช่วยเราตั้งหลายอย่าง" แม้จะผิดหวังที่สนไม่ได้พูดสิ่งที่เขาแอบสงสัยออกมา แต่ต้นก็ไม่อยากให้เพื่อนรู้สึกกับเขาแบบนั้นเพราะนี่คือมิตรภาพระหว่างเพื่อน เขาไม่อยากให้ใครรู้สึกเป็นหนี้บุญคุณกับเขา
"ครับ" สนพูดพลางยิ้มแล้วก็ตักอาหารใส่ปาก เขารู้ดีว่าต้นคิดอะไร ไม่ต้องอธิบายอะไรมากสนก็เข้าใจสิ่งที่เพื่อนรู้สึกเป็นอย่างดี
"แล้วนายไม่เหงาเหรอ" ต้นยังไม่วายสงสัย
"แล้วนายล่ะ ไม่เหงาเหรอที่ไม่มีแฟน" สนย้อนถาม ทำให้ต้นอึ้งไปเล็กน้อย
"ก็...จะเอาเวลาที่ไหนมาเหงาล่ะ แค่เรียนอย่างเดียวเวลาก็จะหมดแล้ว" ต้นหาทางออกจนได้
สนยิ้มอย่างมีเลศนัย "แต่เรานะ...อยู่กับนาย ชีวิตเราก็โอเคดีนะ ไม่เห็นจะเหงาอะไรเลย นายว่าไหม"
ต้นได้แต่พยักหน้าอย่างงงๆ ยิ่งนับวันสนก็ยิ่งทำให้เขาสงสัยมากขึ้นและมากขึ้น
ขากลับ ต้นกับสนก็นั่งแท็กซี่กลับเช่นเคย จริงๆ จะขึ้นรถเมล์ก็ได้ แต่สนเห็นว่ามันเริ่มจะดึกแล้วจึงไม่อยากให้ต้นต้องขึ้นเหนื่อยโหนรถเมล์กลับบ้าน
ในระหว่างที่นั่งกลับ สองหนุ่มก็ดูเงียบๆ แต่ก็ไม่ได้มีบรรยากาศที่อึดอัด ต้นกับสนสามารถอยู่ด้วยกันเงียบๆ โดยไม่ต้องพูดกันก็ได้ และไม่เคยรู้สึกว่าต้องอึดอัด บางทีคนเราก็ต้องการเวลาคิดอะไรเงียบๆ ส่วนตัว การพูดกันตลอดเวลาจึงไม่ใช่สิ่งจำเป็นสำหรับต้นและสน
ช่วงจังหวะหนึ่ง ต้นใช้มือสองข้างลูบผมให้เข้าที่ มือของสนก็วางแหมะลงบนต้นขาของเขาแล้วก็ตบเล่นเบาๆ ต้นถึงกับต้องหยุดแล้วหันไปมอง สนหันมายิ้มน้อยๆ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร
ใจของต้นเริ่มเต้นไม่เป็นส่ำ ถึงแม้ว่าสนกับเขาจะถึงเนื้อถึงตัวกันจนเป็นเรื่องธรรมดา แต่คราวนี้ต้นรู้สึกได้ว่ามันมีความรู้สึกบางอย่างที่มากไปกว่านั้นแล้วล่ะ ต้นค่อยๆ ตัดสินใจวางมือลงอย่างช้าๆ สายตายังจับจ้องใบหน้าของสนอยู่ แล้วก็วางมือของเขาทับลงไปบนฝ่ามือของสนที่จับต้นขาเขาไว้อยู่ ดีที่ว่ามันมืดๆ คนขับเองก็ไม่ได้สนใจที่จะสังเกตดู
พักเดียว สนเลื่อนมือขึ้นมาจับมือต้นไว้แล้วก็ยิ้มกว้างขึ้น สนไม่ได้พูดอะไร ต้นก็ไม่ได้พูดอะไร สีหน้า แววตาและสิ่งที่เกิดขึ้น ณ ขณะนี้เหมือนจะสื่อสารได้ดีมากพอแล้ว คงไม่จำเป็นต้องใช้คำพูดใดๆ สื่อสารกันอีก สนจับมือต้นไว้แบบนี้จนกระทั่งนั่งรถมาถึงบ้านพัก
ดูเหมือนสองคนนั้นจะยังไม่กลับมา คงจะกลับมาอีกทีก็หลังเลิกเรียนวันพรุ่งนี้นั่นเอง
"เดี๋ยวอาบน้ำแล้วเราไปหานายนะ" ต้นบอกขณะที่กำลังเดินขึ้นบันไดมาด้วยกัน
สนหันมามองอย่างแปลกใจ
"ไม่มีอะไร ให้เราไปหานายบ้าง นายมาห้องเราบ่อยแล้ว แค่อยากเปลี่ยนบรรยากาศเท่านั้นเอง"
ได้ฟังแล้วสนจึงพยักหน้าเข้าใจ
แต่ก่อนที่ต้นจะเดินเข้าไปในห้อง สนก็เรียกขึ้นมาว่า "ต้น..."
ต้นหันไปมองด้วยสายตามีคำถาม
สนเดินเข้ามาใกล้แล้วก็เอ่ยถามด้วยรอยยิ้มที่แฝงไปด้วยความสุขใจอย่างเต็มเปี่ยม ต้นไม่เคยเห็นสนมีสีหน้าแบบนี้บ่อยนัก "นายมีความสุขไหม...ที่ได้เป็นเพื่อนเรา" เสียงที่ถามดูเหมือนจะสั่นนิดๆ
"ไม่เห็นต้องถามเลย" ต้นพยักหน้าตอบพลางพูดไปด้วย แต่ก็กลัวว่าสนยังจะไม่พอใจ เขาจึงต้องบอกเป็นคำพูดตรงๆ ไปด้วย "มีความสุขสิ ขอบคุณนะ...ที่นายคอยเป็นเพื่อนที่ดีของเรามาตลอดเลย แล้วก็ขอบคุณด้วยที่วันนี้ตามไปดูแลเราทั้งวัน แถมยังทำของอร่อยๆ ให้กินอีก"
สนยิ้มอย่างพอใจ ต้นช่างรู้ใจเขาเสียจริงๆ "เราจะพยายามนะต้น เราจะทำให้นายมีความสุขที่ได้เป็นเพื่อนของเราตลอดไป หรือถ้าไม่เป็นเพื่อน เราก็จะทำให้นายมีความสุขมากขึ้นไปอีก"
อะไรของสนนะ ต้นฟังแล้วไม่เห็นเข้าใจเลย สนทำตัวแปลกจริงๆ แปลกจนต้นอยากจะถามไปตรงๆ เลยว่าสนกำลังคิดอะไรกับเขาอยู่หรือเปล่า
สนเห็นต้นเอียงคอมองอย่างสงสัยเลยขำเบาๆ "เรามีอะไรหลายอย่างที่อยากจะบอกนายนะ อืม...เอาเป็นว่า...เป็นเรื่องดีๆ ก็แล้วกัน แต่...ยังไม่ใช่ตอนนี้ แต่เราจะบอกนายอย่างแน่นอน เราสัญญา"
ต้นพยักหน้าพร้อมกับยิ้มอย่างมีความหวัง "เราจะรอฟังนะ"
สนกอดคอเพื่อนไว้แล้วก็พูดเบาๆ ว่า "รู้ไหมต้น...เราโชคดีที่สุดเลยที่ได้มาเจอนาย ถ้าเราไม่เจอนาย ชีวิตของเราก็ไม่รู้จะเป็นยังไงเหมือนกัน คงจะลำบากมากกว่านี้ มิตรภาพของเรา...มหัศจรรย์จริงๆ นะ"
ทุกครั้งที่ได้อยู่ในอ้อมแขนของสน ต้นรู้สึกอุ่นใจและปลอดภัยเสมอ ไม่ว่าวันนี้สนจะคิดกับเขาอย่างไร แม้ว่าสนจะยังไม่พูดให้ชัดเจน แต่ต้นก็รับรู้ได้ถึงความรู้สึกพิเศษนั้น ต้นคบกับสนมานานย่อมรู้ดีว่าสิ่งที่สนแสดงออกในช่วงหลังๆ มานี้ไม่เหมือนกับที่สนเคยทำมาตลอด
ไม่เป็นไรนะสน เรารอได้ พร้อมเมื่อไรนายก็บอกเราเมื่อนั้น มันคงไม่ใช่เรื่องง่ายนักหรอก นายคงต้องการเวลา เราเข้าใจ เรารอนายมานานขนาดนี้ จะรออีกสักหน่อยก็คงไม่เป็นไรหรอก ถึงนายจะยังไม่พูดอะไร แต่ตอนนี้...เราก็มีความสุขที่สุดในโลกแล้ว
จบตอนพิเศษ...