ตอนที่ 19: รักออกแบบได้เช้าวันใหม่ที่สดใสอีกวัน ท้องฟ้าแจ่มใสและมีแดดกำลังดี ช่วยให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่าและอยากทำงานไม่น้อย นิกกับปั้นจั่นกำลังสาละวนกับการชงกาแฟและปิ้งขนมปังอยู่ในครัวเพื่อจะกินรองท้องก่อนไปเรียนหนังสือ ไม่นานนักต้นกับสนก็เดินกอดคอกันลงมา นิกกับปั้นจั่นมองด้วยอาการทึ่งนิดๆ ในความสนิทสนมและ "ถึงเนื้อถึงตัว" ของเพื่อนสองคนนี้ แม้จะเห็นบ่อยๆ แต่ก็รู้สึกแปลกๆ ทุกครั้ง
“เดี๋ยวกูจะไปกับต้นก่อนละกัน วันนี้ต้นมีงานแต่เช้า” สนบอกเพื่อนอีกสองคนแล้วหันมาเตือนต้นให้รีบไป
“ไปต้น เดี๋ยวไม่ทัน” สนพูดพลางจูงแขนต้นเดินออกไป นิกกับปั้นจั่นมองตาค้างอย่างไม่เชื่อสายตา
“มึงเห็นอะไรไหมวะนิก” ปั้นจั่นถามโดยไม่ละสายตา มองต้นและสนที่เดินออกไปด้วยกัน
“เห็นดิ เดี๋ยวนี้สนมันถึงขั้นเดินจูงมือกับต้นเลยเหรอวะ เพื่อนที่ไหนกันวะจูงมือกันแบบนี้”
“ไม่ธรรมดานะสองคนนี้ ต้นมันเป็นเกย์อยู่แล้ว แต่ไอ้สนนี่สิ กูว่ามันน่าสงสัยจริงๆ ว่ะ แต่มันทำเป็นปากแข็ง”
“แต่บางที ไอ้สนมันก็คงแค่รักเพื่อนมันมั้ง" นิกไม่แน่ใจ บางทีเขาก็ไม่อยากปรักปรำสนเร็วเกินไปจากสิ่งที่เห็น "แต่ทำแบบนี้ไอ้ต้นมันคงคิดเตลิดไปไกลว่ะ สงสารมัน เกิดไอ้สนไม่ได้คิดอะไรมันก็จะเจ็บอีก” นิกครุ่นคิดถึงแผนที่เขากับปั้นจั่นช่วยกันคิด บางทีมันอาจจะช่วยอะไรต้นกับสนให้รู้ใจตัวเองบ้างก็ได้
“ถ้างั้นกูว่าเราเริ่มแผนของเราเร็วๆ ดีกว่า จะได้ช่วยไอ้ต้นมันได้ทันการณ์” ปั้นจั่นเสนอความเห็น
“ก็ดีเหมือนกัน กูละอยากจะเห็นจริงๆ ว่าไอ้สนมันจะทำหน้ายังไงถ้าเกิดมันรู้ว่ามีผู้ชายมาชอบไอ้ต้น”
“กูว่านะ มันอยู่ไม่สุขแน่ๆ” ปั้นจั่นหัวเราะเบาๆ พยายามจินตนาการถึงสีหน้าของสนเวลาที่หึงต้นขึ้นมา
"ถ้างั้นให้พี่ปิ๊กจัดการวันนี้เลย...ดีไหม"
"ดีๆ กูอยากเห็นเร็วๆ ว่ะ" ปั้นจั่นยิ้มย่อง แค่คิดก็สนุกพิลึกละ
------------------------------------------------------------------------------------------------
พอไปถึงมหาวิทยาลัย นิกกับปั้นจั่นก็ตรงไปหาพี่ปิ๊กทันทีเพื่อให้พี่ปิ๊กซึ่งแอบชอบต้นอยู่ดำเนินการตามแผนได้ แต่นิกกับปั้นจั่นได้กำชับพี่ปิ๊กว่าอย่าบอกใครอีกเป็นอันขาดว่าต้นเป็นเกย์ เพราะที่เขาสองคนเอามาบอกนี้ก็ถือว่าผิดสัญญากับต้นแล้ว แต่ที่ทำเช่นนี้เพราะต้องการช่วยต้นนั่นเอง พี่ปิ๊กก็รับคำเป็นอย่างดี
พี่ปิ๊กเป็นเกย์ที่ดูแมนหน่อย รูปร่างสูงโปร่งและหุ่นดีอย่างกับนายแบบ แต่งตัวเนี้ยบ ผมเผ้า กระเป๋า รองเท้าและเครื่องแต่งกายอื่นๆ ล้วนแต่ดูดีและแสดงฐานะของเจ้าของได้เป็นอย่างดี ถ้าไม่ติดว่าเขาชอบผู้ชายอย่างเปิดเผย ป่านนี้ก็คงมีสาวๆ มาชอบเยอะแล้วล่ะ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีหลงเข้ามาอยู่เรื่อยๆ พอให้พี่ปิ๊กรำคาญเล่นๆ
พอถึงเที่ยง แผนของนิกกับปั้นจั่นก็เริ่มขึ้น นิกกับปั้นจั่นโทรไปบอกต้นว่าจะไปกินข้าวด้วย แล้วจะพาเพื่อนคนหนึ่งซึ่งต้องการเข้าร่วมชมรมของต้นไปให้รู้จัก ต้นก็ไม่ได้ว่าอะไรและยินดีที่จะมีสมาชิกของชมรมเพิ่มขึ้น
พอถึงเวลา นิกกับปั้นจั่นพาพี่ปิ๊กเดินมาหาโต๊ะที่ต้นกำลังนั่งอยู่ที่โรงอาหาร มีข้าววางอยู่ 2 จาน เข้าใจว่าอีกจานหนึ่งน่าจะเป็นของสนซึ่งไม่ได้นั่งอยู่ตรงนั้น
“สนล่ะ” ปั้นจั่นถามแล้วค่อยๆ พากันนั่งลงที่โต๊ะที่ต้นนั่งอยู่
“ไปซื้อน้ำ เดี๋ยวมา” ต้นบอกพลางหันไปมองพี่ปิ๊กซึ่งต้นเดาเอาว่าน่าจะเป็นคนที่ต้องการมาสมัครเข้าชมรมของเขา
“นี่พี่ปิ๊กนะ รุ่นพี่ของพวกกูเอง เขาอยากมาสมัครเป็นสมาชิกชมรมจิตอาสาเพื่อสังคมของมึงน่ะ” นิกบอกเมื่อเห็นต้นมองพี่ปิ๊กอย่างสงสัย
“หวัดดีครับ” ต้นหันไปทักพี่ปิ๊กพลางยิ้มให้
“หวัดดีครับ พี่ปิ๊กได้ยินชื่อน้องต้นมานานแล้วล่ะ เคยเห็นบ่อยๆ พอมาเจอตัวจริงใกล้ๆ ไม่คิดว่าจะหล่อขนาดนี้” พี่ปิ๊กชม ต้นยิ้มเขินนิดๆ แม้ว่าปกติเขาไม่ค่อยเขินนักถ้ามีคนมาชมว่าเขาหน้าตาดีเพราะต้นไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องหน้าตาของคนเท่าไร
“ขอบคุณครับ พี่สนใจจะเข้าชมรมของผมเหรอครับ” ต้นถามพลางยิ้ม
“ครับ พอดีพอมีเวลาว่างอยู่ครับ เผื่อคนอย่างผมจะพอช่วยทำประโยชน์อะไรสังคมได้บ้าง ตอนนี้มีกิจกรรมอะไรให้ทำหรือเปล่า” ปิ๊กพูดไปยิ้มไป แถมยังคอยจ้องหน้าต้นแทบจะไม่กะพริบตา คนอะไรนะ ยิ่งดูยิ่งน่ารัก หน้าต้นจะออกหวานนิดๆ ไม่ว่าจะยิ้ม หัวเราะหรือนั่งเฉยๆ ก็ดูดีไปหมด
“อ๋อ...วันอาทิตย์นี้เราจะไปปลูกป่าชายเลนกันครับ ถ้าพี่สมัครวันนี้ก็น่าจะไปได้ทันครับ” ต้นแนะนำ
“ดีเลย งั้นพี่จะไปสมัครวันนี้แหละ แล้วพี่จะเอาใบสมัครได้ที่ไหนล่ะ ต้องมีเอกสารอะไรหรือเปล่า” พี่ปิ๊กถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
“อ๋อ...ใช้บัตรนักศึกษาอย่างเดียวครับ ส่วนใบสมัครเดี๋ยวไปเอาที่คณะผมได้ครับ วันนี้ผมจะกลับค่ำๆ หน่อย พี่ไปเอาที่ผมได้เลยครับ เดี๋ยวจดเบอร์ให้ เผื่อหาไม่เจอ” ต้นบอกแล้วก็หยิบเอากระดาษกับปากกาจากกระเป๋ามาจดเบอร์โทรศัพท์ให้พี่ปิ๊ก จดเสร็จแล้วก็ส่งให้
"ขอบคุณครับ" พี่ปิ๊กรับกระดาษที่จดเบอร์โทรของต้นไว้ แต่ก็แอบๆ จับมือต้นไปด้วย สายตาเขาเป็นประกายจนต้นรู้สึกสงสัยอะไรบางอย่าง
สนกลับมาพอดีพร้อมกับน้ำอัดลมสองแก้ว สนนั่งลงข้างๆ ต้นแล้วก็ส่งแก้วน้ำให้ต้น สายตาเขามองไปที่คนที่มาใหม่ด้วยความสงสัย นิกเหมือนจะรู้ทันก็รีบชิงบอกว่า
“นี่พี่ปิ๊กนะ รุ่นพี่กูเองแหละ พอดีพี่เขาอยากจะมาสมัครเป็นแฟน เอ๊ยไม่ใช่ สมัครเข้าชมรมของต้น ก็เลยพามารู้จักกัน” นิกจงใจแกล้งพูดผิด สนกับต้นก็มองหน้ากันด้วยความสงสัยเล็กน้อย
“อ๋อ...ยินดีที่ได้รู้จักครับ” สนหันไปพูดกับพี่ปิ๊ก
“เช่นกันครับ เป็นเพื่อนกันเหรอ โห...หล่อทั้งสองคนเลย” พี่ปิ๊กชมพลางใช้สายตามองทั้งต้นและสนด้วยสายตากะลิ้มกะเหลี่ย
“อ๋อครับ ผมชื่อสนนะครับ เป็นเพื่อนต้นครับ เป็นเพื่อนรักกันด้วยครับ” สนพูดพลางเอามือไปโอบไหล่ต้นไว้ เขารู้สึกไม่ค่อยถูกชะตากับผู้ชายคนนี้โดยไม่รู้สาเหตุ
นิกเห็นแล้วก็กระซิบเบาๆ กับปั้นจั่นว่า "ไม่ทันไรมันก็หวงก้างซะแล้ว"
“เดี๋ยวพวกกูพาพี่เขาไปซื้อข้าวก่อน เดี๋ยวมานะ” ปั้นจั่นบอก ต้นพยักหน้ารับรู้
พอสามคนนั้นเดินพ้นระยะที่จะได้ยินเสียง สนก็ชวนต้นคุยทันที
“เรารู้สึกไม่ค่อยถูกชะตากับพี่ปิ๊กเลยว่ะ ท่าทางแปลกๆ แต่งตัวก็ดูเหมือนไม่ใช่ผู้ชาย ไม่รู้เป็นเกย์หรือเปล่า แต่อย่ามาเกาะแกะกับเราก็แล้วกัน ยิ่งไม่ชอบอยู่ด้วย” สนว่า
ต้นหลบตาต่ำเมื่อเห็นเพื่อนว่าพี่ปิ๊กแบบนั้น เพราะมันก็สะเทือนถึงเขาด้วย ถึงเขาจะไม่ได้แต่งตัวหรือมีท่าทางเหมือนเกย์มากนัก แต่เขาก็เป็นเกย์คนหนึ่งเหมือนกัน พอสนหันมาเห็นเพื่อนก็ทำให้เขารู้ตัวว่าได้เผลอพูดกระทบกระทั่งเพื่อนไปเสียแล้ว
“เฮ้ยต้น เราขอโทษ ต่อไปเราจะไม่พูดอย่างนี้อีกแล้ว” สนบอกอย่างรู้สึกผิด
ต้นได้แต่ยิ้มนิดๆ แต่ไม่พูดอะไร บางครั้งเขาก็นึกน้อยใจเหมือนกันว่าคนที่เป็นเกย์มักถูกถากถางเหยียดหยามด้วยการกระทำและคำพูดหลายอย่างที่ไม่ยุติธรรมของคนในสังคม ทั้งที่ตั้งใจและไม่ได้ตั้งใจ แต่ก็ดูเหมือนว่าคนที่ถูกมองเป็นส่วนน้อยและผิดปกติจะทำอะไรไม่ได้มากนัก ได้แต่ก้มหน้ารับกรรมกันต่อไป แต่ก็มีคนที่ทนไม่ไหวแล้วลุกขึ้นมาเรียกร้องความเป็นธรรมจากสังคมบ้าง
พอนิกกับปั้นจั่นพาพี่ปิ๊กกลับมานั่งกินข้าวด้วย ต้นกับสนก็ดูเหมือนจะไม่ค่อยได้คุยกันเท่าไรนักเพราะพี่ปิ๊กชวนต้นคุยตลอด สนดูเหมือนจะไม่พอใจนักเพราะลักษณะการพูดหรือสีหน้าท่าทางของพี่ปิ๊กนั้นดูไม่น่าไว้วางใจ สนรู้สึกว่าพี่ปิ๊กให้ความสนใจต้นมากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะสายตาของพี่ปิ๊กที่มองต้นนั้นมีความหมายอะไรบางอย่างที่ที่ทำให้สนไม่ค่อยสบายใจ
------------------------------------------------------------------------------------------------
พอรถบัสมาส่งนักศึกษาถึงที่ศูนย์อนุรักษ์ป่าชายเลนแล้ว เจ้าหน้าที่ก็ออกมาต้อนรับนักศึกษาที่จะมาทำกิจกรรมปลูกป่าชายเลนกัน ก่อนที่จะเริ่มปลูกป่าชายเลนนั้น เจ้าหน้าที่ก็มีกิจกรรมกลุ่มสัมพันธ์ให้นักศึกษาทำก่อน พี่ปิ๊กคอยมาป้วนเปี้ยนวนเวียนอยู่กับต้นแทบตลอดเวลาจนต้นเริ่มรู้สึกได้แล้วว่าผู้ชายคนนี้กำลังคิดอะไรบางอย่างกับเขา ที่ผ่านมาต้นไม่เคยถูกผู้ชายคนไหนจีบเลย เคยมีแต่ผู้หญิงมาชอบ เขาก็เลยรู้สึกแปลกๆ อยู่เหมือนกัน
พอทำกิจกรรมกลุ่มสัมพันธ์จบ เจ้าหน้าที่ก็มีวิดีโอเกี่ยวกับระบบนิเวศน์ชายฝั่งให้ดูก่อน พอดูจบแล้วจึงพานักศึกษานั่งเรือออกไปยังบริเวณที่ต้องการปลูกป่าชายเลน เจ้าหน้าที่เตรียมชุดลุยโคลนให้คนละชุด นักศึกษาที่มาส่วนมากจะแต่งชุดที่ไม่หวงมากเพราะถ้าลุยโคลนแล้วอาจจะไม่สามารถนำกลับมาใส่ได้อีก ทุกคนต้องสวมถุงเท้ายาวถึงเข่าเพื่อไม่ให้เปลือกหอยบาดขา ใส่หมวกกันแดด รวมทั้งจะต้องมีอุปกรณ์อาบน้ำ ผ้าเช็ดตัวและสบู่ติดมาด้วยเพื่อจะได้อาบน้ำทำความสะอาดร่างกายหลังจากเสร็จกิจกรรมแล้ว
แน่นอนไม่ว่าต้นจะทำกิจกรรมอะไร พี่ปิ๊กก็จะคอยมาอยู่ใกล้ๆ โดยมีนิกกับปั้นจั่นคอยกันสนไม่ให้ได้อยู่ใกล้กับต้น แต่ก็อยู่ในระยะที่พอมองเห็นได้ ทำให้สนรู้สึกหงุดหงิดมากพอสมควรเพราะเขาแทบจะไม่ได้คุยหรืออยู่ใกล้กับต้นเลย จะช่วยต้นทำอะไรพี่ปิ๊กก็มาคอยกันตลอด
ในขณะที่นักศึกษากำลังช่วยกันปลูกป่าชายเลนอยู่นั้น สนก็คอยหันไปมองต้นและพี่ปิ๊กบ่อยๆ ส่วนนิกกับปั้นจั่นก็คอยเติมเชื้อไฟอยู่ตลอด
“กูว่าพี่ปิ๊กเขาต้องชอบไอ้ต้นแน่ๆ เลยว่ะ” ปั้นจั่นเริ่มก่อน
สนหันมามองหน้าเขาด้วยสายตาฉงน “มึงพูดอะไรของมึงวะ”
“อ้าว!!! มึงไม่รู้หรือไง พี่ปิ๊กก็ออกจะเปิดเผยขนาดนั้น ใครๆ ก็รู้ว่าพี่เขาเป็นเกย์ ดูสิ ตามต้นไม่ห่างเลย แสดงว่าต้องคิดอะไรกับต้นแน่ๆ ว่าไหม” ปั้นจั่นหันไปยิ้มมีเลศนัยกับนิก ปลาเริ่มจะกินเหยื่อแล้ว
“หมายความว่าไง” สนถามเสียงห้วน
“โห...กูก็บอกซะขนาดนี้ยังไม่เข้าใจอีก กูหมายความว่าพี่ปิ๊กต้องชอบไอ้ต้นแน่ๆ ชอบ...ที่แปลว่าอยากเป็นแฟน เข้าใจไหม มึงดูสิ พี่ปิ๊กตามคอยดูแลต้นไม่ห่างขนาดนั้น ถ้าใครดูไม่ออกว่าพี่ปิ๊กชอบต้นก็โง่แล้ว” ปั้นจั่นพูดพลางคอยลอบสังเกตอาการของสนที่ไม่สบอารมณ์มาตั้งแต่ออกเดินทางจากกรุงเทพแล้ว อยากปากแข็งดีนัก จะแกล้งซะให้เข็ดเลย
“พวกมึงจะบ้าหรือไง ผู้ชายกับผู้ชายมันจะชอบกันได้ยังไงวะ” สนแย้ง เขายังไม่อยากเชื่ออยู่ดีว่าพี่ปิ๊กจะชอบต้นจริงๆ
ปั้นจั่นเดินมาใกล้ๆ สนแล้วกระซิบเบาๆ ว่า “มึงลืมไปหรือไงว่าไอ้ต้นมันเป็นเกย์ เกย์ก็ต้องชอบผู้ชายด้วยกัน ถ้าชอบผู้หญิงสิถึงจะเรียกว่าเแปลก”
สนนิ่งเงียบและเริ่มคิดตาม แต่สุดท้ายก็หันมาสนใจการปลูกป่าชายเลนต่อเพราะไม่อยากคิดฟุ้งซ่าน แต่ก็ยังคงแอบมองต้นบ่อยๆ ด้วยความเป็นห่วง มีอยู่ตอนหนึ่งที่สนหันไปเห็นพี่ปิ๊กเอาน้ำบรรจุในแก้วพลาสติกมาให้ต้น พี่ปิ๊กเอาหลอดเจาะกระแทกฝาก่อนที่จะส่งให้ต้น แต่ต้นมือเปื้อนอยู่จึงจับหลอดไม่ได้ พี่ปิ๊กเลยถือแก้วให้ต้นดูดกินน้ำแทน
“ไอ้ต้นมันคงจะมีแฟนก็คราวนี้แหละเว้ย” นิกแกล้งพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นพอให้สนได้ยิน สนเริ่มหน้านิ่วคิ้วขมวดและไม่ค่อยพูดค่อยจามากขึ้น เขาก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมเขาถึงรู้สึกไม่ค่อยพอใจนักที่เห็นพี่ปิ๊กมาเอาใจต้นแบบนั้น แล้วก็ยิ่งรู้สึกไม่ชอบพี่ปิ๊กมากยิ่งขึ้นที่มาแย่งหน้าที่เขาทำไปจนหมด
พอพักเที่ยง นักศึกษาก็เริ่มทยอยกันขึ้นมากินข้าวกล่องที่เจ้าหน้าที่เตรียมไว้ให้ สนเข้าไปช่วยเจ้าหน้าที่แจกกล่องข้าวให้เพื่อนๆ ด้วย พอหมดแล้วเขาก็ถือกล่องข้าวเดินไปตามหาต้นเพื่อจะไปนั่งกินข้าวด้วยกัน แต่ก็เห็นต้นนั่งกินข้าวอยู่กับพี่ปิ๊ก สนยืนเคว้งไม่รู้ว่าจะไปทางไหนดี จะเข้าไปหาเพื่อนก็รู้สึกไม่ค่อยสะดวกใจเพราะดูเหมือนเขาจะกลายเป็นส่วนเกิน แต่สุดท้ายเขาก็ตัดสินใจเดินไปหาต้นพร้อมกับแผนอะไรบางอย่าง ต้นกับพี่ปิ๊กหันมายิ้มเมื่อเห็นสนเดินมา
“ไอ้นิกกับปั้นจั่นเรียกให้พี่ไปหาครับ” สนบอกพี่ปิ๊กพลางพยักพเยิดไปทางที่นิกกับปั้นจั่นนั่งกินข้าวกันอยู่ พี่ปิ๊กมองตามพลางทำหน้าสงสัย
“เหรอครับ เดี๋ยวพี่มานะต้น พี่ฝากกล่องข้าวด้วยเดี๋ยวพี่มากินต่อ” พี่ปิ๊กบอกพลางส่งกล่องข้าวให้ต้น ต้นรับมาแล้วก็หาที่วางไว้ข้างๆ ตัว
พอพี่ปิ๊กไป สนก็มานั่งข้างๆ ต้นแทน “เป็นไงต้น เหนื่อยหรือเปล่า” สนยิ้มดีใจ ในที่สุดเขาก็ได้เข้าใกล้ต้นเสียที ไอ้สองคนนั้นมันต้องวางแผนแกล้งอะไรเขาแน่ๆ เลย พอจะเข้าใกล้ต้นทีไรก็จะถูกพวกมันกีดกันตลอด
ต้นยิ้มแล้วส่ายหน้า “ไม่หรอก สนุกดี เราชอบ พี่ปิ๊กแกก็ช่วยดีนะ แต่คุยเก่งชะมัดเลย เราคุยแทบไม่ทันแน่ะ” ต้นพูดพลางขำ
สนเริ่มนิ่วหน้าเมื่อเห็นเพื่อนเอ่ยถึงพี่คนนั้นซึ่งเขาชักเริ่มจะไม่ชอบหน้ามากขึ้นทุกทีๆ “ดูเหมือนต้นจะชอบพี่เขามากนะ” สนพูดเหมือนแค่นเสียง
ต้นหันมามองเพื่อนด้วยความแปลกใจกับวิธีการพูดแบบนั้นซึ่งต้นมักไม่ค่อยเห็นสนทำเท่าไรนัก “อ๋อ...พี่เขาก็อัธยาศัยดีนะ เราว่าพี่เขาเต็มที่ดี ขนาดงานแรกนะเนี่ย เปื้อนแค่ไหนพี่เขาก็ไม่บ่นสักคำ”
น้ำเสียงและสีหน้าชื่นชมนั้นทำให้สนหน้าเสียไปเหมือนกัน “เหรอ...เขามาคุยอะไรกับนายมั่งล่ะ” สนซักด้วยความอยากรู้ นึกถึงหน้าไอ้หมอนั่นทีไรสนก็รู้สึกหงุดหงิดไม่ชอบใจ
“ก็หลายเรื่อง ส่วนมากก็คุยเรื่องเรียน แล้วพี่เขาก็ถามว่าชมรมของเราทำงานอาสาสมัครอะไรบ้าง หาเงินยังไง ทำกิจกรรมบ่อยไหม อะไรทำนองนี้แหละ” ต้นบอก ในใจก็สงสัยเหมือนกันว่าสนทำไมถึงอยากรู้ว่าพี่ปิ๊กมาคุยอะไรกับเขาบ้าง
“เหรอ แล้ว...” สนหยุดคิด เขาอยากจะถามต้นว่าชอบพี่ปิ๊กหรือเปล่าแต่ก็ไม่รู้จะถามอย่างไรดี
“อะไรเหรอ” ต้นสงสัย
“อ๋อ... เปล่า ไม่มีอะไรหรอก กินข้าวดีกว่า” สนบอกพลางหันมาตักข้าวใส่ปากกิน แต่ต้นก็รู้สึกได้ว่าสนดูแปลกๆ ไป
ยังไม่ทันไรพี่ปิ๊กก็เดินกลับมาเพราะจริงๆ แล้วนิกกับปั้นจั่นไม่ได้เรียกให้ไปหาเลย ต้นแปลกใจจึงร้องถาม
“อ้าวพี่ คุยกันเสร็จแล้วเหรอครับ เห็นเพิ่งไปเมื่อกี้เอง”
“สองคนนั้นเขาบอกว่าไม่ได้เรียกพี่นี่นา” พี่ปิ๊กร้องตอบ ต้นจึงหันมามองสนอย่างสงสัย สนหน้าถอดสีทันทีเพราะที่เขาบอกอย่างนั้นเพียงแค่ต้องการให้พี่ปิ๊กไปที่อื่น แล้วเขาจะได้มานั่งกินข้าวกับเพื่อนนั่นเอง
“อ้าว แล้วเมื่อกี้นายบอกพี่เขาไม่ใช่เหรอว่าไอ้สองคนนั้นเรียกพี่เขา” ต้นหันมาถามสนด้วยสีหน้างงๆ
สนทำหน้าเลิ่กลั่ก พยายามคิดหาทางแก้ตัว พี่ปิ๊กก็มองหน้าเขาด้วยความสงสัยเช่นกัน “อ๋อ...พอดีได้ยินผมได้ยินพวกมันพูดถึงพี่ครับ สงสัยว่าผมอาจจะเข้าใจผิดก็ได้ว่าพวกมันอยากคุยด้วย โทษทีครับ” สนแก้ตัวโดยที่เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันฟังดูสมเหตุสมผลหรือไม่
“อ๋อ...เหรอ...” พี่ปิ๊กร้องอ๋อเบาๆ แม้ว่าจะสงสัยแต่ก็ไม่คิดว่ามีประโยชน์ที่จะถามอะไรต่อ เขายืนหันรีหันขวางเพราะสนมานั่งแทนที่เขาเสียแล้ว ต้นเองก็เริ่มทำตัวไม่ถูก จะบอกให้เพื่อนไปก็คงไม่ได้ จะให้พี่ปิ๊กมานั่งกินข้าวด้วยก็รู้สึกว่าบรรยากาศมันดูแปลกๆ ต้นพอจับความรู้สึกได้ว่าสนไม่ค่อยชอบพี่ปิ๊กเท่าไรนัก ต้นสังเกตเห็นตั้งแต่วันแรกที่พี่ปิ๊กมานั่งกินข้าวเที่ยงด้วยเมื่อวันนั้นแล้ว
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวพี่ไปกินกับสองคนนั้นก็ได้ ต้นคุยกับเพื่อนเถอะ” พี่ปิ๊กว่าพลางเดินไปหยิบกล่องข้าวของตนเองแล้วก็เดินจากไป เห็นสายตาของสนที่มองเขาแล้วพี่ปิ๊กก็รู้สึกถึงความไม่เป็นมิตรทันที พอพี่ปิ๊กไปแล้ว สีหน้าของสนจึงกลับมายิ้มแย้มตามเดิม
"อิ่มหรือเปล่าต้น เดี๋ยวเราไปเอามาให้อีก เอาไหม" สนอยากเอาใจเพื่อนบ้างหลังจากที่ปล่อยให้พี่ปิ๊กดูแลต้นแทนเขาอยู่เกือบทั้งวัน
"ไม่ดีกว่า เอาไว้ให้คนอื่นๆ กินเผื่อใครไม่อิ่ม เรากินแค่นี้ก็พอแล้วล่ะ" ต้นบอก เขาอยากจะถามอะไรสนบางอย่าง แต่ก็ไม่รู้จะเริ่มอย่างไร พฤติกรรมของสนเมื่อสักครู่นี้ดูแปลกๆ ชอบกล ทำไมสนต้องโกหกพี่ปิ๊กแบบนั้น...ปกติสนก็ไม่เคยมีนิสัยชอบโกหกนี่นา
"แล้วนายได้น้ำหรือยังล่ะ เอ...ยังไม่เห็นมีนี่นา รออยู่นี่นะ เดี๋ยวเราไปเอามาให้" สนบอกพลางลุกขึ้น เหมือนจะนึกอะไรได้ ก่อนเดินออกไปสนหันมากำชับต้นว่า "ห้ามให้ใครมานั่งแทนที่เรานะต้น"
ต้นเลิกคิ้วและมองหน้าเพื่อนด้วยความสงสัย สนดูแปลกไปจริงๆ ต้นพยายามนึกว่าเคยเห็นสนเป็นแบบนี้ตอนไหนบ้าง ก็คลับคล้ายคลับคลาว่าต้นจะเคยเห็นสนเป็นแบบนี้อยู่เหมือนกัน
สนเหมือนกลัวว่าต้นจะถามอะไรก็เลยรีบวิ่งออกไปก่อน สักพักก็กลับมาพร้อมกับน้ำดื่มสองขวดพร้อมกับยิ้มแฉ่งมาแต่ไกลเชียว
"น้ำเกือบหมดแน่ะ ดีนะที่เราไปทัน" สนส่งขวดน้ำให้แล้วก็นั่งลงที่เดิมข้างๆ ต้น เนื้อตัวพวกเขาแต่ละคนดูมอมแมมไปบ้างแต่ก็ไม่สำคัญอะไรนัก มาปลูกป่าชายเลนก็คงต้องเปื้อนบ้างเป็นธรรมดา
ต้นรับน้ำมาแล้วก็ยิ้ม พอนั่งทบทวนไปสักพักต้นก็พอจะรู้แล้วล่ะว่าสนคงจะหวงเขานั่นเอง สนเคยเป็นแบบนี้อยู่บ้างเวลาที่มีคนอื่นๆ มาสนิทกับต้น ตอนแรกต้นก็ไม่ค่อยเข้าใจนักว่าสนเป็นอะไร แต่เมื่อสังเกตดูอาการดีๆ ก็จะพบว่าสนกลัวต้นจะสนิทกับคนอื่นจนลืมเขานั่นเอง เห็นแบบนี้แล้วต้นก็อดขำในใจไม่ได้
"ตอนขากลับ ให้เรานั่งกับนายนะ อย่าให้คนอื่นมานั่งล่ะ" อยู่ดีๆ สนก็โพล่งเรื่องนี้ขึ้นมาหลังจากที่กลับมากินข้าวต่อได้สักพัก เล่นเอาต้นนึกไม่ถึงเหมือนกัน
ต้นพยักหน้าตกลงอย่างงงๆ แต่ก็ไม่เป็นไรหรอก ต้นก็อยากนั่งคุยกับสนเหมือนกัน วันนี้เขาคุยกับคนอื่นมาทั้งวันแล้ว อยากคุยกับสนบ้าง อยู่กับสนแล้วต้นก็มีความสุขดี
"อ้อ...แล้วก็ตอนไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า นายก็ต้องไปกับเรานะ"
"มีอะไรหรือเปล่าสน" ต้นถามด้วยความสงสัย
สนเริ่มอึกอักและครุ่นคิดหาเหตุผลที่เขาคิดว่าจะพออธิบายให้ต้นเข้าใจได้ "ก็...ไอ้สองคนนั้นมันบอกว่า...พี่ปิ๊กกำลังจีบนายอยู่ เราก็เลยไม่อยากให้นายไปกับเขา เกิดเขาทำอะไรนายขึ้นมาล่ะ นายจะสู้เขาไหวหรือเปล่า เขาตัวโตกว่านายนะ"
"อ๋อ..." ต้นลากเสียงยาว เขาไม่แปลกใจนักที่สนบอกว่าพี่ปิ๊กกำลังจีบเขาอยู่ ต้นรู้สึกได้อยู่เหมือนกัน แต่สิ่งที่ทำให้ต้นแปลกใจมากกว่าก็คือสิ่งที่สนกำลังเป็นอยู่ในตอนนี้ต่างหาก
"เราเป็นห่วงนายนะต้น นายยังไม่รู้จักเขาดีพอ อย่าเพิ่งไปไว้ใจเขานะ"
"เฮ้ย ยังหรอก เรายังไม่ได้คิดอะไรกับพี่เขาเลย อีกอย่าง...มีคนตั้งเยอะตั้งแยะ เขาไม่กล้าทำอะไรเราหรอก" ต้นรีบแย้งก่อนที่สนจะกังวลไปกันใหญ่
"ก็นั่นแหละ นายรับปากเราก่อนสิว่าตอนไปอาบน้ำนายจะไปกับเรา ไม่ไปกับเขา"
"อือๆ" เห็นสนดึงดันจะให้เขารับปากให้ได้ต้นก็เลยต้องยอม แต่ก็แอบดีใจที่สนเป็นห่วงเขามากขนาดนี้
หลังจากกินข้าวเสร็จแล้ว นักศึกษาก็กลับลงมาปลูกป่ากันต่อ นิกกับปั้นจั่นเรียกสนให้ไปช่วยอีกเช่นเดิมตามแผนที่วางไว้ สนจำใจต้องไปเพราะไอ้สองคนนั้นเป็นคนจัดการเรื่องแบ่งกลุ่ม แล้วยังไงไม่รู้เขาก็ไม่ได้อยู่กลุ่มเดียวกับต้น ส่วนพี่ปิ๊กก็ยังคงเวียนอยู่ใกล้ๆ ต้นไม่ห่างเหมือนตอนเช้า ทำให้สนเกิดอาการ "เซ็ง" อย่างรุนแรงจนแทบไม่อยากจะทำอะไร ปลูกป่าไปหงุดหงิดไป เขาไม่รู้หรอกว่ามีนิกกับปั้นจั่นคอยสังเกตพฤติกรรมเขาอยู่ตลอดเวลา
พอปลูกเสร็จแล้วเจ้าหน้าที่ก็ให้นักศึกษาไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า มีห้องสำหรับอาบน้ำแยกชายหญิงไว้อยู่จำนวนหนึ่ง นักศึกษาที่มาเป็นอาสาสมัครจึงต่างทยอยแยกย้ายกันไปอาบน้ำ ในฐานะที่เป็นผู้นำ ต้นจึงต้องเสียสละให้คนอื่นๆ อาบก่อนแล้วเขาค่อยอาบเป็นคนสุดท้าย ช่วงที่รอต้นก็มานั่งคุยกันกับเพื่อนๆ ที่เหลือ แน่นอนพี่ปิ๊กก็มานั่งด้วย ส่วนสนนั้นก็นั่งคุยกันอยู่อีกกลุ่มไม่ไกลนัก แต่ก็คอยแอบชำเลืองมองต้นโดยตลอด
"ไปกันเถอะต้น เขาอาบกันหมดแล้ว" พี่ปิ๊กเอ่ยปากชวนเมื่อเห็นว่าจำนวนคนที่ไปอาบน้ำเริ่มซาลง
สนที่คอยจับตาดูอยู่ก็รีบเดินมาหาต้นทันที "ต้น ไปกับเรา"
สนจับมือต้นแล้วก็หันไปขึงตาใส่พี่ปิ๊ก ถึงจะเป็นรุ่นพี่แต่พี่ปิ๊กก็รู้ว่าเขาคงไม่สามารถสู้แรงสนได้แน่ๆ ดูท่าทางสนจะดุและหวงเพื่อนเอาเรื่องทีเดียว แน่นอนเขาคงไม่กล้าไปต่อล้อต่อเถียงอะไรด้วย จึงได้แต่ปล่อยให้ต้นเดินตามสนไป
"เราบอกนายแล้วใช่ไหมต้นว่าให้มากับเรา" น้ำเสียงของสนฟังดูไม่พอใจจนสัมผัสได้
"เราขอโทษ แต่เรายังไม่ได้ตกลงกับพี่เขาเลยนะ" ต้นแก้ตัว เห็นสนไม่พอใจแล้วต้นก็หน้าเสีย ตั้งแต่คบกันมาสนยังไม่เคยดุต้นแบบนี้เลย
สนดูเหมือนเพิ่งจะรู้ตัวว่าเขาไม่ควรดุต้นเพราะต้นเป็นคนถูกชวน ไม่ใช่ตัวตั้งตัวตีเสียหน่อย "ขอโทษต้น" สนปล่อยมือเพื่อนออกหลังจากที่รู้ตัวว่าเขาจูงมือต้นอยู่ จะว่าไปแล้วสนก็แปลกใจตัวเองอยู่เหมือนกันที่เขาช่างหงุดหงิดกับเรื่องนี้ได้มากถึงขนาดนี้
"เราเป็นห่วงนายมากไปหน่อย" สนเสียงอ่อย
"ไม่เป็นไร เรารู้" ต้นค่อยๆ ยิ้ม สนจึงค่อยโล่งใจขึ้นมาบ้าง
"ไปกันเถอะ จะได้กลับถึงกรุงเทพไวๆ" ต้นเตือนแล้วก็ออกเดินนำ
หลังจากอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้ว คนที่ตามติดต้นแจก็กลายเป็นสนแทนเสียอย่างนั้น สนคอยช่วยต้นเช็คความเรียบร้อยต่างๆ ก่อนกลับ คอยช่วยตามและดูนักศึกษาจนมั่นใจว่าขึ้นรถครบกันหมดทุกคนแล้ว สนจึงพาต้นขึ้นไปนั่งบนรถ แน่นอนว่าด้วยวิธีนี้ยังไงสนก็ต้องได้นั่งกับต้นอยู่แล้ว
นิกกับปั้นจั่นที่นั่งอยู่บนรถอยู่แล้วเฝ้าคอยสังเกตสนอยู่ตลอด ดูเหมือนสองคนนี้จะเริ่มมั่นใจมากขึ้นกับสิ่งที่เห็น แต่ก็นั่นแหละ สนคงไม่ยอมรับเรื่องนี้ง่ายๆ หรอก
"มึงดูนะนิก ไอ้คนปากแข็ง เห็นไหมว่ามันหวงไอ้ต้นสุดฤทธิ์เลย แต่พอถามก็บอกว่าไม่ได้คิดอะไร" ปั่นจั่นเหน็บแนมพลางส่ายหน้าอย่างเอือมระอา
"สงสัยต้องเล่นให้หนักกว่าเดิม เอาให้มันคลั่งไปเลยดีไหม" นิกชักนึกสนุก
"เฮ้ยๆ มึงต้องถามพี่ปิ๊กด้วยนะเว้ยว่าเขาสนุกกับมึงไหม เห็นไหมพี่เขานั่งหน้าจ๋อยอยู่" ปั้นจั่นปราม
นิกหันไปมองตามก็เห็นพี่ปิ๊กนั่งอยู่หลังสุดกับนักศึกษากลุ่มหนึ่งที่เขาคงไม่ค่อยรู้จัก หน้าตาเขาดูเศร้าๆ อยู่เหมือนกันตั้งแต่สนเริ่มมากันต้นออกไป แต่ปิ๊กก็คงไม่ยอมง่ายๆ หรอก ตราบใดที่ยังไม่ได้พยายามอย่างเต็มที่ก็คงจะยอมแพ้ไม่ได้ เขามีอะไรดีๆ ตั้งหลายอย่างที่คงจะทำให้ต้นชอบเขาได้ไม่ยากนัก แต่วันนี้คงต้องยอมสนไปก่อน ตอนนี้มีนิกกับปั้นจั่นคอยร่วมมือกับเขาอยู่แล้วก็น่าจะช่วยทำให้อะไรๆ มันง่ายขึ้น แต่สิ่งที่ปิ๊กคิดจะง่ายขนาดนั้นหรือเปล่า เขาประเมินความผูกพันของต้นกับสนน้อยเกินไปไหม เดี๋ยวก็จะได้รู้กัน...