......
.....
....
...
..
.
เขาเดินออกมาจากลิฟท์ สายตามองจ้องประตูที่เพิ่งปิดไป...เขาระบายลมหายใจทีหนึ่ง แล้วเดินต่อไปยังแผนกของตัวเอง
เขาเดินไปที่เก้าอี้ และกำลังจะนั่ง ใครก็ไม่รู้มาจับบ่าเขาไว้
......
.....
....
...
..
.
“ผลไม้กูล่ะ” เพื่อนร่วมงานถามเขา
“เอ้อ... กูลืมว่ะ เดี๋ยวกูลงไปอีกที” เขารีบบอกเพื่อนและรีบเดินออกไปจากโต๊ะ
“เฮ้ย! ลืมก็ช่างมันมึง” เพื่อนร้องบอกเขาแบบไม่ถือสา....ได้ก็ช่างไม่ได้ก็ไม่เป็นไร
“ไม่เป็นไร กูก็ลืมซื้อของตัวเองว่ะ เดี๋ยวกูมาๆ” เขาบอกเพื่อนและวิ่งเข้าลิฟท์เพื่อลงไปชั้นล่าง
......
.....
....
...
..
.
เขาเดินไปที่รถเข็นผลไม้ สั่งของเพื่อนและของตัวเองกับพ่อค้า
เขาหันไปมองทางอื่น เพื่อหาอะไรดูเล่น.... เขามองไปทางลานจอดรถของตึกที่ทำงานของตัวเอง
ตรงข้างๆ ทางออก...
เขามองเห็นเพื่อนชั้น 12 กำลังยืนกอดอกหน้านิ่งเครียด โดยมีคนสูงโย่งยืนคอตกอยู่ตรงหน้าของคนที่ตัวเองเรียกว่า “เมีย”
จู่ๆ คนที่คอตกก็เงยหน้าขึ้นมา เขาพูดอะไรสักอย่างยาวเหยียด
คนที่ฟังอยู่เอามือโบกไปทีหัวป๊าบหนึ่งและพูดสั้นๆ กับอีกฝ่าย
คนที่โดนโบกกุมหัวและยังไม่วายเถียงต่อ...แต่ไม่ทันไรก็โดนโบกอีก
เพื่อนชั้น 12 ยืนพิงมอเตอไซด์คันใหญ่และกอดอกนิ่ง เขาปล่อยให้อีกฝ่ายพูดๆๆๆๆๆๆๆ ....สักพัก เพื่อนชั้น 12 ของเขาก็ยื่นอะไรสีดำๆ ให้อีกฝ่าย....คนสูงโย่งส่ายหน้า
เพื่อนชั้น 12 ของเขาโยนก้อนดำๆ ทิ้งลงไปที่ถนนและหันกลับมาคว้ามอเตอไซด์ และขึ้นควบ... เขาสวมเสื้อสีดำให้กับตัวเอง และสวมหมวกกันน๊อคสีดำ---- เสียงสตาร์ทรถดังกระฮึ่มขึ้น
คนสูงโย่งไปเก็บก้อนสีดำมา...และคลี่มัน เขาสวมมัน และจับข้อมือของคนที่กำลังจะบิดมอเตอไซด์ไว้ เขาพูดอะไรอีกสักอย่าง... เพื่อนชั้น 12 ของเขาก็เอาหมวกกันน๊อคสีดำที่อยู่อีกฝั่งของรถมาสวมเข้าที่หัวของคนตัวสูงโย่ง....ล็อคสายให้จนเสร็จเรียบร้อย จากนั้นคนตัวสูงก็เดินขึ้นซ้อนท้ายเขา
รถมอเตอร์ไซด์ราคาแพงหูฉี่ถูกเร่งเครื่องและหายไปในฝูงรถยนต์ที่วิ่งกันประปรายในซอยแยกจากถนนใหญ่ เพื่อทะลุไปยังอีกถนนใหญ่หนึ่ง
Destroyer สีขาวสกรีนอยู่หลังเสื้อแจ๊คเกตสีดำของพวกเขาสองคน ... อ๊ะ ที่หมวกกันน๊อคก็ด้วย----คิดว่าน่าจะสั่งทำมาคู่กัน!!
เขาอมยิ้มกับภาพที่เห็น....และนึกชุ่มชื่นในหัวใจไปตามพวกเขา
“ได้แล้วครับ” พ่อค้ายื่นถุงให้เขา เขาจ่ายเงินและเดินกลับมาทางตึกที่ทำงานของตัวเอง
ระหว่างจะเข้าตึก เสียงไวโอลีนบรรเลงท่อนหนึ่งขึ้นมา... จัหงวะฟังคุ้นหูเขามาก มึนน่าจะเป็นเพลงเก่า แต่จำไม่ได้ว่าชื่อเพลงอะไร
เขาหยุดยืนและคอยฟังว่าคนร้องจะร้องอะไรออกมา
......
.....
....
...
..
.
“เมื่อดวงใจมีรัก ดั่งเจ้านกโผบิน บินไปไกลแสนไกล
หัวใจฉันก็ลอยลิบไป ถึงแดนดินถิ่นใดหนอใจ โอ้ดวงใจเจ้าเอ๋ย
เมื่อต่างเราก็รัก จะไปเกรงกลัวฉันใด ใจเรานั้นแน่นอน....”
------เสียงเพลงยังคงถูกขับร้องต่อไป ส่วนเขานั้นก้าวขาเข้ามาในตัวตึกแล้ว
......
.....
....
...
..
.
เขาเดินเข้ามาในแผนก... เอาผลไม้ไปให้เพื่อน และนั่งลงทำงานของตัวเองต่อ
......
.....
....
...
..
.