(https://scontent.fbkk5-4.fna.fbcdn.net/v/t1.0-9/152539112_1929945583819939_6693671978764144116_n.jpg?_nc_cat=103&ccb=3&_nc_sid=0debeb&_nc_ohc=IBnCjfBNKTQAX-7bvJA&_nc_ht=scontent.fbkk5-4.fna&oh=9d35222968c695a8e48eccf17fa33559&oe=605CADB6)
กระดาษ
เข้าไม่ได้แล้ว...แม่คุณก็ยังเบียดเข้ามาอีก...ถือว่าตัวบางร่างน้อยอ่ะนะ แต่!....คนข้างในเค้าจะเป็นปลาหมึกแผ่นแล้วนะครับ----ขอเถอะ ไอ้คนที่อยู่ตรงแผงปุ่มน่ะ มึงอย่ากดเปิดอีกเชียว!!
แผ่นหลังของเขาแนบติดกับพื้นผิวของลิฟท์จนสัมผัสได้ถึงไอเย็นจากมัน...ด้านหน้านั้นแนบกับด้านหลังของคนข้างหน้า... ส่วนเว้าส่วนนูนเขามีเท่าไหร่ คนข้างหน้านั้นเขาน่าจะสัมผัสและกะขนาดมันได้หมด!
ติ๊ง! .... ลิฟท์เลื่อนมาถึงอีกชั้น ประตูเปิดออก คนที่อยู่ข้างหลังร้องบอกขอทางและค่อยดันตัวเองออกมาจากด้านใน
เขาแอบระบายลมหายใจ....
ผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างหน้า หมุนตัวมาทางเขา.... เขาเงยหน้าขึ้นมอง...ตาสบตาเข้าโดยบังเอิญ คนที่อยู่ด้านหน้าเขายกยิ้มที่มุมปาก...นิ๊ดเดียว
ผู้ชายคนนั้นกำลังจะก้าวขาไปข้างๆ แต่แล้ว...ความโล่งของลิฟท์ก็ถูกแทนที่ด้วย----แม่บ้านและรถเข็นทำความสะอาด
ชายที่อยู่ข้างหน้าของเขาถูกคนที่อยู่ถัดไปทางด้านหน้าประตูลิฟท์ ถอยหลังเบียด....
เขาใจหายวาบ----- แนบหลังเขามันไม่เห็นหน้า เขาไม่รู้สึกกระอักกระอ่วนอะไร.... แต่แนบด้านหน้ากันนี่สิ!!!
เขายืนตัวเกร็งอยู่กับที่....หางตามองเห็นแขนที่หุ้มด้วยเสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อนยื่นเอาฝ่ามือมายันกับผนังของลิฟท์... ความแนบชิดสนิทระหว่างกันถูกเว้นระยะห่างจากกัน แต่.....ก็ยังใกล้จนได้ยินเสียงหายใจเข้า-ออก...ของกัน
กลิ่น C-K ขวดดำที่เขาชอบ....แต่มันไม่ค่อยเข้ากับตัวเองเท่าไหร่.... ที่เขาใช้อยู่ประจำคือ C-K ขวดขาว
“ขอโทษครับ” เสียงกระซิบเบาๆ จากคนที่เอามือยันผนัง
“ไม่เป็นไรครับ” เขากระซิบตอบ
เขาทำงานชั้น 22 ตอนนี้ลิฟท์พึ่งขึ้นมาถึงชั้น 6..... ปกติคนจะอัดกันน้อยลงตั้งแต่ชั้นที่ 20 เป็นต้นไป---- คนที่ยันผนัง...คงต้องเอามามือยันจนแข็งกว่าจะถึงจุดที่คนจะน้อยลง
......
.....
....
...
..
.
ติ๊ง! ....ลิฟท์ขึ้นมาถึงชั้นที่ 20 แล้ว...คนภายในลิฟท์ค่อยๆ ทยอยกันออกไป
คนที่ยันผนังยกมือออกจากผนัง.... เขาได้ยินเสียงโอยเบาๆ ลอดออกมาจากปากของอีกฝ่าย---- แขนคงเกร็งจนเหน็บกิน*0*
เขามองเห็น คนที่ย้ายไปยืนข้างๆ เขากำมือและคลายมืออยู่ตลอดเวลา....คิดว่าเขาคงคลายเส้นที่ยึด
....
...
..
.
ติ๊ง! ....ลิฟท์เลื่อนมาถึงชั้นที่ 22
เขาเดินออกไปจากลิฟท์ และเดินตรงไปยังแผนกของตัวเอง.... เขาตอกบัตรเสร็จก็เดินไปที่โต๊ะและเริ่มงานของตัวเอง
เช้าวันนี้ไม่มีงานมากนัก ช่วงกลางเดือน...ทุกอย่างจึงเหมือนกำลังล่องลอย ไว้ปลายเดือนก่อนเถอะ!
....
...
..
.
พักกลางวัน เขาไม่ชอบการเบียดเสียด เขาไม่ชอบการไปยืนรอโต๊ะว่าง เขาจึงปล่อยเวลาให้เลยช่วงเที่ยงมาสัก 30 นาทีแล้วถึงค่อยลงจากตึกไปหาข้าวกิน
แผนกของเขา ให้พักได้ 50 นาที จัดสรรเวลากันเองระหว่างเที่ยงถึงบ่ายสองโมง....
เขาหยิบเงินออกมาจากกระเป๋าสตางค์ และลุกไปจากโต๊ะ เดินไปยังที่ตั้งของลิฟท์ เขารอสักครู่ลิฟท์ก็เปิดออก มีคนอยู่ข้างในห้าหกคน...เขาเดินเข้าไปด้านในสุด ยืนพิงมุมหนึ่งของลิฟท์พลางคิดว่าวันนี้จะกินอะไรดี
....
...
..
.
ติ๊ง! ....ลิฟท์เลื่อนมาเรื่อยๆ จนถึงชั้นที่ 12
ผู้ชายสามคนเดินเข้ามาในลิฟท์... พนักงานผู้หญิงที่จับกลุ่มคุยกันหหยุดพูดคุยกัน เขาเงยหน้าขึ้นมองกลุ่มผู้ชายสามคนที่ขึ้นมาใหม่ด้วยความสงสัย---- อาฮะ เข้าใจล่ะ!
ก็คนในลิฟท์อยู่กันตั้งเยอะ ปะปนทั้งชายหญิงมาตั้งแต่เขาเดินเข้าลิฟท์มา แต่ทำไมกลุ่มพนักงานหญิงที่เคยคุยกันมาตลอดถึงได้มาหยุดคุยกันที่ชั้น 12!
เขาอมยิ้ม แล้วก้มหน้าลงมองรองเท้าของตัวเองอีกครั้ง....
ความเงียบกริบปกคลุมลิฟท์นั้นไปจวบจนมันเลื่อนลงมาถึงชั้นที่ 1.... เขาเงยหน้าขึ้น....ด้านหลังของหนึ่งในผู้ชายสามคนที่ขึ้นมาใหม่ดูคุ้นตาเขามาก----เสื้อเชิ้ตสีฟ้า
เขาไม่คิดอะไรต่อ ด้วยเหตุว่าในตึกนี้มีพนักงานเป็นร้อยเป็นพัน.....เสื้อเชิ้ตสีฟ้า ใครก็ใส่กันได้
เขาเดินออกจากลิฟท์เป็นคนสุดท้าย
เขาเดินเรื่อยๆ ออกมาจากตัวตึก และเดินสวนกับเพื่อนในแผนกที่กำลังกลับเข้ามาในตึกหลังจากทานข้าวกลางวันเสร็จ เพื่อนร่วมงานบอกเขาว่า ทางนั้นร้านเปิดไม่กี่ร้าน หากไม่ชอบรอ ให้ไปกินทางอื่นแทนจะดีกว่า
เขาจึงเลือกไปอีกทาง เดินไกลกว่าแต่นั่งกินสบายๆ ....
เขาเป็นคนทานจุ---- ไม่สิ ร้านแถวนี้ให้ข้าวน้อยต่างหากเขาถึงต้องเบิ้ลสองทุกวัน....
เขามีนิสัยว่าหากจานแรกไม่หมดจะนึกไม่ออกว่าจานที่สองจะกินอะไร ดังนั้นร้านที่คนไม่มารอออกันมากจึงเป็นจุดหมายของเขา
......
.....
....
...
..
.
เขาเดินเลี้ยวเข้าไปในซอยแคบๆ ...... เดินจนสุดปลายซอยนั้นเขาก็มาทะลุถนนอีกเส้นหนึ่ง
เขาเดินข้ามถนนไปอีกฝั่ง และเดินลึกเข้าไปในซอยที่อยู่ตรงหน้า.... เขาเดินเข้าไปในร้านก๋วยเตี๋ยวสีเขียวร้านหนึ่ง
เขาเลือกที่นั่งตรงกลางร้าน เขาร้องสั่งเส้นเล็กต้มยำหนึ่งชาม และนั่งเหม่อมองไปนอกร้าน
ผู้ชายหน้าตาดีจนสาวๆ ต้องหยุดเม้าท์เดินเข้ามาในร้านที่เขานั่งอยู่---- เออแหะ มีคนที่ชอบนั่งสบายๆ ถึงแม้ต้องเดินไกลแบบเขาด้วย-----เพิ่งรู้นะเนี่ย!
เขารับแก้วน้ำและขวดโค้กมาตั้งตรงหน้าตัวเอง เขารินโค้กใส่แก้วใบใสทรงสูง เลื่อนขวดไปไว้ข้างๆ...และดูดน้ำเย็นๆ ให้ชื่นใจ
ผู้ชายสามคนที่เจอกันในลิฟท์เดินเข้ามา พวกเขาแวะสั่งอาหารกันก่อนที่จะเดินมานั่งที่โต๊ะ....ด้านหลังเขา
เขากระเถิบเก้าอี้เข้ามาชิดที่โต๊ะตัวเองอีกหน่อย เพื่อไม่ให้นั่งแล้วหลังชนหลัง.... ขยับตัวทีต้องไปขอโทษกันที...เหนื่อยเกิ๊น*0*
อาหารของเขามาแล้ว.....
เขาลงมือทานมันจนหมดไปภายใน 15 นาที... เขาไถชามออกไป และนั่งนึกว่าเอาอะไรต่อดีน๊า---- ข้าวหมูกรอบจะอิ่มไปมั้ย? แต่ข้าวหมูแดงก็อยากกินนะ..... หรือจะเอาบะหมี่หมูแดงดี -----อ๊ากกกกก!! เลือกไม่ถูกเลย*0*
“ข้าวสองหน้าจานนึงครับ!” เสียงดังขึ้นมาจากข้างหลัง
!!! ก็อปปี้----- “ข้าวสองหน้าจานนึงด้วยครับ” เขาร้องบอก
......
.....
....
...
..
.
กินเสร็จพุ่งยื่น... เขาลุกขึ้นจากโต๊ะเดินไปที่หน้าร้าน ยื่นธนบัตรร้อยบาทให้ และยืนรอเงินทอน
ผู้ชายสามคนนั้นยังนั่งคุยกันอยู่โดยไม่มีทีท่าว่าจะลุกแต่อย่างใด.....
เขารับเงินทอนมา และเดินออกไปจากร้าน กลับทางเดิม แต่ก่อนที่จะเดินเข้าไปในบริษัทเขาแวะไปซื้อกาแฟ 3 in 1 ยี่ห้อหนึ่งก่อน
ขณะที่เดินขึ้นตึก เขาก้มลงมองนาฬิกา....เวลายังพอเหลือให้นั่งดื่มกาแฟ แบบสบายๆ----- ทันใดนั้น!!!! ตัวของเขาก็ลอยหวืออยู่กลางอากาศ........เขากำลังหงายหลังและล้มลงไปด้านล่าง
ขณะที่เขาแกว่งมือกวักลมตามสัญชาติญาณ มือของคนคนหนึ่งก็คว้าข้อมือเขาไว้ได้ทัน!------พระพุทธช่วยลูกแล้ว!
มืออีกข้างของเขาถูกคนคนเดิมมาคว้าไว้และฉุดตัวเขาดึงเข้าไปหาคนคนนั้น
เขายืนหน้าเหวออยู่ตรงบันไดขั้นเดิมที่เมื่อกี้ตัวเองเกือบตกลงไป...
เขาหันไปมองด้านหลัง-----สูงไม่ใช่เล่นนา อาจแขนเดาะได้ถ้าลงผิดท่า*0*
“คุณเป็นอะไรรึเปล่า?” เสียงคนคนหนึ่งดังขึ้นที่ข้างหูเขา
เขาหันหน้าไปมองคนที่ช่วยคว้าแขนเขาไว้ได้ด้วยใบหน้าแสนดีใจ... “ขอบคุณมากครับ ขอบคุณมากๆ ตกใจหมดเลย เฮ้อออ....”
“ไม่หรอกครับ ผมเดินไม่ดู เดินมาขวางทางคุณ จนคุณเกือบ...เป็นอะไรไป.....” สีหน้าของคนที่ว่าตัวเองผิด....ดูเป็นกังวลมาก
“ไม่ๆ ผมก็มัวแต่ก้มดูอย่างอื่น....อุ้ย!.....” เขาพูดยังไม่ทันจบดีก็เอามือตัวเองผลักหน้าอกเขา และเบี่ยงตัวออกมายืนอยู่ถัดๆ กัน
เมื่อกี้หางตาของเขาหันไปเห็นพนักงานออฟฟิชสาวกลุ่มหนึ่งชี้ชวนเพื่อนสาวในกลุ่มให้มองมาที่เขา...พอเขามองดูตัวเองถึงได้รู้ว่า-----ท่าของเขากับคนที่คว้าแขนเขาไว้ได้ทันท่วงทีนั้น.....แลดูล่อแหลมและชวนให้คิด “เยอะ” !!!
“คุณโอเคมั้ยครับ?” ชายที่สวมเสื้อเชิ้ตสีฟ้าถามเขา
“ไม่เป็นไรครับ.... ผมโอเคดี ต้องขอบคุณมากๆ นะครับ.... งั้นผมขอตัวขึ้นไปทำงานก่อนนะครับ ขอบคุณครับ” เขาก้มหัวแสดงความขอบคุณให้อีกฝ่ายและเดินสวนทางกับเขาเข้าไปในตึก
เขาเดินมาเรื่อยจนเกือบถึงทางเดินเข้าไปยังช่วงลิฟท์ เสียกร้องเรียกหนึ่งดังขึ้นมาจากด้านหลังของเขา.... ผู้ที่กำลังเดินเข้าและออกจากตรงนั้น ต่างมองคนต้นเสียงเป็นตาเดียว
คนที่ร้องตะโกนว่า “คุณ! คุณครับ!” วิ่งตรงมาหาเขา
“มีอะไรเหรอครับ?” เขาถามทันทีที่คนคนนั้นวิ่งมาถึงหน้าเขา
ชายที่สวมเสื้อเชิ้ตสีฟ้าก้มหน้าหอบสักครู่จึงเงยหน้าขึ้นมามองเขา เขายกถุงพลาสติกถุงหนึ่งขึ้นมาตรงด้านหน้าของเขา
เขากำมือทั้งสองข้างของตัวเอง แล้วก้มลงมองที่มือของตัวเอง----ว่างเปล่า!!
“ชะอุ้ย! ของผมเหรอครับ?” เขาถามอีกฝ่าย
“ครับ” ชายที่สวมเสื้อเชิ้ตสีฟ้ายืนถุงนั้นให้เขา
เขารับถุงของตัวเองมาถือและกล่าวขอบคุณอีกครั้ง อีกฝ่ายบอกเขาว่าไม่เป็นไร และหันหลังเดินกลับไป
กลิ่นจางๆ หนึ่งยังลอยอวลอยู่ตรงที่เขายืนอยู่... C-K ขวดสีดำ
......
.....
....
...
..
.
[/size]
รักเลยอ่ะเรื่องนี้ ขอบคุณคนแต่ง
:pig4: :pig4: