1 :: อย่าบอกกับเขาว่าเราเคยคบกัน...
“เราเลิกกันเถอะ”
“.......”
“ขอโทษนะ”
“......ต้อม...โชคดีนะ.”
ผมไม่ได้เหนี่ยวรั้งผู้ชายคนนั้นไว้ ในที่สุดวันที่ผมกลัวมากที่สุดก็มาถึง...วันที่เราต้องเลิกกัน...
ผมยังไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรผิด...
ผมยังไม่รู้ว่าเลิกกันเพราะอะไร...
และ ผมยังไม่รู้ว่าจะลืมเขาได้มั้ย...
3 ปีต่อมา...
ผมทำงานในบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งได้ 1 เดือนแล้ว วันเวลาที่ผ่านไปนั้นทำให้ผมพอที่จะลืมเขาได้ ผมได้รู้จักกับผู้ชายคนหนึ่ง เขาชื่อ ‘อัฐ’ ทำงานที่นี่ได้ 1 ปี ผมเลยได้เป็นเพื่อนกับเขา เพราะโต๊ะติดกัน
“นี่นัท เดี๋ยวตอนกลางวันเราไปนั่งร้านคอฟฟี่กันนะ อยากกินเค้ก”
“ซื้อขึ้นมากินสิ ข้างล่างคนเยอะ”
“โห ~ ไม่อาวอ่ะ...”
“มีอะไรแน่ ๆ เลย”
“ก็......จะไปแอบส่องหนุ่ม ๆ หน่อยอ่ะ น่าเลี้ยงต๋อย”
“จริง ๆ เลย = =”
อัฐเป็นคนร่าเริง อัฐยาสัยดี ผมรู้ว่าที่เขาพูดไม่ได้จริงจังหรอก คงแค่อยากเปลี่ยนบรรยากาศเพราะทุกทีก็ซื้อมากินบนออฟฟิชอยู่แล้ว ตามใจสักวันเผื่อวันนี้อาจจะมีอะไรมาเซอร์ไพรส์ก็ได้
“วันนี้กินข้าวซะแน่นเลย ไม่รู้จะกินเค้กต่อไหวรึเปล่า...”
“ดันทุรังกินเข้าไป ไม่ได้ดูไสพุงตัวเองเล้ย..” ผมว่าแล้วขยี้หัวอัฐเบา ๆ
แต่ดูท่าอัฐยังไม่ยอมล้มเลิกความตั้งใจที่จะกินเค้ก ทำให้ตอนนี้ผมกับอัฐนั่งอยู่ในร้านคอฟฟี่แล้ว
“กินอะไรมั้ยนัท”
“เอามอคค่ากับคัสตาส”
“ไหนว่าไม่กินเค้กไง”
“ไม่ใช่เค้กแต่เป็นคัสตาส”
“เดี๋ยวเถอะ!”
ผมแหย่อัฐเล่น จากนั้นเจ้าตัวก็เดินสะบัดหน้าไปที่เคาท์เตอร์ ไม่นานอัฐก็กลับมาพร้อมกับเค้กและกาแฟเต็มมือ
“อัฐ เยอะไปรึเปล่า”
“ไม่นี่ ปกติก็กินเท่านี้”
“ไหนเมื่อกี้บอกว่าอิ่มข้าวแล้ว นี่ซื้อมาตั้งเยอะแยะแล้วจะกินหมดเหรอ”
“ไม่หมดไว้กินตอนเย็น”
“ขอให้มันเสีย”
“นัทนิสัยไม่ดี”
ผมลงมือกินเค้กกับกาแฟของตัวเองไป แล้วก็พูดคุยเรื่องสัพเพเหระกับอัฐไปเรื่อย จนกระทั่งได้ยินเสียงเรียกเข้าจากโทรศัพท์ของอัฐดังขึ้น..
“ครับ อ้าวจะแวะมาหาเหรอ”
ผมไม่ได้จะแอบฟังนะแต่หูมันฟังเอง
“จ้า ๆ อยู่ในร้านคอฟฟี่ อยู่ไหนแล้วละ”
เท่าที่ฟังคงจะมีคนแวะมาหาแน่ ๆ เลย
“ถึงแล้วเหรอ เดินเข้ามาเลย”
แล้วอัฐก็ยกแขนขึ้นสองข้างแล้วมองไปทางประตูหน้าของร้าน...
ผมเห็นผู้ชายคนหนึ่งที่ดูเด่นกว่าใครเดินเข้ามา หัวใจของผมกระตุกเต้นรัว ....ต้อม...
เซอร์ไพรส์โดยที่คนทำก็ไม่รู้ตัว....
ต้อมเดินเข้ามาใกล้กับโต๊ะที่ผมนั่งอยู่ ใบหน้าเขามีรอยยิ้มที่ผมไม่ได้เห็นมานาน เขาไม่ได้ยิ้มให้ผม เขายิ้มให้กับอัฐ และดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้สังเกตเห็นผมที่นั่งอยู่ด้วยเลย จนกระทั่ง..
“ต้อม นี่นัทเพื่อนอัฐเอง”
“....” ต้อมมองหน้าผมแล้วไม่พูดอะไร ไม่มีแม้แต่รอยยิ่มที่จะส่งมาให้ ได้แต่เพียงพยักหน้าแทนคำทักทาย
“นัท นี่ต้อม แฟนอัฐเอง”
เหมือนโดนมีดกรีดลงมาที่กลางดวงใจ ‘แฟน’
“หวัดดี”
“คุยกันไปก่อนนะ ต้อมเอาอะไรเดี๋ยวไปซื้อมาให้”
“เหมือนอัฐครับ”
ประโยคที่ผมเคยถามและเขาที่เป็นคนตอบ ทำให้ผมไม่อยากนั่งอยู่ตรงนี้เลย น้ำตาที่กักเก็บมานานสามปีกำลังจะแตกพรั่งพรูออกมาอีกครั้ง ... อัฐเดินไปแล้ว ความเงียบเริ่มปกคลุม ไม่มีใครพูดอะไร แต่ผมคงต้องพูด เพื่อมิตรภาพของผมกับอัฐ...
“เออ...ต้อม..”
“...อะไร”
“เป็นแฟนกับอัฐตั้งแต่เมื่อไหร่เหรอ”
“สามปีที่แล้ว”
“...” สามปีที่แล้วก็คงหลังจากเลิกกับผม “ช่วยอะไรเราหน่อยได้มั้ย”
“ช่วยอะไรละ”
“......อย่าบอกกับอัฐว่าเราเคยคบกัน
....และช่วยทำเป็นไม่เคยรู้จักกันได้มั้ย”
เจ็บที่มันต้องเป็นแบบนี้....
กลัวว่ามันจะพังทลาย….
เกลียดตัวเองที่ไม่กล้า....
TBC...
มาลงแล้วค่ะ หวังว่าคงจะชอบ แล้วพรุ่งนี้จะมาลงตอนที่สองให้ค่ะ