สวัสดีครับทุกท่านที่ให้การติดตามอ่าน ผมจะพยายามเอามาลงเท่าที่ทำได้นะครับ
เนื่องจากข้อจำกัดเรื่องเรียนอ่ะครับ ตอนนี้ฝึกงานหนักกว่าเก่าอีกครับ พูดไปแล้วเครียด
พอดีผมแต่งเรื่องนี้แบบว่าไม่ได้บอกใครอ่ะครับ เพราะฉะนั้นพี่หนึ่งก็เลยไม่ได้บอกอ่ะครับ
ไม่ได้อยากโปรโมทครับ เดี๋ยวมันไม่สนุกแล้วจะเสียชื่อเปล่าๆ อิอิ ส่วนบิวหรือใครก็ตาม
ถ้าจะเอาไปลงเวิร์ดผมก็ไม่ว่าไรครับ แล้วแต่ท่านสะดวก ขอแค่อ่านก็ดีใจแล้วค้าบ
วันนี้ก็เอามาลงให้แล้ว แต่ตอนต่อไปอาจจะซักพักนะครับ เพราะช่วงนี้ผมไม่อยู่หลายวัน
จะมาหาท่านๆนี่แหละ เดี๋ยวผมต้องไปแล้วนะครับ เดี๋ยวไม่ทันรถครับ
*********************************************************^^ เค้กรสรัก กาแฟรสหวาน ^^
ตอนที่ 8 “เฮ้ย! ไอ้ป๊อด มึงเป็นไรวะ” ท่ามกลางความตกตะลึงของพี่แมตเมื่อซักครู่ ทำให้พี่แมตลุกขึ้นแล้วเดินเข้ามาหาผมใกล้ๆ เอามือแตะที่บ่าของผมเบาๆ ก่อนจะพูดว่า
“พี่ว่าเอ็งไปล้างหน้าก่อนไป๊ เม็ดข้าวติดเต็มหน้าเลย 555++”
“อะโด่! พี่แมตอ่ะ ผมรอฟังอยู่นะเนี่ย”
“เอาน่า ใจเย็นๆ พี่ว่าเอ็งอย่าเอาอารมณ์มาเป็นตัวตัดสินจะดีกว่า อย่าคิดสนุก อย่าคิดประชดใครเลย มันไม่ได้ทำให้อะไรมันดีขึ้นมาหรอก การรักใครซักคนมันพูดยากนะ ไม่ใช่คิดว่าจะรักก็รักเลย มันไม่ใช่ แล้วเรื่องของความรักเราอย่าใช้สมอง แต่จงใช้ใจที่จะตัดสินใจที่จะรักใครซักคน”
“…..” อึ้งกิมกี่
“ป่ะ พี่ไปส่ง กินข้าวอ่มกันแล้วหนิ ส่วนเค้กที่พี่ทำไว้ให้ก็เอากลับไปกินด้วยนะ”
“ขอบคุณครับ”
แล้วพี่แมตก็ไปส่งผมที่บ้าน เค้กที่ให้มาก็น่ารักดีครับ ก้อนเล็กๆ แต่ทำเป็นรูปหน้าลิง พร้อมตัวอักษรอยู่ข้างใต้ว่า ‘ก่งก๊ง’ ไอ้ผมก็ไม่รู้หรอกครับว่ามันแปลว่าอะไร แอบด่าผมเปล่าเนี่ย แต่ท่าทางเค้กจะอร่อย เหอๆ
จะว่าไปพี่แมตตอบผมว่าไงเนี่ย แล้วอยู่ดีๆทำไมผมต้องพูดแบบนั้น เฮ้อ..สับสน ตอนที่ผมคบกับอิม ผมก็เป็นแค่คนเหงาๆ อยากมีใครซักคน อยากมีคนให้คิดถึงและเป็นห่วง เห็นใครๆเขามีแฟนก็อยากมีกับเขาบ้าง แต่ถ้าถามว่ารักไหม ผมก็ไม่รู้ ไม่แน่ใจว่าสิ่งที่สัมผัสอยู่นี้เขาเรียกว่ารักหรือเปล่า อิมเป็นคนน่ารัก นิสัยก็โอเคเข้ากันกับผมได้ เอ๊ะ!!! แล้วนี่ผมกำลังทำอะไรอยู่ นี่ผมกำลังคิด ผมกำลังใช้สมองคิดว่านี่คือรักหรือนี่ แต่ความรู้สึกกับพี่แมต ทำไมมันช่างแตกต่างกันเมื่ออยู่กับอิม ใจผมตอนนี้ มันรู้สึกยังไงกันแน่นะ???
วันจันทร์ ผมก็ไปเรียนตามปกติ ผมยังยอมรับกับสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปเมื่อไม่กี่วันนี้ไม่ได้ ตอนคาบเรียนผมก็นั่งคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย
“เฮ้ย! ไอ้ป๊อด มึงเป็นไรวะ” ไอ้ท๊อปมันนั่งโต๊ะข้างผมพูดขึ้นหลังจากเรียนในคาบเช้าเสร็จสิ้นลง
“ไม่เป็นไรว่ะ”
“กูว่ามันต้องมีอะไรแน่ๆ เดี๋ยวนี้ปิดพวกกูเหรอวะ” ไอ้โอมันก็คงเป็นห่วงผมมั้ง
“อือ...ก็นิดหน่อย”
“แล้วไอ้นิดหน่อยมึงเนี่ย ไม่บอกแล้วพวกกูจะรู้ไหม ใครมาซ่ากับมึงเปล่า บอกพวกกูมา เดี๋ยวไปจัดการให้” เอาแล้วไงครับไอ้ทีน
“เอ่อ...กูเลิกกับแฟน”
“โถ่เว้ย!...นึกว่าเรื่องอะไร เอาน่าๆ ยังไงมึงก็ยังมีพวกกูอยู่นี่” ไอ้ท๊อปพูดแล้วก็เดินมากอดคอผม
“อือ...ขอบใจเว้ย”
“งั้นเราก็ไปกินข้าวกัน” สงสัยไอ้วิทย์มันคงหิวครับ เพราะปกติมันไม่ค่อยพูด
พวกเราก็ไปกินข้าวเที่ยงกันตามปกติ แต่วันนี้ทำไมมันไม่ปกติ เมื่อโต๊ะที่อยู่ห่างออกไปเป็นใบหน้าที่ผมคุ้นเคยดี นั่งทานข้าวกับผู้ชายที่ผมเห็นแต่ข้างหลัง ดูเค้าคุยกันอย่างกะบนโลกใบนี้ไม่มีคนอื่นเลย ผมเห็นแบบนั้นแล้วมันก็จี๊ดเข้าไปข้างใน นี่หรือคือการอกหัก ผมจะกินข้าวต่อได้เหรอครับทีนี้
“เฮ้ย!...กูอิ่มแล้ว กูขอตัวก่อนนะเว่ย” ผมบอกเพื่อนๆแล้วผมก็ลุกเอาจานไปเก็บเลย
“เฮ้ย!...ไอ้ป๊อด รอกูด้วย กูอิ่มแล้ว” ไอ้ท๊อปมันจะตามผมมาครับ แต่ผมไม่รอมันหรอก
“เดี๋ยวกูไปกับไอ้ท๊อปนะ ไว้เจอกันตอนบ่ายนะไอ้ทีน ไอ้วิทย์” ไอ้โอมันก็ตามผมมาอีกคน
“เอ่อ...เอาให้เคลียร์นะเว้ย แล้วเจอกัน” ไอ้ทีนพูดเสร็จมันก็ซดก๋วยเตี๋ยวมันต่อ
ไอ้ท๊อป ไอ้โอมันยังคงเดินตามผมมา ผมว่าผมอาจต้องการเพื่อนไว้คอยรับฟังเราบ้างแล้วมั้งครับ เก็บไว้คนเดียวมันก็คงจะหนัก ตอนนี้ผมเองก็กำลังสับสนๆ
“มึงไม่สบายใจแบบนี้ พวกกูก็รู้สึกไม่ดีเหมือนกันนะไอ้ป๊อด” ผมจึงพาพวกมันไปนั่งใต้ร่มไม้ใกล้ๆกับสนามบาสโรงเรียน เพราะตรงนี้คนไม่ค่อยมากัน
“ทีนี้มีอะไรอยากระบายก็บอกพวกกูมา” ไอ้ท๊อปนี่ค่อนข้างเอาการเอางานจริงๆ
“ก็กูเลิกกับแฟน ชื่ออิมอ่ะ น้องอิม ม.4”
“เฮ้ย! น้องอิมคนที่น่ารักๆ คนนั้นน่ะ มึงไปคบตอนไหนเนี่ย” ไอ้โอดูมันพูดแล้วทำตาโต
“เอ่อ...เพิ่งคบกันไม่กี่เดือนหรอก ตอนนี้เค้าคบกับคนอื่นไปแล้ว เค้ามีคนใหม่ว่ะ”
“มันเป็นใครกันวะไอ้คนนั้น เดี๋ยวพวกกูกับไอ้ทีนจะไปจัดการให้” ไอ้ท๊อปดูมันโกรธครับ
“ช่างเค้าเหอะน่า กูว่ากูผิดเองแหละที่ไม่มีเวลาให้เค้า”
“แล้วมึงจะมานั่งเสียใจอยู่ทำไม มึงยังมีพวกกูอยู่นี่” ไอ้ท๊อปยังไม่เลิกตะคอกผม
“ก็คนมันไม่เคยนี่หว่า กุไม่รู้ว่าอกหักมันเป็นยังไง แล้วมันเป็นแบบนี้เหรอวะ”
“กูก็ไม่รู้อ่ะป๊อด กูไม่เคยอกหักว่ะ มีแต่สาวๆล้อมรอบ 555++” ไอ้โอได้ทีทำเบ่งเชียว
“เอ่อ”
“งั้นก็ไม่ต้องคิดมากแล้ว ป่ะ ขึ้นห้องเรียนกันเถอะ”
“แล้ว... ถ้ากูมีอีกเรื่องนึงจะบอกพวกมึง พวกมึงจะเกลียดกูป่าว” ตอนนี้ผมเริ่มใจสั่นๆละ ไม่กล้าก็ไม่กล้า แต่ว่าไม่อยากจะปิดพวกมันไว้
“เอ่อ มึงอ่ะ คิดมากอีกแล้ว กูไม่เกลียดเพื่อนกูหรอกว่ะ เพื่อนก็คือเพื่อน” กูรักมึงจังเลยไอ้ท๊อป
“ก็เล่ามาดิ พวกกูรับฟังอยู่แล้ว”
“กูรู้สึกว่าตอนนี้...กูชอบผู้ชายว่ะ”
“เฮ้ย!!!... ไอ้ป๊อด มึงแน่ใจแล้วเหรอวะ” ไอ้ท๊อปพูด ไอ้โอก็ตกใจไม่แพ้กัน
“กูก็ไม่แน่ใจว่ะ กูรู้แค่ว่ากูรู้สึกดีเวลาที่มีเค้าอยู่ใกล้ๆ”
“แต่กูเกลียดกระเทย กูจะไปบอกพวกไอ้ทีน” ไอ้โอพูดจบก็หันหลังกลับทันที แต่โดนไอ้ท๊อปล็อคคอไว้
“ไอ้โอ มึงจะไปไหน มึงทำแบบนี้กับเพื่อนได้ไงวะ”
“ก็กูเกลียดกระเทย มึงปล่อยกูนะไอ้ท๊อป” ไอ้โอยิ่งดิ้นไอ้ท๊อปยิ่งใช้แรงมากขึ้น
“แล้วไอ้ป๊อดมันเป็นกระเทยตรงไหน กูถามมึงหน่อยดิ ผู้หญิงมันก็เคยชอบ”
“แล้วไงล่ะ ตอนนี้มันชอบผู้ชาย มันไม่ใช่ผู้ชาย”
“มันไม่ใช่ผู้ชาย
พ่อมึงเหรอ พูดอย่างกับมันไม่มีไอ้นั่นเหมือนมึงเลย”
“มีแล้วไง มันไม่ใช่พวกกูแล้วนี่นา”
“พวกมึง คำนี้มันหมายความว่าไงวะ แล้วไอ้ป๊อดมันไม่ใช่เพื่อนมึงเหรอ”
“...” ไอ้โอมันไม่พูดต่อ
“ไอ้คำว่าเพื่อนสำหรับมึง มันมีค่ามากแค่ไหน แล้วมึงจะเลิกคบกับไอ้ป๊อดเพราะเหตุผลเท่านี้เนี่ยนะ ที่ผ่านมามันเคยทำอะไรให้มึงเดือดร้อนบ้างหรือเปล่า มันผิดด้วยหรือที่ความรักของมันนั้นจะมอบให้กับเพศไหน” ผมน้ำตาซึมเพราะคำพูดของไอ้ท๊อป
“....” ไอ้โอมันยังคงนิ่งเงียบ
“แล้วทีนี้บอกกูได้หรือยัง ว่ามันยังใช่เพื่อนของมึงอยู่หรือเปล่า”
“เออ...เออ...มึงปล่อยกูได้แล้ว” แล้วไอ้ท๊อปก็ปล่อยไอ้โอ ไอ้โอจึงมานั่งข้างๆผม
“มึงแน่ใจแล้วเหรอวะ” ผมได้แต่ส่ายหน้า “ยังไงก็ตามนะเว้ย กูขอบอกไว้ก่อนว่ากูก็ยังไม่ชอบกระเทย แต่กับมึง กูเว้นไว้คนหนึ่งก็ได้” แล้วไอ้โอก็กอดคอผมไว้
“กู...ขอบใจพวกมึงนะ”
“ไม่เป็นไร มึงจะเป็นอะไรก็ช่าง สุดท้ายยังไงมึงก็คือเพื่อนกู” กูซึ้งมึงมากไอ้ท๊อป
“เอ่อ..งั้นไปเรียนกันได้แล้ว จะบ่ายละ” ไอ้โอเป็นคนเตือนขึ้น
“ส่วนพวกไอ้ทีน ไอ้วิทย์ เอาไว้มึงพร้อมค่อยบอกพวกมันก็ได้ ถ้ามันไม่ฟังกูจะอัดมันหนักกว่าไอ้โออีก เพราะไอ้ทีนอ่ะตัวใหญ่กว่ากู”
“มึงอ่ะ พวกใช้กำลัง ตัวผอมๆอย่างกูจะสู้ไรได้ กูมันต้องใช้สมองอันชาญฉลาด และความหล่อระดับเทพเท่านั้น” ไอ้โอพูดขึ้นแล้วเรา 3 คนก็หัวเราะพร้อมกัน
ผมรักเพื่อนจัง ถ้าไม่มีไอ้ท๊อป ไอ้โอ ผมก็ไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไร แล้วสิ่งที่ผมกำลังทำอยู่ในตอนนี้ กำลังเป็นอยู่นี่มันถูกแล้วหรือ ผมแน่ใจแล้วหรือ คำถามต่างๆประดังเข้ามามากมาย แล้วต่อไปผมควรจะทำอย่างไรดี?...
***********************************************************
ขอบคุณนะครับ วันนี้ไม่มีเวลาพอกดจิ้มบวกให้ วันหลังผมตามมาจิ้มให้ละกันนะครับ
ผมไปละครับ ยังไงเจอผมที่โน่นอย่าลืมทักทายผมได้นะ อิอิ ไปแล้วครับ รถออก 6 โมง