หวัดดีครับ ตอนหน้าก็คงจะถึงเวลาที่ต้องบอกลากันแล้วมั้งคับ เฮ้อ ตอนจบมันอาจจะไม่สวยหรูหรืออาจ
จะไม่ประทับใจใครก็อย่าว่ากันนะครับ แต่ก็ลองติดตามดูก่อนแล้วกันครับ ตอนหน้าขอยอมรับว่ากั๊กไว้
เหตุก็คือ ผมจะเอามาลงในวันวาเลนไทน์ครับ จบลงพร้อมกับวันวาเลนไทน์อันแสนจะเศร้าของผม เอิ๊กๆ
ผมเลยหั่นมันออกเป็น 2 ท่อน ปีใหม่ก็นึกถึงเพลง คืนข้ามปี วันวาเลนไทน์ก็คิดถึงเพลง ออกเดทคนเดียว
ชิส์ เกลียดเจงๆวันนี้เนี่ย ใครเป็นคนตั้งฟระ ยังไงก็ขอให้มีความสุขกับการอ่านนะครับ วันนี้ผมไปปั่น
รายงานก่อนนะครับ (ส่งพรุ่งนี้ 2 ฉบับ ก่อนเที่ยงอีก งืองือ) ขอบคุณทุกๆท่านนะครับที่ให้กำลังใจกันเสมอมา
*******************************************************************^^ เค้กรสรัก กาแฟรสหวาน ^^
ตอนจบ...(1) วันนี้เป็นวันที่พี่เจนนี่จะมา ทำไมผมต้องรู้สึกเจ็บแปล๊ปๆด้วย ทั้งที่ยังไม่เคยเห็นหน้าพี่เขาเลยด้วยซ้ำ แต่จะว่าไปผมจะไปสู้อะไรพี่เขาได้ ผมมันก็แค่เด็ก ม.ปลาย แถมยังเป็นผู้ชายอีก ถ้าพี่แมตเลือกพี่เจนนี่พี่เขาคงมีอนาคตที่สดใสกว่า
ผมรีบเดินไปที่ร้าน ‘กาแฟรสหวาน’ จนแทบจะกลายเป็นวิ่งอยู่แล้ว แม้ว่าป้ายรถเมล์จะห่างจากร้านไม่ไกลนัก เมื่อผมหยุดอยู่หน้าร้านผมก็มองผ่านกระจกเข้าไปเห็นหลังผู้ชายคนหนึ่ง ซึ่งผมจำได้แน่นอนว่าเป็นพี่แมต แต่คนที่อยู่ด้านตรงข้ามพี่แมตเป็นหญิงสาวหน้าตาสดใสตามแบบฝรั่ง ผมหยักศกเป็นลอน แลดูสวยดี แถมมาในชุดสีชมพูน่ารักเสียด้วย หากผมเป็นพี่แมตผมก็คงจะเลือกพี่เจนนี่ แต่ทำไงได้ล่ะ ผมมันเด็กผู้ชายที่ชอบผู้ชาย แถมตอนนี้มันรู้สึกเจ็บที่ใจ เหมือนหัวใจมันถูกกรีด
“เฮ้! ป๊อด เข้ามาหาพี่หน่อย” พี่แมตเรียกเมื่อเห็นผมเดินเข้ามาในร้าน
“ครับ พี่แมต” ผมรับคำแต่โดยดีแล้วเดินก้มหน้าเข้าไปหา
“พี่จะแนะนำให้รู้จัก นี่เจนนีเฟอร์หรือเจนนี่” พี่แมตผายมือออกไปยังผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้า “เป็นเพื่อนพี่อ่ะ”
“No! No! Girl friend”
ผมได้ยินดังนั้นแทบจะเข่าร่วง ผมพยายามข่มใจแล้วยกมือขึ้นไหว้ พร้อมกันนั้นผมก็หันหลังกลับเพื่อจะรีบๆไปให้พ้นจากจุดที่ผมยืนอยู่ ใจผมมันอยากจะวิ่งออกไปทางที่ผมเข้ามาเลยด้วยซ้ำ แต่ผมก็ไม่ทำ ผมเดินไปเปลี่ยนชุดทันทีโดยไมได้ฟังเสียงของพี่แมตที่พูดมาตามหลังที่ถึงแม้จะพูดอะไรผมก็ไม่รับฟังแล้ว
ผมเปลี่ยนชุดเสร็จ แล้วผมก็อดคิดถึงภาพเมื่อซักครู่นี้ไม่ได้ มีผู้หญิงที่กล้าประกาศเป็นแฟนผู้ชายต่อหน้าคนอื่นแบบนี้ หากเป็นคนอื่นผมคงไม่ว่าอะไร แต่นี่มันเกิดกับคนที่ผมรัก ผมกลั้นน้ำตาแทบจะไม่ไหวจึงต้องรีบเข้าไปร้องไห้ที่ห้องน้ำ ผมอยู่ในนั้นก็คิดอะไรเรื่อยเปื่อย ผมไม่รู้ว่าผมกำลังเป็นอะไร กำลังเสียใจทำไม รู้เพียงว่ามันเป็นการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วมาก ผมยังทำใจไม่ได้หรอก ตอนนี้ผมควรจะทำยังไงดี ผมควรแย่งชิงพี่แมตมาดีหรือเปล่านะ แต่ไม่หรอก ผมว่าผมควรที่จะทำในสิ่งที่มันควรจะเป็นไปดีกว่า ปล่อยให้พี่แมตเป็นคนตัดสินแล้วกัน
ผมเช็ดน้ำตาแล้วเดินออกมาจากห้องน้ำ ผมกลั้นใจเดินไปโต๊ะพี่แมตที่ยังคงนั่งอยู่
“พี่เจนนี่จะรับอะไรดีครับ” ผมพยายามบังคับเสียงให้ปกติที่สุด แต่ยังก้มหน้าอยู่
“แล้วตะกี้เอ็งเป็นไร พี่คุยด้วยก็เดินหนี แล้วนี่พอเลยนะ ถ้าจะหาอะไรมาแกล้งเจนนี่อ่ะ”
“พี่แมต ผมยังไม่ได้ทำอะไรนะ” ผมทนไม่ไหวแล้วครับ พี่แมตมาว่าให้ผมโดยที่ผมยังไม่ได้ทำอะไรเลยด้วยซ้ำ ผมเดินหันหลังกลับเอาชุดไปเปลี่ยนเป็นชุดนักเรียนแล้ววิ่งออกทางประตูหลังร้าน ผมรู้สึกว่ามันคือความเสียใจที่เจ็บปวดที่สุด เมื่อคนที่เรารักทำกับเราแบบนี้
“ว่าไงป๊อด” ผมโทรหาอิม
“อิม... ออกมาหาป๊อดที่หน้าปากซอยได้เปล่า”
“ได้สิ เดี๋ยวอิมไปนะ”
อิมวางสายแล้วมาพบผมในอีก 5 นาที ผมจึงเดินเล่นกับอิมตามฟุตบาท
“ป๊อดเป็นไรไปรึเปล่า ดูหมองลงไปมากนะ”
“ไม่มีไรหรอกอิม เอ่อ อิม...อิมยังรักป๊อดอยู่รึเปล่า”
“คำตอบมันก็แน่อยู่แล้วไม่ใช่เหรอป๊อด” แล้วอิมก็เอื้อมมือมาจับผม “อิมรักป๊อดนะ”
แทนที่ผมจะยิ้มในคำตอบ น้ำตาก็พาลจะไหล
“ขอบใจนะอิม ที่ยังมีคนรักป๊อดอยู่”
“แหม ป๊อดก็ไม่ต้องซาบซึ้งขนาดนั้นก็ได้”
แล้วโทรศัพท์ของผมก็ดังขึ้น ผมมองดูเบอร์ ‘ผู้จัดการที่รัก’ ซึ่งเป็นชื่อที่ผมเมมไว้ในเครื่อง แต่วันนี้ผมคงต้องเปลี่ยนชื่อมันไปแล้วล่ะ ผมตัดสินใจกดวางสายแล้วก็ปิดเครื่องทิ้งไป
“ใครโทรหาอ่ะป๊อด”
“อ้อ...ไอ้โออ่ะ ป๊อดรำคาญที่มันโทรมาทวงการบ้าน ป๊อดเลยปิดเครื่อง ไว้กลับบ้านเดี๋ยวป๊อดโทรหามันใหม่” ผมโกหกไปงั้นแหละ
“อ่ะนะ... ป๊อดเรียกอิมมาแล้วเราจะไปไหนกันอ่ะ”
“อิมพาป๊อดไปนั่งกินนมปั่นหน่อยดิ”
“จ้า”
วันต่อมาผมคิดว่าผมคงไม่ไปทำงานร้านพี่แมตอีกแล้วล่ะ เพราะผมคงทำใจไม่ได้หรอกที่ผมจะไปเจอพี่แมตกับพี่เจนนี่คุยกันอย่างสนุกสนานในร้าน ผมจึงคิดว่าผมควรโทรไปบอกพี่แมตว่าผมคงยังไม่พร้อมที่จะทำงานในช่วงนี้
“ว่าไงป๊อด โทรมาได้แล้วสิ แล้วเมื่อวานทำไมตัดสายพี่ แล้ววิ่งหนีจากร้านไปเป็นไรมากหรือเปล่า”
“ผมแบตหมดครับ แล้วอีกอย่างผมไม่เป็นไรมากหรอก ผมแค่ปวดหัว”
“เหรอ กินยาซะนะ แล้วเป็นไรมากรึเปล่าเนี่ยถึงโทรหาพี่”
“คือว่า...ผม...ผมขอลาทำงานซักพัก”
“มีอะไรรึเปล่า” แล้วเสียงก็เงียบไปซักพักหนึ่งก่อนพี่แมตจะพูดต่อ “มีอะไรเล่าให้พี่ฟังได้นะ”
“ไม่มีอะไรหรอกพี่ แล้วตะกี้อยู่กะพี่เจนนี่อ่ะดิ ถึงได้เงียบไป”
“อือ แต่ตอนนี้ถ้าเอ็งไม่อยากบอกพี่ก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าอยากบอกเมื่อไร พี่ยินดีรับฟังเสมอนะ”
“ครับ ผมขอลาซักพักนะครับ อย่างน้อยก็ช่วงเวลาหนึ่ง”
“งั้นก็แล้วแต่ครับ”
“ขอบคุณครับ” ผมกดวางสายโดยไม่รอฟังคำพูดใดๆต่อจากปลายสาย มือผมยังคงกำโทรศัพท์ไว้แน่น ผมคิดว่ามันคงถูกต้องแล้วมั้งถ้าพี่แมตจะเลือกพี่เจนนี่ แล้วผมก็ควรจะเลือกทางเดินของผมเหมือนกัน แม้ว่าหัวใจมันจะไม่ยอมก็ตาม
ช่วงนี้ผมเครียดสุดๆ ไปโรงเรียนก็โวยวายกับเพื่อน เรียนก็แทบไม่ได้ฟังอาจารย์สอน สมองมันยังคงคิดแต่เรื่องพี่แมตตลอด ขนาดอีก 2 สัปดาห์ผมก็จะสอบแล้ว ผมยังไม่มีความรู้สึกอยากอ่านหนังสือเลย แล้วจะเอาอะไรไปสอบก็ไม่รู้ ตอนเย็นผมชวนอิมไปกินไก่ทอดชื่อดังในห้างสรรพสินค้า
“ป๊อดเป็นไรมากป่ะ ช่วงนี้เครียดไรรึเปล่าจ๊ะ”
“ก็นิดหน่อยอ่ะ แต่ช่างมันเถอะ”
ผมพาอิมเดินเข้าร้าน แต่เมื่อผมกำลังจะนั่งลง สายตามารของผมดันไปเจอคู่พระนางคู่หนึ่งโดยมีพี่เจนนี่เป็นนางเอก พี่แมตเป็นพระเอก ซึ่งในตอนนี้นางเอกกำลังใช้ส้อมจิ้มไก่แล้วตักใส่ปากพระเอก ผมคงไม่ต้องรอให้พี่แมตอ้าปากงับไก่เสียก่อนหรอก ผมจับแขนอิมลุกขึ้นทันที
“เป็นไรไปอ่ะป๊อด”
“เราไปกินอย่างอื่นกันดีกว่า” ผมไม่รอให้อิมพูดต่อ ผมลากแขนอิมออกมาจากตรงนั้นเลย
“ไหนว่าจะมากินไก่ไง” อิมพูดเมื่อเห็นว่าเราออกมาจากร้านได้ซักพัก
“ป๊อดเปลี่ยนใจละ ป๊อดอยากกินอาหารญี่ปุ่นมากกว่า”
ทำไมโลกมันช่างกลมอย่างนี้ นี่ขนาดผมหนีแล้วยังจะตามมาหลอกหลอนผมอีก ที่สำคัญคือไม่มีใครมองเห็นผมกับอิมเลย อิมอ่ะไม่ว่าเพราะอาจไม่เคยเห็นหรือเคยเห็นแค่ครั้งเดียว แต่ผมนี่ดิ คงไม่สำคัญกับใครๆเขาหรอก นี่คงกะว่าโลกใบนี้ทั้งใบมีกันแค่ 2 คนอ่ะดิ T^T
หลายวันผมพยายามเลี่ยงที่จะไปร้าน ‘กาแฟรสหวาน’ แม้แต่นั่งรถเมล์ผ่านผมยังไม่อยากจะมองเลยด้วยซ้ำ ผมมักจะไปเที่ยวกันกับอิมเป็นประจำ พี่แมตโทรหาผมเสมอๆในพักหลังๆมานี้ แต่ผมก็ไม่เคยรับโทรศัพท์พี่เขาเลย โดยเฉพาะวันนี้โทรหาผม 5 ครั้งแล้ว ผมจึงตัดสินใจว่าจะลองไปที่ร้านดูเพราะผมต้องผ่านร้านพี่แมตกลับไปเปลี่ยนชุดก่อนจะไปเที่ยวกับอิมอยู่แล้ว
ผมเดินเข้าไปในร้าน เหมือนร้านจะดูเก่าลง หรือที่จริงแล้วมันก็เหมือนเดิม เพียงแต่ใจผมเท่านั้นเองแหละที่ทำให้มันดูห่อเหี่ยวตามไปด้วย ผมมองซ้ายแลขวาก็ไม่เห็นพี่แมต ‘คงจะไปกับพี่เจนนี่อีกแล้วล่ะสิ’ ผมครุ่นคิด ที่ในครัวผมก็เห็นเพียงพี่ซาร่าห์ ผมจึงเดินเข้าไปหาเธอ
“วันนี้พี่แมตเขาไม่มาทำงานเหรอครับ”
“อ้อ..จ๊ะ นี่แมทธิวยังไม่ได้บอกเธอเหรอว่าวันนี้เขาจะกลับอังกฤษ”
“จริงเหรอครับพี่ซาร่าห์” ผมยังงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ “แล้วพี่แมตไปไฟลท์กี่โมงครับเนี่ย”
“แล้วนี่มันกี่โมงแล้วล่ะจ๊ะ”
“อืม 5โมงเย็นแล้วครับ”
“ตอนนี้คงใกล้จะขึ้นเครื่องแล้วมั้ง”
“ขอบคุณครับ” ผมแทบจะวิ่งออกมาจากร้านเลย
ผมไม่รู้ว่าสิ่งที่ผมกำลังจะทำอยู่นี่มันถูกหรือเปล่า ผมกำลังจะวิ่งไปหาหัวใจของผม ผมไม่รู้หรอกว่าพี่แมตจะกลับไปอังกฤษทำไม หรือพี่เขาจะกลับไปแต่งงานกับพี่เจนนี่กันเนี่ย แต่ช่างเหอะ ตอนนี้ขอให้ผมได้บอกความรู้สึกของผมที่มันอัดอั้นตันใจในตอนนี้ก็พอ
ผมไม่รอช้าเลยที่จะโบกรถแทกซี่
“จะไปที่ไหนครับ”
“ไปสนามบินครับ ด่วนเลยครับลุง”
To B Continue…..*******************************************************************
ปล1.ถ้ามีพิมพ์ผิดเด่วมาแก้วันหลังนะฮับ วันนี้ยุ่งมากครับ ขอตัวทำรายงานก่อน
ปล2.ขอกั๊กไว้ละกันครับ เจอกันใหม่พรุ่งนี้ แฮปปี้วาเลนไทน์เดย์กันทุกคนครับ