...จะไม่มีช่องว่าง ระหว่างเรา...ชิพ&แดน Series <<<
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ...จะไม่มีช่องว่าง ระหว่างเรา...ชิพ&แดน Series <<<  (อ่าน 484427 ครั้ง)

ALeX

  • บุคคลทั่วไป
ใช่แล้วครับ myloveisyou...แดนกำลังต้องชดใช้ผลกรรมอยู่ อิอิ :m12:

ออฟไลน์ DeShiWa

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-9
 :impress: :impress: :impress:

รู้สึกเกลียดแดนก็วันนี้ละครับ

แดนตัดสินใจผิดไปนะครับ

กับพี่มาร์คแดนไม่ได้รักแบบคนรัก

เราก็บอกตามนั้น อย่าให้พี่มาร์คคิดไปเองแบบนั้น

แต่คนที่จะกลายเป็นคนที่สงสารที่สุดก็คือพี่ มาร์ค นะครับ

แนะนำว่าบอกความจริงกับพี่มาร์ค ว่าที่จริงแล้วแดนรู้สึกยังไง

แต่ก้เป็นกำลังใจให้นะครับ ต้องมีทางออกที่ดีที่สุดแน่ครับ

 :impress: :impress: :impress:

ALeX

  • บุคคลทั่วไป
อย่าเพิ่งเกลียดแดนเลยครับ deshiwa...เดี๋ยวแดนได้บอกแน่ อีกไม่กี่ตอนอ่ะคับ  อิอิ

wutwit

  • บุคคลทั่วไป
ฮือออออออออออออออออออออออออออ

สงสารชิพอ่า.........................


 :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15:

ออฟไลน์ artday

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1

ifwedo

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ -~iK@iZ_KunG~-

  • Tomorrow Never Die!!!
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2231
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +220/-2

ออฟไลน์ ★L'Hôpital

  • แค่เราได้พบกัน...
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1521
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-18
โกรธแดน  :m16:
ทำไมทำอย่างนี้ ปฏิเสธหัวใจตนเองไปเพื่ออะไรกัน  :serius2:

ออฟไลน์ naja

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 708
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0

BICHA

  • บุคคลทั่วไป

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ fulres

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 594
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
ฮืออออออ  :m15: อะไรกัน  แดนอ่ะ  ทำไมไม่บอกตรงไปเรย จาได้จบๆ ไปซะที

ยื้อไป ยื้อมา มันจาเจ็บกันทุกฝ่ายเรยอ่ะดิ  :o12: :o12: :o12:

myLoveIsYOu

  • บุคคลทั่วไป
อ่านมาถึงตอนนี้ รู้สังหรณ์ใจว่า แดนจะเสร็จพี่มาร์ค ที่ทะเลแน่ ๆ  o12 :m23:

ออฟไลน์ kaporzung

  • magKapleVE
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1331
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-2
    • Get vivid impressions and unforgettable emotions
แดน ทำไมทำแบบนี้อ่ะ  :m15: :m15: :m15: :m15: :m15:

สงสารชิพมาก  :m15: :m15:

[D]a[D]a [T]oo[N]

  • บุคคลทั่วไป
อ่านทันละ

มาถึงตรงนี้สงสารชิพจังเลยอ่ะ :m15:

ALeX

  • บุคคลทั่วไป
เอามาฝากสามบทนะครับ คงไม่ได้เข้ามาอีกนานนนนนนนน สอบง่ะ งุงิ

ขอบคุณทุกกำลังใจนะครับ

ปล.ตอนนี้กำลังเขียนภาคสองอยู่ งงๆดี เป็นงี้ทุกครั้งเลยครับเวลาเขียนเรื่องใหม่ ไอเดียกระฉูดเเต่เรียงไม่ถูกนี่ก็แย่เหมือนกัน 555+

ALeX


บทที่ 33



      “อ้าวเฮ้ยยย~~~พวกมึง ตื่นๆๆ ถึงทะเลแล้วโว้ย ตื่นได้แล้ว”

      เสียงตะโกนโวกเหวกของพี่กร สารถีที่ขับรถพาพวกเรามาถึงจังหวัดระยอง พี่กร เพื่อนก๊วนเดียวพี่มาร์คชี้โบ้ชี้เบ้ไปทางทะเล ให้พวกเรามองตามไปใหญ่

      “เฮ้ย กูขับรถให้พวกมึงนั่งมาสบายๆตั้งไกล กระตือรือร้นหน่อยซิว่ะ!”

      ทุกคนภายในรถตู้ของพ่อพี่กรเออออกันแบบงัวเงียๆ สมาชิกอันประกอบไปด้วยพี่กรคนขับ พี่เมฆ พี่โอม พี่ดอม พี่ป็อบ พี่อุ๋มแฟนพี่ดอม พี่สาเพื่อนพี่อุ๋มอีกที แล้วก็พี่มาร์ค...ทุกคนล้วนชะโงกคอมองออกไปนอกกระจก ส่วนผม...ออกจะมึนๆเพราะมัวแต่คิดอะไรรกสมองอยู่ ซึ่งมีอยู่เรื่องเดียวที่กวนใจผมได้ แม้จะพยายามรอบที่ล้านเพื่อตัดมันออกจากใจไปซะที (+-+”)

      “เป็นอะไรหรือเปล่าแดน พี่เห็นเงียบๆ”

      พี่มาร์คน่ะเอง...ผมส่ายหัวตอบไปว่าแค่เมารถ จะให้เขารู้ได้ยังไงว่าผมทะเลาะกับผู้ชายคนอื่น...ขืนพี่มาร์ครู้ ผมได้คอขาดกันพอดี...รู้ๆอยู่ว่าพี่ชายผมหน้ามืดแค่ไหนเวลาหึง =_=’

      พวกเราทุกคนมุดตัวออกมายืนสูดอากาศบริสุทธิ์ข้างนอกรถจนครบ ลมทะเลเย็นๆโชยมา พัดพาเอากลิ่นทะเลจางๆติดมาด้วย ผมสูดอากาศบริสุทธิ์เข้าเต็มปอดและพบว่าอาการปวดหัวกลุ้มใจต่างๆค่อยๆจางลง...จางลง เลือดไปเลี้ยงสมองดีขึ้น และบรรยากาศครื้นเครงทำให้ผมผ่อนคลายใจขึ้นบ้าง

      พี่กรยืนบิดขี้เกียจอยู่นาน ท่าทางแกคงปวดเอวน่าดู ส่วนคนอื่นๆช่วยกันยกกระเป๋าเข้าบ้านพักที่พี่กรเปิดเอาไว้ บ้านก็เป็นของพ่อพี่กรอีกนั่นแหละ แค่โทรศัพท์มาสั่งแปบเดียวคนทำความสะอาดก็สามารถเตรียมบ้านพักตากอากาศรับรองแขกได้ทันทีแบบสบายๆ โดยมีป้าสมบรูณ์แม่บ้านประจำคอยดูแล ‘คุณหนูกร’ อยู่ตลอดเวลาห้าวันสี่คืน

      “โธ่ป้าสมบรูณ์ครับ เลิกหอมแก้มผมได้แล้วครับ”

      ผมอดหัวเราะไปกับภาพตรงหน้าไม่ได้ ก็ป้าสมบรูณ์กำลังหอมแก้มรับขวัญคุณหนูกรอยู่ยกใหญ่ เพราะภาพพี่กร หนุ่มตี๋ตัวอ้วนใหญ่ถูกคุณป้าแก่ๆรัดคอ ก็น่าขำไม่ใช่น้อย

      “คุณกรไม่ได้มาเที่ยวตั้งนาน ป้าก็ต้องคิดถึงให้นานเป็นธรรมดาซิคะ ไปค่ะ คุณกรพาเพื่อนไปพักผ่อน ห้องผู้ชายอยู่ทางด้านซ้ายมือ ห้องผู้หญิงอยู่ขวามือติดห้องน้ำ ห้องครัวอยู่ทางด้านหลังนะคะทุกคน เดี๋ยวพักหายเหนื่อยกันสักสิบห้านาทีค่อยตามป้าไปที่ห้องครัวแล้วกัน ป้าเตรียมผลไม้แช่เย็นอร่อยๆไว้ให้ทานเยอะแยะเลย”

      พี่ผู้หญิงในชุดคล้ายๆกันกับป้าสมบรูณ์อีกสองคนรีบเข้ามาหิ้วกระเป๋าพวกเราไป ทว่าด้วยความเป็นสุภาพบุรษ...เรายืนยันว่าจะดูและตัวเองโดยไม่รบกวนคนอื่น รีบปฏิเสธด้วยความเกรงใจ พอเข้าไปในห้องที่ป้าสมบรูณ์บอก พี่กรกลับขมวดคิ้วออกมา

      “ห้องใหญ่นี่นอนได้มากสุดแค่ห้าคน...ป้าสมบรูณ์ครับ เปิดห้องเล็กให้ผมหน่อยได้ไหม?”

      “อ้าว นอนกันไม่พอเหรอค่ะ แหม ป้าก็นึกว่าจะนอนรวมกันห้องเดียวได้แล้วเชียว ลืมไปว่าหนุ่มๆของป้าตัวโตกันหมดแล้ว หญิง เอากุญแจห้องริมระเบียงให้คุณกรสิ”

      “กูขอโทษจริงๆว่ะเพื่อน...ขออาสาสองคนแล้วกัน ต้องแยกไปนอนห้องริมระเบียงนู่น ไม่มีแอร์นะ”

      “กูเองก็ได้กร” พี่มาร์คเอ่ยแทรกขึ้นด้วยความรวดเร็ว...ผมเห็นแววตาพี่มาร์ค เข้าใจความหมายว่าทำไมพี่มาร์คถึงไม่ยอมปล่อยโอกาส ‘ทอง’ นี้หลุดลอยไป

      สรุปแล้วพี่มาร์คและผม ได้ไปนอนแยกในห้องเล็กอีกห้องซึ่งไม่มีแอร์ ทว่าผิดคาด ห้องริมระเบียงที่ว่านี้กลับมีลมพัดเย็นสบายสมชื่อ เย็นกว่าเปิดแอร์อีก อีกอย่างมีวิวสวยๆเห็นตัวสะพานไม้ที่ทอดออกไปสู่ทะเล ตั้งอยู่ด้านหลังบ้านไม้ชั้นเดียวแห่งนี้ แสงแดดก็ส่องทะลุถึงทำให้ห้องดูโปร่ง เย็นสบาย และน่าอยู่กว่าห้องนอนใหญ่หลายเท่า

      “ที่สำคัญ เป็นส่วนตัวดี”

      พี่มาร์คกล่าวราวกับได้ยินความคิดของผม ยิ้มแปล้...พลางทรุดตัวลงนั่งบนเตียงสีขาวกลางห้อง…ความจริงแล้วไม่ใช่เรื่องน่าเกลียดที่ผมจะนอนห้องเดียวกับรุ่นพี่ผู้ชายสองต่อสอง เหอะๆ ถ้าหากเราสองคนไม่ได้เป็นเกย์เหมือนกันหรอกนะ

      “ทำไมมีแค่เตียงเดียว”

      “แดนก็น่าจะรู้ว่าทำไม”

      พี่มาร์คยิ้มมีเล่ห์นัย ความจริงแล้วเป็นเรื่องบังเอิญมากกว่าที่มีเตียงแค่หนึ่งหลัง...ตอนนี้ดูจากรูปการณ์ กรูชักอยากเปลี่ยนห้องนอนซะแล้วแฮะ (-_-“)      



      เสียงคลื่นทะเลสาดซัดเข้ากระทบฝั่งเป็นจังหวะระลอกที่แว่วมาแต่ไกล เสียงนกทะเลร้องก้องอยู่รอบๆตัวบ้าน...สายลมเอื่อยๆพัดเข้ามาในห้องพร้อมกับลมอบอุ่น แสงแดดข้างหน้าแรงกล้าและส่องลอดทะลุผ่านทางบานหน้าตาเข้ามาทำให้ผมตื่นนอนจากการนอนกลางวัน ผมนอนลืมตาเหม่อมองผ้าม่านสีขาวบางเบาปลิวตามสายลมสักพัก พี่มาร์คก็ขยับตัว

      “ตื่นแล้วเหรอ?”

      ผมพยักหน้ากับแผงอกกว้าง เย้ย!...นี่ผมกำลังนอนกลางวันอย่างมีความสุขอยู่ในอ้อมกอดของพี่มาร์คเหรอเนี้ย?

       ว่าแล้วก็ถอยตัวเองออกมา พยายามรักษาระยะห่าง เกลียดตัวเองที่สุดเลย...

      “คิดอะไรอยู่…”

      ผมเงยหน้าขึ้นมองคนข้างๆ หนุ่มผิวเข้ม นัยน์ตาคมลึกสองชั้น...จมูกโด่ง ที่สำคัญคือแผงขนตาที่งอนยาวดูน่าหลงไหล กำลังหลุบต่ำลงและมองมาที่ผม...ถึงขั้นนี้ตามหน้าตามคอผมก็แดงๆร้อนๆไปหมด และแล้วจมูกโด่งๆนั่นก็วูบลงมาตามลำคอ...ลึกไปตามซอกไหล่

      ผมว่าแล้ว...ว่าพี่มาร์คต้องถือโอกาสกับผมแบบนี้(บรรยากาศอ่ะเนอะ เหอะๆ -_-)

      สารภาพเลยว่า...ความจริงแล้ว ถึงแม้เราสองคนเป็นแฟนกันก็จริง แต่ก็ไม่เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งถึงขั้น...แบบว่า...อย่างงั้นมาก่อน

       ผมพยายามดึงดันตัวออก แปบเดียวเท่านั้นข้อมือของผมก็ถูกยึดไว้ ด้วยมือแข็งแรงของพี่มาร์ค

       “~ทำไม?”

       “เอ่อ...พี่มาร์คครับ ผม...”

       “ไม่ต้องพูดแล้ว~~~”

       ไอ้พี่มาร์คดำเนินการต่อ ส่วนผมที่โดนมัดมือไว้กลายๆมันลำบากมากรู้มั้ย? ฮึ!

       “อย่าครับพี่มาร์ค! ผมมีเรื่องจะคุยด้วย”

       เสียงของผมค่อนข้างสั่น แต่ก็ดังพอสมควรที่จะหยุดการกระทำของพี่มาร์คได้ ใบหน้าที่คร่อมอยู่เหนือร่างของผมแดงก่ำ ดวงตาก็เหมือนไม่ใช่พี่มาร์คแสนอบอุ่นคนเดิม...

       เป็นแววตาที่...ฉายความต้องการอย่างน่ากลัว

       ผมควรจะทำในสิ่งที่สมควรทำตั้งนานแล้ว ก่อนที่ทุกๆอย่างจะสายเกินไป

       “เรื่องอะไร” เสียงนุ่มๆนั่นไม่มีความสงสัยเลยสักนิด(ก็มัวแต่คิดเรื่องอื่นอยู่ -_-“)

       “คือ...ผม...ผมทำไม่ได้”

       “หมายความว่ายังไง?” พี่มาร์คเริ่มขมวดคิ้ว

       หากใครเอาเครื่องวัดอัตราการเต้นหัวใจมาวัดผมตอนนี้ล่ะก็ สเกลมันคงพุ่งปรี๊ดหลุดปรอทแน่ๆ

       “นี่...สิ่งนี้ไงคับ ผมไม่สามารถ...ทำได้”

      “หมายความว่า...”

       “ผมคิดว่าพี่มาร์คเป็นพี่ชายที่ผมรักมากที่สุดครับ”

       พูดไปแล้ว...โล่งชะมัด! แต่ความดีใจตรงนั้นพัดผ่านเข้ามาเยือนหัวใจผมแค่เสี้ยววินาที หลังจากนั้นความรู้สึกผิดทั้งหลายก็หลั่งไหลเข้ามาท้วมท้นจิตใจของผมแทน...

       ความเงียบระหว่างเราสองคน แยกไม่ออกเหมือนกันว่าเพราะอะไร

       

       “แดน...แดนหมายความว่ายังไงนะ”

       ผมดันตัวเองให้ลุกขึ้น พี่มาร์คอึ้งจนปล่อยผมออกจากพันธนาการในที่สุด...ผมนั่งคุกเข่าอยู่ข้างเค้า จ้องมองเข้าไปในแววตาที่เจ็บปวด

       “ผมรักพี่มาร์คนะครับ แต่ก็แบบพี่ชาย...ไม่ได้โกหกแต่ผมรู้สึกแบบนั้นมาตลอดจริงๆ...เพราะผมเลวเองที่ไม่สามารถบอกตัวเองว่าก่อนหน้านี้ผมรู้สึกกับพี่ยังไง ตอนนี้ผมรู้แล้ว...ผมไม่ได้ตั้งใจจะทำให้ใครเจ็บ แต่ผมขอโทษ-“

       ขณะที่ช่วงเวลาแห่งความกระอักกระอ่วนนั้นผ่านพ้นไปพร้อมทั้งคำพูดที่พรั่งพรูออกจากปากผม...พี่มาร์คขัดขึ้นเสียงเย็นเยียบ

       “เพราะชิพใช่มั้ย?”

       ผมอึ้ง ใช่แล้วชิพคือสาเหตุที่ผมเปลี่ยนไป

       “…”

       “นี่หมายความว่า แดน...แดนรักมันใช่มั้ย?”

       ผมไม่ตอบ ไม่แสดงอาการอะไรทั้งนั้น ได้แต่นั่งร้องไห้น้ำตานองหน้า เหตุการณ์หลังจากนั้นจำไม่ได้ว่าพี่มาร์คด่าอะไรบ้างง่ะ เหมือนสมองมันปิดตัวเอง รู้ตัวอีกทีก็นั่งปาดน้ำตาอยู่ในห้องคนเดียวเงียบๆแล้ว...



      ทำไมนะ? ทำไมผมต้องนอนฝันแปลกๆด้วย…

       ในฝัน ผมเดินอยู่ท่ามกลางทุ่งหญ้าสีเขียว ท้องฟ้าที่แจ่มใส ทะเลสีฟ้าครามและลมเย็นสบาย กลิ่นหอมของดอกไม้และกลิ่นอายแห่งความสุขล่องลอยทุกหนแห่ง ทุกอย่างดูสว่างจ้าจนแสบตา แล้ว…

      ทันใดนั้นท้องฟ้าก็มืดลง สายฝนเทกระหน่ำลงมา ผมพยายามวิ่งหาที่หลบฝน แต่ลานโล่งกว้างที่ผมเพิ่งเดินเล่นเมื่อครู่นี้กลับกลายเป็นทะเลทราย กว้างไกลสุดลูกหูลูกตา มีขอนไม้ใหญ่ตั้งอยู่มากมายเกิดเป็นเงาสีดำตะคุม ผมออกแรงเพิ่มความเร็วฝีเท้า ทันใดนั้นก็หกล้มลง ร่างสูงใหญ่ปรากฏตรงหน้า ท้องฟ้ามืดมนและเสียงฟ้าร้องทำให้ผมตกใจ ทั้งหวาด…ทั้งกลัวคนตรงหน้า

       ความรู้สึกตอนนั้น ลึกๆแล้วคือไอ้ชิพ

      ผมสะดุ้งสุดตัว เหงื่อแตกพลัก จับลมหายใจจนกลายเป็นหอบ เฮ้อ…มองไปรอบๆพลางลูบหน้าให้ตื่นๆ เนื่องจากห้องที่ผมนอนอยู่มันติดทะเล เลยไม่ค่อยได้ยินเสียงอะไรจากคนภายในบ้าน ภายในห้องว่างเปล่า

       บรรยากาศข้างนอกมืดสนิทแล้ว ความมืดเหนือน้ำทะเลเป็นความมืดที่แทบมองอะไรไม่เห็น โรยตัวอยู่รอบตัวผม…ผมรู้สึกหนาวขึ้นมาทันที หนาวแบบไม่มีเหตุผล

      ภาพใบหน้าที่คุ้นเคยของไอ้ชิพวาบขึ้นมา…แค่คิดผมก็หนาวไปทั่วทั้งตัว ทำไมน่ะเหรอ? ก็ผมเพิ่งฝันถึงมันไปหยกๆ…นี่กรูเก็บกด กลัวมันมากขนาดนี้เชียวเหรอว่ะ?

      ผมนั่งกอดตัวเองอยู่ตรงนั้น ชิพ…มันจะรู้มั้ยว่าชีวิตของผมต้องวุ่นวายเพราะมัน ไม่ใช่เพราะมันผิดหรอกนะ…น้ำตาไหลลงมาอีกแล้ว(เพลียแล้วอ่ะร้องไห้นานๆ…) เพราะผมไปรักมันต่างหาก รักมันตรงที่มันชอบแกล้งผม ชอบทำให้ผมยิ้ม ชอบทำให้ผมหัวเราะ ชอบทำให้โกรธ…ทำให้ผมหลงรักมันโดยไม่รู้ตัว

       แถมยังไม่ใช่ความรักอย่างที่ผมมีให้กับพี่วุฒิ หรือกับพี่มาร์ค…ไม่ใช่กับผู้ชายคนไหนๆ…แค่ผมคิดถึงหน้ามัน ปากมันก็ยิ้มออกมาเอง แค่คิดถึงน้ำเสียงของมัน ใจก็อบอุ่นขึ้นมาเอง…ยิ่งตอนมันห่วงใยดูแลผม เงอะงะไปหน่อยแต่ก็ดูน่ารักดี ไอ้ช็อคชิพ…

       ในขณะเดียวกันเรื่องต่างๆที่ผ่านมา ทำให้ผมเกลียดมันไม่น้อย มีอยู่ช่วงหนึ่งที่ผมเกลียดมันมาก o(>_<)o  มันชอบทำกวนตรีน(=_+”) แล้วก็ยั่วโมโหผม…มันจะรู้มั้ยนะว่ามันอ่ะ เป็นคนๆเดียวที่สามารถทำให้ผมมีความสุขได้ แต่วินาทีต่อมาก็โมโหจนอยากจะฆ่ามัน(เปล่าหรอก มันต่างหากที่จะฆ่าผม T_T)

       ยิ้มไปร้องไห้ไป ปาดน้ำตา ยิ้มให้กับตัวเอง…จะยังไงก็ตาม หากผมกับมันได้เป็นคู่กันจริงๆสักวัน ไม่ว่ามันจะทำให้ผมเสียใจแค่ไหน ก็จะยังคงรักมันอยู่ดีน่ะแหละ ยอมมาตั้งปีหนึ่งเต็มๆแล้วนี่ 555+…



       ล้างหน้าล้างตา เดินออกมาจากห้อง เอ…คนมันหายไปไหนหมดว่ะ

       เสียง ‘ตูม!’ ตามด้วยเสียงกรี๊ดกร๊าดของผู้หญิงดังมาจากหลังบ้าน เอะอะโวยวายอะไรกันว่ะ ผมรีบวิ่งไปดู ปรากฏว่า…เฮ้ย! คนเล่นน้ำอยู่ในทะเลมืดๆเต็มไปหมดเลย

       เท่าที่นับหัวดู ก็ครบ…เห็นร่างในเสื้อสีขาวยืนเท้าสะเอวทำท่าตะโกนป้องปากอยู่

       “เนี้ย ดูซิคะคุณแดน ป้าบอกให้รีบขึ้น มันมืดแล้ว ก็ไม่ยอมฟัง”

       ไม่มีใครยอมฟังจริงๆคับ ก็คงเพราะเมากันหมดแล้วอ่ะ เห็นตั้งวงซะใหญ่ขนาดนั้น

       “แถมคุณกรยังเอาเหล้ามาดื่มด้วยนะคะ เดี๋ยวป้าจะโทรฯไปฟ้องคุณพ่อ…”

       “อย่าเลยครับ สนุกนานๆครั้ง พี่กรก็กินภายใต้สายตาป้าสมบรูณ์แล้วนี่ครับ”

       ผมรีบห้าม ส่วนป้าสมบรูณ์ถอนหายใจอย่างอดไม่ได้ ส่ายหน้า

       “งั้นป้าฝากด้วยล่ะกันนะคะ ดูคุณแดนจะเป็นคนที่มีสติดีที่สุดแล้ว”

       ผมหัวเราะรับคำ เค้าว่ากันว่าถ้าอยากเล่นน้ำทะเลให้คุ้มจริงๆ ต้องเล่นตอนกลางคืน แล้วถอดเสื้อผ้าให้หมด…แต่ผมไม่กล้าหรอก (แต่อยากลองเหมือนกันแหละ แฮะๆ)

       ผมนั่งอยู่ริมหาด กอดเข่ารับลมชมดาว สักพักไอ้พี่เมฆก็วิ่งหลบมุมขึ้นมา หน้างี้แดงสุดๆ ตัวก็เปียกโชก

       “อ้าวแดน ตื่นแล้วเหรอ?”

       น้ำเสียงพี่เมฆแบบประมาณว่าสนุกสุดๆ อิจฉาคนอารมณ์ดีจังเฟ้ย! (-o -“)

      “แล้วนี่มานั่งทำอะไรตรงนี้ ไปกินเหล้าซิ”

       พี่เมฆสาธยายให้ผมฟังว่า ป้าสมบรูณ์ที่แสนดีจัดการปูเสื่อและตั้งอาหารสำหรับพวกเราไว้ที่สะพานไม้ด้านนอก ประกอบด้วยเตาเผาปิ้งย่างอาหารทะเลแบบใช้แล้วทิ้งอันเล็กๆซึ่งติดไฟร้อนพร้อมสรรพ เมื่อทุกคนทำธุระกิจส่วนตัวเรียบร้อยครบทุกคนแล้วก็เริ่มนั่งล้อมวง มีพี่ป๊อบหนุ่มอารมณ์ดี เจ้าของเสียงนุ้มๆและพี่ดอมมือกีต้าห์เทพเรียกพ่อหิ้วกีต้าไม้ตัวเขื่องมาร่วมกันขับกล่อมเพลงท่ามกลางสายลมเย็นสบาย สักพักพอเริ่มมืดหน่อย พี่กรก็แอบย่องไปอุ้มคูลเลอร์ซึ่งเตรียมไว้หลังรถมา ภายในนั้นบรรจุเครื่องดื่มมึนเมาทุกชนิดไว้สำหรับตุนความสุขตลอดห้าวันสี่คืน ผมว่าไอ้คนเล่า(พี่เมฆ)นี่แหละตัวดี กลิ่นงี้หึ่งเชีย (-_-“)ooo

       “เปล่านะ ไอ้มาร์คต่างหาก ซดมาจะสองขวดแล้ว”

       ผมทำตาโต หา??!!!

      “แดน…มันเป็นอะไรของมันหรือเปล่า? เห็นแปลกๆไป…แดนช่วยไปดูหน่อยซิ”

       “เอ่อ…” ผมกลัวการเผชิญหน้ากับพี่มาร์คอ่ะคับ

       “พี่ฝากด้วยนะ”

       ว่าแล้วเค้าก็พุ่งตัวลงไปในทะเลอีกครั้งหนึ่ง เชี่ย~~~ไม่หนาวกันเหรอไงว่ะ ไมกูหนาวจังง่ะ

      นั่งรวบรวมความกล้าต่ออีกสักพัก เดินไปตรงที่ตั้งวงเหล้า จริงด้วยแฮะ ใครคนหนึ่งนั่งคอพับคออ่อนอยู่ตรงนั้น ผมเดินไปสะกิดเบาๆ…

      “พี่มาร์คคับ…พอเถอะ”

       รอบแรกยังไม่เงยหน้าขึ้นมา

       “พี่มาร์ค~~”

      “ฮื้อ?...”

      ผมผงะไปเล็กน้อย หน้าพี่มาร์คที่เรียกว่าเข้มๆบัดนี้เห็นว่าแดงชัดเจน ผมจับตัวดู…ตัวร้อนจี๋เลย!

       “พี่มาร์คพอเถอะ นั่งตากลมจนไม่สบายแล้ว”

      “ไม่ไป…ไม่ไป อย่ามายุ่ง!”

      คนตัวใหญ่สะบัดมือออกดื้อๆ แต่ไม่ค่อยมีแรงแล้ว ผมเลยใช้กำลังหิ้วปีกเข้ามาในบ้านโดยไม่สนใจเสียงโวยวาย (พวกในทะเลไม่ได้สนใจหรอก มัวแต่เล่นไง)

      ถึงห้อง ผมทิ้งร่างหนาหนักลงบนเตียง เดินไปหยิบผ้าขนหนูในห้องกับเปิดน้ำอุ่นรองอ่างมา ถอดเสื้อผ้าพี่มาร์คแล้วเช็ดตัวให้ ท่าทางจะหนักจริงๆนะงานเนี้ย O_O…

      “แดน…ทำไมแดน…พี่ไม่ดีตรงไหน”

      ผมชะงักมือ พี่มาร์คเพ้ออะไร?

       “แดน…พี่เชื่อใจแดน แดนไม่รักพี่?...”

      มือของผมค่อยๆลู่ตกลง สั่น…เสียงสะอื้นของผมเล็ดลอดออกมา ตามด้วยเสียงโฮเบาๆทำให้ผมต้องทิ้งตัวลงไปกอดแผงอกกว้างไว้ พี่มาร์คยังคงเพ้อไม่หยุด

       “แดน…พี่รักแดน…พี่รักแดน…”

      “ผมรู้คับ ผมรู้…”

      ความรักมีหลายรูปแบบ ผมเลือกที่จะรักพี่มาร์คแบบพี่ชายจริงๆ

       ดวงตาของผมแสบร้อนขึ้นมาทันที สักพักผมก็พบว่ายากเหลือเกินที่ต้องควบคุมใจและกายของตัวเองไม่ให้สั่นไหวไปมากกว่านี้...เบ้าตาของผมปวดตุบๆไปหมดเนื่องจากการกลั้นน้ำใสๆเป็นเวลานาน…

       น้ำตาอุ่นๆไหลรินจากเบ้าตาแสบร้อนของผม ผมกอดพี่มาร์คไว้แน่น หวังว่าพี่มาร์คคงจะให้อภัยในตัวผม ถึงแม้เราจะไม่ได้เป็นแฟนกัน แต่เราก็รักกันแบบพี่น้องได้นี่

      ผมว่าพี่มาร์ครู้...ความเจ็บปวดนี้แสนทรมาน แต่ทำไมนะ...ผมถึงไม่สามารถลืมชิพ...ไม่สามารถลืมเรื่องระหว่างมันกับผมได้เสียที

       “โธ่พี่มาร์ค…พี่ชาย…ที่แสนดีของผม…”

      ผมครวญเบาๆ ไม่รู้ว่าเค้าได้ยินหรือเปล่า…กอดเค้าไว้อีกนาน จนเค้าหลับไป อ้าว ลืมให้กินยาเลย…ผมเช็ดตัวต่อจนเสร็จ เช็ดคราบน้ำตาตัวเองบ้าง…แล้วค่อยๆห่มผ้าให้พี่มาร์ค ก่อนจะเลื่อนตัวเองลงมานอนข้างล่าง ขดตัวอยู่ข้างๆเตียงด้วยความหนาว

       หนาว…จับขั้วหัวใจ

       “พี่มาร์คครับ…ผมขอโทษ”

       …นอกจากผมจะเจ็บ พี่มาร์คก็เจ็บเหมือนผมไม่แพ้กัน

      แล้วคืนนั้น ก็เป็นอีกคืนหนึ่งที่ผมเพลียจนหลับไปทั้งน้ำตา

ALeX

  • บุคคลทั่วไป
บทที่ 34



       เสียงฝนตกพร่ำพร่า บวกกับลมหนาวเย็นปนละอองฝนสัมผัสผิวกายแผ่วเบา...ผมค่อยๆลืมตาขึ้น และพบว่าความปวดหัวอย่างรุนแรงคือสิ่งแรกที่ได้รับ

       มองดูรอบตัว ใจหายเล็กน้อยที่ท้องฟ้าและบรรยากาศภายนอกมืดอืมครึม ราวกับเป็นลางร้าย…เมฆก้อนดำๆตั้งเค้าว่าจะเป็นพายุลูกใหญ่ ผมชำเลืองมองข้างบนเตียง ร่างของพี่มาร์คยังคงนอนเหยียดยาวไม่รู้เรื่องอยู่ เลยไม่ปลุก

       ผมเดินไปที่ครัว ระหว่างทางมันต้องผ่านห้องโถง สภาพสมาชิกที่เหลือของบ้านทำให้ผมรู้สึกอนาถแกมขำๆไม่น้อย ผมเห็นพี่กรเจ้าของทริปนอนก่ายเอาท่อนขาขนหน้าแข่งรุงรังขึ้นไปพาดบนอกพี่ดอมมือกีต้าร์ ส่วนตัวเองนอนเปิดพุงสีขาวกลมป่อง เป็นภาพที่น่าอนาถชวนสมเพชจริงๆ...(แอบนินทารุ่นพี่ลับหลัง ไม่บาปหรอกครับ คิคิ)

       ตอนนี้ในห้องครัวเลยเต็มไปด้วยเสียงบ่นๆๆของป้าสมบรูณ์จนพี่อุ้มกับพี่สาที่รับอาสาตื่นมาช่วยงานเริ่มมีสีหน้าเอือมระอา ผมรีบเดินตัวลีบไปหยิบยาลดไข้แล้ว สายตาป้าสมบรูณ์ก็ยังเห็นผมอยู่ดี(แงะ)…นึกว่าหลบดีแล้วเชียว!!! >_<

      “คุณแดนทานข้าวมั้ยคะ”

       สายตาคมๆนั้นจับผิด ผมตอบด้วยน้ำเสียงที่พยายามให้ดูสดใสมากที่สุดเท่าที่จะทำได้

       “เดี๋ยวก่อนครับ เผอิญว่าพี่มาร์ค เอ่อ คนที่อยู่ห้องเดียวกับผมน่ะครับ เขาเป็นไข้สูง”

       “จริงเหรอ?”

       ว่าแล้ว ทุกคนในห้องครัวก็เดินอพยพตามผมเข้ามาในห้องนอน พี่มาร์คที่นอนเหงื่อตกอยู่ปรือตาขึ้นบางๆ ผมรีบเข้าไปนั่งข้างๆเค้า

       “พี่มาร์คครับ ตื่นก่อนนะ จะได้’ทานยา”

       “ต้องพาไปโรงพยาบาลมั้ยคะเนี้ย?”

      ป้าสมบรูณ์ถามด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล

       “ไม่เป็นไรมั้งคับ เดี๋ยวผมขอเช็ดตัว วันนี้จะเฝ้าไข้เอง ไม่ต้องห่วง”

       ประตูปิดลง ผมช้อนหลังพี่มาร์คให้เขาพิงตัวผม ปลดกระดุมแล้วเช็ดตัวเบาๆ แต่ดูเหมือนพี่มาร์คจะขัดขืน…

      “พี่มาร์ค…”

      “ไม่…ไม่ต้องยุ่ง”

      ผมหน้าเสีย แต่พี่มาร์คไม่เห็นหรอก…ผมค่อยๆปล่อยร่างพี่มาร์คกลับไปนอนที่เดิม ยังไม่ลืมเป็นห่วงเรื่องยา

      “พี่มาร์คลืมกินยาครับ…”

      สรุปว่าพี่มาร์คผล๊อยหลับไปอีกและ เฮ้อ…อยากให้เค้ารู้จังว่าผมเป็นห่วงเค้ามากแค่ไหน

       “ผมขอโทษ…ผมอยากชดใช้ในสิ่งที่ตัวเองทำลงไป…”

 

      เวลาหนึ่งชั่วโมงต่อมาผมก็อาบน้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อย เจอพี่เมฆคนแรก สภาพโทรมนรกไม่ต่างจากเจ้าของบ้านและแขกท่านอื่นๆ

      “ฝนตกพร่ำทั้งวันแบบนี้ เราคงอดไปไหนแน่ๆ”

      ตามแผน ภายในวันที่สองในจังหวัดระยอง พี่กรบอกว่าจะขับรถไปกินข้าวกันก่อนที่บ้านเพ แล้วก็จะวนไปที่หาดทรายทอง(ไม่รุชื่อถูกป่ะนะคับ=_=”) เย็นนู่นถึงค่อยกลับ แต่ว่าตอนนี้แม้แต่สมรรถภาพของคนขับรถเองก็น่าเป็นห่วง...แถมเพื่อนๆคนอื่นไม่มีใครกล้าขับรถของพ่อพี่กรแทนนอกจากเจ้าตัวแน่ เราเลยได้แต่นั่งแกร่วอยู่แต่ภายในบ้าน พูดคุยกันเบาๆเพราะบรรยากาศช่างเงียบเหงาหดหู่ผิดกับเมื่อวานเหลือเกิน

       “เฮ้อ...ทะเลก็เล่นไม่ได้ เซ็งจังโว้ย!”

      พี่เมฆร้องประท้วงออกมาเบาๆด้วยอาการเซ็งจัด ก่อนจะลุกออกไปหาอะไรทำกับพวกเพื่อนๆ ปล่อยให้ผมนั่งเหม่อลอยออกไปนอกทะเลเพียงลำพัง...จะว่าไปทะเลตอนฝนพรำก็สวยไปอีกแบบ ให้ความรู้สึกเศร้าๆเคล้าความโรแมนติก...ท้องฟ้าที่เปลี่ยนเป็นสีเทาสร้างความหนาวเหน็บให้ยิ่งรู้สึกทวีคูณเพิ่มขึ้นง่ายๆ ผมนั่งกอดเข่าด้วยความหนาว ก่อนจะทนไม่ไหว ต้องลุกหนีเข้าห้องนอนไปโดยปริยาย



      …ฝนยังคงตกพร่ำอยู่จนถึงตอนเย็น เริ่มซาลง ทำให้สมาชิกทุกคนพอออกมาเดินสูดอากาศเย็นๆหลังฝนได้ที่สะพานไม้ ส่วนผมเฝ้าไข้พี่มาร์คทั้งวัน ไข้ลดลงแล้วแต่คงยังเพลีย ปลุกไม่ตื่น…

       ไอ้พี่กรเจ้าเก่ากับผองเพื่อนตัวดีรีบนำเอาเสื่อมาปูเช่นเคย ตั้งวงก๊งเหล้ากันตั้งแต่ยังไม่สามทุ่ม ประมาณสามทุ่มครึ่งสายฟ้าแลบเริ่มส่องแสงแปลบปลาบอยู่หลังก้อนเมฆดำทะมึน ผมรีบกระดกเหล้าในแก้วให้หมดๆไป

       อ๊ะ! กินเหล้าครั้งแรกอ่ะคับ เมาเร็วโคตร…(o>o<o”)

      ไอ้พวกพี่ๆมันชวนผมหรอกนะ ตอนแรกก็ปฏิเสธไปได้เรื่อย พอตอนหลังๆรุกหนักเข้า ผมเลย เอาก็เอาว่ะ จิบๆแมร่งส่งเดชนิดส์ รู้ตัวอีกที อึ๋ยo_O* เมาแล้วนี่หว่า 555+

       เข้าใจทันที ว่าทำไมคนกลุ้มชอบกินเหล้า

       จริงนะ ช่วงเวลาที่เราจดจ่ออยู่กับปากแก้ว มีเหล้าผสมเย็นๆอยู่ในมือ เหมือนเรื่องกลุ้มใจต่างๆจะพากันเลือนหายไปชั่วขณะ…ลืมหมดทุกสิ่งอย่าง เออ เจ๋งดีแฮะ…<<<(-_-“)

      ไม่รู้ว่าผมรู้สึกแปลกๆไปเองหรือเปล่า ทว่าตลอดเวลาที่นั่งอยู่ตรงนั้น ดื่มเหล้าเมาหัวราน้ำ...ผมมีความรู้สึก แค่ความรู้สึกอ่ะนะ ว่ามันเศร้าๆยังไงไม่รู้อ่ะคืนนี้

       ………

      ฝนเริ่มปอยลงมาแล้วจริงๆ ขณะนี้ตาของผมพร่ามัวไปหมด หูก็อื้ออึง ไม่รู้ว่าเสียงหัวเราะหรือเสียงดนตรีกันแน่ที่ทำเอาผมปวดหูไปหมด แยกไม่ออก ได้แต่หัวเราะเสียงดังอย่างคนบ้าคลั่งไปเรื่อยๆ ผมไม่รู้สึกสำนึกผิดเลยสักนิดตอนนี้ กลับรู้สึกสนุกที่ได้ทำตัวเป็นเด็กเสเพลใจแตกมากกว่า

       ก่อนจะเปลี่ยนเป็นลมฝนกระหน่ำลงมาอีกรอบ ทุกคนเริ่มเคลื่อนย้ายวง ตัวผมเปียกปอนไปหมด สายฟ้าแลบเพียงเสี้ยววินาทีอยู่บนท้องฟ้าส่องสว่างให้ผมพอมองเห็นทางเดินออก ผมเริ่มลุกขึ้นเดินด้วยความมึนเมา ไม่รู้ตัวหรอกว่าไปทางไหน เดินออกไปเรื่อยๆๆ ตามทางเดิน พายุฝนที่พัดหมุนรุนแรงอยู่รอบตัวไม่ทำให้ผมกลัวอีกต่อไป สนุกซะเปล่าที่ได้ทำอะไรบ้าๆแบบนี้...

       หลังจากเดินโซเซแยกย้ายกันออกมาแล้ว จำความไม่ได้ว่าใครแยกกันไปทางไหนต่อไหน...ทว่าผมเดินออกมานานและไกลมาก จนมาหยุดอยู่ที่หาดโล้งกว้างไร้ผู้คนแห่งหนึ่ง คงแถวนี้แหละ...ผมคิด เสียงครืนๆของท้องฟ้าดังกึกก้อง ผมตะโกนออกไปสุดเสียงแข่งกับสายลม

      “…ฮ่าๆๆๆ ทำไม! ทำไมไอ้ชิพ!...ทำไมกูต้องรักมึงด้วย! ทำไม!!!”

      และแล้วมือใหญ่แข็งแรงของใครคนหนึ่งก็กระชากตัวผมออกแล้วดึงไปหา คนที่ยืนอยู่ตรงหน้าผมในขณะนี้ผมลีบลู่ สูงใหญ่ ใบหน้าอันคุ้นเคยนั้นพลันวาบเข้ามาในสมอง

      “...ชิพ?!”

      ผมกระซิบ...แค่กระซิบเพียงเท่านั้น ด้วยความตกใจ ผมพลักอกมันออกไปก่อนจะวิ่งหนี...หลังต้นไม้นั่นมีทางเดินลาดปูด้วยหินหยาบๆ มีบังกะโลไม้ที่มีชานบันไดยื่นออกมา (อย่าหาว่าผมเว่อร์เลยนะคร้าบ เหอะๆ) ผมวิ่งขึ้นไป แต่ไม่ทันซะแล้ว...คนที่ตามล่ามาวิ่งไวกว่า จับผมไว้ได้ทันแล้วบดจุมพิตรุนแรงลงมาที่ริมฝีปากของผมทันที!

        “เฮ้ย!!!!...”

      ผมพยายามร้องประท้วง...แต่ไร้เรี่ยวแรง ผมพยายามบ่ายเบี่ยง...แต่ช่างรู้สึกทรมานเหลือเกินเมื่อถูกบังคับ และรู้ว่าแรงตัวเองสู้มันไม่ได้...

       ข้อมือรวมทั้งแขนของผมถูกจับอยู่ในลักษณะกอดรัด รู้สึกแปลกประหลาดมากที่สุดในชีวิตกับการต้องมายืนจูบกับผู้ชายท่ามกลางสายฝนรุนแรงตอนกลางคืนแบบนี้ ถึงแม้ว่าใจผมจะต่อต้านมากเพียงใดก็ตาม...รู้สึกผิดต่อใครบางคนจนแทบไม่อยากขอให้เขาคนนั้นให้อภัย...ทว่าร่างกายมันทำตามสัณชาติญาณตามธรรมชาติ...คือยอมให้ความสุขซาบซ่านี้ไหลจี๊ดขึ้นสมอง

       ‘เฮ้ย…ปล่อยกูน๊า!!!’ :m15: :m15: :m15:

ALeX

  • บุคคลทั่วไป
ฮ้า~~~ สุดท้ายเเละ ฝากด้วยน๊า :m13: :m13: :m13:

บทที่ 35



       รู้ตัวอีกทีผมก็ยืนตัวแข็งทื่ออยู่ในอ้อมกอดของไอ้ชิพ...ภายในห้องเล็กๆมืดสนิท มีเตียงตั้งอยู่กึ่งกลางห้อง ตัวผมสั่นไปหมดด้วยความหนาว ใจผมเองก็สั่นเพราะความกลัว ตื่นเต้น ไม่แพ้กัน...

       “ชิพ…ปล่อยกู”

       แต่มันไม่ฟัง…ร่างสูงเดินเข้ามาจับผมล้มลง กดไว้กับพื้น…เฮ้ย มึงจาทามไรกรูฟ่ะ??? O_O*!@#(>///

      นิ้วเรียวๆของชิพไล้ไปตามแก้มของผม ทำให้ร่างกายของเราสองคนเอนเข้าหากัน อ้อมกอดแข็งแรงของมันรัดแน่นขึ้นจนผมรู้สึกเจ็บหน่อยๆ ใบหน้าของชิพถูกบดบังด้วยเงามืดของเราสองคน มันเริ่มจูบผม...จูบที่รุนแรงทว่ายิ่งต้องการเพิ่มขึ้นทุกๆวินาที

       มันเร่งถอดเสื้อผมออก เท่านั้นแหละ ผมขัดขืนมันนิดเดียวเองง่ะ…แต่ชั่ววินาทีที่ไอ้ชิพเปลื้องผ้ามันแล้วเปลื้องผ้าผม…ผมร้องลั่นออกมาด้วยความเจ็บปวด >/////<

       “มึง…ทำไม…ต้อง…ปั่นหัวกูด้วย!”

      ทุกจังหวะหนักหน่วงที่มันบุกเข้ามาโดยไม่ทันตั้งตัว ผมได้แต่โดนมัน…เอ่อ กระทำ ต้องก้มหน้าไปกับพื้น หลับตาปี๋ อ้าปากร้องแต่มันไม่มีเสียง…เจ็บชิบหาย O[]O!! ไอ้ชิพยังคงเน้นกระแทกกระทั้นทุกจังหวะ ร่างผมเหมือนจะแตกเป็นเสี่ยงๆ ชิพ…มันตั้งใจทำร้ายผมด้วยวิธีนี้จริงๆเหรอ?

       มันโน้มลงมากอดผมจากทางด้านหลัง กัดเข้ามาที่ซอกคอ อ๊ากกกกก!!! พึมพำอะไรไม่รู้ที่หู สักพักตัวมันก็สั่น กระตุกอย่างน่ากลัว…อีกสองสามทีผมก็รู้สึกได้ถึงความแสบร้อน ณ ตรงที่ๆเราสองคนยังแนบสนิทกันอยู่…และความอุ่นร้อนของอะไรบางอย่างข้างในตัวผม

      โห…นี่ขนาดยังเหลืออันเดิร์แวร์ตัวจิ๋วของผมกับบอกเซอร์ของอีกฝ่ายเท่านั้นนะเนี้ย…เสียงลมฝนพัดกระหึมภายนอกโหมแรงขึ้น แวบเดียวที่สายฟ้าฟาดผ่าน ร่างร้อนระอุของชิพก็ทับลงมาบนตัวผม นอนบดเบียดไปด้วยกันอย่างเร่าร้อน จู่ๆมันก็กัดลำคอผมอย่างแรงอีกครั้ง ทว่าไม่ทันได้ร้องเพราะมันรีบจ่อปากมาปิดโอกาสของผมไว้...แสงวาบอีกทีผมเห็นสีหน้าเจ็บปวดแหยเกของมัน ไม่ใช่เจ็บปวดอะไร แต่เป็นเพราะมันกำลังมีความสุขมากต่างหาก...(ไอ้เลว แต่กรูเจ็บนะเฟ้ย!)

       มันกอดผมไว้ จัดท่าทางของเราให้เป็นปกติ(คือการเอาไว้อันเดอร์แวร์ออกไปให้พ้นๆขา)…มันค่อยๆเคลื่อนตัวอีกครั้ง เชรี่ย??? มึงยังไม่พอใจอีกเหรอ…

      “อะ…โอย กูเจ็บ”

      “กูก็เจ็บ…เจ็บใจที่มึงไม่เคย ไม่เคยมองเห็นกู ต้องให้กูทำแบบนี้ใช่มั้ย? มึงถึงจะยอมรับ”

       คำพูดของมันเสียดแทงใจของผม ทำให้ผมหมดแรงขัดขืน น้ำตาอยู่ๆมันก็ไหลลงมาพรากๆ…หมายความว่ามันรักที่จะใช้กำลังกับผมมากกว่ารักตัวผมใช่มั้ย?

      สักพัก ผมรู้สึกได้ถึงความเสียวซ่านแปลกๆ จังหวะของไอ้ชิพรวดเร็วกระชับขึ้น มันบดเบียดเข้ามา เพิ่มความร้อนระอุจนผมถึงกับต้องร้องครางออกมาว่า…

      “อ๊า~~~”

      ผมไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน ไอ้ชิพใช้มือหนาๆของมันจับเอวผมไว้ แล้วหลังจากนั้น…>.<

      “อ๊า!!!...อ๊ะ!~~~”

      ไอ้ชิพล้มตัวลงมา กลิ้งให้ผมที่กำลังงุนงงกับความรู้สึกเสียวซ่าน ความรู้สึกสุขสุดยอดเกินบรรยาย เหมือนมีพลุนับล้านๆดวงมาแตกอยู่หลังม่านตา…นอนเคียงข้างมัน ปล่อยให้มันกอดไว้ ผ่อนลมหายใจไปพร้อมๆกัน

      

       ลมหายใจของเราทั้งคู่เริ่มผ่อนแรงลงกลับสู่จังหวะเดิม ผมนอนหันหลังให้มันพลางก้มหน้าในความมืด...และแล้วสิ่งที่คุกกรุ่นมานานระหว่างเราสองคนก็เกิดขึ้นจนได้ ผมได้มีอะไรกับไอ้เพื่อนชายหน้าหล่อคนนี้แล้ว...

       ครั้งแรกในชีวิต

       กับเพื่อนสนิท...ชิพ...

       ดูเหมือนว่าทั้งหมดที่ประกอบขึ้นเป็นไอ้ชิพนั้นน่าทึ่ง...เด็กหนุ่มที่เสน่ห์แรง เร่าร้อน...จูบของชิพตื่นเต้น รุนแรง และเย้ายวน ผิวสัมผัสของมันร้อนแรง แข็งแกร่งแล้วก็อ่อนโยนในคราเดียวกัน...

        ให้ตายเถอะ! ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าผมกำลังนอนนึกอะไรบ้าๆอยู่ข้างมัน

       รู้สึกว่าตัวเองเลวมาก ผมก็ไม่ต่างอะไรไปจากคนหลอกลวง ถูกแล้วที่พี่มาร์คเคยว่าผม...คนทรยศ ผมทำผิดซ้ำซากหลายครั้งหลายครา ทั้งร่างกายและจิตใจ...

       จนรู้สึกยากที่จะให้อภัยตัวเอง

       เจ็บปวดร้องไห้ไปตอนนี้ก็เสียเวลาเปล่า...ผมได้สติลุกขึ้นท่ามกลางความมืดและเสียงฝนพรำ รู้สึกโหวงๆ...เจ็บปวดใจยังไงไม่รู้ อยากให้เป็นแค่ฝัน แค่ความฝันเท่านั้น...

       แต่ไอ้เจ้าของร่างสูงข้างๆนี่ซิ มันไม่ใช่ความฝันสักนิด

       ความน้อยใจของผมทะลักเข้ามา…มันบังคับผม ด้วยความไม่ยินยอม ด้วยความไม่เต็มใจในตอนแรก…แต่แล้วผมกลับหลงในบทรักของมันเอง แต่กระนั้นมันก็ไม่ได้บอกว่ามันทำไปเพื่ออะไร

      มันแค้นผมเหรอ? ที่แอบตามมาถึงนี้เพียงเพื่อจะมาทำร้ายกัน ล้างแค้นกัน แค่นี้ ใช่มั้ย?

      “แดน...”

      เงาตะคุ่มๆลุกพรวดตาม ผมไม่ทันได้สังเกตหรอก น้ำตานองหน้าหมดแล้ว

      “แดน อย่าเพิ่งไป”

      “ไม่...ไม่ต้องพูดแล้ว” เออ... อารมณ์พาไป น้อยใจมันง่ะ (ขี้แง>~>~(+_+))

      “ไม่...” เราสองคนนั่งชิดกันบนเตียง มีผ้าห่มไว้ผืนเดียวกัน เปลือยเปล่าทั้งคู่แต่ก็ไม่อายแล้วแหละ...ชิพเอาหัวแม่มือวาดแก้มผม เช็ดน้ำตาออกไป แต่ผมเกลียดมันเวลามันทำแบบนี้ เวลามันสัมผัสอ่อนโยน...มองผมด้วยสายตาที่ผมรู้ความหมายดี...ลึกซึ้งทั่วทั้งห้วงหัวใจ...แต่ไม่ยอมรับมาโดยตลอด ตอนนี้หัวใจผมมันเต้นช้าลงและเจ็บปวด จนเหมือนทุกอัตราการเต้นแต่ละครั้งจะทำให้อกของผมทนรับต่อไปอีกไม่ได้...

       “ทำไมชิพ? แค่กูไม่ได้รับรักมึง มึงต้องทำลายกูแบบนี้เลยเหรอ?”

       ว่าแล้วก็เริ่มทุบมัน ทุบเป็นว่าเล่นโดยไม่ทันมอง ตาพร่าหมดแล้ว!

       แต่ไอ้ชิพทำสิ่งที่เกินความคาดหมาย แทนที่มันจะต่อยผมสลบเหมือด??? มันกลับ…รีบคว้าร่างผมเข้าไปกอด จูบผมที่สันมือเบาๆ…

       “แดน...กูรักมึงนะ กูฝันว่าจะได้กอดมึงแบบนี้มานานมากแล้ว”

       “ไม่...ไม่จริง มึงเกลียดกู กูก็เกลียดมึงเว้ย!”

       ฮือ…ฮึก…ฮึก…ใครบอก กูรักมึงที่สุดต่างหาก

       “ไม่ใช่!” ไอ้ชิพห้วนเสียง กอดผมแน่นจนเจ็บ “มึงอย่าโกหกกู อย่างน้อยอย่าโกหกตัวเองอีกต่อไปเลยว่า...มึงก็มีความสุข มึงรักกู…กูรักมึงมากนะ”

       ความสุข...ถ้าไอ้ความเจ็บปวดขมขื่นในตอนแรก...และความเสียวซาบซ่าในเวลาต่อมาคือความสุขอย่างที่มันว่า ก็คงไม่ผิดหรอกครับ

       ‘กูรักมึงมากนะ…’

      คำๆนี้มันค่อยๆไหลไปตามร่าง อืม…มีความสุขจัง

       ชิพทำให้ผมมีความสุข

       “…แล้วมึงทำแบบนื้ทำไม?”

      “ไม่รู้ซิ…เพราะกูทนไม่ไหวแล้วมั้ง?”

       ไอ้บ้า เหตุผลทุเรศ

      “จะสนทำไม ก็ตอนนี้กูมีความสุขแล้ว”

       เออดิ ได้กูแล้วนี่… \(-_-*)

      “กูเมา…ไม่รู้เรื่องหรอก”

       “ฮื้อ? ไม่จริง”

       เอ่อ อธิบายไงดี…สภาพผมในตอนนี้คือนั่งอยู่บนตักมันอ่ะคับ หันหน้าเข้าหากัน ไม่กล้าสบตาหรอกนะ…มันจับมือผม ค่อยๆเลื่อนเอาไปวางไว้บนหน้าท้อง ที่เต็มไปด้วยกล้ามมัดๆแข็งแกร่งของมัน ค่อยๆให้มือผมลูบลงไป…ลูบลงไป ปากมันก็ไล้ลงมาเรื่อยตั้งแต่ข้างแก้ม พลางกระซิบเบาๆว่า

      “อย่างนี้น่ะเหรอเมา…”

      ผมก้มหน้างุด…มือของผมสัมผัสเข้ากับกระบอกไฟฉายอันเขื่อง ที่รอพร้อมให้บริการแล้ว…ท่ามกลางความมืด…เสียงไอ้ชิพครางฮึมๆพึงพอใจ

      “ยอมรับหรือยัง?”

       ผมพยักหน้าช้าๆอย่างเลื่อนลอย

       “กูมีความสุข...จากไออุ่นของมึง”

       ชิพพูดเหมือนกำลังยิ้ม

       “กูก็เหมือนกัน…”

        ชิพยกตัวผมนั่งลง คราวนี้ไม่เจ็บอย่างที่คิดแฮะ…ยอมรับว่าตอนนั้นถึงแม้ว่าสมองจะยังคงมึนๆ แต่ก็รับรู้ได้ถึงเจ็ดสิบเปอร์เซ็นท์ รู้สึกตัวทุกอย่าง จะเลิกก็ได้แต่…

      ไอ้ชิพกอดผมไว้แน่นอย่างนี้…(ขอโยนความผิดให้ชิพก่อนนะงวดนี้>.<)

      “แล้วกูเป็นอะไรกับมึง?” ผมถาม

      “ไม่ได้เป็นอะไรทั้งนั้น...ขอแค่ให้กูได้รักมึง...ได้มั้ย?”

       ร่างของเราขยับไปพร้อมๆกันด้วยความเย้ายวน ช้าๆ…

      ชิพกอดผม ในอ้อมแขนอบอุ่น ชิพสัญญา...สัญญา...เสียงเว้าวอนเศร้าๆนั้นยังคงดังก้องอยู่ในหู

      “กูสัญญา กูจะรักมึงตลอดไป...”

       “…”

      “เป็นกำลังใจ ในยามที่มึงท้อแท้...เป็นความหวัง ในยามที่มึงหมดหนทาง...มึงล่ะ รักกูรึเปล่า?...”

      ผมกอดตอบ พยักหน้ารับคำชิพ...ตอนนี้ผมหักห้ามใจตัวเองต่อไปไม่ไหวอีกแล้ว ผมรักผู้ชายคนนี้มาก นอกเหนือจากนั้นคือความรู้สึกดีๆที่มีระหว่างกันเสมอ ผมไม่เสียใจเลยแม้แต่น้อยที่รักชิพ แต่ไม่ได้หมายความว่าผมไม่รู้สึกผิดที่ต้องทำร้ายหัวใจพี่มาร์คแบบนี้...

       ทุกๆสัมผัส ทุกๆลมหายใจ ทุกๆถ้อยคำ...ทำให้ผมต้องจดจำและยากจะลบเลือนคืนนี้ไปตลอดชีวิต

       ผมได้ยินเสียงชิพครางเบาๆอยู่ด้านหลัง พลอยทำให้ผมยิ้มไปด้วย

      “นึกว่าจะไม่บอกซะแล้ว”

      ผมเป็นฝ่ายจูบปากมัน ก็แปลกดีนะเพราะผมไม่เคยเริ่มจูบปากชิพ ซึ่งเป็นเพื่อนผู้ชายที่สนิทที่สุดของผม ตอนนี้เป็นมากกว่านั้น...ความรู้สึกที่มีมันอยู่ในตัวผม ช่างอธิบายไม่ถูก บทรักลึกซึ้งช้าๆแต่หอมหวานบรรเลงไปเรื่อยตลอดทั้งคืนโดยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย...ชิพหลับไปก่อน ข้างๆผม หนุนแขนในอ้อมกอดของผม รู้สึกถึงความละเอียดอ่อน...ผมจูบหน้าผากมันด้วยความรัก ประทับตราแทนหัวใจของผม ที่มอบให้มันแล้วหมดทั้งดวง


       โปรดติดตามตอนต่อไป

ออฟไลน์ naja

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 708
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0

myLoveIsYOu

  • บุคคลทั่วไป
แหม่ ผมเดาผิดไปซะได้  :m23:

แต่ตอนที่ 35 แบบว่าตายไปเลย  :m25: :o8:

ออฟไลน์ -~iK@iZ_KunG~-

  • Tomorrow Never Die!!!
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2231
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +220/-2
ในที่สุดชิพกับแดนก้อลงเอยกัน

ต่อไปจะเป็นยังไงน้า  :m1: :m1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ artday

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1

[D]a[D]a [T]oo[N]

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ ● MaYa~Boy ●

  • ฉันมันคนขี้อิจฉา
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3998
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-2
แอบสงสารพี่มาร์คนะเนี่ย ขอได้ป่ะ 555

ออฟไลน์ DeShiWa

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-9
 :impress: :impress: :impress:

ก็เชียร์แดน กับ ชิพ อะครับ

แต่ก็สงสารพี่มาร์คอะครับ

พี่มาร์ครู้คงเจ็บปวดน่าดู

คิดแล้วก็อดสงสารไม่ได้อะครับ

แต่แดนคิดถูกแล้วครับที่ยอมมีไรกับชิพ

จ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกก

 :impress: :impress: :impress:

fantastic_7

  • บุคคลทั่วไป
 :m4: กำลังสนุกเลยรีบมาต่อไวไวนะครับ เป็นกำลังใจให้ ชิพ & แดน นะครับ :m1:

ออฟไลน์ ★L'Hôpital

  • แค่เราได้พบกัน...
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1521
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-18
 :m25: :m1:
ในที่สุดก็ลงเอยกันแล้ว
ดีใจด้วยที่แดนเข้าใจความรู้สึกของตัวเองได้แล้ว  :oni2:

ps. ว่าแต่พี่มาร์คไม่มีใครแล้ว...ผมขอนะ  :o8:

ifwedo

  • บุคคลทั่วไป

Bizcuit

  • บุคคลทั่วไป
อืมๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

 :m30:  :m30:  :m30:

แรงได้อีกอ่ะครับ

 :m25:  :m25:  :m25:

YoOl

  • บุคคลทั่วไป

^AugusZaa^

  • บุคคลทั่วไป
อ่านยังไม่จบ รี ไว้ก่อน

หนุก ดีคับ

นารักดีด้วย

คอยลุ้นว่าแดนจะลงเอยกับคราย????????

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด