...จะไม่มีช่องว่าง ระหว่างเรา...ชิพ&แดน Series <<<
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ...จะไม่มีช่องว่าง ระหว่างเรา...ชิพ&แดน Series <<<  (อ่าน 434880 ครั้ง)

ออฟไลน์ nirun4

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 491
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
มาต่อเร็ว ๆ นะครับ อยากอ่านทุกวันครับ   :oni2: :oni2:

sixty-3

  • บุคคลทั่วไป
 :L2:
กลับมาแล้ว ขอให้เจอกันไวๆ

BEta-K

  • บุคคลทั่วไป
มาต่อทั้งที สั้นนิดเดียว :sad2: :serius2:

ออฟไลน์ both^^

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +730/-4
สั้นไปม้ายยยยยยยยยยยยยยยยยยย


เมื่อไหร่จะเจอกันนี่ :serius2:

ออฟไลน์ Tetjinen

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 390
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0
 :a2: เอาอีกครับ อิอิ

snowblack

  • บุคคลทั่วไป
ลุ้นตัวโก่ง  :oni2:

@#Jackie#@

  • บุคคลทั่วไป
กลับมาติดตามต่อครับ  :oni2:

ออฟไลน์ kaporzung

  • magKapleVE
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-2
    • Get vivid impressions and unforgettable emotions
เย้ๆ แดนกลับมาแล้ว ^^

น่ารักจังเลยยยย  :m1:

ว่าแต่ภาคนี้ จะเกิดไรขึ้นมั่งน้า

ลุ้นๆๆๆ มาต่อไวๆนะคะ  :m4:

ALeX

  • บุคคลทั่วไป
เนื่องจากเมื่อวานมาต่อสั้น วันนี้เลยมาลงให้อีก ^-^

ปล.วันนี้ผมได้ไปเที่ยวสองต่อสองกับคนที่แอบชอบมาตั้งเเต่เปิดคอร์สแล้วด้วย อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก มีความสุขมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก~~~ :oni2: :oni2: :oni1: :oni1: :oni1: :oni1: :oni1: :oni1: :oni1: :oni1: :oni1: :oni1: :oni1: :oni1: :oni1: :oni1:




บทที่ 3



       “พี่มาร์ค เดี๋ยวผมขอยืมรถหน่อยนะครับ”

      พี่มาร์คโยนกุญแจรถแวนที่จอดอยู่ในโรงรถให้ผม ขณะกำลังง่วนอยู่กับการทำครัวกุ๊กกิ๊กสองต่อสองกับพี่เมฆ...ทำไปเล่นไปไม่ซีเรียสอะไรงั้นๆ
แหละ -_-“ เดี๋ยวอีกฝ่ายก็เอาน้ำสลัดป้ายปากอีกฝ่าย เดี๋ยวก็แก้คืนด้วยการเอาไข่ต้มทั้งฟองยัดปาก...เห็นภาพที่น่าอิจฉาแล้วมีความสุขจนต้องอมยิ้ม ผมเลยรีบหลบออก
มาก่อน…ก่อนที่จะเห็นภาพคู่รักหวานฉ่ำ(เลยเถิด)ไปกันมากกว่านี้ >.<

       ก้าวขึ้นไปนั่งบนรถบ้านขนาดใหญ่ ก็เจ้าของเขาเป็นผู้ชายร่างสูงใหญ่ด้วยกันทั้งคู่

       ผมสวมแว่นตากันแดดและพร้อมจะออกร่อนเร่บ้างแล้ว...วันนี้ถือเป็นวันสุดท้ายก่อนจะเริ่มงานที่บริษัทอย่างจริงจัง ก่อนหน้านี้ผมศึกษาเรียนรู้และ
พยายามทำความเข้าใจกับระบบงานทั้งหมดโดยมีเทรนเนอร์เป็นพี่มาร์คเสียส่วนใหญ่(ไอ้พี่เมฆไม่ทำอะไรหรอก…) ปรึกษา(เคี้ยวเข็ญ)กันอยู่หลายวันเหมือนกันกว่า
ผมจะเก็ทอะไรขึ้นมาบ้าง (o_O*”)

       เป้าหมายคือขับรถพักผ่อนอารมณ์หลังจากมึนสุดๆกับงานมาหลายวัน ผมกะจะขับรถสำรวจเมืองไปเรื่อยๆ อยากไปที่ไหนก็ไป ไม่มีสถานที่ซึ่งแน่
นอน โดยช่วงเช้าผมแวะไปไหว้พระแถวท่าน้ำนนท์ พอรู้สึกแจ่มใสขึ้นบ้าง ก็ออกเดินทางต่อ

       ระหว่างทางได้สังเกตสิ่งต่างๆรอบตัว...กรุงเทพฯเปลี่ยนไปมาก ทั้งตึกรามบ้านช่อง ผู้คน การใช้ชีวิต...ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็มีแต่ห้างสรรพ
สินค้าและรถราที่ติดหนักกว่าเดิมเมื่อสิบก่อนซะอีก ป้ายโฆษณาใหญ่โตผุดขึ้นอย่างกับดอกเห็ด มองไปทางไหนก็รกหูรกตาแถมยังมั่วไปหมด...ในที่สุดก็หลงทางจนได้

       ...เที่ยงแล้ว ผมพอจะจำทางได้บ้าง ลัดเลาะไปเรื่อยๆก็มาโผล่ที่ย่านราชวัตร ผมรีบจอดรถที่ข้างทางแล้วตรงดิ่งเข้าร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อเจ้าเก่า ที่แม้กาล
เวลาเปลี่ยนไป...ก็ยังอร่อยอยู่เช่นเดิม(จริงๆ^o^) จากนั้นก็เดินดูผลไม้ในตลาดสักหน่อย ได้ชมพู่สดกับมะม่วงสุกกลับไปฝากสองหนุ่มที่บ้านด้วยราคาก็ไม่ได้ถูกไม่ได้
แพงนักจากที่เคยซื้ออยู่ประจำ บ่ายโมง...ผมก็กลับมานั่งอยู่ที่หลังพวงมาลัยเหมือนเดิม

       ขับรถไปเรื่อยๆ...ไม่รู้จะไปไหนดี เลยลองแวะเข้าถนนทางลัด...ไปโผล่อีกทีที่ห้างดัง...ผู้คนยังคงคราคร่ำ...ภาพคราวที่ผมกับเขาเคยเดินอยู่ในนั้น
ด้วยกันย้อนกลับมา ถึงกับทำให้ต้องหลับตาลงชั่วครู่เพราะความเจ็บจี๊ดซึ่งพุ่งขึ้นมาตอกแน่นลงไป...จนหายใจแทบไม่ออก ต้องรีบขับไปให้ไกลออกจากละแวกนั้นทันที

       ไม่รู้ขับมาอีท่าไหน...ผมก็วนกลับมาที่เดิมแต่เป็นอีกด้านหนึ่ง...ขับไปเรื่อยๆก็เริ่มคุ้นตา เอ๊ะใจ...นี่คือคอนโดเก่าที่เคยตั้งอยู่ แต่ตอนนี้เปลี่ยนเป็น
ห้างใหม่แล้ว...ผมรู้สึกโหวงๆยังไงไม่รู้เมื่อขับรถผ่านมัน...ภาพและความรู้สึก กลิ่นอาย ความทรงจำ...เรื่องเก่าๆทุกอย่างค่อยๆปรากฏขึ้นชัดเจน...ผมยังจำได้ว่า...มีอยู่
วันหนึ่งเขาเดินออกมาจากห้องน้ำ เห็นผมนั่งยิ้มอยู่คนเดียว...เขาถามว่ายิ้มอะไร? ผมเลยตอบว่ายิ้ม...เพราะกำลังมีความสุขที่ได้อยู่เคียงข้างกัน...

       วันนี้...ผมสูญเสียเขาไปแล้ว

       แปลก ที่ผมไม่รู้สึกโทษตัวเองเลยสักนิด...การปล่อยเขาไปอาจจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดระหว่างเราสองคน...แต่ความเสียจอันแสนทรมานนี้ซิ...มัน
ยากจะลืมเลือน

       

       หลังจากหนีการจราจรอันคับคั่งออกมานอกตัวเมืองได้แล้ว ผมขับรถไกลขึ้นเรื่อยๆ...สองข้างทางกลายเป็นทุ่งโล่งให้พักสายตาได้บ้าง ผมกำลังมุ่ง
หน้าตรงสู่สถานตากอากาศบางปู เหมือนที่พ่อกับแม่เคยพามาเที่ยวครั้งยังเด็กๆ

       ยังจำได้...สะพานใหญ่โล่งกว้าง สีขาวสะอาดตาซึ่งทอดตัวยาวเข้าไปสู่ท้องทะเลอันกว้างใหญ่ไกลสุดลูกหูลูกตา บัดนี้ผมกำลังเดินอยู่บนสะพานแห่งนี้
อีกครั้ง เพียงแต่มันมีรถราจอดกันเต็มพรืดไปหมด...ป่าชายเลนที่ทุกคนช่วยกันปลูกและดูแลรักษาเจริญเติบโตจนกลับมาสมบรูณ์ดังเดิม นกนางนวลที่มีปริมาณลดลงเล็ก
น้อยยังคงบินโฉบไปมาเหนือศีรษะเพื่องับอาหารที่คนโปรยขึ้นไป พวกมันส่งเสียงกลบคลื่นทะเลและแรงลมโกรกเย็นสบาย...ขาของผมสั่งให้เดินทอดน่องไปตามทาง จน
เกือบสุดแล้วผมก็ยืนหันหน้าออกทะเล พิงตัวกับเสาปูนแล้วหลับตาลงพลางสูดอากาศบริสุทธิ์...สัมผัสถึงความสุขสงบแห่งการได้อยู่คนเดียว เงียบๆ เป็นส่วนตัว

       เสียงคนเดินมาพร้อมทั้งเสียงหัวเราะคิกคักทำให้ผมเหลือบไปมอง...คู่รักคู่หนึ่งเดินควงแขนกันมาหน้าตายิ้มแย้ม...ปกติภาพชินตาเยี่ยงนี้จะไม่มีผล
อะไรต่อผมนัก...แต่หลังจากที่กลับมาเมืองไทยอีกครั้ง ความทรงจำ บรรยากาศ กลิ่นอายที่คุ้นเคยต่างๆทำให้ผมหวั่นไหว...ใจที่เต้นเป็นจังหวะเดิมมันสั่นๆและปวดร้าว
ขึ้นมาทันที ผมเบือนหน้าหนี...พยายามทอดสายตามองออกไปไกลๆ...

       ทว่าหยาดน้ำตาที่เอ่อคลอมานานมันห้ามไว้ไม่อยู่...

       ผมไม่เคยเสียน้ำตา...ไม่เคยร้องไห้จนกระทั่งวันนี้ สิบปีมาแล้วที่ผมอดทนและเก็บมันไว้ข้างในส่วนลึก...

       ผมปล่อยเสียงโฮออกมาจากร่างกาย ปล่อยให้มันลอยออกไปตามสายลม...สายลมที่คอยช่วยกลบเสียงและนำพาคำพูดของผมไปให้เขาได้ยิน...ไม่
ว่าจะยังไงก็ตาม ผมยังรักและหวังดีเขาหมดหัวใจ...

       “ผมรักคุณ...ผมรักคุณได้ยินมั้ย...ตลอดเวลาที่ผ่านมาผมไม่เคยเลิกคิดถึงคุณ คุณคือหัวใจของผม...”

      ก้มหน้าลงเพื่อเช็ดน้ำตาและซ่อนร่องรอยแห่งความเจ็บปวดไว้...แค่พูดออกมาคนเดียวโดยไม่อายใครแบบนี้ก็แปลกจะแย่...แต่เชื่อมั้ยว่าผมไม่
สนใจเลยจริงๆ

       ทบทวนเรื่องราวทุกอย่างในชีวิต...แล้วรู้สึกว่ากาลเวลาช่างโหดร้าย มันผ่านไปช้าเหลือเกินสำหรับตัวผม...ผมอยากให้ถึงวันที่ผมตายลง วิญญาณ
หลุดออกจากร่าง ไปมีชีวิตใหม่ ผมจะได้ลืมความทุกข์ทรมานเหล่านี้...ทุกข์ที่เจ็บปวดมากขนาดนี้ ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่ามันเจ็บขนาดนี้...ผมยังอึ้งที่ตัวเองทนทรมานมา
นานได้ยังไง?...

       มีบางครั้งที่ผมคิดว่าความตายอาจจะทำให้มันสงบลง...หลายครั้งที่ผมคิดโง่ๆ แต่ทุกครั้งที่ผมนึกถึงใบหน้าในความทรงจำอันแจ่มชัดนั้น...ทำให้ผม
ฉุกคิด...ยังอยากมีแรงได้นอนหลับฝันเห็นถึงเขา...ยังอยากมีแรงได้ครุ่นคิดถึงยามเราเหงาๆ...หรือยังอยากมีแรงได้กลับมาเจอเขาสักวันเมื่อเวลานั้นมาถึง

       ...ทะเลอันกว้างใหญ่เวิ้งว้าง...ผมปาดน้ำตา สักพักจึงหัวเราะออกมาเบาๆ...โง่จริง ทำไมเราถึงขี้แงแบบนี้นะ?

       ไม่รู้ว่าตอนนี้เขาจะเป็นเช่นไร?...เขาจะมีชีวิตใหม่ที่แสนดีและเพียบพร้อมแล้วหรือเปล่า?...แต่ผมสาบานได้เลยว่าไม่ต้องการอะไรจากเขาเลยแม้
แต่ความรักก็ตาม หากนั่นเป็นสิ่งที่มอดดับลงแล้วสำหรับเขา...ขอแค่ให้เพียงผมได้รักเขา ส่งกำลังใจให้...คอยคิดถึง เท่านี้ผมก็สามารถใช้ชีวิตอยู่ต่อได้แล้ว

      ...พระอาทิตย์ใกล้จะลาลับขอบฟ้า สาดส่องแสงสีทองประกายเป็นเงาทาบระยิบระยับบนผิวน้ำ มองไกลออกไปจนสะท้อนคล้ายแผ่นทองที่สวยงามจับ
ตา...ภาพนี้ทำให้ผมใจหาย มันตราตรึงอยู่ในใจ ความโดดเด่นของมันโลดแล่นล้อแสงไฟอยู่บนนัยน์ตา...ในที่สุดผมก็ปล่อยมือออกมาจากเสาปูน เดินหันหลังมา โบกมือ
ลาอยู่ในใจ...จะอีกนานสักแค่ไหนนักเชียวกว่าจะได้กลับมาอีกครั้ง ผมเองก็ยังไม่รู้ ไม่มีใครรู้...

       แต่ผมรู้ว่าทุกคน...สักวันหนึ่งต้องกลายเป็นผุยผงล่องลอยอยู่ในมหาสมุทรด้วยกันทั้งนั้น...

       ล้วนไม่มีข้อยกเว้น





ออฟไลน์ nirun4

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 491
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






@#Jackie#@

  • บุคคลทั่วไป
เข้ามาติดตามครับ  :oni2:

มาขู่น้อง Alex ถ้าภาคนี้ไม่สมหวัง ไม่หวาน จะแช่งให้รักของน้อง Alex ไม่หวานและไม่ราบรื่นเลย หุหุ  :laugh: :oni3:

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10

ออฟไลน์ DeShiWa

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-9
 :impress: :impress: :impress:

พราดไปได้ไงตั้ง3ตอน

เพิ่งรู้นะครับเนี้ย

ว่า มาลงให้แล้วอะครับ

เป็นกำลังใจให้ครับผม

เจอกันเร็วๆๆนะครับ

คิดถึงแดนกับ ชิพ อะครับ

ปานนี้ไม่รู้ชิพเป็นไงบ้างอะครับ

หวังว่าคงไม่ไปแอบมีลูกเมียที่ไหนก่อนนะครับ

 :impress: :impress: :impress:

ออฟไลน์ A GE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1174
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-1
 :sad2: :sad2: การอยู่กับความสุขมันผ่านไปอย่างรวดเร็ว  แต่ความทุกข์นี่กว่าจะผ่านไปได้แต่ละวันก็เหมือนกับชั่วชีวิตเลยนะครับ  :m15: :m15:

แต่ฟ้าหลังฝนมักจะสว่างสดใสแล้วก็งดงามมากกว่าที่เคยเหนนะครับ :m13: :m13:

ออฟไลน์ Tetjinen

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 390
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
แล้วสองคนนี้ จะมาเจอกันได้ยังไง น่าลุ้นจิงๆ

snowblack

  • บุคคลทั่วไป
เฮ้อ.. :เฮ้อ:...เศร้า  :sad2:

เจอกันเร็วๆนะ  :a2:

ออฟไลน์ MayMaMee

  • ต้องอ่านนิยายวายทุกวัน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 269
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
แง้.....

อีกแล้ว มะน่าหลวมตัวมาอ่านเลย

แง้.....
ฮื่อออ

อ่านจบทั้งหมดภาพใน 3 ชม. ปวดตาจะตายอยู่แล้ว

ถ้าจะให้วิจารณ์ คือ...

เอาคำจำกัดความสั้นๆ เลยนะคะ มะโกรธเนอะ

คือ มันเน่ามากกกก

แต่ก็เป็นแบบที่ชอบไง ชอบเน่าๆ
คล้ายๆ ละครทีวี แต่เปลี่ยนนางเอกเป็นนายเอก

ถูกใจมากค่า

ขอบคุณมากนะคะที่แต่งมาให้ได้อ่านกัน

ขอไปรักษาความบอบช้ำรอบดวงตาก่อนนะคะ

ออฟไลน์ kaporzung

  • magKapleVE
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-2
    • Get vivid impressions and unforgettable emotions
คงคิดถึงเค้ามากสิแดน  :m15:

น่าสงสารจัง

สาธุ ขอให้ตอนหน้าได้เจอกันด้วยเถิด  :m1:

sixty-3

  • บุคคลทั่วไป
 :sad2:
ขอให้แดนกับชิพเจอกันไวๆคร้าบ




รอตอนต่อปายยยย..


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






angsumalin

  • บุคคลทั่วไป
เศร้าได้อีกน่ะคร๊าบบน้ำตาไหลพราก....ฮือออเศร้าจางง :o12:

ALeX

  • บุคคลทั่วไป

บทที่ 4



       “สวัสดีครับ มิสเตอร์ฮันโดะ”

      ผมโค้งคำนับตามแบบฉบับวัฒนธรรมชาวแดนอาทิตย์อุทัยอย่างนอบน้อม สวย สุภาพ พร้อมทั้งกล่าวสวัสดีเป็นมารยาทด้วยภาษาญี่ปุ่นที่ชัดเจนของ
ผม...การสร้างความประทับใจเมื่อแรกเริ่มรู้จักเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับชาวญี่ปุ่น

      พี่มาร์คและพี่เมฆทำตาม แต่กล่าวเป็นภาษาอังกฤษสำเนียงต้นฉบับโดยแท้ เราฉีกยิ้มกว้างๆบนใบหน้า ซึ่งผมคิดว่าได้ผล เพราะอีกฝ่ายก็ยิ้ม
ตอบกลับมาเช่นกัน

      ปกติแล้วนักธุรกิจชาวญี่ปุ่นจะซีเรียสเรื่องงานมาก เวลาต้องตรงเป๊ะ มารยาทต้องถูกต้อง แต่นี่ที่มิสเตอร์ฮันโดะยิ้มก็ดูท่าว่าน่าจะไปได้สวยไม่น้อย

      มิสเตอร์ฮันโดะเป็นชาวญี่ปุ่นที่มีบ้านเกินอยู่จังหวัดโยโกฮาม่า เขาเป็นชายวัยกลางคนอายุประมาณห้าสิบปลายๆถึงหกสิบต้นๆ มีบุคลิคของนักธุรกิจ
ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง แต่ท่าทีที่เรียบง่ายเป็นกันเอง ยิ้มง่าย ชอบพูดจาช้าๆให้ความรู้สึกของคุณลุงใจดีเสียมากกว่า ทำให้การสนทนาตกลงธุรกิจของเราผ่านพ้นไป
ด้วยดี

       เขากล่าวชมผมว่าพูดภาษาญี่ปุ่นเก่ง หุหุ หน้าบานซิครับท่าน>.<!!! ผมเลยต้องโค้งคำนับไปอีกหลายรอบ เล่นเอาไอ้พี่เมฆแอบขำอยู่นิดๆเหมือน
กัน

       บริษัทของมิสเตอร์ฮันโดะต้องการขยายกิจการเข้ามาในเมืองไทย มุ่งตลาดไปที่กลุ่มสาวๆตั้งแต่วัยรุ่นตอนปลายจนกระทั่งถึงวัยทำงานทุกรุ่น เครื่อง
สำอางค์ชื่อดังนำเข้าจากญี่ปุ่นต้องการตีตลาดในบ้านเรา หลายๆฝ่ายได้คุยกัน แต่สรุปแล้วบริษัทของเรา(หมายถึงของพี่มาร์คและพี่เมฆ)ก็ได้ตกลงเซ็นท์สัญญาให้เป็นผู้
ดูแลเรื่องการนำเข้ารายใหญ่เพียงเจ้าเดียว

       คุยงานเสร็จก็ประมาณเที่ยงๆ ได้เลี้ยงอาหารมิสเตอร์ฮันโดะพอดี พี่มาร์คกับพี่เมฆเลยเสนอตัวเป็นเจ้ามือเลี้ยงเพราะแหงะอยู่แล้ว=_=…จะให้ปล่อย
ปะละเลยลูกค้าคนสำคัญไปได้ไง แต่มิสเตอร์ฮันโดะอยากกลับไปเอาเอกสารที่บริษัทก่อน...คนญี่ปุ่นที่ขยันบ้าทำงานนี่ก็น่าปวดหัวเหมือนกันนะ แม้แต่เวลาจะกินข้าวยัง
อยากใช้เวลาดูเอกสารนู่นนี่ ถ้าเป็นคนอื่นคงหาว่าไร้มารยาทแน่ๆ

      “งั้นเดี๋ยวผมขับรถไปที่บริษัทของคุณฮันโดะก่อนก็แล้วกันนะครับ ท่านจะได้หยิบเอกสารอะไรได้ด้วย”

      พี่เมฆบึ่งรถไปตามการจราจรที่ติดขัดเป็นช่วงๆ แต่ด้วยความชำนาญแค่ยี่สิบนาทีก็ถึงบริษัทของมิสเตอร์ฮันโดะที่ตั้งอยู่กลางใจเมือง(สีลม) ผมรอ
อยู่ที่รถส่วนที่เหลือขึ้นไปบนออฟฟิศ...ไม่นานนักก็มีเสียงเคาะกระจกดังก๊อกๆ...ผู้ชายหน้าตาดีคนหนึ่งกำลังยืนป้องแดดพร้อมทั้งมองส่องเข้ามา

       “ครับ?”

      ลดกระจกลง...เอ๊ะ ผู้ชายคนนี้ผมเหมือนเคยเห็นหน้าที่ไหนนะ???

       “ขอโทษครับ แต่นี่คือรถที่คุณฮันโดะจะนั่งไปทานอาหารกับคุณมาร์คหรือเปล่า?”

      “ใช่ครับ...คุณ?...”

      ผมจ้องหน้าเขา...อีกฝ่ายก็จ้องตอบกลับมา สมองของผมพยายามค้นหาข้อมูล...ทบทวนว่าเคยรู้จักกับผู้ชายตรงหน้านี่หรือเปล่า?

      คิ้วเข้มๆข้างหนึ่งถูกยกขึ้นอย่างสงสัย

       “หน้าผมมีอะไรติดไว้เหรอครับ?”

      วินาทีนั้นที่เสียงทุ้มใหญ่เอ่ยออกมา...ฟังดูยังแฝงไปด้วยความทะเล้นแย้มหัวดังเดิม...ไอ้หมอนี่พอไม่ได้ดัดฟันแล้วค่อยดูดีขึ้นเยอะ ไม่งั้นดูไม่ได้(
เหอะๆ)...มันสูงขึ้น ตัวก็ผอมลงกว่าเก่าเล็กน้อยต่างจากครั้งล่าสุดที่เห็น ซึ่งนั่นก็คือเมื่อสิบปีก่อน…

       “เปล่าหรอก...นี่ มึงจำกูไม่ได้แล้วเหรอ?...”

      “จำ?...”

      ไอ้กอล์ฟยกมือขึ้นเกาหัว ท่าทางแบบเดิมทำเอาผมอดหัวเราะคิกไม่ได้ มันยิ่งขมวดคิ้ว

       “ผมเคยรู้จักคุณด้วยเหรอ?”

      “เออซิว่ะ! ก็มึงไงไอ้กอล์ฟ นายกิตติกานต์ลูกเฮียอ้วนขายข้าวต้มหน้าปากซอยบ้านเก่ากู กูแดนไง มึงจำไม่ได้เหรอ!?”

      มันค่อยๆเบิ่งตา(ที่ตี๋อยู่แล้ว)แล้วจ้องมองเข้ามาใกล้ๆ...ก่อนจะคลี่ยิ้มออกแล้วร้องอ้อเสียงดังเหมือนนานชาติ(-.-“) มันทำหัวปะหลกๆเป็นการ
ขอโทษ

       “เออๆใช่นึกออกแล้วว่ะ...โห เฮ้ยนี่มึงเหรอเนี้ย?”

      “ก็เออดิ”

      “กูแทบจำไม่ได้เลยว่ะ ไม่อยากเชื่อเลย…”

      “’ไมอ่ะ!?”

      “ก็...ดูมึงดิ โตขึ้น...เป็นผู้ใหญ่มาก แถมยังแก่ลงด้วย”

      “อ้าวไอ้เชี้ยนี่”

      ผมทำท่าจะเบิร์ดกะโหลกมัน แต่ด้วยความที่เราเคยรู้จักกันมาก่อนแล้วทำให้ไอ้กอล์ฟไม่โกรธ กลับหัวเราะร่า ผมเองทั้งตื่นเต้นและดีใจชะมัดที่ได้เจอ
เพื่อนเก่าอีกครั้ง

       “โห...เฮ้ยนี่มันตั้งกี่ปีแล้วว่ะ? สิบ...สิบปีใช่อ่ะ”

       ผมก้าวลงมาจากรถ “อืม สิบปีพอดี”

      “ใช่อ่ะดิ แมร่งไม่ติดต่อมาเลย โอโห! นี่ดูทั้งเนื้อทั้งตัวเปลี่ยนไปนะเนี้ย โคตรไฮโซเลย”

      มันจับๆลูบๆไปตามเสื้อสูท ส่วนมันใส่แค่ชุดทำงานแบบผู้ชายทั่วไป ทว่าดูดีเข้ากับมันมากกกก ฮ่าๆๆๆ~~~(= =”)…

       “เอ่อ เมื่อก่อนกูกระจอกจะตายไป”

      “~เดี๋ยวนี้...แมร่ง โคตรเลย...แล้วว่าไง เป็นไงบ้างอ่ะ? หายหัวไปอยู่ไหนมา เพื่อนฝูงไม่ยอมรู้จักติดต่อ รู้มั้ยเขาพยายามติดต่อมึงกันอยู่นานแค่
ไหน”

       “ก็...กูยุ่งๆนิดหน่อยอ่ะ ตอนนี้แม่เปิดร้านอาหารไทยอยู่’เมกา เลยไม่ว่างเลย”

      “เหรอ?! อืมๆ”

      มันจะทำเสียงตื่นเต้นดีใจไปทำหอกไรฟ่ะ O_O”?

       “นี่ถามจริง ตอนแรกมึงจำกูไม่ได้จริงๆเหรอ”

      ผมยิ้มๆ ส่วนมันน่าแดง อื้อ? หน้าแดง..คนอย่างกอล์ฟเนี้ยนะน่าแดง ซึ่งเป็นอะไรที่แปลกมาก...มันอายๆแล้วตอบอ้อมแอ้ม

       “เฮ้ย~~~ ใช่ที่ไหนเล่า กูอำมึงเล่น ความจริงรู้อยู่แล้วว่าเป็นมึง…”

      มันเก๊กหน้าหล่อ ยกมือขึ้นมาเกาหัว ยักคิ้วให้แต่ไม่เหมือนเดิมตรงที่มันกำลังทำท่าเขินอายนี่แหละ 555+ ผมว่าน่ารักดีออก(แบบแปลกไปอีกรุ่น
ไง)

       “มึงนี่กวนส้นตีนไม่เลิกเลยนะ”

      “แล้ว’ไม กูเป็นแบบนี้อ่ะ”

      “เออๆ ว่าแต่ ทำไมกูถึงมาเจอมึงได้ที่นี่เนี้ย? ไหนว่ามาดิ”

      มันกำลังจะเอ่ยปากเล่า แต่ทั้งพี่มาร์ค พี่เมฆ และมิสเตอร์ฮันโดะก็เดินคุยกันอย่างออกรสลงมาจากตึก หยุดเราทั้งสองคนไว้พอดิบพอดี

       “เอางี้ ไว้แล้วมึงค่อยเล่า เดี๋ยวกูพาไปแดกเหล้ากัน กูเลี้ยงเอง”

       ไอ้กอล์ฟทำตาโต โธ่...ไอ้มนุษย์เงินเดือน(แต่กรูก็ด้วยไม่ใช่เหรอ? แฮะๆ <<<(-_-“))

      “เออๆ จะได้คุยเรื่องอื่นด้วย แมร่ง...เพื่อนๆมึงโคตรโกรธเลยที่มึงหายตัวไป คราวนี้มึงกลับมาแล้วไปตามขอโทษพวกมันด้วยนะ เออ! ไอ้แอล
เดี๋ยวนี้เขาแต่งงานมีลูกมีเมียแล้วนะโว้ย มีแต่มึงกะกูนี่แหละ เฮ้อ...ท่าทางจะได้แก่ตายเฉยๆซะแล้วว่ะงานเนี้ย”

      ไอ้กอล์ฟกล่าวเซ็งๆ ส่วนผมยิ้มแหย่ๆ...

       พี่เมฆเห็นผมคุยอยู่กับไอ้กอล์ฟ

       “อ้าว แดนรู้จักคุณกิตติกานต์ด้วยเหรอ?”

       “ครับพี่เมฆ...มันเป็นเพื่อนผมตอนสมัยมหาลัย’”

       “เหรอ…”

       ไอ้พี่เมฆยิ้มหวานเชื่อมพร้อมทั้งส่งสายตาแปลกๆมาที่ผม ไอ้บ้า! ไม่รู้จักเวลาไหนแซวเล่นได้เวลาไหนไม่ได้...คอยดูนะกลับบ้านไปจะฟ้องพี่
มาร์คให้จัดการๆซะให้เข็ด o(>_<)o

      “ครับ...สิบปีแล้วที่ไม่ได้เจอหน้ามัน”

       “ผมกับมาร์คก็เป็นรุ่นพี่แดนมันที่โรงเรียนเก่าน่ะครับ เผอิญเรียกตัวมันกลับมาช่วยงาน เลยได้เจอกันพร้อมหน้าหน่อย”

      “งั้นเชิญคุณกิตติกานต์ขึ้นรถเลยครับ ผมกำลังจะพามิสเตอร์ฮันโดะไปทานอาหารอยู่พอดี”

       “ครับ...เรียกผมว่ากอล์ฟเถอะครับ”

      พี่มาร์คชวนพร้อมทั้งเปิดประตูผายมือให้มิสเตอร์ฮันโดะ มิสเตอร์ฮันโดะจ้องมองคนไทยพูดตาแป๋ว ผมเลยต้องแปลให้ท่านฟัง พอรู้เรื่องเขาก็พยัก
หน้ายิ้มหัวเราะใหญ่ ท่าทางดีใจไปด้วยซะงั้น?...ท่านเป็นคนอารมณ์ดี อัธยาศัยดี น่ารัก ผมคิดว่าพี่มาร์คกับพี่เมฆโชคดีมากที่ได้ทำงานร่วมกับเขา เพราะปกติแล้วคน
ญี่ปุ่นเรื่องมาก เคี้ยวลากสุดๆจะตายไป...

       มิสเตอร์ฮันโดะเก็บแฟ้มใส่กระเป๋าเอกสารที่แกหิ้วมาก่อนจะหันไปถามไอ้กอล์ฟซึ่งเป็นลูกน้องส่วนตัวโดยตรงเป็นภาษาอังกฤษ(แบบกลิ่นอาย
ญี่ปุ่น-_-“)...เรื่องราวมันเป็นยังไงนั้นไว้ผมจะค่อยเล่าให้ฟังก็แล้วกัน ตอนนี้เราทั้งหมดห้าคนมุ่งตรงสู่ร้านอาหารไทยขึ้นชื่อ มีพี่มาร์คเป็นเจ้ามือ ผมนั่งคุยกับไอ้กอล์ฟ
เรื่องเก่าๆสนุกมาก มันเล่าให้ฟังหลายเรื่อง...ทำให้ผมเริ่มคิดถึงเจ้าพวกเพื่อนปากหมาทุกตัวขึ้นมาตะหงิดๆแล้วซิ อิอิ ^-^





       โปรดติดตามตอนต่อไป

ออฟไลน์ A GE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1174
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-1
 :เฮ้อ: :เฮ้อ:  ที่บอกว่าเพื่อนๆตามหาแดนอยู่นานเนี่ยะ  คงจะรวมถึงชิพด้วยชะมะคับ  :sad2: :sad2:

ออฟไลน์ Just let it be

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 979
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
ชอบตอนที่อยู่บางปู (ใช่มั้ยหว่า)

มากเลยอะ  โดนใจ  สะเทือนอารมณ์อย่างแรง

เศร้าได้อีก   :m15:

หวังว่าจาได้เจอกันเรวๆๆๆๆ

ตามลุ้นต่อปายยยย

sixty-3

  • บุคคลทั่วไป
เจอกอล์ฟแล้ว1คน
ต่อไปคือรายการตามหาเพื่อนๆล่ะมั้ง

หวังว่าชิพคงยังไม่แต่งงานมีลูกมีเมียไปแล้วนะ
 :o


ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
น่ากลัวว่า กอล์ฟเนี่ยแหละ จะนำพาชิพมาให้เจอกันแน่ๆ

ออฟไลน์ nirun4

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 491
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
 :a4: :a4: :a4: เริ่มมาแล้ว ๆ  :a4: :a4: :a4:

wutwit

  • บุคคลทั่วไป
มารอเป้นกำลังใจให้แดนเจอกะชิพ

คิดถึงพี่มาร์คก็ได้เจอพี่มาร์คแล้ว

คราวนี้คิดถึงชิพแล้วอ่า

เมื่อไหร่จะได้เจอหว่า

 :oni3: :oni3: :oni3:

ออฟไลน์ DeShiWa

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-9
:impress: :impress: :impress:

เมื่อไร่จะเจอชิพพระเอกของเราอะครับ

ป่านนี้เป็นไงบ้างก็ไม่รู้ครับผม

พี่แอลแต่งงานมีลูกไปแล้ว อิอิ ยินดีด้วยครับผม

ว่าแต่พี่แอลจะยังรักพี่แดนอยู่ป่าวนะ

คิดถึงชิพครับผม

:impress: :impress: :impress:

ออฟไลน์ Tetjinen

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 390
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด