...จะไม่มีช่องว่าง ระหว่างเรา...ชิพ&แดน Series <<<
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ...จะไม่มีช่องว่าง ระหว่างเรา...ชิพ&แดน Series <<<  (อ่าน 432274 ครั้ง)

ALeX

  • บุคคลทั่วไป
^
^
^
^
...

..........


.................ไม่แค้นหรอกครับ ลองอ่านต่อไปเรื่อยๆล่ะกาน ไม่บอก อิอิ :laugh:

ออฟไลน์ A GE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1174
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-1
 :เฮ้อ: :เฮ้อ: สรุปว่าชิพก็ยังไม่รู้ว่าคุณย่าเปนต้นเหตุของการจากกันครั้งที่2ชะมะคับ  แล้วมะไหร่จะรู้เนี่ยะ  :m16: :m16:

ตอนนี้สงสารแดนอ่ะคับ :m15: :m15:  แล้วถ้าคุณย่าของชิพทวงเงินคืนจะไปเอาที่ไหนให้ล่ะเนี่ยะ  :o :o

civava14

  • บุคคลทั่วไป
โห้ย  10  ปี แล้วน่ะ 

คุณย่ายังอยู่อีกเหรอ  เหอๆๆ  หนังเหนียวอ่า

แต่ก้อว่าไม่ได้  แค่ขัดใจคนอ่าน (แบบเราอ่า)

 :laugh:

ifwedo

  • บุคคลทั่วไป
ช่องว่างคงไม่มีหรอกก็แหมมีอะไรอุดช่องว่างขนาดนั้นนี่เนอะ

snowblack

  • บุคคลทั่วไป
เศร้าได้ใจครับ  o7

รอนะครับกำลังได้ ฟีล  :a2:

ออฟไลน์ DeShiWa

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-9
 :impress: :impress: :impress:

อ่าครับสงสารชิพจังเลยครับผม

จดหมายนั้นชิพยังเก็บไว้พกติดตัวอยู่ตลอด

แต่พอกลับมาเจอกันครั้งนี้

ร้อนแรงจังครับผม เป็นกำลังใจให้สมหวังนะครับ

ชิพ แดน

:impress: :impress: :impress:

TOS

  • บุคคลทั่วไป
กลับมาอีกครั้ง ชิพเปรียบเสมือนไฟที่ร้อนแรง พร้อมที่จะเผาพลาญทุกสิ่ง คงต้องอาศัยความเย็นยะเยือกของแดนเป็นคนดับซะแล้ว   :angry2:  :o8:

ออฟไลน์ Tetjinen

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 390
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0
 o7 เวลาผ่านไปทั้งแดนทั้งซิพยังมีความรักให้กันเหมือนเดิน  :m1:

ออฟไลน์ DeShiWa

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-9
 :impress: :impress: :impress:

มาดันครับผม

ชอบเรื่องนี้มากๆๆ ติดตามเสมอครับผม

จะรออ่านครับ

:impress: :impress: :impress:

BEta-K

  • บุคคลทั่วไป

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ment12835

  • บุคคลทั่วไป
 :m4: :m4: :m4: :m4: :m4:

ในทีสุดก็เจอกันซักทีนะครับ หลังจากที่รอมานาน

ALeX

  • บุคคลทั่วไป

บทที่ 8

 

       “นี่คุณกำลังจะพาผมไปไหน?”

      ชิพบังคับให้ผมขึ้นรถไปกับเขา ซึ่งแล่นไปเรื่อยๆตามถนนรัชวิภาที่ค่อนข้างโล่ง…

       “บ้านคุณอยู่ไหน?”

      “คุณจะทำอะไร…”

       ผมชักไม่ไว้ใจ

       “บอกมาเถอะน่า ก่อนที่ผมจะโมโหคุณขึ้นมาอีก”

      ผมนั่งเงียบ…เหตุผลที่เขาโมโหผมเป็นแค่เพียงเรื่องเมื่อครู่ซึ่งเกิดขึ้นเพราะผมอยากให้ทิบแม่บ้านที่กำลังเข้ามาทำความสะอาดห้อง แต่ชิพไม่เห็น
ด้วย…ยังไงก็ตามผมยืนยันจะทิบแม่บ้านเล็กๆน้อยๆเพราะผ้าปูที่นอนเปื้อนไปด้วย…ร่องรอยของเมื่อคืน เขาจะพูดยังไงผมก็ไม่ฟัง…เลยอารมณ์เสีย พาลมาถึงตอนขับรถ
นี่ด้วย

       “นี่ ขับช้าๆหน่อยได้มั้ย”

      พูดแบบนั้นก็ยิ่งเหมือนยุ เขาหักพวงมาลัยแซงปาดรถที่กำลังแล่นอยู่ดีๆด้วยความเร็วขณะร้อยยี่สิบนิดๆ…จากเลนส์ซ้ายสุดไปขวาสุด เล่นเอาผมใจ
หายใจคว่ำ…เฮ้อ แม้เวลาจะผ่านไปแต่นิสัยบางอย่างของเขาก็ช่างไม่เปลี่ยนไปเลยสักนิดเดียว =_=”…

       เขาอยู่ในชุดสูทที่ใส่มาตั้งแต่เมื่อคืน กางเกงขายาวสีดำที่ห่อหุ้มท่อนขายาวกำยำ เสื้อเชิร์ตสีดำกับเสื้อนอกตัวใหญ่สีดำวางพาดไว้ข้างหลังอย่างไม่ใส่
ใจ…พูดไปแล้วชิพดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาก มีมาดของนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จเต็มตัว…เขาขับรถเบนซ์สปอร์ตรุ่นร่าสุดแสนหรูหรา ผมพอจะเดาได้ว่าตอนนี้เขาคง
ประสบความสำเร็จในชีวิตไปมากมายแล้ว แม้ว่ายังไม่ได้คุยรายละเอียดอะไรกันเป็นเรื่องเป็นราวเลยก็ตาม

       “คุณไม่ต้องไปทำงานเหรอ?”

       ผมถามเขาเสียงเรียบ

       “ไม่ ผมจะเข้าบริษัทหรือไม่ก็ได้”

      “ดีจังเนอะ…”

      พยายามบอกเขาว่าผมดีใจ…ที่เขาประสบความสำเร็จในชีวิต มีสิ่งดีๆที่เขาทำให้เกิดขึ้น…อย่างน้อยๆเขาก็ยังก้าวเดินต่อไป

       ชิพหันมามองทางผม

       “อย่าบอกนะ…ว่าคุณคิดว่าผมมีความสุขกับชีวิตในตอนนี้…จะบอกอะไรให้ว่าคุณทำให้ชีวิตของผมแย่ลงกว่าเดิมอีกต่างหาก แม้ว่าผมจะร่ำรวยแค่
ไหน แต่เรื่องของเราไม่เคยทำให้ผมมีความสุขเลยตลอดเวลาที่ผ่านมา”

       คำพูดที่เชือดเฉือนทำให้ผมนิ่งอึ้งไปชั่วขณะ…เขาโกหกใช่มั้ย? แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไรมันถึงเจ็บ…น้ำตาพลันจะไหลออกมาซะให้ได้

       “ทำไมคุณพูดแบบนั้น?”

      “ก็มันคือความจริง…”

       ทำไมนะ?...ชิพต้องอ่านผมออกทะลุปรุโปร่งไปเสียทุกครั้ง

       “ใจจริงคุณไม่อยากฟังผมอธิบายเหตุผลหน่อยเหรอ?”

       “ไม่…”

      ถ้าเขายืนยันเช่นนั้นก็ไม่เป็นไร...สำหรับผมแล้ว ตลอดเวลาที่ผ่านมาถึงผมจะคิดถึงเขาใจจะขาด ผมกลับมีความสุขที่ได้รักเขาอยู่เรื่อยไปแบบนั้น...

       “...”

      “โอเคๆ...ผมอาจจะพูดแรงไปหน่อย...ขอโทษ”

       ชิพหลบสายตา ผมมองเขาแบบขอความเห็นใจ

       “...บอกได้แล้วว่าบ้านคุณอยู่ไหน”

      เอาหลังมือปาดน้ำตา พลางควบคุมไม่ให้เสียงสั่นไปมากกว่านี้…บอกทางเขาไปเรื่อยๆจนรถชะลอลงจอดที่หน้าบ้านพี่มาร์ค ใจของผมเริ่มเต้นตึกตัก

       “นี่บ้านคุณเหรอ?”

      ตอนแรกผมนั่งนิ่งไม่ตอบ…

       “ทำไมบ้านคุณถึงได้ใหญ่โตแบบนี้...”

      “นี่ไม่ใช่บ้านผมหรอก บ้านของ…”

      และแล้ว…หางตาของผมก็เหลือบไปเห็นร่างของพี่มาร์คเดินออกมา สีหน้าเป็นกังวล

       “นั่นใคร?”

      ไม่ทันขาดคำ ชิพก็เปิดประตูรถและก้าวลงไปหาร่างสูงอีกคนซะแล้ว ผมรีบลงไปเช่นกัน…สีหน้าของพี่มาร์คที่ยืนมองหน้าชิพนั้นอึ้งค้าง…ยกมือขึ้นชี้
ไปที่ชิพแล้วหันมาทางผม

       “แดน…อย่าบอกนะว่านี่…”

      ชิพเองก็ยืนอึ้งเบิกตากว้างอยู่เช่นกัน ขณะที่เราทั้งสามคนยืนมองหน้ากันเป็นวงกลม -_-“…พี่เมฆก็เดินตามออกมาร่วมด้วยอีกคน

       “แดนกลับมาแล้วเหรอ? อ้าว แล้วนี่รถใคร?”

      “คุณอยู่บ้านนี้เหรอ?”

       ชิพหันมาถามแบบไม่ค่อยเชื่อสายตาตัวเองเท่าไรนัก +_+“

       “ชิพ…นี่ชิพใช่มั้ย?”

      ชิพพยักหน้าพร้อมทั้งมองพี่มาร์คหัวจรดเท้า…

       “ใช่…นี่มาร์คใช่มั้ย?”

      “ใช่…”

      “แดน แล้วรถพี่ล่ะ?”

      พี่เมฆถามอย่างคนเป็นห่วงรถ = =” แต่คนที่ตอบกลับเป็นชิพแทน

       “ผมพาเขากลับมาเอง รถของแดน…คงจอดไว้ที่โรงแรม”

       “ครับพี่เมฆ ผมจอดไว้ที่โรงแรม เดี๋ยวจะไปเอามาคืนให้”

      “ไม่ต้อง แดน คุณคืนกุญแจเขาไป วันนี้คุณต้องไปกับผม”

      ชิพจับแขนผมไว้ ส่งสายตาบังคับให้ผมทำตาม แต่พี่มาร์คห้ามไว้ก่อน

       “นี่มันอะไรกันแดน? พี่…พี่งงไปหมดแล้ว”

      “งงอะไร? แดนจะไปอยู่กับผม”

       ชิพพูดห้วนๆ ออกแนวเอาแต่ใจเล็กน้อย

       “เป็นไปได้ยังไง ก็แดนเขาทำงานให้ผม ข้าวของเขาก็อยู่ที่นี่”

      โชคดีนะ พี่มาร์คโตเป็นผู้ใหญ่ที่ใจเย็น เลยไม่ถือโกรธเอากับท่าทางวางอำนาจของชิพ…ที่โตซะเปล่าแต่กลับโวยวายยังกับเด็กห้าขวบ

       “นี่คุณทำงานให้เขาเหรอ?”

       ผมพยักหน้า

       “ไหนบอกมาซิคุณทำงานอะไร…ช่างเหอะ ผมให้คุณลาออก ผมจ้างคุณเอง เอ้า รีบเข้าไปเก็บข้างของซะซิ”

      “เฮ้ เดี๋ยวซิ ทำไมคุณพูดแบบนั้นล่ะ”

      พี่เมฆเริ่มขัดขึ้นด้วยสีหน้าขุ่มมัว จากน้ำเสียงเริ่มจะมีน้ำโหขึ้นมาบ้าง…

       “แล้วคุณเป็นใครอีกล่ะ?” ชิพทำท่าเหมือนอดถามไม่ได้ (=_=”)

       “ผมเป็นแฟนมาร์ค เจ้านายของแดนอีกคน”

      คราวนี้เป็นฝ่ายชิพที่ต้องอึ้งรอบสอง เขามองสลับกันทั้งพี่มาร์คและพี่เมฆอย่างกับเป็นเรื่องมหัศจรรย์(ซะงั้นo_O*)

       “…ส่วนผม…ผมก็เป็น…”

      “คุณไม่ต้องพยายามบอกอะไรหรอก พวกเรารู้ดีว่าคุณเป็นอะไรกับแดน”

      อึ้งรอบสาม…ชิพมามองที่ผมอย่างงุนงง…ก่อนจะเปลี่ยนเป็นแววตาดุๆที่เหมือนกับว่าไม่พอใจผม…แต่เรื่องระหว่างเราสองคนผมเล่าให้พี่มาร์คกับพี่
เมฆฟังบ้างตั้งแต่ย้ายไปอยู่อเมริกาใหม่ๆ มันดีที่ได้ระบายออกให้ใครที่เราไว้วางใจสักคนได้ฟัง และผมก็คิดว่ามันไม่ใช่เรื่องคอคาดบาดตายอะไร -“-

       “แต่คุณบังคับแดน คุณทำแบบนั้นไม่ได้…เราจะยอมให้แดนไปก็ต่อเมื่อเขายอมตกลงเท่านั้น”

       “ใช่...จู่ๆคุณก็โผล่มาแบบนี้ ผมรู้มาว่า...คุณแยกกับแดนไปตั้งสิบปี ผมว่าคุณควรคุยกับแดนก่อน ดีมั้ยชิพ?”

       พี่มาร์คพูดเกลี้ยกล่อม ชิพมีท่าทีอ่อนลงบ้าง แต่ยังไม่ลดละซะทีเดียว...

      เชรี้ยและ…ทั้งสามคนที่เหลือหันมาทางผม ไม่ชอบอาการแบบนี้เลยเวลาที่เราต้องตัดสินใจภายในช่วงเวลาที่จำกัด

       “แดน…ไปกับผมนะ”

      ชิพเดินเข้ามาจับแขนผม เขาใช้สีหน้าเว้าวอนบวกกับสายตาที่ทำให้ใจของผมละลายลง…เฮ้อ…

      “พะ...พี่เมฆครับ ผมขอร้อง…อย่าให้เรื่องเลยเถิดเลยนะครับ เห็นแก่ผมเถอะ...”

      ว่าแล้วผมก็เดินกลับเข้าไปในบ้านเพื่อเก็บข้าวของลงใส่กระเป๋าใบเดิม โชคดีที่ยังไม่ได้รื้ออะไรออกมามาก ก็แค่เสื้อผ้าที่แขวนไว้ในตู้ กับข้าวของ
ในห้องน้ำเล็กน้อย

       “แดน พี่ว่า…แดนคิดดีแล้วเหรอ?”

      พี่มาร์คกับพี่เมฆเดินกันเข้ามาในห้อง ผมซึ่งไม่อยากให้ไอ้คนข้างนอกมีปัญหาเลยตั้งหน้าตั้งตารวบรวมของเร็วๆ จะได้ไปกับเขา พี่มาร์คนั่งลงที่
เตียงตามด้วยพี่เมฆ

       “แดน…”

      “ผมขอโทษด้วยครับพี่มาร์ค…แต่ เราเพิ่งเจอกันได้เมื่อวาน แล้วเขาก็บังคับให้ผมไปกับเขา”

      “เป็นไปได้ยังไง…” เสียงพี่มาร์คหวิวๆ…

       “ไหนแดนลองเล่าเรื่องให้พี่ฟังซิ”

       “ผมว่า…เวลานี้คงไม่เหมาะอ่ะครับพี่เมฆ เอาเป็นว่าเดี๋ยวผมจะโทรศัพท์มาเล่าให้ฟังก็แล้วกัน”

       “โอเค...แต่พี่ไม่อยากเชื่อสายตา นั่นเหรอคุณหนูชิพนภเกตน์...ครั้งสุดท้ายที่มีเรื่องกันเพราะน้องฟ้า แล้วก็แดน...พี่ไม่ได้เจอเขาอีกเลย ดูเปลี่ยน
ไปมาก เหมือนคนละคน...”

       “น้องฟ้าคือใครหรือ?” พี่เมฆถาม

       พี่มาร์คมองค้อน

      “คนรู้จักน่ะ...”

       “แล้ว...คุณก็รู้จักชิพด้วยเหรอ?”

      “รู้จักซิ ถ้าผมไม่เคย...เอ่อ เป็นแฟนกับแดนมาก่อน ผมคงไม่ต้องทะเลาะกับเขา เขม่นหน้ากันมาจนถึงทุกวันนี้หรอก...”

      พี่เมฆพยักหน้าช้าๆ ก่อนจะเกาหัวแกรกๆ ยิ้มแฮะๆ = =”

      เก็บเสร็จ ผมก็ลากกระเป๋าออกไปไว้ที่ห้องรับแขก มองลอดหน้าต่างออกไปก็เห็นร่างสูงเท่ห์ยืนกอดอกพิงรถคันหรูอยู่หน้าตามุ่ยๆ...คงไม่พอใจที่ตัว
เองเป็นฝ่ายให้ถูกรออยู่นอกบ้านโดยไม่มีใครรับเชิญ o_O*

       “พี่มาร์คครับ…พี่เมฆครับ ผมต้องขอโทษด้วยที่จู่ๆก็ต้องออกจากงานที่พี่ให้ผมทำ แต่ยังไงผมก็พร้อมจะกลับมาช่วยเสมอ พี่ๆไม่ต้องเกรงใจผมนะ
ครับ”

      พี่มาร์คเดินเข้ามากอดผม ผมกอดตอบ “พี่ซิที่ต้องเกรงใจ อุตส่าห์เรียกตัวแดนกลับมาจากเมืองนอก…ที่พี่มีวันนี้ได้ก็เพราะส่วนหนึ่งเป็นความช่วย
เหลือของแดนนะรู้มั้ย?”

      “ขอบคุณครับ”

      จากนั้นพี่เมฆก็เดินเข้ามากอดผมบ้าง ความจริงแล้วพี่เมฆไม่ค่อยแสดงออกด้านความรักกับใครที่ไม่รู้จักดีสักเท่าไร…เพราะว่ามันขี้เก๊กมากนั่นเอง
-_-“

       “โชคดีนะไอ้น้อง…ต้องการความช่วยเหลือเมื่อไร กลับมาหาพวกเราได้เลย”

      “แล้วถ้านายชิพแกล้งอะไรแดน บอกพี่เลยนะ”

      พี่มาร์คยิ้มๆ

       “กลัวพี่จะรับมือไม่ไหวน่ะซิ”

      “นั่นซิเนอะ…แต่อย่าเกรงใจไปเลย คนกันเอง”

       “ไม่ได้หรอก จู่ๆผมก็ต้องไปแบบนี้ทั้งๆที่กินเงินเดือนแล้วแท้ๆ…แบบนี้จะหาคนใหม่ได้ที่ไหนทัน”

      “ไม่ต้องห่วงแล้วล่ะ…พี่คิดว่าหลังเสร็จจากงานของมิสเตอร์ฮันโดะแล้วพี่จะรับแต่งานของเขาเจ้าเดียว พักช่วงบ้าง หลายเจ้าปวดหัว ยังไงก็ขอบคุณ
แดนมากแล้วกัน รีบไปเถอะ...ดูดิเจ้ายักษ์ข้างนอกโน้นหน้าบึ้งใหญ่แล้ว”

      ผมยิ้มแหย่ๆ…พี่มาร์คกับพี่เมฆหัวเราะร่า…พี่ครับ ผมจะไม่ลืมบุญคุณพี่ทั้งสองเลยจริงๆ…

      ลากกระเป๋าออกมายืนข้างๆนายหน้าบึ้ง(อย่างที่พี่มาร์คแอบเรียก-_-“) ชิพซึ่งกำลังยืนเอามือล้วงกระเป๋าอยู่มองผมด้วยแววตาเย็นชา โดยไม่คิด
จะยื่นมือเข้าช่วยอะไร

       “ไง ล่ำรากันนาน เสร็จแล้วหรือยัง?”

      “คุณเลิกประชดประชันผมสักทีได้มั้ย”

       “ก็มันจริงนี่”

      จากนั้นพ่อตัวดีจึงค่อยช่วยผมยกกระเป๋าขึ้นท้ายรถ(ในที่สุดก็…) เราขับรถมุ่งหน้าไปเรื่อยๆตามถนน

       “คุณจะพาผมไปไหน?”

      “เดี๋ยวคุณก็รู้…”

      ชิพแสดงสีหน้าเรียบเฉย จนผมเริ่มหวั่นใจ…

       งื้อ?!!!!!!!!!!!!~~~



       โปรดติดตามตอนต่อไป

animob

  • บุคคลทั่วไป
พาไปไหว้คุณย่าเลย เริ่ดๆเชิดๆ 5 555555

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
ชิพพาไปขังไว้แบบจำเลยรัก หุหุ  :m32: :m32: :m32: :m32:

ออฟไลน์ DeShiWa

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-9
 :impress: :impress: :impress:

อ่าครับผม ชอบมากครับตอนนี้เข้มข้นดี

เป็นกำลังใจให้ชิพเหมือนเดิมครับ

รักกัน เปิดใจ พูดความจริง กันได้แล้วครับ

แล้วทุกอย่างจะดีขึ้นนะครับผมว่า

 :impress: :impress: :impress:

angsumalin

  • บุคคลทั่วไป
ชิพกล้าเป็นโรคประสาทป่าวง่ะ  :o

ออฟไลน์ mahmeow

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-0
โหยย...กลับมาก็ดุเอาดุเอา........ลากไปนู่นไปนี่........เอาแต่ใจเหลือเกิ้นนน....

แดนจะทนไหวหรอคะ.....(คนอ่านทนไม่ไหวอะ....แบบนี้ขอบาย......555+)

snowblack

  • บุคคลทั่วไป
เย้ๆมาอัพแล้ว  o7

แต่มาต่อไวๆนะครับค้างโคตร  :sad2:

ifwedo

  • บุคคลทั่วไป
ช่าย ค้างงงงงงงงงง

YO DEA

  • บุคคลทั่วไป
 :laugh: :laugh:


หรือว่าจะพาไปตบจูบ


เหมือนเรื่องสวรรค์เบี่ยง


คาวี กับ ริน


อิอิ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
เอาแบบตบจูบๆแบบจำเลยรักผสมสวรรค์เบี่ยงไปเลย อิอิ

ออฟไลน์ nirun4

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 491
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
ชอบทำให้ค้างอ่ะ ใจร้าย :serius2: :serius2: :serius2:

ment12835

  • บุคคลทั่วไป
 :m4: :m4: :m4:

เง้อ มาต่ออีกนิดจิครับ

อยากอ่านเร็วๆอ่า ว่าแต่ภาค 3 นี้ อายุเท่าไหร่กันแล้วหรอครับ

ออฟไลน์ Tetjinen

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 390
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0
 :m20: ซิพทำตัวเป็นเด็กเอาแต่ใจตัวเองหรอ ฮ่าฮ่าฮ่า ดูน่ารักขึ้น :laugh5:

ออฟไลน์ DeShiWa

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-9
:impress: :impress: :impress:

รออ่านตอนต่อไปครับผม

 :impress: :impress: :impress:

sixty-3

  • บุคคลทั่วไป
 :oni1:
ชิพเปลี๊ยนไป๋ แก่(?)แล้วนิสัยเหมือนเด็กๆเลย

รอตอนต่อไปคร้าบ

ออฟไลน์ A GE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1174
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-1
 o12 o12 ทำไมเอาแต่ใช้อารมณ์ครับชิพ  น่าจะคุยกันให้รู้เรื่องซะเลย  ดีกว่าค้างคาใจแล้วก็ทำร้ายนิคอย่างนี้  :m15: :m15:

ออฟไลน์ nirun4

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 491
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
มารอครับ  :m1: :m1: :m1:

ALeX

  • บุคคลทั่วไป
บทนี้ ยอมรับเลยครับว่ามานนนนนนน้ำเน่ามากมายๆๆๆๆๆๆๆๆๆ :o8: :o8: :o8: มากที่สุดเท่าที่เคยเขียนมาเลย แฮะๆ :m23:...แต่เอาเถอะครับ มันต้องไปตามท้องเรื่อง สำหรับภาคสามนี้ผมกะจะเขียนจบสั้นกว่าภาคอื่น(แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าสั้นม๊ากมาก) คือ ตอนแรกนึกว่าภาคสามเขียนสนุกสุด แต่เปล่าเลย ยากสุดเลยต่างหาก 555+ :laugh: ภาคที่เขียนแล้วเอนจอยที่สุดคงเป็นภาคสอง งืมๆ o2

ใกล้จะเปิดเทอมแล้ว และผมคงเรียนหนักเหมือนเคย(ปิดเทอมก็เรียนทุกวัน เฮ้อ) ไม่ได้ออกไปเที่ยวเหล่หนุ่มเลย ฮ่าๆๆ(<<<<ล้อเล่นอ่ะ :กอด1:) สองวันนี้ก็เลยแอบหนีไปเที่ยวกับครอบครัวซะเลย รู้สึกสดชื่นขึ้น และเป็นกำลังใจให้กับทุกคนนะครับ โดยเฉพาะพี่ๆน้องๆที่กำลังเรียนหนังสืออยู่ ตั้งใจเข้า สักวันเราก็จะประสบความสำเร็จเอง สู้ๆ!!! เป็นกำลังจายห้ายยย ขอบคุนก๊าบ :a11: :oni1: :oni1: :oni1: :oni1:



บทที่ 9



       “ถึงแล้ว…”

       ชิพเดินนำผมขึ้นมาจนถึงห้องชุดสุดหรูแห่งหนึ่งย่านประชาชื่น…ประตูเปิดออก ข้างในกว้างขวางและตกแต่งเรียบง่ายสไตล์ชายโสด ผมลากกระเป๋า
ใบใหญ่เข้าไปงงๆ

       “นี่บ้านคุณเหรอ?”

      “ใช่”

       ผมกวาดตามองไปโดยรอบ ห้องกว้างมาก แต่เหมือนมันโล่งว่างและขาดอะไรไปอีกหลายอย่าง…ชิพเดินแนะนำห้องต่างๆ มีห้องน้ำสองห้อง ห้องครัว
ห้องนั่งเล่น ห้องซักผ้าและห้องเก็บของ

       “คุณจะให้ผมอยู่ที่นี่งั้นเหรอ”

      “แล้วคุณคิดว่ายังไงล่ะ”

       “ผม...จะนอนห้องเล็ก หรือว่าคุณจะให้ผมนอนที่ไหน…ผมไม่รู้ว่าคุณอยู่ที่นี่หรือเปล่า…”

      “ผมไม่กลับไปที่บ้านนั้นอีกแล้ว”

      ชิพกอดอก ไม่มองหน้าผม...นี่มันเกิดอะไรขึ้น?

      “ทำไมคุณถึงไม่กลับล่ะ”

      “ก็เพราะ...ผมอาศัยอยู่ที่นี่ คุณย่า...ท่านเสียไปเมื่อหลายปีก่อนแล้ว บ้านนั้นไม่มีคนอยู่ ผมปิดเอาไว้”

      ความจริงที่เพิ่งออกจากปากชิพทำเอาผมใจหายวูบ...คุณย่าเสียแล้ว?

      “ตอนนี้ผมไม่อยากกลับไป ผมไม่อยากอยู่บ้านหลังนั้น”

      “แต่ชิพ นั่นคือบ้านของคุณ บ้านที่คุณเติบโตมาตั้งแต่เด็กๆนะ...ทำไมคุณถึงทำแบบนี้ล่ะ...”

      ผมพยายามแย้ง แต่ไม่เป็นผล ชิพโบกมือห้ามไม่ให้ผมพูดต่อ

       “หยุด! พอได้แล้ว...ผมไม่อยากกลับไปเจอสภาพแวดล้อมเดิมๆอีก...เด็กมีปัญหาอย่างผมสมควรต้องจดจำอะไรไว้บ้าง ในเมื่อมันไม่มีอะไรเลย
ให้จดจำ...”

      …ยกเว้น...ยกเว้นผมไง…

      ผมต่อประโยคเองในใจ...

      เขาคิดแบบนี้หรือเปล่านะ?

       “แต่อย่างน้อย ท่านก็เป็นคุณย่าคุณนะครับ!”

      “คนใจร้ายแบบนั้น...ผมไม่อยากนึกถึง...ฮึ! ก็แล้วคุณเป็นใครล่ะ หลานก็ไม่ใช่ คนรู้จักก็ไม่เชิง...แต่คุณ คุณกลับเอาใจใส่ เพราะเงินที่ได้ไปใช่
มั้ยทำให้คุณปลื้มอกปลื้มใจนักหนา แล้วความรักของเราสองคนล่ะแดน...คุณเคย ’ปลื้ม’ มันบ้างมั้ย...”

       เราสองคนมองหน้ากัน ความรู้สึกบอกให้ผมเลิกเถียงต่อปากต่อคำกับชิพ เพราะแต่ไหนแต่ไรมาแล้วหากเขาลงหลักปักใจเชื่ออะไร มันยากหากเรา
พยายามเปลี่ยนใจเขา...ตั้งแต่สมัยวัยรุ่นแล้ว ผมเองก็เหนื่อยเวลาต้องรับมือกับชิพภาคเอาแต่ใจตัวเองแบบนี้ =_=”

       แต่ผมเข้าใจความรู้สึกของเขา ผมเข้าใจดี...หากเทียบกันแล้วถึงครอบครัวของผมจะจน ไม่ค่อยสุขสบาย แต่ผมมีอิสระมากกว่าชิพ...ผมมีสิทธิที่จะ
รักจะชอบใครก็ได้ ผมมีสิทธิจะทำตามที่ตัวเองฝัน...แต่ชิพเป็นเด็กที่เติบโตมาด้วยความกดดันหลายๆด้าน ครอบครัวเขาไม่ค่อยสมประกอบเหมือนผม...นั่นเองล่ะมั้งถึง
เป็นสาเหตุที่ผมเข้าใจเขาดีกว่าใครๆ...

       ตลอดมา...ผมอยากทำให้ความทุกข์ของเขาเหล่านั้นจางหายไป

       แต่ทุกครั้ง...มันต้องมีเรื่องมาแยกเราจากกัน

       และผมเจ็บใจ...

       “สรุป คุณจะเอายังไง? หรือว่าคุณยังจะอยากอยู่บ้านหลังใหญ่โตสีขาวสวยหรูอย่างที่คุณเคยฝันถึงบ่อยๆกันแน่?”

       ผมมองตาเขาตรงๆ

       “ทำไมคุณต้องประชดผมตลอดเวลาอย่างนี้ด้วย?”

      ชิพเลิกคิ้ว...ผมเดินเข้าไปเก็บประเป๋าในห้องหนึ่งเงียบๆ…ไม่ต่อรองอะไร กลับออกมาก็เจอชิพยืนมองดูอากัปกิริยาทั้งหมดของผมอยู่

       “อะไร?”

       เหนื่อย(ใจ)ชะมัด =_=”…

      “…คุณเคยคิดถึงผมบ้างมั้ย?”

       โดนยิ่งคำถามแบบนี้ ทำให้จุกจนพูดไม่ออก…ผมมองตาชิพที่เต็มไปด้วยอารมณ์ต่างๆมากมาย…เขาขมวดคิ้ว

       “ทำไมไม่ตอบ”

      ผม…ไม่รู้จะตอบเขายังไงดี ก็เพราะว่ามันมากมายจนกลั่นออกมาเป็นคำพูดไม่ได้ เพราะมันไม่มีค่าเทียบเท่ากับความจริงใจในส่วนลึกของผม…ผม
จึงไม่อาจบอกเขาในสิ่งที่น้อยนิดเกินนั้นไปได้

       “ผมพูดไปคุณคงไม่เชื่อ…แต่มันยากจะอธิบายว่าผมคิดยังไงกับคุณ”

      “คุณคิดถึงผมทุกวันหรือเปล่า?”

      ร่างสูงเดินย่ำเข้ามา ใจเริ่มสั่น…ทว่ายังมองตาของเขาอยู่

       “ใช่ ผมคิดถึงคุณทุกวัน…”

      “คุณเหงาทุกๆคืนหรือเปล่า?”

      “ใช่…ผมเหงา”

      บัดนี้ ชิพมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าผมแล้ว ร่างสูงจ้องมองลงมา ก่อนจะค่อยๆยกมือขึ้นเชยคางของผมขั้น เคลื่อนใบหน้าเข้ามาใกล้ๆเหมือนจะจูบ…

       “แล้วทำไม…แค่เงินที่คุณย่าซื้อคุณให้เลิกยุ่งกับผมเมื่อสิบปีก่อนถึงเปลี่ยนใจคุณได้ล่ะ!”

      ชิพกระแทกเสียงใส่หน้าจนสะดุ้ง พร้อมทั้งสะบัดคางผมออกไปจนร่างเซเกือบล้มลง…ดีที่ผมยืนอยู่ติดผนัง วินาทีที่เบือนหน้าออกมา น้ำตาอุ่นร้อน
พลันไหลไปเอ่อคลออยู่ตรงหน่วยตา รู้สึกเจ็บปวดกับความจริงที่ต้องเผชิญอยู่ตรงหน้า...

       “คุณรับเงินย่าผมไปหลายล้าน…เพียงเพื่อจะหนีผมไป ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข…ปล่อยให้ผมต้องทนอยู่กับสภาพที่คุณทิ้งผมไป คุณคิดว่ามันสนุก
มากหรือไง? หา?!”

      ชิพผลักผมล้มลงกับพื้นไม้ขัดเงา แล้วตามมาเขย่าร่างของผม ความจริงแล้วมันไม่ได้เจ็บที่ร่างกายแต่มันเจ็บที่หัวใจ ผมไม่ได้ทำตัวอ่อนแอหรือ
อะไรเพียงแต่มันหมดแรงที่จะต่อกร

       “คุณกลับมาจากชีวิตที่สุขสบาย เพียงเพื่อจะมาโกหกผมอีกงั้นน่ะหรือ คนไร้ยางอาย!”

      ชิพโยนตัวผมไปอีก คราวนี้หยาดน้ำตามันไหลร่วงลงมาเผาะหนึ่ง….ตามด้วยสายน้ำตาที่ไหลรินลงมาเป็นทาง…ความเจ็บปวดที่ร้ายกาจในตอนนี้
มันช่างเกินจินตนาการจริงๆ…

       “คุณ…ไม่เข้าใจเหตุผลของผม”

      “เหตุผลบ้าบอ คุณจะเอาอะไรมาอ้างอีก ไหนบอกมาซิ”

      แต่ผมเลือกที่จะนิ่งเงียบและปิดปากแน่น…เขาจะต้องไม่มีวันรับรู้ว่าเพราะอะไรผมต้องหนีจากเขาไป เพราะอะไรผมต้องรับเงินจำนวนนั้น…สัญญาที่
เคยให้ไว้กับคุณย่าของชิพผมยังคงเก็บกุมและรักษาไว้ตราบจนถึงทุกวันนี้

       เพราะค่าตอบแทนที่ผมได้มา ถือว่าได้รักษาพ่อ...อย่างน้อยก็ทำให้ผมกับแม่ได้กลับไปเจอหน้าพ่ออีกครั้ง...

      เม้มปากแน่นไม่พูดอะไร…นั่นยิ่งทำให้ชิพโมโห

       “แสดงว่าคุณไม่มีอะไรจะพูด ผมให้โอกาสคุณแล้ว อย่าหาว่าผมใจร้ายก็แล้วกัน”

      ผมพยักหน้าช้าๆ…ซึมซับข้อความเหล่านั้นไว้ ถูกแล้วที่ชิพจะทำเยี่ยงนั้น เขามีสิทธิ…

       “ตอนนี้ผมมีเงินมากพออย่างที่อยากได้อะไรก็ตาม ผมย่อมได้…ผมต้องการอะไรก็ตามที่เงินสามารถซื้อได้ ซึ่งนั่นรวมถึงคุณด้วยใช่มั้ย?”

      ชิพดึงไหล่ผมให้หันกลับมาจ้องหน้ากัน…สิ่งที่กระตุกหัวใจของผมนั่นคือสีหน้าของชิพที่เจ็บปวดไม่แพ้กัน…แล้วเขาจะทำแบบนี้ทำไม?

       “คุณมีค่าเท่าไรล่ะ? ต้องใช้เงินกี่บาทถึงจะซื้อคุณให้สาสมได้?” ชิพกวาดตามองผมไปทั่วทั้งตัว แบบขยะแขยง...

       “ผมจะซื้อคุณให้มาทำงานเป็นเบี้ยล่างของผม ให้เป็นที่รองรับอารมณ์ เพราะคุณง่ายกับเงินมากนักนี่ ใช่มั้ย? พอใจหรือเปล่า?”

      “คุณเป็นบ้าอะไรกันแน่ชิพ?”

      “ก็เพราะผมแค้นคุณ!”

       ร่างของผมถูกดึงขึ้นตามร่างสูง มันบีบต้นแขนผมแน่นจนเจ็บเนื้อแทบแตก…ผมร้องโอยออกมา

       “ร้องออกมาเลย ร้องออกมา!”

      “ถ้า…ถ้าหากผมไม่รับเงินของคุณล่ะ”

      “ผมก็จะบังคับ ให้คุณยอมรับมันให้ได้”

      ชิพยืนเหนื่อยหอบจากการระเบิดอารมณ์อยู่ตรงหน้าผม…รู้สึกรวดร้าวในหัวใจ ผมยกมือขึ้นแตะแก้มของเขา แต่กลับดันโดนปัดออกอย่างแรง ผม
จ้องลงไปในดวงตาที่แสนคุ้นเคยนั่น...พลางถามเบาๆว่า…

       “คุณเปลี่ยนไป…”

      “ก็เพราะใครที่โหดร้ายกับผมก่อน”

       เขาผลักผมออกห่างอีกครั้ง ก่อนจะเดินออกไปจากห้องด้วยความฉุนเฉียว เสียงปิดประตูลงดังๆยังคงก้องเหมือนมันไกลแสนไกล…มีเพียงผมคนเดียว
เท่านั้นที่อยู่ในห้องโล่งร้างๆแห่งนี้ ความทรมานที่พุ่งพล่านออกมาทำให้ผมต้องทรุดกายลงกับพื้น นั่งร้องไห้โฮด้วยความเสียใจ…ทำไมนะ ทำไมโชคชะตาต้องเล่นตลกให้
ผมกับเขากลับมาเจอกันด้วย ในเมื่อผมเกือบจะทำใจจากเขาได้แล้ว มันอีกนิดเดียวเท่านั้น…

       ตอนนี้ หัวใจที่ดูเหมือนจะหายขาดจากแผลเก่ายิ่งโดนเชือดเฉือนเจ็บปวดกว่าครั้งเก่า

       เพราะผมรู้ดี…รู้ดีทั้งหัวใจว่าไม่อาจลืมเขา ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม

       และผมรอ…รอวันเวลา แต่มันคงง่ายกว่านี้ถ้าไม่มีเงื่อนไขที่ว่า…สิบปีก่อนผมเคยทำร้ายจิตใจของเขา ตอนนี้ถึงเวลาแล้วที่ผมจะชดใช้…ผมจะชดใช้
ให้เขาเอง…

       

       เสียงประตูเปิดเข้ามาดังจนสะดุ้งจากการนอนหลับหลังจากวันอันแสนเหนื่อยล้า…หลายวันมาแล้วที่ชิพกลับบ้านมาหลังจากที่ผมเข้านอน จนเราไม่ได้
เจอหน้ากัน หรือว่าผมพยายามหลบหน้าเขาตลอดกันแน่ก็ไม่รู้...

       ทั้งที่อยู่บ้านเดียวกันแท้ๆแต่เราก็ไม่พูดคุยกัน

       ความจริง...คงเป็นเพราะเขาไม่ยอมพูดกับผมมากกว่า

       ทุกเช้าผมจะเตรียมอาหารเช้าง่ายๆเพื่อเขา แต่มันไม่เคยถูกแตะต้อง ทุกวันที่ผมคอยซักผ้า รีดผ้า ทำความสะอาดข้าวของเครื่องใช้ทุกชิ้นของเขาเอง
กับมือ แต่ผมไม่เคยได้รับคำขอบคุณ หรือแม้แต่ล่วงรู้เลยสักนิด ทว่ามันคือความเต็มใจที่ต้องการทำให้ โดนไม่หวังอะไรเป็นสิ่งตอบแทนเลยสักอย่าง

       “ชิพ?...”

      เงาดำของร่างใหญ่โตยืนค้ำเต็มประตู แสงภายนอกลอดเข้ามาทำให้ผมปรับสายตาไม่ทันเมื่อนอนอยู่ในห้องมืดสนิท ความงัวเงียทำให้ไม่ทันรู้เรื่อง
อะไร…ร่างสูงนั้นก็เดินเข้ามาแล้วทิ้งตัวลงบนเตียง ผมไม่ทันได้ถอยหนีก็โดนจับล็อคเอาไว้

       “ทำไมต้องหนีหน้ากันด้วย”

      “ใคร...ใครกันแน่ที่หนีหน้า?…คุณ คุณน่ะแหละที่ไม่ยอมคุยกับผมเลย”

       “อย่ามาทำพูดดี!”

      “คุณมีเรื่องอะไร คุณคิดอะไรอยู่ในใจ คุณก็คุยกับผมซิ! ทำไมคุณต้องพยายามทรมานเราทั้งสองคนด้วยวิธีนี้ ในเมื่อผม...ผมก็กลับมาแล้ว และ
ยอมรับผิดทุกอย่าง...”

      “แต่…”

      ชั่วครู่หนึ่ง...ชิพเหมือนจะพูดอะไรไม่ออก ก่อนจะพลิกตัวคร่อมอยู่เหนือร่างของผม เหม็นกลิ่นแอลกอฮอล์คละเคล้าไปหมด…สีหน้าของเขาเหมือน
คนสับสนที่ไม่รู้จะไปทางไหนดี ผมเองก็งุนงงกับท่าทางของเขา

       “คุณไปไหนมา?”

       “มันไม่ใช่เรื่องของคุณ!”

       “แล้วจู่ๆเข้ามาในห้องของผมทำไม?”

      “นี่มันไม่ใช่ห้องของคุณ มันบ้านผม!...ความจริงแล้ว คุณต้องมาห้องนี้ถึงจะถูก”

      แรงของคนมึนเมาแทนที่จะอ่อนแรงแต่สำหรับชิพกลับรุนแรงยิ่งกว่าตอนมีสติเสียอีก…ผมถูกลากอย่างแรงมาที่ห้องของเขา แล้วถูกโยนไปบนเตียง
ตามด้วยร่างหนาใหญ่บึกบึนทาบทับ

       “นี่คุณจะบ้าไปแล้วหรือไงชิพ! นี่มันห้องของคุณนะ”

      “หยุดพูด หยุดพูดเดี๋ยวนี้!”

      มือแข็งแรงของเขาพยายามจะปลดกระดุมเสื้อนอนของผมออก แต่ทั้งความมืดและมืออันสั่นระริกทำให้อาจไม่ทันใจ จนเขากระชากหลุดออกมาทั้ง
แผงแบบนั้นแหละ…

       “ชิพ! คุณหยุดทำแบบนี้ซะที ผมขอร้อง”

       ทว่าเขากลับกระชากเสียงห้วนออกมา และต่อสู้กับผมอย่างดุเดือด…

       “หยุด หยุดดิ้นเดี๋ยวนี้ บอกให้หยุดไง!”

       ทุกอย่างดูรวดเร็วและวุ่นวายไปหมด…กางเกงของเขาหลุดออกไปจากเอวตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้ แล้วเมื่อไรกันที่ผมต้องโดนกระทำแบบนี้…ในที่สุดผม
ก็ต้องยอมอ่อนโอนไปตามแรงที่มากมายของเขา มันไม่น่ารื่นรมย์เลยสักนิด…มันคือความหยาบโลน ความใคร่ชั้นต่ำล่างสุด…ความรุนแรงที่ผมได้รับเกือบทำให้ต้องร้อง
โฮออกมาทั้งเจ็บปวดกายและใจ…เขาคงไม่เคยคิดถึงหัวใจของผมเลยสินะหลังจากเกิดเรื่องนี้ขึ้น ความป่าเถื่อนของเขาช่างโหดร้ายจริงๆ…

       มันสมควรที่เขาจะเกลียดผม แต่ผมก็เป็นคน...เป็นคนที่รักเขาหมดหัวใจ...

       ทำไมต้องทำกันแบบนี้ด้วย?

       ใช่ว่าผมไม่อดทน แต่มันห้ามไม่ได้ที่จะน้อยใจ...ตอนนี้ในใจของเขา คงมีแต่ความเคียดแค้น แล้ววันเวลาดีๆที่เราเคยมีร่วมกันมาล่ะ?...สิ่งเหล่านั้น
จางหายไปไหน

       ผมไม่เข้าใจ สับสน หมดหนทางจริงๆ...

       เขาไม่เคย...ไม่อ่อนหวาน กับผมเลยมาก่อนในชีวิต

       วันนี้เขาทำเหมือนผมเป็นวัตถุอะไรสักอย่าง…

       ...ที่ผมจะไม่มีวันลืม





       โปรดติดตามตอนต่อไป

ifwedo

  • บุคคลทั่วไป

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด