...จะไม่มีช่องว่าง ระหว่างเรา...ชิพ&แดน Series <<<
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ...จะไม่มีช่องว่าง ระหว่างเรา...ชิพ&แดน Series <<<  (อ่าน 483499 ครั้ง)

snowblack

  • บุคคลทั่วไป
ใกล้เข้ามาอีกนิด ชิดๆเข้ามาอีกหน่อย  o2

ปล.ไอ้เราลุ้นตอนแรกนึกว่าเจอกันซะและดันเป็นเพื่อนเก่า  :m29:

ออฟไลน์ kaporzung

  • magKapleVE
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1331
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-2
    • Get vivid impressions and unforgettable emotions
อิอิ ได้เจอกอล์ฟ แล้ว
  :m4:
ต่อไปก้อต้องเปน...  :m1: :m1:

angsumalin

  • บุคคลทั่วไป
ไม่รู้ชิพเจอแดนแล้วจะเป็นยังไง  :เฮ้อ: เมื่อไหร่จะเจอกันน๊า

YO DEA

  • บุคคลทั่วไป
 :m4: :m4:

ในที่สุดผมก็ได้อ่านภาคใหม่แว้ว

@#Jackie#@

  • บุคคลทั่วไป
มาลงชื่อติดตามอ่านด้วยคนครับ  :oni2:

ออฟไลน์ both^^

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +730/-4
กรี๊ดดดดดดดดดดดด
ดดดดดดดดดดดดด


ใกล้แล้วววววววววว

อยากรู้จังเจอกันครั้งแรกจะเป็นไง

ออฟไลน์ nirun4

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 491
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
 :sad2: :sad2: :sad2: ทำไมหายไปหลายวันล่ะครับ รออ่านอยู่นะครับ :sad2: :sad2: :sad2:

myLoveIsYOu

  • บุคคลทั่วไป
เข้ามา ลงชื่อติดตาม ขอหวาน ๆ นะครับ ภาคนี้  :oni2:

ALeX

  • บุคคลทั่วไป

บทที่ 5



       “เดี๋ยวเย็นนี้แดนนัดคุณกอล์ฟไว้ใช่มั้ย พี่ฝากนี่ให้เขาหน่อยซิ”

      พี่มาร์คเดินไปหยิบซองสีขาวจากลิ้นชักส่งให้ผม

       “ข้างในเป็นอะไรอ่ะพี่?”

      “ของขวัญเล็กๆน้อยๆอ่ะ”

      “~เฮ้ย พี่มาร์คครับ เพื่อนผมคนนี้ถึงมันจะทำงานไม่ค่อยมีตัง แต่มันรักศักดิ์ศรีอย่าบอกใครเลยนะครับ”

      “เห็นมั้ยมาร์ค ผมบอกคุณแล้ว คุณไม่เชื่อผมเอง”

      พี่เมฆเอ่ยขึ้นมาลอยๆจากทางโซฟาหน้าโทรทัศน์เครื่องใหญ่ พ่อคนนอนเหยียดขายาวๆไม่วายส่งเสียงตำหนิแฟนที่แสนดีอย่างพี่มาร์ค...เขาหน้าเสีย
เล็กน้อย

       “เหรอ…”

      “พี่จะขอบคุณเขาเรื่องอะไรอ่ะ?”

      “ก็...ที่เขาคอยช่วยพูดกับมิสเตอร์ฮันโดะ คอยดูแลเทคแคร์ เพราะเขารู้ว่าแดนรู้จักกับพี่อยู่แล้ว พี่เลยอยากตอบแทนน้ำใจเขาบ้าง”

       “เอางี้แล้วกันพี่ เดี๋ยวผมเอาเงินเนี้ยเลี้ยงมื้อเย็นหรูๆมันสักมื้อแล้วกัน พี่มาร์คว่าไงครับ?”

      “อื้อ? เอางั้นเลยเหรอ”

      ไอ้พี่เมฆลดหนังสือพิมพ์ลงพร้อมทั้งหัวเราะลั่น ผมแลบลิ้นแบบเขินๆแอ๊บแบ๊วไปตามประสา หุหุๆ นานๆลาภปากที งานนี้ช้างไม่ปล่อยอ้อยหลุดออก
จากปากแน่ กร๊ากๆๆๆ ^0^

       “ฮ่าๆ เสร็จเจ้าแดนมัน เป็นไงล่ะ”

       พี่มาร์คหันมองค้อนต้นเสียง ก่อนจะก้มหน้าก้มตาพูดกับผมต่อ

       “เออๆ เอางั้นก็ได้...แล้วนี่นัดเขาไว้กี่โมง?”

      “~นัดไว้ทุ่มครึ่งพี่ กว่ามันจะเลิกงาน ขับรถมา เดี๋ยวนี้รถกรุงเทพฯติดจะตาย”

      “นัดไว้ที่โรงแรมไหน”

      “แถวๆอโศกอ่ะ...ผมต้องให้มันดูเอกสารอีกนิด ดีอย่างที่มันทำงานประกบนาย รู้มั้ยการติดต่อทำสัญญาของเรากับบริษัทของมิสเตอร์ฮันโดะราบรื่น
มากกว่าใครเลยนะ”

      ใช่แล้ว...ก็เพราะผมสามารถติดต่อเข้าทางไอ้กอล์ฟได้ มันเป็นลูกน้องที่มิสเตอร์ฮันโดะจ้างไว้คุมงานที่สาขาเมืองไทยและไว้ใจมาก ตอนนี้เราเลยไม่
ต้องนัดวันเวลาใหญ่โต แค่ผมโทรฯเรียกมันออกมาคุยกัน กินเหล้านิดหน่อย ยังไงวันรุ่งขึ้นเอกสารทั้งหมดก็ไปกองอยู่บนโต๊ะให้มิสเตอร์ฮันโดะรับรู้อยู่ดี

       ความจริงแล้วบริษัทเล็กๆอย่างของพี่มาร์คเนี้ยถือว่าโชคดีมากที่ได้รับเหมางานของบริษัทยักษ์ใหญ่อย่างมิสเตอร์ฮันโดะได้ ไม่รู้ความสามารถใครที่
ไปติดต่อหามาได้(เดาว่างานนี้ไอ้พี่เมฆแน่ เรื่องที่คนอื่นทำไม่ได้คนนี้มักจะสามารถอยู่คนเดียว-_-“)

       ระหว่างที่ขับรถมา...รู้สึกวิงเวียนยังไงไม่รู้ นับนาทีที่ขับรถใกล้เข้าไปเรื่อยๆผมยิ่งรู้สึกอยากกลับบ้าน ไม่อยากมาแล้ว เพิ่งเป็นตอนใกล้จะถึงแล้วนี่
แหละ...ผมเกลียดความรู้สึกนี้ชะมัด เอาว่ะ รีบๆคุยให้เสร็จแล้วรีบกลับก็ได้

       ไอ้กอล์ฟนั่งจ้องเอกสารที่แผ่รออยู่ตรงล็อบบี้เรียบร้อยแล้ว ผมเอากระเป๋าคาดบ่าลง พร้อมทั้งนั่งลงหยิบเอกสารนู่นนี่ออกมาเช่นกัน เห็นมันใช้สมาธิ
อยู่เลยไม่ได้ทัก เผื่อมันลืมแล้วซวยผมอีก

       “อ้าว มานั่งตั้งกะเมื่อไร?”

      อิอิ ความรู้สึกมึงช้าดีนี่

       “ก็เมื่อกี้เนี้ย นี่...วันนี้พี่มาร์คให้เงินมาเลี้ยงมึงด้วย เลือกเลยเอาห้องอาหารญี่ปุ่นดีหรือว่าจีน?”

      “จริงเหรอว่ะ? งั้นกูเอาห้องญี่ปุ่นแล้วกัน งานนี้ไม่เกรงใจเลยนะ”

      ผมหัวเราะ “เออ ไอ้หน้าด้าน มึงกินให้พอเลยวันนี้”

      นั่งช่วยมันดูเอกสารอยู่ร่วมชั่วโมง ต่อจากนั้นอีกสักพักเราค่อยเก็บทุกอย่างลงกระเป๋าแล้วสั่งเครื่องดื่มมาคนละแก้ว วันนี้ไอ้กอล์ฟดูเหนื่อยล้ามาจาก
ที่ทำงาน มันทำงานหนักจริงๆแบบนี้ทุกวัน เพราะเป็นหัวหน้าแผนก โดนเจ้านายจิกหัวใช้ทุกวัน...ไม่น่าเชื่อเลยเนอะว่ากาลเวลาสามารถเปลี่ยนคนไม่เอาไหนอย่างให้
กอล์ฟให้ทำงานระดับนี่ได้ เป็นหัวหน้าคนงานทั้งแผนก มีความขยัน ตั้งใจ หน่ำซ้ำยังเรียกว่าเก่งจนขนาดที่ว่าพูดภาษาอังกฤษได้คล่องแคล่วกว่าใครอื่น บางครั้งผมยังงง
ที่ไอ้กอล์ฟหน้าหม้อคนเดิมมันซุกอยู่ส่วนไหน หรือมันหายตัวไปแล้ว?

      เปลี่ยนแปลงแบบไม่น่าเชื่อ แต่ ไปในทางที่ดี(ง่ะ?...)

      “เฮ้อ...วันนี้ไอ้แอลโทรฯมา กูบอกมันแล้วว่ามึงเพิ่งกลับมา มันดีใจใหญ่บอกจะต้องเจอมึงให้ได้ กะจะอวดลูกสาวคนใหม่ให้มึงดู น่ารักเชียว กูเคย
เห็นรูปที่มัน’เมลมาให้ ชื่อน้องลิลลี่ น่ารักเหมือนแม่เชียวแต่ไม่เหมือนพ่อ...”

      ไอ้กอล์ฟพล่ามไปเรื่อย มันถอนหายใจเสร็จก็ค่อยๆจิบเครื่องดื่ม คลายปมเน็คไทออกแล้วเล่าต่อ ผมนั่งยิ้มฟังมันเล่าแบบนี้ตลอดทุกครั้งที่นัดมาเจอกัน
รู้สึกผ่อนคลายดีชะมัด

       “แล้วคนอื่นๆล่ะ?”

      “ก็ตอนที่กูเจอพวกมันครั้งล่าสุด คืองานแต่งเมียไอ้แอลน่ะแหละ...ไอ้หวานเดี๋ยวนี้สวย...หวานสมชื่อแล้ว มันเลิกเป็นทอมแล้วว่ะ...แมร่งเสียดายไม่
งั้นกูได้จีบก่อนเนินๆ ตอนนี้แม่งมีแฟนแล้ว เป็นคนที่ทำงานมัน มันอยู่แบ๊งค์นู่น...”

      “ส่วนนังช้าง เอ๊ย...ไอ้ไก่อ่ะ เปิดร้านอาหารเองในหมู่บ้าน เคยไปกินร้านมันอาหารโคตรแพงแต่อร่อยจริงๆ เอาไว้เดี๋ยววันหลังกูพาไป...ส่วนนัง
กิ๊บซี่เท่าที่กูรู้ตอนนี้ได้ผัวฝรั่งอยู่มาเลฯนู่น ขานี้บินกลับมาบ่อย ยังทำตัวตอแหลเหมือนเดิมมึงไม่ต้องห่วง นอกนั้นกูไม่รู้แล้วไม่ได้ถาม”

      ผมหัวเราะจนปวดท้อง...ตอนนี้ความรู้สึกที่มีคือผมอยากเจอหน้าเพื่อนเก่าๆทุกคน มันเต็มไปด้วยความผูกพันที่ตัดยังไงก็ตัดไม่ขาด...ดึกแล้ว ผม
เองมึนๆตั้งกะมา เริ่มดื่มต่อไม่ไหว รีบๆพาไอ้กอล์ฟเข้าไปสหวาปามอาหารญี่ปุ่นสมใจอยากมันหน่อย เสร็จแล้วไอ้เชี่ยนี่เสือกเมาจนกลับบ้านไม่ไหว อยากนอนโรงแรม
ว่างั้น...ผมเลยเอาเงินที่เหลือนั่นแหละเปิดห้องให้มันนอนพักไปเลย

       “ขอบใจนะเว้ยไอ้แดน...นานๆทีเปลี่ยนบรรยากาศบ้าง กูฝากขอบคุณพี่มาร์คกับพี่เมฆด้วย”

      มันเดินเอียงเซวูบลงไป ฮึ๊ย~~~อยากตบกะโหลกมันสักปาบ เวลาจะแดกเหล้าก็ไม่น่าให้เมาถึงขนาดนี้-_-“ หรือเพราะวันนี้เราสองคนลืมตัวไป
หน่อย…บวกกับที่มันเหนื่อยมากแล้วหรือเปล่าว่ะ?...แต่ช่างแมร่ง~~~

       ผมช่วยพยุงมันขึ้นไปบนห้อง มันงึมงำๆอะไรไม่รู้โคตรน่ารำคาญ ตัวก็หนัก เดินเซกันขึ้นไปแถมยังต้องทนเหม็นกลิ่นเหล้าแรงๆจากตัวมันอีก
เฮ้อ...ชีวิตกรูเหนอ...

       ทางเดินภายในโรงแรมที่ค่อนข้างมืดเล็กน้อยเพราะเป็นบาร์ทำให้ผมเดินไม่ถนัดเลย...บวกกับปวดจี๊ดที่สมองเพราะกรึ๊บไปหลายอยู่...ผมเริ่มรู้สึก
เหมือนมีคนมองอยู่ เอ๊ะ...เหมือนมีคนมองดูอยู่ห่างๆจริงๆนะเนี้ย...

      ...รีบๆไขประตูเข้าไป ทิ้งร่างไอ้กอล์ฟกองไว้ตรงนั้น...ภาพที่มันหมดสภาพทำให้ผมยิ้มขำและนึกย้อนกลับไปที่วันนั้น...มันโดนเขารุมกระทืบมา
มันมีผม(นี่แหละ)คอยช่วยดูแลแผลและปฐมพยาบาลแก่มัน...วันนี้ผมก็เอาผ้าชุบน้ำเช็ดให้มันหน่อย เล่นเอาหน้ามืด จัดท่าทางห่มผ้าให้เสร็จสรรพ...เวลาล่วงเลยจน
กลายเป็นดึกมาก ผมปวดหัวตุบๆไปหมด ง่วงนอน...กลัวว่าจะขับรถกลับไม่ไหวเลยตัดสินใจอาบน้ำเพิ่มความสดชื่นสักรอบ

       ออกมาค่อยยังช่วย ผมเอาซองเงินที่เหลือใส่กระเป๋าเสื้อมันไว้ ช่างแมร่งแล้ว กูกลับบ้านก่อนดีกว่า พรุ่งนี้ค่อยโทรปลุกมันก็แล้วกัน



       แกร๊ก!...เสียงปิดประตูดังขึ้นท่ามกลางโถ่งทางเดินที่ว่างเปล่า ผมก้าวออกมาพร้อมทั้งกำลังจะพาร่างตัวเองที่เหนื่อยอ่อนกลับบ้านไปนอนหลับ
สบายๆบนเตียงนุ่ม ทว่า...เงาตะคุ่มดำมืดของใครบางคนยืนอยู่ที่สุดปลายทางเดิน ร่างสูงยืนอยู่นิ่ง นิ่งมาก...วูบนั้นผมเริ่มเอ๊ะใจ และมันก็เต้นรัวจังหวะทำให้รู้สึกไม่ดี...

       ร่างนั้นเริ่มขยับเดินเข้ามา ผมเสมือนต้องมนต์สะกดไว้ ตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้ เหมือนแวบนั้นผมเห็น...และถูกตราตรึงเดินหนีไปไหนไม่ได้...ร่างสูงซึ่ง
เป็นเงาดำเดินเข้ามาใกล้เรื่อยๆช้าๆ...สู่แสงไฟที่ทำให้ทุกอย่างชัดเจน...ในที่สุดเขาก็มาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าผม ก้มมองลงมาที่ผมและมองด้วยแววตาที่ลึกล้ำสุดแสนจนยาก
จะบรรยาย...

      ดวงตาของผมเอ่อคลอขึ้นมาทันที...วินาทีนั้นเหมือนหัวใจหยุดเต้น เหมือนโลกทั้งใบหยุดหมุน เหมือนไม่ได้ยินไม่ได้กลิ่นอะไรแล้ว มีแต่ภาพและ
ความทรงจำอันเจ็บปวด...ที่คล้ายกับฝันก่อตัวขึ้นเป็นความจริงตรงหน้า...ผมหายใจไม่ออก ริมฝีปากและมือสั่นระริก เย็นเชียบ...มีเพียงความเงียบงันเท่านั้นแผ่เข้าปก
คลุมระหว่างร่างของเราทั้งสองคน...

       “...ชิพ”





รู้ว่าอารมณ์มานค้าง แต่จามาลงให้พร่งนี้น๊า อิอิ

ปล. แกล้งคนอ่านจะโดนแช่งอีกมั้ยเนี้ยคร้าบ~~~

yoshiki

  • บุคคลทั่วไป
อารมณ์ ค้างจริงๆ คับ  รีบมาเหอะนะคับ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






snowblack

  • บุคคลทั่วไป
 :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2:


วันนี้จะมารอ  :a6:

ออฟไลน์ DeShiWa

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-9
 :impress: :impress: :impress:

อ่าครับอารมณ์ค้างจริงๆๆด้วย

แต่ในที่สุดก็เจอชิพแล้วอะนะ

จะคุยกันยังไงอะเมื่อเจอกันจากที่ไม่ได้เจอกันนาน

นานขนาดนี้แล้วชิพยังจำแดนได้อยู่นะเนี้ย

ขนาดเห็นไกลๆเวบๆๆ อะครับ แสดงว่ารักแดนมากๆๆ

ไม่เคยลืมแดนแน่นอนครับ เอาใจช่วยนะครับ

หวังว่าภาคนี้คงสมหวังนะครับ ชิพ แดน

 :impress: :impress: :impress:

ออฟไลน์ nirun4

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 491
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
 :m25: :m25: :m25: ค้างอย่างแรงครับ มาต่อเร็ว ๆ นะครับ :m25: :m25: :m25:

sunshine

  • บุคคลทั่วไป
 :m22:
 :m4:
 :m1:
 :sad2:
 :serius2:
 :o12:
เอาอีก ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
อ่านถึงตอนจบ น้ำตาคลอเลย
มาต่อไวไวน้า

@#Jackie#@

  • บุคคลทั่วไป
อ่า เจอกันที่นี่ จะเข้าใจผิดกันหรือเปล่าเนี่ย  o12 :o12: o7

ออฟไลน์ both^^

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +730/-4
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

ชิพมาแว้ววววววววว

เอาล่ะเว้ยๆๆ

งานนี้มีเฮ...


 :a4: :a4: :a4: :a4: :a4:

sixty-3

  • บุคคลทั่วไป
อ๊ากกกกกกกส์
ค้างครับ

 :serius2:

ชิพโผล่มาละๆ

TOS

  • บุคคลทั่วไป
 :กอด1: ได้เจอกันเร็วดี คงต้องมีเรื่องระหว่างชิพกับแดนอีกมากมายแน่นอน ชิพคงต้องเข้าใจแดนผิดแน่นอนที่เห็นเข้าไปกับผู้ชายอีกคนแล้วก็อาบน้ำออกมาด้วย มารอต่อไปอย่างใจจดจ่อว่า จะแก้ปัญหากันต่อไปอย่างไร   o7

ifwedo

  • บุคคลทั่วไป
รอตอนต่อไปน๊า

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






TOS

  • บุคคลทั่วไป
มาเฝ้ารอแต่ก็ยังไม่มา อยากรู้จังว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป   :oni2:

ออฟไลน์ A GE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1174
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-1
 :o :o ทำไมต้องเจอกันในสภาพอย่างนี้ด้วยล่ะครับ  แทนที่จะได้เจอกันแบบดีๆหน่อย  อย่างน้อยจะได้ปรับความเข้าใจกันได้ง่ายกว่าสภาพที่เจอกันอย่างนี้อ่ะ  :serius2: :serius2:

ว่าแต่พรุ่งนี้ต่อจริงๆนะครับ   :m13: :m13:

YO DEA

  • บุคคลทั่วไป
 :o12: :o12:


ขอร้องไห้ซักรอบอีกที


อารมณ์อ่อนไหวเจงๆ ผม


 o7 o7

BEta-K

  • บุคคลทั่วไป
มาต่อเร็วๆ  :angry2: แกล้งกันป่าวเนี่ยให้ค้าง   :serius2:

ALeX

  • บุคคลทั่วไป
หุหุ



บทที่ 6



       “แดน...”

      ผมสะดุ้งตกใจ เส้นเสียงที่เอ่ยออกมาจากริมฝีปากคู่นั้นช่างเปร่งและแปลก...หรือว่าผมไม่ได้ยินมานานกันแน่? นานมาก...สิบปี…เสียงนั้นยังคงดัง
ก้องอยู่ภายในโสตประสาทนานกว่าจะจดจำได้ จนหูอื้อ...เจ้าของแววตาเย็นชาไร้อารมณ์บัดนี้กลับเต็มไปด้วยแรงอารมณ์มากมาย

       จ้องมองลงมาด้วยสีหน้าเย็นชา แต่ดวงตากลับแดงก่ำ แววตาเจ็บช้ำ...นัยน์ตาของผมเองก็ร้อนผะผ่าวเพราะหยาดน้ำใสมันล้นนองออกมาแนบเต็ม
สองแก้ม

      “…แดน…”

      ...ชิพ...เรียกชื่อของผมซ้ำๆอยู่อย่างนั้น...ผมเองไม่รู้จะตอบโต้ยังไงดี ไม่รู้จะพูดยังไง ทำสีหน้ายังไง...เพราะความช็อค ทำให้ไม่มีใครขยับเขยือ
นเลยสักนิด...

       “…”

      “ทำไม…ทำไมถึงมาอยู่ที่นี้?...”

      ผมภาวนาอยากให้มีคำพูดปรากฏขึ้นในสมองมากกว่านี้…ทว่ามันพูดไม่ออกจริงๆ

       “แดน…คุณกลับมาหาผมแล้วจริงๆ…”

      …กำลังจะเอ่ยปากออกไป ทว่าชิพกลับดึงตัวผมเข้าไปกอด…วินาทีนั้นผมก็ปล่อยโฮออกมา…ความอบอุ่นที่ได้แต่ฝันมาตลอดสิบปี ร่างของชิพที่อยู่ใน
อ้อมกอดของผมและเติมเต็มให้หัวใจอันเหือดแห้งกลับมาชุ่มชื่นอีกครั้ง…

       นี่…นี่คือชิพจริงๆเหรอ?

       ไออุ่นและความคุ้นเคยบอกผมว่าใช่

       บอกไม่ถูกเหมือนกันว่ามันคือความสุขหรือทุกข์กันแน่…มันเจ็บที่ตลอดเวลาที่ผ่านมาผมไม่เคยคิดว่าจะมีวินาทีนี้

       “คุณกลับมาแล้วจริงๆด้วย...”

      เสียงของชิพสั่นเครือ…กอดผมแน่นจนเจ็บ ไออุ่นของเขาเหมือนฝัน…เหมือนสิ่งที่ดีที่สุดซึ่งเคยเกิดขึ้นกับผม

       ผมเกือบคิดว่านี่คือความฝัน ผมฝันไปหรือเปล่า?...

       แต่ทุกอย่างก็ช่างสมจริง...จริงจนแทบไม่อยากเชื่อว่ามันจะเจ็บปวดมากมายขนาดนี้

       “...คุณไม่รู้หรอกว่าสิบปี…สิบปีที่ผ่านมามันทรมานแค่ไหน…มันเจ็บปวดจนกระทั่งคิดไม่ออกเลยว่า เพราะอะไร…”

      แต่แล้ว…ทันใดนั้นที่มันบีบตัวผมแรงจนต้องร้องออกมาเบาๆ…ชิพจ้องหน้าผมเขม่ง แววตาที่เย็นชาเคียดแค้นน่ากลัวทำให้ขนลุกชัน…แววตาเปล่ง
ประกายดุดันอย่างไม่เคยเห็นมาก่อน

       “คุณหายไปไหนมา หายไปไหนมา! สิบปีที่ผ่านมามันไม่มีความหมายสำหรับคุณเลยใช่มั้ย!?”

      ชิพลากแขนผมมาเรื่อยๆ ด้วยความงุนงงบวกกับตกใจ…ร่างของผมปลิวตามชิพซึ่งเหมือนพายุออกเดินไปตามทาง พยายามขืนตัวไว้ก็ไม่สำเร็จ
เนื่องจากกำลังข้อนิ้วของชิพที่บีบข้อมือของผมอยู่มากมายเกินกว่าจะต้านทานได้

       “คุณทิ้งแค่จดหมายไว้ให้ผม”

       ขณะนี้เรากำลังยืนอยู่ในลิฟต์ มีแสงไฟสว่างส่องให้ผมเห็นทุกอย่างชัดเจนขึ้นแต่ก็ยังพร่ามัวด้วยหยาดน้ำตา…สิ่งที่น่าตกใจก็คือชิพที่ผอมลงกว่าเมื่อ
สิบปีก่อน ทำให้เขาดูแก่ลงกว่าผมทั้งที่เราสองคนอายุเท่ากัน…ชิพตัดผมสั้นค่อนข้างแนบไปกับศีรษะ ใบหน้าของเขาแลดูทรุดโทรมอิดโรย ผมใจหาย…ทั้งหมดนี่เป็น
เพราะผมหรือเนี้ย?...

       แต่กระนั้น...เค้าความหล่อเหล่าของชิพคนเดิม ซุกซ่อนอยู่ในนั้น

      “เดี๋ยว…ชิพ ฟังผมก่อน”

      แล้วตั้งแต่เมื่อไรกันที่เราสองคนเริ่มพูดกันแบบ ‘คุณ’…’ผม’…

      มันฟังแล้วดูห่างเหินแปลกๆ

       “คุณคิดว่าสิบปีสำหรับผม มันจะมีสิ่งดีๆเข้ามาเติมเต็มผมได้หรือไง?”

      มือสั่นๆของเขายื่นเศษกระดาษอะไรบางอย่างมาที่ผม ผมหยิบมันมาคลี่ออก…เส้นลายมือจางๆของผมปรากฏบนนั้น จดหมายเมื่อสิบปีก่อนตอนที่ผม
เขียนทิ้งไว้ให้เขา…เป็นจดหมายลา…แม้จะไม่นานนักแต่มันก็เก่าเพราะรอยพับและคราบน้ำตาเป็นดวงๆ...

       “นี่คุณ…คุณเก็บไว้กับตัวตลอดเวลา?”

       “…ถ้าผมไม่เก็บไว้…แล้วอะไรล่ะที่คุณเหลือทิ้งไว้ให้ผมบ้างนอกจากความเจ็บปวดใจ…”

      คำพูดเสียดแทงพุ่งขึ้นมาจุกแน่นในอก…ก้มลงมองจดหมาย…ชิพคงคลี่ออกมาอ่านมันบ่อยครั้งเสียจนมันยับยู้และเก่าเกินกว่าเวลาจริงๆ…

       ตัวลิฟต์หยุดลง…ประตูโลหะเปิดออกสู่โถ่งทางเดินที่ว่างเปล่า ชิพกระชากจดหมายออกไปจากมือของผมแล้วเริ่มลากผมเดินต่อไป

       “ดะ…เดี๋ยว! คุณจะพาผมไปไหน”

      ชิพไม่ตอบ…ชั่วอึดใจเดียวเท่านั้นที่มาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าห้องๆหนึ่ง…ชิพนำบัตรรูดลงไปและเปิดออกอย่างรวดเร็ว…ภายในเป็นห้องกว้างๆมืดๆ…
ชิพผลักผมเข้าไปแล้วค่อยย่างสามขุมเข้ามา…ในใจของผมรู้ดีว่าเขากำลังคิดอะไร แต่อยากให้ได้มีโอกาสอธิบายให้เขาฟังก่อนถึงเรื่องราวทั้งหมด ทว่า…

       “เมื่อกี้ผมเห็นคุณพาใครบางคนเข้าไปในห้องข้างล่าง…”

      “อะไรนะ?...”

      “ผมเห็นคุณอยู่กับไอ้หมอนั่น!”

      ชิพตะคอกใส่เสียงดังลั่น ผมสะดุ้ง…อึ้งกับอารมณ์ที่เกรี้ยวกราดของเขาในตอนนี้ อย่างที่ไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน…

       “คุณเข้าใจผิดแล้ว นั่นน่ะคือ-“

      “ไม่ว่าไอ้หมอนั่นจะเป็นใคร ผมไม่สนใจอยู่แล้ว!”

      ชิพเดินเข้ามาบีบต้นแขนของผมไว้แน่น หัวใจที่เต้นตึกตักผลันเร่งจังหวะรุนแรงยิ่งขึ้นไปอีก…วูบนั้นที่แววตาของเขาเข้มข้นไปด้วยแรงอารมณ์อัน
แสนน่ากลัว

       “สิบปีที่คุณไม่เคยนึกถึงผมเลย ไม่แม้แต่จะติดต่อกลับมา…ตอนนี้คุณต้องชดใช้คืนแล้ว และมันต้องสาสมกับที่คุณทำลงไป!”

ALeX

  • บุคคลทั่วไป
อย่าเพิ่งอาละวาดไปนะครับทุกคน ผมมาแล้ว ไปปาร์ตี้มาหน่อยมากแต่ก็มาลงให้เพราะใจรัก คริคริ :oni1: :oni1: :oni1:



บทที่ 7

 

       …เสียง….เสียงนี้คือเสียงของหัวใจที่กำลังเต้น…

       เต้นช้าๆเป็นจังหวะ…ขณะที่ร่างหนึ่งกำลังทอดตัวนอนยาว…ผมขยับตัวเล็กน้อยก็พบกับความเจ็บปวดที่แผ่ซ่านมาจากทั่วร่างกาย ปวดลึกลงไปจน
ถึงกระดูก…เสียงถอนหายใจหนักๆดังขึ้นข้างกายของผม

       ผมรู้ว่าเขาก็ยังไม่หลับ…เราต่างนอนลืมตาโพลงท่ามกลางความมืด ชิพนอนหันข้างไปอีกทาง ใบหน้าที่กระทบแสงไฟจากหน้าต่างด้านนอกสงบนิ่ง
และขาวโพลน ผมลอบมองเขาจากในกระจกปลายเตียง หยาดน้ำตาหยดหนึ่งไหลรินลงมา แต่ไร้ซึ่งเสียงสะอื้น…ผมอยากเข้าไปกอดเขาในตอนนี้ แต่มันไม่กล้า…

       เรานอนนิ่งกันอยู่เงียบๆไม่มีใครพูดอะไร หลังจากเหตุการณ์เมื่อสักครู่ที่เกิดขึ้นเหมือนเป็นระเบิดที่ถูกจุดขึ้นในกายของผม ชิพรู้ดีที่สุด

       เสียงสูดจมูกดังขึ้น…ชิพยกฝ่ามือขึ้นมาปาดน้ำตา เขาหลบหน้าผม พยายามทำเป็นคนเข้มแข็งเยี่ยงที่ผมรู้จักเขาดี แต่ผมเห็น เห็นทุกอย่างจากการ

ลอบมองภาพในกระจก…ความร้าวรานในตอนนั้นมากเสียจนต้องกัดริมฝีปากแน่นเพื่อระงับเสียงร้องนั้นไว้

       “ทำไมยังไม่นอนอีก?”

       ชิพถามเสียงเรียบ…ใครกันล่ะจะหลับลง


       “…”

      “ทำไมคุณไม่ตอบผม?”

      ชิพชะโงกตัวขึ้นเหนือร่าง ผมบิดตัวหนี แต่กลับยิ่งถูกแรงอันมหาศาลกระชากร่างขึ้นมา

       “คุณเป็นอะไร ร้องไห้เหรอ?”

      ผมจ้องหน้าเขา กลัวสีหน้าที่ดุดันนั่น…แต่แล้วชิพก็ยกนิ้วหัวแม่โป้งขึ้นมาเกลี่ยน้ำตาด้วยความอ่อนโยน ช้าๆ…

       “ผมขอโทษนะ…”

      ชิพค่อยๆเลื่อนริมฝีปากเข้ามาจูบแก้มผม ซับน้ำตาออกไปจนหมด…เขาคงขอโทษเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ ทั้งหมดมันเป็นความเข้าใจผิดทั้งนั้น…หากผม
มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับใครมาจริงๆภายในสิบปี…ผมคงไม่ต้องเจ็บปวดเจียนตายเมื่อชิพประกาศความเป็นเจ้าของร่างผมแบบนี้หรอก…

       เขากำลังโมโห ไม่ทันฟังความจริงจากผม…แต่ถึงแม้ร่องรอยที่เป็นรอยเลือดแดงๆบนผ้าปูที่นอนสีขาวนั้นจะเห็นอยู่ตำตา ผมก็ให้อภัยเขาแม้สมควร
จะโกรธตอบไปตั้งนานแล้วก็ตาม…

       “เจ็บมากมั้ย?”

      ผมไม่ตอบ

       “ผม…เอ่อ…”

      “ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว”

      ผมแตะปลายนิ้วลงไปบนริมฝีปากของเขา…ริมฝีปากที่หอมหวานทว่าเมื่อครั้งใดที่เขาจูบลงมา มันคือความปวดร้าวมากว่าความสุขสมที่หลั่งไหลใน
ตัวผม

      “ผมนึก…นึกว่าคุณทำแบบนั้น ภาพที่ผมเห็นมันบดขยี้หัวใจของผมซ้ำแล้วซ้ำเล่าอีกครั้ง…”

       “…”

      “…ทุกๆคืน…ผมจะมานั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อยอยู่ที่บาร์ข้างล่าง ผมหวัง…แค่หวังว่าสักวันคุณจะกลับมาให้ผมเห็นหน้าอีกสักครั้งก็ยังดี…”

      “ชิพ ผมอยู่นี่แล้ว…มันไม่ใช่ความฝัน”

      “ใช่…แต่คุณ…คุณก็หายไปหลายปี! คุณทำแบบนี้กับผมได้ยังไงกัน!”

      ชิพจับผมกดนอนลงไปกับเตียงอีกครั้ง ทุกอย่างรวดเร็วจนจับต้นชนปลายไม่ถูก…ชิพเปลี่ยนไปเป็นคนอารมณ์ร้ายอย่างน่ากลัว…เดี๋ยวเขาก็อ่อนโยน
เดี๋ยวเขาก็ดุร้าย เป็นแบบนี้สลับกันไป

       “คุณรู้มั้ยว่าผมต้องเผชิญกับอะไรบ้าง?” ชิพจูบผมอย่างรุนแรง พร้อมทั้งกัดริมฝีปากจนผมลิ้มรสชาติของเลือดสดๆที่ไหลออกมา…ก่อนจะประสาน
ร่างเข้ามาอย่างเร่งร้อนรุนแรงจนสะดุ้งเฮือก…นิ้วเรียวของเขาจับคางของผมไว้แล้วบีบแน่น…ไม่มีโอกาสได้เปิดปากแม้แต่เสียงประท้วงหรือเสียงร้องครางเพราะชิพปิด
ปากผมไว้ด้วยลิ้นร้อนระอุ…

      “ต่อไปนี้คุณต้องเป็นของผม…ผมคนเดียวเท่านั้น…”

      ชิพถอนริมฝีปากออกมา กวาดสายตามองร่างที่บิดไปมาด้วยความทุรนทุราย ใบหน้าเหยเกของเราสองคนทำให้หัวใจเต้นผิดจังหวะ…ความตื่นเต้น
แผ่ซ่านไปพร้อมกับความรู้สึกอับอายที่ชิพมองผมด้วยแววตาเปี่ยมความหมายเยี่ยงนั้น

       “คุณจะไม่มีทางหนีจากผมไปไหนได้อีกแล้ว ไม่มีวัน”

      ร่างใหญ่โตของเขาขยับเคลื่อนช้าๆ…จากจังหวะอารมณ์ที่รุนแรงเปลี่ยนมาเป็นเนิบนาบ ช้าๆแสนอ่อนโยน…พอทำให้ผมรวบรวมความกล้าทั้งหมด
รั้งศีรษะของเขาลงมาแล้วจูบแผ่วเบา…จากนั้นก็ค่อยๆรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ชิพผ่อนลมหายใจออกช้าๆอย่างพึงพอใจ นัยน์ตาของเราประสานกัน…ทำให้ผมคิดถึงความทรงจำ
ก่อนๆเมื่อครั้งที่เรายังเคยรักกันแบบสุดหัวใจ…

      ตอนนี้ผมก็ยังรักเขาสุดหัวใจเช่นเดิม…

       นี่คงเป็นสิ่งเดียวที่ไม่ได้เปลี่ยนแปลง

       “ผมรักคุณ…ผมรักคุณ อย่าไปไหนจากผมอีกเลย”

      ผมพยักหน้า เขาก้มลงซุกซ่อนใบหน้าลงไปข้างๆกกหู…จูบผมอย่างอ่อนโยน

       …ผมสัญญา…

       อายที่จะบอกว่า...ผมลืมความรู้สึกของเขาไปนานมากแค่ไหนแล้ว...เวลามีเขาอยู่ในกาย มันเกินกว่าคำบรรยายใดๆทั้งนั้น

       ผมรู้สึกผิดเล็กน้อยที่ไม่ได้อธิบายเรื่องทุกอย่างให้เขาฟัง เดี๋ยวนั้น...แต่ชิพคงไม่อยากฟังตอนนี้ เรายังคงมีเวลา...แต่ขณะที่ทุกอย่างดำเนินไป ผม
โกรธตัวเองที่ตักตวงความสุขจากมัน จากชิพ...ผมยอมรับว่าต้องการเขาแม้กระทั่งเวลาที่เรามีเรื่องมากมายต้องปรับความเข้าใจกันแบบนี้

       ความอุ่นร้อนหลั่งไหลเข้ามา...ผมนอนตาปรือด้วยความเหนือล้า ชิพก้มลงจูบผมอยู่เนินนาน...นานแสนนาน ลมหายใจอุ่นร้อนของเขาไหลรินปะทะ
ใบหน้า น้ำหนักของร่างกายกดทับลงมา...ชิพมองกวาดด้วยแววตาครุ่นคิด ก่อนจะเคลื่อนกายเป็นครั้งที่?...ครั้งที่เท่าไรแล้วไม่รู้ ผมไม่ทันได้นับ...



       “อื้อ?...”

       “แดน ตื่นได้แล้ว…”

      ใครบางคนกำลังลูบเส้นผมที่อยู่บนหัวอย่างเบามือ…ฮื้อ?...

       “ตอนนี้เก้าโมงกว่าแล้ว ลุกไหวมั้ย   ?”

      ชิพเองหรอกเหรอ…เขากำลังกดปลายจมูกโด่งลงมาบนแก้ม พร้อมทั้งซุกหน้าลงมาตรงซอกคอ จูบเบาๆ…แปรเปลี่ยนเป็นฝากรอยกัดหยอกๆเอาไว้
ผมบิดตัวหนี แต่มือซุกซนนั้นก็ล้วงเข้ามาใต้ผ้าห่มเพื่อควานหาร่างเปลือยเปล่าของผม แล้วลูบฝ่ามือร้อนๆลงไปบนผิว

       “ยังไม่ตื่นอีกเหรอ งั้นผมเอาจริงแล้วนะ”

      ยังงัวเงียอยู่…แต่ผมก็ลืมตาขึ้นมาพบกับชิพที่กำลังจูบผมอย่างบังคลั่งอยู่ที่ต้นคอด้านใน ผมผลักเขาออก

       “ชิพ…”

      “ลุกสักทีซิ ตื่นได้แล้ว”

      เขายิ้มบางให้ผม ก่อนจะลุกขึ้นยื่นมือส่งให้…แต่ร่างของผมขยับไม่ไหวเลย มันเหมือนหมดแรงยังไงไม่รู้

       “คุณจะลุกดีๆหรือว่าให้ผมลากคุณออกมาจากเตียง”

       สีหน้าของเขาเริ่มจริงจัง หากชิพทำเช่นนั้นผมคงได้ตกเตียงหัวแตกตายแน่ๆ

       “ชิพ…ผมลุกไม่ไหว ผมปวดท้อง…”

      “เพราะเมื่อคืนเหรอ?”

      ยังจะถามได้อยู่อีก (-_O”)…

       “อืม…”

      ผมพยักหน้าอายๆ…หน้าแดงเรื่อ

       ชิพยักคิ้วสูงข้างหนึ่งแบบ ‘งั้นเหรอ?’…ผมมองหน้าเขาแบบ ‘ใช่น่ะเซ่…’…จู่ๆชิพก็เดินเข้ามาอุ้มร่างของผมขึ้นมาจากเตียง ส่งผลให้ผมร้อง

       “เฮ้ย! นี่…นี่คุณจะทำอะไร”

      “ก็พาคุณไปอาบน้ำ หรือว่าคุณอาบไหว?”

      “ก็อาบไหวน่ะซิ! คุณปล่อยผมลงเดี๋ยวนี้นะ!”

      บ้าที่สุด!...ถ้าหากมันหลุดมือขึ้นมา ผมไม่ลงไปนอนหลังหักอยู่ข้างล่างนู่นเหรอ?

      “นี่!  อย่าดิ้นซิ หยุดดิ้น!”

      ผมดิ้นได้ไม่แรงหรอกเพราะยังเมื่อยตัวอยู่…แต่ในที่สุดชิพคงหมดความอดทน โยนตัวผมกลับขึ้นไปบนเตียงอีกครั้งอย่างแรง…ร่างของผมกระแทก
กับเตียงจนตัวโยนอยู่สักพัก ก็ต้องกุมท้องน้อยด้วยความเจ็บปวดจากความระบมที่ตีอยู่ข้างใน

      “ผมบอกคุณแล้วว่าอย่าดิ้น”

       ชิพยืนกอดอกมองผมแบบผู้ใหญ่ตำหนิเด็กเล็กๆ…ส่วนผมแอบค้อนเขา –“–

      “คุณไปก่อนก็ได้…ไม่ต้องรอผมหรอก”

      “ไม่ได้!”

      เอาอีกแล้ว…ชิพตะคอกเสียงดังจนแสบแก้วหู…นี่เขาเป็นอะไรมากป่าวเนี้ย? >_<

       “ถ้าหากคุณหนีจากผมไปอีก ผมจะทำยังไง…”

      ปลายเสียงของชิพสั่นเครือ อ่อนแรงลง…ผมอึ้งอยู่พักใหญ่

       นี่เขาคิดแบบนี้เองเหรอ…

       “ถ้า…ถ้าคุณหนีผมไปอีก คราวนี้…ผมฆ่าคุณตายแน่!”

      ชิพเปลี่ยนจากสีหน้าเว้าวอนมาเป็นแข็งขึงดังเดิม น้ำเสียงก็ห้วนสั้นกระโชกโหกหาก เหมือนเขาพยายามปิดกั้นอารมณ์บางอย่างเอาไว้ข้างใน…ซึ่ง
ผมรู้ดีเพราะเชี่ยวชาญกับความรู้สึกเยี่ยงนั้นมาก่อน

       “ไปอาบน้ำได้แล้ว เราต้องรีบไป”

      “ไปไหน?”

      -_-“???

       “เอาเถอะ เดี๋ยวคุณก็รู้”

      ผมก้มหน้า เอาก็เอาว่ะ…เกาหัวก่อนจะมองหาผ้าคลุมหรืออะไรสักอย่าง

       “มองหาอะไร?”

      ชิพยังคงกอดอกอยู่ตรงนั้น จ้องมองต่ำลงมา

       “ก็…เสื้อคลุม…”

      ชิ!...เพราะว่าผมไม่อยากเดินผ่านเขาไปโทงๆแบบนั้นนี่!!!>.<

       “จะให้หยิบให้เหรอ? ขอโทษทีแต่ฝันไปเถอะ ทำไม? คุณอายเหรอ ทำไมจะให้ผมเห็นไม่ได้ในเมื่อเราสนุกกันจนสำรวจครบทุกซอกทุกมุมแล้ว
ตั้งแต่เมื่อคืน…”

       ยิ่งนั่งฟังอยู่ยิ่งหน้าแดง เลยตัดปัญหาลุกเดินผ่านเขาไปต่อหน้าต่อตาด้วยความรวดเร็ว…อายก็อาย ปวดตุบๆตรง...นั้นก็ใช่ แต่ทำไงได้...ในเมื่อผม
ไม่มีเรี่ยวแรงจะต่อสู้ด้วย

       “อาบน้ำ ไม่ต้องปิดประตูนะ ไม่ต้องปิดม่านด้วย ผมจะดู”

      หา?!

      “คุณจะบ้าเหรอ?!”

      ชิพกลับยักไหล่ไม่มีทีท่าตื่นเต้นตกใจ

       “ก็แล้วไง”

      “แต่…ไม่ได้หรอก คุณก็เห็นหมดน่ะซิ อีกอย่าง…น้ำไหลออกมาด้วย”

      “ข้ออ้างของคุณฟังไม่ขึ้นหรอกนะ…น้ำหกก็เช็ดได้ ผมอยากดูคุณอาบน้ำ อาบไปเลยทำตามที่ผมบอกเท่านั้น เร็ว”

       ฮือ…อยากร้องไห้ T-T…เสียงน้ำจากฝักบัวกระทบอ่างดังกลบเสียงหัวเราะฮึๆของชิพ…ผมจำใจต้องทำตามที่เขาบอก

       เหลือบมองเขาซึ่งกำลังยิ้ม และจ้องมองมาด้วยแววตากระหยิ่มยิ้มย่อง…ข้างในผมรู้สึกอบอุ่นที่มีเขากลับเข้ามาในชิวตของผม เหมือนกับความฝันที่
กลายเป็นจริง…ทว่าพอเหลือบมองลงไปที่เป้ากางเกงซึ่งอวบอูมแล้ว…ผมพลันต้องเบือนหน้าหนีด้วยความอับอาย ชิพเองกลับยิ้มและยิ่งเพิ่มเสียงหัวเราะเข้าไปใหญ่ ไม่รู้
เขาเป็นบ้าอะไร…แต่แววตาแบบนั้นทำให้ผมสังหรณ์ใจว่าคราวนี้มันคงแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะหนีจากความต้องการของเขา หรือแม้แต่จะคลาดสายตา…ผมก็ยังมองไม่
เห็นหนทางเลยสักทางเดียว…

       “เอ๊ย!”

      สระผม ได้หลับตาแค่ชั่วครู่เดียว ลืมตามาอีกทีก็มีร่างหนาใหญ่ยืนอยู่ข้างหลังด้วยกันภายใต้น้ำอุ่นร้อนซึ่งเปิดไหลรดตัว...ชิพบีบคางผมพร้อมทั้ง
กอดไว้

       “ผมอยากรู้นัก...ที่คุณหนีผมไป เพราะอยากแก้แค้มผมใช่มั้ย?”

      อะไรนะ?

      “คุณพูดอะไรของคุณ?”

      “ผมเคยหนีคุณไปห้าปี...คุณเลยจะเอาคืน สักสิบปี่ ยี่สิบปี...นี่เพราะคุณคิดจะแก้แค้นผมใช่มั้ย?”

      คำพูดของเขา มันคือคำพูดของคนไม่มีเหตุผล คนโกรธ...แต่รู้มั้ยว่ามันเจ็บที่เขาเสียดแทง ที่เขาประชดประชัน ผมเจ็บ...

       “ไม่ใช่...”

      “งั้นต่อไปนี้เราก็หายกันแล้ว ตอนนี้มันคือเกมกระดานใหม่แล้ว ผมจะทำตามใจอย่างที่ผมอยากทำกับคุณ! ผมจะต้องเอาคืนให้สาสม คุณต้องยอม”

      ชดใช้?...ผมต้องชดใช้อะไรกัน

       ไม่ใช่แค่เขาคนเดียวที่เจ็บ...ผมก็คน ย่อมเจ็บปวดทรมานเท่ากัน...

       ...เสียงชิพครางแผ่วเบากลบเสียงสายน้ำกระทบพื้น...ผมกอดเขาไว้ทั้งน้ำตา มันแปลกที่แม้ชิพกลับมา แต่ผมกลับรู้สึกเหมือนไม่รู้จักเขาเลย...ชิพที่
เต็มไปด้วยความโกรธแค้นบ้าๆนั่น โดยไม่ได้ตั้งใจ...ผมขัดขืน ชิพยิ่งใส่ความรุนแรงเข้ามา จุกไปเลย...พูดไม่ออก...นี่มันไม่ใช่ความรัก มันคือความใคร่...

       …แต่ถ้าคุณคิดแบบนั้นล่ะก็ ชิพ...ผมจะยอมคุณทุกอย่าง...

       เพราะผมก็ไม่ใช่คนดีอะไรทั้งนั้น เช่นเดียวกัน

       






       โปรดติดตามตอนต่อไป

YO DEA

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
 :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad:

จะไม่มีช่องว่างระหว่างเรา ..... จริงเหรอ 


 :sad4: :sad4: :sad4:

civava14

  • บุคคลทั่วไป
 :mc4:  ใจหนึ่งก้อดีใจ

แต่พออ่านไปสักพัก โอ้ย  ค้างคา    :o12:

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
โห ชิพกลับมาคราวนี้ กับความแค้นนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน แถมยัง  :m25:

อีกตะหาก อิอิ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด