อย่าเพิ่งอาละวาดไปนะครับทุกคน ผมมาแล้ว ไปปาร์ตี้มาหน่อยมากแต่ก็มาลงให้เพราะใจรัก คริคริ

บทที่ 7
…เสียง….เสียงนี้คือเสียงของหัวใจที่กำลังเต้น…
เต้นช้าๆเป็นจังหวะ…ขณะที่ร่างหนึ่งกำลังทอดตัวนอนยาว…ผมขยับตัวเล็กน้อยก็พบกับความเจ็บปวดที่แผ่ซ่านมาจากทั่วร่างกาย ปวดลึกลงไปจน
ถึงกระดูก…เสียงถอนหายใจหนักๆดังขึ้นข้างกายของผม
ผมรู้ว่าเขาก็ยังไม่หลับ…เราต่างนอนลืมตาโพลงท่ามกลางความมืด ชิพนอนหันข้างไปอีกทาง ใบหน้าที่กระทบแสงไฟจากหน้าต่างด้านนอกสงบนิ่ง
และขาวโพลน ผมลอบมองเขาจากในกระจกปลายเตียง หยาดน้ำตาหยดหนึ่งไหลรินลงมา แต่ไร้ซึ่งเสียงสะอื้น…ผมอยากเข้าไปกอดเขาในตอนนี้ แต่มันไม่กล้า…
เรานอนนิ่งกันอยู่เงียบๆไม่มีใครพูดอะไร หลังจากเหตุการณ์เมื่อสักครู่ที่เกิดขึ้นเหมือนเป็นระเบิดที่ถูกจุดขึ้นในกายของผม ชิพรู้ดีที่สุด
เสียงสูดจมูกดังขึ้น…ชิพยกฝ่ามือขึ้นมาปาดน้ำตา เขาหลบหน้าผม พยายามทำเป็นคนเข้มแข็งเยี่ยงที่ผมรู้จักเขาดี แต่ผมเห็น เห็นทุกอย่างจากการ
ลอบมองภาพในกระจก…ความร้าวรานในตอนนั้นมากเสียจนต้องกัดริมฝีปากแน่นเพื่อระงับเสียงร้องนั้นไว้
“ทำไมยังไม่นอนอีก?”
ชิพถามเสียงเรียบ…ใครกันล่ะจะหลับลง
“…”
“ทำไมคุณไม่ตอบผม?”
ชิพชะโงกตัวขึ้นเหนือร่าง ผมบิดตัวหนี แต่กลับยิ่งถูกแรงอันมหาศาลกระชากร่างขึ้นมา
“คุณเป็นอะไร ร้องไห้เหรอ?”
ผมจ้องหน้าเขา กลัวสีหน้าที่ดุดันนั่น…แต่แล้วชิพก็ยกนิ้วหัวแม่โป้งขึ้นมาเกลี่ยน้ำตาด้วยความอ่อนโยน ช้าๆ…
“ผมขอโทษนะ…”
ชิพค่อยๆเลื่อนริมฝีปากเข้ามาจูบแก้มผม ซับน้ำตาออกไปจนหมด…เขาคงขอโทษเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ ทั้งหมดมันเป็นความเข้าใจผิดทั้งนั้น…หากผม
มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับใครมาจริงๆภายในสิบปี…ผมคงไม่ต้องเจ็บปวดเจียนตายเมื่อชิพประกาศความเป็นเจ้าของร่างผมแบบนี้หรอก…
เขากำลังโมโห ไม่ทันฟังความจริงจากผม…แต่ถึงแม้ร่องรอยที่เป็นรอยเลือดแดงๆบนผ้าปูที่นอนสีขาวนั้นจะเห็นอยู่ตำตา ผมก็ให้อภัยเขาแม้สมควร
จะโกรธตอบไปตั้งนานแล้วก็ตาม…
“เจ็บมากมั้ย?”
ผมไม่ตอบ
“ผม…เอ่อ…”
“ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว”
ผมแตะปลายนิ้วลงไปบนริมฝีปากของเขา…ริมฝีปากที่หอมหวานทว่าเมื่อครั้งใดที่เขาจูบลงมา มันคือความปวดร้าวมากว่าความสุขสมที่หลั่งไหลใน
ตัวผม
“ผมนึก…นึกว่าคุณทำแบบนั้น ภาพที่ผมเห็นมันบดขยี้หัวใจของผมซ้ำแล้วซ้ำเล่าอีกครั้ง…”
“…”
“…ทุกๆคืน…ผมจะมานั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อยอยู่ที่บาร์ข้างล่าง ผมหวัง…แค่หวังว่าสักวันคุณจะกลับมาให้ผมเห็นหน้าอีกสักครั้งก็ยังดี…”
“ชิพ ผมอยู่นี่แล้ว…มันไม่ใช่ความฝัน”
“ใช่…แต่คุณ…คุณก็หายไปหลายปี! คุณทำแบบนี้กับผมได้ยังไงกัน!”
ชิพจับผมกดนอนลงไปกับเตียงอีกครั้ง ทุกอย่างรวดเร็วจนจับต้นชนปลายไม่ถูก…ชิพเปลี่ยนไปเป็นคนอารมณ์ร้ายอย่างน่ากลัว…เดี๋ยวเขาก็อ่อนโยน
เดี๋ยวเขาก็ดุร้าย เป็นแบบนี้สลับกันไป
“คุณรู้มั้ยว่าผมต้องเผชิญกับอะไรบ้าง?” ชิพจูบผมอย่างรุนแรง พร้อมทั้งกัดริมฝีปากจนผมลิ้มรสชาติของเลือดสดๆที่ไหลออกมา…ก่อนจะประสาน
ร่างเข้ามาอย่างเร่งร้อนรุนแรงจนสะดุ้งเฮือก…นิ้วเรียวของเขาจับคางของผมไว้แล้วบีบแน่น…ไม่มีโอกาสได้เปิดปากแม้แต่เสียงประท้วงหรือเสียงร้องครางเพราะชิพปิด
ปากผมไว้ด้วยลิ้นร้อนระอุ…
“ต่อไปนี้คุณต้องเป็นของผม…ผมคนเดียวเท่านั้น…”
ชิพถอนริมฝีปากออกมา กวาดสายตามองร่างที่บิดไปมาด้วยความทุรนทุราย ใบหน้าเหยเกของเราสองคนทำให้หัวใจเต้นผิดจังหวะ…ความตื่นเต้น
แผ่ซ่านไปพร้อมกับความรู้สึกอับอายที่ชิพมองผมด้วยแววตาเปี่ยมความหมายเยี่ยงนั้น
“คุณจะไม่มีทางหนีจากผมไปไหนได้อีกแล้ว ไม่มีวัน”
ร่างใหญ่โตของเขาขยับเคลื่อนช้าๆ…จากจังหวะอารมณ์ที่รุนแรงเปลี่ยนมาเป็นเนิบนาบ ช้าๆแสนอ่อนโยน…พอทำให้ผมรวบรวมความกล้าทั้งหมด
รั้งศีรษะของเขาลงมาแล้วจูบแผ่วเบา…จากนั้นก็ค่อยๆรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ชิพผ่อนลมหายใจออกช้าๆอย่างพึงพอใจ นัยน์ตาของเราประสานกัน…ทำให้ผมคิดถึงความทรงจำ
ก่อนๆเมื่อครั้งที่เรายังเคยรักกันแบบสุดหัวใจ…
ตอนนี้ผมก็ยังรักเขาสุดหัวใจเช่นเดิม…
นี่คงเป็นสิ่งเดียวที่ไม่ได้เปลี่ยนแปลง
“ผมรักคุณ…ผมรักคุณ อย่าไปไหนจากผมอีกเลย”
ผมพยักหน้า เขาก้มลงซุกซ่อนใบหน้าลงไปข้างๆกกหู…จูบผมอย่างอ่อนโยน
…ผมสัญญา…
อายที่จะบอกว่า...ผมลืมความรู้สึกของเขาไปนานมากแค่ไหนแล้ว...เวลามีเขาอยู่ในกาย มันเกินกว่าคำบรรยายใดๆทั้งนั้น
ผมรู้สึกผิดเล็กน้อยที่ไม่ได้อธิบายเรื่องทุกอย่างให้เขาฟัง เดี๋ยวนั้น...แต่ชิพคงไม่อยากฟังตอนนี้ เรายังคงมีเวลา...แต่ขณะที่ทุกอย่างดำเนินไป ผม
โกรธตัวเองที่ตักตวงความสุขจากมัน จากชิพ...ผมยอมรับว่าต้องการเขาแม้กระทั่งเวลาที่เรามีเรื่องมากมายต้องปรับความเข้าใจกันแบบนี้
ความอุ่นร้อนหลั่งไหลเข้ามา...ผมนอนตาปรือด้วยความเหนือล้า ชิพก้มลงจูบผมอยู่เนินนาน...นานแสนนาน ลมหายใจอุ่นร้อนของเขาไหลรินปะทะ
ใบหน้า น้ำหนักของร่างกายกดทับลงมา...ชิพมองกวาดด้วยแววตาครุ่นคิด ก่อนจะเคลื่อนกายเป็นครั้งที่?...ครั้งที่เท่าไรแล้วไม่รู้ ผมไม่ทันได้นับ...
“อื้อ?...”
“แดน ตื่นได้แล้ว…”
ใครบางคนกำลังลูบเส้นผมที่อยู่บนหัวอย่างเบามือ…ฮื้อ?...
“ตอนนี้เก้าโมงกว่าแล้ว ลุกไหวมั้ย ?”
ชิพเองหรอกเหรอ…เขากำลังกดปลายจมูกโด่งลงมาบนแก้ม พร้อมทั้งซุกหน้าลงมาตรงซอกคอ จูบเบาๆ…แปรเปลี่ยนเป็นฝากรอยกัดหยอกๆเอาไว้
ผมบิดตัวหนี แต่มือซุกซนนั้นก็ล้วงเข้ามาใต้ผ้าห่มเพื่อควานหาร่างเปลือยเปล่าของผม แล้วลูบฝ่ามือร้อนๆลงไปบนผิว
“ยังไม่ตื่นอีกเหรอ งั้นผมเอาจริงแล้วนะ”
ยังงัวเงียอยู่…แต่ผมก็ลืมตาขึ้นมาพบกับชิพที่กำลังจูบผมอย่างบังคลั่งอยู่ที่ต้นคอด้านใน ผมผลักเขาออก
“ชิพ…”
“ลุกสักทีซิ ตื่นได้แล้ว”
เขายิ้มบางให้ผม ก่อนจะลุกขึ้นยื่นมือส่งให้…แต่ร่างของผมขยับไม่ไหวเลย มันเหมือนหมดแรงยังไงไม่รู้
“คุณจะลุกดีๆหรือว่าให้ผมลากคุณออกมาจากเตียง”
สีหน้าของเขาเริ่มจริงจัง หากชิพทำเช่นนั้นผมคงได้ตกเตียงหัวแตกตายแน่ๆ
“ชิพ…ผมลุกไม่ไหว ผมปวดท้อง…”
“เพราะเมื่อคืนเหรอ?”
ยังจะถามได้อยู่อีก (-_O”)…
“อืม…”
ผมพยักหน้าอายๆ…หน้าแดงเรื่อ
ชิพยักคิ้วสูงข้างหนึ่งแบบ ‘งั้นเหรอ?’…ผมมองหน้าเขาแบบ ‘ใช่น่ะเซ่…’…จู่ๆชิพก็เดินเข้ามาอุ้มร่างของผมขึ้นมาจากเตียง ส่งผลให้ผมร้อง
“เฮ้ย! นี่…นี่คุณจะทำอะไร”
“ก็พาคุณไปอาบน้ำ หรือว่าคุณอาบไหว?”
“ก็อาบไหวน่ะซิ! คุณปล่อยผมลงเดี๋ยวนี้นะ!”
บ้าที่สุด!...ถ้าหากมันหลุดมือขึ้นมา ผมไม่ลงไปนอนหลังหักอยู่ข้างล่างนู่นเหรอ?
“นี่! อย่าดิ้นซิ หยุดดิ้น!”
ผมดิ้นได้ไม่แรงหรอกเพราะยังเมื่อยตัวอยู่…แต่ในที่สุดชิพคงหมดความอดทน โยนตัวผมกลับขึ้นไปบนเตียงอีกครั้งอย่างแรง…ร่างของผมกระแทก
กับเตียงจนตัวโยนอยู่สักพัก ก็ต้องกุมท้องน้อยด้วยความเจ็บปวดจากความระบมที่ตีอยู่ข้างใน
“ผมบอกคุณแล้วว่าอย่าดิ้น”
ชิพยืนกอดอกมองผมแบบผู้ใหญ่ตำหนิเด็กเล็กๆ…ส่วนผมแอบค้อนเขา –“–
“คุณไปก่อนก็ได้…ไม่ต้องรอผมหรอก”
“ไม่ได้!”
เอาอีกแล้ว…ชิพตะคอกเสียงดังจนแสบแก้วหู…นี่เขาเป็นอะไรมากป่าวเนี้ย? >_<
“ถ้าหากคุณหนีจากผมไปอีก ผมจะทำยังไง…”
ปลายเสียงของชิพสั่นเครือ อ่อนแรงลง…ผมอึ้งอยู่พักใหญ่
นี่เขาคิดแบบนี้เองเหรอ…
“ถ้า…ถ้าคุณหนีผมไปอีก คราวนี้…ผมฆ่าคุณตายแน่!”
ชิพเปลี่ยนจากสีหน้าเว้าวอนมาเป็นแข็งขึงดังเดิม น้ำเสียงก็ห้วนสั้นกระโชกโหกหาก เหมือนเขาพยายามปิดกั้นอารมณ์บางอย่างเอาไว้ข้างใน…ซึ่ง
ผมรู้ดีเพราะเชี่ยวชาญกับความรู้สึกเยี่ยงนั้นมาก่อน
“ไปอาบน้ำได้แล้ว เราต้องรีบไป”
“ไปไหน?”
-_-“???
“เอาเถอะ เดี๋ยวคุณก็รู้”
ผมก้มหน้า เอาก็เอาว่ะ…เกาหัวก่อนจะมองหาผ้าคลุมหรืออะไรสักอย่าง
“มองหาอะไร?”
ชิพยังคงกอดอกอยู่ตรงนั้น จ้องมองต่ำลงมา
“ก็…เสื้อคลุม…”
ชิ!...เพราะว่าผมไม่อยากเดินผ่านเขาไปโทงๆแบบนั้นนี่!!!>.<
“จะให้หยิบให้เหรอ? ขอโทษทีแต่ฝันไปเถอะ ทำไม? คุณอายเหรอ ทำไมจะให้ผมเห็นไม่ได้ในเมื่อเราสนุกกันจนสำรวจครบทุกซอกทุกมุมแล้ว
ตั้งแต่เมื่อคืน…”
ยิ่งนั่งฟังอยู่ยิ่งหน้าแดง เลยตัดปัญหาลุกเดินผ่านเขาไปต่อหน้าต่อตาด้วยความรวดเร็ว…อายก็อาย ปวดตุบๆตรง...นั้นก็ใช่ แต่ทำไงได้...ในเมื่อผม
ไม่มีเรี่ยวแรงจะต่อสู้ด้วย
“อาบน้ำ ไม่ต้องปิดประตูนะ ไม่ต้องปิดม่านด้วย ผมจะดู”
หา?!
“คุณจะบ้าเหรอ?!”
ชิพกลับยักไหล่ไม่มีทีท่าตื่นเต้นตกใจ
“ก็แล้วไง”
“แต่…ไม่ได้หรอก คุณก็เห็นหมดน่ะซิ อีกอย่าง…น้ำไหลออกมาด้วย”
“ข้ออ้างของคุณฟังไม่ขึ้นหรอกนะ…น้ำหกก็เช็ดได้ ผมอยากดูคุณอาบน้ำ อาบไปเลยทำตามที่ผมบอกเท่านั้น เร็ว”
ฮือ…อยากร้องไห้ T-T…เสียงน้ำจากฝักบัวกระทบอ่างดังกลบเสียงหัวเราะฮึๆของชิพ…ผมจำใจต้องทำตามที่เขาบอก
เหลือบมองเขาซึ่งกำลังยิ้ม และจ้องมองมาด้วยแววตากระหยิ่มยิ้มย่อง…ข้างในผมรู้สึกอบอุ่นที่มีเขากลับเข้ามาในชิวตของผม เหมือนกับความฝันที่
กลายเป็นจริง…ทว่าพอเหลือบมองลงไปที่เป้ากางเกงซึ่งอวบอูมแล้ว…ผมพลันต้องเบือนหน้าหนีด้วยความอับอาย ชิพเองกลับยิ้มและยิ่งเพิ่มเสียงหัวเราะเข้าไปใหญ่ ไม่รู้
เขาเป็นบ้าอะไร…แต่แววตาแบบนั้นทำให้ผมสังหรณ์ใจว่าคราวนี้มันคงแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะหนีจากความต้องการของเขา หรือแม้แต่จะคลาดสายตา…ผมก็ยังมองไม่
เห็นหนทางเลยสักทางเดียว…
“เอ๊ย!”
สระผม ได้หลับตาแค่ชั่วครู่เดียว ลืมตามาอีกทีก็มีร่างหนาใหญ่ยืนอยู่ข้างหลังด้วยกันภายใต้น้ำอุ่นร้อนซึ่งเปิดไหลรดตัว...ชิพบีบคางผมพร้อมทั้ง
กอดไว้
“ผมอยากรู้นัก...ที่คุณหนีผมไป เพราะอยากแก้แค้มผมใช่มั้ย?”
อะไรนะ?
“คุณพูดอะไรของคุณ?”
“ผมเคยหนีคุณไปห้าปี...คุณเลยจะเอาคืน สักสิบปี่ ยี่สิบปี...นี่เพราะคุณคิดจะแก้แค้นผมใช่มั้ย?”
คำพูดของเขา มันคือคำพูดของคนไม่มีเหตุผล คนโกรธ...แต่รู้มั้ยว่ามันเจ็บที่เขาเสียดแทง ที่เขาประชดประชัน ผมเจ็บ...
“ไม่ใช่...”
“งั้นต่อไปนี้เราก็หายกันแล้ว ตอนนี้มันคือเกมกระดานใหม่แล้ว ผมจะทำตามใจอย่างที่ผมอยากทำกับคุณ! ผมจะต้องเอาคืนให้สาสม คุณต้องยอม”
ชดใช้?...ผมต้องชดใช้อะไรกัน
ไม่ใช่แค่เขาคนเดียวที่เจ็บ...ผมก็คน ย่อมเจ็บปวดทรมานเท่ากัน...
...เสียงชิพครางแผ่วเบากลบเสียงสายน้ำกระทบพื้น...ผมกอดเขาไว้ทั้งน้ำตา มันแปลกที่แม้ชิพกลับมา แต่ผมกลับรู้สึกเหมือนไม่รู้จักเขาเลย...ชิพที่
เต็มไปด้วยความโกรธแค้นบ้าๆนั่น โดยไม่ได้ตั้งใจ...ผมขัดขืน ชิพยิ่งใส่ความรุนแรงเข้ามา จุกไปเลย...พูดไม่ออก...นี่มันไม่ใช่ความรัก มันคือความใคร่...
…แต่ถ้าคุณคิดแบบนั้นล่ะก็ ชิพ...ผมจะยอมคุณทุกอย่าง...
เพราะผมก็ไม่ใช่คนดีอะไรทั้งนั้น เช่นเดียวกัน
โปรดติดตามตอนต่อไป