...จะไม่มีช่องว่าง ระหว่างเรา...ชิพ&แดน Series <<<
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ...จะไม่มีช่องว่าง ระหว่างเรา...ชิพ&แดน Series <<<  (อ่าน 434918 ครั้ง)

ออฟไลน์ LingNERD*

  • จบแล้ว...รักที่เคยมี *
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-0
ปัญหาเยอะจริงๆ :a6:

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
หวานซึ้งกับแผนคั้นความจิงของไอ้ตัวแสบได้แป๊ปๆ

ต้องมาเจอรัศมีความน่ากลัวของคุณหญิงย่าเซ็งจิงๆ

Mp_qM

  • บุคคลทั่วไป
ปัญหาหนอปัญหา

ช่างมากมายเสียจริง

เรื่องนี้นี่อ่านแล้วน้ำตาแทบร่วง

แบบว่าช่างเหมือนเรื่องนางทาสรึเปล่านี่มีแต่เรื่องร้ายๆ

BICHA

  • บุคคลทั่วไป
 :a2:   :a2:   :a2: 

     สงสัยจาได้ตบกะคนแก่ 555

ออฟไลน์ ★L'Hôpital

  • แค่เราได้พบกัน...
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1521
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-18
ปัญหาเรื่องระหว่างแดนกับชิพก็หมดไปแล้ว

แต่ปัญหาใหม่ก็ตามเข้ามาอีก  :เฮ้อ:

DekDoy

  • บุคคลทั่วไป
อ่านไป งงไป

นึกว่าดูละครช่อง 7 อยู่อ่ะ


ออฟไลน์ naja

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 708
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
คุณย่ามหาภัยมาแล้วววว :serius2: :serius2: :serius2:

ออฟไลน์ DeShiWa

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-9
:impress: :impress: :impress:

อ่าครับสงสารชิพและแดนอะครับ

อ่านแล้วน้ำตาไหลเลยครับ

สงสารอย่างจับใจ

เอาใจช่วยครับผม หวังว่าย่าของชิพคงใจอ่อนสักวัน

:impress: :impress: :impress:

snowman

  • บุคคลทั่วไป
หึหึหึหึ สนุกแน่ๆ


ย่ามาแล้ว ....


ทุบหัวเลย กรั่กๆๆๆๆๆๆ  :oni2: :oni2: :oni2:

myLoveIsYOu

  • บุคคลทั่วไป
ท่าทาง ชิพ จะพูดความจริงนะเนี่ย  :m13: :m29:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






(^_^)Jawaa!!!

  • บุคคลทั่วไป
จะเป็นยังงัยต่อไปน๊า
สงสารแอลจังเยย  :o8:

ออฟไลน์ [€]ŝĊörŦ

  • ความพยามครั้งที่100 ดีกว่าคิดท้อถอยก่อนที่จะทำ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2077
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +142/-0
เกลียดคนที่เจ้ายศเจ้าอย่างแบบนี้ที่สุดเลยอะ

เรื่องมันจะกลายเป็นหนังไทยเข้าไปทุกๆทีละ

 o12     o12    o12     o12

wutwit

  • บุคคลทั่วไป
ยังคิดถึงพี่มาร์คอยู่เหมียนเดิม..


ALeX

  • บุคคลทั่วไป
ขอโทษทีครับคือเผอิญคอมที่บ้านผมเสีย วันนี้เลยออกมาใช้คอมนอกบ้าน ช่วงนี้อารมณ์ไม่ค่อยดีเลยยังไม่ได้เริ่มแต่งภาค3เลย ขอโทษด้วย

เมื่อวานหลังกลับจากเรียนพิเศษ(เดี๋ยวนี้เรียนตั้งแต่8โมงถึงหกโมงครึ่ง...)กะจะมาลงนิยาย คอมดันเสียอีก เลยล่วงเลยมาจนถึงวันนี้ ซึ่งก็เอามาลงให้รวดสามตอนเลย หวังว่าคงจะถูกใจกันนะครับ


ปล.นิยายเรื่องนี้ไม่ใช่ละครช่องเจ็ดนะครับ อิอิ :laugh: ไม่เห็นมีนังเย็นกับนังสาลี่ และคุณหญิงแย้มสักหน่อย หุหุ


บทที่ 31



       “หวาน”

       ผมเคาะประตูห้องไอ้หวาน ต่อไปนี้เราไม่ได้ไปทำงานแล้ว(แย่เหมือนกัน ไม่มีเงินเก็บน่ะซิT-T) ผมก็มาสิ่งสถิตอยู่แถวมหา’ลัยแล้วก็หอไอ้หวานนี่แหละ

      แกร๊ก! เสียงเปิดประตูเข้าไป หืม!!! ทำไมห้องไอ้หวานมันรกอย่างงี้เนี้ย O[]O!! ยี้~~~ซกมกอย่างแรง ว่าแต่ไอ้เจ้าของห้องไปไหนเนี้ย?

      “หวานๆ”

      อ้อ เรียกตั้งนานไปเจอมันนอนคุดคู้อยู่ในห้องนี่เอง เอ๊ะ เสียงมันคุยโทรศัพท์กับใครหรือเปล่าว่ะ

      “บอกว่ายอมไม่ได้ยังไง!”

      เสียงไอ้หวานว๊ากลั่น ตามด้วยโนเกียราคาถูกที่น่าสงสารบินวอนไปกระทบฝากำแพงเข้าอย่างจัง หล่นปุกลงกลายเป็นซากไปโดยปริยาย

      มันล้มลงนอนนิ่ง ผมแง้มประตูเข้าไปดู…มันร้องไห้อยู่นี่หว่า

      “หวาน…”

      ผมค่อยๆนั่งข้างมันบนเตียง กอดปลอบมันเบาๆ

       “เกิดอะไรขึ้น?”

      “น้องกุ้ง…น้องกุ้งเขาต้องเลิกกับกู”

      “ทำไมล่ะ? ทำไมน้องเค้าต้องเลิกกับมึง?”

      “ก็เพราะ…น้องเค้าจะแต่งงานน่ะซิ”

      ผมอึ้งไปแป๊บ พยายามตั้งสติให้ถูก เพราะถ้าเผื่อผมตีโพยตีพายไปด้วยอีกคน ไอ้หวานที่เพิ่งระเบิดอารมณ์สติแตกไปหยกๆต้องบ้าตามไปด้วยแน่

      “…น้องเขาต้องแต่งงานเหรอ?”

      “ใช่ บ้านน้องเค้าจะจับแต่งงาน แต่งกับ…”

      เสียงไอ้หวานขาดหายไปในลำคอ…ไม่จบ

      “แต่งกับใครวะ”

      “…แต่งกับ…ใครไม่รู้ แต่แดน…กูรับไม่ไหว ไม่ไหวแล้ว หากว่ากูต้องเห็นน้องเค้าแต่งงานไป กูต้องหัวใจสลายแน่ๆ…ยิ่งกูเห็นว่าน้องเค้าไม่ได้อยากแต่งงาน แต่อยากอยู่กับกู แต่กูทำอะไรไม่ได้…กูยิ่งทนไม่ได้”

      “อ้าว ก็ดีแล้วนี่ น้องเค้ายังรักมึงอยู่”

      “แต่กูล้มเลิกแผนแต่งงานบ้าบออะไรนี่ไม่ได้ เพราะฝ่ายชายเขาคงไม่ยอม…”

      อ้อ ปัญหาบรรพบุรุษจุ้นจ้านนี่เอง...ผมเองก็หมดปัญญาแก้เช่นกัน

      ตลกดีเนอะ ชีวิตคนนั้นน้ำเน่ายิ่งกว่าในนิยายอีก

       อย่างกะน้องกุ้งเป็นลูกสาวเจ้าพ่อที่ต้องถูกจับแต่งงานทั้งๆที่มีคนรักแล้ว 555+ โคตรเหมือนนิยายจริงๆเลยว่ะ ให้ตายเถอะ…

       “แล้วทำยังไงดีละ…กูจะช่วยมึงคิดหาทางออก”

      “ไม่มี…ไม่มีทางออก กูไม่อยากให้มึงเข้ามายุ่ง…แค่นี้ก็มากพอแล้ว”

      ฮื้อ? มันพูดว่าไงนะ

      “อะไรนะ…กูยุ่งด้วยงั้นเหรอ?”

      “ปะ…เปล่าหรอก ไม่มีอะไรหรอก”

      ผมคอยอยู่เป็นเพื่อนมัน บริการหาข้าวหาปลา แถมยังต้องจัดห้องให้มันอีก วู้!~~เหนื่อยโว้ย แถมยังหมดเวลาไปทั้งวัน ปากมันเอาแต่พล่ามๆเรื่องน้องกุ้งกับถามผมอยู่นั่นแหละว่าเมื่อไรผมกับบอยจะลงเอยกันสักที เชรี่ยยยย กูชักรำคาญ +^+”*

       “มึงถามแบบเนี้ยทำไมวะ?>”

      “~ก็แค่อยากรู้อ่ะ”

      “ถ้าอยากรู้ก็ได้…กูกับบอยไม่มีวันลงเอยกัน เราสองคนเป็นแค่เพื่อน ครั้งแรกที่กูนอนกับมัน มันยังคิดว่ากูเป็นผู้ชายขายตัวอยู่เลย ทีนี้พอใจยัง?”


       ไอ้หวานเงียบไป เฮ้อ…โล่งหูสักที นี่ถ้าไม่นับว่ามีเรื่องหนักใจผมตบกะโหลกมันไปหลายทีแล้วนะเนี้ย ฮืมๆ -“- (แง่งๆ~~)


       “แม่ เงินที่แดนเอาไปเข้าธนาคารให้แม่เห็นหรือยัง?”

      กลับมาถึงบ้านเหนื่อยๆก็มีเรื่องต้องมาครุ่นคิด ผมเดินแยกจดหมายกับขยะทิ้งขณะเปิดประตูเข้ามาในบ้าน เสียงแม่ผัดอะไรอยู่ไม่รู้หอมฉุยเชียะ พอเงยหน้าขึ้น…

       “ชิพ…”

      ไม่ทันสังเกต มันเข้ามาอยู่ในบ้านผมได้ไง???

      “แดน…อย่าเพิ่งโวยวายนะ นั่งลงก่อน”

      งงดิ? ใครกันเปิดประตูต้อนรับมันเข้ามา...นอกจากแม่

       ทว่าแม่ของผมไม่ชอบขี้หน้าชิพ ตั้งแต่มันหายตัวไปเมื่อห้าปีก่อน

      “ชิพ มึงเข้ามาได้ไง แม่...แม่รู้เรื่องหรือเปล่า?”

      “เออน่า แกอยู่เฉยๆเหอะ ชั้นให้เค้าเข้ามาแล้ว”

       ร่างเล็กของแม่ยืนทำตาค้อนใส่ผมอยู่ขณะกำลังทยอยยกจานผัดผักบุ้งกับไข่เจียวแล้วก็กับข้าวง่ายๆอีกสองสามอย่าง พร้อมด้วยจานข้าวสามที่ มิน่าละแม่ถึงจัดกับซะอลังการ(มากกว่าสองอย่างก็อลังการแล้วคับ) เพราะมีแขกเป็นไอ้ชิพนี่เอง…

      “นั่งลงซิ กินได้แล้ว”

      ผมอ้าปากจะถาม แต่สายตาคมกริบที่แม่มองมา ปรามผมไม่ให้พูดต่อไป

      ระหว่างที่กินแม่นั่งเงียบๆ ท่านทำเหมือนไม่รู้จักชิพ จริงๆนะคือแม่พูดเหมือนกับไม่เคยรู้จักกันมาก่อนในชีวิต…แต่มองดูแววตาผมรู้ว่าแม่โกรธชิพ ด้วยเรื่องอะไรน่ะเหรอ? เหอะๆ…ไม่น่าถาม =”=

       ชิพหน้าเสียเล็กน้อย ผมนั่งข้างๆมัน ต้องเข้าใจว่าปัจจุบันนี้แม่ของผมเปลี่ยนไปมาก ท่านได้รับความกดดันทั้งทางร่างกายและจิตใจ ความสุขความสดใสในตัวแม่พลันทรุดโทรมหรือจางหายไป...อันเป็นผลมากจากความเครียดที่แม่ปกปิดผมมาตลอดนับแต่พ่อเริ่มป่วยเป็นโรคมะเร็งลำไส้เล็ก

       “แดน ถามเพื่อนซิลูกว่ามาทำไม?”

      แม่ถามผมแบบนี้ ก็แสดงว่าไม่อยากคุยกับชิพตรงๆน่ะซิ...มันก้มหน้าลง โหนกแก้มของมันเจือสีแดงเรื่ออย่างเห็นได้ชัดเพราะความอับอาย กระนั้นมันก็ยอมทนนั่งอยู่ตรงนั้น

       “ผมมาเยี่ยมแดนครับ…”

      แม่กระแทกตัวลุกออกไปทันที ตามด้วยเสียงล้างจานที่ค่อนข้างดัง จานกระทบกับช้อนส้อมคล้ายคนล้างกำลังใส่อารมณ์...ชิพหันมามองผมตาปอยๆ

       “กูมาหามึง มีเรื่องสำคัญต้องพูด”

      นับแต่ที่ผมเลิกฝึกงานที่บริษัทของชิพ เราต่างคนต่างมีชีวิตและธุระปะปังที่ต้องจัดการ กลับไปใช้ชีวิตอยู่ในสังคมอันแตกต่าง...ผมกลับมาเรียนหนังสือเก็บตัวที่เหลือๆของผม เพื่อตามความฝันที่ว่าสักวันหนึ่งจะได้มีโอกาสยืนถ่ายรูปกับพ่อกับแม่ ในมือถือปริญญาใบแรกของชีวิต สวมชุดครุยน่าเกรงขาม ครอบครัวของเรายิ้มอย่างมีความสุข...ส่วนชิพเองก็มีฝันของมันเช่นกัน เวลาว่างที่เราสามารถเจอกันได้ก็คือช่วงเย็นหรือวันหยุด นัดกันที่คอนโดของชิพ และถ้าคืนไหนผมต้องการมันทอดกายอยู่เคียงข้างยามค่ำคืน ผมก็จะออกไปหา ซึ่งพักหลังมานี่ส่วนใหญ่แล้วก็จะเป็นเช่นนั้น (=_=*)

       ผมมีความสุขมากเมื่อได้ใช้เวลาอยู่ร่วมกับชิพ...คนที่ผมรัก

       สักพัก แม่เดินออกมาพร้อมกับถ้วยลอดช่องใส่น้ำแข็งเย็นเจี๊ยบหน้าตาน่ารับประทาน แต่อึ้งที่ว่าแม่ถือออกมาเพียงถ้วยเดียว ทั้งๆที่ชิพนั่งอยู่...แม่นั่งลงก่อนจะชายตามองไปที่มัน

       “เอ้า ของโปรดเธอไม่ใช่เหรอ? ชั้น...ยังจำได้”

       แม่เลื่อนถ้วยใส่ลอดช่องฝีมือแม่ครัวเอกให้ชิพโดยที่ท่านไม่ได้มีอาการอิดออดหรือประชดประชันเลยแม้แต่นิด ลอดช่องสีสวยๆถูกวางไว้ตรงหน้าชิพ...มันเงยหน้าขึ้นสบตาแม่ผม ดวงตาคลอหยาดน้ำใส...ก่อนจะยิ้มกว้างกล่าวขอบคุณแม่เสียงสั่นๆ

       “ขอบคุณครับ...แม่”

      แม่ของผมพยักหน้า “แดน...เดี๋ยวปิดบ้านให้เรียบร้อยนะ แม่ขึ้นบ้านอาบน้ำนอนและ”

      ว่าแล้วแม่ก็ขโยกขเหยกเดินขึ้นบันไดไป ส่วนจานชามผมเสนอตัวว่าเดี๋ยวจะช่วยกันกับไอ้ชิพล้างทำความสะอาดให้เรียบร้อยและจัดเก็บเข้าที่เอง ตอนนี้มันนั่งหน้าบาน ตักลอดช่องเข้าปากด้วยสีหน้าอิ่มเอมใจ มันทำท่าจะป้อนแต่ดันแกล้งตักพลาดจนหกใส่ตัวผม ต่อยมันไปทีหนึ่ง มันหัวเราะ ผมยิ้ม...มันก็ยิ้มให้ผม ความรู้สึกอบอุ่นดีๆเริ่มกลับเข้ามาอีกแล้ว คราวนี้ผมไม่กลัวมันอีกต่อไป

       เปล่าเลย ผมพร้อมจะเปิดรับมันเต็มที่เลยต่างหาก

 

       เราสองคนกำลังนั่งอยู่ที่ม้านั่งตรงส่วนหย่อมกลางซอย ตรงต้นไม้ใหญ่มีเสาไฟสว่างจ้าเปิดอยู่เป็นระยะๆ ตรงนี้มีดวงเดียว รอบด้านเลยมืด มีเพียงผมกับมัน ทุกอย่างเป็นส่วนตัวและเงียบสงบ ผมเอาหัวเอนพิงซบมัน...รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก

       “มีเรื่องอะไรถึงได้มาหาถึงบ้านวันนี้”

      ชิพขยับตัว กลิ่นหอมจางๆประจำตัวมันห้อมล้อมผม...ให้หลงไหลไปกับชิพ

       ผมหลงรักชิพ

       เพราะมันเตือนผมอยู่ในใจตลอดเวลา

       “~หอมแก้มก่อนแล้วจะบอก”

      “ฮื้อ ไม่เอาหรอก”

       แฮะๆ เล่นตัวงั้นแหละคับ =o=*

       พอมันเงียบ ผมเลยต้องยอมจำใจชะโงกขึ้นไปหอมแก้มมันโดยปริยาย ทว่าคราวนี้มันไม่ได้เพียงแค่หอมแก้ม แต่มันแอบบังคับผมจูบเลยต่างหาก =_=* ยอมมันก็เพราะรสจูบหอมหวาน ที่ปลุกอารมณ์ได้กระเจิงยิ่งกว่าครั้งไหนๆ...

       “เกิดอะไรขึ้น?”

       ผมถามงงๆ สมองมันมึนๆ...ไม่เคยนึกเลยว่าจูบที่เพิ่งผ่านมาจะเป็นอะไรที่เซ็กซี่ที่สุดของชิพ ยิ่งกว่าตอนเราอยู่บนเตียงด้วยกันซะอีก >///<

       ชิพหัวเราะ “งงเลยเหรอ?”

      “เออดิ” อ้าว…ก็แค่แปลกใจ อีกอย่างเมื่อคืนก่อน คืนก่อนๆ คืนก่อนๆๆโน้นชิพก็น่าจะไม่มีปัญหาเรื่องอารมณ์ที่คั่งค้างอยู่แล้วนี่…

       “รักกูป่าว?”

      เอ๊ะ ชักจะยังไง

      “ไม่เอาๆและ มีอะไรรีบพูดมาเลยดีกว่า”

      “เฮ้ย~~~ เดี๋ยวก่อนเด่ มึงนี่ทำตัวเป็นแฟนที่อ่อนหวาน น่ารักเหมือนใครอื่นเค้าเป็นบ้างมั้ยเนี้ย?”

      “อ้าว ถ้าอยากได้แบบนั้นก็เชิญออกไปตามหาเอาเองซิ”

       ผมเมินหน้าใส่ชิพงอนๆ เชิด! มันเข้ามาคลอเคลียแป๊บเดียวก็ใจอ่อน โกรธมันไม่ไหวหรอก น่ารักแบบเนี้ย >o<

       “บอกกูหน่อยนะ...บอกกูหน่อยว่ารักกูหรือเปล่า?”

      ชิพหอมแก้มผม จากนั้นมันก็จับคางเชยหันมาให้เราได้สบตากัน ผมจ้องมองแววตาลึกซึ้งนั่น...มันเปี่ยมไปด้วยความหมาย ความทรงจำ มากมายที่ถ่ายทอดออกมา...มันแทนคำตอบทั้งหมด ทั้งหมดที่ผมมี

       มันจูบผม แม้ไม่ได้ตอบมัน แต่ผมรู้ว่าชิพเข้าใจ...จูบมันด้วยความรักเปี่ยมล้น จนผมตกใจว่าทำไมหัวใจของผมถึงรักใครคนหนึ่งได้มากมายขนาดนี้ นั่นคือชิพ ผมรู้สึกอยากกอดชิพไว้ตลอดไป แบบนี้ หยุดเวลาทุกอย่าง มีเพียงเรา สองคนตลอดไป...

       ผมไม่เคยชอบใช้คำว่าตลอดไป

       แต่ผมจะรักเค้าตลอดไป

       ชิพผละจูบ แววตาของมันบ่งบอกว่าคืนนี้กรูเสร็จมันอีกแหงๆ =_=* แต่แล้วมันก็ยัดอะไรบางอย่างเข้ามาในมือของผม งง???

      “อะไรเนี้ย?”

      มันเป็นเงิน...เงินแบ๊งค์พันปึกหนึ่ง เยอะพอสมควร ชิพให้ผมทำไม?

       “แดน...กูรักมึง และถ้ามึงรักกูนะ มึงต้องรับเงินจำนวนนี้ไป”

      ผมอึ้ง พูดยิ้มๆ...”นี่มึงล้อเล่นหรือเปล่า?”

      “เปล่านะ กูขอแค่อยากช่วยเหลือมึง...กูไม่รู้หรอกว่าจะทำยังไงดี มีทางเดียวเท่านั้นที่ เอ่อ...กูถนัด รับเงินนี้ไปซะ แล้วเข้าใจกูด้วย”

       “ไม่ชิพ กูรับไว้ไม่ได้หรอก กูทำไม่ได้…”

       ผมยัดเงินคืนใส่มือชิพกลับไป แต่มันก็ไม่ยอม คราวนี้กำมือผมไว้แน่น

       “คิดซะว่าให้ยืนก็ได้...จนกว่าเรื่องทุกๆอย่างจะดีขึ้นนะ”

      จำนวนเงินนี้มากพอทำให้เรามีค่าเช่าบ้านต่อได้อีกสองสามเดือน พร้อมทั้งสาธารนูปโภคต่างๆ...แต่ทำแบบนี้ก็เท่ากับรับเงินชิพมาฟรีๆ โดยไม่ได้ทำอะไรตอบแทนเลยนะซิ?

       อีกอย่าง ผมเองก็มีศักดิ์ศรี ผมรู้ว่าชิพรวยมหาศาล แต่ก็ไม่เคยแบมือขอเงินใคร และไม่เคยคิดอยู่ในหัวสมองด้วย

       “ชิพ บอกตามตรง...กูรับไว้ไม่ได้หรอก มึงอย่าทำแบบนี้อีก กูไม่ได้โกรธมึงหรอกนะ กูเข้าใจ...แต่ว่ากูเอาเงินฝ่ายเดียวจากมึงมาจริงๆไม่ได้”

      “หมายถึงต้องแลกเปลี่ยนน่ะเหรอ?”

      “กูไม่มีอะไรจะให้หรอก ฉะนั้นนะ เก็บเงินคืนไปเถอะ”


       “รู้อะไรมั้ยแดน? มึงมีอย่างหนึ่งที่ให้กูได้...ความรักไง มึงให้หัวใจกูมาแล้ว กูทนไม่ได้ที่จะต้องเห็นมึงต้องลำบาก เห็นแม่มึงลำบาก กูรักมึง...รักมาก จนกูเจ็บไปด้วยที่มึงต้องมาเผชิญเรื่องร้ายๆแบบนี้”

       ตอนนั้น ภาพใบหน้าอันแสนอ่อนโยนของชิพตรงหน้า อยู่ในท่ามกลางแสงสลัวจากเสาไฟ แสงนวลๆอ่อนๆส่องให้ผมมองเห็นชิพได้ชัดเจนขึ้นว่า...มันคือสิ่งที่สวยงามที่สุด ที่เคยเกิดขึ้นในชีวิตของผม ผมขอแค่ให้เคยได้รักมัน ครั้งหนึ่งในชีวิต...แค่นี้ก็พอแล้ว

       “ร้องไห้ทำไม? ไม่เอาน่า~~ขี้แยอีกแล้วนะคนเก่ง”

      ชิพจูบซับน้ำตา จูบจริงๆ! ไม่อยากจะเชื่อว่าชิพอ่อนโยนกับผมได้ถึงขนาดนี้

       “กูไม่ได้ร้องไห้สักหน่อย”

      “นอกจากจะดื้อ ขี้แย แล้วยังปากแข็งอีก เนี้ย~~~ใครบอกว่าตาคลอๆแบบนี้จะไม่ร้องไห้ มึงอ่ะชอบให้กูต้องเช็ดน้ำตาให้อยู่เรื่อย”

      ผมร้องไห้ออกมาจริงๆก็คราวเนี้ย มันตื้นตันใจไปหมด...มันกอดผมไว้ อ้อมกอดอบอุ่นแข็งแรงที่จะคงให้ความรู้สึกเหนือคำบรรยายเช่นนี้ตลอดไป...

       “แต่แม่กูคงไม่ยอมด้วยหรอก”

      ไม่วายหาข้ออ้าง แต่ชิพมองด้วยสายตาดุๆเหมือนบอกว่า ‘หยุดได้แล้ว’

      “มึงก็แค่บอกแม่ว่า...มึงทำงานได้เงินมาซิ อย่าบอกว่ากูให้”

      “แต่…”

      “แล้วถ้าแม่บอกว่าให้เอาเงินมาคืนกู...ก็บอกว่าเงินนี้ให้แล้วให้เลย ไม่รับคืนครับ”

      “อ้าว? ก็ไหนเมื่อกี้บอกให้ยืมไง”

      “เอ่อ...แฮะๆ ก็ประมาณนั้นอ่ะ อย่าซีเรียสดิ”

       เจ้าบ้า! ไม่ให้ซีเรียสได้ไง เงินจำนวนเยอะมากมายแบบนี้ นี่ถ้าแม่รู้เข้าเอาผมตายแน่ ไม่เอาดีกว่า ตัดสินใจคืนชิพไปดีกว่าหมดเรื่องหมดราว

       “เห้ยๆ บอกแล้วไงว่าเงินนี้...เป็นของมึงแล้ว ถ้ามีปัญหากับแม่ก็หาทางเลี่ยงๆ เข้าใจป่ะ?”

      ไอ้ชิพมันเลวมากคับ =_= มันหัดเสี้ยมสอนให้ผมโกหกแม่ตัวเอง ทั้งๆที่ผมก็ทันแกวมันนะ แต่ใครก็ตามอย่าเอาเป็นตัวอย่างนะครับ (=o=”)<<<

       “แดน...มีเงินเงินแล้ว มีความสุข...มีความสุขเพื่อกูเถอะนะ”

      แม่ต้องไม่เห็นดีงามด้วยแน่ร้อยเปอร์เซ็นท์ แต่ถ้านี่คือความสุขของชิพ ผมจะยอม...ยอมเพื่อมัน

       “ก็ได้ชิพ”

      ชิพจูบหน้าผากผม “~ดีมาก...”

      มือของมันเลื่อนไปตรงเอวของผม เริ่มแล้วไง...ผมดึงตัวออกก่อน สบตามัน โอยไอ้หื่น! มองกรูตาเป็นมันแบบนั้น ไอ้...ไอ้บ้าลามก!@

      “เอ่อๆ รู้แล้วๆ...จะให้รีบไปขึ้นรถได้แล้วใช่มั้ย”

      ชิพพยักหน้า(เหมือนหมา)แสนรู้ ขำก็ขำมันนะไอ้ช็อคชิพของผมเนี้ย >o<

       “รีบไปเถอะก่อนที่กูจะไฮเปอร์มากกว่านี้”

      โดนล็อคแบบเนี้ย หนีไปไหนไม่ได้หรอก ไม่อยากด้วย...

       เพราะผมเองก็อยากๆโดนล็อคเหมือนกันแหละ o_O*<<<

ALeX

  • บุคคลทั่วไป
บทที่ 32



       ณ หน้าคลินิกบ้านสวน ผมเห็นผู้หญิงคุ้นๆตาคนหนึ่งเดินเข้าไป…

      มองจากทางด้านหลังแล้ว คุ้นมาก…

       ผู้หญิงคนนั้นมาหาบอยเหรอ? และผมควรจะเข้าไปตอนนี้ดี หรือว่ารอก่อนดีกว่ามั้ยนะ?

       ชิพรู้เรื่องที่ผมถือโอกาสว่างๆนี้มาเยี่ยมบอย เราขาดการติดต่อกันไปสักพักใหญ่ๆแล้ว…ผมเป็นห่วง ส่วนชิพแค่งอนเล็กน้อยที่ผมไม่อยู่กับมันที่คอนโด แต่จ้างให้ก็ไม่ยอม…ทำไมนะเหรอ? อยู่กับมันทั้งวันสุดท้ายก็ต้องลงเอยอีหร่อบเดิม…เก็บแรงไว้บ้างดีกว่า =_=”

      …ภายในคลินิกเงียบเหงา คงเพราะเป็นวันธรรมดาปลายเดือน คนไม่ค่อยมีเงิน ผมทักพี่ที่อยู่หน้าเคาน์เตอร์ พี่ตาแกรู้จักผม เลยให้เข้าไปทางด้านในได้ตามสบาย

       เสียงบอยคุยอยู่กับเสียง…ผู้หญิงดังขึ้นมาเรื่อยๆ ไม่ได้ตั้งใจจะเสียมารยาทหรอกนะ แต่ผมได้ยิน…

      “เราควรจะทำยังไงกันดีคะ พี่บอย?”

       เอ๊ะ! เสียงคุ้นมาก…ใครกันนะ? แต่ต้องเป็นผู้หญิงคนเดียวกันกับเมื่อตะกี้แน่ๆ

       “เราต้องพูดกับพ่อแม่ของทั้งสองฝ่ายให้รู้เรื่อง…แต่ไม่ต้องห่วงนะ เรื่องทั้งหมดถ้าจะต้องเกิดขึ้น พี่เป็นคนรับผิดชอบเอง”

       จากบทสนทนา ทำให้ผมคิดตะเลิดไปไกล หรือว่า…

       บอยทำผู้หญิงท้อง?!

       แต่บอยเป็นเกย์ไม่ใช่เหรอ? (อันนี้พิสูจน์มาแล้ว=_=’)

       ผมเลื่อนตัวเข้าไปไกลประตูบานที่เปิดแง้มทิ้งไว้ เอนตัวเข้าไป ทว่า ไอ้ถุงมะม่วงอกร่องเจ้ากรรมที่ซื้อมาฝากบอยดันทะลึ่งกระแทกใส่ประตูเข้า เปิดฝ่างออก! แล้วภาพที่ผมเห็นก็ถึงกับอึ้งจนพูดอะไรไม่ออก…

       “น้องกุ้ง?...”



       บอยนั่งคุยกับผมจนถึงเย็น…ร้านปิดเร็วมาก เนื่องจากไม่มีคน บวกกับอารมณ์ของสัตวแพทย์หนุ่มที่กำลังเคร่งเครียด ผมฟังเรื่องราวทั้งหมดอย่างไม่ค่อยอยากเชื่อ ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าแท้ที่จริงแล้วบอยมีคู่หมั้น คู่หมั้นสาวแสนสวย…คนเดียวกับที่เป็นแฟนไอ้หวานเพื่อนซี้ของผม น้องกุ้งน่ะเอง!

       บอยบอกว่า เค้ากำลังถูกคุณอาบังคับให้แต่งงานหลังเรียนจบ อีกฝ่ายเป็นน้องกุ้ง…ซึ่งทั้งสองฝ่ายต่างรู้ดีว่าไม่ได้ชอบกันและกัน อย่าว่าแต่จะมองเลย…อย่าลืมว่าทั้งสองรักกันไม่ได้ ในเมื่อพวกเค้าไม่สามารถมีความรักแบบทั่วๆไป…บอยนั่งหน้าเศร้า สิ่งนี้เองซินะที่รบกวนจิตใจของเค้ามาตลอดหลายอาทิตย์ที่ผ่านมานี่   

        และคงเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่อธิบายได้ว่า…ทำไมหวานถึงได้เซ้าซี้ให้ผมเป็นแฟนกับบอยให้จงได้

       มันหลอกผม!

       “นายปิดบังเรา”

      ผมเริ่มพูดเป็นครั้งแรกตลอดเวลาหนึ่งชั่วโมงที่ผ่านมา บอยเอาแต่ระบายความในใจ สารภาพทุกอย่างออกมา…เขาขอให้ผมไม่โกรธเขา แต่เรื่องโมโห…อดไม่ได้จริงๆ

       “คุณอย่าโกรธผมนะ ขอร้องล่ะ…ถ้าผมเสียคุณไปอีกคน ผมคงไม่เหลือใครเลย”

       จะว่าไปก็น่าสงสาร บอยเป็นคนอาภัพเรื่องความรักแท้ๆ…เหมือนใครบางคนแถวนี้เลย…เค้าอึดอัดใจมากที่ไม่มีสิทธิเลือกได้เองว่าชีวิตของเขาสมควรรักใครชอบใคร ทำได้ก็แค่ปกปิด…

       “ผมเป็นคนไม่ค่อยมีเพื่อน ฉะนั้น…อย่าเลิกคบผมเลยนะ ผมขอโทษ”

       ตาของบอยแดงๆเหมือนจะร้องไห้ ผมอดไม่ได้…ถอนหายใจก่อนนั่งลงข้างๆเขา สงสาร…คนเราทำผิดกันได้ ผมให้อภัยบอยไม่ว่าเหตุผลจะออกมาในรูปแบบใดก็ตาม

      “ฮื้อ! ไม่ได้หมายความว่าเราจะเลิกคบนายซะเมื่อไร เราไม่ได้โกรธนายหรอก แต่แค่ไม่พอใจที่นายกับหวานร่วมมือกันปิดบังเรา เหมือนเราเป็นคนโง่”

      ร่างสูงก้มหน้าสำนึกผิด เฮ้อ…

       ผมขยับเข้าไปโอบกอดเขา ลูบหลังเขาเบาๆ บอยค่อยๆตัวสั่นก่อนจะปล่อยสะอื้นโฮใหญ่ออกมา…ผู้ชายขี้แยเนี้ย อ่อนไหวจริงๆเลยนะ =_=”

       “ไม่ต้องร้องหรอก…เราไม่ได้โกรธนายสักหน่อยนะ อย่าโทษตัวเองเลย”

      “เปล่า ผมร้องเพราะ…”

      “…อะไรเหรอ?”

      “เพราะอะไรผมถึงเป็นแฟนกับคุณไม่ได้…ทั้งๆที่ผมรักคุณมากมายขนาดนี้”

      ผมสะอึก เข้าใจความรู้สึกเจ็บปวดของเขาดี…การที่เรารักใครสักคน ทั้งๆที่รู้ว่าเค้าไม่มีวันหันมา มันช่าง…

       “เรารักนายนะบอย เราหวังดีกับนายเสมอ แต่รักแบบเพื่อน นายคือเพื่อนที่ดีที่สุดคนหนึ่งของเราตลอดไป”

       บอยจ้องนัยน์ตาของผม “จริงนะ?...”

      ผมพยักหน้า ช้าๆ…บอยจะเคลื่อนเข้ามาจูบ ทว่า ผมแตะริมฝีปากเบรกเขาไว้

       “ทำไม? ผม…ผมขอจูบคุณเป็นครั้งสุดท้ายได้มั้ย?”

      บอยทอดแววตาแสนเศร้านั้นมา วินาทีนั้นอารมณ์แรกที่ผมเจอกับเค้าย้อนกลับเข้ามากระแทกอย่างจัง…อารมณ์คนอกหัก ความเจ้บที่อัดแน่นอยู่ในออกสามารถถ่ายทอดออกมาได้ผ่านดวงตาคู่นี้ ผมตกลง…จูบที่นุ่มนวลแผ่วบางประทับแนบตามลงมา…ไม่ได้มีอะไรเกินเลยไปกว่าแค่คำว่า ‘ทะนุทนอม’…และ ‘อ่อนหวาน’…ผมคงไม่สามารถหาจุมพิตที่งดงามได้มากไปกว่านี้แล้ว

       “เราเป็นเพื่อนกันนะต่อไปนี้?”

      “งั้นก็แปลว่า ละครหลอกๆที่ผมเป็นแฟนคุณ…ก็ต้องจบลงด้วยแล้วน่ะซิ”

       ผมยิ้ม แต่เป็นยิ้มที่เศร้ามาก แม้แต่หัวใจยังรับรู้ได้…เหมือนกับว่าต่อไปนี้จะไม่มีทางสัมผัสถึงความรู้สึกดีๆเหล่านั้นได้อีกแล้ว บอยทำให้ผมรู้จักความสุขในช่วงเวลาหนึ่ง ผมอยากเป็นคนๆนั้นของเขาได้ แต่เหมือนเส้นขนานสองเส้นที่ไม้เคยบรรจบกัน หัวใจผมมันไม่ได้มีไว้เพื่อเค้า อันนี้เราสองคนต่างเข้าใจดี

       “แต่สัญญาว่าเราจะไม่ลืมนาย”

      ผมยื่นนิ้วก้อยเกี่ยวสัญญาให้เขา บอยหัวเราะขำๆ

       “ครับผม…ขอบคุณนะครับแดน ที่ทำให้ผมมีความสุขมากแบบนี้”

      แม้ปากบอยจะบอกมีความสุข แต่ผมรู้ ลึกลงไปในนั้นเต็มไปด้วยความปวดร้าว

       อยากจะรักบอยได้เหมือนกัน เขาเป็นคนดีจริงๆ…และผมคงมีความสุขยิ่งกว่าถ้าสักวันจะเห็นเขามีความรักที่สวยงาม สมบูรณ์แบบอีกครั้ง

       “แล้วเรื่องนายกับน้องกุ้งละ?”

       “ผม…จะไม่มีวันยอมแพ้ สักวันคุณอาต้องเข้าใจและยอมรับในสิ่งที่ผมเป็น”

      “ดีแล้วล่ะ” ผมตบหลังมือเค้าเป็นการให้กำลังใจ…ป่านนี้เองน้องกุ้งก็คงกำลังอยู่กับหวาน หรือไม่ก็กลับบ้านไปแล้ว พ่อแม่น้องกุ้งเป็นคนค่อนข้างเข้มงวด ต้องหวงลูกสาวเป็นธรรมดา…ผมว่าคู่นั้นงานนี้ท่าทางจะยากเย็นสักหน่อย เพราะคงไม่มีใครอยากให้ลูกสาวคนเดียวที่เลี้ยงดูอย่างกะเจ้าหญิงไปอยู่กินเป็นแฟนกับทอมสาวเป็นแน่ =_=”

ALeX

  • บุคคลทั่วไป



บทที่ 33



       ค่ำคืนที่ยาวนาน ผมไม่รู้สึกเหงาอีกต่อไป…

       ไม่ต้องฝันร้าย เพราะชิพอยู่ตรงนี้ เคียงข้างผมแล้ว…ตัวจริงที่กลับทำให้ความรู้สึกดีเยี่ยงนี้คล้ายฝันไปแทนซะเอง…

       เคยเป็นเวลาตอนดึกๆ เงียบสงัดและเหงา…เหงาเหลือเกิน ผมกลัวความืด ต้องการใครสักคนให้กอด…ที่ไม่ใช่เซ็กซ์ แต่คือคนที่สามารถทำให้เราอบอุ่นได้ตลอดไป…

       ตอนนี้ผมเจอดาวเหนือของผมแล้ว (น้ำเน่าไป’เปล่าหว่า~~<<<)

       ผมรู้สึกอบอุ่นอย่างประหลาด…ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม ไออุ่นจากมัน กลิ่นหอมๆของมัน สัมผัสอ่อนโยนของมัน…ทำให้ผมนึกถึงคืนเมื่อห้าปีก่อนนั้น

       ความสัมพันธ์ระหว่างผมกับชิพช่วงนี้เป็นอะไรที่วิเศษมาก ผมมีความสุข มันก็มีความสุข เหมือนเราได้เติบโตและเรียนรู้อะไรมากมายหลายอย่าง ทำให้เข้าใจกันมากขึ้น รู้จักหยุดคิด ให้อภัย ชิพไม่เคยหึงผมบ้าๆบอๆแบบเดิมอีกเลย ไม่เคยใส่อารมณ์ มันอ่อนโยนซึ่งคืออีกด้านหนึ่งที่น้อยคนนักจะรู้จัก ส่วนผมก็เลิกเจ้าคิดเจ้าแค้นมัน ยอมตามใจในเรื่องที่จะทำให้มันมีความสุข ผมพร้อมทุกอย่าง…เวลามีความรักมันทำให้โลกสดใส(อันนี้พูดจริงๆ ไม่เน่านะ(0_0*)) ยิ่งการได้รักชิพนั้นทำให้ชีวิตของผมมีความหมายขึ้นมามาก ผมสามารถเป็นตัวของตัวเอง รู้สึกมีค่า อย่างน้อยก็เพื่อทำให้คนที่เรารักมีความสุข

       ผมไม่เคยหวังอะไรจากชิพ ขอแค่ให้ได้รัก…ซึ่งผมไม่เคยหยุดรักมันเลยนับตั้งแต่ที่เราเจอกันในโรงอาหารตอนโรงเรียนมัธยม…แม้มันจะอยู่ห่างไกลออกไป ผมเคยแค้นมันมากก็จริง…แต่เท่าๆกับความรักที่ผมมีให้มันมากมายเช่นกัน เลยพาลเกลียดตัวเอง…เกลียดตัวเองที่ทำไมถึงรักชิพทั้งที่มันหนีหายผมไปแบบนั้น

       แต่ตอนนี้ถ้าขาดมัน หัวใจผมมันเหมือนค่อยๆตาย เหมือนต้นไม้ขาดน้ำ

       เคยมีคนบอกว่ารักที่เกิดจากเซ็กซ์ มันไม่ยั่งยืน ทว่าผมไม่ได้รักเซ็กซ์ของชิพ แม้ว่ามันจะวิเศษมากเพียงใดก็ตาม แต่ผมไม่เคยถือยึดติด มันก็แค่ของแถม…ผมรักที่ตัวตนของชิพ   

       สำหรับคืนนี้ เรามีอะไรกันหลายรอบแล้ว และนี่ก็ผ่านมานับครั้งไม่ถ้วน ชิพกับผมเหนื่อยจนต้องขอหยุดพัก บอกตามตรงเลยว่าผมไม่เคยป้องกัน(ซึ่งเป็นอะไรที่แย่เอามากๆ…) แต่เวลาที่มีชิพหลั่งไหลอยู่ท่วมท้นภายในกายของผม ความอุ่นร้อนตรงนั้นรดระฝังแน่น…ทำให้ร่างทั้งร่างถูกปลุกขึ้น มีชีวิตชีวา และสุขใจ ผมรักมันมากยิ่งขึ้นทุกวินาทีๆโดยไม่มีทีท่าว่าจะหยุดได้เลย

       ชิพล้มตัวลงนอนข้างๆผม อย่างเหนื่อยอ่อนและหอบเพราะกิจกรรมเร้าอารมณ์ระหว่างเราสองคน >o< จนเมื่อทุกอย่างกลับลงสู่ปกติ ผมก็แทบหมดแรง นอนซบแผ่นอกแน่นๆของมันอยู่ตรงนั้น

       เรานอนเคียงกันอยู่เงียบๆไม่พูดอะไร แต่ตื่นอยู่ พลางทอดสายตามองลงไปยังถนนเบื้องล่าง ซึ่งมองเห้นรถยนต์วิ่งไปตามทางสู่เมืองใหญ่ ชีวิตกลางคืนเพิ่งเริ่มต้นขึ้น แต่ผมพอใจแล้วที่ได้อยู่กับชิพเพียงลำพัง ณ ตรงนี้

       “วิวสวยนะ”

       ชิพจูบขมับผม อืม…ชักง่วงแล้ว -“-

       “มึงรักกูหรือเปล่า?”

      “ทำไมชอบถามย้ำๆ?”

      “ก็ชอบฟัง พูดอีกซิ”

       เวลามันอ้อนผมแบบนี้ ทำยังไงก็อดไม่ได้ ต้องบอกรักมันทุกครั้งไป

       ผมพลิกตัวขึ้นมาเล่นหน้าอกมัน กล้ามเนื้อแข็งแรงเรียงตัวเป็นแผงสวยถูกนิ้วเรียวไล้เล่นแผ่วเบา ไปตามเส้นลายแห่งความแข็งแกร่งที่น่าหลงใหลแสนดึงดูด…ผมจูบผิวกายเรียบลื่นของมัน จ้องตาชิพ ความเงียบงันปกคลุมเราสองคนทว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรก…มันคือสัญญาณแห่งพายุลูกใหม่ที่ถูกก่อตัวขึ้น…ทว่าคราวนี้ชิพกลับหยุดผมไว้

       “ฮื้อ?”

       แปลกใจน่ะซิ ชิพไม่เคยพลาดเรื่องแบบนี้มาก่อน o_O*

      มันทำหน้าแปลกๆ…(บอกไม่ได้) ก่อนจะกระแอ่มลำคออย่างกะจะพูดเรื่องซีเรียส

       “มีเรื่องจะบอกน่ะ”

      “ว่ามาซิ”

      “…คือ พรุ่งนี้…กูจะพามึงไปหาคุณย่าที่บ้าน”

       ผมหยุดชะงักการกระทำทั้งหมดที่ทำอยู่ (ก็บอกแล้วไงว่าพูดไม่ได้ๆ>///<…) เบิกตากว้างมองมันอึ้งๆ

       “คุณย่าเนี้ยนะ?”

       “ใช่ กูจะแนะนำมึงให้ที่บ้านรู้จัก”

       “จะบ้าเหรอ!”

      ผมเผลอโพล่งตะโกนออกไปเสียดัง จนหมดอารมณ์…ลุกขึ้นนั่งผละตัวออกจากชิพทันที

       อาการตกตะลึงทำให้น้ำเสียงของชิพดูเป็นกังวลไม่น้อย

       “ทำไมล่ะแดน…ไหนมึงบอกรักกูไง?”

      “แต่…กูเป็นผู้ชาย มึงพากูเข้าบ้านในลักษณะนั้นก็หมายความว่ามึงมีแฟนเป็นผู้ชาย…”

      “ก็ใช่น่ะซิ”

      “แต่นั่นแหละ!!! ย่ามึงรับได้ที่ไหน ไม่มีทาง อีกอย่าง…กูไม่กล้าพอ”

       ไม่วายว๊ากใส่มันอีกรอบ ชิพโอบกอดผม พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

       “ไม่เห็นเป็นไร กูอยู่กับมึงทั้งคน”

      “แต่ชิพ…ย่ามึงเชียวนะ”

      ตั้งท่าไม่ยอมลูกเดียว ชิพนิ่งไปสักพัก ก่อนจะเอ่ยลอยๆเหมือนต้องการทำให้ตนเองมั่นใจ (ส่วนผมอดไม่ได้ที่จะคร่ำครวญเสียงเบื่อหน่ายต่อเอง…ในใจ)

       “ถึงเวลาแล้วที่คุณย่าต้องยอมรับสักที…”

       ผมทำท่าจะลุก แต่ชิพกลับฉุดลงมา มันบังคับให้ผมตอบตกลง ซึ่งได้วิชามารบังคับคนเนี้ย ชิพเก่งอยู่แล้ว โดยเฉพาะกับผม…=_=”

       “~ตอบตกลงซิ พรุ่งนี้เราไปกันเลยนะ”

      ผมอิดออด ไม่รู้จะปฏิเสธยังไงขณะมีมันกอดอยู่อย่างงี้

       “โอเคว่า เป็นอันตกลงนะ”

      “ดะ เดี๋ยวเซ่~~~”

      “อื้อ? อย่างงี้ต้องให้รางวัลคนเก่งซะหน่อยแล้ว…เนี้ยเห็นป่ะ? เปียกหมดแล้ว…”

       มันจับผมนอนราบลงกับที่นอน ริมฝีปากร้อนผะผ่าวของมันสัมผัสผมไปตามท้องน้อยแบนราบมีกล้ามเนื้อน้อยๆพองาม…ก่อนจะฉกลิ้นลงตรงที่ทำให้ผมอ่อนระทวยได้ในบันดล…เข้าใจความรู้สึกชิพเวลามันดิ้นพล่านๆในปากของผมแล้ว อ้อ…สวรรค์ชั้นเจ็ดเป็นแบบนี้เองเหยอ? <<<(แบ๊วซ้า~~)




       โปรดติดตามตอนต่อไป

















น้ำค้าง

  • บุคคลทั่วไป
อูย จะไปพบคุณหญิงย่ากันแล้ว ช่างใจกล้ากันซะจริงจริ๊ง

ไม่กลัวกันเลยเหรอไง ขนาดเราคนอ่านยังกลัวคุณหญิงย่าเลย บรื๊อๆๆๆ

Sakura_kano

  • บุคคลทั่วไป
 o13 o13 o13 o13มาต่ออีกนะก๊าฟ

@#Jackie#@

  • บุคคลทั่วไป

angsumalin

  • บุคคลทั่วไป
ต้องไปเจอด่านอรหันต์แล้วซิงานนี้จะไหวมั้ยน๊า :เฮ้อ:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ DeShiWa

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-9
 :impress: :impress: :impress:

แบบนี้คุณย่าอกแตกตายแน่ๆๆครับผม

เป็นกำลังใจให้ชิพกับแดนนะครับผม

ขอให้ผ่านไปได้ด้วยดีครับ

สงสารบอยจังครับ อิอิ

 :impress: :impress: :impress:

ifwedo

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ kaporzung

  • magKapleVE
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-2
    • Get vivid impressions and unforgettable emotions
มาต่อทีเดียว 3 ตอนรวด จุใจมากค่ะ
 :m4:

อุ๊ย ชิพจาพาแดนไปให้ที่บ้านดูตัวแล้ว ตื่นเต้นนะเนี่ย

อย่าไปกลัวยัยแก่ค่ะแดน ไปเลย สู้ๆ  o12

มีชิพอยู่ด้วยทั้งคน  :m1:

เตรียมเป็นสะใภ้บ้านชิพได้เลยค้า ^^


sixty-3

  • บุคคลทั่วไป
3ตอนเลย

จะไปเจอคุณย่าแล้ว...

แต่คุณย่าน่าจะจำแดนได้นะ
เคยเจอกันที่โรงพยาบาล

สู้ๆคร้าบ :m13: :m4:

wutwit

  • บุคคลทั่วไป
เหอออออออออออออ

จะเจอคุณหญิงย่าแล้วเหรอ

คิดแล้วสยองยิ่งกว่าเจอผีอีก 5555555

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
ตอนต่อไปนี้แหละ ท่าจะมันส์ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ [€]ŝĊörŦ

  • ความพยามครั้งที่100 ดีกว่าคิดท้อถอยก่อนที่จะทำ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2077
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +142/-0
เอ๋อ...

คิดดีแร้วหรือไปหาคุณหญิงย่านั้นน่ะ

แขวนพระไปเยอะๆ ก็แล้วกันนะ เอิ๊กส์ๆ

  :o   :o   :o

[D]a[D]a [T]oo[N]

  • บุคคลทั่วไป
น่ากลัวว่าคุณย่าจะไม่ยอมอ่ะสิ

(^_^)Jawaa!!!

  • บุคคลทั่วไป
 o7 o7 o7
ขอให้ทุกอย่างผ่านไปด้วยดีเท้อะ
 o7 o7

ออฟไลน์ naja

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 708
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
โอ๊ว์!!  ชิพไปกินดีหมี ดีเสือที่ไหนมา ทำไมใจกล้าเช่นนี้ :m4: :m4:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด