Fri[end] รักแท้ ไม่แพ้โชคชะตา!![UP บทส่งท้าย 100%] 26/04/2555<<END!!!!!
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Fri[end] รักแท้ ไม่แพ้โชคชะตา!![UP บทส่งท้าย 100%] 26/04/2555<<END!!!!!  (อ่าน 100690 ครั้ง)

tangua

  • บุคคลทั่วไป
ตอนที่ 4

"ก็อย่างที่เล่าไปนั่นแหละ นายพอจะเข้าใจรึเปล่า?"ผมนั่งอึ้งอยู่กับที่ อารมณ์มันประมาณว่าสับสนและมึนงงอย่างถึงที่สุด o22

"เอ่อ...ขออีกรอบได้มั๊ย?"มันไม่เคลียร์ครับ เรื่องแบบนี้ จะให้เชื่อง่ายๆก็ออกจะ....เฮ้อ :เฮ้อ:

"งั้นฉันจะอธิบายอีกรอบ ฟังให้ดีๆล่ะกัน ฉันรู้ว่ามันยากที่จะเชื่อ แต่มันคือเรื่องจริง"จากนั้น มิวสิคก็เริ่มต้นอธิบายด้วยน้ำเสียงโมโนโทน แถมยังก็อปปี้ทุกคำพูดก่อนหน้านี้ที่มันพูดไปออกมาจนเหมือนเปี๊ยบทุกคำ

"Fate editor คือ ผู้แก้ไขโชคชะตา ฉันสามารถมองเห็นโชคชะตาของคนรอบข้างที่มีความสัมพันธ์ต่อตัวฉันเองได้ และฉันสามารถเลือกได้ ว่าจะช่วยแก้ไขโชคชะตานั้นหรือไม่"

"อย่างของนายน่ะ วันนั้นฉันเห็นนายกับเพื่อนเดินมา ฉันก็รู้แล้ว ว่าโชคชะตาของนายจะต้องระเห็จเร่ร่อน ไปจนตาย แถมยังอายุสั้นด้วยอยู่อีกสองสามปีก็ตาย นายไม่มีทางได้มีวันนี้แน่ ถ้าหาก อาของนายไม่เลือกที่จะเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของเขาเอง"

"เช่นเดียวกันนี้ เพื่อนของนายเองก็เหมือนกัน เพียงแต่โชคชะตาของเขาบิดเบือนไปเพราะมีสิ่งที่ไม่สมควรมายุ่งมายุ่งย่าม จากที่ เขาควรจะเกิดอุบัติเหตุ และ นอนเป็นเจ้าชายนิทราไปตั้งแต่ หลายปีก่อน โดยไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะฟื้น แต่ อุบัติเหตุครั้งนั้นกลับพรากไปเพียงสิ่งสำคัญบางอย่างเท่านั้น...และนี่แหละ!คือประเด็นที่เราต้องถกเถียงกัน"

"หากนายยังอยากให้โชคชะตาของนายกับเขาหักมุมและกลับเข้ามาบรรจบกันอีกครั้ง และควบคู่กันไปเรื่อยๆ นายก็ควรฟังคำแนะนำของฉันให้ดีๆ"

ผมกลืนน้ำลาย ฟังไอ้หมอนี่พูดกี่ทีก็รู้สึกแปลกๆแหะ  :serius2: มันขนลุกยังไงพิกล

"เรื่องของนาย ฉันคิดว่า ยังไม่จำเป็นถึงขนาดต้องส่งไปให้ อาโรจัดการ เพราะไม่มีวิญญาณเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย แต่เป็นเพียงการหักเหของโชคชะตาไปมาเท่านั้น เพราะฉะนั้น นายพยายามอย่าทำอะไรให้เกินกรอบที่ฉันกำหนดมากนัก ถ้ายังไม่อยากตาย :angry2: แต่ของเพื่อนนายนี่ฉันก็จนปัญญาจะช่วย เพราะดันมีไอ้คนที่คุณก็รู้ว่าใครมาเกี่ยวข้องด้วย"มิวสิคพูดอย่างหงุดหงิด :m16:

ไม่ว่าเรื่องที่หมอนี่พูดมาเป็นจริงแค่ไหนก็ตาม แต่เชื่อไว้ก่อนก็ไม่เสียหายนี่ครับ ดีกว่าไม่เชื่อแล้วมาเสียใจทีหลัง แม้ผมจะยังกังขาอยู่พอสมควรกับความพิเศษของคนตรงหน้า แต่มันช่วยไม่ได้ ว่าแต่...นี่ผมไปเกี่ยวข้องกับเรื่องเหนือธรรมชาติเข้าแล้วใช่มั๊ยเนี่ย

"จบแล้วใช่ไหม จะได้รีบไปนอนกันซะที พรุ่งนี้ยังต้องไปซื้อข้าวของอีก"

มิวสิคทำหน้าเหมือนอยากจะพูดอะไรสักอย่าง หมอนั่นทำหน้าครุ่นคิดๆ ก่อนจะแสยะยิิ้ม เอ่อ น่ากลัวนะเว้ย...

"อืม วันนี้ไม่มีอะไรแล้วล่ะ พรุ่งนี้นายก็รีบตื่นหน่อยละกัน ตื่นเช้าๆนะ ฉันขอเตือน"

ผมพยักหน้าส่งๆ ขี้เกียจต่อปากต่อคำให้มากความ ผมเดินเข้าห้องกะจะนอนเลย วันนี้ไม่อาบน้ำได้ไหมอ่ะ ง่วงนอนแล้ว....

"ฉันแนะนำนะ นายควรจะอาบน้ำปะแป้งหอมๆ ไม่งั้น นายจะเสียใจแน่ถ้าไม่ทำ..."เสียงไอ้มิวสิคตะโกนดังออกมาถึงในห้องนอนเลยครับ เชอะ!เล่นเตือนกันซะอย่างนี้ อาบก็ได้วะ :o8:


ซ่า!!

อ๊า อาบนำ้แล้วสบายตัวจริงๆ คิดถูกแล้วที่ฟังคำเตือนของไอ้เจ้ามิวสิค

ผมลูบสบู่ไปตามเนื้อตามตัวอย่างมีความสุข สายนำ้อุ่นๆนี่สามารถช่วยให้จิตใจคนเราสงบขึ้นมาได้มากจริงๆแฮะ

หลังจากอาบนำ้แบบลวกๆซึ่งใช้เวลาเพียงสิบนาทีเสร็จเรียบร้อยแล้ว ผมก็เดินห่อผ้าเช็ดตัวออกมาห้องนอนก่อนจะทิ้งตัว กลิ้งไปมากับที่นอนโดยที่ัยังไม่ได้ใส่เสื้อผ้านั่นแหละ ผมไม่ค่อยชอบใส่เสื้อผ้าตอนจะนอนครับ มันคันๆและก็น่ารำคาญอย่างบอกไม่ถูก มันทำให้ผมนอนไม่หลับ

ผมจะใส่เสื้อผ้านอนเฉพาเวลาที่ต้องใช้ห้องร่วมกับคนอื่น หรือมีความจำเป็นอื่นๆเท่านั้น ซึ่งนี่ก็ยังไม่ถึงเวลานั้น.... เพราะผมตกลงกับมิวสิคแล้วว่ามันจะต้องนอนที่โซฟา

และเพื่อความชัวร์ว่ามิวสิคจะนอนไม่หลับไปเสียก่อนถ้าหาก เผลอเปิดประตูห้องนอนมาแล้วพบผมเปลือยอยู่  :o8: ดังนั้นผมจึงนุ่งผ้าเช็ดตัวก่อนจะเปิดประตูโผล่หน้าออกไปดูว่าอีกฝ่ายนอนไปรึยัง เมื่อเห็นว่าไฟปิดสนิทหมดแล้ว ผมจึงหดหัวเข้ามาในห้อง ปิดประตูล็อคกลอนให้เรียบร้อย และปิดไฟหัวเตียงลง

ไม่รู้ว่าเพราะแปลกที่รึเปล่า ทั้งๆที่ผมรู้สึกง่วงนอนมากๆ แต่กลับนอนไม่หลับซะที เฮ้อ ทำไงดีน้า

ผมนอนคิดอะไนไปเรื่อยเปื่อยพลิกตัวไปมาอยู่หลายที จนในที่สุดทนไม่ไหว ผมเดินไปหยิบบ็อกเซอร์มาพร้อมเสื้อยืดตัวใหม่สำหรับพรุ่งนี้มาใส่ แล้วเดินออกไประเบียง ปล่อยให้สายลมช่วยพัดให้ความกังวลลอยหายไป

ห้องนอนผมมีระเบียงยื่นออกไปเล็กน้อยครับ เอาไว้สำหรับตากผ้าและอื่นๆ ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีผ้าจะตาก ที่ตรงนี้ก็เอาไว้รับลมไปก่อน ผมปล่อยให้สายลมเย็นๆปะทะเข้าตัว เสยผมเปียกๆให้ลู่ไปด้านหลังเปิดหน้าผากเพราะเริ่มรำคาญผมเปียกๆที่ลู่ลงมาติดหน้าและเข้าตาบ่อยๆ

แม้นี่จะเป็นชั้นสามทำให้อากาศไม่ค่อยจะดีเท่าที่ควร แต่การรับลมตอนกลางคืนก็ยังสามารถทำให้ผมผ่อนคลายได้เสมอ

เมื่อตอนผมไปอยู่เชียงใหม่ ห้องของผมในบ้านไร่ของอานิลมีระเบียงขนาดใหญ่พอที่จะออกไปนอนปูเสื่อดูดาวได้สบายๆอยู่ เวลาผมรู้สึกเหนื่อยๆ ผมก็ชอบออกไปนอนดูดาวตรงนั้นเล่นครับ :impress2:ที่เชียงใหม่อากาศดีไม่เหมือนกรุงเทพ ที่ดาวสักดวงยังไม่ค่อยจะโผล่มาให้เห็น :เฮ้อ:

ผมเดินกลับเข้าไปในห้อง ลากเก้าอี้หน้าโต๊ะเครื่องแป้งมานั่งรับลม ท้าวแขนกับระเบียงก่อนจะเริ่มรู้สึกง่วง และสติดับวูบไปทั้งอย่างงั้น... :t3:





"ฮัลโหล"เสียงทุ้มกรอกลงไปในโทรศัพท์มือถืออย่างหงุดหงิดทันทีที่แสดงเบอร์ของผู้ที่โทรเข้ามา"มีอะไร"

"อย่าพูดอย่างนั้นสิค่ะ ฉันเป็นเลขาของคุณนะค่ะ" น้ำเสียงเย้าแหย่ กระแซะดังขึ้นที่ปลายสาย ปลุกให้อารมณ์ของเขาขุ่นมัวยิ่งกว่าเดิม

"มีเรื่องอะไรก็รีบๆว่ามา ฉันไม่ได้ว่างขนาดนั้น"ร่างสูงพลันเหลือบสายตาไปมองเรือนร่างอวบอิ่มที่นอนซุกผ้าห่มอยู่บนที่นอนของเขา ตามร่างกายมีร่องรอยของความรุนแรงบางประการปรากฏขึ้นอยู่ตามผิวเนียน

"แหมๆ ไม่ว่างเพราะต้องรีบไปกกผู้หญิงต่อรึไงค่ะเจ้านาย ฮิฮิ"ปลายสายยังคงเมินเฉยต่อน้ำเสียงที่เข้มขึ้นเรื่อยๆของฝ่ายตรงข้าม หัวเราะเรื่อยเปื่อยอย่างอารมณ์ดี

"ถ้าไม่มีอะไรผมจะวางแล้วนะ"  :m31:

"โอ๋ๆ ขออภัยด้วยค่ะ ริต้าจะเข้าประเด็นแล้วค่ะคุณตรี"หญิงสาวปรับเปลี่ยนน้ำเสียงให้เป้นการเป็นงานทันที"เรื่องของคนที่คุณให้ริต้าตามหาน่ะค่ะ"

"อืม...ว่าไง"

"เราพบคนที่คุณให้ตามหาแล้วค่ะ"ชายหนุ่มแสยะยิ้มขึ้นที่ริมฝีปาก ออกคำสั่งด้วยประโยคสั้นๆกระชับอีกไม่กี่คำก่อนจะวางไป เขาลุกขึ้นไปปลุกหญิงสาวบนเตียงที่เขารู้ดีว่าหล่อนยังหลับไม่สนิท และได้ยินทุกคำที่เขาพูด

"เธอไปได้แล้ว"พลันหญิงสาวรีบตาลีตาเหลือกหยิบเสื้อผ้าของตนเองมาสวมใส่อย่างรวดเร็วและรีบวิ่งออกไปจากห้องของเขาทันทีด้วยใบหน้าซีดเผือด

"หึ ทีนี้แหละ...ของที่หายไป...ก็จะกลับมาเสียที"ตรีเปิดกระเป๋าตังค์ พร้อมลูบไปยังรูปภาพเก่าๆเยินๆเปื้อนเลือดเล็กน้อยในบางจุด

"รอฉันก่อนนะ"คำกระซิบแผ่วเบา แต่เปรียบดั่งคำสัญญาดังขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ก็อกๆ

"ทรี อยู่รึเปล่า"ตรีเงยหน้าขึ้นจากรูปภาพ เก็บมันให้เข้าที่เข้าทาง ใส่กางเกงยีนส์ให้เรียบร้อยแล้วจึงเดินไปเปิดประตูห้องนอนออก

"ว่าไง เล็กซ์"อเล็กซ์ทำหน้าเลิ่กลั่ก เหมือนจะพูดอะไรแต่ดันไม่ยอมพูด"ถ้าไม่มีอะไรฉันไปนอนต่อแล้วนะ"

"เอ่อ วันนี้ไปนอนห้องฉันหน่อยนะๆ ฉันนอนไม่หลับอ่ะ :monkeysad: "ตรีถอนหายใจ มันมักจะเป็นหน้าที่ของเขาตลอดแหละที่ต้องคอยกล่อมเจ้าตัวแสบที่อายุไม่ใช่น้อยๆแล้วนี่ให้หลับ

"เออๆ แค่คืนนี้นะ"เล็กซ์ยิ้มแก้มปริ ก่อนจะลากเขาที่ใส่เพียงกางเกงยีนส์สีดำที่ใส่เมื่อตอนกลางวันออกไปข้างนอก โดยไม่รอให้เขาหยิบแม้แต่คีย์การ์ดห้องของเขาเอง

"เอาน่าคีย์การ์ดห้องนาย ที่ห้องฉันก็มี"ตรีได้แต่เดินตามเล็กซ์ที่ลากเขาออกไป ห้องเขากับเล็กซ์นั้นอยู่ตรงกันข้าม เยื้องไปทางขวาเล็กน้อย เขาไม่เข้าใจเลยจริงๆว่าพี่ฟางจะให้แยกห้องให้เปลืองเงินทำไมในเมื่ออยู่ห้องเดียวกันก็ได้?

ห้องของเล็กซ์ตกแต่งด้วยโทนสีอ่อน ออกสไตล์วินเทจ ซึ่งดูยังไงก็ไม่น่าจะเป็นห้องของเด็กผู้ชายได้เลย เฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญ่ทำจากไม้ และหินอ่อน ซึ่งรวมๆแล้วค่าตกแต่งอาจจะแพงกว่าค่าห้องเสียอีก...

"ห้องฉันสวยใช่ไหมเล่า"เล็กซ์กอดอกพูดอย่างภาคภูมิใจ ซึ่งเขาก็ได้ฉต่พยักหน้าส่งๆไป

"ไปนอนได้แล้วไป เดี๋ยวพรุ่งนี้ไม่ยอมตื่นอีก"ตรีลากอเล็กซ์เข้าไปในส่วนที่คาดว่าจะเป็นห้องนอน ดันอีกฝ่ายลงนอนกับเตียงนุ่มห่มผ้าให้พร้อมยัดตัวเองลงไปนอนข้างๆอย่างรู้งาน

อเล็กซ์เริ่มซุกตัวเข้ากับแผงอกของเขาอย่างที่เจ้าตัวชอบทำ พึมพำเบาๆก่อนจะหลับสนิทไปในที่สุด

อเล็กซ์ตามจริงแล้วเป็นคนหลับง่ายมาก เพียงแต่เจ้าตัวที่เป็นคนติดหมอนข้าง แต่วันนี้ดันไม่มีหมอนข้าง ก็เลยต้องขอพึ่งพาตัวเขาให้ไปกอดแทนหมอนข้างไปก่อน

"เล็กซ์..."ตรีเรียกเบาๆทดสอบว่าอีกฝ่ายหลับไปหรือยัง เมื่ออีกฝ่ายไม่มีการตอบสนองใดๆ เขาจึงค่อยๆแกะมือเหนียวหนึบออกก่อนดันตัวออกจากเตียง

ตรีเปิดประตูระบียงออกไป หยิบบุหรี่ที่เขามักมีติดกระเป๋าเอาไว้ขึ้นมา แล้วจุดสูบเพื่อคลายความเครียดจากหน้าที่ที่ของตระกูลและสิ่งที่ใจบอกให้ตามหา

โดยไม่ได้ตั้งใจ สายตาของเขาพลันไปจับจ้องอยู่ที่ระเบียงของห้องข้างๆที่ซึ่งแสงจันทร์ส่องพอดีหลังจากเมฆลอยผ่านพ้นไป
ร่างเล็กของชายหนุ่มในเสื้อยืดสีขาวปอนๆกับกางเกงบ็อกเซอร์สีดำที่วับแวมเสียจนเห็นไปถึงขาอ่อนขาวเนียนกำลังนอนฟุบอยู่ตรงนั้น

ดุจดังห้วงเวลาไหลกลับ เขาได้แต่ชะงักนิ่งไปเหมือนโดนมนต์สกด เมื่อเริ่มรู้สึกตัวเขาจึงปีนระเบียงของห้องอเล็กซ์อย่างระมัดระวัง ด้วยระยะห่างถึงสองเมตร จากระเบียงที่มีใครบางคนนอนอยู่ ทำให้ค่อนข้างลำบากที่จะปีนข้ามไป

แต่ด้วยสมรรถภาพอำนวย ใช้เวลาไม่นาน ร่างสูงก็สามารถไปเหยียบระเบียงของห้องข้างๆได้ในที่สุด

ทันทีที่เขาได้เห็นใบหน้าขาวชัดๆ จิตสำนึกพลันเหมือนตกอยู่ในภวังค์ปริศนา สรรพเสียงใดๆในตอนนี้เขาไม่อาจรับฟัง สายตามุ่งมองไปเพียงผู้เดียว สมองเรียกร้องในคำเดิมๆ เช่นเดียวกับร่างกายที่ไม่ยอมฟังคำสั่ง

'สิ่งที่หายไป...ของเพียงสิ่งเดียวแต่กลับทำให้ชีวิตที่เหลืออยู่ดุจดังพังทลาย'

'จะยอมแลกเปลี่ยนหรือไม่? เพื่อที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไป....'

'หากเลือกเดินถูกทางโชคชะตาจะพาเจ้าไปพบกับของสิ่งนั้นเอง...'

'เมื่อมีอยู่จึงไม่เห็นความสำคัญ เมื่อขาดไปจึงได้เห็น....ความรู้สึกจะเป็นตัวบอกเจ้าเอง ว่าใครคือของชิ้นนั้น....'


ร่างสูงทิ้งตัวลงบนระเบียงอย่างแผ่วเบาดั่งแมวย่อง เม้มริมฝีปากเข้าหากันอย่างคนที่กำลังคิดไม่ตก มือหนา สัมผัสแผ่วเบาลงบนกลุ่มผมนุ่มสลวย พลันความทรงจำบางส่วนก็ไหลทะลักเข้ามาดุจน้ำป่า

"มีน..."




"อืม..."ผมขยับตัวอย่างเมื่อยขบ แสงอ่อนๆที่แยงตาเข้ามาทำให้ผมรับรู้ได้ว่าตอนนี้เช้าแล้ว พอมองนาฬิกาหัวเตียง นี่มันเพิ่ง หกโมงครึ่งเองนี่หว่า เพิ่งได้นอนไปแปบเดียวเอง....

ผมมีนิสัยที่ว่าถ้าตื่นแล้วจะต้องนอนอืดอยู่บนเตียงก่อนครู่หนึ่ง ถึงจะลุกได้ ไม่งั้นสติสตางค์ผมจะมาไม่ครบแล้วอาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุในห้องน้ำได้

พอสติผมเพิ่มกลับเข้าร่าง น้ำหนักแปลกๆที่กดทับอยู่บนตัวและสัมผัสที่ไม่คล้ายคลึงกับผ้าห่ม ก็เริ่มทำให้ผมตื่นเต็มตาผมเปิดตาปรือๆของตัวเองขึ้น ก่อนจะเหลียวหลังกลับไปเพื่อมองว่าอะไรที่กำลังทำหน้าที่แทนผ้าห่มของผมอยู่ บางทีอาจจะเป็นผีอำก็ได้ ยิ่งเมื่อวานมิวสิคพูดถึงเรื่องลึกลับอยู่ด้วย เฮ้ย...หรือจะเป็นผีอำจริงๆ

ผมกลืนน้ำลาย เริ่มสองจิตสองใจว่าจะหันไปดีหรือไม่หันไปดี.....

แค่วันแรกที่รับมิวสิคเข้ามาก็เจอดีเข้าแล้ว วันต่อๆไปผมจะยังอยู่ครบสามสิบสองไหมเนี่ย?? :เฮ้อ:


>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>

รู้สึกว่าเรื่องจะเดินเร็วโคตรๆ และเริ่มลึกลับขึ้นเรื่อยๆเพราะดันมี คนที่คุณก็รู้ว่าใครเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ฮา... :laugh:
ตอนนี้ถ้าอ่านแล้วงงก็บอกนะค่ะ เราจะได้แก้ไขถูกจุด เพราะบางทีคนแต่งที่มีพล็อตอยู่ในหัวอ่านทวนๆไปก็ไม่รู้หรอกว่าตรงไหนจะทำให้คนอ่านงง

เรื่องนี้เป็นแนววัยรุ่นใสๆผสมกับความลึกลับของสิ่งที่มองไม่เห็นค่ะ แบบว่าบังเอิญอิงแต่งแบบกุ๊กกิ๊กธรรมดาไม่ได้ แต่งไม่เป็น พอพยามจะแต่งมันก็ชอบปนไปกับแนวแฟนตาซีหมด

แหะๆ ในที่สุดมันสองตัวก็เจอกันแล้วค่ะ ขอบคุณทุกท่านที่ติดตาม :pig4:

ป.ล.ใครหนอออ เข้ามาเป็นผีอำน้องมีนตั้งแต่เช้าตรู่เลย :z1: ฮิๆเชื่อน้องมิวสิคให้มากๆดีกว่าน้าแล้วน้องตรีจะวิ่งเข้าหาเอง :z1: :laugh:





ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
เฮ่ย เจอหน้าก็ปีนเข้าหาเลยเรอะ

ถึงจะเป็นเพื่อนกันหรือไม่ใช่??

ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7
กรี๊ดค่ะกรี๊ดดด
เขาเจอกันแล้ว และเขาก็...
5555 อันนี้ไม่รู้ ต้องรอคนเขียนมาเฉลยยย

ออฟไลน์ gupalz

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +604/-20
ไอคนที่รู้ว่าใครนี่เป็นใครเนี่ย สงสัย

ออฟไลน์ namngern

  • Flowers need to bloom
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1848
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-2

โอ้ววว ตรีจำมีนได้แล้วหรอเนี่ยะ
ดีมากๆ เจอกันเสียที
แหม แต่เอาเขามานอนกอดเชียวนะ
รออ่านตอนต่อไปจ้า ลุ้นๆ

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
ชาบู ชาบู มิวสิค :call:

ออฟไลน์ สุขาพาเพลิน

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 617
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-1
    • facebook
ลุ้นต่อไปครับ ^^

silent_loner

  • บุคคลทั่วไป
ตอนแรกอ่านไปไม่คิดว่ามันจะออกแนว
เหนือธรรมชาตินิดๆแบบนี้นะเนี่ย
แต่เป็นอะไรที่แนวดี
ในที่สุดตรีก็จำมีนได้แล้ว :z2:

ออฟไลน์ korinasai

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 309
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
เจอกันแล้วววว เย้!! ก็จำได้นิ? ทำไมตอนชนกันแล้วจำไม่ได้??
หรือมัวแต่เก็บของ แล้วเจ้าตัวจะรู้ไหมว่ามีนได้เห็นฉากเด็ดของตัวเองกับยัยชานม
จะเป็นยังไงต่อละทีนี้ ลุ้นๆ  :z3:

nopnom

  • บุคคลทั่วไป
รอออออออออออ o13

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
ว๊ากกก อยากอ่านตอนต่อไปอย่างมาก

ออฟไลน์ ♥lvl♀‘O’Deal2♥

  • หานิยายถูกใจยากจัง!
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2665
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +176/-4
อ้าวนกว่าจบแล้ว

tangua

  • บุคคลทั่วไป
ตอนที่ 5

ตึก ตัก ตึก ตัก ตึก ตัก....

นั่นไม่ใช่เสียงอะไรครับเสียงหัวใจของผมเอง ตอนนี้ผมกำลังปฏิบัติการ์ณแอบดูผีอำอยู่ครับ

คิดดู ถ้าความรู้สึกหนักๆตอนนี้มันไม่ใช่ผีอำแล้วจะเป็นอะไรครับ ห้องนี้มีผมนอนอยู่แค่คนเดียว ไม่มีคนอื่น แถมเมื่อคืนถ้าจำไม่ผิดผมออกไปนั่งนอกระเบียงแล้วดันเผลอหลับไป...

เมื่อคืนผมไม่ได้ไปเที่ยวที่ไหนแล้วแบกใครกลับห้องมาด้วยซะหน่อยนี่ครับ!! แถมเสื้อผ้าผมก็ยังอยู่ครบ..

เพราะงั้นสรุปได้อย่างเดียว ผีอำแหงๆเลยครับ เล่นอำกันแต่เช้าเลยอีกต่างหาก....

"อืม..."ผมเพิ่งรู้ครับว่าผีอำส่งเสียงได้ด้วย แถมท่าทางผีอำจะเป็นผู้ชาย เพราะเสียงมันทุ้มๆต่ำๆ ไม่ได้แหลมสูงเหมือนผู้หญิง

ฟึบ!

ผีอำมันเมื่อยได้ด้วยครับ!มันค่อยๆขยับเปลี่ยนท่า แต่ความรู้สึกหนักๆบนตัวผมยังอยู่ อีกอย่างตอนนี้ผมเริ่มรู้สึกว่าแขนผมเหน็บกินแล้วด้วยครับ...ขอเปลี่ยนท่าบ้างได้ไหมอ่ะ?

"ฮึบ..."ผมค่อยๆพลิกตัวช้าๆ เอ๊ะ จะว่าไปแล้ว เห็นเขาบอกว่าอาการผีอำมันจะทำให้เราขยับตัวไม่ได้ ส่งเสียงไม่ได้ ได้แต่นอนอยู่นิ่งๆนี่นา?

งั้นผมก็ไม่เข้าข่ายผีอำแล้วสิ ผมยังขยับตัวได้ปกติ แถมลงเปล่งเสียงดูแล้วก็เปล่งเสียงได้ไม่ติดขัด อ้าว งั้นสถาณการ์ณตอนนี้ผมโดนอะไรเล่นอยู่ล่ะนี่

"เฮ้อ"ผมกลั้นใจพลิกตัวหันกลับไปในทิศทางตรงกันข้ามทันที(ไม่ไหวแล้ว เมื่อยโคตร)และทันใดนั้นเอง เงามืดก็ปกคลุมทุกอย่าง...

ผมมองไม่เห็นอะไรเลยครับนอกจาก ลอนคลื่นซิกแพ็คงามๆบนกล้ามท้องของใครบางคน...ใครบางคนที่เป็นเพศผู้และเปลือยท่อนบน กอดผมอยู่ณตอนนี้ครับ

ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น!! แต่บังเอิญตอนนี้มันมีความเป็นไปได้มากมายเสียจนน่าเวียนหัว

บางทีเรื่องราวที่ผมจากเชียงใหม่มาอาจจะเป็ตแค่ความเพ้อฝันของตัวเองหลังจากที่ไปเมากับเพื่อนแล้วบังเอิญหิ้วหนุ่มมานอนด้วยกัน

หรือไม่ก็...

นี่อาจจะเป็นความฝัน ความฟุ้งซ่านไปเองของผมที่อยากมีหนุ่มมมานอนด้วยกัน o22

หรือ ไอ้หนุ่มที่มานอนข้างๆกันที่ว่านี่อาจจะเป็นเจ้ากรรมนายเวรหุ่นโคตรดีที่มาตามหลอกหลอนผมโดยการมากอดเอาไว้ไม่ให้ผมลุกไปไหน

 :a5:บร๊ะ!มันจะมั่วไปใหญ่ล่ะ นี่ไม่ใช่ความฝันแน่นอน ในความฝันมันไม่มีทางให้ความรู้สึกที่สมจริงขนาดนี้ได้หรอก!! เพราะงั้นก็ตัดซอยส์ข้อสองทิ้งไป :angry2:

ทีนี้เราก็มาพิจารณาซอยส์ข้องหนึ่งกับข้อสาม...

ข้อหนึ่ง เรื่องราวที่ผมกลับมากรุงเทพเป็นเรื่องเพ้อฝันไปของตัวเอง เมื่อวานผมไปดื่มจนเมาแล้วเข้าผิดห้องต่างหาก!ข้อนี้ก็อาจจะต้อวตกไป เพราะผมจำไม่ได้สักนิดว่าตัวเองไปเมาที่ไหน แถมท่าทาง การที่ผมมากรุงเทพก็เป็นเรื่องจริง เพราะห้องที่ผมนอนอยู่มันห้องเดียวกับห้องในคอนโดที่ผมเพิ่งเข้ามาอยู่เมื่อวาน

เพราะงั้นก็เหลือข้อสาม....นี่ผมโดนเจ้ากรรมนายเวรหุ่นโคตรแมนมาหลอนเหรอเนี่ย บร๊ะ!!แบ่งหุ่นแมนๆอย่างนี้มาให้ผมบ้างได้รึเปล่าเนี่ย!

"ฮื่อ"ดูเหมือนการที่ผมขยุหขยิกไปมาชักเริ่มไปสะกิดต่อมรำคาญของผีโคตรหุ่นดีครับ เพราะมันเริ่มขยับตัวยุกยิกๆ โชคดีนะเนี่ยผมเปิดแอร์ไว้ซะเย็นจนเกือบหนาว ไม่งั้นผมได้ระอุตายอุณหภูมิจากร่างกายไอ้ผีโคตรแมนนี่แน่ครับ

เอ๊ะ จะว่าไปแล้ว ผีมันไม่มีร่างกายไม่ใช่เหรอ...ถึงมีร่างกาย ร่างกายก็ไม่มีทางมีความร้อนได้แน่ๆ o22

เอ๋ งั้น ข้อสันนิฐานที่สี่ ผมโดนใครก็ไม่รู้ ปีนหน้าต่างเข้ามาลักหลับครับ!  :serius2:

"อุ๊บ"เมื่อคิดได้ดังนี้ ปฏิกริยาร่างกายก็เป็นไปโดยอัตโนมัติ เข่าแหลมๆยันเข้าไปทันทีที่จุดยุทธศาสตร์ท่านชายจนอีกฝ่ายตัวงอจากนั้นแขนที่หายจากอาการเหน็บแล้ว ก็ผลักอีกฝ่ายออกจากตัว ก่อนจะดีดตัวลุกขึ้น แล้วยันร่างงอๆนั่นตกเตียงแม่งเลยครับ! :m31:

"ชิบ!"มันสบถเสียงแหบ ในขณะที่ผมเริ่มสำรวจความผิดปกติของร่างกาย ว่ามีส่วนไหนโดนกระทำชำเราไปบ้างรึเปล่า มีความรู้สึกเจ็บตูดมั๊ยเวลาขยับ คิสมาร์กล่ะ

 :เฮ้อ:โล่งใจครับ ที่ไม่มีอาการดังกล่าว...งั้นไอ้บ้าที่ปีนระเบียงห้องผมเข้ามานอนกอดผมในห้องนี่มันต้องการอะไรล่ะครับ :m16:

"มีน เกิดอะไรขึ้น!"เสียงมิวสิคดังออกมาจากข้างนอกห้องครับ ท่าทางมันดูร้อนรนมาก สงสัยเพราะเสียงโครมครามลั้นห้องเมื่อครู่ล่ะมั้งครับ

ผมเห็นว่าไอ้บุคคลนิรนามยังนอนกุมเป้าอยู่เลยกะจะวิ่งไปเปิดประตูให้มิวสิคเข้ามา มันน่าจะปลอดภัยมากกว่าถ้ามีคนอยู่คอยช่วยยำไอ้ตัวโตนี่

ทางเดินที่จะไปเปิดประตูมันดันต้องผ่านไอ้บุคคลนรินามนี่ไปซะด้วยสิ แย่จริง รีบๆกระโดดข้ามไปคงไม่เป็นไรหรอกมั้ง...

ผมกระโดดลงจากเตียงวิ่งเร็วๆไปทางประตู ก่อนจะรีบกระโดดข้ามร่างบิดๆงอของบุคคลนรินามที่นอนคู้ตัวเป็นกุ้งอยู่ครับ หุ่นกับผิวมันดีโคตร ไม่รู้หน้าตาดีเหมือนหุ่นรึเปล่า...ถ้ามันไม่แนบหน้าลงกับแขนมันผมก็คงเห็นหรอกนะ

ขวับ! ดูเหมือนผมจะอ้อยอิ่งอยู่แถวนี้นานไปหน่อย ไอ้ร่างที่ขดตัวอยู่เมื่อครู่ถึงได้ ยื่นมือมาคว้าขาผมเอาไว้จนได้ ผมที่ไม่ทันได้ตั้งตัว อยู่ในท่ากำลังจะก้าวเท้าไปข้างหน้า เลยล้มตึง ดีที่เอาข้างลง เมื่อกี้ถ้าหน้าลงล่ะก็ แหกยับแน่ๆ :o8:

"เฮ้ย ปล่อยสิว่ะ!"ผมบรรจงใช้บาทาอีกข้างที่ยังว่างอยู่ ถีบๆยันๆไอ้มือไซส์โคตรใหญ่ที่เกาะกุมข้อเท้าผมไว้อย่างแน่นหนาเพื่อจะให้มันหลุด อีกแค่นิดเดียวก็จะถึงประตูแล้วเชียว ชิส์

ผมกับไอ้บ้าแปลกหน้ายื้อกันไปยื้อกันมาอยู่สักพัก ไอ้คนแปลกหน้าหุ่นโคตรดีผิวโคตรสวยก็ท่าทางจะเริ่มหายจุกแล้ว มันค่อยๆใช้มือข้างที่จับขาผมอยู่ดึงเข้าหาตัวมันเรื่อยๆ ผมได้ยินเสียงกัดฟันดังหรอดๆด้วยอ่ะ หยึย :sad4:

ผมก็ดิ้นรนสุดใจครับ มีแรงเท่าไหร่ก็ดิ้นๆๆ หวังว่าจะหลุดบ้าง แต่ให้ตาย...แรงคนหรือแรงความว่ะครับ มันยังคงลากขาผมเข้าไปใกล้ๆมันอย่างช้าๆด้วย constant acceleration(ความเร่งคงที่)

ร่างของผมค่อยๆถูกดึงเข้าไปหามันอย่างช้าๆ ด้วย velocity 0.5 m/s แต่มันดันมีแรง friction มาอยู่ในสูตรคำนวนด้วย acceleration เลยไม่คงที่อีกต่อไป ดังนั้นเลยต้องใช้สูตรหาความเร่งไม่คงที่ กำหนดให้ s= 1 m

พอหา a ได้แล้วก็เอาไปเข้าสูตร F=ma กำหนดให้ m=62 kg ก็จะได้ค่าแรงที่ผมควรจะออกแรงต้าน เพื่อไม่ให้ร่างของตัวเองเข้าไปใกล้มันมากกว่านี้

แต่ดูเหมือนผมออกแรงเท่าไหร่ก็ไม่พอครับ อย่างผมคงเป็นได้แค่แรงเสียดทานเท่านั้นล่ะมั้ง... :sad4:

"เฮ้ มีน ได้ยินแล้วตอบด้วย"ไอ้เสียงข้างนอกเริ่มออกอาการร้อนรนมากขึ้นเรื่อยๆ เสียงเคาะประตูก็ดังมากขึ้นไปด้วย ผมกำลังจะหันไปตะโกนขอความช่วยเหลือจากมิวสิค แต่ดันโดนปิดปากซะก่อน...

ไอ้คนแปลกหน้ามันคงรู้ว่าผมจะตะโกนเรียกคนข้างนอกให้มาช่วย มันเลยออกแรงลากผมวืด รวดเดียวผมก็มาอยู่ใต้ร่างของมันเรียบร้อย....

ด้วยปฏิกริยาตอบสนองอันเฉียบคมของผม เข่าของผมกำลังจะยกขึ้นอีกรอบเพื่อซ้ำที่เป้าหมายเดิม กะเอาให้มันเป็นหมันไปเลยครับ แต่คราวนี้มันดันรู้ทัน เอาเข่าของมันอีกข้างกดกดขาของผมไว้ทันทีไม่ให้ขยับได้

"ใจเย็นๆ..."ไอ้หมอนั่นว่าเสียงตื่นๆ"นี่ฉันเอง"มันยกมือข้างหนึ่งออกจากการเกาะกุมผมไปเปิดหน้าผากเสยผมกระเซิงๆสีดำขึ้น"ตะ..."

พลั่ก!

ผมไม่สนแม่งหรอกครับว่ามันเป็นใครผมรู้จักหรือไม่ มือข้างที่ว่างรวบรวมกำลังเอาไว้เต็มที่พร้อมเสยหมัดไปยังหน้าขาวๆที่คุ้นๆ....ชิบหาย!!!

ผมเบรกมือไม่ทันครับ ถึงจะเห็นว่าเป็นใครก็ตาม แต่ผมทำได้อย่างมากก็แค่ลดระดับความแรงลงเท่านั้น

"ตรี!!"ผมรู้สึกเหมือนสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวอย่างรุนแรง นี่ผมฝันอยู่จริงๆใช่ไหมเนี่ย.... ตรีมันจะมาอยู่ในห้องผมได้ยังไง  :serius2:

"เออ! กูเอง ต่อยมาได้นะมึง"มันลุกขึ้นมา กุมปากแล้วร้องซี้ดๆ อุ๊บ หมัดผมหนักเหมือนกันนะเนี่ย

ไม่รู้ว่าด้วยความช็อกหรืออะไร ผมได้แต่ยืนค้างอยู่นิ่งๆ รู้สึกเหมือนโลกหมุนติ้วๆ พื้นเอียง จนยืนไม่อยู่...

"เฮ้ย!"ผมรู้สึกเหมือนมีใครมารับร่างเอาไว้ก่อนที่หัวโตๆของผมจะฟาดพื้น....."ไว้ไหมเนี่ย..."

"ไหวๆ ขอพักแปบนึง"ไอ้ตรีพยุงผมกลับขึ้นไปบนเตียงนอนที่เละเทะ ก่อนจะลูบหัวผมไปมาเบาๆ"ฮือ..."ผมที่กำลังเบลอก็เหมือนลูกแมวครับ ชอบให้คนลูบหัว ผมสบายดี

"นอนอีกสักรอบเถอะ ตื่นขึ้นมาแล้วอาจจะดีขึ้น"ผมที่เริ่มตาปรือๆ พยักหน้ารับคำ ก่อนจะค่อยๆซุกตัวลงไปกับผ้าห่ม โดยมีมืออุ่นๆคอยลูบหัวผมอยู่เรื่อยๆ"กลับมาแล้วครับ"

สติผมค่อยๆเลือนลางลง พร้อมกับความอุ่นซ่านที่หัวใจ

ไอ้ตรี...มึงกลับมาแล้วจริงๆใช่ไหม? :กอด1:



>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
ในที่สุด....สุดหล่อของน้องมีนก็กลับมาอย่างเต็มภาคภูมิ เย้ๆๆ :mc4:

ต้องขอโทษเป็นอย่างสูงค่ะที่เมื่อวานไม่ได้มาอัพ เหตุเพราะอิงเริ่มเรียนพิเศษแล้ว เมื่อวานเลยมีเวลาไม่พอ ต้องขออภัยด้วยนะค่ะ

นิยายเรื่องนี้จะอัพทุกวันยกเว้นวันอังคารกับพฤหัสนะค่ะ เพราะอิงติดเรียนพิเศษ  หรือถ้าจะงดอัพอีก อิงจะแจ้งให้ทราบค่ะ

ขอบคุณทุกๆคอมเม้นท์ค่ะ สงสัยอะไรถามได้เลยนะค่ะ ถ้าอิงตอบได้จะตอบให้ค่ะ

 :pig4:



 






ออฟไลน์ gupalz

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +604/-20
ในที่สุดก็เจอกันจริงๆแล้ว

goodiiz99

  • บุคคลทั่วไป
เจอกันแล้ว จะเป็นยังต่อ รออ่านต่อ >< นอนกอดกันด้วย เขิล  :-[ :impress2: :o8:

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
โห้ๆๆ เจอกันแว้วด้วย
ตรีเหนมีนครั้วแรกก้อจำได้ อิอิ
นึกว่ามีนจะโดน กดซะแล้วสิ ห้าๆๆๆ

ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7
เขาเจอกันแล้ว เขากอดกันแล้ว แอร๊ยยยย 555

tangua

  • บุคคลทั่วไป
ตอนที่ 6

เฮือก!

ผมสะดุ้งพรวด กระเด้งตัวลุกขึ้นจากเตียงนอนของตัวเองทันทีที่สติสตังค์เริ่มกลับมาอยู่กับเนื้อกับตัว หรือเมื่อกี้นี้ผมจะฝันไป?

ผมหันไปมองนาฬิกาที่หัวเตียง ซึ่งเข็มกำลังชี้ไปที่เลข 8 และเลข 6 แปดโมงครึ่งแล้วนี่หว่า สงสัยวันนี้ผมคงได้กินมาม่าเป็นอาหารเช้าอีกแหง

ผมลุกจากเตียงอย่างอ้อยอิ่ง หยิบผ้าเช็ดตัวและเสื้อผ้าจะเอาเข้าไปเปลี่ยนเดินเข้าไปในห้องน้ำ หวังชำระให้ร่างกายและสติแจ่มใสขึ้น

หวังจากขัดศรีฉวีวรรณร่วม ยี่สิบนาที ผมก็เดินออกมานอกห้องน้ำในสภาพของคนที่ตื่นเต็มที่แล้ว

ผมเปิดประตูห้องนอนของตัวเองออก และพบกับกลิ่นหอมเหมือนใครกำลังทำกับข้าวอยู่หน้าเตา แต่ของสดไม่มีนี่นา แล้วเอาที่ไหนมาทำกันล่ะ?

"ตื่นแล้วเหรอ"มิวสิคโผล่หน้ามุ่ยๆของตัวเองออกมาจากห้องครัว"นั่งลงก่อนสิ เดี๋ยวอาหารก็เสร็จแล้ว"ผมพยักหน้ารับคำอย่างว่าง่าย เท้าตรงดิ่งไปยังโต๊ะอาหารเล็กๆที่มีแก้วกาแฟหอมกรุ่นวางไว้หนึ่งใบซึ่งมีร่องรอยการจิบไปแล้ว สงสัยของมิวสิคล่ะมั้ง

"เดี๋ยวเราออกไปซื้อของกันสัก สิบโมงครึ่งล่ะกัน"มิวสสิคที่เดินออกมาจากห้องครัวพร้อมจานที่มีข้าวผัดสองจานเอ่ยขึ้น พร้อมจัดโต๊ะอาหาร"นายเอาน้ำเปล่าหรือกาแฟ"

"น้ำเปล่าล่ะกัน"มิวสิคเดินกลับเข้าไปในครัวอีกครั้งพร้อมยกจานข้าวผัดอีกสองจานออกมา ผมมุ่นคิ้วเล็กน้อย ทำไมจาน 4 ใบล่ะ?มีแค่ผมกับมิวสิคไม่ใช่เหรอ

หลังจากวางจานเสร็จแล้ว มิวสิคก็วิ่งกลับเข้าไปในครัวอีกครั้งพร้อมยกนำ้มาเสริฟ

ก็อกๆ!

ผมมุ่นคิ้วหนักกว่าเดิม เมื่อนึกความเป็นไปได้ว่าใครจะมาเคาะประตู ผมเพิ่งย้ายมา จะมีใครมาเคาะได้ นอกจาก คุณอินทร์ แล้วก็....

ผมเบิ่งตากว้างอย่างตื่นเต้น แสดงว่าเมื่อเช้าผมไม่ได้ฝันไปน่ะสิ ตรีกลับมาแล้วจริงๆ :impress2:

"ฟื้นแล้วเหรอ"เสียงทุ้มเอ่ยถาม เล่นเอาก้องไปทั้งหัว ผมมึนๆเบลอๆ ก่อนจะพยักหน้าอย่างมึนๆเบลอๆกลับไป"ไหวไหมเนี่ย ยังดูเบลอๆอยู่เลย"

เบลอเพราะเอ็งแหละ ฟายย เล่นหายไปเฉยๆสามปีไม่มีส่งข่าว พอเข้าปีที่สี่เสือกโผล่มาแบบไม่ให้สุ้มให้เสียง ตรูก็ตกใจนะว้อย!!

สภาพของไอ้ตรีตอนนี้เปลี่ยนไปมากพอควรเลยครับ มันไม่มีเค้าความเป็นเด็กหลงเหลืออยู่แล้วครับ ร่างสูงที่สูงยิ่งกว่าเดิม ดูกำยำแน่นกว่าเดิม(คอนเฟริมแล้วจากซิกแพ็คที่เห็นเมื่อเช้า) ดูหล่อและเซ็กซี่เหลือร้ายยิ่งกว่าเดิม ที่สำคัญ....ไอ้ลุคเถื่อนนี่มันมาจากไหนว่ะ?! :serius2:

ก่อนจากกันเมื่อหลายปีที่แล้ว ไอ้ตรีมันมีลุคเป็นสุภาพบุรุษ ดูออกไปทางเพอร์เฟ็คต์แมนมากกว่าที่จะเป็นแบดบอย แต่ตอนนี้ มันพลิกหน้าหลังกลับกันเลยครับ ปกติแต่ก่อนไอ้ตรีมันมักจะตัดผมสั้น ไม่ปล่อยให้ผมยาว แม้โรงเรียนผมจะอนุญาติให้เด็กไว้ทรงไหนก็ได้ก็ตาม

ตอนนี้ไอ้ตรีมันไว้ผมซอยยาวเลื้อยเลยครับ แต่ก็รับกับโครงหน้าของมันดีอย่างไม่น่าให้อภัย...

"มึงจะมองกูอีกนานมั๊ย"มันพูดขำๆกับอาการเหวอแดกของผม หยิบช้อนส้อมเตรียมรับประทานข้าวผัดหน้าตาน่าอร่อยที่วางอยู่ตรงหน้า

"เอ่อ"ดูเหมือนผมยังปรับตัวกับการเจอมันกระทันหันไม่ได้ครับ ร่างกายยังไม่ค่อยตอบสนองต่อคำสั่ง ได้แต่ เอ่อ....อยู่อย่างนั้นแหละครับ

"แล้วไอ้บ้านั่นล่ะ ตรี"มิวสิคที่นั่ง เดินไปเปิดประตูเมื่อกี้ นั่งลงข้างๆผมแล้วเริ่มจ้วงข้าวผัดฝีมือตัวเองเข้าปาก

"เดี๋ยวมันมาพร้อมเล็กซ์"ผมได้แต่นั่งเป็นส่วนเกินของบทสนทนาครับ ไม่เคยรู้สึกไม่มีตัวตนขนาดนี้มาก่อนเลยวุ้ย

ด้วยความไม่ชิน ผมจึงตัดอาหารเช้าง่ายๆเข้าปาก เคี้ยวช้าๆและลิ้มรสกับมื้อตรงหน้าอย่างที่อชบทำทุกครั้ง อืม...ฝีมือไม่เลวเลยทีเดียวนะมิวสิค

พอผมนั่งทานไปได้ครึ่งจาน ประตูห้องก็มีอันโดนเคาะอีกรอบ ผมละงง กริ่งก็มี ทำไมไม่กด

มิวสิคยังคงเป็นคนที่เดินออกไปเปิดเช่นเคยครับ  และคนที่อยู่ที่หน้าประตูนั้นทำให้ผมประหลาดใจ

หนุ่มน้อยผมทองตัวเล็กที่ผมเคยเจอที่สนามบินครับ ไม่คิดเลยจริงๆว่าจะได้เจอกันอีกที่นี่ หนุ่มน้อยผมทองทักทายมิวสิคเล็กน้อยด้วยภาษาสากล แล้วรีบวิ่งเริ่ดไม่รอคนข้างหลังมานั่งอยู่ข้างๆตรีทันที

เขาดูประหลาดใจเล็กน้อยเช่นกันเมื่อเห็นผม แต่ก็ยังส่งยิ้มให้อย่างเป็นมิตร แล้วเริ่มหันไปคุยกับตรีด้วยภาษา สเปน

โชคร้ายวุ้ยที่ผมไม่ได้เรียนภาษานี้มา เลยไม่สามารถแอบฟังที่ทั้งสองพูดคุยกันได้ แต่ก็เอาเถอะ เขาจงใจใช้ภาษาก็น่าจะเป็นเพราะไม่อยากให้คนอื่นรู้นั่นแหละว่าพวกตนคุยอะไรกัน

"สวีทกันแต่เช้าเชียวนะ"เสียงทุ้มอีกเสียงดังขึ้นเป็นภาษาไทยสำเนียงชัดเจน พร้อมๆกับร่างสูงชะลูดผมสีน้ำตาลไม้โอ๊ค ที่เดินดุ่มๆเข้ามานั่งบนโต๊ะในที่นั่งหัวโต๊ะซึ่งไม่มีจานกับข้าววางอยู่"หัดเกรงใจคนอื่นเขาบ้างซี่"

หนุ่มผมทองร่างเล็กหันมาส่งค้อนวงเบอเร่อให้กับชายที่มาใหม่อย่างน่ารัก ส่งให้เขาหัวเราะเบาๆอย่างมีความสุขที่ได้กวนอารมณ์คนแต่เช้า

มิวสิคเดินหน้ามุ่ยลงมานั่งข้างๆผมอีกครั้ง พร้อมเข่นเขี้ยยวเคี้ยวฟันเป็นภาษาอะไรสักอย่าง ผมฟังไม่ค่อยถนัด

"ไอ้ขี้เก็กที่นั่งอยู่หัวโต๊ะน่ะ ชื่อ ทอม มีโค้ดแนมในวงการว่า คนที่คุณก็รู้ว่าใคร มันมีสัญญาผูกมัดโชคชะตาอยู่กับตรี"อืม...เรื่องแปลกๆมาอีกล่ะ มาพร้อมคนแปลกหน้าถึงสองคนที่ผมไม่เคยจำได้ว่าเชิญให้เข้ามาทานข้าวกันในห้องผมด้วย...

"อ่ะฉันลืมแนะนไให้รู้จักไปเลยสินะ"ตรีโพล่งขึ้นมาท่ามกลางบรรยากาศที่แสนอึดอัด"นั่น มีนา เพื่อนสนิทสมัยม.ต้น"

ผมขยับยิ้มส่งให้หนุ่มฝรั่งผมทองและหนุ่มเอเชียผมสีไม้โอ๊คที่ชื่อ ทอม

"ส่วน มีน นี่คือ อเล็กซ์  และนั่นคือ ทอม"ผมพยักหน้าให้ทั้งคู่และยิ้มให้อย่างเป็นมิตร

"แหมๆทำไมไม่บอกไปล่ะฮึ ว่า นายกับ เล็กซ์น่ะ..."ทอมจงใจเว้นจังหวะกระตุ้นให้ผมอยากรู้อยากเห็น ซึ่งมันก็ได้ผลในระดับหนึ่ง เขาลากเสียงยาว แล้วมองใบหน้าขึ้นสีเล็กน้อยของอเล็กซ์ กับใบหน้าจืดเจื่อนของ ตรี

"เป็นแฟนกันอยู่" o22

ผมยังคงรักษารอยยิ้มบนใบหน้าได้อย่างดีเยี่ยม แสร้งหลิ่วตามองทั้งคู่อย่างล้อเลียนได้อย่างสมจริง แม้ในใจจะเริ่มปวดหนึบๆและตื้อตันไปด้วยความรู้สึกเก่าๆที่ไหลทะลักเข้ามา

ผมชินแล้วล่ะครับกับการที่ไอ้ตรีหนีผมไปมีแฟน ผมชินมาตั้งแต่มันเริ่มมีแฟนคนที่สามแล้ว....

แถมพอโตขึ้น และห่างๆกันไปความรู้สึกที่เคยรุนแรงเมื่อในอดีตก็เริ่มเบาบางลง มันไม่เจ็บเหมือนแต่ก่อนอีกแล้ว

แต่ถึงยังไงก็ตาม...ผมก็ยังมองให้มันเป็นแค่เพื่อนไม่ได้อยู่ดี :เฮ้อ:


>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>

ตอนนี้แอบสั้น :o8:

อย่าเพิ่งคิดจะกระโดดถีบอิงค่ะ แหม อุสาห์เจอกันทั้งทีแต่มาทำน้องมีนเจ็บอีกแล้ว

ตอนนี้ยังไม่ได้ตรวจทานประโยคและคำผิดนะค่ะ มีข้อผิดพลาดเยอะต้องขออภัยด้วย

พรุ่งนี้ขออณุญาติงดอัพนะค่ะ ติดธุระทั้งวัน คาดว่าไม่น่าจะมีเวลาพอที่จะอัพให้

 :pig4: :pig4: ขอบคุณทุกคนที่ติดตามนิยายเรื่องนี้ค่ะ  :pig4: :pig4:


ออฟไลน์ silverphoenix

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1182
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +347/-3
ป๊ะกันสักที 
ตรีเอ้ยย  ทำตัวดีดีนะ

ออฟไลน์ สุขาพาเพลิน

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 617
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-1
    • facebook
เศร้าๆๆ จะเศร้าไปถึงไหน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ gupalz

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +604/-20
อะไรกันนิ

ออฟไลน์ hotladyanyavee

  • ขึ้นจากเกาะ มาใช้ชีวิตบนอ่าวนาง มันก็อินดี้ไปอีกแบบ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2384
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-10
สงสารมีนอะ อ่านแล้วฃอบอะ รอตอนต่อไป

ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7
ไหงเป็นงี้อะ
น่าสงสารมีนจัง

ออฟไลน์ Pigstar

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
อ้าวตรี ไหงมีแฟนแล้วอ่ะ
และหนูมีนล่ะ หนูมีนจะทำไง
จะเอาไว้ที่ไหน ห๊า า า

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
ว๊ากก ไอบ้าตรี ทำแบบนี้ได้ไง

ออฟไลน์ morningflower

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 206
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
เฮ้ยๆ จริงหรอเนี่ย   :a5:

ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16
อย่าหวัง และอย่าฝันเมื่อเขาไม่มีใจให้


เลิกรัก เลิกหวัง เราไม่ใช่ตัวเลือกของใคร  เมื่อเรามองไปรอบข้าง เรายังมีตัวเลือกให้กับตัวเราเองเสมอ

มันก็แค่ความรู้สึกว่าเจ็บจี๊ด แต่มันก็เตือนสติให้จำว่าอย่าคิดและมองให้เสียความรู้สึกภายในใจของตัวเอง

ทางข้างหน้ามีให้เดิน มันสวยงามเสมอเมื่อเราพร้อมที่จะเดินต่อไป เพื่อตัวเองและคนที่เรารักและรักเรา :กอด1:

tangua

  • บุคคลทั่วไป
ตอนที่ 7

"เฮ้อ..."ผมทิ้งตัวลงกับฟูกหนานุ่ม หลับตาลงพร้อมความรู้สึกที่ว่างเปล่า.....

น่าจะชินได้แล้วนี่...กับเรื่องแบบนี้น่ะ เกิดมาแล้วตั้งไม่รู้กี่หน

บางทีผมก็เซ็งเหมือนกันครับ ไม่รู้ทำไมตัวเองถึงยังตัดใจไม่ได้สักที ทั้งๆที่สวรรค์อุสาห์สร้างโอกาสที่ให้ผมลืม ตั้งสามปีกว่า...อีที ลืมแฟนเก่านี่ ผมใช้เวลาแค่ สองสามเดือนเอง...

หลังจากที่ทอมช่วยตรีในการเปิดตัวแฟนคนล่าสุดไปเรียบร้อยแล้ว ตรีก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไรครับ แถมอเล็กซ์ยังโชว์จูบกันระหว่าง ทานอาหารอีกต่างหาก

ก็รู้ดีอยู่หรอกครับ ว่าพวกนี้มันไปโตมาเมืองนอก แต่จะช่วยเกรงใจ คนที่โตมาในเมืองไทยที่นั่งหัวโด่อยู่หน่อยจะได้ไหมล่ะครับ :m16:

พอทานข้าวเสร็จ ผมก็ขี้เกียจจะอยู่ดูภาพบาดตาต่อ เลยอ้างว่าจะเตรียมตัวออกไปซื้อของ แล้วก็เลยปลีกตัวมานอนอืดอยู่ในห้องนี่แหละครับ

อีกตั้งชั่วโมง กว่าจะสิบโมง ผมนอนกลิ้งไปกลิ้งมาไม่รู้จะทำอะไร สุดท้ายเลยตัดสินใจ กดโทรไปหาอานิลซะหน่อย เดี๋ยวน้อยใจอีก

เสียงรอสายดังอยู่ สองสามตู๊ด เสียงอานิลก็แทรกเข้ามาในสาย

"มีนจ๋า :monkeysad:"อานิลรับด้วยนำ้เสียงกึ่งดีใจกึ่งออดอ้อน และ กึ่งงอน"ทำไมเพิ่งโทรมาล่ะ นี่อานั่งรอตั้งแต่เมื่อคืน :m16:"

ผมส่ายหน้าปลงกับความบ้าบอของอาตัวเอง อานิลก็ชอบเป็นซะอย่างนี้แหละครับ มีครั้งหนึ่ง ผมต้องไปค้างทำรายงานบ้านเพื่อนหนึ่งคืน อานิลนี่โทรหายิกๆแทบทุก สิบนาที จนผมเกือบไม่ได้ทำงาน ผมเลยตัดสินใจ โทรหา คุณอินทร์ หวังให้เขามาช่วยมาอยู่เป็นเพื่อน อานิลจะได้เลิกโวยวาย

ซึ่งมันก็ได้ผลครับ หลังจากนั้นอานิลก็ไม่โทรมาอีกเลย จนกระทั่งผมกลับบ้าน อานิลจึงได้วิ่งโร่มาฟ้องผมว่าคุณอินทร์ ยึดโทรศัพท์ไป

ขำดีครับกับคู่นี้ คุณอินทร์แกนิสัยค่อนข้างเด็ดขาดและเระเบียบจัดครับ แม้จะมีมุมน่ารักๆบ้าง แต่ก็ไม่ค่อยแสดงออกให้ได้เห็นบ่อยๆ ต่างกับอานิลของผม...คนนี้เขาสุขุมและมีความเป็นผู้ใหญ่สูงกว่าที่ใครๆคิดนะครับ อานิลฉลาดเป็นกรดเลยแหละ ไม่งั้นเด็กหนีออกจากบ้านตั้งแต่อายุ 17 คงไม่มีชีวิตรอดมาได้ถึงตอนนี้หรอกครับ....

"แหม อานิล ก็เมื่อวานผมจัดห้องอยู่ เลยยุ่งๆน่ะครับ กว่าจะเสร็จก็ตั้งเที่ยงคืน "หลังจากนั้นผมก็ง้ออานิลอยู่สองสามประโยค กว่าอาแกจะหายงอน แล้วกลับมาลั้นลาคุยกับผมตามปกติ

"แล้วอยู่ที่นู่นเป็นไงบ้าง ลำบากไหม ไปดูมหาลัยรึยัง..."

"มีนยังไม่ได้ไปดูมหาลัยเลยครับกะจะไปดูพรุ่งนี้ อยู่ที่นี่ไม่ลำบากเลยครับ คอนโดที่คุณอินทร์หามาให้อยู่กลางเมือง ใกล้ๆกลับมหาลัย เลยเดินทางสะดวก แถมใกล้ๆนี่ยังมี ตลาดนัดเปิดด้วยครับมีของกินแน่นอน"ผมว่าไปตามเรื่องตามราว ให้อานิลสบายใจจะได้ไม่มไปอาละวาดกับคุณอินทร์อีก


"แล้วอาล่ะครับ ตอนนี้เป็นไงบ้าง มีปัญหาอะไรรึเปล่า"อานิลเงียบไปพักหนึ่ง สงสัยมีเรื่องอะไรแหงๆ อานิลโกหกไม่เก่งครับ เวลาต้องโกหก อาแกเลยชอบเงียบไปพักหนึ่งเพื่อคิดคำโกหกที่สมเหตุสมผลที่สุดแล้วถึงค่อยโกหกครับ

"เอ่อ ก็ดีนะ ไม่มีปัญหาอะไรหรอก"

"แน่ใจนะครับอา คุณ โรจน์ มายุ่มย่ามรึเปล่า"ดูเหมือนคำถามของผมจะตรงประเด็นเกินไป อานิลถึงได้เงียบไปอีกพักหนึ่ง้หมือนลังเล"เราเป็นครอบครัวเดียวกันนะครับอา มีเรื่องอะไรก็บอกผม"

"เฮ้อ...ก็ได้ คืือช่วงนี้มันมีปัญหานิดหน่อย...คุณโรจน์เขาชอบมายุ่งย่ามกับอาบ่อยๆ แล้วเมื่อวานเขาชวนอาไปกินข้าว อาปฏิเสธเขาไปหลายครั้งแล้วก็เลยเกรงใจ จึงต้องตกลง ทีนี้ อินทร์ดันโทรมาระหว่าง ดินเนอร์ แล้ว อินทร์ก็รู้ว่า อากับคุณโรจน์อยู่ด้วยกันตอนนี้ เลยโมโหมากไม่ยอมคุยกับอาเลย..."

ผมถอนหายใจ คุณโรจน์นะคุณโรจน์ ทำคู่รักเขาเข้าใจผิดกันอยู่ได้ ไม่รู้จะขี้แกล้งไปไหน...

คุณโรจน์แกเป็นหนุ่มโสดวัย 30 ครับ แต่หน้าแกยังหนุ่มเหมือนเพิ่งอายุ ยี่สิบกว่าๆ แกเป็นเจ้าของบริษัทส่งออกผลไม้กระป๋อง ก็เลยต้องพึ่งพากันอยู่ คุณโรจน์แกชอบแกล้งอานิลเป็นพิเศษครับ ยิ่งตอนที่อานิลมีแฟนแล้วนี่ คุณโรจน์ยิ่งแกล้งหนัก ชวนไปนู่นไปนี่ในเวลาที่คุณอินทร์มักโทรหาอานิลจนคุณอินทร์ได้หึงเป็นประจำ คุณอินทร์ก็เลยไม่ชอบคุณโรจน์มากนัก

"เรื่องนี้มีนคงช่วยอะไรอานิลไม่ได้หรอกครับ อาคงต้องไปเคลียร์กันเอาเอง อาก็เด็ดขาดหน่อยสิครับ เขาจะได้เลิกเล่นอะไรบ้าๆแบบนี้สักที"คุณโรจน์แก แกล้งคุณนิลอย่างบริสุทธิ์ใจนะครับ ไม่ได้คิดอะไรมากเกินเลยไปกว่าเพื่อน ผมคอยสังเกตุอยู่ครับ

"เฮ้อ :เฮ้อ: อาจะพยายามละกัน...."

หลังจากนั้นเราก็คุยกันสัพเพเหระทั่วไปครับฆ่าเวลา เช่น หมาข้างบ้านหาย หรือ ต้นไม้ที่บ้านออกดอก คนงานที่ไร่คลอดลูก อะไรก็ว่ากันไปครับ

ก็อกๆ

"มีน จะไปรึยัง"มิวสิคตะโกนเรียกมาจากข้างนอก พร้อมเคาะประตูปังๆ ผมเลยต้องรีบตัดบทคุณอาที่กำลังจะเข้าโหมดพล่ามยาว อย่างเสียไม่ได้ แม้ว่าใจจริงจะอยากคุยต่ออีกนิดก็ตาม

ผมคว้ากระเป็าตังค์กับมือถือรุ่นถึกๆของตัวเองยัดไว้ในกางเกงยีนส์ขาตรงตัวใหญ่แสนเชย(แต่กระเป๋าใหญ่นะ)เปิดประตูห้องนอนพร้อมล็อก

เมื่อออกมาผมพบว่าตอนนี้ไม่มีใครอยู่แล้วนอกจาก ผมกับมิวสิค ไอ้พวกนี้นิ คิดจะมาก็มา จะไปก็ไป ไม่เคยมีใครขอเจ้าของห้องก่อนอ่ะ :m31:

"นายจะไปซื้ออะไรบ้าง"มิวสิคถามผมหลังจากเราออกมาจากห้องเรียบร้อยแล้ว

"ก็จะไปตัดแว่นใหม่ก่อน แล้วก็ไปตัดผม แล้วค่อยไปซื้อของใช้จำเป็น เอากลับมาเก็บที่คอนโดก่อนแล้วค่อยออกไปซื้อเสื้อผ้า"ผมร่ายรายการยาวเลยครับ สงสัยวันนี้เหนื่อยหนักแน่ๆ

"อืมๆ"มิวสิคพยักหน้ารับรู้ แล้วคิดอะไรบางอย่างคนเดียว เพราะมันเริ่มพึมพำๆอีกแล้ว

พวกเราเดินออกจากคอนโดเดินเลี้ยวขวาไปตามรางรถไฟฟ้าเรื่อยๆก็เจอกับสถานีใหญ่ครับ ดูเหมือนช่วงนี้เป็นช่วงที่คนเยอะพอดี
ในรถเลยแน่นเอิี๊ยดจนแทบหายใจไม่ออก

ผ่านไปสิบห้านาทีก็ถึงที่หมายของผมครับ มิวสิคลากผมที่เกือบลมจับออกมาทันทีพร้อมฝูงชนที่กรูกันออกมาข้างนอก กก้นี่มันเป็นแหล่งช็อปนี่ครับ คนจะเยอะก็ไม่เห็นจะแปลก

ผมไม่ได้มาที่นี่นานมากแล้วจริงๆ มาครั้งสุดท้ายก็เมื่อม.ต้นนั่นแหละครับ ผมเดินไปตามทางที่คุ้นๆว่าร้านแว่นที่ผมมาทำเมื่อสมัยก่อนตั้งอยู่ ดูเหมือนผมจะโชคดี พอร้านอาแปะแกยังไม่ย้ายไปไหน

ที่นี่เป็นร้านเล็กๆ ตกแต่งไม่ได้ดูหรูหราอะไร แต่ของเขาคุณภาพนะครับ ตระกูลผมใช้บริการร้านนี้กันมาตั้งแต่ปู่ทวดย่าทวดนู่นแหละครับ

ทุกๆอย่างยังคงเหมือนเดิม อาแปะแกก็ยังนั่งกินแปะก๊วยรังนกฝีมืออาม่าอยู่ที่เดิม แม้แต่ถ้วยยังถ้วยใบเดิมเลยครับ

"ยินดีต้อนรับน่อ "อาแปะพูดด้วยเสียงยานคาง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองผม ท่าทางแกจะจำผมไม่ได้แหะ

"อาแปะ นี่มีนเองจำได้ไหม"ผมเดินไปใกล้ๆปัดๆผมที่ปรกหน้าผากขึ้นพร้อมเผยรอยยิ้มอันเป็นเอกลักษณ์ให้ อาแหะทำตาโตเลยรับ จากนั้นเราก็ถามไถ่ความเป็นอยู่ แล้วก็วัดสายตาอีกรอบ

"นี่เป็นแบบใหม่เลยนา กำลังฮิตอยู่มากๆเลยตอนนี้"อาแปะแนะนำกรอบแว่น ray ban สีน้ำตาลเข้มสุดแนวมาให้ แล้วเริ่มเสนอราคาพิเศษให้อย่างที่อชบทำทุกครั้ง ผมต่อราคาอยู่กับอาแปะได้พักหนึ่ง เราทั้งคู่?จึงได้ราคาที่น่าพอใจ

"ลื้อหายไปสามปีนี่ วิชาการต่อราคาของลื้อดีขึ้นโขเลยนาอามีน"อาแปะทำหน้าบู้บี้ ประชดประชันอย่างไม่จริงจังนัก"ลื้อแวะไปหา อาส้มโอสิ เห็นบ่นคิดถึงลื้ออยู่ แล้วก็ ลื้อมารับแว่นอาทิตย์หน้านะ"

ส้มโอ เป็นเจ้าของร้านทำผมที่ผมไปบ่อยๆสมัยอยู่ที่กรุงเทพครับ พี่แกมีฝีมือการทำผมขั้นเทพ แถมคุยกันไปมาถูกคอ ก็เลยมักจะได้ส่วนลดเป็นประจำเมื่อมาที่ร้านเจ๊แก

ผมพยักหน้ารับคำอาแปะ แล้วจึงลากมิวสิคออกมาจากร้านตรงดิ่งไปทิศตรงกันข้ามเพื่อทำการตัดผมให้เรียบร้อย มิวสิคเองก็ดูท่าจะต้องการตัดผมด้วยเหมือนกัน

ทันทีที่ถึงร้านเจ๊แก ผมก็แอบอึ้งไปนิดหน่อย ร้านนี้ขยายใหญ่ขึ้นกว่าเดิมจนผมแทบจำไม่ได้ โชคดีที่ตอนนี้ร้านพึ่งเปิดเลยยังไม่ค่อยมีลูกค้า

เจ็ส้มโอนั่งทำเล็บอยู่ที่หน้าเคาน์เตอร์พร้อมบรรดาลูกจ้าง ผมจึงตรงเข้าไปหาทันทีอย่างไม่รีรอ

"ทำอะไรดีค่ะ"พนักงานสาวแต่งตัวจี๊ดจ๊าดคนหนึ่งออกมาต้อนรับผม ผมจึงบอกเธอไปว่าขอพบเจ๊ส้มโอเจ้าของร้านหน่อย

หล่อนเดินกลับไป เรียกเจ๊ส้มโอออกมา ซึ่งดูเหมือนเจ๊แกก็จำผมไม่ได้เหมือนกัน

"ไม่ทราบมีอะไรรึเปล่าค่ะ"

"เจ๊ จำมีนไม่ได้เหรอ"ผมพูดด้วยนำ้เสียงน้อยอกน้อยใจ เจ๊ส้มโดตาโต แล้วโวยวายลั่นร้าน ประมาณว่า ทำไมโทรมขนาดนี้ บลาๆๆ

จากนั้นเจ๊แกก็ให้คนลากผมกับมิวสิคไปสระผม ก่อนจะไม่ถามอะไรสักคำ ตัดฉับๆๆๆๆๆ แล้วก็ทำนู่นทำนี่กลิ่นฉุนกึก ไปร่วมสองชั่วโมง

จากนั้น ผมในนิวลุค ก็ถือกำเนิดขึ้นครับ...

"หล่อม๊ากก น้องใครเนี่ย"เจ๊ส้มโอกระโดดกอดผมพร้อมหอมแก้มฟอดใหญ่"ว๊าย เจ๊ลืมหาเสื้อผ้าให้เราเปลี่ยน"เจ๊แกเป็นคนชอบความสมบูรณ์แบบครับ คงเพราะผมแต่งตัวเชยเกินไป เจ๊แกเลยทนไม่ได้ สั่งน้องผู้ชายในร้านให้ออกไปซื้อเสื้อผ้าบลาๆมาสองชุด ของผมกับของมิวสิค

น้องแกก็ซื้อของได้เร็วเว่อร์ เพราะผมนั่งุคยกับเจ๊ส้มโอได้แปบเดียวก็มีอันโดนลากเข้าหลังร้าน ไปแต่งตัวซะใหม่

พอผมเดินออกมาอีกที น้องๆในร้านก็แอบหัวเราะคิกคักและร้องวี๊ดว๊ายกันใหญ่ มีบางคนวิ่งเข้ามาขอถ่ายรูปด้วยเลยก็มี

กริ้ง!

กระดิ่งหน้าร้านดังขึ้น ในจังหวะเดียวกับที่เจ๊ส้มโอกำลังจัดการกับหัวผมขั้นสุดท้าย พร้อมเสียงทุ้มๆห้าวๆที่ผมคุ้นเคยดังขึ้น

"เจ๊ส้มโอ ตัดผมให้หน่อย"ผมค่อยๆหันไปมองช้าๆก่อนจะแอบอ้าปากค้าง

อะไรมันจะประจวบเหมาะขนาดเน้ ไอ้ตอนไม่อยากเจอดันเจอ ไอ้ตอนอยากเจอล่ะดันไม่เจอ :m31:


>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>


ตอนนี้แต่งแบบเบลอๆค่ะ อิงเสียใจ สอบเคมีตก  :o12: แงๆๆๆ อีกแค่คะแนนเดียวก็ผ่านแล้วอ่ะ อาจาร์ยใจร้าย :z3:

งือ...ตอนนี้อาจจะคำผิดเยอะแล้วก็ลำดับเหตุการ์ณและภาษาที่ใช้ไม่ค่อยดีนะค่ะ เพราะอิงรีบๆปั่น ไม่ค่อยมีกะใจจะแก้คำด้วย นั่งเครียดอยู่กับเรื่องสอบตก :เฮ้อ:

ป.ล. ไหนก็สามเส้าแล้ว เราเปลี่ยนให้มันเป็น เราสามคนไปเลยดีมะ :z1:








ออฟไลน์ gupalz

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +604/-20
สงสารมีนเล็กน้อย
จะว่าอะไรรึป่าวเนี่ย
รุสึกชอบอานิลมากเลย
จนแบบอยากอ่านตอน
ของอานิลและคุณอินทร์จัง

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
สู้ๆนะนู๋อิง อิอิ
อร๊ากก ตรีมาเรอะ อยากรู้จัง เจอมีน แบบนิวลุค จะเป็นยังไงนะ
ปล.ม่ายยย จะเอาแต่ตรีมีนเท่านั้นนนนน นะๆคนเขียน

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด