CHAPTER 16
มุมมองคนเรา หลากหลายแตกต่างกันไป
ฉันอาจสื่อสารได้ไม่เข้าใจ ว่าจริงๆแล้วต้องการพูดอะไร
แต่อยากให้เพลงนึง เพลงที่ลึกซึ้งและก็กินใจ
แต่กลัวเธอฟังแล้วอาจจะไม่เข้าใจ จึงอยากจะร้องเพลงนี้ให้เธอรู้เอาไว้…
เรื่องเดียวเป็นเรื่องเดียวที่อยากให้เธอฟัง และเข้าใจด้านเดียว…
ฉันมีแค่เรื่องเดียว …
อยากให้เธอเข้าใจแค่ผู้เดียว
เรื่องเดียว
“ผมรักคุณไฟ”
“นายร้องไห้ทำไม?”
“เปล่าครับ”
“ก็เห็นอยู่ว่าร้องไห้ยังมาเถียงอีก”
“…”
“หรือว่าเจ็บ?”
“ครับ”
“ฮืออๆๆๆ…”
“เสียงเด็กที่ไหนร้องว่ะเนี่ย!”อธิปเปิดผ้าห่มพร้อมกับยกมือป้องตา เนื่องจากม่านถูกเปิดออกทำให้แสงแดดอรุณยามเช้าลอด
กระจกใสเข้ามาในห้องกระทบกับนัยน์ตาดุเข้าอย่างจัง
“ฮือๆ แซมขอโทษครับ…อึกๆ”เด็กน้อยนั่งคุกเข่าพร้อมกับกุมมือชายผิวขาวเผือกไว้แน่น อธิปไล่ความมึนงงออกจากหัว ก่อนจะ
หรี่ตามอง พร้อมกับหันไปมองร่างที่สลบไศล
ภาพเหตุการณ์ยามเมื่อค่ำคืนที่เพิ่งผ่านพ้นไปวนเวียนอยู่ในหัว อธิปจับไหล่ชายหนุ่มให้หันมา วริณหน้าซีดเผือก พร้อมกับความ
เปียกชุ่มเหงื่อที่ไรผมเปียกปอยๆ
“พ่อดินตากฝนตั้งแต่เมื่อคืน พอแซมตื่นขึ้นมาอีกที ก็ไม่เห็นพ่อดินที่เตียงแล้ว อึกๆ”แซมสะอื้นพร้อมกับยืนขึ้นนั่งบนเตียง แล้วกอดอกกันเปลือยเปล่าของวริณ
“อย่าร้องนะแซม เดี๋ยวพ่อไปจะพาพ่อดินไปหาหมอนะครับ”อธิปจับแก้มของแซมพร้อมใช้นิ้วเกลี่ยน้ำตาของเด็กน้อยสองข้าง
แซมพยักหน้าสูดน้ำมูกตาแดงก่ำ เพราะความทุกข์ใจที่ไม่ว่าจะเรียกหรือเขย่าตัวผู้เป็นพ่อซะเท่าไหร่ วริณก็ไม่ยอมตื่นขึ้นมาจาก
ฝันซะที…
“พ่อดินจะเป็นอะไรมากไหมฮ่ะ แซม…อึก…ปลุกอยู่ตั้งนาน…”
“พ่อดินปลอดภัย แซมไม่ต้องเป็นห่วง ไปล้างหน้าล้างตา ลงไปทานข้าวได้แล้วนะ”อธิปบอก แซมจึงเก็บกระเป๋า พร้อมกับจุมพิต
เล็กๆบนใบหน้าของวริณ และอธิป
“แซมไปเรียนแล้วนะฮ่ะ”
“ครับ อย่าขี้แยรู้ไหม ถ้าพ่อดินรู้ พ่อดินไม่สบายใจแน่”อธิปขยี้หัวแซมเบาๆ พร้อมกับเด็กน้อยชุดนักเรียนเปื้อนน้ำตา แซมเดิน
ออกจากห้อง ก่อนจะลงไปทานข้าว และไปโรงเรียนตาแดงกล่ำ
ดิน…
อย่าเป็นอะไรนะ…
อธิปใช้ผ้าขาวชุบน้ำบิดหมาด เช็ดตัวให้คนป่วย ฝ่ามือของชายหนุ่มมีรอยเล็บจิกกันแน่นจนเป็นรอยแดง ต้นคอขาวถูกกัดจนเห็น
รอยฟัน อธิปพลิกร่างของวริณให้นอนคว่ำ พร้อมกับใช้ผ้าเช็ดไปตามร่องก้นเนียนที่มีแผล อธิปจดจำเรื่องราวของเมื่อคืนได้ แต่
เมื่อคืนเขากลับจำวริณไม่ได้!
บัดซบ !!
“ผมขอโทษ…”
“อย่า…”
“อะ…ดินฟื้นแล้วเหรอ? ยังปวดตรงไหนอีกรึเปล่า”
“คุณไฟ…ผมเป็นอะไรไปเหรอครับ”วริณถาม เมื่อพบว่าตื่นขึ้นมาอีกทีเขาก็กำลังนอนให้น้ำเกลืออยู่โรงพยาบาลเสียแล้ว
“ไม่สบาย…เพราะผม”อธิปตอบ ก่อนจะกุมมือบางแล้วจูบลงบนมือนั้นแล้วเอามาซุกไว้แนบอก
“ไม่ใช่เพราะคุณไฟหรอกครับ…เมื่อวานผมเล่นฝนกับแซมเลยไม่สบายนิดหน่อย”วริณฝืนยิ้ม ไม่เคยลืมเลย…
“ดิน…”
ทำไมยังให้อภัย?
นายก็เจ็บใช่ไหม?
ทำไม ไม่ลุกขึ้นมาอาละวาดโวยวายล่ะ ผมจะรู้สึกดีขึ้นบ้าง…แต่การที่นายเงียบอยู่แบบนี้มันเป็นการตอกย้ำว่าผมเป็นคนเลว…
“คิดอะไรอยู่ครับ”
“ไม่รู้สิ”
“คุณไฟทานอะไรรึยังครับ ท่าทางคุณดูอิดโรยมากๆเลย”
“ผมทานแล้ว คุณนั้นแหละที่ต้องทานอะไรบ้าง”อธิปลุกขึ้น พร้อมกับเลื่อนถาดอาหารของคนป่วยเข้ามา วริณค่อยๆลุกขึ้นนั่ง รู้สึก
ร่างกายมันล้าไปหมดแต่ก็ยังฝืนยิ้ม … ฝืนเก็บมันเอาไว้ความเศร้าของหัวใจ…จะมีสิทธ์ไปเรียกร้องอะไรให้มากมาย…แค่นี้ผมก็มี
ความสุขมากแล้ว
“ดิน”
“ครับ”
“กินอีกหน่อย แล้วก็จะได้กินยา”
“…..”วริณปากพร้อมกับโจ๊กเย็นๆที่ถูกป้อนโดยอธิป วริณกลืนมันลงไปด้วยรู้สึกขมคอ พร้อมกับยาแล้วน้ำตาม
“วันนี้แซมร้องไห้ที่คุณป่วยด้วยนะ”
“แซมขี้แยแบบนี้แหละครับ แกกลัวว่าผมจะตาย”วริณพูดติดตลก นึกถึงเรื่องราวไปนอดีตในวันที่เขาป่วยหนักสุดไปหลายวัน แซม
ร้องไห้เอาเป็นเอาตาย เพราะเขาไม่ยอมฟื้น จนข้างบ้านเข้ามาและพาเขาไปโรงพยาบาล
“อย่าพูดอะไรแบบนี้จะได้ไหม..”
“ทำไมล่ะครับ คนเราก็ต้องเกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นธรรมดา”วริณว่า ก่อนจะลูบมือหนาของอธิปเบาๆ
“ผมรักคุณนะ”
.
.
.
“ครับ ผมก็รักคุณไฟ”
แล้วคุณมินตราล่ะครับ…
“นั่งอยู่ตรงนี้นะ เดี๋ยวผมไปรับยาให้”
“ครับ”วริณพยักหน้า พร้อมกับมองแผ่นหลังของอธิปที่เดินห่างออกไป ชายหนุ่มนั่งกุมมือตัวเอง พร้อมกับมองผู้คนที่เจ็บป่วย
ก่อนจะถอนใจออกเบาๆ แล้วต้องสะดุดกับผู้หญิงร่างเพรียวคนหนึ่ง สีหน้าเธอดูโศกเศร้า ใบหน้าหมองคล้ำ ตาบวมแดงกล่ำ
“ดิน มองอะไรอยู่เหรอ?”
“ครับ เปล่าครับ”
“กลับบ้านเถอะ จะได้ไปนอน…เอ่อ พักผ่อนไง”อธิปยิ้มเจ้าเล่ห์ แววตาวิบวับ วริณยิ้มหลบ ก่อนจะลุกขึ้น โดยมีอธิปค่อยพยุงโดย
ไม่ได้สนใจสายตาของผู้คนที่เริ่มจับจ้องมาที่พวกเขาสองคน
“คนดี…นอนซะนะครับ”อธิปยิ้ม ก่อนจะไล้มือลูบเส้นผมนุ่มของวริณ ชายหนุ่มหลับตา รู้สึกได้ถึงความอ่อนโยนของอธิปที่มอบให้
~RT~
“ฮัลโหล”
“กูมีเรื่องจะบอกมึง”
“ว่ามา”
“ไอ้วัตร ตายแล้ว”
“…มึงว่าไงนะ…”
“…มีคนลอบยิง…ทางบ้านมันทำธุรกิจผิดกฎหมาย”
“แต่ไอ้วัตร…”
“…มันโดนลูกหลงจากพ่อกับแม่ของมัน”
“แล้วมิมเป็นไง”
“กูก็ไม่รู้ ข่าวเพิ่งออกมาเมื่อกี้”
“…อืม”
“…แล้วมึงจะไปงานศพมันไหม?”
“ไม่”
“เออ กูจะบอกแค่นี้แหละ”
“ขอบใจ”
อธิปมองชายหนุ่มที่หลับไปแล้ว พร้อมกับเปิดลิ้นชักออก การ์ดงานแต่งถูกเก็บไว้อย่างดี
อธิปหยิบมันขึ้นมาพร้อมกับมองอย่างพิจารณา ชายหนุ่มแสยะยิ้ม พร้อมกับทิ้งการ์ดแต่งลงบนถังขยะ…
“แกมันตายไวไป!”
“ไอ้วัตร!!”
เมื่อไหร่คุณไฟจะเลิกอาฆาตเขาเสียที…
“แซม”
“อะ…พ่อดินน ตื่นแล้วเหรอฮ่ะ!?”แซมลงจากรถพร้อมกับวิ่งเข้ามากอดวริณแน่น ชายหนุ่มกอดแซมตอบ พร้อมกับลูบหัวลูกเบาๆ
“น่าเสียดายตอนเช้าไม่ได้เห็นเด็กขี้แย ร้องไห้น้ำมูกโป่ง”
“แซมไม่ได้ร้องไห้เลยนะ!”แซมเถียงพร้อมกับหัวเราะคิกคักกันตามประสาพ่อลูก อธิปนั่งเล่นอยู่ที่สวนไม้หลังบ้าน วริณจึงสั่งให้
แซมขึ้นไปอาน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วค่อยมาเล่นกับเจ้าดุ๊กดิ๊กหมาจรจัดที่ตนได้เก็บมาเลี้ยงไว้ด้วยความสงสาร
“แซมกลับมาแล้วเหรอ?”
“ครับ”
“แล้วนั้นหมาของใคร”อธิปชี้นิ้วไปที่สุนัขสีน้ำตาลอ่อนพันธุ์โกลเด้น ที่ตัวซูบผอม ไม่ได้สวยหรือว่าน่ารัก
“วันก่อน ผมเห็นว่ามันนอนซมอยู่หน้าบ้านพอดี เลยให้อาหารมัน แล้วก็ถือวิสาสะเอามันเข้ามาเลี้ยงครับ”วริณตอบเสียงแผ่ว
เพราะจากสีหน้าของอธิปแล้ว ไม่ชอบใจกับสุนัขนัก
“ผมไม่ชอบสุนัข”
“ผมไม่รู้จริงๆนะครับ”วริณนั่งหลุบตา รู้สึกกลัวว่าอธิปจะสั่งให้เขาพามันไปปล่อย
“ถ้าดินอยากเลี้ยงมัน ก็เก็บไว้ก็ได้ แล้วมันชื่ออะไร?”อธิปถามเสียงอ่อนขึ้น วริณจึงเงยหน้าตอบเสียงสดชื่น
“ดุ๊กดิ๊กครับ”
“ชื่อแปลก”
“ผมว่ามันก็น่ารักดีนี่”วริณเถียง ก่อนจะแปะมือส่งเสียงจุ๊ๆ ทำให้เจ้าดุ๊กดิ๊กที่นอนอยู่ลืมตาขึ้น แล้วเดินเข้ามาหาตามเสียง
“มันเชื่องมากเลยครับ”
“อืม ถ้าอยากได้หมา ผมซื้อตัวที่สวยกว่านี้ให้ก็ได้นะ”อธิปบอก ก่อนจะมองเจ้าหมาน้อยด้วยความไม่ชอบใจ
“ผมไม่ได้อยากเลี้ยงมันหรอกครับ แต่เพราะว่ามันน่าสงสาร ผมเลยอยากช่วย”วริณตอบ ลางลูบหัวเจ้าหมาน้อย ลิ้นเปียกๆของมัน
เลียมือของเจ้านาย
มันก็เหมือนคุณที่เก็บผมมาไงครับ
ไม่ต่างกันเลย…
“มันคงชอบดินมาก”
“มั้งครับ หมามันก็ต้องรักเจ้านายของมันเป็นธรรมดาอยู่แล้วครับ แล้วทำไมคุณไฟถึงไม่ชอบหมาครับ”วริณถามอย่างสงสัย ก่อน
จะสบตากับนัยน์ตาดุของเจ้านาย
“ก็มันเคยกัดคนที่ผมรัก”อธิปตอบ ก่อนจะหันหน้าไปทางอื่น
“ครับ คุณไฟคงรักเธอมาก”วริณยิ้ม พลางลูบไปตามแผงขนสากๆ หมาน้อยหลับตาพริ้ม
“อืม มาก”
~RT~
“ฮัลโหล…มิม”อธิปพูดเสียงแผ่วในตอนท้าย พร้อมกับหลบสายตาของวริณไปทางอื่น ชายหนุ่มลุกขึ้น พร้อมกับเดินออกไปอีกทาง
ถึงมันจะเป็นแค่หมา
แต่ถ้าวันหนึ่งเจ้านายของมันไม่ใส่ใจดูแล
สุดท้าย มันก็จะหนีไปอยู่ดี…
“เฮ้ออ…ฉันมันอ่อนแอมากเลยว่าไหม ดุ๊กดิ๊ก หื้ออ…”
วริณขยี้ขนสากๆของเจ้าดุ๊กดิ๊กด้วยความหมั่นเขี้ยว หมาน้อยครางงิงๆ ทำหน้าอ้อน แล้วก็ซุกหน้ากับมือของชายหนุ่ม วริณจึงลูบขน
ของมันต่อด้วยความเอ็นดู…
------------------------------------
T : คนเราเวลาเห็นแก่ตัวมันก็เป็นแบบนี้แหละค่ะ และเวลาคนเรารู้สึกหมดความหมาย ก็จะเป็นคนไปเอง
ตอนนี้ อาจไม่มีอะไรมาก เก็บตก ของตอน 15
ชอบไม่ชอบก็ "เม้นเถอะค่ะ" มีกำลังใจเยอะเลย
เขียนตอนนี้ปวดหัวมากมายค่ะ เพราะไม่ค่อยสบาย ฉะนั้นอาจจะมีคำตกคำหล่นบ้างนะค่ะ ต้องขอโทษด้วย
ปล. ขอบคุณสำหรับทุกเม้น และเป็ดทุกตัวค่ะ ต้องไปนอนแว้ววว ปวดหัว ต้องไปเรียนอีก แงแง
