ตอนใหม่มาแระจร้า.....
อ่านรีพายแล้วรู้สึกว่าเรื่องของเรามันทำให้คนอ่านจิตตกกันเกินไปรึป่าว??
เมื่อก่อนเราไม่เคยอ่านทวนที่ตัวเองพิมเลยสักตอน
มาช่วงหลังๆนี้ที่อ่านรีพายแล้ว เราเลยลองไปอ่านเรื่องที่ตัวเองเขียนเล่าไป
ก็แอบจิตตกไปด้วยอีกรอบ ทั้งที่มันเป็นเรื่องที่เคยเกิดขึ้นกับตัวเองแท้ๆ...
เฮ้อออออออออออ...............................
แต่ก็ขอบคุณสำหรับกำลังใจแล้วกันน๊า.....
*****************************************
ทวนของเมื่อวานกันหน่อย....
คืนนั้นทั้งเราและมันต่างก็นอนไม่หลับ
แต่ก็ไม่ได้มีการพูดคุยอะไรกันอีก.....
ภีมนอนหลับตาเอามือก่ายหน้าผากจนถึงเช้า
มันก็กลับไป......
ก่อนที่มันจะกลับไปเรากับมันมองหน้ากัน.....
แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรกันมาก...
มันบอกเพียงแค่ว่า
“ เดี๋ยวเค้าโทรหานะ.... ”
แล้วมันก็กลับไป...
**********************************************
---------------- #### เรื่อง “ รักของเราสามคน ” (ฉบับเข้มข้น) ๑๘.๓ #### ----------------
คืนต่อมา...
ภีมก็มาหาเราอีก... แต่คาวนี้มันมาหาเราเร็วกว่าเดิม
มันมาหาเราตั้งแต่ตอนประมาณเที่ยงคืน...
พอมันมาหาเราก็เหมือนเดิม
มาถึงก็อาบน้ำก่อน พอมันอาบน้ำเสร็จก็ดูหนังเกาหลีกัน
คือภีมมันชอบดูซีรีย์เกาหลีมาก พอมันเปิดหนังเรากับมันก็นอนดูหนังเกาหลีด้วยกัน
ตั้งแต่ที่มันมา เรากับมันไม่มีใครพูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานเลย
ทำเหมือนกับว่ามันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
มันก็เหมือนจะดีนะที่ไม่ไปขุดคุ้ยเรื่องเก่าๆที่ทำให้ทะเลาะกันมาพูดกันอีก
แต่ในทางกลับกันก็ใช่ว่าเรื่องต่างๆที่เคยทะเลาะกันจะหายไปจากความทรงจำ
เพราะเรื่องที่เคยทะเลาะกันก็ยังไม่รับความกระจ่างว่าอะไรมันเป็นอะไรกันแน่
ทุกสิ่งทุกอย่างที่ค้างคาอยู่ในใจมันจะรอเวลาที่จะทำให้มันคลี่คลายไปเอง...
แต่เมื่อวันนั้นมาถึง...
มันกลับกลายเป็นวันที่ทำให้เกิดจุดแตกหักเกิดขึ้น.......
วันนั้นที่เรากะมันได้อยู่ด้วยกันอีกครั้ง มันเป็นวันที่เรามีความสุขอีกวันนึงเลยตั้งแต่เรารู้จักมันมา
วันนั้นจะเป็นวันที่เราไม่มีทางลืมแน่นอน
เพราะเหมือนว่ามันจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เราได้นอนกับมัน
“ ทำไมถึงชอบดูหนังเกาหลีเรื่องนี้อ่ะ? ” เราถามขณะที่นอนดูหนังเกาหลีอยู่ด้วยกัน
“ เนื้อเรื่องมันดี ” ภีมพูด
“ ดียังไง? ” เราถามด้วยความอยากรู้ เพราะเราก็เป็นคนนึงที่ชอบดูซีรีย์เกาหลีอยู่พอสมควร
“ มันเหมือนชีวิตเราเลย ” ภีมพูดทั้งที่ตายังจับจ้องอยู่ที่หนัง
“ เหมือนยังไง? ” เราถาม เพราะยังไม่เข้าใจ
“ ก็ที่เป็นอยู่นี่ไง ? ” ภีมพูด
“ คำว่าเราที่แกหมายถึงคือเราสามคนรึป่าว ? ” เราถาม
“ อืม... ” ภีมตอบเสียงนิ่งๆ
“ เค้า แก มะปรางอะเหรอ? ” เราพูด
“ อืม... ” ภีมพยักหน้ารับ...
“ แกเคยดูจนจบแล้วรึไงถึงบอกว่ามันเหมือนกัน ” เราพูด
“ เค้าเคยดูจบไปแล้วรอบนึง.... ” ภีมพูดพร้อมกับหันมามองหน้าเราก่อนที่จะหันกลับไปดูหนังต่อ
“ แกรู้ได้ยังไงว่าหนังกับชีวิตจริงมันจะจบเหมือนกัน ” เราพูด
“ ทำไมจะไม่รู้ล่ะ.... ” ภีมไม่ตอบแต่เลือกที่จะถามเรากลับมา
“ อืม.... ใช่.. ” เราพูด
ภีมจะไม่รู้ได้ยังไงว่าเรื่องของเราสามคนจะจบลงแบบไหน
ในเมื่อคนที่จะทำให้เรื่องนี้จบลงในรูปแบบไหน........
ก็คือ................................... ภีม
“ แกอยากเอาไว้ดูรึป่าว... เดี๋ยวเค้าไปไรท์เอาใหม่ก็ได้ ” ภีมพูด
“ เอาดิ... เค้าก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าเรื่องมันจะจบลงแบบไหน ” เราพูด
แม้ว่าภายในใจเราจะมีคำตอบอยู่แล้วก็ตาม
แต่ก็ยังอยากจะรู้ให้แน่ๆ ว่ามันจริงอย่างที่คิดรึป่าว???
เรากับมันก็หันไปดูหนังเกาหลีเรื่องนั้นกันต่อ...
ดูกันจนถึงประมาณตีสาม ก็เลยตัดสินใจว่าไม่ดูต่อแล้ว
เพราะว่ามันยังเหลืออีกหลายตอนมากๆ ยังไงวันนี้ก็ดูไม่จบ
“ แกมาอยู่กับเค้าแบบนี้เพื่อนแกไม่โทรตามกันเหรอ? ” เราถามหลังจากที่นอนคุยกันมาสักพัก
“ ก็เค้าปิดมือถือแล้ว.... รำคาญพวกมันโทรตาม ” ภีมพูด
“ เดี๋ยวมันก็สงสัยกันหรอก.. ” เราพูดด้วยความหวังดี
“ ช่างมันเหอะ.. ” ภีมพูดด้วยท่าทางหงุดหงิด
“ ทะเลาะกับเพื่อนมาดิ? ” เราพูด
“ เรื่องไร้สาระหนะ.... ไม่รู้พวกมันเป็นไรกัน นิดๆหน่อยก็งอน ” ภีมพูดอย่างหัวเสีย
“ เพื่อนแกขี้งอนกันด้วยเหรอ? เค้าไม่เห็นรู้เลย ” เราพูด
“ แกไม่เคยเห็นอ่ะดิ... แค่บางวันที่ไม่ได้ไปกินข้าวด้วยกันยังงอนเลย... ไปไหนไม่ชวนก็งอน ” ภีมพูด
“ เพื่อนแกนี่แปลกๆเนอะ.... ไม่ใช่ว่าไปๆมาๆกลานเป็นเกย์กันทั้งกลุ่มนะ ” เราพูดแล้วก็หัวเราะ
“ เกย์นี่เค้าไม่เอากะเทยเป็นแฟนใช่ม่ะ? ” ภีมถาม
“ เออดิ... เกย์เค้าก็เอาเกย์ด้วยกันไม่ก็ไปเอาผู้ชาย กะเทยแต่งหญิงขนาดนี้เกย์ที่ไหนจะเอา ” เราพูด
“ งั้นเค้าคงไม่ใช่เกย์หรอกมั้ง? ” ภีมพูด
“ เค้าจะไปรู้เหรอ... ตัวเองก็น่าจะรู้ แต่มันก็ไม่แน่หรอก... แกอาจจะเป็นเกย์ก็ได้ ” เราพูดด้วยจงใจจะแซวมันเล่นๆ
“ เค้ารู้ว่าเค้าไม่ใช่เกย์แน่ๆ ” ภีมพูดอย่างมั่นใจ
“ มั่นใจขนาดนั้นเลย ” เราพูดพร้อมกับมองหน้ามันแบบกวนๆ
“ ก็เค้าไม่ชอบเกย์หนิ... แล้วก็ไม่ได้ชอบผู้ชายด้วย ” ภีมพูด
“ แล้วงี๊ชอบไรอ่ะ.... ชอบผู้หญิงหรือกะเทย ? ” เราพูด
“ อยากรู้ป่ะล่ะ? ” ภีมพูดพร้อมกับหันหน้าตะแคงข้างมาทางเรา พร้อมทำหน้าเจ้าเล่ห์
“ ไม่เอาอ่ะ... เดี๋ยวทำใจไม่ได้ ” เราทำเป็นพูดเล่นๆขำๆไป แต่ในใจลึกๆกลับรู้สึกกลัวหากคำตอบมันมาอยู่ตรงหน้า
“ เดี๋ยวนี้ขี้เล่นนะแกอ่ะ... ” ภีมพูดแล้วก็เอามือมาบีบจมูกเรา
“ เค้าจะบอกให้แกรู้นะ... ว่าถ้าเค้าจะเอากะเทยเป็นคู่ชีวิตอ่ะ แกจะเป็นกะเทยคนแรกและคนเดียวที่เค้านึกถึง”
ภีมพูดด้วยหน้าจริงจัง
“ มันเป็นไปได้ง่ายๆเลยเนี่ย.... ” เราทำเป็นพูดเล่น
“ งั้นแกก็ยกขันหมากมาขอเค้าดิ... ที่บ้านเค้าอาจจะไม่ว่าก็ได้ ” ภีมพูดยิ้มๆ
“ เอาจริงป่ะล่ะ?.... พรุ่งนี้จะได้โทรไปบอกพ่อเลย.... ” เราพูดเล่นกลับไป
“ จริงดิ... เรื่องแบบนี้มาพูดเล่นกันได้ไง ” ภีมพูด
“ แกก็รู้... เรื่องนี้อย่ามาทำเป็นพูดเล่นกับเค้า เพราะเค้าเอาจริง ” เราพูด
“ ก็จริงอ่ะดิ... ” ภีมพูด
“ แล้วแกก็จะมาอยู่กับเค้าอ่ะนะ..... ” เราพูด
“ อืม... ” ภีมพูด
“ ฉันท์สามีอ่ะนะ ” เราพูด
“ ก็เออดิ... ” ภีมพูดด้วยท่าทางทีเล่นทีจริง
“ งั้นแกไปถามแม่แกมาว่าคิดเท่าไหร่ ถ้าจะยกขันหมากไปขอลูกชายเค้าเนี่ย? ” เราพูด
“ โอเค... งั้นเดี๋ยวพรุ่งนี้โทรไปถาม ” ภีมพูด
“ นี่ตกลงแกพูดเล่นหรือพูดจริงเนี่ย? ” เราพูด
“ พูดจริงดิ... ใครเค้าจะเอาเรื่องนี้มาพูดเล่นกัน ” ภีมพูด
“ แล้วแกยิ้มทำไมอ่ะ? ” เราพูด
“ ก็ดีใจไง... จะได้อยู่กะแก ” ภีมพูดทั้งที่ยังยิ้มอยู่
“ ตลกแล้วแกอ่ะ ” เราพูด
“ อ้าว... พอพูดเรื่องจริงก็หาว่าพูดเล่น ” ภีมทำเป็นพูดบ่นๆที่เราไม่รู้ว่ามันกำลังคิดอะไรอยู่ๆ
“ ไม่เอาอ่ะ... แกชอบพูดเล่น.... มาถ่ายรูปกันดีกว่า ” เราพูดพร้อมกับหยิบมือถือตัวเองขึ้นมา
“ จะถ่ายทำไม ? ” ภีมถาม
“ เอาไว้ดูไง? ” เราพูด
“ ก็รูปเค้าในมือถือแกก็มีตั้งหลายรูป.. คราวที่แล้วเค้าเอาไปถ่ายให้ตั้งเยอะยังไม่พอเหรอ ?” ภีมพูด
“ ก็เค้าไม่เคยถ่ายรูปคู่กะแกเลยอ่ะ ” เราพูดพร้อมกับขยับตัวเข้าไปนอนใกล้ชิดกับมัน
เราอยากจะถ่ายรูปคู่กับมันมาตั้งนานแล้ว แต่มันก็ไม่ยอมถ่ายรูปคู่กับเราสักครั้ง
ตั้งแต่สมัยที่เรียนมอปลาย เราเคยจะได้ถ่ายรูปคู่กับมันตอนที่ไปเที่ยวก็หลายครั้งอยู่
แต่แล้วท้ายที่สุดมันก็ไม่ยอมถ่ายรูปคู่กับเราสักครั้ง
“ ไม่เห็นต้องมีเลย... ก็คุยกันอยู่ทุกวัน ” ภีมพูด
“ แกคิดว่าเราจะยังคุยกันทุกวันแบบนี้ไปตลอดเหรอ? ” เราพูด
ภีมไม่ตอบ...
มันนิ่งไปเมื่อได้ยินสิ่งที่เราพูดออกไป
แล้วมันก็ยอมถ่ายรูปคู่กับเรา...
“ เอามือถือแกมาถ่ายบ้างดิ ” เราพูด
“ ได้คืบจะเอาศอกนะเนี่ย... แกอ่ะ ” ภีมพูดด้วยท่าทางขำๆ
“ เดี๋ยวถ้าต่อไปเราไม่ได้เจอกันแล้ว แกจะได้มีรูปเค้าไว้ดูไง? ” เราพูด
“ ทำไม... แกจะไปไหน ? ” ภีมพูด
“ ก็ยังไม่รู้หรอก... ถ่ายๆไว้บ้างเหอะ ” เราพูด
“ เออๆ.. ก็ได้ ” ภีมพูดพร้อมกับหยิบมือถือมันมาเปิดเครื่อง
“ ก็แค่เนี๊ยะ.. เผื่อต่อไปเค้าดังขึ้นมาแกจะได้มีรูปยืนยันว่าเคยเป็นเพื่อนกับคนดัง ” เราพูดเล่นกับมัน
“ ม่ะ... ถ่ายกัน... ” ภีมพูด
เราก็ขยับตัวเข้าไปถ่ายรูปคู่กับมัน...
หลังจากถ่ายรูปเสร็จก็นอนคุยกันเล่นไปเรื่อยเปื่อยโดยที่ทั้งเรากับมันก็ไม่มีใครคิดว่าจะหลับ
จนภีมหันมาพูดกับเราว่า
“ แก.. ตอนหกโมงปลุกเค้าด้วยนะ... เค้ามีฝึกตอนแปดโมง ” ภีมพูด
“ แล้วจะรีบตื่นไมล่ะ... ก็ตื่นสักเจ็ดโมงก็ได้ ” เราพูด
“ ปลุกหกโมงแหละ ” ภีมพูด
“ กลัวคนจะเห็นรึไงว่าแกมาอยู่กับเค้า ” เราพูดไปตามที่รู้สึก
ภีมไม่ตอบมันมองสบตาเราก่อนที่มันจะหลับตาลง
แล้วมันก็พูดออกมาว่า
“ แกอย่าลักหลับเค้านะ... เดี๋ยวเค้าไม่มีแรงฝึก ”
“ เออ... ” เราพูด
จากนั้นเราก็เลยเดินไปเปิดโทรทัศน์ดู
ที่จริงเราก็ง่วงเหมือนกันแหละแต่ที่ไม่นอนเพราะว่าอยากใช้เวลาอยู่กับมันให้ได้มากที่สุด
และถ้านอนตอนนี้ก็กลัวว่าจะไม่ตื่น เดี๋ยวจะปลุกมันไม่ทันตามเวลา
เราก็เลยไม่หลับ
การนอนมองหน้าคนที่เรารักตอนที่เค้าหลับมันมีความสุขแบบนี้นี่เอง
เราพูดกับตัวเองขณะที่นอนมองภีมที่กำลังหลับ.....
ตอนประมาณหกโมงเราก็ปลุกมันแต่ก็ดูท่าว่ามันจะหลับลึกเพราะไม่ยอมตื่น
เราก็เลยลุกขึ้นไปล้างหน้า และปล่อยให้ภีมนอนไปอีกหน่อย
พอเราออกมาจากห้องน้ำก็เห็นว่าภีมยังหลับอยู่ เราก็เลยแอบหอมแก้มมันไปทีนึง
แล้วก็ปลุกมันให้ตื่น... มันก็งัวเงียๆแล้วก็ลืมตาขึ้นมาแล้วพูดว่า
“ กี่โมงแล้วเนี่ย? ”
“ หกโมงครึ่งแล้ว ” เราพูด
“ โห... ไมปลุกช้าจังอ่ะ.... ” ภีมพูดบ่นๆพร้อมกับลุกขึ้นนั่ง
“ ปลุกตั้งนานแล้ว แต่แกไม่ตื่นเอง... อย่ามาโทษกันดิ ” เราพูด
“ อย่ามาๆ... ถ้าแกปลุกจริงทำไมเค้าจะไม่ตื่น ” ภีมพูดพร้อมกับทำหน้ากวนๆ
“ แกแหละขี้เซา.... รู้งี้ไม่ปลุกดีกว่า ” เราพูด
“ แกลักหลับเค้าป่ะเนี่ย ? ” ภีมพูดด้วยท่าทางกวนๆแล้วทำเป็นเปิดกางเกงตัวเองดู
“ ไม่มีอ่ะ.. ” เราพูด
“ อย่ามาโกหก... น้องเค้ามันหันผิดทางอ่ะ... แกลักหลับเค้าใช่ป่าว? ... บอกมา... ” ภีมพูดด้วยท่าทางกวนสุดๆ
“ ไปใหญ่แล้ว... ก็บอกว่าป่าวไง... ถ้าเค้าจะทำนะ.. เค้าทำไปตั้งแต่สมัยมอปลายแล้ว ” เราพูด
“ จริงๆถ้าแกจะทำเค้าก็ไม่ได้ว่าไรรหอก... แต่ขอให้ปลุกด้วยแล้วกัน... จะได้เสียว ” ภีมพูดด้วยท่าทางกวนๆแล้วก็เดินไปล้างหน้าในห้องน้ำ
พอมันล้างหน้าล้างตาเสร็จมันก็จะกลับ
เราเลยพูดกับมันว่า
“ ราตรีสวัสนะ... ”
“ อ้าว.. นี่เมื่อคืนแกไม่ได้นอนเหรอ? ” ภีมถาม
“ นอน... แต่ยังง่วงอยู่ ” เราเลือกที่จะโกหกมันออกไป
“ เออ... งั้นเค้าไปก่อนนะ.... ” ภีมพูดแล้วก็ออกไป
พอมันออกไปเราก็เปิดดูรูปที่ถ่ายกับมันเมื่อคืน
แต่เปิดหายังไงก็หาไม่เจอ...
แล้วเราก็ได้มารู้ที่หลังว่า.....
ภีมเป็นคนลบรูปทั้งหมดที่เราถ่ายคู่กับมันออกไปจนหมดตอนที่เราเค้าห้องน้ำ
และก็แน่นอนว่ามันก็คงลบรูปที่ถ่ายคู่กะเราในเครื่องมันออกไปหมดแล้วเหมือนกัน....
################################################