Re: ## เรื่อง " รักของเราสามคน " ## ทักทาย 18 เมษายน 2558
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Re: ## เรื่อง " รักของเราสามคน " ## ทักทาย 18 เมษายน 2558  (อ่าน 290400 ครั้ง)

ออฟไลน์ jeng_jey

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 64
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
 :angry2:
ผู้ชายก้อเห้นแก่ตัวอย่างงี้กันทุกคนเลยป่าวเนี่ย
เอาแต่ได้....พูดแล้วโมโห
ตอนนี้เพื่อนเราก้อ
อยู่ในฐานนะเดียวกับปอเลย
ไม่รุ้จะช่วยยังไง
คนดีๆทำไมไม่รัก
นี่แหละความรัก

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
 :a2: ปอคงประจักษ์ด้วยตนเองแล้วซินะว่า 

"ชีวิตเค้าก็อยู่อย่างมีความสุขได้  ถึงแม้ว่าวันนี้เค้าจะไม่มีแก(คนนั้น)"  :m4:

ออฟไลน์ ★L'Hôpital

  • แค่เราได้พบกัน...
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1521
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-18
เศร้ามากๆเลย  :sad2:

สงสารพี่กรจังเลยครับ ไม่รู้ว่าพี่กรอดทนมาได้อย่างไร

โดนคนเรารักหลอกนี่มันช่างเจ็บมากๆเลยครับ

พูดแล้วก็นึกถึงที่ตัวเองเคยโดน  :เฮ้อ:

เป็นกำลังใจให้พี่กรเสมอนะครับ  :L2:

ออฟไลน์ OsTrich

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 303
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-0
ขอบคุณทุกรีเลย..... ที่เม้นให้เรา...

เรารู้สึกดีจริงๆ....

ขอบคุณมากๆ

แล้วก็ขอบคุณสำหรับเพลงที่ลงให้เราด้วย....

คุณ uno เพลงที่ลงให้เราชื่อเพลงอะไรอ่ะ  เพราะจัง...

เราเปิดฟังตั้งหลายรอบ...

ส่วนพี่broke-back .. วิธีลงเพลงอ่ะเดี๋ยวเราเมลไปให้นะ.....


ที่เราหายไปไม่ใช่ไรหรอก...

พิมตอนที่18แล้วทำเอาจิตตกไปเลย... ร้องไห้อีกทั้งที่ทำใจกับเรื่องนั้นได้แล้ว

เลยไปพักผ่อนจิตใจซะหน่อย......


*************************************** 

---------------- #### เรื่อง  “ รักของเราสามคน ” (ฉบับเข้มข้น) ๑๙  #### ----------------

24  มิถุนายน  49

แก่ขึ้นอีกปีนึงแล้ว........

มีความสุขมากๆละกันนะ...

ขอให้สมหวังทุกอย่างที่อยากได้.....

หวังว่าเค้าคงส่งข้อความมาอวยพรวันเกิดแกเป็นคนแรกนะ....



23  กันยายน  49

ยังจำได้ป่าว???  ว่าวันนี้วันอะไร???

.... วันซอฟดริ้งของเราไง.....

หวังว่าแกคงมีความสุขดีนะ.......

โชคดี....



11  ตุลาคม  2549

ข้อความนี้มีอาถรรพ์...  คนอ่านจะคิดถึงคนส่งคนนี้ตลอดไป


“ เกือบแปดเดือนแล้วสินะ........  ที่เราไม่ได้คุยกัน....  ต่างคนต่างก็มีชีวิตของตัวเอง...  อยู่ใครอยู่มัน.. ”



เรากับภีมไม่ได้มีการติดต่อกันเลยนับจากวันนั้นเป็นเวลาเกือบแปดเดือน
เราไม่ได้โทรหามันเลยแม้แต่ครั้งเดียว  ซึ่งภีมเองก็ไม่ได้โทรหาเราเหมือนกัน
จะมีก็แต่เพียงการส่งข้อความมาหาเราเท่านั้น...

หลายครั้งที่เราเดินสวนกัน...  ขี่รถสวนกัน....  นั่งกินข้าวร้านติดกัน.... หรือแม้แต่การบังเอิญไปในที่ที่เดียวกัน

เหมือนคนบนฟ้าจะกลั่นแกล้งเราอีกครั้ง....

หรือว่าเวรกรรมระหว่างเรามันคงยังจะไม่หมด....

หรืออาจจะเป็นแค่ความบังเอิญที่ทำให้เราเจอกันโดยมิได้ตั้งใจ

เราไม่รู้ว่าภีมมีท่าทีอย่างไรเวลาที่เจอเรา....

เพราะเลือกที่จะเลี่ยงหลบมันไปทุกครั้งหากเราต้องเผชิญหน้ากัน

เราทำเหมือนว่าเราไม่รู้จักมันและคิดว่ามันได้ตายไปแล้ว......

แต่ก็มีอยู่หลายครั้งที่เหตุการณ์มันบังเอิญเสียจนเราไม่คาดคิดมาก่อน........



..... เรายังจำวันนั้นได้ดี.....   11  ตุลาคม 49


“ เฮ้ยเมิง...  วันนี้ไปดูหนังกันป่าว..  ไม่ได้ดูนานแล้วนะ..   ”  พิมพูดจ้ออยู่ข้างๆขนาดที่เราไปกินข้าวเย็นด้วยกัน

“ เออ... ไปดิ... แก้เซ็ง....    แต่เมิงจะดูเรื่องไรว้ะ? ”  เราถาม

“ เรื่อง............................. ไง   น่าจะหนุกว่ะ.. ” พิมพูด

“ เออ... งั้นก็ไปดิ..   กินข้าวเสร็จเดี๋ยวไปดูรอบหนังกัน ” เราพูด

“ เออ... ” พิมพูด..


*************************************

“ ดูรอบทุ่มสี่สิบแล้วกันนะเมิง... ” พิมพูดหลังจากเราเช็ครอบหนังกันเสร็จ

“ เออ.... อีกยี่สิบนาทีเอง  ดีเหมือนกันจะได้ไม่ต้องรอ  ” เราพูด

“ อืม...  ” พิมพูด

หลังจากที่ซื้อตั๋วเสร็จเราก็บอกพิมว่าให้มันอ่านเรื่องย่อไปพลางๆก่อนเพราะว่าเราจะไปห้องน้ำ
พอเราเดินออกมาจากห้องน้ำก็หาพิมไม่เจอ
 เราก็ยืนมองๆหามันอยู่  จู่ๆก็มีใครไม่รู้มาจับตูดเรา

“ เฮ้ย..... ”  เราร้องพร้อมกับหันไปมองหน้าด้วยความตกใจ 
พอเห็นหน้าไอ้คนที่จับตูดเรา...  เราก็ทำหน้างงๆ  รู้สึกว่าคุ้นหน้าแต่ก็นึกไม่ออกว่าใคร
ไอ้คนที่มันจับตูดเรามันก็มองหน้าเรายิ้มๆไม่พูดไม่จา
แต่ในขณะที่เราพยายามยืนนึกอยู่ว่าไอ้คนนี้เป็นใคร 
จู่ๆภีมก็เดินมาจากไหนไม่รู้มากระชากแขนไอ้คนนั้นอย่างแรงพร้อมกับมองหน้าอย่างหาเรื่อง

ตอนนั้นเราตกใจมากเลยรีบเข้าไปดึงไอ้คนนั้นออกมาพร้อมกับพูดว่า

“ เฮ้ย... ไรเนี่ย.... ทำไรอายคนอื่นเค้ามั่ง !! ” เราพูดพร้อมกับหันไปมองหน้าภีมด้วยความรำคาญอย่างจงใจ

“ ชอบรึไง... ยืนให้คนเค้ามาแต๊ะอั๋งเนี่ย?? ” ภีมพูดอย่างหัวเสียเช่นกัน

“ ชอบไม่ชอบก็อย่ามาเสล่อได้ป่ะ? ” เราพูดอารมณ์เสียเช่นกัน

“ อย่าเถียงกันเลย.... คือ.... เราแค่แกล้งปอเล่นเฉยๆ ”  ไอ้คนนั้นพูดด้วยท่าทางประหม่า

เรากับภีมหันไปมองหน้าไอ้คนนั้นพร้อมกันอย่างงงๆ
เราคิดว่าภีมมันก็คงจะงงว่าไอ้คนนั้นรู้จักเราเหรอ?
ส่วนเราก็งงว่า.... ไอ้คนนี้นี่เป็นใครกัน...

“ ภีมอยู่นี่เอง... มะปรางนึกว่าหายไปไหน ” มะปรางเดินมาที่ภีมพร้อมกับถือป๊อบคอนกับน้ำอัดลมมาด้วย
มะปรางมองหน้าสลับไปมาด้วยความงุนงง  ก่อนที่จะถามว่า

“ มีอะไรกันรึป่าว ? ”

ภีมและไอ้คนนั้นเงียบเราจึงพูดออกมาว่า

“ ไม่มีไรหรอก... พอดีเข้าใจผิดกันนิดหน่อย ”

“ อ่อ... นึกว่ามีอะไรกัน.... ” มะปรางพูดด้วยท่าทางสงสัย

“ อ้าวเมิง... อยู่นี่เอง...  กูก็ไปรอเมิงที่หน้าห้องน้ำ ” พิมพูดพร้อมกับเดินเข้ามา

“ งั้นเราไปก่อนนะ....  ไปเหอะภีม ” มะปรางพูดพร้อมกับดึงภีมให้เดินไป 
ภีมหันมามองหน้าเราแบบเดาไม่ออกว่ามันคิดอะไรอยู่ก่อนที่มันจะเดินตามมะปรางไป

“ แล้วภีมมันเป็นไรว้ะ...  มันมายืนอยู่กะเมิงได้ไง? ” พิมถามด้วยท่าทางงงๆพร้อมกับมองหน้าเรากับไอ้คนนั้นสลับกันไปมา

“ เดี๋ยวกูเล่าให้ฟัง ” เราพูด

“ ไอ้นั่นใครว้ะ?.... เกือบจะต่อยเราแล้วมั้ยล่ะ ? ” ไอ้คนนั้นพูดด้วยท่าทางเกรงๆ

“ เดี๋ยวก่อน... ” เราพูดพร้อมกับมองหน้าไอ้คนนั้นแล้วพยายามนึกว่ามันคือใคร
เพราะรู้สึกคุ้นๆแต่จำไม่ได้

“ มองงี๊นี่จำเราไม่ได้เหรอ? ” ไอ้คนนั้นพูดด้วยท่าทางทะเล้น  ซึ่งเราก็พยักหน้าหงึกๆยอมรับว่าจำไม่ได้

“ เฮ้ยไรว้ะ... ไม่เจอกันสองปีนี่จำกันไม่ได้แล้วเหรอ? ” ไอ้คนนั้นพูดด้วยท่าทางน้อยใจ

เราก็นึกอยู่แป๊ปนึง...  พยายามมองหน้ามันชัดๆแล้วก็พูดออกมาเสียงดังว่า

“ เก่ง !!!! ” พร้อมกับเขย่าแขนมันแรงๆด้วยความดีใจ

เก่งเป็นเพื่อนในคณะเราแต่เรียนคนละเอก  มันได้รับคัดเลือกเป็นโมเดลเหมือนกัน
แต่มันเรียนได้แค่สามเดือนก็ลาออกไปเพราะมันจะซิ่วไปเรียนมช.

“ โห.... นึกว่าจะนึกไม่ออกซะแล้ว ” เก่งพูดด้วยท่าทางดีใจ

“ ก็หล่อขึ้นตั้งเยอะอ่ะ... เลยจำไม่ได้ ” เราพูดแบบแซวๆ

“ เป็นไง... ชอบอ่ะดิ... ” เก่งทำเป็นพูดแซวเราบ้าง

“ หล่อขนาดนี้มีแฟนละมั้ง...... ” เราแซวมันอีก

“ ก็มีบ้าง... ” เก่งพูดยิ้มกริ่ม

“ แล้วตอนนี้เป็นไง...  เรียนไหนเนี่ย ?? ” เราถาม

“ มช.  ” เก่งพูด

หลังจากนั้นเราก็คุยกะเก่งอีกนิดหน่อย... ก่อนที่จะเข้าไปในโรงหนัง
เก่งมันเป็นคนที่จัดว่าหล่อทีเดียวแต่เมื่อก่อนมันอ้วน  กลับมาคราวนี้นี่หุ่นดีหน้าใสกิ๊ก.... ดูดีเชียวแหละ
เราเลยจำแทบไม่ได้....

ทันทีที่เราลงนั่งในโรงหนังอนนั้นไปในรงหนังปิดแล้ว
สายตาเราก็ไปเห็นคู่รักคู่นึงที่นั่งอยู่ข้างหน้า...

ภีมกับมะปรางนั่นเอง......
ไม่น่าเชื่อว่าจะบังเอิญอะไรขนาดนี้...
เพราะมะปรางกับภีมนั่งในตำแหน่งเดียวกับเราพิมเลย  เพียงแต่เรานั่งข้างหลังมัน

“ เฮ้ย... บังเอิญว่ะ...  ดูหนังเรื่องเดียวกันเลยแล้วยังเสือกนั่งที่ตรงกันอีก ” พิมหันมากระซิบกับเรา

“ เซ็งว่ะ... แม่ง ” เราพูดอย่างหัวเสีย

“ กูขอโทษนะเมิง... ที่เลือกที่นั่งเฮงซวยแบบนี้ ” พิมหันมาพูดอย่างรู้สึกผิด

“ ไม่เป็นไรหรอกเมิง... ถ้าวันนี้ไม่เจอ...  กูใช่ว่าคราวหน้าจะไม่มีโอกาสเจอ ” เราพูด

“ ถือซะว่าพิสูจน์ใจเมิงด้วย ” พิมพูด

หลังจากจบบทสนทนาเรากะพิมก็ตั้งใจดูหนังกันจะมีบ้างที่หันมาคุยกันบ้าง

หลายเดือนที่ผ่านมาที่เราไม่ได้ติดต่อพูดคุยอะไรกับภีม
มันก็พอจะช่วยให้อะไรๆดีขึ้นบ้าง

เราเริ่มตัดใจจากมันได้
ช่วงแรกๆอาจจะยากหน่อย... เราร้องไห้เกือบจะทุกวัน  อยากโทรหามันก็หลายครั้งอยู่

แต่พอนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นครั้งนั้นมันก็ทำให้เราเข้มแข็งพอที่ไม่กลับไปยืนอยู่จุดเดิม

แต่ยังไงก็ตาม...  ใจเราก็ยังไม่สามารถลบภาพทุกความทรงจำระหว่างมันกับเราออกไปได้ทั้งหมด
แม้ว่าเราจะพยายามตั้งใจดูหนัง  พยายามเบนสายตาให้มองเลยจากสองคนนั้นไปที่โรงหนัง

แต่เราก็ยอมรับว่ามีหลายครั้งทีเดียวที่เราอดไม่ได้ที่หยุดสายตาไว้ที่คนข้างหน้า..

ภาพที่เห็นก็ยังคงทำให้ใจเราสั่นไหวได้ไม่น้อยทีเดียว

เค้าทั้งคู่ยังคงดูรักกันดี......


ป้อนป๊อบคอนกัน....

ป้อนน้ำกัน...................

เอนพิงกัน...  ซบกัน........

ทำไมใจเรามันสั่นไหวได้ขนาดนี้......

เวลาที่ผ่านมามันไม่ได้ช่วยรักษาแผลใจเราได้บ้างเลยรึไง....

แต่เราก็พยายามใจแข็งและบอกกับตัวเองในใจว่า...

“ เจ็บแล้วหัดจำซะบ้างนะเมิง....... ”

“ เข้าทำอะไรกับเมิงไว้บ้าง.........”

“ รักตัวเองให้มากกว่าที่รักมันเหอะ.......... ”


พอหนังจบ...
ทันทีที่เรากับพิมลุกขึ้นยืนจากที่นั่งเพื่อจะเดินออกภีมก็หันมาที่เราสองคนพอดี
เราเห็นมันทำหน้าตกใจแต่มันก็ไม่ได้พูดอะไร  พอมะปรางหันมาเห็นก็พูดว่า

“ อ้าว... บังเอิญจัง...   ดูหนังเรื่องเดียวกันด้วย ”

“ อืม...  บังเอิญจริงๆด้วย ” เราพยายามพูดให้ดูเป็นปกติแม้ภายในใจสะสั่นไหวอย่างเริ่มควบคุมไม่ได้

“ รีบไปเหอะเมิง...  กูยังไม่ได้ทำงานที่จะส่งพรุ่งนี้เลย ” พิมพูดขึ้นขัดจังหวะ  คงเพราะมันสังเกตท่าทีของเราได้

“ งั้นเรากลับก่อนนะ...  ” เราพูดและยิ้มให้มะปรางโดยที่ไม่ได้มองหน้าภีมที่ยืนนิ่งไม่พูดไม่จาแล้วรีบเดินออกมาจากตรงนั้น

“ เมิงโอเคป่าว? ” พิมถามอย่างเป็นห่วง

“ ก็ไม่โอเท่าไหร่...  แต่ก็ไม่ได้แย่มาก ” เราพูด

“ ดีแล้วเมิง...  อย่าไปเอามันมาอยู่ในหัวสมองเมิงเลย..... รกสมองปล่าวๆ ” พิมพูด

“ อืม...   ” เราพูด

หลังจากนั้นเราก็ไปส่งพิมที่หอก่อนที่จะกลับหอตัวเอง

คืนนั้นเป็นครั้งแรกที่ภีมโทรมาหาเราแต่เราก็ตัดสินใจที่จะไม่รับโทรศัพท์
ตอนแรกเราก็เกือบที่จะใจอ่อนเหมือนกันนะ..
เพราะมันโทรมาหลายสายอยู่เหมือนกัน
แต่เราก็ข่มใจตัวเองที่จะไม่รับโทรศัพท์มันได้

มันจึงส่งข้อความมาให้เราว่า....

“ ข้อความนี้มีอาถรรพ์...  คนอ่านจะคิดถึงคนส่งคนนี้ตลอดไป ”


###################################################

ออฟไลน์ OsTrich

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 303
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-0
ลงให้สองตอนเลยแล้วกัน....

เดี๋ยวขอไปเลี้ยงวันเกิดก่อน....




มีเพลงมาฝากด้วย...  ฟังคลอๆไปตอนอ่านนะ...


http://media.imeem.com/m/v_x-zd23Xc/aus=false/



---------------- #### เรื่อง  “ รักของเราสามคน ” (ฉบับเข้มข้น) ๒o  #### ----------------


มาช่วงปีใหม่.....

ปีนั้นเราได้กลับบ้านค่อนข้างเร็ว เพราะว่าอาจารย์ยกคลาสให้หลายคลาสเลย
และการกลับบ้านครั้งนั้นก็เหมือนครั้งเดิมๆคือกลับบ้านคนเดียว

ความบังเอิญก็ได้เกิดขึ้นอีกครั้ง....

ไม่น่าเชื่อว่าตลอดสองสามปีที่เรานั่งรถจากมอกลับบ้าน
เราไม่เคยบังเอิญเจอภีมเลย...  ทั้งที่เราอยากจะเจอมันมากจะได้นั่งรถกลับบ้านด้วยกัน

แต่เมื่อเราไม่อยากจะเจอ........  กลับเจอ..............

ทันทีที่เราเดินเข้าไปซื้อตั๋ว  ตอนนั้นเราไม่ได้สังเกตว่าใครนั่งอยู่บริเวณนั้นบ้าง
เพราะคนค่อนข้างเยอะ  เราก็เลยไม่ได้สนใจใคร

พอเราซื้อตั๋วเสร็จ  ก็ได้ยินเสียงเจมส์เรียกเรา

“ ปอ... กลับบ้านวันนี้เหมือนกันเหรอ??   ได้เที่ยวกี่โมงอ่ะ ” เจมส์พูดด้วยท่าทางดีใจ
เราก็ดีใจเหมือนกันที่เจอเจมส์  อย่างน้อยจะได้มีเพื่อนคุย

“ เจมส์ได้รอบกี่โมงล่ะ ” เราถามด้วยหวังว่าจะเป็นรถเที่ยวเดียวกัน

“ อ้าวปอ....  กลับวันนี้เหมือนกันเหรอ... ” เสียงเพื่อนเราคนนึงพูดขึ้น
คือมันก็เป็นเพื่อนมอปลายอีกคนที่มาเรียนที่นี่

เราหันไปมองตามเสียงที่พูดมาเราก็เห็นคนเดินมาสามคน
สองคนนั้นเป็นเพื่อนมอปลายที่เรียนที่นี่เหมือนกันซึ่งเราก็เจอมันบ่อยๆ
ส่วนอีกคนเป็นคนที่เราไม่อยากจะเจอหน้ามากที่สุด
...............  ภีม...................

“ ดีว่ะ...  จะได้กลับด้วยกันหลายๆคน  จะได้คุยกัน ” เจมส์พูด

“ ปอได้เที่ยวไหนล่ะ.... เที่ยวเดียวกันป่ะ ? ” เพื่อนอีกคนถามขึ้นมา

“ พวกแกได้รอบกี่โมงล่ะ? ” เราถาม

“ บ่ายโมงครึ่ง ” อันนี้ภีมเป็นคนตอบ  ทำให้เราอดที่จะหันไปมองที่มันไม่ได้

“ เราได้เที่ยวสองโมงอ่ะ ? ” เราพูดโกหกคำโตออกไป  เพราะจริงๆเราได้เที่ยวเดียวกับพวกมัน
แต่เราเลือกที่จะไม่นั่งรถไปกับพวกมัน...
รอให้ใจเรามันเข้มแข็งกว่านี้อีกสักนิดดีกว่า...

“ เสียดายอ่ะ...  นึกว่าจะได้กลับด้วยกัน ” เจมส์พูดอย่างเสียดาย

“ เออว่ะ... ” เพื่อนอีกคนพูด

“ แล้วนี่ปีใหม่ไปเที่ยวไหนล่ะ? ” ภีมถามขึ้นมาด้วยสีหน้าเรียบๆ
เราหันไปมองมันก่อนจะตอบออกมานิ่งๆว่า

“ ยังไม่มีโปรแกรมเลย...  สงสัยอยู่บ้านละมั้ง ”

“ สองคนเมิงมีปัญหาไรกันป่าวว่ะ...  ท่าทางแปลกๆ ” เพื่อนเราคนนึงพูด

“ ปล่าว... ” เรากับภีมพูดแทบจะพร้อมกัน

เราเองก็ลืมไปว่าเพื่อนๆไม่ได้รู้เรื่องเรากับภีมเท่าไหร่
จะมีก็แต่เจมส์ที่พอรู้เรื่องบ้างเพราะมันก็คุยกับภีมบ่อยๆ  บางทีมันก็นัดไปกินเหล้าด้วยกัน

“ จริงอ่ะ... แปลกๆนะเมิงสองคนเนี่ย ” เพื่อนคนนั้นพูดอย่างไม่เชื่อ

“ จริงๆ.... ภีมแกอ่ะทำหน้าเครียดๆมันเลยเข้าใจผิดเลยเห็นป่ะ... ” เราแสร้งพูดท่าทางกวนๆใส่ภีม

“ แกก็ทำหน้าเซ็งเหมือนกันแหละ ” ภีมพูดท่าทางกวนๆกลับมาบ้าง

“ เห็นป่ะ... มันไม่ได้มีปัญหาไรกันซะหน่อย....  คิดมากนะเมิงอ่ะ... ” เจมส์พูดขึ้นมาด้วยเพราะรู้เรื่องราวระหว่างเรากับภีมพอสมควร

“ กูจะรู้มั้ยล่ะ...  ก็เห็นทำหน้าตึงๆกัน ” เพื่อนคนนั้นพูด

“ เดี๋ยวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ ” เราพูดพร้อมกับเดินแยกออกมาเพื่อไปเข้าห้องน้ำ

จริงๆเราไม่ได้ไปเข้าห้องน้ำหรอก  แต่ไปขอแลกตั๋วกับคนอื่น
ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องยาก  เพราะเราได้ตั๋วเที่ยวรถที่กำลังจะออก

สรุปแล้วเราก็ถือตั๋วเที่ยวบ่ายสองโมง


พอเราเดินกลับมาที่พวกมัน   ภีมก็พูดว่า

“ ปีใหม่นี้ไปเที่ยวด้วยกันดิ...  ห้องเรามันนัดเจอกัน ”

“ เออไปด้วยกันดิ... แกไม่เคยไปงายมีทติ้งเลยนะ ” เพื่อนที่กลับด้วยกันพูด

“ ใช่...  ไปโชว์ตัวหน่อย....  สวยขึ้นตั้งเยอะ ” เพื่อนอีกคนนึงพูดขึ้นมาสมทบ

“ ดูก่อนดีกว่า ” เราพูดอย่างไม่แน่ใจ

“ ไปเหอะ... มีแต่เพื่อนถามถึง ” เจมส์พูด

“ แกเล่นหายไปเลย..  มีแต่คนคิดถึง ” ภีมพูดขึ้นมาคล้ายจะตั้งใจจะพูดสะกิดใจเรา

“ นัดกันวันไหนล่ะ? ” เราถาม

“ คืนวันที่สามเอ็ดตอนสองทุ่มที่...................... ” เพื่อนอีกคนพูด

“ มากันเยอะป่ะ? ” เราถาม

“ เยอะดิ...  ประมาณสามสิบกว่าคน ” ภีมพูด

“ ไปก็ไป... อยากเจอเพื่อนเหมือนกัน..  ไม่ได้เจอมาตั้งสองปีแล้ว ” เราพูด

“ เออๆ.... ดี  ไปด้วยกัน ” เจมส์พูด


หลังจากนั้นเราก็คุยกันอีกนิดหน่อยก่อนที่พวกมันจะขึ้นรถกัน



****************************************


“ เอ้า.... ชนแก้วหน่อย.... ” เสียงไอ้โอ๊ตพูดอย่างเฮฮา

ในที่สุดเราก็ตัดสินใจมางานมีทติ้ง

เพราะมีเพื่อนหลายคนโทรมาชวนที่บ้าน
ซึ่งจะออกไปในแนวมัดมือชกมากกว่า

บางคนก็ตัดพ้อกันอย่างงั้นอย่างงี๊....
หาว่าลืมเพื่อนเก่าบ้าง.....
หาว่าไม่คิดถึงกันบ้าง....

จนในที่สุดมันก็ลากเรามาได้สำเร็จ

พอเราไปถึงเพื่อนหลายคนก็เข้ามากอดเข้ามาทักทายเรากันยกใหญ่กับลุ๊คใหม่ของเรา

เพราะนอกจากเพื่อนที่เรียนที่มอเดียวกันก็แทบจะไม่มีใครได้เจอเราเลย
มันตื่นเต้นกันใหญ่เพราะตอนนั้นเราก็แต่งหญิงเต็มตัวเลย
ผมก็ยาวแล้วด้วย....  เลยค่อนข้างแปลกตาสำหรับเพื่อน

ไอ้พวกผู้ชายก็เข้ามากระลิ้มกระเหลี่ยกันใหญ่

ได้มาเอจเพื่อนๆแบบนี้ก็ทำให้รู้สึกคิดถึงภาพเก่าๆสมัยที่เรียนมอปลายด้วยกัน

คืนนั้นก็อบอวลไปด้วยภาพเก่าๆบรรยากาศเก่าๆ....


“ อย่ากินเยอะนะ... เดี๋ยวเมา ” ภีมหันมาพูดกับเราอย่างเป็นห่วง

“ ไม่เมาหรอกน่า...  ดูถูกกันไปได้ ” เราพูด

การมามีทติ้งกับเพื่อนๆในครั้งนี้  ทำให้เรากับภีมได้มาเจอได้พูดคุยกันอีกครั้ง

ตอนแรกเราก็ไม่ค่อยที่จะพูดคุยกับมันเท่าไหร่จนเพื่อนๆหลายคนเริ่มสงสัย
เราจึงพูดคุยกับมันปกติเพื่อไม่ให้ผิดสังเกต  เดียวจะเป็นเรื่อง

ทำให้ภีมใช้โอกาสนี้เข้ามาคุยเข้ามาอยู่ใกล้ๆเรามากขึ้น
ตลอดเวลาที่อยู่ในผับ  ภีมเหมือนจะจงใจมาอยู่ข้างๆเราตลอด
บางทีที่เราเจอเพื่อนเก่าที่เป็นเพื่อนผู้ชายที่มันไม่รู้จัก
มันก็มักจะมองหน้าเราด้วยความไม่พอใจ

เพราะเพื่อนที่เราไปเจอมันก็ค่อนข้างแปลกใจกับเรากันมากเพราะเราแต่งหญิงแล้ว
ซึ่งก็ไม่แปลกที่มันจะเข้ามากอดเข้ามาเล่นด้วย  หรือบางคนก็ถึงขนาดหอมแก้ม
แต่ก็ไม่มีใครที่เล่นหรือล่วงเกินเราจนเลยเถิด

แต่ภีมก็มักจะทำท่าไม่พอใจ  หรือบางทีถึงขนาดเดินมาตามหรือกันท่าด้วยท่าทางไม่พอใจ

แม้ว่าเราจะรำคาญมันอยู่บ้าง  แต่ในใจลึกๆบางทีก็รู้สึกดีที่มันแสดงท่าทีหึงหวง
ทั้งที่เรา...........................  ไม่ได้เป็นอะไรกัน


ในผับค่อนข้างเปิดแอร์เย็น  คงเพราะเรานั่งตรงที่แอร์มันตกพอดีด้วยก็เลยทำให้เราหนาว
ภีมเลยหันมาถามว่า

“ หนาวเหรอ? ”

“ อืม... แอร์มันตกตรงนี้พอดีอ่ะ ” เราพูด

“ อ่ะ... ” ภีมพูดพร้อมกับถอดแจ๊คเก๊ตที่มันสวมมาให้เรา

“ แกไม่หนาวเหรอ? ” เราถาม

“ เอาไปใส่เหอะ...  เดี๋ยวเค้าเต้นก็ร้อนแล้ว ” ภีมพูด

“ ขอบใจ ” เราพูดพร้อมกับรับแจ็คเก็ตมันมาใส่

เราไม่รู้ว่ามันจงใจรึป่าว....
เพราะเราได้กลิ่นน้ำหอมจากแจ็คเก็ตตัวนั้น
และมันเป็นกลิ่นน้ำหอมที่เราเคยซื้อให้มัน

“ อ่ะ... ฝากของด้วย ” ภีมพร้อมกับยืนโทรศัพท์กับกระเป๋าตังค์มาให้เรา

“ ใส่เสื้อเค้าไว้เลยนะ... ห้ามถอด.... ” ภีมพูดขณะที่เราเอาของที่มันฝากใส่ในกระเป๋าเสื้อ

“ ทำไมอ่ะ ? ” เราถาม

“ เออน่า... อย่าถอดแล้วกัน ”  ภีมพูด


ยิ่งดึกเพื่อนแต่ละคนก็ยิ่งเมายิ่งคึก...  แดนซ์กันกระจาย
แต่เรากินไปไม่มากเท่าไหร่เพราะต้องขับรถกลับ


และก็มาถึงช่วงเวลาสำคัญ....... การนับถอยหลังเข้าสู่ปีใหม่
เสียงคนในผับนับพร้อมๆกัน......

5



4



3



2




1



ทุกคนในร้านร้องเพลงวันปีใหม่พร้อมๆกัน....
และมีเสียงผู้คนโห่ร้องเซ็งเซ่.....
บ้างก็เอาดอกไม้ไฟมาจุดทำให้บรรยากาศวันนั้นเป็นวันที่น่าจดจำอีกวันนึง...

“ หวัดดีปีใหม่นะ..... ” ภีมพูดพร้อมกับขโมยหอมแก้มเราด้วยความรวดเร็วจนเราตั้งตัวไม่ทัน

เราหันไปมองหน้ามันด้วยความตกใจ
มันก็มองหน้าเราด้วยสายตาที่เราไม่รู้ว่ามันคิดอะไรอยู่ก่อนที่มันจะเดินออกไปรับโทรศัพท์

ซึ่งก็คงจะเป็นมะปราง.....

ก่อนที่จะแยกย้ายกันกลับก็มีการแลกอีเมลล์เบอร์โทรศัพท์เพื่อเอาไว้ติดต่อกัน

ตอนที่เราจะเดินมาที่รถเราก็เดินไปที่ภีมแล้วถอดแจ๊คเก็ตคืนให้มันพร้อมกับบอกมันว่า

“ สวัสดีปีใหม่นะ... ”

มันยิ้มให้เรา....

แต่ก่อนที่มันจะพูดอะไรก็มีเพื่อนเข้ามาคุยกับมันซะก่อน  เราก็เลยเดินแยกออกไปแล้วขับรถกลับบ้าน
หลังจากที่ไปล่ำลาเพื่อนๆอีกหลายคน...



*****************************************

งานมีทติ้งปีใหม่ในครั้งนั้น....

เป็นเหมือนการเริ่มต้นหนทางของความสัมพันธ์แบบเดิมๆอีกครั้ง...
รักของเราสามคนคล้ายว่าจะกลับเข้าสู่วังวนเดิมๆอีกครั้ง

เพราะหลังจากงานนั้นมาเราก็แอดเมลล์เพื่อนๆที่ได้มา
โดยที่ไม่ได้ดูว่าหนึ่งในเมลล์ที่เราแอดไว้เป็นเมลล์ของภีม

ทำให้ระหว่างเรากับภีมเกิดช่องทางที่จะติอต่อกันได้อีกครั้ง...

หลังจากงานมีทติ้งมา...
ภีมเข้ามาทักเราในเอ็มเอสเอ็นเสมอ

จนเรากับมันคุยกันเกือบทุกครั้งที่เราออนเอ็มพร้อมกัน

เราทั้งคู่ไม่ได้พูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นคราวนั้นอีกเลย
ต่างฝ่ายต่างก็รู้ว่ามันเป็นเรื่องที่เราทั้งสองคนไม่อยากจะจดจำ



ภีมก็เริ่มก้าวเข้ามาในชีวิตเราอีกครั้ง...
จากตอนแรกเพียงแค่การคุยผ่านเอ็มเอสเอ็น...  ก็เริ่มมาเป็นการคุยโทรศัพท์
แต่ก็ไม่บ่อยครั้งนักที่เราจะได้คุยโทรศัพท์กัน
เพราะเราไม่ได้โทรหามันเลย  จะมีก็แต่มันที่โทรมา
เราคุยกันเดือนนึงประมาณสองสามครั้ง


มันกับมะปรางก็ยังคงคบกันแม้ว่าจะมีการเลิกรากันหลายครั้ง
แต่ก็ยังกลับมาคบกันใหม่..

หลายครั้งที่ภีมโทรมาด้วยเพราะมีเรื่องที่จะปรึกษาเรา
หรือบางทีก็มีอะไรให้ช่วยเหลือ...
หรือบางทีมันก็โทรมาปรึกษาเราเรื่องมะปราง

เราก็ช่วยเหลือมันอย่างเต็มใจ...
และพยายามบอกตัวเองว่า...

ระหว่างเรากับมัน...................   แค่เพื่อนเท่านั้น



แต่อะไรหลายๆอย่างที่ภีมทำก็เหมือนกับตอกย้ำภาพความทรงจำเดิมๆอกมาอีกครั้ง

จนทำให้เราเริ่มใจอ่อนกับมัน..

ความสับสนมากมายก่อตัวขึ้นภายในใจเราอีกครั้ง.......




เวลาได้ช่วยทำให้เรื่องราวร้ายและอะไรหลายๆอย่างได้เบาบางลง

ความเจ็บช้ำครั้งนั้นที่เคยเกิดขึ้นกับเราจนเป็นแผลแหวะหวะ

เวลาก็ช่วยเยียวยาให้แผลนั้นหายแห้งสนิท....

แต่มันก็ปรากฏแผลเป็นไว้เตือนความทรงจำเมื่อครั้งนั้น....

ให้เรามิอาจจะลืม...............



###################################################

ตอนหน้าก็จะเป็นตอนจบแล้ว....

และก็จะมีบทส่งท้ายอีกนิดหน่อย.....

ขอบคุณทุกคนจริงๆสำหรับการติดตาม.....
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-06-2008 18:30:43 โดย OsTrich »

^^sky^^

  • บุคคลทั่วไป
จิ้มปอครั้งแรก อิอิ

ไม่ว่าจะลงเอยอย่างไร ก็เกลียดภีม 
คนที่เห็นแก่ตัว  รักแต่ตัวเอง  คนแบบนี้ไม่เหมาะที่จะรักใครหรอก
 :angry2:


ออฟไลน์ IZE

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4601
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-3
จะจบแล้วอะ

พรุ่งนี้วันเกิด  แวะมาอวยพร ก่อนล่วงหน้าแล้วกัน  ขอให้มีความสุขๆๆมากๆๆนะ

อะไรไม่ดีไม่น่าจดจำ  ก็ลืมๆๆมันไปมั้งก็ดีนะ  เผื่อบางทีจะทำให้เรามีความสุขขึ้น  ถึงจะไม่ทั้งหมด แต่เพียงแค่นิดหน่อย ก็เป็นสุขได้เหมือนกันๆๆ แบบว่าค่อยๆๆสะสม  แล้วสักวันมันก็จะเต็มของมันเอง

TaEnIaE_CoLi

  • บุคคลทั่วไป
ตอนจบจะเป็นงัยน๊า อยากรู้จัง

เป็นกะลังใจให้ปอนะ

แล้วก็สุขสันต์วันเกิดด้วยคับ

วันที่ 24 ป่าวอ่ะ

ออฟไลน์ SoN

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2965
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +123/-15

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
น้องปอเพลงเพราะมากๆๆๆๆๆ   

ความหมายมันซึมลึกเข้าไปในความรู้สึกได้ดี  แต่แค่น้ำตาซึมเท่านั้นนะ  :m13:

ในเมื่อตอนหน้าก็จะเป็นตอนจบแล้ว  เพราะฉะนั้นขอไม่เม้นท์อะไรให้เลยยยนะ 

เอาเป็นว่าพี่ยอมรับตอนจบเรื่อง...เค้ากะแกทั้งภาค 1และ 2 อย่างดุษฎีและเคารพในความรักครั้งนี้ด้วยอีกคนหนึ่ง
(ทำไม? พิมพ์ข้อความนี้แล้วน้ำตามันไหลอ่ะ)

*** :m23: ไม่เอา! เลิกเศร้าแระ 

ขออวยพรวันเกิดให้น้องปอที่รักคนนี้ มีความสุขทั้งกายและใจ  มีหน้าที่การงานที่ดีเพื่ออนาคตที่แจ่มใสข้างหน้า

:pig4: :pig4: :L2: :L1: :c5: :กอด1: :pig4: :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






christiyaturnm

  • บุคคลทั่วไป
สุขสันต์วันเกิดนะครับ....

ยังไงก็ขอให้พบเจอสิ่งดีๆ
และคนดีๆเข้ามาในชีวิตนะครับ :a:
 :b:

a22a

  • บุคคลทั่วไป
สุขสันต์วันเกิดนะคับ .....ขอให้คุณ ปอพบรักแท้นะคับขอให้เจอแต่สิ่งๆดีๆในชีวิตและหน้าทีการงานนะคับ สิ่งไหนที่ผ่านมามีแต่ความชอกซ้ำก็จำมันคับ ทิ้งมันไปให้หมด เริ่มชีวิตใหม่นะคับ
        HAPPY  BRITH   DAY   :L2: :L2: :L1:

anston

  • บุคคลทั่วไป
 :L2: :HBD5: :L2:
น้องปอด้วยคน..
ก็ขอให้พบเจอกับความรักที่ทำให้มีความสุขจริงๆเสียที..
อะไรไม่ดีก็อย่าไปจำมัน..
แล้วก็ห่างๆภีมไว้อย่างนี้อ่ะดีแล้ว.. :pig3:

ifwedo

  • บุคคลทั่วไป
ก่อนอื่น แฮปปี้เบิร์ดเดย์ให้ปอด้วยนะขอให้สมหวังทุกสิ่งเลย โดยเฉพาะความรัก
เราไม่รู้เรื่องนี้จะจบแบบแฮปปี้ เศร้า รึว่ายังคาราคาซังแบบนี้ แต่ก็จะรออ่านนะ ยังไงขอให้มีความสุขกับสิ่งที่เลือกลงไปน๊าๆ

yume

  • บุคคลทั่วไป
ขอให้มีความสุขมากๆนะค่ะ คิด และทำอะไรก็ให้สมหวังทุกอย่างนะค่ะ  :pig3:



                                     :b:

subaru

  • บุคคลทั่วไป
เข้ามาอวยพรให้ปอคะ :L2:HBDมีความสุขมาก ๆ  :L1: :L2:

ออฟไลน์ imon

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 902
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-10




http://media.imeem.com/m/KVcvaOS0nx/aus=false

เอาเพลงมามอบเป็นของขวัญวันเกิดครับ (เพลงเศร้านะครับ)

ชื่อเพลง รักไม่ได้เกลียดไม่ลง - เอ๊ะ ศศิกานต์ (กดฟังเอาเองนะครับไม่อยากตั้งออโต้ เด๋วคนอื่นรำคาญ)
ก่อนหน้านี้ชื่อเพลง คนไกลๆๆ ของ เจ้คิ้ม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-06-2008 12:49:30 โดย uno »

ออฟไลน์ nana

  • 아주마 애기 두명 ㅋㅋ
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2759
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-2
         :HBD2:

ขอให้มีความสุขมากๆนะค่ะ :กอด1:

OT

  • บุคคลทั่วไป
ทีหลังใช้ ฮีลูดอยด์ นะ มันแก้แผลเป็นได้ 

จะได้ไม่ต้องมาเห็นอะไรที่มันสะกิดใจ

สะกิดไปสะกิดมา...หวั่นไหวอีกหล่ะ

จะจบจริง ๆ หรอเนี่ยยย   :o  ขอภาคต่อด้วยนะ


 :a:  ..มีความสุขมาก ๆ น๊า..  :a:

gift_deb

  • บุคคลทั่วไป
คนอย่างภีมคงเป็นคนที่ไม่มีความสุข ถึงมีก็เป็นสุขปลอมๆ กับการหลอกตัวเองไปวันๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






Princeton_Girl

  • บุคคลทั่วไป
 :b:

มีความสุขมากๆนะจ้ะ

ออฟไลน์ OsTrich

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 303
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-0
ขอบคุณคนอ่านทูกคนเลยที่อวยพรวันเกิดให้เรา

พรทุกข้อที่ส่งมาก็ขอให้พวกคูณได้รับพรเหล่านั้นด้วยเช่นกัน...

คุณ uno  เพลงเพราะอีกแล้ว  ขอบคุณมาก

นี่ก็เป็นตอนจบแล้ว....

แต่จะมีบทส่งท้ายมาลงให้อีก...

ขอบคุณมากๆสำหรับการติดตามอ่านมาตั้งแต่ภาคแรก...


******************************

http://media.imeem.com/m/gwYXT5ey2I


อวัยวะทุกส่วนของมนุษย์ได้ถูกกำหนดหน้าที่อย่างชัดเจนตั้งแต่ครั้งที่ถูกสร้างขึ้นมา

แต่มีอวัยวะอยู่สองส่วนที่ตัวเราเองเท่านั้นที่จะเป็นคนกำหนดเองว่าจะให้มันทำอะไร

รักใคร......

เกลียดใคร........

คิดถึงใคร........

ไม่คิดถึงใคร...............

นั่นคือ..........................

สมองและหัวใจ




เรื่องของความรัก

หากต้องเลือกที่จะอยู่หรือไป

จะใช้อะไรเป็นตัวตัดสิน

ระหว่างเหตุผลกับความรู้สึก




ถ้าการมีความรักคือการทำบททดสอบ

จะเลือกเรียนรู้ความรักด้วยอะไร

ระหว่าง

..............สมอง..............                            เรียนรู้โดยใช้เหตุผล

                            .............จิตใจ..........                                   เรียนรู้โดยใช้ความรู้สึก





---------------- #### เรื่อง  “ รักของเราสามคน ” (ฉบับเข้มข้น)   ตอนจบ  #### ----------------


จิตใจเริ่มเกิดความสับสนอีกครั้ง

เมื่อภีมค่อยๆก้าวเข้ามาใกล้เราเรื่อยๆ

ยิ่งนับวันมันยิ่งทำอะไรมากขึ้นคล้ายจะพยายามดึงเอาความรู้สึกเดิมๆที่เรามีต่อมันออกมาอีกครั้ง

ภีมยังคงเชื่อว่าในใจเรายังคงมีมันอยู่  มันจึงพยายามดึงเอาความทรงจำเก่าๆเหล่านั้นออกมา

หนึ่ง.... 

สอง.... 

สาม.....

..... 

...........

ความทรงจำแต่ละอย่างถูกดึงออกมาทีละอันสองอัน

จนเหมือนมันจะกลับไปสู่วังวนเดิมๆอีกครั้ง

ความรักของเราสามคน.......

เราสับสนไมรู้ว่าจะต้องเลือกเชื่ออะไรดีระหว่าง.....

สมอง....  หรือ  จิตใจ....

เหตุผล....  หรือ  ความรู้สึก

ความสับสนที่เกิดขึ้นก่อตัวเป็นความอัดอั้นในใจ
คล้ายคนตาบอดที่คลำหาทางเดิน



28  กรกฎาคม  2550 ……. 


“ แก... เค้าถามอะไรแกอย่างนึงดิ ” เราพูดขณะที่อยู่ในอ้อมกอดของภีมในสภาพเปลือยเปล่าทั้งคู่บนเตียงแสนนุ่ม

“ ได้...  ตอบได้ก็จะตอบ ” ภีมพูดเสียงนุ่มก่อนที่จะจูบเราเบาๆที่หน้าผาก

“ แกกับมะปรางเคยมีอะไรกันรึยัง? ” เราถามพร้อมกับแอบถอนหายใจเบาๆเพราะกลัวคำตอบ

“ มีแล้ว..... ” ภีมพูดด้วยเสียงเบาคล้ายกลัวความรู้สึกของเรา

“ ตั้งแต่เมื่อไหร่... ” เราถามพร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมาอาบสองแก้ม

“ ตั้งแต่....................... ”




“ เฮ้อออ.................. ” เราถอนหายใจเสียงดังหลังจากที่สะดุ้งตื่นขึ้นมาจากความฝันด้วยสภาพเหงื่อโทรมทั้งตัว

มองดูนาฬิกาบอกเวลาตีสี่

“ สับสนขนาดเอาไปฝันเลยเหรอว้ะเนี่ย ? ” เราบ่นกับตัวเองเบาๆและลุกขึ้นไปกินน้ำตัวตู้เย็น

หลังจากปีใหม่มาจนถึงเหตุการณ์ที่เรากำลังเล่านี้ก็เป็นเวลาประมาณเจ็ดเดือน
เจ็ดเดือนที่ผ่านมานี้มันเริ่มค่อยๆเข้ามาหาเรามากขึ้น
จนเราเริ่มสับสนและเริ่มใจอ่อนอีก แม้ว่าจะคิดกับมันแค่เพื่อน
แต่ยิ่งนับวัน  ความรู้สึกเราก็ยิ่งจะกลับไปเป็นเหมือนเดิม


“ นี่ขนาดนอนเปิดแอร์ยังเหงื่อท่วมขนาดนี้เลยเหรอ? ” เราบ่นกับตัวเองอีกครั้งก่อนที่จะยกน้ำขึ้นดื่ม

เรากลับขึ้นมานอนบนเตียงหลังจากที่กินน้ำเสร็จ
ภาพเหตุการณ์ความฝันเมื่อครู่มันเหมือนความจริงมาก
เราแอบคิดว่าหรือแม่จะมาดลใจเรา
เพราะแม่เราเสียไปตั้งแต่ตอนที่เราอยู่มอสองและทุกครั้งที่เรามีปัญหาเราก็ชอบนึกถึงแม่
หรือบางทีก็พูดให้แม่ฟัง

บนโต๊ะทำงานเราจะมีไดอารี่ของแม่วางอยู่ด้วย
มันเป็นไดอารี่ที่แม่รวบรวมเอาจดหมายที่แม่กับพ่อส่งจีบกันมาเขียนไว้ในนั้น

ยิ่งตอนช่วงที่เราสับสนกับความรู้สึกตัวเองว่าจะกลับไปหาภีมอีกรึป่าว
เรายิ่งคุยกับแม่บ่อยมากขึ้น

ช่วงที่เรากำลังคิดเรื่องความฝันอยู่นั้นจู่ๆไดอารี่ของแม่ที่เราเปิดหน้าที่มีรูปแม่แล้วตั้งไว้กับโต๊ะมันก็ล้มลงมา
ตอนนั้นเราตกใจมากๆขนลุกซู่
เราเลยแน่ใจว่าความฝันที่เราฝันเมื่อครู่ต้องเป็นแม่มาดลใจแน่ๆ

เราตัดสินใจโทรไปหาภีมในทันที

“ ฮัลโหล...  ปอเหรอ ? ” ภีมพูดด้วยเสียงดีใจ

“ อืม... ” เราพูด

“ โทรหาเค้ามีไรรึป่าว? ” ภีมยังคงพูดด้วยเสียงที่ดีใจ

“ มีเรื่องจะคุยด้วยหนะ ” เราเริ่มพูดเข้าเรื่อง

“ เรื่องอะไรล่ะ ? ” ภีมถามด้วยความอยากรู้

“  สัญญาก่อนแล้วกันว่าคืนนี้เราจะคุยกันแต่เรื่องจริง...  จะไม่มีการโกหกเด็ดขาด ” เราพูด

“ อืม... สะ... สัญญา ” ภีมพูดอย่างไม่ค่อยเต็มปาก

“ โอเค ” เราพูด

“ มีอะไรก็ถามมาสิ ” ภีมพูด

“ แกกับมะปรางเคยมีอะไรกับรึยัง? ” แม้ว่าเราจะกลัวคำตอบแต่ในใจมันก็ต้องการจะรู้

“ แกจะอยากรู้ไปทำไม ? ” ภีมถามเสียงเครียด

“ ตอนที่เราเริ่มกลับมาคุยกันแรกๆ  เค้าคิดกับแกแค่เพื่อน  แต่เค้าก็ยอมรับว่า.... ยิ่งนับวันเค้าก็ยิ่งจะกลับไปรู้สึกแบบเดิมๆ  จนเกือบจะรักแกแบบเดิมอีกครั้ง  เค้าก็เลยอยากจะรู้ว่าแกกับมะปรางลึกซึ้งกันแค่ไหน ”
เราพูดไปตามที่เราคิดในตอนนั้น

“ อืม.......................... ” ภีมพูดเบาๆก่อนที่จะเงียบไป

“ สัญญากันแล้วนะว่าจะพูดความจริง ” เราพูดออกไปด้วยใจสั่นๆ

เราได้ยินภีมถอนหายใจยาวๆก่อนที่จะพูดว่า

“ อืม.... เคยแล้ว   ” ภีมพูดเสียงเครียด

“ อะ........... อืม ” เราพูดเสียงสั่น

ตอนนั้นรู้สึกว่าใจมันเจ็บอีกครั้ง
น้ำตาเราค่อยๆไหลออกมาจนอาบทั้งสองแก้ม
เราร้องไห้สะอื้นจนตัวสั่น

“ ตั้งแต่เมื่อไหร่ ? ” เราถามทั้งที่เสียงมันสั่นและน้ำตาก็ยังไหล

“ ปีสองเทอมหนึ่ง ” ภีมพูดเสียงเครียด

“ มีอะไรกันหลายครั้งแล้วใช่มั้ย ? ” เรากลั้นใจถามออกไปทั้งที่ใจยังคงสั่นไหว

“ อะ..... อืม.... ” ภีมพูดเสียงสั่นๆ

“ แล้วทำไมแกไม่บอกเค้า ” เราถาม   ทั้งที่ยิ่งถามก็ยิ่งเจ็บ

“ เค้ากลัวว่าแกจะไม่สบายใจ  เค้ายอมรับนะ.... ว่าเค้าอึดอัดมากที่เค้ากำลังปิดบังอะไรแกอยู่  แต่เค้าก็ไม่กล้าบอกแก ” ภีมพูด

“ แกจะทำอะไรแกเคยนึกถึงความรู้สึกเค้าบ้างมั้ย? ” เราถามด้วยเสียงปนสะอื้นอย่างตัดพ้อ

“ เค้าขอโทษ.. ” ภีมพูด

“ แกเก็บเอาไว้เหอะ....  เค้าไปต้องการ ” เราพูด

“  แกก็น่าจะเข้าใจนะ.... เรื่องแบบนี้มันธรรมดาจะตาย  เค้ากับมะปรางคบกันตั้งปีนึงกว่าจะมีไรกัน  คู่อื่นเค้าคบกันไม่กี่เดือนก็มีอะไรกันแล้ว ” ภีมพยายามที่จะอธิบายให้เราฟัง

“ เค้าคงเข้าใจอะไรผิดไปเองแหละ.... แกคงไม่ใช่คนที่สับสนในตัวเอง... แกเลือกได้ตั้งนานแล้วต่างหาก  เค้ามันโง่เองที่ฝันลมแร้งๆว่าแกจะเลือกเค้า ”  เราพูดด้วยท่าทางประชด

“ อย่าเพิ่งพูดแบบนั้นดิ... ที่เค้ามีไรกับมะปรางไม่ได้หมายความว่าเค้าเลือกมะปรางซะหน่อย  เค้ากับแกก็เคยมีอะไรกัน ” ภีมพูด

“ พอเหอะ....  พอกันที   แกไม่ต้องพูดอะไรแล้ว ” เราพูดอย่างอ่อนแรง

“ แล้วตกลงยังไง? ” ภีมถามอย่างไม่เข้าใจ

“ เค้าขอเวลาคิดสักพักแล้วกัน.... ” เราพูด

“ นานเท่าไหร่ ? ” ภีมถาม

“ ถ้าภายในหนึ่งเดือนเค้ายังไม่โทรไปหาแก  แสดงว่าเราต่างคนต่างอยู่  ไม่ต้องมาเป็นเพื่อนมารู้จักกันอีก ”
เราพูดแล้วก็วางสายไปเลย


ทันทีที่วางสายเราก็ปล่อยโฮออกมาอีกครั้ง

แม่.... หนูทำอะไรผิด

หนูเคยไปทำอะไรใครเค้าไว้

ทำไมหนูถึงต้องมาเจอเรื่องแย่ๆแบบนี้ด้วย

ถ้าหนูเคยไปทำใครไว้หนูขอโทษ

เราพูดพร้อมกับยกมือไหว้แล้วก็ร้องไห้ออกมาจนตัวโยน

ตอนที่เราร้องไห้ฟูมฟายอยู่ตอนนั้นก็มีเบอร์แปลกโทรมาหาเรา
เราเลยพยายามทำเสียงให้เป็นปกติก่อนที่จะกดรับสาย

“ ฮัลโหล... ” เราพูด

“ แก... เค้าเองนะ  ออกมาคุยกันหน่อยสิ ” ภีมพูดเสียงเรียบ

“ จะคุยอะไร ? ” เราพูดเสียงแข็ง  เพราะว่าไม่อยากจะเจอและไม่อยากจะคุยกับมันตอนนั้น

“ ออกมาแล้วกัน.... เค้าขอร้อง ” ภีมพูดด้วยน้ำเสียงขอร้องจริงๆ

“ ที่ไหน ? ” เราถาม

“ ที่เดิม   ” ภีมพูดก่อนที่จะวางสายไป

ที่เดิมที่เราหมายถึงก็คือที่โต๊ะหินอ่อนใกล้ๆกับหน้าหอมัน  เพราะเป็นที่ส่วนตัวและค่อนข้างปลอดคน

เราเดินไปล้างหน้าในห้องน้ำและพยายามทำตัวให้เข้มแข็งมากที่สุด
แม้ในใจมันเจ็บจนเกินจะทนแล้ว  แต่เราก็ต้องกลั้นมันเอาไว้
เราไม่อยากจะร้องไห้ต่อหน้ามันอีก

“ มีอะไรล่ะ ? ” เราพูดทันทีที่ไปถึง

“ นั่งก่อนดิ ” ภีมพูด

“ อ่ะ... มีไรก็ว่ามา ”  เราพูดหลังจากที่นั่งลงตรงข้ามมัน

“ เค้าขออะไรแกอย่างนึงได้มั้ย? ” เราพูดด้วยหน้าจริงจัง  เรามองหน้ามันด้วยความไม่เข้าใจทำให้เห็นว่ามันก็ตาแดงๆเหมือนกัน

“  อะไร? ” เราถามด้วยหน้างงๆ

 “ แกบอกมาสิ  ว่าได้มั้ย ? ” ภีมพูดด้วยสีหน้าอ้อนวอน

“ จะขออะไรก็พูดมาก่อนดิ จะได้รู้ว่าได้รึป่าว? ” เราพูด

“ แก....  อยู่ข้างๆเค้าแบบนี้ตลอดไปได้รึป่าว ? ” ภีมพูดแบบไม่เต็มเสียงเท่าไหร่

“ แกหมายความว่าไง ? ” เราถามอย่างไม่เข้าใจว่ามันคิดอะไรอยู่

“ ก็ต่อไปถ้าเค้าต้องแต่งงานกับใคร...  เค้าขอให้แกยังอยู่ข้างๆเค้าแบบนี้ได้มั้ย?  เค้าจะหาเวลามาอยู่กับแก ”
ภีมพูดด้วยสีหน้าแบบขอร้อง

“  คืออะไร...  แกต้องแต่งงานแล้วเหรอ? ” เราถามอย่างนึกเอะใจสิ่งที่มันพูด

“ ก็คงหลังเรียนจบ ” ภีมพูดอย่างเป็นกังวล

“ แกมีอะไรปิดบังเค้า ” เราถามเสียงเย็น   เรารู้จักภีมมาแปดปีมันพูดแบบนี้ทำไมเราจะไม่รู้ว่ามันจะต้องมีอะไรที่ปิดบังเราอยู่

“ ....................................... ” ภีมเงียบไม่พูด จนเราเริ่มโมโห

“ ไม่บอกไม่เป็นไร....  แต่เค้าตอบได้เลยว่าไม่   ถ้าเป็นเมื่อก่อนเค้าคงดีใจจนเนื้อเต้นที่แกมาพูดแบบนี้   แต่ตอนนี้และหลังจากนี้จะไม่มีอีกแล้ว ” เราพูดเสียงเรียบพร้อมกับลุกขึ้นเดินออกมา

“ แกหมายความว่าไง? ” ภีมถามอย่างตกใจพร้อมกับลุกขึ้นมาดึงแขนเราไว้

“ เราต่างคนต่างอยู่เหอะ...  ที่ผ่านมาเค้าเจ็บพอแล้ว  เจ็บจนจะทนไม่ไหวแล้วแกรู้มั้ย  ? ” เราพูดเสียงเย็นพร้อมกับพยายามข่มความรู้สึกเสียใจกับทุกเรื่องที่เคยผ่านมาที่มันกำลังลอยมาในหัวสมอง

“ แต่เค้ารักแกนะ... ” ภีมพูดเสียงดังจนเราต้องหันกลับไปมองหน้ามันอีกครั้ง

“ แกบอกว่ารักเค้า..  ทั้งที่จริงๆแกรักตัวเองมากกว่าเค้าซะอีก ” เราพูดอย่างเหลืออด

“ เค้ารักแกจริงๆนะ ” ภีมพูดย้ำอีกครั้ง

“ รักเค้า.....  คนรักกันเค้าทำกันแบบนี้เหรอ?  แกคิดอะไรอยู่อ่ะภีม... แล้วมะปรางล่ะ ? ” เราพูดอย่างเหลืออด

“  เค้าไม่ได้รักมะปราง....  เค้ายอมรับว่าเค้าเคยรัก.....  แต่ตอนนี้ไม่ใช่ ” ภีมพูดเสียงเครียด

“ แล้วแกจะยังคบมะปรางทำไม....  แกอย่ามาหลอกเค้าอีกเลย....  เค้าไหว้ล่ะ   ”  เราพูดพร้อมกับยกมือไหว้มัน

“   เค้าขอโทษ........ ” ภีมพูดพร้อมกับคุกเข่าลงตรงหน้าเราแล้วก็ก้มหน้า

ตอนนั้นเรางงมากว่าทำไมมันถึงยอมลดศักดิ์ศรีตัวเองจนถึงขนาดคุกเข่าขอโทษเราตรงหน้า

ภีมพูดออกมาหลังจากที่เงียบไปสักพักว่า

“ เค้าทำมะปรางท้อง....  ” ภีมพูดเสียงสั่นแล้วก็เอามือเช็ดน้ำตาที่ไหลออกมา

ทันทีที่เราได้ฟังตอนนั้นหน้าเราชาไปหมดเหมือนโดนตบหน้าฉาดใหญ่
สมองตื้อคล้ายกับโดนท่อนซุงฟาดเข้าที่หัว
ใจเรามันสั่นระริกแต่ก็ไม่มีน้ำตาไหลออกมาสักหยด

“ ตั้งแต่เมื่อไหร่ ? ” เราถามเสียงเรียบ

“ เทอมที่แล้ว.... ” ภีมพูดด้วยเสียงสั่นเครือ

ตอนนั้นเราเข้าใจทันที......
ว่าเรื่องที่ยูพูดตอนเมาวันนั้นหมายความว่าไง...
และทำไมภีมต้องพามะปรางไปแนะนำกับพ่อแม่มัน

“ แล้วทำไมไม่ป้องกัน ” เราถามเสียงเรียบเช่นเดิม

“ เค้าไม่คิดว่ามันจะท้อง.....  เค้าผิดเองแหละ ” ภีมยิ่งพูดก็ยิ่งร้องไห้

“ อย่างนี้ใช่มั้ย?  แกถึงต้องพามะปรางไปแนะนำให้ที่บ้านรู้จัก ” เราพูด

“ อืม....  ตอนแรกก็คิดว่าไม่ท้องหรอกแต่พอไปตรวจดีๆอีกทีถึงรู้ว่าท้อง  เค้าไม่รู้ว่าจะทำยังไง  บอกใครก็ไม่กล้าบอก  ที่บ้านมะปรางก็ดุมากด้วย..  มะปรางก็เลยตัดสินใจบอกน้าผู้หญิงที่มันสนิทที่สุด  เค้าถึงพาไปทำแท้ง ”
ภีมพูดปนสะอื้น

“ ทำไมไม่เอาเด็กไว้ ? ” เราถามเสียงเย็น

“ น้าเค้าอยากให้มะปรางเรียนจบ  ก็เลยเอาเด็กออก  แต่น้ามะปรางก็บอกเค้าว่ายังไงเค้ากับมะปรางก็เหมือนผัวเมียกันแล้ว  ยังไงเค้าก็ห้ามไปมีคนอื่นอีกเด็ดขาด  เรียนจบเมื่อไหร่ก็จะต้องแต่งงานกัน ” ภีมพูด

“ พ่อแม่แกรู้รึป่าว? ” เราถาม

“ รู้... เพราะน้ามะปรางไปคุยกับพ่อแม่เค้าที่บ้าน ” ภีมพูด

“ ถ้าแกไม่บอกเค้าวันนี้...  แกจะบอกเค้าเมื่อไหร่ ? ” เราถาม

“ เค้าจะบอกแกตั้งแต่วันที่เค้าไปนั่งที่หอศิลป์ที่โทรให้แกออกมาหนะ...  แต่แล้วเค้าก็ไม่กล้าบอก ”
ภีมพูด

“ งั้นเค้าก็ยินดีกับแกด้วยนะ...  ที่ได้คนดีๆอย่างมะปราง ” เราพูดออกมาจากใจที่แม้ว่าจะเจ็บ แล้วก็เดินออกมาจากมันที่คุกเข่าอยู่

“  แก.. เค้าขอโทษ.... ” ภีมพูดพร้อมกับวิ่งมาหาเราแล้วกอดเรา

“ ปล่อย.. ” เราพูดเสียงเรียบ

“ เค้ารักแกนะ....  เค้ารู้แล้ว...  เค้ารู้แล้วว่าเค้ารักใคร ” ภีมพูดด้วยเสียงสั่นๆคล้ายจะร้องไห้ออกมาอีกครั้ง

“ แกปล่อยเค้าไปมีชีวิตของเค้าเองเหอะ.... ” เราพูด

“  คงจะเป็นเวรกรรมที่เค้าเคยทำกับแกไว้.....  วันนี้เค้ารู้แล้วว่ามันทรมานขนาดไหน..... คงจะทรมานไปตลอดชีวิต ”  ภีมพูดเหมือนสมเพชตัวเอง

“ เลิกคิดแบบนี้เหอะ...  แกดีกับคนที่เป็นแม่ของลูกแกจะดีกว่า...” เราพูดเสียงเย็นก่อนที่จะดึงมือมันที่กอดเราอยู่ออก

“ ชาตินี้เราคงไม่ได้คู่กัน...  แต่เรามาสัญญากันได้ป่าวว่าชาติหน้าเราจะเกิดมาคู่กัน ” ภีมพูด

เราหันไปมองหน้ามันอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง
เราไม่คิดว่ามันจะรู้สึกอะไรกับเรามากมายขนาดนี้
แต่ตอนนี้มันก็สายเกินไปแล้ว

“ อย่าเลย....  ถ้าเกิดเป็นคนแล้วต้องมาคู่กับแก... เค้าขอเลือกเกิดเป็นสัตว์ดีกว่า ” เราพูดพร้อมกับเดินออกมาจากมัน

เราไม่ร้องไห้......

ไม่มีน้ำตาไหลออกมาสักหยด....

หัวใจมันคงด้านชาไปหมดแล้ว...

แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราไม่เสียใจ.....

น้ำตามันคงถูกใช้จนหมดแล้วละมั้ง...  เราถึงไม่ร้องไห้

เรื่องที่เพิ่งได้ยิน...  มันเจ็บ.....

เจ็บกว่าทุกครั้ง....

และขอเป็นครั้งสุดท้ายที่จะเจ็บแบบนี้อีก....


*******************************




หากเปรียบความรักเป็นบ้าน

คนสองคนรักกันก็เหมือนการช่วยกันสร้างบ้านขึ้นมาหลังนึงจนเสร็จสมบูรณ์

คนรักกันทั้งสองคนก็อยู่บ้านหลังนั้นด้วยกันอย่างมีความสุข

แต่แล้ววันนึงใครอีกคนก็พาคนที่สามเค้ามาอยู่บ้านด้วยกัน

กลายเป็นบ้านของเราสามคน

ทุกสิ่งทุกอย่างที่เคยใช้ด้วยกันก็ต้องมีใครอีกคนนึงเข้ามาใช้

เตียงนอนที่เคยนอนกันแค่สองคนก็กลายเป็นสาม

จนทำให้ที่นอนที่เคยสบายกลายเป็นอึดอัด

วันนึงหนึ่งในคนที่เคยช่วยสร้างบ้านถูกไล่ออกมานอนนอกบ้าน

คนที่ถูกไล่ออกมาไม่รู้จะไปนอนที่ไหน

ฝนก็ตก  ฟ้าก็ร้อง  เดินตากฝนหาที่นอนจนตัวหนาวสั่นไปทั้งตัว

มองดูบ้านหลังอื่นเค้าก็มีเจ้าของกันหมดแล้ว

ก็เลยตัดสินใจซื้อของที่จะทำบ้านของตัวเอง

แต่บ้านหลังใหม่สร้างยังไม่ทันเสร็จ  เค้าก็ถูกเรียกให้กลับเข้าไปอยู่บ้านหลังเก่าอีกครั้ง

ถึงแม้ว่าจะอึดอัดแต่ก็อยากอยู่  เพราะการสร้างบ้านหลังใหม่เพียงลำพังมันคงเหนื่อยกว่า

เหตุการณ์เป็นเช่นนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า

เดี๋ยวโดนไล่ออกมาเดี๋ยวโดนเรียกกลับเข้าไป

จนมาวันนึงเค้าก็โดนไล่ออกมาอีกครั้ง

เค้าคนนั้นเดินไปดูที่บ้านของตัวเองที่สร้างยังไม่ทันเสร็จดี  เพื่อหวังจะหาที่ซุกหัวนอน

แต่ในขณะที่เค้าหลับอยู่ในบ้านหลังใหม่นั้น

เค้าก็ถูกเรียกให้กลับไปอยู่บ้านหลังเก่าอีกครั้ง

แต่คราวนี้เค้าค่อนข้างลังเลใจว่าจะกลับเข้าไปอีกดีมั้ย

เพราะกลัวว่าจะโดนไล่ออกมาอีก

เค้าหันกลับมามองบ้านของตัวเอง

แม้ว่าบ้านจะสร้างยังไม่ทันเสร็จดี

แต่มันก็พอมีกำแพงมีหลังคาที่พอคุ้มแดดคุ้มฝนได้

เค้าเลยหันไปบอกคนที่มาเรียกเค้าว่า

“ เราไม่ไปหรอก....   เรามีบ้านของเราแล้ว   แม้ว่าจะต้องอยู่เพียงลำพังแต่เราอยู่บ้านของตัวเองดีกว่า  ”


..................... หันกลับมารักตัวเองดีกว่าถ้าหากเรารักคนที่เค้ารักตัวเองมากกว่าเรา ......................

############################################

วันนั้นพอเรากลับมาถึงห้อง

เราก็เก็บของทุกสิ่งทุกอย่างที่ภีมเคยให้เรา

รูปมันทุกรูปที่เรามี

ทุกอย่างที่เกี่ยวกับมันถูกเราเผาทิ้งจนหมด

แม้แต่หนังเกาหลีเรื่องนั้นที่มันให้เราดู

เราตั้งใจไม่ดูตอนจบเพราะกลัวว่าจะรับไม่ได้

แต่มาตอนนั้นถึงแม้ว่าเราจะยังไม่ได้ดูตอนจบ

แต่ชีวิตจริงมันจบแล้ว  ก็เลยไม่มีความจำเป็นที่ต้องดูตอนจบของหนังเรื่องนั้นอีก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-06-2008 18:56:13 โดย OsTrich »

choook

  • บุคคลทั่วไป
ดีแล้วล่ะ  เลิกมันไปซะได้ก็ดี 
ดีกว่าเป็นแบบเดิม

ออฟไลน์ CMYK

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
สู้ต่อไปเด้อ.... :a2:
 :เฮ้อ:

vvoonsen

  • บุคคลทั่วไป
สู้ๆนะคะ คุณปอ

TaEnIaE_CoLi

  • บุคคลทั่วไป
ไม่รู้จะอธิบายความรู้สึกว่ายังงัย

แต่รู้สึกเหมือนหักดิบยังงัยก็ไม่รู้

ปอคงเจ็บน่าดูเลยอ่ะ

สู้ๆนะ

ตอนนี้หายยังเอ่ย

^^sky^^

  • บุคคลทั่วไป
เห็นไหม คนเห็นแก่ตัว มันก็คือคนเห็นแก่ตัววันยันค่ำคับ
เกลียดมันๆ
 :เตะ1:
ขอให้ต่อไป จงมีแต่คนดีๆ เข้ามาในชีวิตปอน่ะ

และ ปล สุขสันวันเกิดคับ  มีความสุขมากๆ รักตัวเอง รักคนรอบข้างที่รักปอน่ะคับ
ในโลกกว้างยังมีคนที่รักเรา รอเรา ห่วงเราอีกมากมาย หวังว่าปอจะได้พบรักแท้ในเร็ววันคับ
 :m1:

gift_deb

  • บุคคลทั่วไป
ดีมากค่ะปอ ที่ตัดสินใจทำแบบนั้น เราก็ไม่รู้ว่าภีมมันรักปอจริงหรือเปล่า คนรักกันเค้าคงจะไม่ทดสอบความรู้สึกของคนที่รักกันหรอกค่ะ ภีมทำเกินไปแล้ว คิดว่าปอคงเป็นของตาย กลับมาหาตอนไหนก็ได้ ตัวเองไปเอากับผู้หญิง แล้วท้อง ถึงจะคิดได้ว่า ปอคือคนที่ภีมรัก แล้วถ้ามะปรางไม่ท้องล่ะ จะรู้ไหมว่ารักใครกันแน่ มันคงเป็นแค่ความใคร่ชั่ววูบของผู้ชายเลวๆ คนนึง


สุดท้ายก็ขอให้ปอเจอคนที่ดีเร็วๆ นะคะ

sleepless

  • บุคคลทั่วไป


ขนาดอ่านเฉยๆยังเจ็บเลย

ตัวคุณปอเองคงเจ็บกว่าหลายเท่า

เป็นกำลังใจให้เจอแต่เรื่องดีๆนะคะ
หมดทุกข์หมดโศกซะที :m1:

subaru

  • บุคคลทั่วไป

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด