สำหรับเม้นที่เป็นห่วงความรู้สึกเรา......
ต้อนนี้เราก็แฮปปี้ดี.. สำหรับเรื่องแย่ๆที่ผ่านมามันก็กลายเป็นบทเรียนเราหมดแล้ว
บางเรื่องยังนึกขำตัวเองเลยที่เคยทำอะไรแบบนั้น...
ส่วนคนที่อยากจะรู้ว่าภีมมันมีเหตุผลอะไรที่ทำแบบนี้...
อีกไม่นานหรอก... จะได้รู้กัน...
ทุกความรู้สึกที่พวกคุณระบายออกมา....
เต็มที่ได้เลยนะ... ไม่ต้องเกรงใจเราหรอก...
ดีซะอีก... เราจะได้เรียนรู้อะไรๆจากที่พวกคุณแสดงออกมาด้วยก็ได้...
หลายๆอย่างที่พวกคุณแสดงความรู้สึกออกมามันทำให้เราได้ข้อคิดไปด้วยเหมือนกันนะ...
ขอบคุณอีกครั้งสำหรับการติดตามมาตลอดอย่างเหนียวแน่น.....
เฮ้ออออออออ....
พิมสองตอนนี้แล้วร้องไห้ไปซะสองสามรอบ......
แต่ก็แข็งใจจนพิมเสร็จ.....
พิมถึงเช้าเลยวันนี้....
เราเลยเอามาลงให้แต่เช้าเลย....
ลงให้ตอนนึงก่อนนะ....
อีกตอนคงเจอกันตอนค่ำๆ.... ไม่ก็ดึกหน่อย....
มีเพลงมาฝากด้วย.....
http://media.imeem.com/m/Dht-YPIt4B****************************************
---------------- #### เรื่อง “ รักของเราสามคน ” (ฉบับเข้มข้น) ๑๘.๔ #### ----------------
หลังจากวันนั้นมาภีมก็ไม่ได้มานอนกับเราอีกเลย
เพราะว่ามันกลัวว่าเพื่อนมันจะสงสัย
เราก็ไม่ได้ว่าอะไรมัน เพราะสองวันที่มันมาค้างกับเราก็เพียงพอแล้ว
เราอยู่มออีกประมาณ 3 วัน เราก็ต้องกลับมาบ้าน
เพราะว่าต้องกลับมาเกณฑ์ทหาร ที่เราขึ้นมาที่มอก็เพราะว่าต้องกลับมาเอาเอกสารที่จะใช้ในการเกณฑ์ทหารนี่แหละ
แต่พอเรากลับไปถึงบ้านแล้วมาเช็คดูเอกสารที่ต้องใช้จริงๆ
เลยรู้ว่ามีเอกสารบางอันที่ไม่ได้เอามา
ก็เลยคิดว่าคงต้องขึ้นไปที่มออีกรอบเพื่อเอาเอกสารที่ลืมแล้วกต้องรีบกลับมาให้ทันเกณฑ์ทหารอีก
นึกแล้วก็เซ็ง
ช่วงที่เราเซ็งๆภีมก็โทรมาหาพอดี
“ เออ.... ว่าไง ? ” เราพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยปกติเท่าไหร่ เพราะหงุดหงิดเรื่องความสะเพร่าของตัวเองอยู่
“ เป็นไรป่าว ? เสียงไม่ค่อยดีเลย... หงุดหงิดไรอ่ะ? ” ภีมถามแบบรู้ทัน
“ เค้าเอาเอกสารเกณฑ์ทหารมาไม่ครบอ่ะดิ.. เซ็งอยู่เนี่ย... คงต้องขึ้นไปมออีกรอบ ” เราพูดอย่างหงุดหงิด
“ ลืมไว้ที่หอเหรอ? ” ภีมถาม
“ เออดิ.. เค้าว่าดูดีแล้วนะ... ดันลืมอีก ” เราพูด
“ ให้เค้าเอาไปให้มั้ย? แกจะได้ไม่ต้องกลับมาเอา ” ภีมพูด
“ ลำบากแกป่าวๆ เดี่ยวเค้านั่งรถไปเอาเองแล้วกัน ” เราพูด
“ ไม่เป็นไรหรอก... เค้าเอาไปให้เอง.. บอกมาดิว่าเอาไว้ตรงไหน? ” ภีมพูด
“ เอางั้นเหรอ? ” เราถามภีมเพื่อความแน่ใจ
เพราะปกติภีมมันไม่ค่อยจะเป็นแบบนี้เราก็เลยแปลกใจ
“ อืม... บอกมา ” ภีมพูด
“ อยู่ตรง............................................................... ” เราก็บอกที่ที่เราเก็บเอกสารไว้กับมัน
“ โอเค.. งั้นพรุ่งนี้เค้าเอาไปให้แกเอง ” ภีมพูด
“ ถึงแล้วก็โทรมาบอกนะ.... ” เราพูด
“ อืม... ” ภีมพูด
“ ขอบคุณแกมากนะ ” เราพูด
“ เรื่องแค่นี้เอง... เค้าทำให้แกได้น่า..... ” ภีมพูด
****************************************
วันต่อมา.....
หลังจากที่ภีมโทรมาหาเรา เราก็ไปรอมันที่ร้านนม
ไม่นานมันก็มาถึง....
“ เป็นไง... นั่งรถเมื่อยมั้ย? ” เราถามภีม
“ นิดหน่อย ” ภีมพูดพร้อมกับนั่งลง
“ อยากกินไรสั่งเลยนะ.. เค้าเลี้ยง ” เราพูด
“ พูดแล้วนะ.. งั้นเค้าสั่งเต็มที่เลย ” ภีมพูด
“ เอาเลย... กินให้หมดแล้วกัน ” เราพูด
ภีมดูท่าทางจะหิวมาก เพราะเราเห็นมันสั่งของกินมาเต็มโต๊ะเลย
พอของกินมาเรากับภีมก็ไม่ค่อยได้คุยอะไรเท่าไหร่
ต่างคนก็ต่างกินกันอย่างไม่ลืมหูลืมตา
ช่วงที่กำลังกินภีมก็ถามถึงเพื่อนคนนั้นคนนี้ ว่ามีใครที่ต้องมาเกณฑ์ทหารบ้าง
เราก็ตอบไปเท่าที่รู้ เพราะเราเองก็ไม่ค่อยได้ติดต่อกับใครเท่าไหร่
แต่พอกินเสร็จ หน้าภีมที่ยิ้มแย้มในตอนแรกกลับเริ่มเงียบขรึมเหมือนว่ามันกำลังมีอะไรในใจ
เพราะหลังจากที่กินอะไรเสร็จภีมก็เดินนำเรามาตรงแถวที่นั่ง
ที่ไม่ค่อยมีคนเท่าไหร่ เหมือนว่ามันมีอะไรจะคุยจนเราอดที่จะถามไม่ได้ว่ามันคิดอะไรอยู่
“ มีเรื่องไม่สบายใจอะไรรึป่าว? ”
“ เค้ามีอะไรจะบอกแกอย่างนึง ” ภีมพูดด้วยสีหน้าเงียบขรึม
“ อะไรล่ะ... ว่ามาสิ ” จากท่าทางที่เราเห็นจากภีม ก็พลอยทำให้เราอดซีเรียสไปด้วยไม่ได้
“ เมื่อวานเค้าเอารถแกไปรับมะปรางมา... ” ภีมพูดด้วยหน้าที่รู้สึกผิด
“ แล้วแกเพิ่งจะมาบอกเค้าเนี่ยนะ.. แกก็รู้ว่าเค้าเคยบอกแกแล้ว ” เราพูดด้วยความรู้สึกผิดหวังที่มันไม่รักษาสัญญา
“ ที่เค้าโทรหาแกเมื่อวานก็จะบอกเรื่องนี้แหละ... แต่เห็นแกเครียดๆเรื่องเอกสารอยู่” ภีมพูด
“ งั้นก็ช่างมันเหอะ... ไหนๆมันก็ผ่านไปแล้ว ” ที่เราพูดออกไปแบบนั้นเพราะเราไม่อยากจะอะไรอีก ไหนๆมันก็ทำไปแล้ว
อีกอย่างนึง หลายๆเรื่องที่เข้ามาตอนนั้นมันมากจนเราเริ่มจะเอือมระอากับความรู้สึกแย่ๆนี่เต็มทน
“ แกไม่โกรธเค้าเหรอ? ” ภีมถามเสียงหงอยๆ
“ ไม่ใช่ไม่โกรธ... แต่เค้าขี้เกียจจะเอามาเป็นอารมณ์ ” เราพูด
“ เค้าขอโทษนะ... ที่ผิดสัญญา ” ภีมพูด
“ แกอย่าพูดแบบนี้เลย.... มาพูดตอนนี้มันก็เท่านั้นแหละ ” เราพูด
“ มะปรางมันอยากขึ้นมาหาเค้าก่อนที่เค้าจะไปฝึกบนเรือ พอดีมันย้ายหอพอดี ตอนแรกเค้าก็จะขอให้มะปรางไปนอนห้องแก แต่เค้ารู้ว่ามันมากเกินไปก็เลยให้มะปรางไปนอนกับเพื่อนมันแทน ”
ภีมพูด
“ แกลองขอเค้าดิ.... เค้าคงให้หรอก ” เราพูดอย่างหัวเสีย
“ รู้.... ถึงไม่ทำไง ” ภีมพูด
“ แกมีเรื่องจะบอกเค้าแค่นี้ใช่ป่ะ ? ” เราพูด
ตอนนั้นเราทั้งโมโหทั้งน้อยใจกับสิ่งที่มันคิดและสิ่งที่มันทำ
เราอยากจะรู้ว่าในใจมันคิดอะไรอยู่....
มันจะทำอะไรมันเคยนึกจะแคร์เราบ้างรึป่าว?
มันจะเคยนึกบ้างรึป่าวว่าเราจะรู้สึกแย่กับสิ่งที่มันทำและสิ่งที่มันคิดมากแค่ไหน
มันอดคิดไม่ได้ว่าเราเป็นอะไรสำหรับมัน...
บางทีมันทำเหมือนมันสนใจเรา... แคร์เรา
แต่หลายเรื่องมันก็ทำให้เรารู้ว่ามันไม่ได้เป็นแบบนั้น
ในใจเราสับสนไปหมด... ว่ามันรู้สึกยังไงกับเรากันแน่
“ มีอีกอย่างนึงที่เค้าจะบอกแก ” ภีมพูดด้วยท่าทางเครียดเช่นเดิม
ภีมทำให้เรารู้สึกเหมือนกับว่าเรื่องที่มันกำลังจะบอกเราเป็นเรื่องที่จะต้องทำให้เรารู้สึกแย่ได้มากกว่าเรื่องแรกแน่นอน
เพราะสายตามันดูกังวล... และท่าจะกังวลมากกว่าเมื่อกี๊เสียอีก
“ มีอะไรอีกล่ะ? ” เราพูดด้วยใจที่สั่นๆคล้ายกับกลัวเรื่องที่เรากำลังจะได้ยิน
“ ตอนช่วงปิดเทอมเมื่ออาทิตย์ที่แล้วเค้าพามะปรางไปบ้านมา ” ภีมพูด
“ แล้ว ? ” เราถาม
“ คือที่บ้านเค้ารู้เรื่องมะปรางมาพักนึงแล้ว.. แม่เค้าก็เลยอยากรู้จัก.. ก็เลยบอกให้เค้าพามะปรางมาแนะนำให้เป็นเรื่องเป็นราว ” ภีมพูด
เรานั่งฟังสิ่งที่มันพูดด้วยใจที่สั่นระริก
ภีมกับมะปรางเดินมาไกลเกินกว่าที่เราเคยคิด มันดูไม่ใช่รักของหนุ่มสาวมหาลัยที่จะคบกันเล่นๆ
แต่มันดูเป็นเรื่องที่ผู้ใหญ่รับรู้อย่างเป็นเรื่องเป็นราว
ทุกอย่างมันเริ่มทำให้เรารู้สึกว่าทางที่เราเลือกเดินอยู่ตอนนี้ปลายทางมันตันไปหมด
จนไม่มีทางที่เราจะเดินไปถึงจุดหมายปลายทางที่เราหวังเอาไว้ได้
คงจะมีทางเดียวก็คือ......
เราคงต้องเดินย้อนกลับมาทางเดิม....
และคงต้องมีความเข้มแข็งพอที่จะมองรอยเท้าตัวเองที่เคยเดินไปได้โดยไม่มีน้ำตา
“ แล้วที่บ้านแกเค้าโอเคมั้ย? ” เราพยายามข่มความรู้สึกแย่ๆเอาไว้แต่มันก็ไม่ยากที่ภีมจะดูท่าทางของเราออก
“ แกอยากฟังต่อรึป่าว? ” ภีมถามด้วยเสียงที่แสดงออกถึงความเป็นห่วง
“ อยากสิ.. เล่ามาเหอะ ” เราพูดออกมาด้วยเสียงสั่นๆพร้อมกับก้มหน้าลง
“ ถ้าแกฟังแล้วรู้สึกแย่เค้าไม่เล่าต่อก็ได้นะ ” ภีมพูดด้วยเสียงแสดงท่าทีเป็นห่วง
“ แกอยากให้เค้ารู้ไม่ใช่เหรอ.. ไม่งั้นแกคงไม่เล่าออกมาโดยที่เค้าไม่ได้ถามหรอก ” เราพูดทั้งที่ยังก้มหน้า
“ ทุกครั้งที่เค้ามีอะไรปิดบังแก.. มันทำให้เค้ารู้สึกอึดอัดทุกครั้ง ” ภีมพูดด้วยท่าทางซึมๆ
“ แล้วแกเคยถามตัวเองมั้ยว่ามันเป็นเพราะอะไร ? ” เราถาม
“ เค้ารู้อยู่แก่ใจว่ามันเป็นเพราะอะไร.... แต่เค้าก็ไม่กล้าพอที่จะยอมรับหรือเปิดเผยออกมาได้ เพราะ... ”
ภีมพูดยังไม่ทันจบแต่เราก็แทรกขึ้นมาก่อนว่า
“ เพราะเค้ายังแคร์คนรอบข้างแล้วก็พ่อแม่... นี่ใช่มั้ยที่แกอยากจะพูด ” เราพูดเสียงเรียบ
“ อืม.............. ” ภีมพยักหน้ารับนิ่งๆ
“ แกรู้มั้ย... การที่แกโลเลแบบนี้มันทำให้คนอื่นต้องเจ็บกับแกมากแค่ไหน แต่เค้าก็ไม่โทษแกหรอก... เพราะเค้าเป็นคนที่เลือกมายืนตรงจุดนี้เอง ” เราพูด
“ เค้ารู้... ว่าแกต้องเจ็บมากขนาดไหน เค้าเคยคิดจะตัดไฟตั้งแต่ต้นลมโดยการที่เลิกสนใจแกอีก แต่มันก็เหมือนชีวิตมันแปลกๆ... ไม่ใช่ว่าอยู่ไม่ได้นะ.... แต่ถ้ามีแกอยู่ข้างๆมันก็น่าจะดีกว่า ” ภีมพูดด้วยท่าทางสับสน
“ ขอให้เค้าเป็นคนสุดท้ายก็แล้วกันที่แกจะทำแบบนี้ ” เราพูดทั้งที่ตอนนั้นน้ำตาไหลอาบทั้งสองแก้ม
ภีมได้แต่นั่งนิ่งไม่ปริปากพูดอะไรอีก...
เราเอามือเช็ดน้ำตาแบบลวกๆก่อนที่จะพูดขึ้นว่า
“ พ่อกับแม่แกพอใจว่าที่ลูกสะใภ้รึป่าวล่ะ?... ” เราพูด
ภีมเงยหน้ามามองหน้าเรา มันเอามือเช็ดน้ำตาที่กำลังจะไหลออกไปแล้วพูดออกมาว่า
“ เค้าก็ดูชอบกันดีนะ.. พ่อเค้าซื้อของมาให้มะปรางเอาไปฝากที่บ้านเยอะเลย ส่วนแม่เค้าก็ชมไม่ขาดปากว่ามะปรางน่ารักแล้วก็นิสัยดี ”
“ ดีแล้วที่เค้าชอบ.... ” เราพูด
ก่อนที่ภีมจะพูดอะไรออกมา..
แม่มันก็โทรมาซะก่อน...
จากที่เห็นมันคุยกับแม่มัน คงประมาณว่าแม่มันมาจะถึงแล้ว
เพราะแม่มันออกมารับมัน มันจะค้างที่บ้านคืนนึงแล้วค่อยกลับพรุ่งนี้
“ แม่แกคงจะถึงแล้วดิ.... งั้นเค้ากลับเลยนะเดี๋ยวแม่แกมาเห็นว่าแกอยู่กับเค้าจะเป็นเรื่องอีก ”
เราพูดแล้วก็เดินออกมาจากมันทันทีโดยไม่ได้หันกลับไปมองมันอีกว่ามันเป็นยังไง
ทำไมน้ำตามันถึงไหลไม่หยุดแบบนี้นะ....
เรานึกโมโหตัวเองในใจที่ตอนนั้นมันกำลังด้านชาไปหมด...
เจ็บไม่รู้จักจำนะเมิง.....
ทำอะไรหวังอะไรทำไมไม่มองดูตัวเองบ้างว่าตัวเองเป็นอะไร
ทำไมหวังอะไรคิดอะไรที่มันเกินตัวตลอด....
เมิงมองตัวเองด้วย.................. รู้ตัวด้วยว่าเมิงเป็นอะไร...
รู้ด้วยว่าขอบเขตของเมิงมันอยู่ตรงไหน...
เป็นแบบนี้ผู้ชายที่ไหนเค้าจะมาเอาเมิงจริงๆจังๆ...
พ่อแม่ที่ไหนเค้าจะอยากให้ลูกชายมาได้กับกะเทย...........
เราได้แต่ร้องไห้กับตัวเองแล้วก็นั่งด่าตัวเองเหมือนกับคนเป็นบ้า.....
###################################################
ไปนอนก่อนนะ.....
เจอกันตอนมืดๆ...