#### เรื่อง “ รักของเราสามคน ” ๘ ####
มาต่อแล้ว....................
เช้าวันรุ่งขึ้นเราตั้งนาฬิกาปลุกไว้ตอนเจ็ดโมงเช้า พอเราตื่นก็โทรไปปลุกภีม มันก็งัวเงียขึ้นมารับโทรศัพท์ เราก็บอกมันว่าเราจะลงไปรอที่ริมรั้วที่เดิมที่เรามักจะนัดเจอกันเสมอ
“ แฮ้งป่ะเนี่ย ” เราถามภีมเพราะเห็นน่าตาที่ไม่ค่อยสบายของมัน
“ นิดหน่อยอ่ะ ” ภีมพูดด้วยเสียงงัวเงีย
“ นี่ตื่นยังเนี่ย..... ไม่ใช่ละเมออยู่นะ ” เราพูด
“ ตื่นแล้วๆ ” ภีมพูด
“ อ่ะนี่เสื้อ..........” เราพูดแล้วก็ส่งเสื้อที่รีดเรียบร้อยให้มัน
“ ขอบคุณนะ ” ภีมพูดแล้วยื่นมือมารับเสื้อจากเราไป
“ นี่..ขึ้นไปก็อาบน้ำเลยนะ เดี๋ยวไปเรียนไม่ทัน ไม่ใช่ขึ้นกลับไปนอนอีกล่ะ ” เราสั่ง
“ ครับๆ ” ภีมพูด
“ เออ.. แค่นี้แหละ... ไปได้แล้วป่ะ” เราพูดแล้วก็เดินขึ้นหอ
ตอนที่เราเดินกลับขึ้นหอนั้นเราก็เดินสวนกะบิว น็อตและฮัท
“ จะไปเรียนกันแล้วเหรอ ” เราถาม
“ อืม...” น็อตพูด
“ แล้ววันนี้ไมตื่นเช้าได้เนี่ย ” บิวพูด
“ อ๋อ... พอดีเอาของไปให้ภีมมาหนะ ” เราพูด
“ เสื้อนั่นของไอ้ภีมนี่เอง ” ฮัทพูดเสียงไม่ดังนักแต่ก็ดังพอที่เราจะได้ยิน gเราเลยหันไปมองหน้าฮัทด้วยอารมณ์ที่ไม่ค่อยสู้ดีนัก
“ งั้นเราขึ้นไปนอนก่อนนะ ” เราพูด
“ อืม.... แล้วเจอกัน ” บิวพูด
จากนั้นเราก็เดินขึ้นไปบนห้อง พอถึงเตียงเราก็ล้มตัวลงนอนทันทีแล้วก็หลับไป
*****************************************************************************************
ในขณะที่เวลาผ่านเลยไปเรื่อยๆ ความสัมพันธ์ระหว่างเรากะภีมก็ดำเนินไปเรื่อยๆเช่นกัน
เราไม่ได้มีคำนิยามความสัมพันธ์ระหว่างเรา ภีมก็ไม่เคยถามเราอีกว่าตกลงเราคบกันในฐานะของแฟนรึป่าว???
เพราะเมื่อเวลามันผ่านพ้นไป ทั้งเราและภีมก็รู้กันดีว่าสิ่งสำคัญระหว่างเราทั้งคู่มันไม่ใช่ว่าเราคบกันในฐานะไหน แต่มันคือว่า... เราทั้งคู่รู้สึกต่อกันอย่างไรมากกว่า...........
อย่างที่เราได้บอกเพื่อนๆไว้ในตอนที่แล้วว่า.... เราไม่ได้สนใจว่าภีมดีกับเราพอที่เราจะกลับไปคบกันในฐานะแฟนหรือยัง เพราะเราว่ามันไม่สำคัญ........ เพียงแค่ทุกวันนี้เราแฮปปี้กับสิ่งที่ภีมมันทำให้เรารู้สึกดีต่อเรามันก็น่าจะเพียงพอแล้ว................
หากใครที่อ่านเรื่องของเราแล้วรู้สึกว่า... ทำไมเราถึงยังกลับไปรู้สึกดีๆกับภีมทั้งๆที่มันทำให้เราเสียใจตั้งหลายต่อหลายครั้ง ส่วนนึงเรายอมรับว่าเราเป็นคนที่เจ็บแล้วไม่จำและอีกอย่างเราอยากจะถามคนอ่านทุกคนว่า...........
หากรักครั้งแรกมันมาตามหาคุณอีกครั้ง.... คุณจะปฏิเสธหรือจะยอมรับมันดี
สำหรับเราแล้วเราคงไม่เข้มแข็งพอ......... เราจึงเลือกที่จะยอมรับมัน
เรื่องราวของเรากะภีมก็ดำเนินมาจนถึงช่วงที่เป็นวันซอฟดริ้งของเรา............
ก่อนที่จะถึงวันซอฟดริ้งต๊ะโทรมาหาเราว่าจะลงมาหาที่มอแล้วตั้งใจว่าจะค้างคืนนึง ทริปนี้คนที่ลงมาหาเราก็จะมีต๊ะ หน่า ไอ้โอ๊ต หนึ่งแล้วก็เอ้ก (ก็เพื่อนๆเราในกลุ่มเดิมนั่นแหละ..... พวกนี้มันโอเคกะเรา)
ในวันซอฟดริ้งพวกมันมาถึงที่มอเราตั้งแต่ประมาณบ่ายแก่ๆ เรากะภีมแล้วก็เจมส์ก็ออกไปหามันแล้วก็ไปกินข้าวด้วยกัน พอกินข้าวกันเสร็จเราก็มาต่อกันที่หาด มานั่งเล่นกันแล้วก็ซื้อขนมพร้อมกับเครื่องดื่มมากินกัน ก็เหมือนจะเป็นซอฟดริ้งย่อยๆนะแหละ ไม่รู้ว่าเป็นซอฟดริ้งอ่ะป่าว เพราะเครื่องดื่มที่ซื้อมาก็เป็นเบียร์
“ เฮ้ย...... เรียนเป็นไงกันบ้างว้ะ ” ไอ้โอ๊ตเปิดบทสนทนา
“ ก็ดี.... เรื่อยๆ หนุกดี ” เราพูด
“ แล้วเมิงล่ะ... ไอ้ภีมเป็นไงบ้างว้ะ ได้ข่าวว่าฝึกหนักดิเมิง ” ไอ้โอ๊ตหันไปถามภีมพร้อมกับกระดกเบียร์เข้าปาก
“ ก็เหนื่อยดิ.... แต่ก็โอเค พอทน ” ภีมตอบ
“ เซ็งเลยดิเมิง..... อดไว้ผมยาวเลย ” ไอ้โอ๊ตพูด คือคณะภีมหนะเค้าห้ามไว้ผมยาวอ่ะ ต้องตัดผมสั้นเกรียนตลอด............ แต่เราบอกไม่ได้นะว่ามันเรียนคณะไร แฮ่ๆ
“ นิดหน่อย....... แต่ตัดผมสั้นก็ดีนะ จะได้ไม่หน้าแก่เหมือนเมิง” ภีมพูด
“ เมิงหน้าเด็กตายห่าแหละ.........” ไอ้โอ๊ตพูดกวนตรีนภีม
“ ไงก็หน้าเด็กกว่าเมิงแหละ ” ภีมพูดด้วยท่าทางภูมิใจ
“ เฮ้ย..... ปอ เมิงดูผัวเมิงดิ กวนตรีนกูจริง ” ไอ้โอ๊ตหันมาพูดกะเรา เราก็งงอ่ะดิ นี่มันรู้เรื่องเรากะภีมด้วยเหรอ เราเลยตอบไปงงๆว่า
“ คนไหนผัวกู.......... ไม่ได้มาด้วยซะหน่อย ” เราพูด
“ อ้าว........ พูดงี๊ก็เป็นเรื่องดิ ” ไอ้หนึ่งพูด
“ เอาแล้วภีม........ ปอมันนอกใจแกแล้ว ” หน่าพูด เอาเข้าไป........ สนุกกันใหญ่ เราก็งงอ่ะดิว่าทำไมพวกมันยังคิดว่าเรากะภีมจะยังอะไรๆกันอยู่ ทั้งๆที่เราก็ไม่เคยบอกพวกมัน อย่าว่าแต่จะบอกแกเลยตั้งแต่เข้ามหาลัยมาเราแทบจะไม่ได้โทรคุยกะเพื่อนเก่าเลยซักคน
“ เออๆ..... ช่างเหอะ ปอไม่เคยเห็นกูอยู่ในสายตาอยู่แล้ว ” ภีมพูดแล้วทำหน้าเศร้าซึ่งเรารู้ว่ามันอำเราเล่น
“ ดีแล้วปอ....... อย่าไปใจอ่อนกะมัน ไอ้นี่หนะ...... มันก็เสือดีๆนี่เอง ” เจมส์พูดแล้วเขยิบเข้ามากอดเรา
“ โดนไอ้เจมส์คาบไปแดกแล้วเว้ย............ ” เอ้กพูด
“ เออว่ะ......... สงสัยงานนี้เสือจะแพ้หมาอย่างไอ้เจมส์ว่ะ สมน้ำหน้าโดนหมาคาบไปแดก” ไอ้โอ๊ตพูดแล้วก็หัวเราะ
“ พอแล้วๆ........ ไม่ต้องไปแกล้งมันแล้ว ปัญหาครอบครัวเดี๋ยวให้เค้าไปเคลียร์กันเอง ” ต๊ะพูด
“ งั้นมา........ ชนเว้ย...........” ไอ้โอ๊ตพูด
พวกเราก็นั่งชิวกระดกเบียร์ชมจันท์กันอยู่ที่ริมหาด ช่างเป็นวันที่บรรยากาศดีจริงๆ เรื่องที่เรากะเพื่อนๆคุยกันส่วนใหญ่ก็หนีไม่พ้นเรื่องเมื่อสมัยที่พวกเรายังเรียนมอปลายกัน เราหยิบเรื่องนั้นเรื่องนี้มาคุยกัน....เผาคนนั้นบ้างคนนี้บ้างสนุกดี พูดแล้วก็นึกถึงเรื่องตอนสมัยที่เรายังเด็ก......... อยากกลับไปเรียนมอปลายอีกจัง เพราะถ้าตัดเรื่องที่เราทะเลาะกับเพื่อนออกไปได้ เวลาช่วงนั้นหนะ...มันเป็นช่วงที่มีความสุขมากที่สุดเลย.............
หลังจากที่นั่งคุยกันไปได้พักใหญ่ ตอนนั้นทั้งเบียร์และขนมก็หมดไปเยอะแล้วไอ้โอ๊ตกะภีมเลยอาสาไปซื้อของเพิ่ม เราก็เลยชวนต๊ะออกไปเดินเล่นกันสองคน
“ เป็นไงบ้างช่วงนี้....... สบายดีมั้ย ” ต๊ะเอ่ยปากพูดออกมาหลังจากที่เราเดินมาเงียบๆกันได้พักนึง
“ ก็ดี........ เพื่อนที่นี่น่ารักมากเลย” เราพูด
“ เรื่องอะไรที่มันแย่ๆก็ทิ้งมันไว้ในอดีตเหอะนะ อย่าไปจำให้เปลืองสมองเลย ” ต๊ะพูด ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานขนาดไหนแต่ต๊ะก็ยังเป็นเพื่อนที่ดีของเราเสมอ
“ อืม....... เค้าก็ไม่ได้เอามาคิดอีกแล้วแหละ เพียงแต่เรื่องครั้งนั้นมันทำให้เค้าต้องคิดก่อนที่จะทำอะไรมากขึ้นก็เท่านั้นเอง ” เราพูด
“ ถ้าแกมีความสุขดีก็ดีแล้ว....... เค้าหนะรู้ทุกอย่างแต่ก็ช่วยอะไรแกไม่ได้เลย ” ต๊ะพูดด้วยเสียงที่เบาลง เรารู้ว่าต๊ะรู้สึกเสียใจมากกับเรื่องที่มันเกิดขึ้นในตอนนั้น
“ แกบอกแต่เค้าว่าอย่าไปเก็บเรื่องเก่าๆมาคิด แต่แกแหละ.......... ยังจำมันอยู่ได้ ” เราพูดยิ้มๆ
“ เออ........ จริงด้วย จากนี้ไปเราจะไม่เอาเรื่องนี้มาคุยกันอีกแล้วเนอะ........ เค้าก็จะลืมๆมันซะที ” ต๊ะพูด
“ แกจำได้มั้ย??? ว่าวันนี้เมื่อปีที่แล้วเราทำไรกันอยู่ ” เราพูด
“ จำได้ดิ.......... เรานั่งซอฟดริ้งกันอยู่ไง” ต๊ะพูดแล้วหันมายิ้มให้เรา
“ เร็วเนอะ........ แป๊ปเดียวเอง ผ่านไปปีนึงแล้ว..........” ต๊ะพูด
“ อยู่นี่กันนี่เอง เดินหาตั้งนาน ” ภีมพูดแล้วเดินตรงมาที่เรา
“ นี่ไง......... มาครบองค์แล้ว.......... ” ต๊ะพูด
“ เออ....... ในที่สุด เราสามคนก็มาเจอกันอีกจนได้นะ ” เราพูด
“ ภีมจำได้ป่าวว่า....... วันนี้เมื่อปีที่แล้วเราทำไรกันอยู่ ” ต๊ะหันไปถามภีม
“ จำได้ดิ.......... จะลืมได้ไง วันพิเศษของเราสามคน ” ภีมพูด (เอ๊ะๆเดี๋ยวคนอ่านอ่านถึงประโยคนี้แล้วจะสงสัยกันว่า........ รักของเราสามคนเนี่ยจะเป็น เรา ภีมแล้วก็ต๊ะรึป่าว??????????? ไม่ใช่นะ........... เดี๋ยวจะงงกันเราแอบมาบอกไว้ก่อน)
“ พวกเรานี่ก็จริงๆเลยนะ ทั้งๆที่ต้องสอบแต่ยังมานั่งชิวกันอยู่ได้ ” ต๊ะพูดทบทวนเหตุการณ์ในวันนี้เมื่อปีก่อน
“ อืม..........” เรากะภีมพูดออกมาพร้อมกัน จากนั้นเราก็คุยกันอีกพักึงถึงเหตุการณ์ในวันนี้เมื่อปีที่แล้ว........
“ เหมือนคนแก่เลยเนาะพวกเราเนี่ย........ มานั่งรำลึกถึงความหลังกัน ” ภีมพูด
“ เค้าก็ว่างั้นแหละ........ ป่ะเข้าไปที่พวกมันกันเหอะ.......... ออกมากันนานแล้ว ” ต๊ะพูด
“ ต๊ะเข้าไปก่อนนะ เดี๋ยวเค้ากะปอเข้าไป เค้ามีเรื่องจะคุยกะปอหน่อยนึงหนะ ” ภีมพูด
“ จะสวีทกันสองคนอ่ะดิ........ เออๆตามใจ แล้วรีบตามมานะ..... เดี๋ยวโดนพวกนั้นมันเผาเอาไม่รู้ด้วยนะ” ต๊ะพูดยิ้มๆ แล้วก็เดินไป พอต๊ะเดินไปแล้วภีมมันก็เดินเข้ามาใกล้เราแล้วก็พูดว่า
“ แหม......... ทำเป็นพูดว่าไม่ได้เป็นแฟนเค้านะ แถมยังให้ไอ้เจมส์มันกอดอีก ”
“ ก็จริงป่ะล่ะ เราไม่ได้เป็นแฟนกันซะหน่อย ” เราพูด
“ โอเค....... ไม่เป็นก็ไม่เป็น ” ภีมพูดแล้วทำหน้างอ เหมือนเด็กเลย
“ โกรธเหรอ ” เราพูด แต่ภีมมันก็ไม่ตอบเราเลยง้อมันหน่อย
“ ไรว๊า......... แค่นี้ก็ต้องโกรธด้วย วันนี้วันสำคัญน๊า......... อย่าโกรธดิ ”
“ แล้วมันน่ามั้ยล่ะ ” ภีมพูด
“ ก็ไม่เห็นจะมีไรเลย............ แกก็รู้ว่าเค้าพูดเล่นกะพวกมัน ” เราพูด
“ งั้นมานี่เลย......... ปากดีนะ ” ภีมมันดึงเราเข้าไปกอด ดีนะที่แถวนั้นไม่ค่อยมีคน ไม่งั้นเป็นเรื่องแน่ๆ
“ เฮ้ย.......... มากอดมั้ยเนี่ย........ หายใจไม่ออก ” เราพูดแล้วก็แกล้งทำเป็นผลักภีมออก จริงๆก็ทำแค่พอเป็นพิธีอ่ะนะ แก้เขิน..........
“ อยู่เฉยๆแบบนี้สักพักได้มั้ย” ภีมพูดเสียงนิ่งๆ เราก็เลยยืนนิ่งๆแล้วก็กอดตอบมัน รู้สึกดีจัง........ อ้อมกอดของคนที่เรารักเนี่ย........ ( อย่าเพิ่งมีใครหมั่นไส้เรานะ)
“ เค้าไม่อยากจะเชื่อเลย......... ว่าเค้าจะได้กอดแกแบบนี้อีก เค้าอยากกอดแกแบบนี้ตลอดไปจัง ” ภีมพูดเสียงอู้อี้อยู่ที่ซอกคอเรา งานนี้ขนลุกมากมายเลยเรา สยิวเลย.............. พอมันพูดเสร็จมันก็หอมที่ซอกคอเรา โอ้ว........ ยิ่งสยิวมากกว่าเดิมอีกร้อยเท่า เราก็เลยผลักมันออก
“ แค่นี้ก็อายด้วย......... เมื่อก่อนทำยิ่งกว่านี้อีก.... ” ภีมพูดแล้วยิ้ม มันคงสนุกที่ได้แกล้งให้เราเขิน
“ พอเลยๆ.........” เราพูด
“ ตัวแกหอมจัง..... ไหนมาให้หอมอีกทีดิ๊ ” ภีมพูดแล้วยิ้มเหมือนเดิม ช่างเป็นยิ้มที่น่ากลัวมาก
“ บอกให้พองะ...........” พูดไม่จบตามระเบียบ ปากเราก็โดนภีมมันกระซ้วกเข้าให้ด้วยปากมัน......... แลกลิ้นกันนัวๆอยู่พักนึง พอรู้ว่าการหายใจเริ่มติดๆขัดๆ ออกซิเจนเข้าร่างกายไม่เพียงพอจึงได้แยกปากออกจากกัน
“ วั้นนี้วันพิเศษของเรานะ.......... ที่ผ่านมามันอาจจะไม่สวยหรูนักระหว่างเรื่องของเรา แต่จากนี้ไปเราจะเริ่มใหม่แล้วทำให้มันดีกว่าที่ผ่านมานะ” ภีมพูดแล้วทำหน้าซึ้งเชียว ตอนแรกเราว่าจะแกล้งทำเป็นเล่นๆ แต่พอเห็นน้ำเสียงกะแววตามันแล้ว เราก็ต้องเลิกล้มความคิดแล้วฟังตามที่มันพูด
“ อืม......... ” เราพยักหน้ารับ ภีมมันก็เลยเดินมาจับมือเราแล้วพูดว่า
“ กลับเข้าไปกันเหอะ......... ป่านนี้พวกมันคงเผาเราซะเกรียมแล้วแหละ ”
“ อืม..........” เราจับมือภีมแน่นแล้วก็เดินไปพร้อมๆกัน
“ ไหนๆก็วันพิเศษ ขออีกทีแล้วกัน ” ภีมมันพูดแล้วก็หันมาหอมแก้มเราแล้วมันก็วิ่งหนีเราเลย......... แหม... มันไวจริงๆ
“ เดี๋ยวเหอะเมิง.........” เราพูดแล้วก็วิ่งไล่ตามมันไป
#########################################################################################
จบแล้วอีกหนึ่งตอน................................... ยาวเชียวหละตอนนี้ พิมๆไปเรื่อยๆมาดูอีกที่ตกใจเลย ไมมันยาวอย่างงี๊หว่า...............

วันนี้เราเอามาลงให้ซะดึกเลย...... พอดีขับรถไปกทม.กะเพื่อนมา ส่งมันไปธุระหนะ......... พิมค้างไว้ตั้งแต่อยู่บนรถ กลับมานั่งพิมต่อเลนเสร็จซะดึกเลย.................................

ถ้าอ่านเรื่องเราแล้วรู้สึกหงุดหงิดใจกับการตัดสินใจของเราในตอนนั้น เราก็ต้องขอโทษด้วย............ เพราะเรื่องมันเป็นแบบนี้จริงๆ

แต่เหตุการณ์ทุกๆอย่างที่ผ่านมา....... มันเป็นบทเรียนที่ดีสำหรับเรามากในทุกวันนี้อ่ะ...................

ขอบคุณทุกคนนะ ที่สละเวลามาอ่านเรื่องของเรา........................

รักคนอ่านจัง
