## เรื่อง "เรื่องของเค้ากะแก" ๓o ##
มาต่ออีกตอน....
*****************************************************************************************
หลังจากที่เราสอบเสร็จเราก็กลับมาเก็บของกันที่คอนโดฝนแล้วก็ออกเดินทางกลับกัน ซึ่งกว่าเราจะออกจากกทม.ก็ประมาณหกโมงเย็นแล้ว
จุดหมายปลายทางของเราไม่ใช่การกลับบ้านแต่เราตกลงกันว่าจะไปเที่ยวทะเลกันต่อ ก็หาดเจ้าหลาวนั่นแหละ (เด็กจันน่าจะรู้จัก) อ้าว..ทีนี้ก็เลยรู้กันเลยว่าเราเป็นเด็กจัน...
เราไปเที่ยวที่หาดเจ้าหลาวโดยตั้งใจกันว่าจะค้างกันสักสองคืนโดยนิดโทรจองบ้านพักไว้ตั้งแต่ตอนเที่ยงแล้ว ซึ่งบ้านพักที่เราจองไว้ก็เป็นของป้าเพื่อนในห้องเอง... ก็เลยได้ส่วนลดพิเศษซึ่งปกติเวลาจะมาค้างก็มานอนที่นี่กันแหละ
ตั้งแต่ออกเดินทางมา เพื่อนๆก็คุยกันแต่เรื่องข้อสอบว่าใครตอบอะไรบ้างแล้วก็ช่วยกันเปิดหนังสือเช็ค เพื่อเป็นการตรวจสอบว่าที่ทำไปเป็นไงบ้าง ส่วนเรารู้สึกง่วงมากๆเพราะเมื่อคืนก็นอนไปนิดเดียวแถมยังไม่อยากได้ยินได้รับรู้เรื่องราวของภีมกะฝนอีกแล้ว เราจะทนไม่ได้แล้ว การนอนคงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับตอนนั้น ตอนที่เราเคลิ้มๆจะหลับเราก็ได้ยินเสียงเจมส์ซึ่งนั่งอยู่ข้างหลังเราเรียกเราขึ้นมา
" ปอ... หลับรึยัง "
" ยังๆ..แต่ใกล้แล้ว.. เจมส์มีไรเหรอ" เราหันไปพูดกะเจมส์
" เมื่อกี๊กินข้าวอ่ะ.. กินยารึยัง" เจมส์ถามด้วยความเป็นห่วง
" ยังเลย " เราตอบไปตามตรง
" ว่าแล้ว... อ่ะ" เจมส์พูดพร้อมกับยื่นยาและน้ำเปล่าส่งมาให้เรา เราก็เลยรับยามากินอย่างว่าง่าย
" ขอบคุณนะ " เราพูดแล้วก็ยิ้มให้เจมส์
" งั้นนอนได้แล้ว" เราก็เลยหันกลับมาแล้วก็นอนหลับไป
เราหลับค่อนข้างสนิท คงเพราะฤทธิ์ของยาที่กินเข้าไปประกอบกับการนอนน้อยเมื่อคืนแล้ววันนี้ยังต้องไปนั่งใช้สมองทำข้อสอบอีก เราก็เลยหลับซะสนิทมาตื่นอีกทีก็ตอนที่ถึงเจ้าหลาวแล้ว
พวกเรามาถึงเจ้าหลาวกันตอนประมาณสี่ทุ่ม กว่าจะมาถึงก็ประมาณสี่ทุ่มแล้วซึ่งป้าของเพื่อนเราเจ้าของบังกาโรก็เตรียมของกินไว้ให้พวกเรามากมาย หลังจากกินเสร็จเราก็แยกย้ายกันอาบน้ำเข้านอนกันเพราะเหนื่อยกันมาทั้งวันแล้ว บ้านพักที่เราจองไว้ก็เป็นบ้านหลังเดิมที่เรามักจะมาพักกันซึ่งเป็นบ้านที่จะอยู่ใกล้หน่อยจากหลังอื่นๆ เป็นบ้านที่ค่อนข้างใหญ่และอยู่ใกล้กับชายหาดมากอีกทั้งหาดตรงนั้นก็ค่อนข้างเป็นส่วนตัวดี ภายในบ้านพักแบ่งเป็นสองห้องนอนสามห้องน้ำ เราก็แบ่งกันนอนเป็นชายห้องหญิงห้อง ส่วนเราก็นอนห้องผู้หญิงดิซึ่งชาติกะต๊ะก็มานอนด้วยกันที่ห้องผู้หญิง
*****************************************************************************************
เรารู้สึกตัวตื่นมาตอนประมาณสิบโมง พอลืมตาขึ้นมาก็เห็นใครคนนึงข้างๆที่นอนกอดเราอยู่เรานอนห่มผ้าห่มผืนเดียวกัน อ้อมกอดขี่อบอุ่นที่กอดเราอยู่แม้มันจะทำให้เรารู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย มันคืออ้อมกอดที่เราโหยหาและต้องการให้มันอยู่กับเราตลอดไป แต่ในตอนนี้อ้อมกอดนี้มันยังเป็นของเราอีกรึป่าว???? เมื่อรู้สึกเช่นนั้นเราก็เลยเอามือยกแขนของภีมออกจากตัวแต่มันไม่เป็นผลเมื่ออ้อมกอดนั้นมันกลับกอดเราแน่นมากขึ้นเหมือนกลัวว่าเราจะหนีหายไปไหน ภีมเอาหน้าซุกมาที่ซอกคอเราแล้วกอดเราไว้แน่น... ถึงเราจะกอดกันอย่างใกล้ชิดในตอนนี้แต่เรากลับรู้สึกว่าระหว่างเราสองคนมันมีกำแพงกั้นอยู่โดยที่เราไม่สามารถก้าวข้ามมันมาได้ เราร้องไห้ออกมาพร้อมกับความคิดที่ผุดขึ้นมาในสมอง
ภีมเงยหน้าขึ้นมามองเรา... ภีมเอามือมาเช็ดน้ำตาให้เราแล้วก็รวบเราไปกอดไว้แนบอกซึ่งมันยิ่งทำให้เราร้องไห้มากขึ้น อ้อมกอดนี้แหละ..ที่เราโหยหา ยิ่งเราร้องไห้หนักขึ้นภีมก็ยิ่งกอดเราแน่นมากขึ้น...
พอเราหยุดร้องไห้ภีมก็เอามืดเช็ดคราบน้ำตาเราออกไปแล้วภีมก็จูบเรา เราปล่อยให้ภีมทำตามที่ภีมต้องการซึ่งมันก็เป็นความต้องการของเราเหมือนกัน เมื่อเราจูบกันแล้วภีมก็เอามือมาจับที่หน้าเราแล้วภีมก็พูดว่า
"เรามีหลายเรื่องเลยนะ... ที่ต้องคุยกัน" เราก็พยักหน้ารับ
แต่ก่อนที่เราจะเอ่ยปากพูดอะไรออกมาเพื่อปรับความเข้าใจกันเจมส์ก็เปิดประตูเข้ามาซะก่อน เจมส์ดูตกใจเล็กน้อยที่เห็นเรากะภีมนอนกอดกันอยู่ แต่แล้วเจมส์ก็บอกว่า
" อาบน้ำกันได้แล้ว... พวกมันรอกันอยู่"
" มันจะไปไหนกันเหรอ" ภีมถาม
" ก็ออกไปที่หาดไง...จะได้ไปหาไรกินแล้วก็เล่นน้ำกันด้วย" เจมส์พูด จากนั้นภีมก็ลุกขึ้นกลับไปที่ห้องตัวเองเพื่ออาบน้ำแต่งตัว ส่วนเราก็ทำเหมือนกัน ในขณะที่เราจะเดินเข้าห้องน้ำเจมส์ก็พูดขึ้นมาว่า
" คุยกันรู้เรื่องรึยัง " มันคงเป็นสิ่งที่เจมส์ยังกังวลอยู่ในใจ
" ยัง ..." เจมส์ก็เลยพูดว่า..
" รีบๆหาเวลาคุยกันล่ะ "
" อืม.." พอเราตอบเจมส์ก็เดินมาที่เราแล้วเอามือมาจับที่หน้าผากเราแล้วก็พูดว่า
" ตัวไม่ร้อนแล้วหนิ... งั้นไปเที่ยวได้" เราเลยตอบไปว่า
" อ้าว.. ถ้าเรายังไม่หายป่วย จะทิ้งเราไว้นี่คนเดียวเหรอ" งอนๆแฮะ
" ก็ใช่อะดิ... ไปๆอาบน้ำได้แล้ว" เจมส์พูดไปหัวเราะไปแล้วก็ดันให้เราเข้าไปในห้องน้ำ
*****************************************************************************************
หลังจากกินข้าวกันอิ่มหนำสำราญแล้ว... เพื่อนๆส่วนนึงก็ลงไปเล่นน้ำทะเลกันแต่เราขอบาย... ขอนั่งอ่านหนังสือเล่นอยู่ที่ริมหาดดีกว่า แดดร้อนขนาดนั้นขืนลงไปเล่นนะ..ผิวไหม้กันแน่ยิ่งดำๆอยู่ เรานั่งอ่านหนังสือไปสักพักต๊ะก็ชวนเราไปเดินเล่นเราก็เลยตกลงไป ที่ไปเดินเล่นกันก็มี เรา ต๊ะ ชาติ บัว หน่า ส่วนที่เหลือมันก็เล่นน้ำกันอยู่แล้วก็เล่นบานาน่าโบ้ทกันด้วย เราก็เดินเล่นเลียบริมหาดกันไปเรื่อยๆซึ่งก็ค่อนข้างไกลพอสมควรเดินถ่ายรูปไปคุยไปเพลินๆหันมาดูอีกทีถึงรู้ว่าเดินมาไกลมาก... เราก็เลยเดินกลับกันเพราะเริ่มใกล้จะเย็นแล้ว ตอนที่เดินกันอยู่เสียงโทรศัพท์ของบัวก็ดังขึ้น บัวก็เลยคุยโทรศัพท์อยู่พักนึงแล้วก็หันมาบอกกับพวกเราว่า.. พวกนั้นขอกลับไปก่อนมันจะกลับไปอาบน้ำกัน.. บอกให้พวกเรารีบๆกลับเดี๋ยวมันจะรอกินข้าว
จากนั้นเราก็เลยเดินกลับกันทันที ซึ่งระยะทางจากหาดที่มาเล่นกันไปถึงบ้านพักก็ประมาณ 200 เมตร เราก็เดินคุยกันไปเพลินๆไม่นานก็ถึง พอไปถึงที่บ้านพักเราก็เห็นภาพที่ทำให้เราแทบจะร้องไห้ออกมาตรงนั้นเลย เพราะภาพที่เราเห็นตรงหน้าก็คือ... ภีมที่นั่งอยู่บนเก้าอี้หน้าบ้านพักโดยมีฝนนั่งอยู่ด้านหลังซึ่งฝนกำลังสระผมให้ภีมอยู่ ภีมก็สั่งให้ฝนเกาหัวตรงนั้นตรงนี้.. ภีมหลับตาพริ้มและยิ้มอย่างมีความสุข... เพื่อนที่ยืนอยู่หน้าบานก็คงพอจะดูออกว่าเรารู้สึกเช่นไรกับภาพที่เห็นตรงหน้า... คงมีแต่สองคนนั้นเท่านั้นที่อยู่ในโลกส่วนตัวกันจนไม่สนใจซึ่งสิ่งรอบข้าง...
เมื่อฝนสระผมให้ภีมจมสะอาดฝนก็เปิดน้ำสายยางหนาบ้านแล้วล้างผมให้ภีม... ภาพเหล่านี้นับวันมันยิ่งทำลายความรู้สึกดีๆที่เรามีให้ฝนและภีมออกจนเกือบหมดสิ้น... เราคงทนดูภาพเหล่านี้ไม่ได้อีกแล้ว.. เราก็เลยเดินเข้าไปในบ้านเพื่อจะได้ไม่ต้องเห็นภาพเหล่านี้อีกซึ่งก็เป็นจังหวะที่ภีมลืมตาขึ้นมาพอดี.. ทั้งภีทและฝนเพิ่งจะรู้ว่าภาพของคนทั้งคู่อยู่ในสายตาของเราตั้งนานแล้ว... ภีมพยายามที่จะเดินตามเราเข้ามาในบ้านแต่ภีมก็ถูดเจมส์ดึงแขนไว้ก่อน เราก็เลยรีบเดินเข้าไปในบ้านแล้วก็เข้าไปในห้องน้ำทันที เราอยู่ในนั้นนานมาก.. น้ำตาที่มันไหลออกมามันมากมายเหลือเกิน..
ทำไมกันนะ... ความรักที่เรามีให้ภีมมันไม่เคยส่งไปถึงภีมบ้างรึไง???
เราพยายามอดกลั้นเสียงสะอื้นไว้ข้างในไม่อยากให้มันดังออกมา
อย่าให้ใครรู้ว่าเราร้องไห้...
อย่าให้ใครรู้ว่าเราร้องไห้แทบขาดใจ...
คำว่าเพื่อนมันค้ำคอเราอยู่...
ฝนคือเพื่อนเราและในตอนนั้นภีมก็คงเป็นแค่เพื่อนเราเช่นกัน... การที่เพื่อนจะรักกัน.. เราคงต้องยินดีใช่มั้ย???
*****************************************************************************************
พอเราออกมาจากห้องน้ำก็เห็นเพื่อนผู้หญิงทั้งหลายและเจมส์มานั่งรอเราอยู่... พวกมันส่งสายตาเป็นห่วงมาที่เรารวมทั้งฝนด้วย เราก็เลยยิ้มให้พวกมัน.. แล้วบัวก็พูดว่า
" ปอ..แกเป็นไรรึป่าว" บัวถามด้วยความเป็นห่วง
" ไม่เป็นไร..พวกแกแหละเป็นไร.. นั่งหน้าเศร้ากันอยู่ได้"เราพยายามทำเสียงให้ดูร่าเริงมากที่สุด
" เค้าขอโทษนะปอ..." ฝนพูดเหมือนจะร้องไห้
" แกจะมาขอโทเราทำไม.." เราพูดเสียงร่าเริงเหมือนเดิม
" ก็เรื่องเมื่อเย็น " ฝนพูดอ้ำๆอึ้งๆ เราเลยรีบพูดสวนกลับไปว่า
" แกไม่เห็นต้องมาขอโทษเราเลย... แกไม่ได้ไรผิดนี่.. ภีมกะเราไม่ได้คบกันซะหน่อย.. ถ้าเราคบกันนะแกเสร็จแน่ถ้ามายุ่งแบบนี้อ่ะ" เราพูดเสร็จก็ยิ้มให้มัน
" แกแน่ใจนะ... ว่าไม่มีอะไร ไอ้ฝนมันไม่สบายใจนะแก" หน่าพูดด้วยน่าตาจริงจัง
" จริงดิ.. พวกแกหนิ ทำซีเรียสไปได้ " เราพูดแล้วก็ยิ้มเสต็ปเดิม แต่ข้างในหนะ.. มันกำลังร้องไห้อยู่
เมื่อเพื่อนๆเริ่มวางใจลงเราก็ชวนให้มันออกไปกินข้าวกัน... เราก็โล่งอกไปทีที่โกหกจนพวกมันไม่สงสัยอะไรอีก แต่คงมีอยู่คนนึงแหละ..ที่ดูออกว่าที่เราพูดไปเมื่อกี๊มันเป็นเพียงการเล่นละครฉากนึงเท่านั้น..... เจมส์ไง
พอกินข้าวกันเสร็จเราก็ออกไปเดินเล่นคนเดียวที่ชายหาดหน้าบ้านพักเพื่อหลีกหนีภาพที่มันจะทำให้เราไม่สบายใจทั้งหลาย... เราเป็นคนที่ชอบเล่นน้ำตอนกลางคืนมากเพราะบรรยากาศมันดี แหงนหน้าไปบนฟ้าก็เห็นดาวระยิบระยับ... มองไปที่ทะเลก็เห็นไฟเรือในน้ำก็มีพลายน้ำอีก.. บรรยากาศสงบๆแบบนี้เหมาะที่จะแช่ตัวอยู่ในน้ำแล้วนอนดูดาวมากเป็นที่สุด.. นอนคิดอะไรเพลินๆ แล้วเราก็เห็นชายหญิงคู่หนึ่งออกมาเดินเล่นกันสองคน... คงเป็นใครไปไม่ได้.. ฝนกะภีม
บริเวณนั้นมันค่อนข้างมืด... มืดจนสองคนนั้นไม่เห็นว่าเรานอนแช่น้ำอยู่ริมหาด...
เราได้ยินสองคนนั้นหยอกล้อกัน..
คุยกัน..
หัวเราะด้วยกัน..
มีความสุขกัน...
ภีมคงเจอแล้วสินะ.. คนที่ภีมตามหา..
และคนคนนั้นมันไม่ใช่เรา..
เมื่อคนทั้งคู่เดินออกจากตรงนั้นเราก็นอนเล่นตรงนั้นอยู่อีกพักใหญ่... คงแพ้แล้วสินะกับคำว่าเสียใจ พอแล้วสินะกับน้ำตาที่เราเสียไป..พอแล้ว..พอกันที.. เราอดทนต่อไปไม่ได้แล้ว...
คิดได้ดังนั้นเราก็เลยเดินกลับไปที่บ้านพักจัดการอาบน้ำอาบท่าแล้วเก็บเสื้อผ้าทั้งหมดจากนั้นก็โทรหาป๊อบ... เพื่อนๆก็งงกันว่าทำไมเราถึงเก็บเสื้อผ้าเพื่อเตรียมตัวจะกลับ เราก็เลยบอกพวกมันว่าเราไม่ค่อยสบาย... อยากจะกลับบ้านไปนอนพักไม่อยากอยู่ที่นี่เดี๋ยวจะเป็นภาระเพื่อนๆป่าวๆ อุตส่าห์มาเที่ยวกันทั้งที ... ตอนแรกพวกมันก็ไม่ค่อยเชื่อสิ่งที่เราพูดเพราะพวกมันก็ยังคาใจเรื่องนั้นกันอยู่.. ดีนะที่เจมส์ช่วยพูดอีกแรงนึงพวกมันก็เลยเชื่อกัน.. ซึ่งพอเราพูดออกไปแบบนี้ภีมก็มองเราด้วยสายตาที่เป็นห่วงเป็นใย... แต่เราคงไม่อยากจะรับมันอีกต่อไปแล้ว... เราก็เลยหันหน้าหนีไปมองทางอื่น... ส่วนเพื่อนๆก็ถามว่าเราจะกลับยังไง... ทันทีที่เราจะตอบป๊อบก็ขับรถเข้ามาที่หน้าบ้านพักทันที เราก็เลยล่ำลาเพื่อนๆว่าเดี๋ยวเจอกันที่รร. แล้วเราก็หันไปยิ้มให้เจมส์ซึ่งดูท่าทางแล้วเจมส์ก็คงจะเป็นห่วงเราอยู่มากที่เดียว เจมส์ยิ้มกลับมาเหมือนเป็นการปลอบและให้กำลังใจ.. เรารู้สึกดีนะที่เจมส์เป็นคนที่เข้าใจและให้กำลังใจเรามาตลอดจริงๆแล้วยังมีเพื่อนอีกสามคนในกลุ่มที่คอยให้กำลังเราเรื่องภีมมาตลอดก็คือ ต๊ะ ชาติ และบัว.. น่าสมเพชตัวเองนะ.. ที่คนที่เรารักมากรักมากที่สุดกับไม่เข้าใจความรู้สึกเราเลย... เราได้แต่ตัดพ้อในใจแล้วเราก็เดินไปขึ้นรถป๊อบที่จอดรออยู่โดยที่ไม่หันไปมองภีมเลย.. ป๊อบเดินมาปิดประตูรถให้เราแล้วป๊อบก็ขับรถออกมาจากตรงนั้น
ตลอดทางที่ขับรถกลับมาป๊อบหันมามองเราอยู่ตลอด ไม่มีคำพูดใดๆออกมาจากปากเราเลยคงมีแต่เสียงถอนหายใจกับน้ำตาที่ปริ่มอยู่ที่ตา ซึ่งป๊อบก็คงจะดูรู้ก็เลยไม่ถามอะไรเราทั้งนั้น ป๊อบขับรถมาที่บ้านป๊อบแล้วป๊อบก็เอารถเข้าไปจอดแล้วก็เดินมาจูงมือเราเข้าไปในบ้าน... ดีเหมือนกัน.. ทีป๊อบพามาที่บ้านป๊อบ.. ในเวลานี้เราคงไม่อยากกลับบ้านหรอก ถ้าพ่อมาเห็นเราในสภาพนี้..พ่อต้องเป็นห่วงเราแน่ๆ
ป๊อบเดินจูงมือเราเข้าไปในห้องป๊อบแล้วก็พาเราให้ไปนอนบนเตียง.. เราก็เดินตามไปนิ่งๆ จากนั้นเราก็นอนลงบนเตียงป๊อบก็หยิบผ้าห่มขึ้นมาห่มให้เราแล้วป๊อบก็ก้มลงมาจูบที่หน้าผากเราแล้วป๊อบก็ไปอาบน้ำ...
บรรยากาศเงียบๆแบบนี้กลับมาอีกแล้ว... เราอยู่คนเดียวอีกแล้ว... น้ำตามันก็พรั่งพรูออกมาไม่หยุดเสียงสะอื้นที่มันออกมาคงไม่สามารถอดกลั้นไว้ได้อีกแล้ว... เราร้องไห้สะอึกสะอื้นอย่างกลั้นไว้ไม่อยู่... มันทนไม่ไหวอีกแล้ว... พอป๊อบออกมาจากห้องน้ำป๊อบก็รีบเดินมาที่เตียงแล้วตรงเข้ามากอดเราไว้ทันที ป๊อบดึงเราไปกอดไว้แนบอก ในตอนนั้นเราก็กอดป๊อบไว้แน่นเหมือนกัน.. เรากลัวว่าจะมีใครทิ้งเราไปอีก..ตอนนั้นเราอยากให้ป๊อบอยู่กะเราอยู่ใกล้ๆเราและกอดเราไว้แบบนี้... ป๊อบค่อยๆเอามือเช็ดน้ำตาที่เปรอะแก้มเราอยู่แล้วป๊อบก็จูบที่ดวงตาเราเป็นการปลอบโยน จากนั้นป๊อบก็จูบปากเรา...มันเป็นจูบที่อ่อนโยนและอบอุ่นมาก แล้วป๊อบก็บอกว่า
" นอนเถอะนะ... ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น.. ป๊อบเข้าใจ" เราก็พยายามฝืนยิ้มให้ป๊อบ... แล้วเราก็พูดอีกว่า
" ป๊อบอย่าทิ้งเราไปไหนนะ..." เราได้ยินเสียงป๊อบตอบกลับมาว่า
" อืม..." แล้วป๊อบก็กระชับวงแขนให้แน่นขึ้น... เราก็เลยหอมแก้มป๊อบครั้งนึงแล้วเราก็หลับไปในอ้อมกอดนั้น
####################################################################
จบแล้วอีกตอนนึง.... พิมเสร็จดึกไปหน่อยแฮะ..

รีบมากเลยอ่ะ...ไม่ได้ตรวจดูคำผิดเลย.. ยังไงขอโทษล่วงหน้านะ

ที่รีบเนี่ย...มีผู้อ่านคนนึงเค้ารออ่านอยู่...ไม่ยอมนอนเราก็เลยต้องรีบพิมให้...
ยังไงฝากด้วยน๊า.....

ติดตามกันด้วย.. จะถึงจุดแตกหักแล้ว.....

รักคนอ่านทุกคนจร้า....
