::: อาทิตย์อัสดง ::: บทที่ 14 "จบ" UP 18/1/55
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ::: อาทิตย์อัสดง ::: บทที่ 14 "จบ" UP 18/1/55  (อ่าน 145847 ครั้ง)

ออฟไลน์ kazhiki

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1212
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +140/-2
Re: ::: อาทิตย์อัสดง ::: บทที่ 7 "" UP 16/1/55
«ตอบ #120 เมื่อ16-01-2012 20:55:20 »

อร๊ายยยยยยยยยยยยย ชอบอะๆๆๆ  :impress2: :impress2:

ขอบคุณมากค๊าาา มาไวดีจริงๆ

tonkhaw

  • บุคคลทั่วไป
Re: ::: อาทิตย์อัสดง ::: บทที่ 7 "" UP 16/1/55
«ตอบ #121 เมื่อ16-01-2012 21:36:06 »

เขาชอบหนูแหละ พิชญ
รับๆๆไปเหอะ เดียวนี้วัยรุ่นไวไฟไม่แปลกหรอก
กร๊ากกกกกกกกกกกก

ออฟไลน์ anterosz

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 807
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-1
Re: ::: อาทิตย์อัสดง ::: บทที่ 7 "" UP 16/1/55
«ตอบ #122 เมื่อ16-01-2012 21:54:36 »

โอ๊ยยยย อยากติดเกาะกับพยุตม์จัง  :-[

ออฟไลน์ ~l3aml3ery~

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 679
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-0
Re: ::: อาทิตย์อัสดง ::: บทที่ 7 "" UP 16/1/55
«ตอบ #123 เมื่อ16-01-2012 22:20:48 »

จะชอบกันแล้วเหรอ อิอิ

sakuracity

  • บุคคลทั่วไป
Re: ::: อาทิตย์อัสดง ::: บทที่ 7 "" UP 16/1/55
«ตอบ #124 เมื่อ16-01-2012 22:49:30 »

ไม่เร็วจ้าาน้องพิชญ ไม่เร็ววว กำไมเขาไปแล้วไม่เร็วหรอกจ้าาาาา

ออฟไลน์ THiiCHA

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1840
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-4
Re: ::: อาทิตย์อัสดง ::: บทที่ 7 "" UP 16/1/55
«ตอบ #125 เมื่อ16-01-2012 23:17:49 »

เอาเถอะ สรุปแล้ว หุ่นน่าหม่ำทั้งสองคนเลย ....

เค้าเริ่มมีการห่งเป็นห่วง plus งอนง้อ กันแล้วนะเนี่ย กิ๊ว กิ๊ว 


m_pop91

  • บุคคลทั่วไป
Re: ::: อาทิตย์อัสดง ::: บทที่ 7 "" UP 16/1/55
«ตอบ #126 เมื่อ17-01-2012 00:00:20 »

จับกดให้รู้แล้วรู้รอดไปเลยครับ 555

ออฟไลน์ Vesi

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1795
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +204/-3
Re: ::: อาทิตย์อัสดง ::: บทที่ 7 "" UP 16/1/55
«ตอบ #127 เมื่อ17-01-2012 00:05:17 »

ขึ้นคร่อมพระเอกเลยฮับ เอาแบบในฝันโลด

ออฟไลน์ M@nfaNG

  • ชีวิตคือการตรวจสอบ...
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +847/-18
Re: ::: อาทิตย์อัสดง ::: บทที่ 7 "" UP 16/1/55
«ตอบ #128 เมื่อ17-01-2012 10:07:28 »

อ่านแล้วก็ไม่รู้ว่างอนอะไรอะ ใครรู้มั่ง  :laugh:

katawoot

  • บุคคลทั่วไป
Re: ::: อาทิตย์อัสดง ::: บทที่ 7 "" UP 16/1/55
«ตอบ #129 เมื่อ17-01-2012 10:12:56 »

อาทิตย์อัสดง บทที่ 8

เช้าวันใหม่ อากาศแจ่มใส แสดงแดดอ่อนๆ ทำให้พิชญรู้สึกสดชื่นและอยากจะร้องเพลง ขณะที่รอรับประทานอาหารเช้าเขาจึงหยิบกีตาร์และเดินออกไปนั่งอยู่ที่ขั้นบันไดหน้าบ้านและเริ่มร้องเพลง Mad About You ของ Sting
A stone's thrown from Jerusalem
I walked a lonely mile in the moonlight
And though a million stars were shining
My heart was lost on a distant planet
That whirls around the April moon
Whirling in an arc of sadness
I'm lost without you I'm lost without you
Though all my kingdoms turn to sand
And fall into the sea
I'm mad about you I'm mad about you...

เมื่อถึงกลางเพลง พิชญหยุดนิ่งอยู่ครู่หนึ่งเพราะนึกคำร้องไมออก จากนั้นจึงร้องต่อ แต่ไม่กี่วินาทีก็เปลี่ยนใจ อยากร้องเพลงอื่น
Seems like it was yesterday when I saw your face
You told me how proud you were but I walked away
If only I'd known what I know today
I would hold you in my arms
I would take the pain away
Thank you for all you've done
Forgive all your mistakes
There's nothing I wouldn't do
To hear your voice again
Sometimes I want to call you
But I know you won't be there

I'm sorry for blaming you for everything
I just couldn't do
And I've hurt myself by hurting you...
(เพลง Hurt โดย Christina Aguilera)
เมื่อถึงกลางเพลง พิชญหยุดร้องอีกครั้ง คราวนี้ไม่ใช่เพราะนึกคำร้องไม่ได้แต่เพราะรู้สึกตัวว่ามีผู้ฟังที่ไม่ได้รับเชิญนั่งฟังอยู่ข้างหลัง
“หยุดทำไมล่ะครับ กำลังเพราะ” พยุตม์พูดขึ้น
“ไม่ใช่ฟรีคอนเสิร์ตนะจะบอกให้”
“งั้นค่าตั๋วกี่บาท แลกกับอาหารจานนี้ได้ไหม” พยุตม์ลุกขึ้น เดินมาหาพิชญ ยื่นข้าวผัดจานที่อยู่ในมือซ้ายให้
“เก้าสิบบาทนี่นะ คุณจ่ายเงินค่าฟังเพลงผมแค่เก้าสิบบาท” พิชญโวย
“แพงขนาดนั้นเลยหรือคุณ ผมนึกว่าสามสิบบาท”
“ดูถูก” พิชญกระแทกเสียง
“ดูถูกอะไร”
“คุณหาว่าเพลงที่ผมร้องมีค่าแค่สามสิบบาท” พิชญเม้มริมฝีปาก แสดงให้อีกฝ่ายรู้ว่าไม่สบอารมณ์
“ไปกันใหญ่แล้ว ผมหมายถึงราคาข้าวผัด”
“ก็คุณบอกว่าค่าตั๋วมีค่าเท่ากับอาหารหนึ่งจาน”
“แล้วทำไมคุณไม่ปฏิเสธล่ะ คุณยังพูดเลยว่าเก้าสิบบาทนี่นะ ผมไม่เคยกินข้าวผัดจานละเก้าสิบบาทก็เลยแย้งว่าสามสิบบาท แค่นั้นเองจริงๆ”
“ไม่ควรจะพูดตั้งแต่ค่าตั๋วเท่ากับอาหารหนึ่งจานแล้ว” พิชญพูดเสียงเย็น รับข้าวผัดไปจากมือของอีกฝ่าย แต่ถึงจะรู้สึกฉุนๆ ก็ไม่ลืมกล่าวขอบคุณเสียงเบา
“พูดอะไรก็ผิดไปหมด” พยุตม์ส่ายหน้าแล้วตักอาหารเข้าปาก
“อีกอย่าง...” พิชญนิ่งไปครู่หนึ่ง “คุณชักจะทำข้าวผัดบ่อยไปแล้ว”
“มันทำง่ายนี่ครับ อยู่ที่นี่จะกินอะไรหรูๆ ได้”
“อย่าเพิ่งออกนอกเรื่อง กลับมาที่เรื่องร้องเพลง คุณคิดว่าเสียงร้องของผมเหมาะกับอาหารจานเดียวเท่านั้นเองหรือ”
“เปล่า” พยุตม์ยักไหล่ ก้มหน้าทานอาหารของตน
“ถ้าเป็นคุณ จะเสียเงินดูคอนเสิร์ตเท่าไหร่”
“ผมไม่เคยดูคอนเสิร์ต” พยุตม์ส่ายหน้า
“พูดเป็นเล่น” พิชญอุทานอย่างไม่เชื่อหู
“จริงครับ” พยุตม์ยักไหล่ “ผมไม่เห็นความสำคัญของการแสดงดนตรีแล้วเก็บเงินค่าดูที่ เอ่อ...”
“คุณนี่คิดอะไรแปลกๆ”
“ผมเป็นคนแปลก คุณดูไม่ออกหรือ”
“ดูออกแบบไม่ต้องใช้สายตาเลยล่ะ” พิชญกระแทกเสียง
“แต่คุณก็ร้องเพลงเพราะนะ เพลงแรกผมก็ชอบ แต่ชอบเพลงที่สองมากกว่า เสียงคุณดีมาก ถ้าไม่ได้มีแค่กีตาร์ตัวเดียวก็คงน่าจะ...”
“ไม่ต้องออกความเห็น” พิชญพูดสวน
“อ้าว ทำไมล่ะครับ” พยุตม์สงสัย
“คุณชมผมและว่าผมในเวลาเดียวกัน พูดว่าผมร้องเพลงเพราะ เสียงดี แต่ก็บอกว่า ถ้าไม่ได้ร้องกับกีตาร์ก็คงจะน่าฟังกว่านี้”
“โธ่ คุณ ฟังให้จบก่อนสิ” พยุตม์ส่ายหน้า ทำหน้าอ่อนใจ “คุณนี่ช่างหาเรื่องทะเลาะจริงๆ เลย”
“คุณไม่เห็นความสำคัญของการแสดงดนตรีอยู่แล้วนี่นะ”
“เข้าใจผิดไปใหญ่แล้ว”
“คุณเป็นคนพูดเอง” พิชญเน้นเสียง
“ผมหมายถึงคอนเสิร์ตที่เก็บเงินแพงๆ เกินไปต่างหาก” พยุตม์เถียง “คุณไม่ได้คิดจะฟังผมให้จบเลย”
“คุณตีราคาเสียงเพลงยังไง เช่น เพลงบางเพลงต้องฟังแพง หรือฟังถูก คนนี้ร้องไม่เพราะไม่ต้องเสียเงินฟัง คนนี้ร้องดีถึงจะจ่ายแพง”
พยุตม์ยักไหล่ สื่อสารให้รู้ว่าไม่ต้องการตอบคำถาม มือตักอาหารเข้าปากและเคี้ยวอย่างเอร็ดอร่อย ส่วนพิชญทำหน้าง้ำเพราะอีกฝ่ายเลิกคุยไปเฉยๆ ดังนั้นเขาจึงหันหน้าหนีและทานอาหารเงียบๆ เช่นกัน
“งอนอีกแล้ว” พยุตม์พูดขึ้นมาเสียงเบาแต่พิชญไม่ตอบ ชายหนุ่มตักอาหารเข้าปากและเคี้ยวช้าๆ พร้อมกับหันไปมองทิวทัศน์รอบๆ
“ถ้าคุณเล่นให้จบเพลง ผมจะเสียเงินฟัง”
“ซอรี่ แปลว่าเสียใจ” พิชญพูดเสียงเบาๆ แล้วยักไหล่ ก้มหน้าทานต่อ เลิกใส่ใจคนฟังเพลง
พยุตม์อมยิ้ม ทานอาหารต่อเช่นกัน สลับกับมองพิชญอย่างอารมณ์ดีทั้งที่โดน 'ชวนทะเลาะ'
...เขาชอบชายหนุ่มคนนี้มาก...
“อะแฮ้ม” พยุตม์เกือบสำลักอาหาร รู้สึกตกใจกับความคิดที่ผุดขึ้นมาในหัวของตัวเอง
“อะไรติดคอหรือคุณ” พิชญถามขณะที่ก้มหน้าทานข้าวผัดของตัวเอง
“คงไม่ใช่กีตาร์ติดคอหรอกครับ กำลังกินข้าวผัดก็ต้องข้าวผัดติดคอสิ” พยุตม์ตอบ
“กวน” พิชญเงยหน้าขึ้นน หันมาถลึงตาใส่คนพูดกวนๆ จึงเห็นว่าอีกฝ่ายมองอยู่ด้วยสายตาพราวระยับ
สายตาแบบนี้หมายความว่ายังไง
พิชญหันหน้าหนีทันที รู้สึกใจเต้นแรงขึ้นกว่าเดิมอย่างบอกไม่ถูก
เคยมีคนมองเขาแบบนี้มาหลายคน แต่ไม่เคยมีครั้งไหนที่เขาจะรู้สึกอย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้
ไม่ได้นะ ไม่ได้ จะมารู้สึกอะไรกับผู้ชายแปลกหน้าคนนี้ได้ยังไง อีกไม่กี่วันเราก็จะกลับกรุงเทพฯ ไปเผชิญกับทุกๆ อย่างแล้ว ชีวิตหลังจากนี้จะเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง
พิชญถอนหายใจเบาๆ แล้วรีบทานอาหารต่อให้เสร็จ จากนั้นจึงลุกขึ้นและเดินกลับเขาไปในบ้านเงียบๆ

พยุตม์เดินไปเดินมาอยู่ในบ้าน ไม่รู้จะทำอะไรดี เขาปรายตามองไปยังคนที่อยู่ร่วมบ้านบ่อยๆ ก็เห็นว่าฝ่ายนั้นเอาแต่นอนฟังเพลงอยู่บนโซฟา หลับตาพริ้ม ไม่กระดุกกระดิก บางครั้งพยุตม์ดูนาฬิกาจึงเห็นว่าคนที่นอนฟังเพลงอยู่ใช้เวลาเกือบสิบนาทีกว่าจะเปลี่ยนท่านอนแต่ละครั้ง
พยุตม์ถอนหายใจเบาๆ ความจริงเขาชอบอยู่นอกบ้าน แต่วันนี้กลับรู้สึกว่าไม่อยากจะไปไหน แต่ในที่สุดพยุตม์ก็ต้องตัดสินใจเดินออกมาจากบ้านเพราะรู้ว่าหากไม่ทำเช่นนั้นตัวเองคงเดินไปเดินมาอยู่ในบ้านไม่รู้จักหยุดเป็นแน่แท้
พยุตม์ผูกเปลใต้ต้นไม้ไม่ไกลจากบ้านเท่าใดนัก เขานอนเล่นมองท้องฟ้าและกำลังจะเคลิ้มหลับก็รู้สึกได้ว่ามีคนเดินเข้ามาใกล้
“ทำไมไม่ไปไหน” คนที่เดินมาหาถามขึ้นเสียงราบเรียบ
“ผมอยากนอนเล่น” พยุตม์ตอบ หันหน้าไปมองอีกฝ่ายซึ่งกำลังยืนกอดอกมองเขาอยู่ สายตาคู่นั้นซ่อนไว้ใต้แว่นกันแดดสีชาเข้ม
“ทำไมไม่นอนอยู่ในบ้าน”
“โซฟามีอยู่ตัวเดียว” พยุตม์ยิ้มมุมปาก
อยากจะนอนด้วยเหมือนกันแต่กลัวโดนถีบตกลงจากโซฟา
แล้วนี่ทำไมอยู่ดีๆ ก็เดินออกจากบ้านมาชวนเราคุย ผิดวิสัยน่าดู
“เรื่องเมื่อเช้า ไม่ได้ตั้งใจจะว่าคุณหรอกนะ” พิชญพูดเสียงเบา
“เรื่องอะไรครับ” พยุตม์ถาม
“นี่คุณ อุตส่าห์มาพูดด้วยแล้ว อย่ามาทำเป็นไม่รู้เรื่องไปหน่อยเลย” คนที่มีความอดทนสั้นพูดกระแทกเสียง
“ผมก็ไม่ได้คิดอะไร” พยุตม์ยิ้ม “ว่าแต่ว่า คุณร้องเพลงให้ผมฟังฟรีๆ ซักเพลงอีกทีได้ไหมล่ะ เอาให้จบเพลงนะ”
“ไม่ได้เอากีตาร์มา”
“แบบสดๆ ไม่ต้องมีดนตรีก็ได้ เสียงคุณเพราะอยู่แล้ว” พยุตม์ชม
“ไม่เอา มันรู้สึกกระดากยังไงไม่รู้ อยู่เฉยๆ ก็มายืนร้องเพลงให้คนฟัง”
“สองพันบาท” พยุตม์พูดขึ้นมา พร้อมชูสองนิ้ว
“อะไรสองพัน” พิชญถอดแว่นกันแดด เลิกคิ้วถามด้วยความสงสัย
“สำหรับเพลงหนึ่งเพลง สองพันบาท”
“ดูถูก” พิชญกระแทกเสียงแล้วหันขวับ เดินตรงกลับไปที่บ้านทันที
“อ้าว” พยุตม์อุทาน ลงจากเปลแล้วเดินตาม “อะไรกันคุณ สองพันนี่ถูกเกินไปหรือยังไง”
“คุณนี่ช่างไม่รู้อะไรจริงๆ เลย”
“ผมพูดอะไรผิดอีกล่ะ” พยุตม์เกาศีรษะ
“บางอย่าง ไม่ต้องใช้เงินก็ได้”
“โอ๊ย ไม่เข้าใจ เมื่อเช้ายังว่าผมอยู่เลยว่าตีราคาเพลงถูก ตอนนี้พอเสนอสองพันบาทกลับมาโดนว่า” พยุตม์บ่น
“เอาเป็นว่าเราเลิกคุยกันเรื่องเพลงดีกว่า อย่างคุณนี่คงไม่เข้าใจเรื่องศิลปะแขนงนี้”
“หาเรื่องจริงๆ เลย” พยุตม์โคลงศีรษะอย่างอ่อนใจแต่กลับอมยิ้ม
ความรู้สึกนี้ช่างแปลกประหลาดนัก เขาไม่เคยรู้สึกอย่างนี้มาก่อน เป็นความรู้สึกที่อธิบายไม่ได้ บอกไม่ถูกว่าเป็นยังไง รู้อย่างเดียวว่าชอบความรู้สึกนี้
แบบนี้หรือเปล่าที่เขาเรียกว่าตกหลุมรัก คนเราจะตกหลุมรักใครได้ภายในเวลาไม่ถึงสองอาทิตย์เชียวหรือ
สองอาทิตย์ ใช่สิ เขาจะอยู่ที่นี่แค่สิบสามวัน มะรืนนี้ก็จะถึงกำหนดกลับแล้ว
พยุตม์ถอนหายใจแรงๆ เมื่อนึกว่าต้องอยู่คนเดียวบนเกาะ
“ทำไม มีปัญหาอะไร” เสียงของชายหนุ่มที่เดินนำหน้าพยุตม์ดังขึ้นมาทันที
“อะไรครับ” พยุตม์ถาม
“คุณถอนหายใจ มีปัญหาอะไรกับผมหรือเปล่า”
“โอ๊ยคุณ ช่างหูดีจริงๆ เลย” พยุตม์หัวเราะ “ผมก็ถอนหายใจของผมไปตามเรื่อง”
“เสียงถอนหายใจของคุณแปลความได้ว่า ชักจะทนนายคนนี้ไม่ไหวแล้วนะ ใช่หรือเปล่า”
“นายคนนี้ที่ว่านี่คือใครครับ” พยุตม์แกล้งถาม
“แล้วบนเกาะนี่มีกันกี่คนล่ะ” พิชญหยุดเดิน หันมาพูดกับพยุตม์เสียงเข้ม
“สองคนมั๊ง” พยุตม์ยกมือขึ้นเท้าเอว ตอบโดยไม่มองหน้าคนถาม
“แต่อีกหน่อยคงได้อยู่คนเดียวแล้วล่ะ จะได้สบายใจอย่างที่คุณต้องการ” พิชญพูดแล้วเดินต่อ ส่วนพยุตม์เดินตามช้าๆ สายตาจับอยู่ที่ร่างของคนที่เดินนำหน้า ในใจของเขาตะโกนก้องว่า
ผมไม่อยากอยู่คนเดียว

รับประทานอาหารเช้าเสร็จพิชญก็ทำความสะอาดบ้าน จากนั้นจึงไปจัดกระเป๋าและอาบน้ำแต่งตัว วันนี้ถึงกำหนดเดินทางกลับกรุงเทพมหานคร แต่ในใจของเขากลับรู้สึกแปลกๆ
อยากอยู่ต่อ อยากพักผ่อนตากอากาศอยู่ที่นี่โดยไม่ต้องกำหนัดวันกลับ
แต่เขาก็ทำแบบนั้นไม่ได้ เขารู้ว่าต้องกลับไปเผชิญหน้ากับ 'ทุกอย่าง' และ 'ทุกฝ่าย' เขาหลบมาพักที่เกาะแห่งนี้ได้สองอาทิตย์ตามที่วางแผนเอาไว้ ตอนนี้ถึงเวลากลับไปสู่โลกที่ตัวเองเคยอยู่
พิชญถือกระเป๋าเดินออกมาหน้าบ้าน มองไปรอบๆ แต่ก็ไม่พบผู้ชายตัวโตที่อยู่ร่วมบ้านกันมาถึงสองอาทิตย์
ทำไมนะ เขาก็รู้อยู่ว่าสายวันนี้เราจะเดินทางกลับ แล้วนี่ทำไมหายไปตั้งแต่เช้า
ทำเหมือนไม่อยากลา
ผู้ชายคนนั้นคิดอะไรของเขาอยู่นะ
พิชญเดินลงจากบ้าน วางกระเป๋าไว้ที่พื้นแล้วเดินไปที่สะพานไม้และมองลงไปที่ชายหาดเพื่อมองหาผู้ชายคนนั้นแต่ก็ไม่เห็น เขาเดินกลับมายกกระเป๋าขึ้นสะพายแล้วตัดสินใจจากบ้านหลังนี้ไปโดยไม่ได้ร่ำลาคนที่เคยเถียงกับเขาว่า 'เป็นเจ้าของบ้าน'
แล้วนี่ก็หายหน้าไปเลย จงใจแน่ๆ คอยดูนะ ถ้าไปเจอที่ไหนจะต่อว่าให้ดู

พิชญนั่งคอยเรืออยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ริมหาดทรายด้วยความกระวนกระวายใจ เขานัดกับเรือไว้เก้าโมงเช้าแต่ขณะนี้ผ่านเวลานัดไปแล้วถึงหนึ่งชั่วโมงครึ่ง
พิชญลุกขึ้นเดินไปมาพลางเตะพื้นทรายอย่างหงุดหงิดเพราะไม่รู้จะทำอย่างไรดี จนกระทั่งเหลือเวลาครึ่งชั่วโมงจะถึงเที่ยงตรงเขาจึงเลิกล้มความคิดที่จะรอเรืออีกต่อไป
พิชญคิดว่าคนขับเรือคงจะลืม หรือไม่ก็เปลี่ยนใจไม่มารับเขาเพราะเหตุผลอะไรนัค้นเขาก็ไม่อยากจะเดาให้อารมณ์เสียยิ่งกว่าเดิม เขาหงุดหงิดมากจึงเดินลากกระเป๋ากลับบ้านพัก
นายคนนั้นจะว่ายังไงที่เห็นเรากลับไป ตอนแรกก็คงจะได้ดีใจวาจะได้ครอบครองบ้านและเตียงนอนคนเดียว แต่อยู่ๆ ก็เห็นเราเดินกลับไปที่บ้านและแย่งที่นอนกับอาหารต่อก็คงจะพูดจากวนๆ ใส่เราแน่ๆ
ทำยังไงดี ถึงกำหนดกลับแต่ไม่ได้กลับ พี่ปานกับคนอื่นๆ คงตกใจไปตามๆ กันว่าเขาหายตัวไป ติดต่อไม่ได้
เมื่อกลับมาถึงบ้านพิชญก็หมดแรง ทรุดตัวลงนั่นกับขั้นบันได ตอนนี้รู้สึกอยากจะตะโกนออกมาดังๆ เพราะความหงุดหงิดที่อย่างไม่เป็นไปตามที่วางแผน
“อ้าวคุณ ทำไมมานั่งตากแดดอยู่ตรงนี้” เสียงห้าวคุ้นหูดังขึ้นจากด้านหลัง พิชญหันไปมองช้าๆ ผู้ชายตัวโตสวมกางเกงขาสั้นอวดแผงอกกำลังยืนเท้าสะเอวมองเขาอยู่ด้วยสีหน้าแสดงความสงสัย
“เรือไม่มารับ ผมรอตั้งสองชาติกว่า”
“คุณไปสายหรือเปล่า” พยุตม์ถาม
“ผมไปก่อนเวลาด้วยซ้ำ นัดเอาไว้เก้าโมงเช้า ผมไปถึงตอนแปดโมงสี่สิบห้านาที แย่จริงๆ เลย ตกลงกันไว้แล้วทำไมไม่มา”
“อืม...น่าแปลก ว่าแต่ว่าคุณยังไม่ได้จ่ายเงินค่าจ้างเรือไว้ตอนที่เขามาส่งคุณผิดเกาะใช่ไหม” พยุตม์ถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“อย่ากวนอารมณ์นะคุณ ไม่มีอารมณ์ทะเลาะ” พิชญพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบเช่นเดียวกัน
“ผมเปล่ากวน แค่ถามด้วยความเป็นห่วง”
“ผมไม่ซื่อบื้อจ่ายเงินล่วงหน้าหรอก”
“เกาะนี้ไกลมาก บางทีคนขับเรืออาจจะคิดว่าไม่คุ้ม”
“ก็ตกลงราคาเอาไว้แล้ว”
“วันนี้อาจมีใครไปจ้างเขา คนขับเรือก็เลยคิดว่ารับเงินสดชัวร์ๆ เลยดีกว่าที่จะเสี่ยงมารับคุณไกลขนาดนี้” พยุตม์สันนิษฐาน
“เพราะคิดว่าผมอาจจะโกง เปลี่ยนใจไม่กลับ เขาต้องแล่นเรือเปล่ากลับงั้นหรือ ใครจะไปทำแบบนั้น และถ้าคุณพูดอย่างนี้ก็แสดงว่าคุณคิดว่าผมจะโกงคนขับเรือ” พิชญหันมาเอาเรื่องกับอีกฝ่าย
“อย่าสรุปแบบนั้นสิคร้าบ” พยุตม์โวย
“ก็พูดให้คิด จะสรุปเป็นอย่างอื่นได้ยังไง”
“ถ้ายังงั้นผมขอโทษ” พยุตม์ค้อมศีรษะ “ผมผิดเองที่พูดอะไรออกไปโดยไม่คิดให้ดีๆ ก่อน”
“ไม่เป็นไร” พิชญค้อมศีรษะรับคำขอโทษ
“เข้าบ้านเถอะครับ อย่ามานั่งตากแดดอยู่ตรงนี้เลย” พยุตม์เดินไปหยิบกระเป๋าของพิชญและแสดงความเห็นว่า “โอ้โห กระเป๋าเละเลยแฮะ อย่าบอกนะว่าคุณลากกระเป๋ามาตลอดทาง”
“แล้วทีนี้จะกลับได้ยังไง โอ๊ย เซ็ง” พิชญกระทืบเท้า
“อีกไม่กี่วันอาจมีเรือแล่นผ่านมาก็ได้” พยุตม์ปลอบ
“หรืออาจจะไม่มีก็ได้” พิชญพูดสวนแล้วลุกขึ้นเดินเข้าไปในบ้าน แต่ไม่กี่วินาทีก็เดินออกมารับกระเป๋าตัวเองที่พยุตม์กำลังถือเดินตามมาช้าๆ
“ผมถือให้” พยุตม์พูด
“ไม่เป็นไร ผมถือเองก็ได้”
“ให้ผมถือให้เถอะ”
“ผมถือเองได้” พิชญยืนกรานคำเดิม
“ดื้อ”
“คุณก็ดื้อเหมือนกัน”
“ตามใจ” พยุตม์อมยิ้ม
“ขอบคุณครับ” พิชญพูดเบาๆ และเมื่อคนที่ต้องการถือกระเป๋าให้ปล่อยมือเขาก็ลากกระเป๋าเดินเข้าไปในบ้าน

ตลอดบ่ายพยุตม์เห็นพิชญเดินไปเดินมาอยู่ในบ้านไม่ยอมหยุด ท่าทางกระวนกระวายใจ เขารู้สึกแปลกใจที่ชายหนุ่มดูกังวลมากกว่าที่เขาคาดคิด
เขาแค่อยากจะแกล้งเล่นสนุกเท่านั้นเอง เมื่อเช้านี้เขาไปที่หาดทรายตั้งแต่เช้า เห็นเรือลำหนึ่งจอดอยู่ คนขับเรือบอกว่ามารับแขกที่พักอยู่บนเกาะ แขกที่พักอยู่ที่นี่มีอยู่คนเดียวนั่นก็คือชายหนุ่มเจ้าอารมณ์คนนี้ เขาจึงบอกให้เรือกลับไปโดยให้เหตุผลว่าแขกต้องการพักต่ออีกห้าวัน
เขาอยากมีเพื่อนคุยอีกซักห้าวัน!
“เฮ้อ” เสียงถอนหายใจแรงๆ ดังขึ้นอย่างต่อเนื่องจนพยุตม์อดพูดขึ้นมาไม่ได้
“คุณนั่งซะบ้างเถอะ เดินไปเดินมาเหนื่อยเปล่าๆ อีกอย่าง คุณทำให้ผมปวดหัว”
“ใครบอกให้คุณมอง”
“บ้านก็หลังแค่นี้ ยังไงผมก็ต้องเห็น”
“งั้นคุณก็ออกไปหาอะไรทำนอกบ้านสิ ทุกทีคุณก็ไม่เคยอยู่บ้านไม่ใช่หรือ”
“เออจริงสิ” พยุตม์พยักหน้า “ผมว่าผมไปนั่งคอยดูปลาโลมาดีกว่า”
พยุตม์ลุกขึ้น ทำท่าจะเดินออกจากบ้านพลางปรายตาไปมองอีกฝ่ายด้วยหวังว่าการเอาปลาโลมา 'มาล่อ' นั้นคงจะทำให้คนที่กำลังหงุดหงิดอยู่รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาได้ แต่พยุตม์เดาผิดเพราะคนที่กำลังเดินไปเดินมาไม่ได้แสดงท่าทีสนใจเลย
“นี่คุณ ถ้าเรือไม่มาคุณจะทำอะไรได้ ผมว่าคุณทำใจซะเถอะ” พยุตม์แนะนำ
“ทำใจ” พิชญโวย “ทำใจว่าต้องติดเกาะอยู่ไม่รู้ว่าจะได้กลับกรุงเทพฯ เมื่อไหร่งั้นหรือ พูดง่ายๆ ผมต้องกลับไปทำงาน”
“ตอนมาก็ดูเหมือนหนีกรุงเทพฯ” พยุตม์ยักไหล่
“คุณไม่รู้อะไร อย่าพูด”
“จะเครียดไปทำไม ทำตัวทำใจให้สบายดีกว่า”
“คุณไม่ใช่ผม คุณจะรู้อะไร” พิชญทำเสียงและสีหน้าหนักใจ
“ถ้างั้นทำไมล่ะครับ”
“อย่ารู้เลย” พิชญหันหน้าหนีจากพยุตม์
“อ้าว” พยุตม์ยกมือเกาศีรษะ “เอ๊ะ คุณนี่ยังไง พูดกับคุณนี่งงจริง”
“ถ้างงก็ไม่ต้องมาพูดกับผมก็ได้”
“ผมเป็นห่วงคุณหรอก ไม่อยากให้เครียด” พยุตม์ยิ้ม เดินเข้าไปใกล้อีกฝ่าย “มาเถอะน่า ผมจะพาคุณไปเดินชมวิวหน้าผาของเกาะ”
“ไม่มีอารมณ์”
“แล้วคุณจะเดินไปเดินมาอยู่ในบ้านแบบนี้ให้ได้อะไรขึ้นมา”
“เผื่อมีเรือผ่านมา”
“แล้วคุณจะได้วิ่งลงไปที่ชายหาดโบกให้เขาหยุดรับคุณเหมือนโบกแท็กซี่ในกรุงเทพฯ ใช่หรือเปล่า” พยุตม์ยิ้มมุมปาก
“ไม่ต้องมาประชดผมนะ”
“ผมว่าพรุ่งนี้เช้าคุณลองอีกทีจะดีกว่า เผื่อคนขับเรือจำวันผิด”
“จำผิดได้ยังงั้น วันมาส่งผมก็ย้ำแล้วย้ำอีก” พิชญถอนหายใจแรง
“หมึกที่เจือจางก็ยังดีกว่าความจำที่เลอะเลือน ภาษิตจีนเขาว่าไว้ คนเรือคงไม่มีแพลนเนอร์จดบันทึกนัดหมาย เขาคงใช้ความจำเอา บางทีคนเราก็หลงลืมกันได้ หรือหูเขาอาจจะไม่ดี เหมือนตอนที่มาส่งคุณก็มาผิดเกาะ”
“อย่ามาชวนทะเลาะนะคุณ ผมไม่มีอารมณ์” พิชญจ้องหน้าคนที่ให้คำแนะนำด้วยสายตาขวางๆ
“ผมว่าไปเดินนชมธรรมชาติสร้างอารมณ์กับผมดีกว่าน่า” พยุตม์ชวน
“ทะลึ่ง”
“ทะลึ่งอะไร” พยุตม์เลิกคิ้ว “ผมหมายถึงอารมณ์เบิกบานแจ่มใจ ไม่ใช่อะไรพรรค์นั้นซักหน่อย”
“คุณจะไปไหนก็ไป อย่ามาตื้อผมเลย”
“ตามใจ” พยุตม์ถอนหายใจแล้วเดินไปที่ประตู พึมพำเบาๆ พอให้ได้ยินว่า “อากาศดีๆ แบบนี้เห็นปลาโลมาเป็นฝูงๆ แน่เลย เสร็จแล้วจะนั่งดูพระอาทิตย์ตกทะเลที่ชะง่อนผาให้สบายใจก่อนแล้วค่อยกลับ”
“นี่คุณจะกลับค่ำเลยหรือ” พิชญส่งเสียงถามเพราะห่วงอาหารเย็น
“คุณทำอะไรกินไปเลยนะ ไม่ต้องเผื่อผม ผมอาจกลับดึก คืนเดือนมืดอย่างนี้ ไม่แน่ อาจเห็นปลาโลมากระโดดน้ำเล่นตอนกลางคืนใต้แสงดาว ถ้าอยากดูก็มากับผม”

::: End of chapter 8 :::


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ::: อาทิตย์อัสดง ::: บทที่ 7 "" UP 16/1/55
« ตอบ #129 เมื่อ: 17-01-2012 10:12:56 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Alone Alone

  • ขอตายในอ้อมกอดฮยอกแจ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-0
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-01-2012 10:48:45 โดย Alone Alone »

ออฟไลน์ JJHJJH

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +293/-2
พยุตใจร้ายอ่ะ ยังงี้ไม่ต้องกระวนกระวายกันไปทั้ง 5 วันเหรอ 555ฃ

บวกๆ พี่คฑาคนขยัน อิอิ

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586

ออฟไลน์ M@nfaNG

  • ชีวิตคือการตรวจสอบ...
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +847/-18
คุณพยุต์ลูกล่อลูกชนเยอะเหลือเกิน แต่ก็น่ารักดี :-[

ออฟไลน์ THiiCHA

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1840
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-4
(ก๊)... เขาอยากมีเพื่อนคุยอีกซักห้าวัน!

 :laugh: :laugh: :laugh:

ถูกใจ พระเอกเรื่องนี้มันร้ายใช่เล่น แอบเอาแต่ใจนะเนี่ย

ออฟไลน์ ordkrub

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-12
ร้ายจริงๆ
คนขับเรือโดนด่าฟรีไปเลย :z1:

Peppermint

  • บุคคลทั่วไป
- - ตูว่าล่ะ พระเอกเรามันบ้า
เป็นกำลังใจให้คนเขียนค่ะ

samsoon@doll

  • บุคคลทั่วไป

yayee2

  • บุคคลทั่วไป
พยุตม์แผนสูงนะเนี่ย

ออฟไลน์ nemonoy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 200
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
เรื่องนี้น่ารักอ่ะ >_< ขออย่าให้มีมาม่าเลยนะค่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ พระสนมฝ่ายซ้าย

  • ❤วั ง ว น ว า ย เ วิ่ น เ ว้ อ❤
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2293
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +283/-2
คุณพยุตม์น่ารักอีกแล้วค่า
อยากติดเกาะด้วยอ่า  :laugh:

tonkhaw

  • บุคคลทั่วไป
อ้าวไปแกล้งพิชญซะงั้น

ออฟไลน์ kazhiki

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1212
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +140/-2
55555 น่ารักจริงๆ

ขอบคุณมากค๊า  :กอด1:

katawoot

  • บุคคลทั่วไป
เรื่องนี้น่ารักอ่ะ >_< ขออย่าให้มีมาม่าเลยนะค่ะ
หมายความว่าไงอ่ะครับ มาม่า นี่หมายถึงตอนจบใช่ป่ะ :-)

ออฟไลน์ Horizon

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1731
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-22

ออฟไลน์ LalaBam

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2864
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-2
ปวดหัวกับคู่นี้จริงๆ ทะเลาะกันไม่มีวันหยุด

ออฟไลน์ akera

  • I love him anymore. but he love him.
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
เรื่องนี้น่ารักมากเลยคะ
เป็นกำลังใจให้นะ

ออฟไลน์ dukdikdukdik

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2520
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +233/-3
พระเอกเริ่มเข้าท่าแหละ อิอิ อีกห้าวันก็ทำคะแนนซะนะ หุหุ :impress2:

member

  • บุคคลทั่วไป
เชียร์พยุตย์  :วู้วว1: :วู้วว1:  น่ารักสุดๆ

ออฟไลน์ loveview

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1912
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-10
พระเอกแสนดี อ่ะนะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด