[TWINCesT] น้องบิ๊กกับพี่บู้ [ภาค 2] - ตอนพิเศษ หมาเด็กกับชายชู้ [16/11/12]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [TWINCesT] น้องบิ๊กกับพี่บู้ [ภาค 2] - ตอนพิเศษ หมาเด็กกับชายชู้ [16/11/12]  (อ่าน 134773 ครั้ง)

Crossley

  • บุคคลทั่วไป
อบากจะบอกคนเขียนว่า
มีบ้างเรื่อง ที่เรทติ้งแย่กว่าเรื่องนี้อีก แต่คนเขียนเรื่องนั้นมักจะบอกตอนจบตอนเสมอว่า           
"ถึงจะไม่มีคนอ่านก็ไม่เป็นไร  เพราะฉันแต่งเพื่อให้ฉันมีความสุข เห็นนิยายตัวเองได้โลดแล่นอยู่บนอินเตอร์เน็ท แถมยังมีคนอ่านอีกตั้งสองสามคน ดีกว่าไม่มีอะไรเลย"
เพราะฉะนั้นอย่าไปซีเครียดกับเรื่องเรทติ้งมาก คิดแค่ว่าแต่งแล้วมีความสุขไหมเป็นพอ ถ้าไม่มีความสุขก็หยุดเุถอะค่ะ
เพราะอารมณ์ก็เป็นจุดที่ทำให้นิยายดำเนินไปเป็นแนวนั้นๆได้เหมือนกัน เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ตามอ่านมาตั้งแต่เวอร์ชั่นเก่า จนมาถึงตอนนี้ ก็ยังอยากจะบอกว่านิยายเรื่องนี้ยังสนุกไม่เปลี่ยน แม้จะเปลี่ยนวัยเปลี่ยนแนวบ้างก็ตาม พี่บู้ก็ยังเป็นพี่บู้ น้องบิ๊กก็ยังเป็นน้องบิ๊กที่แสนจิตคนเดิม ไม่ว่าคนเขียนจะเขียนออกมากี่ตอนนักอ่านคนนี้ก็ยังจะตามอ่านเรื่องนี้ไปจนจบค่ะ  :กอด1:


ออฟไลน์ mutyamania

  • สามารถติดตามงานติดเรทที่ลงเล้าไม่ได้ที่ ReadAWrite ในชื่อมัสยากลับมาจากป่าช้า
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1898
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +794/-139
    • https://mutyawhocamebackfromthedead.readawrite.com
ขอบคุณกำลังใจจากคนอ่าน...ขอบคุณหลายคนที่เตือนสติให้คนแต่งได้นึกถึงเหตุผลที่แท้จริงตอนที่เริ่มแต่งนิยาย  ทุกอย่างเริ่มจากศูนย์  ไม่มีคอมเม้นท์  ไม่มีบวก  แต่เกิดขึ้นเพราะเราอยากแต่งมันออกมาแค่นั้นเอง  ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ

ต่อไปนี้ไม่ว่าคนอ่านจะมีหนึ่ง...สอง....หรือศูนย์คน  เค้าก็จะไม่นอยด์แล้น....(เพราะเคยแต่งนิยายจบโดยมีคนเม้นท์แค่สองคนมาแล้วเมื่อหลายปีก่อน)

ไปอ่านตอนต่อไปกันเลยนะคะ.....สู้ค่ะ(ฮา)








ตอนที่ 8 เด็กพิเศษ....








“หมา.....อื้อ.....หมา.....มาให้กอดหน่อยสิ”







ร่างสูงเอ่ยอย่างงัวเงีย  สองตายังคงปิดสนิท  มือข้างหนึ่งหมายมั่นที่จะเอื้อมไปคว้าตัวคนข้าง ๆ มากอดให้หายหมั่นเขี้ยว  แต่กลับรู้สึกว่ามีบางอย่างที่แปลกไป

ขยับ.....ไม่......ได้

ดำศรีสะบัดศีรษะจนหายง่วงเป็นปลิดทิ้ง  สองตาลืมขึ้นมาดูบรรยากาศรอบ ๆ  พยายามจะกระดิกมือและเท้า  ก่อนจะพบว่าตนเองนั้น.....










ถูกมัดขึงพรืด.....

“พี่.....เฮ้ยยยย....พี่เล่นอะไร๊.....รีบมาแก้มัดเค้าเดี๋ยวนี้เลยนะ....ไอ้หมา....ไอ้เด็กนรก....แง่งงงงงงงงง”
.
.
.
.
.
.
.
.
ก๊อก ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ







ตึ๊ง....ตึง......ตึ๊งงง.....ตึ๊ง.....ตึ๊ดดดดดดดดด

“มาแล้วครับ....มาแล้ว ๆ.....แมร่งใครมาหาแต่เช้าวะ”

ปัฐวิทย์ หรือ บอม  วิ่งลงมาจากชั้นสองของตัวบ้านอย่างรีบร้อน  ในสภาพตัวเปียก  หัวแฉะ  และมีเพียงผ้าขนหนูปกปิดเรือนร่างสมส่วนเพียงแค่ผืนเดียว  หลังจากที่เพิ่งอาบน้ำชำระคราบเหงื่อไคลจากการออกกำลังกายในยามเช้า  เพื่อลงมาเปิดประตูบ้าน

“อ้าวมึง....มาไงเนี่ย”
ชายหนุ่มเอ่ยถามแขกไม่ได้รับเชิญที่นั่งยอง ๆ อยู่หน้าบ้าน  ข้าง ๆตัวนั้นมีกระเป๋าเดินทางใบโตที่อัดแน่นไปด้วยสัมภาระ  ชนิดที่เรียกว่าอพยพย้ายถิ่นฐานจากที่เก่าเป็นการถาวร

“ขออยู่ด้วยได้ป่ะ....ผัวจ๋า”
“เฮ้ยได้ไงอ่ะ....เฮ้ยเดี๋ยว....เดี๊ยวววววว”

ไม่ทันแล้ว  ทันทีที่เอ่ยปากโดยไม่ต้องรอให้เจ้าของบ้านอนุญาต  นายชาคริต....หรือนายบู้....หรือเจ้าหมาน้อยก็เดินละลิ่วตัวปลิวเข้าไปในบ้าน  โดยปล่อยให้นายบอมนั้นหอบหิ้วกระเป๋าเดินทางของตนตามเข้าไปประหนึ่งคนรับใช้

“ไม่เลว ๆ......นี่บ้านของมึง....ที่พ่อของมึงซื้อเอาไว้ให้ช่ายแม๊ะ  แหมมันช่างไฮโซสมฐานะเพื่อนรักของกรูเสียจริ๊ง  คอแห้งอ่ะ....อยากดื่มน้ำแร่....น้ำแร่ใส่แก้วใสแล้วก็ประดับด้วยมะนาวผ่าซีกเหน็บตรงขอบแก้ว....โอ้โห....แอลซีดีทีวี....กี่นิ้วฟะ....เพื่อนขอดูได้แม๊ะ...พอดีว่าติดละครพื้นบ้านตอนเช้าน่ะ...”

“สัดบู้....เยอะไปแล้ว....มานั่งนี่...แล้วบอกกูทีดิ๊  ว่าลมอะไรหอบมึงมานี่  แล้วที่บอกว่าจะมาค้างน่ะ...ไม่สิ  ที่มึงบอกว่าจะมาอยู่ด้วยน่ะ  คือล้อเล่นใช่มั้ย  เฮ้ย....บูม...ไอ้เมฆ....ไอ้บิ๊ก....ออกมาเฮ๊อะ  เค้าจับพวกตัวได้แล้ว”
“เฮ้ย....กูมาคนเดียว  จริง ๆ  ไม่มีใครมาด้วย....น้ำแร่กูล่ะฟะ”
“รอเดี๋ยวนะมึง  นั่งนิ่ง ๆ แล้วอย่าสะเออะเดินไปซนที่ไหนล่ะ  เดี๋ยวกูมา....”


ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน...ชายหนุ่มนึกด่าตัวเองในใจ  หลังจากที่จัดแจงรินน้ำแร่ใส่แก้วพร้อมกับคว้ามีดทำครัวมาเพื่อหั่นมะนาว.....



เพล้งงงงงงงงงงง

เสียงดังสนั่นเหมือนอะไรสักอย่างล่วงลงมาแตก  ทำเอาชายหนุ่มสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจ  แต่ก็ยังไม่ลืมที่จะยกถาดแก้วน้ำตามไปด้วย

“กูขอโทษ.....ว่าแต่ไอ้ตัวนี่  ที่จตุจักรมันมีขายเปล่าวะ....เดี๋ยวกูซื้อมาใช้ให้”
“สัดบู้...........มึงตายยยยยยยยยยยยยยยยยยยย”
“อ๊ากกกกกกกกกกก......บอม......บอมคร๊าบบบบบ.....บู้ขอโท๊ษษษษษษษษษ”
.
.
.
.
.
.
หมาน้อยกุมหัวตัวเองด้วยความเจ็บปวด  พยายามนั่งนิ่ง ๆ และทำตัวให้ลีบที่สุด  มือข้างหนึ่งกอดกระเป๋าเดินทางของตนเอาไว้  ระหว่างที่รอเจ้าของบ้านเก็บกวาดซากรูปปั้นเทพีอะโฟรไดต์

“ทีนี้เล่ามาได้แล้ว  ว่ามันยังไง”  ชายหนุ่มว่า  นั่งจากโบกไม้โบกมือไล่ให้อีกฝ่ายเขยิบตัวออกไป  เพื่อที่ตัวเองจะได้นั่ง  แก้วน้ำแร่ในถาดถูกเลื่อนไปตรงหน้าแขกที่ไม่ได้รับเชิญ  นายบู้ยกขึ้นกระดกอั่ก ๆ อย่างกระหายจัด
“ไม่เล่าได้มั้ย”
“เอ๊า....ไอ้นี่  แล้วจะให้มึงมานอนส่งเดชได้ไงล่ะเฮ้ย  ติดหนี้ใครหรือว่าถูกใครเค้าตามล่ามาหรือเปล่า  หรือว่าไปทำสาวที่ไหนท้อง  ถึงได้ต้องหนีหัวซุกหัวซุนมานี่”
“คือ.....ไอ้บิ๊กมัน.....ไอ้บิ๊กมัน.....”
“ไอ้ห่าบิ๊กมันทำไม”
“เง้ออออ.....ไม่พูดถึงมันได้มั้ยเล่า  เพื่อนมึงกำลังมีปัญหานะเว้ย....บิ๊กพล็อพแบ้ม...ระดับประเทศ  มึงจะใจไม้ไส้ระกำกับเมียมึงได้ลงเหรอว๊า”
“มึงไม่ใช่เมียกูโว้ยยย....ไอ้ห่านิ....เฮ้อ  แล้วไหงต้องเป็นกูวะเนี่ย”
“ก็ไอ้เมฆมันอยู่หอ....แถมยังอยู่ใกล้มหาลัยด้วย....ส่วนบูมมันอยู่บ้านก็จริง  แต่มันก็อยู่กับพ่อกับแม่น่ะ  ก็มีแต่มึงนี่ล่ะที่พึ่งได้  เพราะว่าบ้านไกล....ตัวคนเดียว....แถมยัง....หรูหราน่ามาอาศัยซุกหัวนอนนิ....น่า....แค่ห้องใต้ถุนอับ ๆ ให้เพื่อนคนนี้อาศัยนอนไปวัน ๆ กับห้องน้ำเล๊กกกก....เล็ก  แค่นี้ก็พอแล้ว”

“ขอเยอะไปนะมึงอ่ะ”
“นะครับ....ขอร้อง”
“เฮ้อ....มึงไปนอนห้องว่างข้างบนก็ได้....แล้วก็อย่านานนะเว้ย  จนกว่ามึงจะมีที่ไปเท่านั้น  ไม่งั้นกูจะเก็บค่าเช่ามึง  แต่คิดอีกที....กูว่ากูอยู่คนเดียวจะสบายกว่ามั้ง”
“บอมมมมมม.....บอมมี่....ปาร์คบอมของเฮีย....น่านะ”
“แดกห่าอะไรมารึยัง”
“อยากกินไก่”
“แต่กูอยากจับมึงมาทำอาหารว่าง”
.
.
.
.
.
.
หลังจากพยายามร่วมสามชั่วโมงในการแก้เชือกที่พันธนาการ  ชายหนุ่มก็วิ่งพล่านไปทั่วห้องเช่าด้วยความคลุ้มคลั่ง....ทุกอย่างที่เป็นของพี่ชายหายเกลี้ยง  ยกเว้นแต่ตำราเรียน....เจ้าหมาน้อยขโมยไอแพดของน้องชายแล้วทิ้งโน๊ตบุ๊คเก่า ๆ เอาไว้  ดำศรีเดือดจัดจนอยากสั่งสอนไอ้หมาไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง

“คิดจะลองดีใช่มั้ย....คิดเหรอว่าจะหนีกันพ้น....อย่าให้จับพี่ได้ก็แล้วกัน  พี่ตายแน่ไอ้หมาบู้”
กระดาษหนึ่งแผ่นแปะอยู่บนโต๊ะ....ไม่มีอะไรมากไปกว่าลายมือแปลก ๆ  อ่านได้ใจความว่า



ลาก่อนน้องรักของพี่...พี่จะไปค้นหาตัวตนที่เถือกเขาหิมาลัย  อย่าตามมานะ  เพราะมันหนาวมาก....



“ไอ้กร๊วกกกก.....ใครแมร่งจะเซ่อตามไปฟะ....”
.
.
.
.
.
.
“แน่ใจนะว่าจะไม่เข้าเรียน”

ที่ถามไม่ใช่เพราะความเป็นห่วง  แต่ชายหนุ่มนึกถึงความสยดสยองที่ไม่อาจคาดคิดได้  ในการที่จะปล่อยให้แขกของตนนั้น  อยู่เพียงลำพังในบ้านหลังใหญ่
“ไม่อ่ะ....กูอยากพักผ่อน”
“กูอยู่เป็นเพื่อนเอามั้ย”
“ไม่ต้อง....มึงไปเถ๊อะ....เดี๋ยวไอ้ดำมันรู้หมดว่ากูอยู่ไหน  มึงก็อย่าทำพิรุธให้มันจับได้ล่ะ  แล้วกูจะเฝ้าบ้านให้เป็นอย่างดี”
“นั่นแหละที่น่าเป็นห่วง....นี่กูหลวมตัวมาคบมึงเป็นเพื่อนได้ไงเนี่ย”
“พรหมลิขิตไง.....มาเร็ว ๆ นะ  เดี๋ยวเมียหุงข้าวรอ”
“เดี๋ยวกูถีบ”

หลังจากนั้นหมาน้อยก็อาศัยได้กินข้าวกลางวันฝีมือคุณป้าที่มาทำความสะอาดให้ในช่วงบ่ายของทุกวันเป็นประจำ  หมาน้อยชวนคุยจนคนแก่หลับคาโต๊ะกินข้าว  ก่อนจะลุกขึ้นเดินสำรวจบ้านด้วยความระมัดระวัง....
.
.
.
.
.
“บิ๊กหน้ามึงเครียดนะ....เป็นอะไรอ่ะ....ไอ้บู้ไม่สบายอีกแล้วเหรอ”  ความตึงเครียดนั้นแผ่ซ่านออกมาจนเพื่อนทั้งสามสัมผัสได้  คนตัวโตเอาแต่นั่งเงียบมาตลอด  ไม่ยอมปริปากพูดอะไรตั้งแต่คาบแรกของวัน  จวบจนกระทั่งคาบสุดท้าย
“พวกมึง.....มีใครเห็นไอ้หมามั้ย”
ในที่สุดดำศรีก็เอ่ยปาก  ทุกคนจ้องหน้ากันเหรอหรา  ก่อนจะส่ายหน้าราวกับนัดกันไว้
“ไอ้เมฆ....ในฐานะที่มึงอยู่ใกล้  กูขอไปค้นห้องมึงได้มั้ย”
“ค้นทำไมอ่ะ”
“อ้าว...แล้วทำไมกูจะค้นไม่ได้วะ....หรือว่าไอ้หมามันหลบอยู่ในนั้น  มึงมากับกูเลยไอ้เมฆ  ไปดูให้เห็นกับตา”
“เฮ้ยบิ๊กนายใจเย็นดิ”
“อยู่กับบูมใช่มั้ย  หมามันหนีไปอยู่กับบูมสินะ”
“เฮ้ยบิ๊ก.....เปล่านา....เราเองยังนึกว่าบู้นอนป่วยอยู่ที่ห้องเลย  จะไปดูที่บ้านเราก็ได้นะ....แต่อย่าส่งเสียงดังล่ะ  เดี๋ยวพ่อกับแม่เราจะตกใจ”
“มึงล่ะไอ้บอม....ไอ้หมามัน....”
“โอ๊ยยยยย  เป็นเหี้ยอะไรเนี่ย.....กูชอบอยู่ของกูคนเดียว  ถึงมากูก็ตะเพิดอ่ะ  กูไม่สนใจหรอก....มึงโทรหาพ่อกับแม่มึงดีกว่ามั้ย....แล้วมือถือมันล่ะ  มันปิดเครื่องหนีหรือว่ายังไง”

ใบหน้าของนายบอมซีดเผือดทั้งที่กำลังแกล้งหงุดหงิด....ดีที่ตัวเองนั้นเป็นคนผิวขาวจัด  ทุกคนเลยไม่ได้สังเกตเห็น  ดำศรีจ้องหน้าเพื่อนอยู่ครู่หนึ่ง  แล้วจึงถอนใจ.....
“เราทะเลาะกันน่ะ  แล้วหมามันก็หนีออกจากห้อง  เก็บเสื้อผ้าไปหมดเลย....กูจะทำยังไงดีวะ  กูโทรหามันตลอด  โทรจนไม่รู้จะโทรยังไงแล้ว  แต่หมามันปิดเครื่อง”
“เอาน่า....ค่อย ๆ คิด  เดี๋ยวก็คงเจอ  บู้น่ะขาดนายไม่ได้หรอก  เด็กน้อยซะขนาดนั้น  แล้วแถมนี่ก็ใกล้สอบปลายภาคแล้ว  จะไม่มาเรียนเลยก็ให้มันรู้ไปสิ”  อรรถพล....หรือบูม  หนุ่มหน้าสวยที่ตัดสินใจตัดผมที่ยาวเคลียไหล่จนสั้นเต่อ  ลูบไหล่ของเพื่อนอย่างปลอบใจ  เจ้าเด็กโข่งดึงตัวเพื่อนร่างเล็กไปกอด...


ยิ่งกอด....ก็ยิ่งคิดถึงพี่.....









ยิ่งคิดถึงพี่.....ก็อยากจะฆ่าให้ตาย


“โอ๊ยยยยยบิ๊ก.....เราเจ็บ.....เฮ้ย.....ปล่อยสิ.....ปล่อยได้แล้ว”
“บิ๊กมึงเป็นเหี้ยอะไร”
“เออนั่นดิ  มึงอย่าเพิ่งสติแตกสิเฮ้ย”

ดำศรีรู้สึกสับสน....ใจหนึ่งก็คิดว่าเป็นความผิดของตน  ที่วู่วามมากเกินไป....คนอย่างพี่ชายช่างแสนซื่อ  ไม่น่าเลยที่จะใช้วิธีรุนแรงแบบนั้น  เพียงแค่ตะล่อมดีดี  เจ้าหมาน้อยก็ยอมเชื่อทุกอย่าง


แต่ก็หงุดหงิดเหลือเกินที่เห็นพี่ชายแอบปันใจ....หมาน้อยกำลังโตเป็นหนุ่ม  เริ่มจะมีความรัก  ห้ามยังไงก็คงไม่อาจหลีกหนีสัญชาติญาณของมนุษย์เพศชายได้....


ต้องกักขังเอาไว้เท่านั้น....



มัดพี่เอาไว้  แล้วปรนเปรอพี่ด้วยรสชาติของเซ็กส์ที่ปรุงแต่งมาโดยเฉพาะ.....



พี่จะไม่สามารถหนีไปไหน....พี่จะลุ่มหลงอยู่ในโลกที่เค้าสร้างขึ้น....



ทุกคนจะเป็นศัตรูของพี่....ยกเว้นที่เค้า....เค้าเท่านั้นที่พี่จะต้องยอมสยบ....








ในฐานะเจ้าของของพี่





ไอ้เด็กพิเศษ......
.............................................................................
หมาน้อยกลิ้งเกลือกไปมาบนเตียงนุ่มด้วยความดีใจ  ก่อนจะพลิกหมุนตัวกลับมาดูหน้าเวปเพจในไอแพด

“ในที่สุดพี่สาวก็กดรับ....แถมยังทักมาก่อนด้วย...อ๊ากกกกกกก.....สุขี....สุขี....”
มือเล็ก ๆ จิ้มตอบกลับไปด้วยถ้อยคำที่คัดสรรและกลั่นกรองจากหัวสมองอันติงต๊อง....ถ้อยคำแบบวางท่า  แบบที่คนโตแล้วเค้าใช้กัน  เจ้าหมาน้อยหัวเราะหึหึอย่างมีลับลมคมใน.....ขณะที่ตาจ้องเป๋งไปยังหน้าจอที่กำลังแสดงผล










“พี่สาวนมใหญ่จัง..........อยากรู้ว่าข้างในนั้น  มีที่ให้กระผมได้ซุกหาไออุ่นหรือไม่ขอรับ....โอ้เย่”


เฮ้ยยยย.....คนโตแล้วเค้าโพสท์ตอบกันแบบนี้เร๊อะไอ้หม๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา
.............................................
To be Con

 :oo1: :oo1: :oo1:

ออฟไลน์ Donaldye

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 563
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +69/-1
อ๊ากกกกกกกกกกกกหมาบิ๊กมันโรคจิต555
ให้กำลังใจคนเขียนด้วยคนนะ เราเป็นอีกคนที่ตามอ่านเรื่องนี้อยู่แต่อาจจะไม่ได้เม้นบ่อยๆ
แต่ต่อไปจะเม้นให้นะ เป็นกำลังใจให้ ทาเคชิ! \m/

ออฟไลน์ jeeu

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 688
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-1
พี่บู้ของเจ้
ช่างน่ารัก น่ากอด
หมั่นเขี้ยวอ่ะ
แต่ละสิ่งที่พี่คิด มันสุดยอด
คนปกติเค้าไม่คิดเลยนะเนี้ย
น่ารักมากมาย

ออฟไลน์ Alone Alone

  • ขอตายในอ้อมกอดฮยอกแจ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-0
เด็กพิเศษ จ้ากกกกกกก

ช้านอยากเป็น (ไม่ใช่ละ เหอๆ)

ออฟไลน์ bebe

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 672
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-5
 บู้ทะลึ่ง ว่ะ 5555 

บิ๊กจะทำงัยต่อไปเนี้ย

Crossley

  • บุคคลทั่วไป
บิ๊กไม่ไหวแล้วลูก เริ่มเป็นหนักแล้วนะ  o21

flawless

  • บุคคลทั่วไป
อิบิ๊กน่ากลัวอ่า...ถ้ามันหาตัวพี่บู้เจอจะทำไรพ่อหนุ่มนักรักของเราบ้างป่ะนี่ ????
แต่หนุ่มบอมน่ารักอ่ะ อิๆ หล่อ? รวย แถมใจดีอีกด้วย เดี๋ยวแอบปันใจจากพี่บู้
ให้บอมนิดหน่อยดีก่า :-[
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-01-2012 18:54:16 โดย flawless »

ออฟไลน์ BitterSweet~

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 788
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-0
รักน้องบู้ เจ้าหมาน้อย ^^

ออฟไลน์ fastation

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 632
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-3
โว๊ะ บักบิ๊กอาการหนักแหะ = =;; (สยองแทนบักบู้)
ส่วนบักบู้ นี่คือผู้ใหญ่แล้วใช่ไหมฟร่ะนั้น (ตบเกรียนบักบู้ // โดนรุมอีกที )

หึหึหึ อยากรู้จริงๆว่าถ้าเกิดโดนจับได้ จะเป็นยังไง ไม่รอดแน่ๆ

รออ่านต่อจ้า ^0^

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ mutyamania

  • สามารถติดตามงานติดเรทที่ลงเล้าไม่ได้ที่ ReadAWrite ในชื่อมัสยากลับมาจากป่าช้า
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1898
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +794/-139
    • https://mutyawhocamebackfromthedead.readawrite.com
ตอนที่  9  เจอกันจนได้นะเจ้าหมาน้อย



“พี่.....”
“นาย.....”



แฝดผู้น้องทำได้แค่เพียงยืนนิ่งเสมือนรูปสลักหิน  ดวงตาคมจ้องมองพี่ชายตัวน้อยที่มีท่าทีตกใจไม่ต่างกัน  ริมฝีปากเล็กกำลังสั่น  พอ ๆ กับไหล่ผอมลู่  ขนตามร่างกายลุกชันขึ้นมาโดยไม่ทราบสาเหตุ



พี่......พี่จ๋า.....พี่ชายของเค้า











ต่อจากนี้ไป....จงซึมซับกับความทรมานแสนสาหัสเสียเถอะ!!!
.
.
.
.
.
.
.
“นี่มันก็จะอาทิตย์นึงแล้วนะเฮ้ย  มึงไม่คิดจะโผล่หัวไปเรียน  หรือว่าดู ๆ ที่อยู่ใหม่เลยรึไง  ลืมไปแล้วเหรอว่ากูน่ะให้มึงซุกหัวนอนแค่ชั่วคราว”


ชายหนุ่มผู้ซึ่งเป็นเจ้าของบ้าน  และเจ้าของจอแอลซีดีขนาดยักษ์บนผนังห้องนั่งเล่น  เอ่ยปากถามแขกผู้ไม่ได้รับเชิญด้วยน้ำเสียงที่บ่งบอกถึงความเอือมระอา


“ชู่ว!!! เงียบสิ....เพื่อนกำลังดูละครอยู่นะ....ละครพื้นบ้านน่ะเฮ้ย  เสียอรรถรสหมด  มีตาลุงมานั่งบนข้าง ๆ แบบนี้น่ะ”
พ่อหนุ่มน้อยตัวกระจ้อยร่อยที่กำลังนั่งกอดเข่าดูโทรทัศน์อยู่บนพื้นแทนที่จะนั่งบนโซฟา(ด้วยความเคยชิน)  หันมาตำหนิเพื่อนรัก  ที่บังอาจมาขัดขวางความสุขเบา ๆในยามเช้า




โป๊ก!!!!!!


มะเหงกหนัก ๆ เขกลงไปบนหัวของพ่อรูปหล่ออารมณ์สุนทรีย์  นายบู้ร้องจ้ากก่อนจะหันไปมองหน้าเพื่อนผู้มีพระคุณอีกครั้งอย่างคาดโทษ 


ปฐวิทย์  หรือ ‘บอมเพื่อนรัก’ ส่ายหัวอย่างไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไป  เช้าวันนี้โดยปกติคือวันพักผ่อน  แล้วตอนเช้า ๆ เนี่ย  พ่อหนุ่มมักจะฝันดีเสียด้วยสิ  แต่ก็ถูกขัดความสุขโดยเสียงทุบประตูปึงปัง  ตามมาด้วยเสียงแหบ ๆ ที่ตะโกนแหลมแยงหูเข้ามา  พอรู้ตัวอีกที  พ่อฟันเขี้ยวก็หย่อนก้นนั่งอยู่บนหัวเตียง  หันมาฉีกยิ้มกวนโอ้ย  พร้อมกับประโยคทักทายว่า......”โย่ว!!!!  มอร์หนิงนะเพื่อนรัก  ไปดูละครจักร ๆ วงศ์ ๆ ที่สนุกที่สุดในโลกกับเพื่อนหน่อยจิ”  และ  “เค้าชงกาแฟให้สามีด้วยนะ....นี่บาริสต้ามาเองเลยนะมึง  อร่อยเหาะ”

บนโต๊ะกินข้าวมีชามโจ๊กร้อน ๆตั้งอยู่เคียงคู่กับกาแฟของพ่อบาริสต้า....คงเป็นเจ้าประจำของชายหนุ่มนั่นแหละ  ก็ถ้าวันไหนมีเรียนเช้าก็จะแวะทานโจ๊กหน้าปากซอยด้วยกัน  เผลอแปบเดียว




จะครบอาทิตย์แล้วสิเนี่ย!!!

ชายหนุ่มอดกระตุกยิ้มไม่ได้....ไม่รู้ว่าจะรู้สึกดีหรือรู้สึกแย่  ที่ต้องมาหายใจใช้ชีวิต...ร่วมกับเด็กติงต๊อง-มนุษย์แคระผู้ไม่สนใจโลกพรรค์นี้  แต่อย่างน้อย ๆ มันก็ยังรู้จักทำอะไรเป็นการตอบแทนบ้างล่ะนะ




พรวดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!!!








“ไหนฟะเชี่ย!!!!....กาแฟที่มึงบอกว่าอร่อย.....เชี่ยเอ๊ย....นี่มันซีอิ๊วขาวนี่เฮ้ย  กร๊วก.....สัดบู้มึงแกล้งกูเรอะ”

ชายหนุ่มโวยวาย....หลังจากซดซีอิ๊วขาวในแก้วกาแฟเข้าไปเต็ม ๆ....ไม่ทันจะได้พ่นออกหรอก....เพราะด้วยอารามความตกใจ  เลยเผลอกลืนเอื๊อกลงไปจนหมด
“เปล่านิ.....เออ....บอม  กูหาถ้วยเล็กสำหรับใส่น้ำจิ้มไม่เจอว่ะ  เลยเอาแก้วมาใส่ซีอิ๊วไปก่อน  ระวังหยิบผิดนะเฮ้ย.....แต่ไม่ทันแล้วใช่มั้ยนั่น”
เสียงแหบ ๆ ของไอ้ตาโฉดตะโกนมาจากห้องรับแขก  สบายพ่อล่ะสิ  มาสิงสถิตอยู่บ้านคนอื่นแบบนี้  ไม่ต้องทนอึดอัดกับเตียงที่ต้องนอนเบียด  ร่างกายใหญ่โตของคนเป็นน้องที่บดเบียดเข้ามาจนแทบจะไม่เหลือที่ว่างได้ขยับ




พี่เกลียดนาย.....พี่รักนาย.....แต่พี่ก็เกลียดนาย


กาแฟอีกแก้ว...ที่คาดว่าจะเป็นของจริงถูกยกขึ้นจิบ....อืม....ไม่เลวนะพ่อบาริสต้า....ชายหนุ่มดื่มด่ำกับความหอมหวานละมุนลิ้นอันแฝงอยู่ในความขมกลมกล่อม(?)  รสชาติกาแฟหลังจากกลั้วคอด้วยซีอิ๊วขาวนี้มัน.....








สุโคร่ยว่ะเอ็ง




“มิน่าล่ะ  กูว่าทำไมแมร่งชงให้กูสองแก้ว  เหี้ยมาก”  ชายหนุ่มหย่อนตัวลงนั่งข้าง ๆ เจ้าหมาน้อยหลังจากจัดการกับมื้อเช้า  และนั่งดูละครจักร ๆ วงศ์ ๆ ไปพร้อม ๆ กันอย่างไม่มีทางเลือก  สลับกับมองพ่อเด็กพิเศษที่ดูจะลุ้นจนก้นไม่ติดพื้น  อินลึกจนไม่มีใครเข้าแทรกได้   



ความสงบสุข....ความเป็นส่วนตัว.....รายการทีวีรายการโปรด



สิ่งเหล่านี้โดนตัวหายนะตัวเล็ก ๆ ดูดกลืนไปจนหมดไม่มีเหลือ....หนึ่งอาทิตย์เทียบเท่าหนึ่งปี....แต่ในความทรมานนั้น  บางครั้งมันก็ยังแอบแฝงความตื้นตันใจแบบแปลก ๆ....ชายหนุ่มรู้สึกแบบนั้น....อยู่คนเดียวมาตลอดจนชาชินกับความเหงา  พอมีคนมาอยู่ด้วย  ถึงจะเป็นคนแบบนี้....มันก็อดที่จะรู้สึกดีขึ้นมาไม่ได้

หลังจากเอาแต่จ้องเพื่อนตัวเล็กอยู่นาน  บอมจึงตัดสินใจเอ่ยถามบางสิ่งกับเจ้าหมาน้อยหลังเข้าสู่ช่วงเบรกโฆษณา  ด้วยน้ำเสียงที่เริงร่าสบาย ๆ....แต่คำถามนั้นกลับทำเอาพ่อเด็กพิเศษของขึ้น....

“เออ....แล้วนี่ยังไงเนี่ย  สรุปว่าพวกมึงทะเลาะเหี้ยอะไรกันนักหนาวะ...ปกติแมร่งหวานกันจะตาย  มีแต่คนคิดว่าเป็นผัวเมีย...มีอะไรก็เล่าให้เจ้าของบ้านฟังได้นะเว้ย  เผื่อกูจะได้ช่วยแนะนำอะไรได้บ้าง....แบบ....เป็นที่ปรึกษาไร้เงี้ยะ” 


“หวานเหี้ยไร....สาดหมา!!!!”  หมาน้อยเห่าเสียงขรม  แยกเขี้ยวยิงฟันพร้อมกับทำตาถลน  ดูน่ารักน่าเตะให้กลิ้งอย่างบอกไม่ถูก
“เอ๊า....ก็ม่ายรู้ซี....ก็เห็นงุ้ง ๆ งิ้ง ๆกันตลอด  แต่คราวนี้คงจะทะเลาะกันแรงสิท่า  แย่งหญิงกันรึไงคร๊าบ....แน่ ๆ เลย”
“เหี้ย....มึงไม่ต้องรู้สักเรื่องเหอะแม่ม....เอาเป็นว่ากูจะไม่กลับไปหามันอีกแล้ว  ถ้ามึงรำคาญกูมาก  กูออกไปนอนข้างถนนก็ได้  ข้างนอกนั่นคงจะมีที่พอสำหรับกูหรอกน่ะ....เผลอ ๆ กูอาจจะเจอเพื่อนที่ใจกว่ามึงด้วยแม่ม....แม่มๆๆๆ”  หมาน้อยชักมีน้ำโห  เมื่อถูกเจ้าบ้านเอ่ยปากไล่อ้อม ๆ(และตรง ๆ) มาหลายครั้ง...ไอ้เด็กแสบใส่รัวเป็นชุด  แอบน้อยใจนิด ๆ ที่ถูกผลักไสไล่ส่ง  นั่นทำให้อดคิดถึงอ้อมกอดสยองของดำศรีขึ้นมาวูบหนึ่ง 
“เออ ๆ ๆ ๆ เอาเถอะคร๊าบป๋า....ป๋าอยากจะสิงอยู่นานเท่าไหร่ก็ตามใจละกัน  ไม่ไล่แล้ว  แต่มึงสองคนก็เพื่อนกูอ่ะ  ไม่อยากให้เพื่อนโกรธกัน  แถมแมร่งยังเสือกเป็นแฝดกันอีก....กูก็อยากให้พวกมึงดีกันไว ๆเหอะน่ะ  หายากนะ  แฝดดี ๆ อย่างไอ้บิ๊กอ่ะ  ตามใจมึงทุกอย่างอ่ะ  จนมึงเสียคนแล้วรู้ตัวป่ะ”

บู้น้อยน้ำท่วมปาก  ตามใจน่ะมันก็แค่เปลือกนอก....แท้ที่จริงแล้วเจ้าเด็กดำน่ะเผด็จการตัวพ่อ  แถมยังบ้าอำนาจแบบไร้ขีดจำกัด  ตามหลอนกันไม่เว้นแม้แต่ยามกิน...นอน....ขับถ่าย....ฝันก็ยังตามเข้ามาข่มเหง

ฝันร้ายทุกคืน....รู้สึกเหมือนมีของหนักกดทับตลอดเวลา....พอตื่นขึ้นมาก็ปวดหัวตุ่บ ๆ

“เอาเหอะ....เรื่องนี้กูก็พูดได้แค่นี้แหละ  มึงตัดสินใจเอาเองละกัน”  ชายหนุ่มขยี้หัวเจ้าหมาน้อย  ใบหน้าที่หมองเศร้า  ค่อย ๆ กลับมาเป็นปกติ  ปากเล็ก ๆ ยู่เข้ามาจนปากจู๋
“มาให้เมียบ๊วบทีมา.....จู๊บบบบบ”
“อี๋......ไม่ไหวนะ.....เมียปากมันแผล็บเลย  ไปเช็ดเศษมันฝรั่งออกจากปากก่อนไป๊”


ดู ๆไป....มันน่ารักดีนะ.....แต่ว่า









ชายหนุ่มเจ้าสำราญผู้รักสันโดษอย่างปัฐวิทย์....ยังไม่พร้อมที่จะเป็นพ่อคนเสียด้วยสิ
.
.
.
.
.
“ซี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด”

กางเกงในสีขาวของพี่ชาย....ถูกดำศรีสูดดมเข้าไปจนเต็มปอด  มือแกร่งกำท่อนเนื้อร้อนที่แข็งเกร็งของตน  และรูดขึ้นลงอย่างบ้าคลั่ง  ภายในห้องเช่าถูกปิดจนมืดทึบ  มีเพียงเสียงครางกระเส่าจากร่างกำยำที่กำลังเปลือยเปล่า

“พี่จ๋า.....เค้าต้องการพี่...อา.....ไอ้เด็กน้อยของเค้า”

เพียงนึกภาพร่างกายขาว ๆ ผอมเล็กเหมือนเด็กประถมกำลังเปลือยเปล่านอนสะอึกสะอื้นอยู่บนเตียง  เจ้าคนผิวคล้ำก็รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังดำดิ่งอยู่ในหลุมพรางอันดำมืดที่พี่ชายได้สร้างขึ้น  อยากเหลือเกินที่จะสอดประสานเป็นหนึ่งเดียวกับเจ้าตัวน้อย  แขนผอม ๆ ที่เห็นจะเป็นส่วนเดียวที่มีเนื้อหนังให้ได้บีบขยำ  ไม่นับแก้มก้นปอด ๆ ทำเอาแฝดผู้น้องใกล้ถึงฝั่งฝัน  เพียงแค่ได้มโนภาพถึงฉากร่วมรัก

คนตัวโตทิ้งตัวลงกับที่นอนราวกับเด็กทารก  กลิ้งเกลือกถูไถไปบนผ้าปูและผ้าห่มที่มีแต่กลิ่นหอมของพี่....เริ่มจางแล้วนะ....กลิ่นของหมา....เห็นทีคงจะต้องรีบทำอะไรสักอย่างแล้ว

“พี่มันเลว.....เด็กเลวต้องถูกลงโทษ....เด็กอย่างพี่ต้องจับฟาดให้แดงเป็นรอยมือ....เด็กอย่างพี่น่ะ...ฮึก.....อ่าห์.....”

น้ำรักมหาศาลถูกปลดปล่อยออกมาในคราวเดียว....หลังจากที่เก็บมาเป็นอาทิตย์.....ชายหนุ่มซู๊ดปากกัดฟันด้วยความสะใจ....แต่นั่นก็ดูเหมือนว่าจะยังไม่พอ....ต้องเป็นพี่ตัวเป็น ๆ เท่านั้น...ไอ้ลูกหมาเนื้อนิ่มของเค้า


ก๊อก ๆ ๆ ๆ


บิ๊กเดินไปส่องตาแมวดูอย่างเซ็ง ๆ หลังจากที่จัดการกับน้ำสีขาวขุ่นของตัวเองจนสะอาดเอี่ยม  และคว้ากางเกงขาสั้นสำหรับใส่อยู่ห้องมาสวมโดยเปลือยท่อนบนเอาไว้  แผงอกที่ดูแล้วเซ็กซี่เหลือหลาย  ทำเอาคนมองถึงกับตาค้างด้วยความอึ้งตะลึงงัน....หลังจากที่โซ่ประตูและที่ล็อคลูกบิดถูกปลดออก....
“บิ๊ก.....ทำไรอยู่อ่ะ”
“ว่าวอยู่”
“เฮ้ย”
“มีธุระอะไรรึเปล่า”
“บู้ยังไม่กลับมาอีกเหรอ”

ร่างเล็กของเพื่อนร่วมชั้นโงนเงนง่อนแง่น  จวนเจียนจะล้มแหล่มิล้มแหล่  ก็ชายหนุ่มตรงหน้าเขาช่างกระตุ้นต่อมอะดรีนาลีนในตัวเสียเหลือเกิน  เป็นคนที่มีเซ็กส์แอพพีลจนแม้แต่ผู้ชายแท้ ๆ(ที่หน้าสวยจัดจนตัวเองต้องกลุ้ม)อย่างบูมยังรู้สึกร้อน ๆ หนาว ๆ ราวกับจะจับไข้
“เป็นอะไร....หน้าซีด”
“ก็นายอ่ะแต่งตัวไม่เรียบร้อย  มาโชว์ของแบบนี้คนเขาก็อิจฉาเป็นนะเฮ้ย”
“นายอย่ามีเลย  แบบนี้อ่ะดีแล้ว....สาวกรี๊ด....เชื่อเรา......เค้าบอกว่านายเป็นทอมที่หล่อเหมือนผู้ชายทั้งแท่งมาก”
“ก็ผู้ชายสิฟะไอ้เบื๊อกนี่....เราจะชวนนายออกไปเดินเล่นคลายเครียดซักหน่อย....จะไปด้วยกันมั้ย”

บิ๊กจ้อมมองพ่อหนุ่มน้อยร่างเล็กหน้าหวานเชื่อมกำลังยิ้มแฉ่ง...ก็อดที่จะนึกถึงเจ้าหมาน้อยขึ้นมาไม่ได้  แม้ว่าทั้งคู่จะแตกต่างกันสุดขั้ว  คนละแนว  แต่อย่างน้อยก็เหมือนกันที่ความแคระ....แถมตอนนี้พ่อหนุ่มสวยยังซอยผมซะสั้นจนหัวกลมดิกอีกต่างหาก.....

“ก็ดี....กำลังเซ็ง ๆ....บูมเข้ามานั่งรอข้างในก่อนมา...เดี๋ยวเราอาบน้ำแปบเดียว....”
“เค้าอาบกับตัวเธอด้วยจิ....จิ๊บิจิ๊บิ”


ไอ้สัดเมฆ.......มึงนี่หลอกหลอนกูดีแท้  ดำศรีรู้สึกว่าตัวเองตกต่ำสุดขีด  กับชีวิตที่ปราศจากน้องหมา

“เราลืมบอกบิ๊กไปน่ะ  ว่าเมฆเค้าขอตามมาด้วย”
“เมียพี่เมฆเซ็กส์ซี่....โชว์หวิว....อุ๊บ๊ะ”
“ไอ้เหี้ยเมฆ.....ไสหัวไปไกล ๆ ตีนเลยไป๊”




ดำศรีอยากจะบ้า!!!!!!!
.
.
.
.
.
นี่เขากลายเป็นคุณพ่อยังหนุ่มไปเสียแล้วสินะ


ลูกน้อยเด็กโข่งเดินลากขาตามหลังมาต้อย ๆ เสื้อยืดลายการ์ตูนหลวม ๆกับกางเกงขาสั้น  ทำให้ยากที่จะเชื่อ  ว่านี่คือเด็กมหาวิทยาลัย  ในมือถือไอศกรีมโคนที่ละลายจนเยิ้มเปรอะไปหมดทั้งปากและมือข้างที่ถือ...

“บู้....แดกยังไงของมึงเนี่ย...เลอะเทอะนะ”

ทำไมนะ....ปกติวันอาทิตย์แบบนี้คือวันพักผ่อนอันแสนสุข  การได้มาเดินชิว ๆ ดูเสื้อผ้า กระเป๋า  รองเท้าในห้างสรรพสินค้าที่เปิดแอร์เย็นเฉียบ  คือสิ่งที่เฝ้าฝันจากการตรากตรำร่ำเรียนมาตลอดทั้งอาทิตย์  บวกกับคร่ำเคร่งอ่านตำราเตรียมสอบปลายภาคที่จะถึง  ทำเอาชายหนุ่มอดใจรอแทบไม่ไหว  แต่ทำไมวันนี้เขาถึงจะต้องหนีบไอ้กร๊วกนี่มาด้วย

ก็แค่ไอ้หมอนี่มานั่งคุกเข่าเว้าวอนทำตาปิ๊ง ๆ ออดอ้อนเหมือนลูกหมาอยู่ข้างๆประตูรถฝั่งคนขับ....มันก็เท่านั้น...ไม่น่าใจอ่อนเลยให้ตายสิ!!!!

แถมยังจะต้องเสียเงินเลี้ยงขนมจุกจิก  ทั้ง ๆ ที่มันรับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าจะไม่รบกวนอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว  ขอแค่เหน็บมันมาด้วย  เหมือนกับพกถุงยางอนามัยในกระเป๋าสตางค์  นายตาโฉดว่าอย่างนั้น....ก่อนจะกระดิกหางดิก....แล้วกระโจนตามขึ้นไปบนรถ

เสียงแหบ ๆ อันเป็นเอกลักษณ์พูดเจื้อยแจ้วสลับกับตะโกนโหวกแหวกอย่างไม่แคร์สื่อมาตลอดทาง....และแต่ละประโยคก็ช่างทำเอาคนที่พามาด้วยตัวลีบ....หน้าหดเหลือสองนิ้ว

“บอม.....ด้านขวา...สิบห้านาฬิกา....บ๊ะละฮึ่ม....”
“บอม....แวะร้านนี้เด่....น้องคนขายน่ารัก”
"บ๊อมมมมมม......ไนกี้ก๊อป.....ร้านนี้แมร่งก๊อป.....แจ้งตำรวจมาจับแมร่งเลยบอมมี่...."(ด้วยเสียงแปดหลอด)



และ

“บอม....เมียอยากกินติม....แต่เมียไม่มีเศษ....พอดีพกแต่แบงค์พันมาน่ะ”

บ๊ะ!!!!!!

ถึงจะแอบหงุดหงิดรำคาญ  แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่าการมาเดินห้างในวันนี้  ต่างจากวันเดิม ๆ

คงเป็นเพราะมีเพื่อนมาด้วยละมั้ง

“เอ้าเช็ดซะ....”  กระดาษทิชชู่ถูกควักส่งให้เจ้าเด็กน้อยปากไม่สิ้นกลิ่นไอติม  นายบู้รับมาด้วยท่าทางกวนโอ๊ย  ก่อนจะรูดฟรึ่บไปบนคราบไอศครีมที่เกาะตัวกันอยู่รอบริมฝีปาก
“เทคแคร์แบบนี้หนูเขิลนะคะพี่ขาแอร๋ยยย....”  ให้ตายเหอะ  หมาน้อยดัดจริต  แต่ดูแล้วเหมือนกำลังทำล้อเลียนอย่างเห็นได้ชัดเสียมากกว่า  เลยไม่ค่อยอายเท่าไหร่  ถ้าสมจริงคงต้องใส่ความแรดลงไปมากกว่านี้....ซึ่งอย่าเลย  ชายหนุ่มนึก
“เดี๋ยวกูกระโดดถีบขาคู่ไอ้เหี้ยบู้”
“บอม ๆ....เพื่อนอยากดูหนัง....ไปดูหนังกันเถอะ”
“เหี้ยยยยย.....คราวนี้มึงออกเองบ้างนะไอ้ผี.....รำคาญอ่ะเฮ้ย....”
“ป๋าเลี้ยงเอง....ม๊ะ....ไปหาอะไรดูแก้เครียดดีฝ่า....ใกล้สอบแล้วนี่นะ....กูยังไม่ได้อ่านเหี้ยอะไรเลย....ฮา....”

เจ้าหมาน้อยนั้นแลดูจะคึกและตื่นเต้นเป็นพิเศษ  ปกติใช่ว่าจะได้ออกไปไหนมาไหนเหมือนเด็กคนอื่น  ชีวิตที่ถูกกักขัง  และมีแต่น้องร่างยักษ์  ทำเอาพี่ชายรู้สึกห่อเหี่ยวอยู่นับครั้งไม่ถ้อน  สายตาหลากหลายคู่มองทั้งสองคนอย่างกรุ้มกริ่มมีเลศนัย  บางคนก็มองว่าเป็นคู่รักที่ฝ่ายรับดูจะเพี้ยน ๆ บางคนก็มองว่าพี่ชายพาน้องที่ป่วยเป็นออทิสติกมาเดินห้างหรู


“หมา.....”








และแล้วเสียงอันคุ้นเคยก็ทำลายความตื่นเต้นนั้น....พร้อมกับนำพาความน่าสะพรึงมาสู่หัวใจของน้องหมา










ชิท.....หาเจอได้ไงวะ....บังเอิญไปมั้ย

[to be con]

...............................................
มาแล้ว ๆ คิดถึงกันบ้างแม๊ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-01-2012 19:50:06 โดย mutyamania »

ออฟไลน์ eaey

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 280
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-0
แอบอ่านอยู่ อยากรู้หมาจะโดนจัดหนักยังไง :oo1:

ออฟไลน์ bebe

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 672
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-5
น้อง บู้ ไม่คิดถึง บิ๊กเรยใช่มะ  นิสัยยย

ออฟไลน์ BitterSweet~

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 788
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-0

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
เรียน จขร.

มีสมาชิกแจ้งว่า  กระทู้นี้มีการกระทำที่อาจเข้าข่ายผิดกฏข้อที่ 6.  ที่ว่า "อย่าพูดคุย ทักทาย นักเขียน คนอ่่านโดยรีพลายดังกล่าวไม่เกี่ยวพันกับนิยายให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรคอมเม้นต์สักคอมเม้นต์เีดียวก็เพียงพอแล้ว ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และทำลิงค์โยงมายังนิยาย ฯ "  ในรีที่  67-70

จึงขอให้ระมัดระวังในการกระทำด้วย  เพื่อป้องกันมิให้เกิดกระทำใดๆ ที่อาจเข้าข่ายผิดกฏ

อนึ่ง  ไม่ทราบว่าฉบับเดิมจะให้ลบทิ้งเลยไหมคะ

เจ้สอง  โมดุฯ

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41
หมาน้อยจะโดน
จัดหนักมั๊ยเนี่ย :z2:
 

ออฟไลน์ Alone Alone

  • ขอตายในอ้อมกอดฮยอกแจ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-0
ชะรอยว่าบักบิ๊กในภาคนี้มันแลดูโรคจิตเสียจริง

กร้ากกกกกกก

flawless

  • บุคคลทั่วไป
โอ๊ะโอ...เจอกันได้ไง บังเอิญแท้
คิดแล้วให้เสียววาบ กะน้องบู้ที่รัก
จะเจอกับอะไรบ้างล่ะนี่????
กลัวแทนบู้น้อยเหลือเกินแล้ว

ออฟไลน์ fastation

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 632
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-3
หึหึหึหึ น้องบู้ หมดเวลาสนุกแล้วสิ หมดเวลาสนุกแล้วสิ ~~~
เอาตัวรอดให้ได้เด้อ แล้วอย่างนี้บักบอมจะเป็นยังไงละนี่
บักดำศรีละจะทำยังไง -..- ~~

รออ่านต่อจ้า

ออฟไลน์ mutyamania

  • สามารถติดตามงานติดเรทที่ลงเล้าไม่ได้ที่ ReadAWrite ในชื่อมัสยากลับมาจากป่าช้า
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1898
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +794/-139
    • https://mutyawhocamebackfromthedead.readawrite.com
ตอนที่ 10 : พบกันอีกครั้ง






“พ่อครับ.....แม่ครับ.....บิ๊กมีอะไรมาอวดด้วย”





เด็กชายผิวเข้มบอกกับผู้เป็นบุพการีอย่างตื่นเต้น  ทันทีที่สลัดรองเท้านักเรียนไซส์โตออกเป็นที่เรียบร้อย  มือข้างหนึ่งล้วงหยิบบางอย่างออกมาจากกระเป๋า  พร้อมกับชูอวดให้กับบุคคลทั้งสอง  มันคือรูปวาดบนกระดาษวาดเขียนขนาดเอสี่  ที่มีคะแนนจากอาจารย์ประทับอยู่ตงมุมขวามือด้านล่าง  รอยประทับตรารูปหน้าคนยิ้มจำนวนสี่ดวง  พร้อมกับคำว่า A+  หมายถึงได้คะแนนสูงสุด  รูปที่เด็กชายวาดนั้น  เป็นเหล่าสัตว์ซาฟารีที่ระบายสีสันอย่างสวยงาม  โดยเฉพาะเจ้าม้าลายที่ระบายสียากเป็นหนักหนา....

“ผมเก่งใช่มั้ยล่ะ....รูปนี้วาดยากมากเลย  แถมยังระบายสียากด้วย  แต่คุณครูบอกว่าผมเป็นเด็กมีพรสวรรค์”  เจ้าเด็กน้อยโอ้อวดอย่างทะนงตน  พร้อมกับหันไปยักคิ้วให้กับเด็กผู้ชายอีกคนที่ค่อย ๆ เดินลากขาเข้ามาอย่างอ้อยอิ่ง  และนั่งแหมะอยู่ตรงมุมโต๊ะอย่างสันโดด
“เก่งจ้ะ....ลูกแม่เก่งมาก”
“สงสัยเลือดพ่อจะแรงนะ....ว่ามั้ยคุณ”

เจ้าตัวโตรู้สึกเหนือกว่าพี่ชายตัวน้อย  นาน ๆ ครั้งพ่อกับแม่จะสนใจตนบ้าง  เพราะมัวแต่เป็นห่วงเจ้าเด็กขี้โรคผิวซีดเผือด  หากกับเจ้าลูกทะโมนอีกคน  ไม่ค่อยน่าห่วงเท่าไรนัก  เพราะรู้จักที่จะปรับตัวเข้ากับสังคมได้เร็วและดีกว่าเด็กคนอื่น ๆ
“น้องบู้ล่ะ....มีอะไรจะอวดหรือเปล่า”
ผู้เป็นพ่อหันไปถามยิ้ม ๆ อย่างเอ็นดู  เจ้าตัวน้อยส่ายหัวดิก  มือเล็กขยุ้มกระเป๋าเป้แน่น
“ขอพ่อดูของน้องบู้ได้มั้ย”
“แต่มันไม่สวยนะ”
“เอาเถอะ....ผลงานไม่สำคัญเท่าความพยายามนะ  ไหนขอพ่อดูหน่อยสิ”

กระดาษเอสี่ยับ ๆ ถูกผู้เป็นพ่อรับมาแล้วคลี่ออก  รูปวาดที่ลายเส้นบิดเบี้ยวแต่ก็หนักแน่น  แสดงให้เห็นว่าคนวาดตั้งใจมากกว่าจะขีด ๆ เพื่อส่งไป  เป็นรูปของคนสามคนที่ได้คะแนนเพียงแค่ซีบวก  บิดาคลี่ยิ้มกว้าง  แต่เด็กน้อยเข้าใจว่าคนเป็นพ่อกำลังขำ  มือเล็กนั้นไขว่คว้าหมายจะแย่ง  ชายหนุ่มขยี้หัวลูกชายคนโตเบา ๆ
“ก็สวยดีนี่นา”
“จริงนะ”
“ดูสิ  อันนี้พ่อใช่มั้ย....หัวหยิกเหมือนตัวจริงเลย  ส่วนนี่ก็แม่....คุณมาดูน้องบู้วาดคุณสิ  ปากแดงแปร๊ดเชียว  เหมือนไม่เหมือนก็มาดูเอง”

เด็กน้อยหัวเราะเอิ๊กอ๊าก  ใบหน้าขาวนั้นดูเจ้าเล่ห์แต่ก็น่ารัก  ความสนใจของบุพการีถูกดึงมากระจุกอยู่ที่อีกด้านหนึ่งของโต๊ะตัวยาว  แล้วแฝดผู้น้องก็รู้สึกโดดเดี่ยวอีกครั้ง

อีกแล้วนะ....พี่.....ไอ้เด็กบ้า....ชอบเรียกร้องความสนใจ

ทั้งสามพูดคุยและหยอกเย้ากันอยู่ครู่หนึ่ง  จนเจ้าเด็กผิวเข้มรูปร่างโตเกินเพื่อนร่วมชั้นรู้สึกโหวงเหวงจนอยากจะเดินหนี  แต่ก็ถูกรั้งเอาไว้ด้วยคำถามของผู้เป็นแม่
“แล้วเจ้าบิ๊กละจ๊ะ....ไม่เห็นมีในรูปเลย”
“น้องบู้ไม่วาดรูปน้องเหรอลูก”  คนเป็นพ่อถามขึ้นบ้าง  เจ้าตัวเล็กสะบัดหน้าแรง ๆ.....
“บิ๊กไม่ให้วาด....บิ๊กบอกว่าบู้วาดน่าเกลียด  ถ้าวาดน้องจะต่อยบู้”
.
.
.
.
.
“ไหนขอเค้าดูรูปตัวหน่อยจิ”  ทันทีที่ถึงห้อง  แฝดผู้น้องก็รบเร้า  ทั้ง ๆ ที่เมื่อตอนชั่วโมงวาดเขียนยังไม่แม้แต่จะชายตาแล  พี่ชายตัวน้อยกำรูปวาดของตนอย่างลังเล
“ถ้าพี่ไม่รีบส่งมาละก็....พี่เจ็บตัวแน่”
ไม่ต้องรอให้พูดซ้ำ  มืออันสั่นเทาก็ส่งรูปนั้นให้อีกฝ่าย  เจ้าตัวโตกว่ารับมาดูแล้วก็หัวเราะคิก
“ทู่เรศ.....ไม่เห็นจะสวยอย่างที่พ่อบอกเลย....ไอ้เด็กปัญญาอ่อน....เด็กปัญญาอ่อนก็ชอบทำอะไรอ่อน ๆ แบบนี้แหละ หึ”
“เอาคืนมานะ!!!!”
“รูปแบบนี้น่ะเหรอ....ถ้าเป็นเค้า ๆ จะขยำให้เละแบบนี้  แล้วก็ฉีก....”






แคว่กกกกกก......!!!!!!!

น้ำตาที่กำลังปริ่มพลันไหลทะลัก  เสียงร้องไห้เริ่มดังขึ้นพร้อมกับไหล่ที่สั่นไหว....พี่ชายกำลังร้อง  แล้วหากคราวนี้ถูกจับได้ว่ารังแกพี่ชายอีก  เจ้าเด็กดำจะต้องถูกหักค่าขนม.....และงดของหวานของโปรด....นั่นคือเค้กช๊อคโกแล็ต

“เงียบนะ....”
“ฮึก....ฮึก....แง.....แง๊......เค้าเกลียดตัว.....ไอ้เด็กใจร้าย.....ฮึก....ฮึก....เค้าจะฟ้องแม่”

แขนผอม ๆ ถูกบีบเพื่อให้อีกฝ่ายนั้นหยุด  แต่ก็ดูจะไม่เป็นผล....พี่ชายยิ่งร้องไห้หนักขึ้น  และเสียงร้องนั้นก็ดังขึ้นกว่าเดิมอีก






ทำอย่างไรดี.....ขืนแม่ขึ้นมาเห็นล่ะก็....

มือที่กำแขนเล็กเอาไว้นั้นเริ่มคลายลง  ร่างเล็ก ๆของเจ้าตัวน้อยถูกดึงมากอดแน่น....หน้าอกของเจ้าตัวโตถูกกัดทันทีที่หัวกลมเล็กนั้นแนบชิด  แต่เด็กผิวเข้มก็อดทน  มือของตนนั้นลูบหัวคนเป็นพี่เบา ๆ

“ไม่ร้องนะ.....เค้าขอโทษ.....เค้าจะทำให้รูปตัวเป็นเหมือนเดิม”

แล้วแฝดผู้น้องก็ทำอย่างที่บอกทุกอย่าง....เช้าวันรุ่งขึ้นที่พี่ชายตื่นนอน  รูปที่ถูกฉีกขาดก็ถูกแปะอยู่บนผนังห้อง  ตรงรอยฉีกนั้นปิดทับด้วยเทปใส  หากมองเผิน ๆ ก็แทบจะมองไม่ออกว่าเคยถูกฉีกมาก่อน....

“บิ๊ก.....บิ๊ก ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ”
“อะไรเล่าเค้าจะนอน”
“ขอบใจนะ”
“อื่อ”

พี่ชายยิ้ม....อันที่จริงจะว่าเหมือนเดิมก็คงจะไม่ถูกนั้น  รูปวาดในตอนนี้ถูกเพิ่มเติมบางสิ่ง  เป็นรูปคนกำลังนั่งร้องไห้  และเจ้าคน ๆ นั้นก็ถูกระบายด้วยสีน้ำตาลเข้ม  ตามสีผิวที่แท้จริง....ตรงใต้รูปคนนั้นมีตัวหนังสือเขียนโย้เย้  แต่ก็ถือว่าสวยสำหรับลายมือของเด็กอนุบาลสอง.....




‘ขอโทษนะพี่’


มันถูกเขียนไว้ว่าอย่างนั้น
.
.
.
.
.
.
.
“แน่ใจนะว่ามึงจะไม่กลับไป  ทั้ง ๆ ที่มันเจอมึงแล้วเนี่ยนะ  แล้วมันก็รู้แล้วล่ะ  ว่ามึงมานอนกับกูอ่ะ”  บอมเอ่ยถามเพื่อนตัวเล็กที่กำลังแต่งตัวอยู่หน้ากระจก  ผมเผ้าถูกหวีจนเรียบแปล้เป็นท่านเจ้าคุณ
“มันยังไม่รู้ซักหน่อย”
“ไม่รู้ห่าอะไร....ก็เห็นชัด ๆ ว่ามึงมากับกูอ่ะ”
“มึงก็บอกไปดิ  ว่าบังเอิญมาเจอกับกู  ก็เลยชวนกันมาดูหนัง...โห่.....อย่าทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ไปหน่อยเลยน่า”

เจ้าหมาน้อยพูดไปพลางทำหน้าเจ้าชู้ไก่แจ้กับเงาของตนในกระจก  ในหัวเอาแต่คิดถึงข้อความที่โต้ตอบกับพี่สาวจนลืมเรื่องเมื่อวานไปแล้วเสียด้วยซ้ำ  มือของเพื่อนผู้เป็นเจ้าของบ้านยื่นมาขยี้หัวเรียบ ๆ นั่นจนยุ่งเละเทะเป็นรังนก
“อย่าเด่ะ.....สาดนิ”
“เออ....พ่อคนเก่ง....เอาไงก็เอา  อย่าให้ไอ้บิ๊กมาฆ่ากูก็แล้วกัน” 

พ่อฟันเขี้ยวหันมายิ้มแฉ่งกับเพื่อนรัก  ก่อนจะยกคิ้วพร้อมกับชูนิ้วกลางให้  จนนายบอมนั้นอยากจะเตะเบา ๆ สักป้าบ  ให้สาสมกับความกวนประสาทของคนตาโฉด

“กูไปแล้วนะ”
“อ้าวไม่ไปพร้อมกันเรอะ?”
“ได้ไง....เดี๋ยวบิ๊กมันก็รู้ดิ  ว่ากูมาอยู่กับมึง  แยกกันไปอ่ะดีแล้ว  มึงก็ไปตามปกติของมึง  ส่วนกูเดี๋ยวจะนั่งรถเมล์เลยไปสักสี่ห้าป้าย  แล้วค่อยย้อนมาจากอีกทางเพื่อความสมจริง”
“ฉลาดนะมึงไอ้บู้....เรื่องเหี้ย ๆ เนี่ย”
“ชมกูช่ายแม๊ะ”

แล้วมันก็จากไปอย่างสุดเท่ห์.....ท่าของคนเท่ห์คือโบกมือลาโดยไม่หันไปมองอีกฝ่าย  และมือข้างหนึ่งก็ล้วงคาอยู่ในกระเป๋ากางเกงนักศึกษา  พ่อคนเท่ห์เดินไปได้ยังไม่ทันพ้นห้องดีนักร้อง  ก็ถูกเตะเข้าให้ที่ก้นปอด....
“เชี่ยบอม”
“ฮ่า ๆ ๆ ๆ ๆ.....ขอซักทีเหอะนะ”
.
.
.
.
.

พี่.....ในที่สุดพี่ก็มาแล้วสินะ






ดำศรีจ้องเขม็งไปยังผู้มาใหม่  เมื่ออาจารย์เริ่มสอนไปได้สักสิบห้านาที  ร่างเล็กที่ดูเหนื่อยหอบเหมือนกับวิ่งมาจากที่พักมาตลอดทางนั่น  ก็โผล่เข้ามาพร้อมกับเดินอาด ๆ ด้วยท่าเดินที่กวนประสาทเสียเหลือเกิน  พี่ชายมองหากลุ่มของตน....ที่นั่งที่ว่ามีเพียงที่เดียว  คือด้านในชิดผนังห้อง....แน่นอน....ว่าอีกด้านหนึ่งถูกจับจองโดยร่างยักษ์ใหญ่ที่กำลังเท้าคางมองอยู่ของแฝดผู้น้อง  ซึ่งหมาน้อยก็หาได้แคร์ไม่!!!!

หากว่าการที่ต้องทนอยู่กับหมาน้อยหนึ่งอาทิตย์ของนายบอมเท่ากับหนึ่งปีแล้วนั้น  เมื่อเทียบกับความรู้สึกของน้องชายที่ต้องห่างจากคนเป็นพี่ถึงเจ็ดวัน  มันกลับเทียบเท่าเวลาถึงหนึ่งปีเต็ม ๆ!!!....ดำศรีอดใจแทบไม่ไหว  อยากดึงตัวพี่ชายมากอดแน่น ๆ แล้วทำโทษให้สาสม...แต่ดวงตาคมคู่นั้นก็ทำได้เพียงแค่มอง  และรอคอยอย่างใจเย็น

“นั่นเลย...กูจองไว้ให้มึง....ลูกชายของกู  ทีนี้ก็จะได้เป็นพ่อแม่ลูกนั่งเรียงกัน  ครอบครัวสุขสันต์ ฮ่าฮ่าฮ่า”  เสกสกล  หรือนายเมฆผู้แสนเซอร์ยังขยันหยอดพ่อดำศรีเหมือนอย่างเคย  บู้น้อยหันไปมองเพื่อนบอมที่กำลังทำหน้าประมาณว่ารู้สึกผิดที่ไม่สามารถช่วยอะไรได้  สลับกับมองหน้านิ่ง ๆ ของบูม
“บูมเราอยากนั่งตรงนี้อ่ะ  นายไปนั่งข้างในได้ป่ะ”
“ทำไมอ่ะ....บู้ก็ไปนั่งกับบิ๊กสิ”
“ไม่เอา.....นะบูมนะ  นั่งตรงนั้นเราอึดอัด....หายใจไม่ออกงิ”  หมาน้อยคุกเข่าลงอ้อนวอน  เพื่อไม่ให้เป็นการประเจิดประเจ้อเกินไปนัก  เพราะว่าตัวเองนั้นเป็นคนเดียวในห้องที่กำลังยืนหัวโด่อยู่อย่างโดดเด่นเป็นสง่า
“บูมมานั่งกับเราก็ได้มา....จะได้จบ ๆ.....ถ้าเค้าไม่อยากนั่งบูมก็ช่วยหน่อยก็แล้วกัน”  ดำศรีเอ่ยเสียงเรียบ  พี่ชายเสียวสันหลังวาบขึ้นมาทันที  แม้ไม่ได้หันไปมองก็รู้สึกว่าตนนั้นกำลังถูกจับจ้องหมายหัวอยู่  บูมเก็บของบนโต๊ะอย่างว่าง่าย  ย้ายไปนั่งข้างพ่อคนผิวเข้มด้วยความเต็มใจสุด ๆ


หมาน้อยยังคงทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งที่ใจกำลังเต้นถี่ด้วยความตื่นเต้น  ฝ่ามือทั้งสองข้างชื้นไปด้วยเหงื่อ  ครั้นจะหันไปคุยกับเพื่อนอีกคนที่กำลังอาศัยบ้านของเขาซุกหัวนอนก็ดูจะเป็นการเสี่ยงจนเกินไป

“เมฆ.....มึงเก็บชีทเอาไว้ป่ะ....คือกูยังไม่ได้อ่ะ”
“ไอ้บิ๊ก....เอาชีทให้พี่มึงดิ๊”
“ไม่เอาแล้ว....เดี๋ยวกูยืมของมึงไปซีรอกซ์นะ”

หมาน้อยก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมถึงได้รู้สึกกลัวแบบนี้  ทั้ง ๆ ที่ก่อนจะหนีออกมา  ก็ไม่ได้มีปากเสียงอะไรกับคนเป็นน้องเลยแม้แต่น้อย  มิหนำซ้ำยังถูกกกกอดเอาไว้ตลอดทั้งคืน  แต่พอคิดดี ๆ เหตุผลที่ต้องหนีออกมามันก็เพราะแบบนี้....เจ้าลิงยักษ์มันอ่อนโยนและน่ากลัวไปพร้อม ๆ กันเหมือนคนสองบุคลิก  เรื่องปากเสียงนั้นคงไม่มีวันได้แอ๊ะอยู่แล้ว  ก็ขนาดหงอแบบนี้ก็ยังไม่วายทุกทำรุนแรงทุกครั้ง....ที่เผลอพูดหรือทำอะไรขัดอกขัดใจพ่อเข้า....


แต่ที่ทนไม่ได้เห็นจะเป็น.....ช่างเหอะ....เจ้าหมาน้อยไม่อยากจะนึกถึง



เกลียด ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ


“นักศึกษาคะเนื่องจากว่าเรากำลังจะสอบปลายภาคกันช่วงปลายเดือนนี้  ซึ่งก็คือในอีกไม่ถึงสองอาทิตย์  แล้วเราก็มีเวลาเตรียมตัวกันเพียงอาทิตย์เดียว  วิชาของอาจารย์ก็จะเหลือเพียงวันพรุ่งนี้ก็เป็นคาบสุดท้ายแล้ว  อาจารย์เลยจะเพิ่มชั่วโมงเรียนต่ออีกสองชั่วโมงเพื่อทบทวนเนื้อหา  ดังนั้นตอนเย็นนี้ประมาณสี่โมงครึ่งขอให้มาเจอกันที่ตึกเก้า  อาจารย์หาห้องเอาไว้ได้แล้ว  พวกเราก็จะเรียนรวมกับเซคหก....แล้วก็เซคห้า.....”

เสียงอาจารย์ที่กำลังประกาศอยู่....หาได้สร้างความบีบครั้นได้เท่ากับเสียง ๆ หนึ่งที่ดังมาจากไม่ใกล้ไม่ไกลนัก
“ศุกร์นี้มาติวกันที่ห้องกูนะ....ใครจะมาก็มา...คนที่นั่งข้างมึงอ่ะบอม  เค้าลืมหนังสือเรียนเอาไว้ที่ห้อง  ถ้าอยากจะสอบผ่านก็ช่วยขอความกรุณาอันเชิญด้วย...”

ไม่ต้องแปลก็รู้ว่าเจ้าดำใหญ่กำลังพูดถึงใคร......และกำลังพูดกับใคร  เจ้าหมาน้อยอยากคุยกับน้องชายใจจะขาด  แต่ด้วยหลาย ๆ อย่างที่ตัวเองก่อเรื่องเอาไว้  ความฟอร์มจัด  ความกลัว  และความสับสน  ทำให้พี่ชายไม่กล้าแม้แต่จะหันไปสบตา  นั่นยิ่งทำให้ดำศรีรู้สึกหงุดหงิดจนต้องหาทางระบายออก
“บูมครับ  เลิกเรียนแล้วเราไปกินข้าวต้มต้องหน้ามอกันดีฝ่า  ไอ้เหี้ยเมฆมึงจะมาด้วยก็ได้นะ  แต่ถ้ามาลวนลามกู  กูจะสาดด้วยข้าวต้ม...”

เสียงพูดคุย....หยอกล้อ....เล่นหัวดังขึ้นอีกครั้งเมื่ออาจารย์ปล่อยให้พักเบรกสิบนาที  จะมีก็แต่พ่อหนุ่มสองนายที่นั่งตัวชิดติดกันอยู่อีกฝั่ง  ที่ดูเหมือนจะกลายเป็นหมาหัวเน่าไปเสียแล้ว  สองหนุ่มหันมาสบตากันอย่างเลิ่กลั่ก  แต่แล้วนายบู้ก็เป็นฝ่ายเริ่มชวนคุยก่อน

“บอม....เมื่อคืนพี่ไนซ์เค้าชมว่ากูน่ารักด้วย  เค้าบอกว่ากูเยิงดี  พี่เค้าชอบผู้ชายทะลึ่งนะ...มึงว่ามั้ย....กูน่ะไอ้แอ้มชัวร์”  ไม่รู้ว่าจงใจหรือว่าอย่างไร  เจ้าหมาน้อยก็หาได้รู้ตัวไม่  ว่าตัวเองนั้นพูดดังเสียจนใครคนหนึ่งต้องหยุดและหันมามองด้วยสายตาที่ไม่อาจคาดเดาได้  หมาน้อยกำลังคุยฟุ้งกับเพื่อนหน้าหล่อที่ชักจะทำตัวไม่ถูก...นายบอมนั้นรู้สึกเสียว ๆ อยู่เหมือนกัน  หากจะต้องถูกดำศรีเขม่น  ไอ้คนนิ่ง ๆ เก๊ก ๆ ที่บางครั้งก็ดูเหมือนจะดีใจหาย  แต่บางครั้งก็ดูป่วยทางจิตแบบไม่อาจคาดเดาได้แบบเจ้าหมอนี่  มันช่างทำให้เกิดความรู้สึกอึดอัดและกดดันขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้....

“บู้.....มึงเรียนเหอะ....เดี๋ยวสอบไม่ได้นะเว้ย”


บางครั้งชายหนุ่มคิดว่า....การเลี่ยงออกห่างเจ้าหมาน้อย  ดูจะเป็นหนทางที่ปลอดภัยที่สุด







แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่สามารถทำใจทิ้งเพื่อนเจ้าปัญหาได้ลง !!!!

~ปิ๊บ~
1 ข้อความ
เปิดอ่าน?

[[บิ๊กมันมองอยู่  มึงพอก่อนนะ  เดี๋ยวจะซวย  โอเช๊ะ]]



ปฐวิทย์อยากรู้จนใจจะขาดเสียแล้วสิ....ว่ามันเกิดอะไรขึ้นระหว่างสองคนนี้กันแน่  เรื่องที่สงสัยกันเล่น ๆ นั้นจะมีทางเกิดขึ้นจริงบ้างหรือเปล่า









และที่สำคัญนั้นชายหนุ่มรู้สึกตาขวากระตุกขึ้นมาโดยไม่ทราบสาเหตุ

.................................................................................
มาอีกตอน.....ไม่นานเกินรอได้อ่านฉากทรมานหมาน้อยแน่ ๆค่ะ  เอิ๊ก ๆ ๆ  กำลังจะแต่งเรื่องของน้องคนเล็กด้วย  เพราะรู้สึกว่าชอบคู่ของเบียร์กับหนูตูมตาม  ทายาทแห่งความจิต....มาดูกันนะ  ว่าพ่อหนูจะจิตสู้พี่ชายคนกลางได้หรือเปล่า

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ bebe

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 672
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-5
ตอนเด็กน่ารักอะ เรียกกันแทนว่า ตัว มันน่ารักดี

ออฟไลน์ jeeu

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 688
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-1
พี่บู้น่ารักเป็นที่สุด อยากลักพาตัวมาเก็บใว้บ้าน                                               
รักพี่บู้  กอดคนเขียนจ้าาาาาาา~

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41
จะเกิดอะไรขึ้นอีกเนี่ย

flawless

  • บุคคลทั่วไป
ผิดคาด นึกว่าบิ๊กจะรีบกระชากตัวบู้กลับบ้านทันทีที่พบตัวเสียอีก
แต่...มันจิตขนาดนี้ชักไม่อยากให้พี่บู้กลับเสียแล้วสิ กลัวหมานน้อย
จะเป็นอะไรไป

ออฟไลน์ mutyamania

  • สามารถติดตามงานติดเรทที่ลงเล้าไม่ได้ที่ ReadAWrite ในชื่อมัสยากลับมาจากป่าช้า
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1898
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +794/-139
    • https://mutyawhocamebackfromthedead.readawrite.com
ตอนพิเศษสั้นๆ  น้องคนเล็กกับเจ้าเด็กข้างบ้าน



ปัง!!!





เสียงประตูที่ปิดกระแทกใส่หน้าทำเอาพ่อหนูน้อยในชุดเสื้อกล้าม  มือข้างหนึ่งกอดตุ๊กตาไดโนเสาร์สีเหลืองน้ำตาคลอหน่วย

เหตุผลที่ถูกเนรเทศออกมา....เป็นเพราะว่าช่วงนี้เป็นช่วงสอบปลายภาคของเด็กนักเรียนมัธยม  ที่โดยทั่วไปแล้วมักจะสอบกันเร็วกว่าน้อง ๆ หนู ๆ วัยประถม  จึงทำให้ช่วงนี้พี่ชายคนโตถูกมฤตยูดำศรีกักตัวเอาไว้ในห้องนอนด้วยเหตุผลที่ฟังขึ้น....


เพื่ออนาคตของเจ้าหมาน้อย  เพื่อการได้เข้าเรียนในช่วงชั้นมัธยมปลาย...ในโรงเรียนมีชื่อประจำจังหวัดที่ดีกว่าเดิม
“น้องเบียร์อย่าไปกวนพวกพี่ ๆ เค้านะลูก  หนูเองก็เตรียมตัวมั่งนะ  เห็นว่าอ่อนคณิตศาสตร์ไม่ใช่หรือเรา”  แม่ของเจ้าหนูภัทร...หรือน้องเบียร์กล่าวกับเด็กน้อย  พร้อมกับจูงแขนผอมเล็กให้ออกมาจากตรงนั้น  เด็กชายผู้มีดวงตาเจ้าเล่ห์ร้ายกาจแบบฉบับตัวโกงถอนใจอย่างเซ็ง ๆ
“โหย.....อีกตั้งเดือนอ่ะแม่....กว่าจะสอบ....งี้เบียร์ก็เบื่อตายดิ”
“ถ้าเบื่อก็แวะไปเล่นกับน้องตามสิเรา”

น้องตาม....หรือตูมตาม  เด็กข้างบ้านท่าทางประหลาดที่อายุน้อยกว่าพ่อหนูของเราถึงสองปีเนี่ยนะ  เล่นกับคนที่เด็กกว่ามันจะไปสนุกอะไรกันล่ะ!!!!
.
.
.
.
.
.
.
.
“ซูมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม”  เครื่องบินโบอิ้งเจทจำลองพุ่งเข้าชนเจ้าตุ๊กตาก๊อตซิลล่าตัวยักษ์ที่กำลังถล่มตึกรามบ้านช่อง....อันทำมาจากตัวต่อเลโก้

เจ้าก๊อตซิลล่านั้นหักหลบได้ทัน  เครื่องบินโบอิ้งเจทจึงพุ่งชนตึกสีแดงแปร๋นเข้าให้เต็ม ๆ

“หึหึหึหึหึหึ......พวกมนุษย์หน้าโง่”  เด็กน้อยยิ้มแฉ่งเผยให้เห็นฟันหน้าที่ห่างกันนิด ๆ พ่อหนูมักโดนเพื่อนล้อว่าไอ้หลอบ้างล่ะ...ไอ้ที่ขูดมะพร้าวบ้างล่ะ  อันที่จริงแล้วฟันห่าง ๆ ของพ่อคุณก็ดูจะเข้ากับหน้าตาเอ๋อ ๆ บ๊อง ๆ ได้อย่างลงตัวอยู่ใช่น้อยเสียเมื่อไหร่

“น้องตามลูก...พี่เบียร์มาหาหนูแน่ะ”
“เบียร์......”

เด็กน้อยตะโกนลั่นอย่างดีใจ  เท้าเล็ก ๆ วิ่งลงส้นตึงตังเสียจนมารดาต้องตะโกนเอ็ด  แต่ก็ดูเหมือนว่าพ่อหนูตูมตามจะหาได้ฟังไม่
“บอกกี่ครั้งแล้ว  ว่าพี่เป็นพี่เรานะ  แก่กว่าเราตั้งสองปี  ทำไมชอบเรียกเบียร์เฉย ๆ ฟะ”
“ก็เบียร์เป็นเพื่อนเรานี่นา  ขึ้นไปเล่นกัน.....คิดถึง”
“แหวะ....พูดอะไรตุ๊ดชะมัด”
“ก็มันจริงนี่นา”

เด็กชายภัทรตัวแสบแอบลอบมองผิวขาว ๆ ของเด็กข้างบ้านด้วยความรู้สึกตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก  ขณะที่เดินตามอีกฝ่ายขึ้นไปยังชั้นบนของตัวบ้าน  แก้มของตูมตามนั้นพอมองจากด้านหลังแล้วก็ยังคงนูนป่องออกมา  เชิญชวนให้ต้องหยิกเล่นเบา ๆ แต่สำหรับน้องเบียร์แล้ว  เค้าชอบที่จะบิดมันแรง ๆ มากกว่า
“เจ็บนะ”
“เจ็บเหรอ....งั้นเอาอีกข้างเนอะ  จะได้สมดุล”
“สมดุลแปลว่าอะไรเหรอเบียร์”

ประตูห้องของพ่อหนูถูกกดล็อคโดยน้ำมือของแขกผู้มาเยือน  แล้วร่างเล็ก ๆ นั่นก็ถูกผลักลงบนฟูกนิ่ม ๆ หลังเก่าที่ถูกลากลงมาเพื่อใช้สำหรับนั่งเล่น  เด็กน้อยมีท่าทีที่หวาดผวาแต่ก็ไม่ได้ขัดขืน

“จะเล่นแบบนั้นอีกแล้วเหรอ”
“อื่อ”
“เราเล่นอย่างอื่นไม่ได้เหรอเบียร์”
“ไม่!!!! ทำไม?.....เล่นแบบนี้แล้วมันทำไม  หรือว่าเราไม่อยากเล่น  พี่จะได้กลับ”
“อย่าไปนะ....เล่นก็ได้  แต่อย่านานนะเดี๋ยวแม่จับได้”

ริมฝีปากนุ่ม ๆ ถูกบดขยี้อย่างไม่ประสา  ไม่ใช่จูบแรก  และไม่ใช่ครั้งแรกที่ถูกทำแบบนี้  หากแต่ต่อหนูน้อยเบียร์กำลังทดลองภาคปฏิบัติ  หลังจากที่ศึกษาภาคทฤษฎีมาจากหนังเรทผู้ใหญ่(ในห้องของดำศรี)

เสื้อผ้าชิ้นน้อยถูกถอดออกจนเหลือแต่ร่างกายเปลือยเปล่า  ความรู้สึกแปลก ๆ เกิดขึ้นเมื่อร่างกายนั้นบดเบียดเสียดสีกันไปมา.....

“เบียร์”
“อื้อ.....อะไรเล่า”
“มันแปลก ๆ อ่ะ”
“แต่เราก็ชอบไม่ใช่เหรอ”

ผิวเนื้อเนียนของเด็กน้อยเจ้าของห้องถูกขบกัดขึ้นมาอย่างไม่ทันได้ระวัง  แม้ตูมตามน้อยจะเจ็บจนน้ำตาเล็ด  แต่ก็ไม่กล้าที่จะร้องออกมาแม้แต่แอะเดียว  กลัวว่าหากขัดใจแล้ว  พี่ชายข้างบ้านจะไม่มาหาอีก  แล้วตัวเองก็ต้องกลับไปเป็นเป้าให้พวกเด็กเกเรรุมรังแกอีกครั้ง....

“พี่ชอบเล่นแบบนี้...มันคันยิบ ๆ ตรงไอ้จ้อน...เราเป็นป่ะ”
“ไม่เป็น.....เป็น.....ไม่....เอ่อ...เป็นมั้ง....ไม่รู้สิเบียร์”
“เบียร์ ๆ ๆ อยู่ได้  บอกให้เรียกพี่ว่าพี่ไงฟะ”
“ฮ่าฮ่าฮ่า....ไม่มีทาง  เราดื้อจะตายเบียร์ก็รู้”

คงเป็นเรื่องเดียวที่พ่อหนูกล้าขัดใจ  เนื่องจากว่าพี่ชายข้างบ้านนั้นไม่เคยที่จะโกรธกับเรื่องนี้อย่างจริง ๆ จัง ๆซักครั้ง  แก้มป่องถูกหอมฟอดแล้ว...ฟอดเล่า  ความรู้สึกเสียวกระสันแบบวูบสั้น ๆ เกิดขึ้น  ไอ้จ้อนน้อยที่บวมเป่งของเด็กชายภัทรบดขยี้เนื้อนิ่ม ๆ ข้างลำตัวของร่างเล็กที่กำลังถูกก่ายกอดถูไถ และเนื่องจากว่าพ่อหนูยังไม่มีแม้แต่น้ำอสุจิใส ๆ  จึงไม่ต้องกังวลว่าจะมีอะไรเลอะเทอะตามออกมาให้ถูกจับได้แบบของผู้ใหญ่  การเสียดสีนั้นค่อย ๆ ผ่อนลง  จนในที่สุดเบียร์ก็ผละออกมาจากร่างนั้น  นอนหอบหายใจแฮ่กด้วยความเหนื่อย

“เล่นเสร็จแล้วเหรอเบียร์”
“เบื่อแล้ว....พี่กลับไปหาพี่บู้ดีฝ่า”
“อย่าพึงไป....อยู่เล่นกับเราก่อน  เดี๋ยวตอนบ่ายแม่เราจะออกไปโลตัส....เราไม่อยากไป....แล้วก็ไม่อยากอยู่คนเดียว”
“งั้นจะเล่นอะไรดีล่ะ”
“เล่นหุ่นยนต์มั้ย  เรามีหุ่นยนต์ตัวใหม่  เราให้เบียร์เล่นเลย  เราเป็นสัตว์ประหลาดเอง”
“ง่ะ.....ไม่เอาอ่ะ...พี่โตแล้วนะ....เล่นอะไรต๊อง ๆ แบบนั้นไม่ได้แล้ว”
“งั้นเล่นมวยปล้ำมั้ย....แต่เบียร์ห้ามจับเรายกกลับหัวแบบวันนั้นอีกนะ  มันน่ากลัว”
“ชิส์ ๆ ๆ ๆ เพราะเรามันขี้ขลาดแบบนี้ไงเลยถูกเค้ารังแกทั้งปีทั้งชาติ”
“แต่เราก็มีเบียร์คอยช่วยไม่ใช่เหรอ”

ตูมตามยิ้มแฉ่ง  ผมหยักศกของพ่อหนูน้อยโดนเด็กที่โตกว่าขยี้จนเละไม่เป็นทรง
“เอาผมลงมาปิด ๆ หน้าแบบนี้...เราก็ดูคล้ายพี่ชายของพี่เหมือนกันนะนี่”
“ไม่เหมือน!!!!  พี่เบียร์อ่ะหล่อไม่เท่าเราหรอก....เราหล่อกว่า”
“หน้าเหมือนกระรอกตกน้ำแบบนี้เนี่ยนะ  ขำว่ะเรา....เอางี้  ไปนั่งเล่นคอมพ์ที่บ้านพี่เอามั้ย  ถ้านายทำตัวดี ๆ เชื่อฟังพี่  พี่จะสอนให้เราเล่นเกมส์แบบที่เด็กโตเค้าเล่นกัน  เราจะได้เท่ห์ ๆ ไง”
“จริงนะเบียร์”
“จริงสิ....พี่ไม่เคยโกหกนาย”

เด็กน้อยทั้งสองกำลังดำดิ่งสู่ความผิดพลาด  โดยที่ต่างฝ่ายต่างก็ไม่รู้ตัว  แรงปรารถนาขับเคลื่อนไปตามสัญชาตญาณ  โดยจุดเริ่มต้นมันเริ่มมาจากความต้องการในส่วนลึก  สิ่งที่ต่างฝ่ายต่างก็ขาด....



พี่ชายคนโต....คนที่คอยปกป้องพ่อหนูเบียร์จากพี่ชายคนรองที่กราดเกรี้ยว....พ่อหนูพยายามหาที่ว่างเพื่อแทรกเข้าไปตรงกลางของฝาแฝด....พี่ชายคนโตนั้นใจดีแล้วก็น่าสงสาร  ผิดกับอีกคนที่ดูใจร้ายแต่ก็น่าเป็นแบบอย่าง  พ่อหนูเคยเห็นพี่ชายคนรองกัดพี่คนโต  ความรู้สึกนั้นตื่นเต้นกว่าเมื่อได้เป็นฝ่ายกระทำกับร่างกายของเด็กข้างบ้านดูบ้าง

ถึงใจจะเกลียด  แต่กลับซึมซับพฤติกรรมของพี่คนรองโดยไม่รู้ตัว...ขณะเดียวกันสิ่งที่พ่อหนูนั้นขาดจนต้องหาสิ่งอื่นมาทดแทน....



สิ่งนั้นคือความรักและหัวใจของพี่ชายคนโต  พ่อหนูรู้ดีว่าตัวเค้าไม่มีทางที่จะได้มา....สิ่งที่รับทุกวันนี้เป็นเพียงความสงสารเวทนาเท่านั้น






เบียร์....เรารักเบียร์นะ....ถึงเบียร์จะชอบแกล้งเรา  แต่เบียร์ก็ใจดี....คอยปกป้องเรามาตลอด


















และขณะที่เด็กคนหนึ่งต้องการเพียงแค่ที่ระบาย  พ่อหนูน้อยอีกคนก็ยอมตกเป็นเหยื่ออย่างเต็มใจ....

..........................................
To be con
มาแบบเบาะ ๆ...จิตกันแบบแบ๊ว ๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-01-2012 09:50:40 โดย mutyamania »

ออฟไลน์ ๛ナーリバス๛

  • ~~~๛NaaribuS๛~~~ ~ [TBL-081-588]
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +898/-26
    • NaaribuSS
ฮะโหล....


หายไปนานเหมือนกัน ฮา :beat:

แบบว่าแต่งนิยายตัวเองไม่ออกก็ไม่ค่อยนึกอยากอ่านนิยายคนอื่นเท่าไร  o22
อ่านอะไรยาวๆ ก็ไม่ค่อยจะได้ ขี้เกียจ :เฮ้อ:
เอาล่ะ เลิกหมกมุ่นกับนิยายตัวเอง(ซึ่งพล็อตวนไปวนมาจนเรียบเรียงไม่ได้) มาอ่านงานชาวบ้านซะที

(ตื่นได้แล้วรอก่อนนะ เดี๋ยวจะไปอ่านทีหลัง ขอให้ได้ลงงานตัวเองเป็นชิ้นเป็นอันให้หายเครียดก่อนนะคะ TT_TT เป็นโรคหัวสมองตีบตัน ปั่นงานเขียนแต่ล่ะชิ้นใช้เวลานานอ่ะ :sad4:)



จบเรื่องตัวเองมาคุยเรื่องนี้กันอย่างจริงจัง....

(เกริ่นเป็นการเป็นการจนเชลบี้เครียดหรือเปล่า? ฮาๆ ไม่ขนาดนั้นเนอะ อิอิ)

เข้ามาอ่านติดกันหลายตอนก็ รู้สึกแปลกๆ หลายอย่าง

การดำเนินเรื่องตัดฉากอดีตกับปัจจุบันรวดเร็วเหมือนภาพยนตร์ แล้วก็การ์ตูนญี่ปุ่นบางเรื่อง

อารมณ์ก็คล้ายๆ


อ่านภาคนี้แล้วหน่วงๆ ยังไงไม่รู้เพราะรู้สึกว่าบิ๊กมันโรคจิตแบบสุดๆอ่ะ
คือนิเพิ่งอ่านการ์ตูนเรื่องหนึ่งมาก็มีฉากคล้ายๆอย่างนี้เหมือนกัน ประเภท สื่อสารอะไรไม่ได้เอะอะจับกดๆ (อ่านการ์ตูนพวกนี้บ่อยๆ ตัวละครจับกด คนอ่านก็เก็บกด เอามาระบายใส่งานเขียนเป็นNc แรงๆก็ยังมี )

นี่ก็พอกัน....อารมณ์รุนแรง ออกโรคจิตแบบนี้กลัวบิ๊กมันจะเป็นบ้าไป


บู้เปลี่ยนไปเยอะมาก ดูเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นมีความคิดความอ่านโตขึ้นกว่าเดิม(นิดนึง) แต่ถึงจะไม่ได้ขี้อ้อนติดน้องเหมือนเมื่อก่อน แต่ก็รักบิ๊กมากอยู่ดี คงเพราะสงสารด้วยมั้งที่เหลือตัวเองอยู่คนเดียว

ช่วงหลังๆ บู้อยู่กับบอมตลอดแล้วก็ดื้อๆ เอาแต่ใจ กวนๆ เกรียนๆ ใส่บอม ให้ความรู้สึกเหมือนตอนบู้อยู่กับบิ๊กเมื่อก่อนเลย ชักอยากเชียร์ให้เปลี่ยนคู่อยู่เหมือนกัน เพราะกับบิ๊กที่แลจิตๆ ก็น่าแกล้งให้ได้รับโทษอะไรบ้างเหมือนกัน (แต่คาดว่าเชลบี้คงไม่เปลี่ยนมั้งเพราะบอมมันดูจะรำคาญบู้มากกว่าจะชอบนะ ฮาๆ)


ส่วนเบียร์ บู้อ่ะ มันติงต๊อง น่าสงสาร น่ะใช่

แต่บิ๊ก ที่ดูเป็นผู้ใหญ่มากกว่า ก็แค่ภายนอกนะเฮ้ย!
การที่แกคิดจะเอาบิ๊กเป็นแบบอย่าง ประเภทไปกัดคนอื่น หรือรุนแรงใส่คนอื่น โรคจิตมากๆ แบบมันน่ะ

ขอบอกว่า "เป็นความคิดที่ผิดนะเฟ้ย!!!!"


โอยยยยย อ่านแล้วเหนื่อย กับอารมณ์ที่แรงขึ้นๆ และทะลึ่งๆ ตามประสาเด็กผู้ชาย เดี๊ยนรับไม่ได้ค่ะ เพราะเค้ายังไร้เดียงสาไม่คุ้นกับเรื่องพวกนี้ :-[     :z6:


(กลัวมีคนมาอ่านข้อความนี้แล้วบอกว่า อีนี่ตอ-แหลชะมัดเลย!!)


ปล. เป็นกำลังใจให้เชลบี้ ต่อไป มีอะไรแรงๆ เข้ามาก็อย่าไปคิดมากหรือใส่ใจเลยนะ
 
มามะมากอดกันหน่อย  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-01-2012 00:43:17 โดย ๛NaaribuS๛ »

ออฟไลน์ mutyamania

  • สามารถติดตามงานติดเรทที่ลงเล้าไม่ได้ที่ ReadAWrite ในชื่อมัสยากลับมาจากป่าช้า
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1898
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +794/-139
    • https://mutyawhocamebackfromthedead.readawrite.com

ออฟไลน์ O_cha

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 248
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
บิ๊กบู้ ตอนเด็กๆ น่ารักมว๊ากกกกกก 
ซึ้งมากตอนบิ๊กเขียน "ขอโทษนะพี่"
ยิ่งโตยิ่งโรคจิตนะ (แต่คนอ่านชอบ  555)

ปล. พี่บู้น่ารัก

 


flawless

  • บุคคลทั่วไป
ช่างเข้าใจหาต้นแบบได้ดีมากกก น้องเบียร์
สงสารน้องตูมตาม เหยื่อตัวน้อยแสนไร้เดียงสา
งือออ แต่เค้าอยากอ่านพี่บู้อ่ะ > <

ออฟไลน์ jeeu

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 688
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-1
น้องเบียร์
เป็นสำเนาถูกต้องของเจ้าดำนี่เอง
ถึงว่า มันจิตคล้ายใคร
เพราะคอยปกป้อง
น้องตูมตามเลยยอมถูกแกล้ง
น่ารักแบบเด็กๆ
รอตอนต่อไปนะคะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด