รักป่วนใจคุณชายหน้าใสกับนายตาดุ 1แม็ค‘น่าหงุดหงิดชะมัดแฮะ’
ภาพตรงหน้าผมนี่มันช่างน่าหงุดหงิดแกมน่าหมั่นไส้ชะมัด เพราะไอ้ผู้ชายตัวโตคนคุ้นเคยที่ปล่อยให้ใครก็ไม่รู้ควงแขนเดินเกือบรอบงาน คุณๆอาจจะคิดว่าผมเป็นแฟนผู้ชายที่โดนควงแขนจึงออกอาการหึงหวงใช่มั้ยครับ ขอบอกว่าคิดผิดเพราะผมไม่นิยมผู้ชายหุ่นแบบนั้นแน่นอนครับ แต่คนที่ออกอาการดังกล่าวน่ะนั่งอยู่ใกล้ๆผมนี่แหละครับ ก็ไอ้นั่นน่ะมันแฟนพี่ชายผมครับแต่ไม่รู้ยังไง วันนี้ให้ครอบครัวเรามาร่วมงานแต่ดันไปเดินควงแขนกับผู้ชายอื่นแทนพี่ชายผมซะได้ นั่นครับพี่ชายที่น่ารักของผมลุกขึ้นยืนหน้าบึ้งควันออกหูแล้ว ผมจะห้ามก็ไม่ทันพี่ผมเค้าเดินตรงเข้าหาคนทั้งคู่ที่เดินมาใกล้โต๊ะที่เรานั่งเรียบร้อยแล้ว
ผม ‘แม็ค หรือ อดิรุจ’ เป็นผู้ชายตัวสูงหน้าตาคมเข้มติดดุนิดๆได้จากพ่อมาเต็มๆครับ สภาพผมที่หัวเกรียนเพราะเรียนเตรียมตำรวจอยู่เลยอาจจะดูไม่ดีเท่าไอ้คนที่โดนพี่ชายผมจ้องหน้าอยู่ตอนนี้ แต่ขอบอกว่าทั้งรุ่นผมนั้นหน้าตาผมก็หล่อไม่แพ้ใครหรอกครับ และที่ผมต้องเก๊กหน้าดุอยู่ตลอดก็เพราะมีพี่ชายหน้าตาน่ารักมากให้ดูแลแถมถูกพ่อแม่ปลูกฝังมาแต่เด็กว่า ‘แม็คต้องคอยดูแลพี่มิคดีๆนะลูก’ ประโยคนี้มันฝังเข้าเซลล์สมองของผมซะแน่นเลยครับ ตลอดมาตั้งแต่เด็กผมจึงคอยดูแลพี่ชายที่แกกว่าผมเกือบแปดปี มีผู้ชายเข้าหาพี่ผมเยอะนะครับแต่ได้ผมนี่แหละที่คอยกันไว้และที่สำคัญพี่ผมไม่เคยชอบผู้ชายมาก่อน จะมีก็แต่ ‘ไอ้พี่ฟิน’ นั่นแหละครับที่ทำให้ ‘พี่มิค’ ที่น่ารักของผมชอบมันได้ ตอนนี้ทั้งคู่ก็เป็นแฟนกันแล้วทั้งพ่อแม่ผมและคุณตาพี่ฟินก็รับรู้และเปิดโอกาสให้ทั้งคู่คบกัน แรกๆผมก็ไม่ชอบหน้าไอ้พี่ฟินมันนะครับ ก็แบบอยู่ๆก็โผล่มาในฐานะแฟนพี่ชายผมนี่ครับผมย่อมไม่ชอบขี้หน้าเป็นธรรมดา แต่ตอนนี้เริ่มยอมรับพี่เค้าได้บ้างแล้วครับ แต่คืนนี้ก็ไม่แน่ผมอาจจะได้ต่อยหน้าไอ้ว่าที่พี่เขยคนนี้ก็ได้ เล่นควงคนอื่นต่อหน้าพี่มิคของผมอยู่แบบนี้
ภาพคนสามคนที่ยืนประจันหน้ากันโดยมีพี่ฟินโอบเอวพี่มิคด้วยหน้าเจื่อนๆกลืนไม่เข้าคายไม่ออก พี่มิคผู้น่ารักของผมหน้านิ่งสนิทจับจ้องไปที่ผู้ชายตัวเล็กตรงหน้าที่ผมยังเห็นหน้าไม่ชัด นี่ถ้าผมเจอพี่มิคเวอร์ชั่นนี้กับตัวเองคงทำให้ผมกลัวจนหัวหดได้เลยนะครับ ก็ปกติพี่มิคของผมออกจะใจดีน่ารักกับผมมากนี่หน่า สีหน้าแบบนี้แสดงว่าโกรธจัดครับแต่พยายามเก็บอารมณ์อยู่และมันน่ากลัวกว่าโดนพี่มิคโวยวายเป็นไหนๆ ผมตัดสินใจเดินเข้าไปใกล้และเอ่ยแทรกขึ้นกลางกลุ่ม
“สวัสดีครับผมแม็คน้องพี่มิคยินดีที่รู้จักครับ คุณ...”
ผมสามารถเรียกสายตาสามคู่ให้หันมามองผมเป็นตาเดียว พี่มิคผู้น่ารักของผมมองผมอย่างแปลกใจแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร ส่วนพี่ฟินมองผมยิ้มๆครับผมเลยอดจะถลึงมองพี่แกตาดุไม่ได้ครับก็บังอาจทำพี่มิคของผมอารมณ์เสียนี่หน่า ส่วนคนสุดท้ายที่ผมตวัดสายตามามองก็พบว่าเป็นชายหนุ่มจะเรียกว่าเด็กหนุ่มก็ได้ครับเพราะหน้าตาเด็กมากตาโตๆจ้องผมเขม็งมีแววไม่พอใจเต็มเปี่ยม ปากแดงเม้มแน่น แก้มแดงระเรื่อ ตัวเล็กพอๆกับพี่มิคของผม ผิวขาวจั๊วะเชียวครับ ‘น่ารักดีแฮะ’ ยังไม่ทันที่ผมจะพินิจพิจารณาคนน่ารักต่อ คนตัวเล็กตรงหน้าก็เอ่ยออกมาซะก่อนครับ
“ผมนัทครับ พี่ฟินไปกันได้รึยังครับ”
เสียงหวานซะด้วยแฮะ แต่ดูท่าทางนัทจะชอบพี่ฟินเข้าแล้วครับขนาดรู้ว่ามีพี่มิคเป็นแฟนอยู่นะเนี่ย ที่บ้านคงเลี้ยงมาแบบตามใจสุดๆแน่ๆครับคนแบบนี้น่ะ ผมคงต้องยื่นมือช่วยซะแล้วนี่เห็นแกพี่มิคของผมนะครับไม่ได้คิดจะช่วยไอ้ว่าที่พี่เขยตัวดีเลย
“พี่ฟินพี่มิคไปกัน ผมไปด้วยไปกันสี่คนนี่แหละ” พูดเสร็จเลยถือโอกาสที่ทุกคนยังไม่ได้ตั้งตัวแทรกกลางระหว่างพี่ฟินกับนัทเลยครับ
ผมแอบเห็นไอ้ว่าที่พี่เขยยิ้มอย่างถูกใจออกมาแวบหนึ่งด้วยก่อนที่คนตัวเล็กน่ารักที่ยืนข้างๆผมเค้าจะเดินหนีออกไปก่อน ผมจึงหันมามองคู่รักที่ยังโอบเอวกันอยู่ พี่ฟินส่งยิ้มเหมือนขอบคุณมาให้ผมแต่ผมล่ะหมั่นไส้เลยแสยะยิ้มให้ซะเลยครับ และกระซิบให้พี่แกได้รู้ตัว
“พี่จะยืนยิ้มตรงนี้อีกนานมั้ย ไม่รู้เหรอว่าโดนจับตามองอยู่น่ะ” พูดจบผมก็เดินตามหาร่างเล็กที่หนีมาก่อนเลย ปล่อยให้คู่รักเค้าคุยกันเอง
จนเดินมาเจอนัทยืนกอดอกหน้าบึ้งจับจ้องไปที่คู่รักด้านหลังผมอยู่ ขนาดหน้าบึ้งยังน่ารักชักอยากแกล้งให้โวยวายซะแล้วซิครับว่าจะเป็นยังไง
“อ้าว หนีออกมายืนหน้าบึ้งอยู่นี่เอง ไปกันเถอะสองคนนั่นเดินไปนู่นแล้ว หรือว่าจะยืนอยู่ที่นี่คนเดียวไม่ตามแล้วเหรอ” จบประโยคของผมคนหน้าบึ้งหันหน้าขวับมาจ้องหน้าผมทันที ปากเม้มแน่นกว่าเดิมแต่ไม่พูดอะไร ก่อนจะสะบัดหน้าออกเดินตามหลังพี่ฟินกับพี่มิคไป ผมก็เดินตามประกบซิครับ อยากเห็นคนโวยวายจังเลย ฮึๆๆ
“ก็เห็นๆอยู่ว่าเค้าไม่ได้สนใจและมีแฟนแล้วด้วย แต่ทำไมคนบางคนแถวนี้ถึงได้ตื๊อนักก็ไม่รู้เนอะ” ไอ้ ‘เนอะ’ นี่ผมหันมาพูดใส่หน้าคนข้างๆเบาๆ ได้ผลเลยครับนัทหยุดเดินและหันขวับมาทางผม แหงนหน้ามองผมหน้าบึ้งคิ้วขมวด
“นี่นายยุ่งอะไรด้วย มีได้ก็เลิกได้นี่ไม่เห็นสนเลย” เสียงสูงอย่างคนมีอารมณ์โกรธแต่ยังพยายามข่มเสียงให้เบาไม่ให้คนอื่นได้ยิน
ผมที่ได้ยินอึ้งไปเลยครับ นี่แสดงให้เห็นว่านัทเป็นคนเอาแต่ใจสุดๆสงสัยพ่อแม่ไม่เคยขัดใจ ลูกอยากได้อะไรคงหามาประเคนให้ทุกอย่างแน่ๆ ผมก้มหน้าจ้องแววตาวาววับของคนตัวเล็กตรงหน้ามันแสดงถึงแววตาของคนอยากเอาชนะของเด็กเอาแต่ใจ คงไม่ได้นึกชอบพี่ฟินอย่างจริงจังอะไรนักหรอก คนแบบนี้ผมล่ะอยากจับมาดัดนิสัยจริงๆครับ
“ฮึๆๆ แน่ใจเหรอที่พูดมาน่ะ ดูทั้งคู่สิ นายไม่เห็นเหรอว่าพี่ฟินออกจะรักพี่มิคขนาดไหนโอบเอวตลอดเลย แถมพามาเปิดตัวงานเลี้ยงของบริษัทขนาดนี้แล้ว ออกจะชัดเจนว่าพี่ฟินอยากประกาศให้ทุกคนรู้ว่าพี่มิคเนี่ย ‘ว่าที่สะใภ้ตระกูล’ แล้วแบบนี้เค้าคงไม่เลิกกันง่ายๆแบบที่นายว่าหรอกจริงมั้ย” นัทจับจ้องทั้งคู่ตามที่ผมบอกหน้าบึ้งขัดใจ หายใจแรง ยืนกระฟัดกระเฟียดแต่ไม่ได้ทำอะไรไปมากกว่านั้น ก่อนจะหันมาเงยหน้ามองผม
“ก็ใช่สิที่นายพูดแบบนี้ก็เพราะนั่นพี่ชายนายนี่หน่า จะกันท่านัท เอ้ย ผมล่ะสิ ชิ” ผมว่าคนขี้โมโหแทนตัวเองว่านัทน่ารักกว่าเยอะเหมาะกับหน้างอนๆนี่เป็นไหนๆนะครับเนี่ย
“เรียกแทนตัวเองว่านัทสิไม่ต้องฝืน” นัทหันขวับมาจ้องผมเลยครับ คงงงแหละที่อยู่ๆผมก็เปลี่ยนเรื่อง ผมจึงยักคิ้วกวนๆไปให้คนหน้าบึ้งทันที
“ชิ ไม่เอาหรอก” นัทหันขวับเดินตามพี่ฟินพี่มิคไปทันที
ผมก็เดินตามคนเอาแต่ใจคอยกันท่าเมื่อเห็นว่านัทจะเข้าไปแทรกคู่รัก คอยพูดกวนโมโหให้หน้าใสหันมาวีนทำหน้ามุ่ยใส่ ทั้งขำทั้งถูกใจกับคนตัวเล็กตรงหน้าครับ สงสัยไม่เคยมีใครขัดใจมาก่อน เราสี่คนก็เดินไปกันทั่วงานคู่รักเค้าก็เข้าไปทักทายลูกค้าของบริษัท และดูท่าทางพี่มิคของผมจะได้รับความเอ็นดูจากบรรดาลูกค้าสูงอายุเป็นพิเศษก็พี่ผมน่ะเข้ากับกลุ่มคนอายุนี้ได้ดีนี่ครับ อย่างคุณตาพี่ฟินนี่หลงรักพี่มิคไปเลยดูท่าจะรักมากกว่าหลานตัวเองอีกด้วย ส่วนพี่ฟินนี่ยืดอกภูมิใจยิ้มร่าเลยเมื่อมีแต่คนชื่นชมพี่มิคของผม ผมจึงก้มมามองหน้าคนข้างกายที่ได้เห็นภาพเดียวกันกับผมและคงรู้ล่ะครับว่าตัวเองคงไม่สามารถแทรกแซงความรักของคู่รักสุดสวีทคู่นี่ได้แน่ ผมเห็นคนตัวเล็กเงียบมานานและทำตาละห้อยมองพี่ฟินเขม็งปากเม้มแน่นเลยครับ ผมว่าอาการแบบนี้มันเหมือนเด็กๆที่อยากได้ของเล่นแต่พ่อแม่ไม่ซื้อให้ เลยได้แต่จ้องเขม็งดื่อตื๊อไม่ไปไหนจนกว่าพ่อแม่จะใจอ่อนซื้อของเล่นชิ้นนั้นให้ แต่เผอิญว่านี่เป็นคนมีชีวิตจิตใจไม่สามารถซื้อหาได้ด้วยเงินและแถมเค้าก็มีคนรักอยู่แล้วด้วย
“เอ้า กินเค้กสินัท อร่อยนะของหวานจะทำให้อารมณ์ดีขึ้น” จบประโยคผมก็ทำให้สายตาของเด็กเอาแต่ใจเงยหน้ามามองและทำท่าทางจะปฏิเสธความหวังดีของผม
นัทก้มมองเค้กในจานทำสีหน้าครุ่นคิดก่อนเงยหน้ามองผมแบบตัดสินใจ ผมก็ไม่รู้ว่าจะตัดสินใจอะไรนักหนาก็แค่กินเค้กจะได้อารมณ์ดีขึ้นเพราะผมเริ่มเบื่อหน้าบึ้งๆนี่แล้ว อยากเห็นเด็กเอาแต่ใจยิ้มบ้างอยากรู้ว่าจะมีสีหน้าแบบไหนจะน่ารักกว่าหน้างอนๆที่ได้เห็นแค่ไหนกันครับ นัทคว้าจานเค้กจากมือผมและตักชิ้นเล็กๆเหมือนลองชิมเข้าปาก ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองผม
‘โอ้ยยย แสบตา ทำไมมันสว่างเจิดจ้าแบบนี้วะ’
นั่นเป็นสิ่งที่ผมคิดเมื่อได้เห็นรอยยิ้มของนัท ใบหน้าเล็กๆนั่นสว่างไสวทันตาเมื่อริมฝีปากแดงๆฉีกยิ้มกว้างเห็นฟันขาวเป็นระเบียบแอบมีเขี้ยวเล็กๆมุมปาก ตาโตๆยิบหยีทันตา ในความเห็นผมใบหน้านี้เหมาะกับรอยยิ้มที่สุดแล้วครับ นัทไม่ได้สนใจผมหรอกครับที่ยิ้มให้คงเพราะถูกใจในรสชาติของมูสเค้กที่ผมยื่นให้และก้มหน้าก้มตาตักเค้กเข้าปากต่อ
‘เด็กหนอเด็กได้กินของถูกใจเลยลืมคนที่ตัวเองสนใจไปชั่วขณะ’
ผมดูจากท่าทางของนัทแล้วเจ้าตัวคงเริ่มหิวแล้วครับเพราะตั้งแต่มาถึงงานก็ยังไม่ได้กินอะไร ผมจึงคว้าข้อมือบางของคนที่เพิ่งรู้จักให้เดินตามเมื่อเห็นว่าเค้ากินเค้กหมดแล้ว นัทยังไม่ทันตั้งตัวเลยเดินตามผมออกมาแบบงงๆจนเราเดินมาถึงซุ้มอาหารที่มีไว้ให้แขกในงานได้ตักเพิ่มเติมจากอาหารที่เสิร์ฟบนโต๊ะ ผมตักอาหารหน้าตาน่ากินหลายอย่างวางบนจานและส่งให้คนตัวเล็กที่ยืนชะเง้อมองหาคู่รักที่เดินจากมาและทำท่าทางจะเดินเข้าไปหา แต่โดนผมจับไว้ซะก่อน
“หิวแล้วไม่ใช่เหรอ กินก่อนเดี๋ยวค่อยไปเดินตามกันใหม่ ฮึๆๆ” ผมล่ะอดจะยั่วอารมณ์ให้หน้าใสๆบึ้งตึงไม่ได้ แม้ตอนยิ้มจะน่ารักแต่ตอนทำหน้าบึ้งก็น่ารักไม่แพ้กัน
“ยุ่ง!!” มาเต็มหน้าผมเลยครับ ทั้งหน้าทั้งเสียงแสดงว่านัทคงเก็บอารมณ์โกรธผมไม่ไหวแล้วจึงปล่อยออกมาซะดัง
ดีที่แขกในงานเข้านั่งที่โต๊ะกันแล้วแถวนี้เลยไม่มีใครให้ผมได้อาย อารมณ์อยากเอาชนะอยากปราบพยศคนเอาแต่ใจตรงหน้าขึ้นสูง ผมจึงออกแรงบีบข้อมือเล็กๆที่อยู่ในมือจนเจ้าของมือเริ่มสะบัดพยายามแงะมือผมออกหน้ามุ่ยเพราะความเจ็บ ผมจึงคลายแรงบีบลงแต่ไม่ยอมปล่อย และเชื่อได้ว่าหน้าตาผมตอนนี้มันต้องดุมากแน่ๆครับเพราะคนตัวเล็กที่ผมจับไว้เริ่มหลบตาใบหน้าเริ่มซีดเซียวและคอยชำเลืองมองหน้าผมเป็นระยะ ข้อมือหยุดสะบัดหนียอมปล่อยให้ตกอยู่ในการเกาะกุมของผม เห็นภาพเด็กน้อยหยุดพยศก็เผลอยิ้มออกมาแต่นัทคงไม่เห็นเพราะก้มหน้าอยู่
“ไปหาที่นั่งกินกัน” นัทเงยหน้ามองผมแวบหนึ่งในแววตายังมีร่องรอยความกลัวอยู่นิดหน่อย ก่อนจะเสมองไปทางอื่น
ผมจึงจูงข้อมือบางมาหาที่นั่งหลบมุมภายในห้องจัดเลี้ยง เมื่อนั่งกันเรียบร้อยแล้วผมก็ยื่นจานอาหารที่ตักมาให้คนตัวเล็กที่นั่งเงียบ นัทก็ครับไปและจิ้มอาหารเข้าปากอย่างเกร็งๆและยังไม่ยอมมองหน้าผมครับ ผมเห็นแล้วก็นึกสงสารนี่คงกลัวผมมากเลยซินะ
“นัทกินไปก่อน เดี๋ยวผมไปเอาน้ำมาให้ อย่าไปไหนนะ” ผมพูดด้วยเสียงอ่อนๆแต่อดไม่ได้แอบขู่ไว้ด้วยกลัวกลับมาแล้วแอบหนีไปครับ เพราะผมยังอยากนั่งมองหน้าจ๋อยๆอีกหน่อย และนัทก็เงยหน้ามองผมเม้มปากนิดๆก่อนก้มไปจิ้มอาหารเข้าปากต่อ
ผมจึงเดินกลับมาที่ซุ้มอาหารและเลือกตักอาหารเพิ่มอีกจานสำหรับตัวเองและหยิบน้ำส้มคั้นสีสวยมาให้คนที่นั่งรอ มาถึงผมก็วางแก้วไว้ตรงหน้านัทที่ก็เงยมองผมนิ่งๆไม่พูดอะไร ก่อนผมจะนั่งลงและจิ้มอาหารเข้าปากตัวเองบ้าง ระหว่างที่เรานั่งด้วยกันนั้นไม่มีบทสนทนาระหว่างกัน นัทที่คอยชำเลืองมองผมเป็นระยะกับผมที่นั่งมองร่างเล็กตลอดเวลาระหว่างกิน คอยดูท่าทางการกินที่เคี้ยวช้าๆจิบน้ำส้มเป็นบางครั้งของคนตัวเล็กก็เพลินตาดีครับอาหารอร่อยขึ้นเยอะเลย และเราก็สบตากันตาโตๆบนใบหน้าเล็กๆขาวๆมันดึงดูดสายตาผมไว้ให้จับจ้องอยู่นาน แววตาสีดำกลมโตแวววาวดังลูกแก้วใสสะท้อนภาพใบหน้าผมอยู่ในนั้นมีแต่ผมเท่านั้น อยู่ๆผมก็อยากให้แววตาคู่นี้มีแค่ผมอยู่ในสายตา ตาโตกระพริบปริบก่อนเจ้าของใบหน้าใสจะก้มหลบ จนผมอดเสียดายไม่ได้ผมอยากมองตาคู่นั้นอีกครั้ง แต่ก่อนที่ผมจะได้ทำอย่างที่คิดก็มีเสียงขัดขึ้น
“นัท แม็ค มาอยู่กันที่นี่เอง ตาตามหาเจ้าฟินอยู่ไม่ได้อยู่ด้วยกันหรอกรึ” เสียงแหบห้าวของคุณตาพี่ฟินดังขึ้นทำให้เราทั้งคู่ลุกขึ้นยืนต่อหน้าท่าน
“นัทเห็นพี่ฟินเดินออกไปข้างนอก อย่างนั้นเดี๋ยวนัทไปตามให้นะครับ” เสียงใสของคนข้างตัวผมดังขึ้นก่อนวิ่งออกไปทางประตูทางออกทันที
ผมรั้งไว้ไม่ทันเลยครับมันเกิดขึ้นเร็วมาก ผมจึงได้แต่มองตามหลังเล็กนั้นไปอย่างอดเสียดายเจ้าของตาคู่สวยไม่ได้ครับ แต่ก่อนที่ผมจะตัดสินใจทำอะไรคุณตาเจริญก็ชวนผมกลับไปที่โต๊ะที่มีพ่อแม่นั่งอยู่ เพราะท่านถามหาผมที่ออกมานานแล้ว ผมจึงจำใจเดินกลับมานั่งที่โต๊ะ แต่ตาก็คอยชำเลืองหานัทที่ออกไปตามพี่ฟินกับพี่มิค พักเดียวผมก็เห็นพี่ฟินหน้าบึ้งเดินตามพี่มิคกลับมานั่งโต๊ะเดียวกัน ส่วนอีกคนที่ผมคอยก็เดินหน้าหงอยๆกลับไปนั่งที่โต๊ะข้างๆกับพ่อแม่ของตัวเองครับ ทำไมนัทต้องทำหน้าแบบนั้นด้วยก็ไม่รู้ ผมไม่ชอบสีหน้าแบบนี้ของนัทเลยครับแต่ตอนนี้ผมก็ทำอะไรไม่ได้ เรานั่งทานอาหารกันบนโต๊ะและฟังเพลงของนักร้องที่อยู่บนเวทีพักเดียวพิธีกรก็เชิญพี่ฟินขึ้นกล่าวบนเวที พี่ฟินก็กล่าวขอบคุณบรรดาลูกค้าและพนักงานของบริษัทไปครับผมก็ไม่ค่อยได้ฟังหรอกเพราะมองแต่หน้าใสของคนที่นั่งอีกโต๊ะ นัทจับจ้องพี่ฟินตาไม่กระพริบยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เชียวครับ เห็นแบบนี้ผมล่ะแอบหมั่นไส้ไอ้พี่เขยบนเวทีไม่ได้จริงๆ แต่ทุกเสียงต้องเงียบลงเพราะคำถามจากพิธีกรบนเวที
“เมื่อคุณชินกรณ์ไม่ปฏิเสธผมก็ขอถามเลยนะครับ คุณชินกรณ์ที่ทั้งหล่อทั้งรวยแบบนี้มีแฟนรึยังครับ ถ้ายังไม่มีแล้วสเป็คเป็นแบบไหนครับ ถึงจะมีสิทธิมาเป็นแฟนหนุ่มหล่อได้ครับ ”
ทุกคนลุ้นกับคำตอบของพี่ฟินที่ยืนอยู่บนเวทีรวมทั้งคนที่ผมจ้องอยู่ด้วยครับ ผมล่ะหน่ายไม่เห็นต้องลุ้นเลยเพราะรู้ๆกันอยู่ว่าคำตอบจะเป็นยังไง ก็สายตาพี่ฟินแกจ้องพี่มิคของผมไม่กระพริบเลยนี่ครับ นึกสงสารอีกคนขึ้นมาไม่ได้ก็รู้ทั้งรู้นะครับว่าเค้ามีคนรักแล้ว
“ฮึๆ ผมไม่เคยมีสเป็คครับ ขอแค่คนที่เข้าใจในตัวตนของผมอย่างแท้จริงและเป็นคนที่พอดีกับผมเท่านั้นครับ และผมก็หาคนๆนั้นเจอแล้วครับ”
จบประโยคของพี่ฟินและคนที่อยู่ในสายตาเพียงคนเดียวของพี่แกก็คือพี่มิคเพียงคนเดียวเท่านั้น ทำให้นัทหันขวับมามองพี่มิคที่นั่งก้มหน้าซ่อนใบหน้าแดงก่ำอยู่ทันที ก่อนตวัดสายตาเลยมามองผมด้วยแววตาโกรธขึ้งเอาแต่ใจและลุกเดินออกจากโต๊ะไปเลยครับ พอผมเห็นนัทลุกเดินไปแบบนั้นก็นึกเป็นห่วงขึ้นมา จึงลุกขึ้นและก้าวตามร่างบางออกไปทันที
.........................................................
โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ ^3^
SP.นี้สำหรับแฟนคลับแม็คนัทที่คงสมใจเนอะที่ได้อ่านคู่นี้แล้ว
ตอนนี้เป็นส่วนของแม็คที่ดูท่าทางจะถูกใจหนุ่มน้อยเอาแต่ใจเข้าแล้ว
ส่วนตอนหน้านัทจะมาเล่าบ้างค่ะ มาตามดูว่าเด็กเอาแต่ใจคิดอะไรอยู่
และจะนึกถูกใจหนุ่มหน้าดุของเราบ้างมั้ย^^
ปล.+1ให้ทุกเม้นท์แล้วค่ะ อยากขอบคุณสำหรับทุกเม้นท์ทุกกำลังใจจริงๆน้า
และมาเจอน้องนัทได้ในวันจันทร์ค่ะ
ซินเจียอยู่อี่ซินนี้ฮวดใช้
![:mc4:](https://thaiboyslove.com/webboard/Smileys/Smilies/yenta4-emoticon-0011.gif)
ร่ำรวยเงินทองฉลองตรุษจีนนะคะ