ตอนที่ 41“นั่งก่อนสิครับหมอภีม”
ผมเอ่ยชวนชายหนุ่มที่ยืนยิ้มตาพราวมองเพื่อนสุดกวนประจำกลุ่มพวกผมไม่กระพริบ ไอ้ธีหันขวับจ้องตาเขม็งใส่ผมทันทีที่พูดจบ ไอ้วินมันก็ลุกให้หมอภีมนั่งข้างไอ้ธีทันทีเลยครับ ส่วนเจ้าตัวที่โดนทุกสายตาจับจ้องตอนนี้ก็เอ่ยขอบคุณก่อนเดินมานั่งแบบไม่ขัดเขิน ผมสังเกตเห็นว่าไอ้ธีมันผวานิดๆเมื่อหมอภีมนั่งลงข้างมัน
“มึงตามมาถูกได้ไงวะ” ธีจ้องหน้าคนมาใหม่อย่างเอาเรื่อง แต่ดูท่าคนที่โดนจ้องไม่ได้สะทกสะท้านแต่อย่างใดก็ยังคงยิ้มอยู่แถมไม่ตอบคำถามคนอยากรู้ ทำให้มันยิ่งฟึดฟัดแต่ก็แปลกที่มันไม่โวยวายอย่างที่ควรจะเป็น
“เอ่อ คือ ธีคะ มายเป็นคนบอกเองค่ะ เห็นหมอภีมว่ามีธุระจะคุยกับธี มายไม่รู้ว่าธีจะไม่อยากให้มา” เสียงหวานเอ่ยอ่อยๆออกมา เฉลยให้ทุกคนได้รู้ว่าเป็นต้นเหตุให้หมอภีมมาโผล่ที่นี่ได้
ไอ้ธีหน้าจ๋อยส่งยิ้มน้อยๆให้สาวน้อยทันทีคงกลัวแฟนเพื่อนเสียใจ และหันมาถลึงตาใส่คนที่นั่งข้างๆแทน ผมเห็นว่าหมอภีมยิ้มกว้างกว่าเดิมเหมือนถูกใจที่เห็นเพื่อนผมมันหงุดหงิดอยู่แบบนี้ ตอนนี้บนโต๊ะไม่มีใครพูดจากันเลยครับผิดกับช่วงก่อนหน้านี้ลิบลับ ผมหันมามองคนน่ารักข้างกายที่แม้จะก้มหน้าตักอาหารเข้าปาก แต่ตายังคอยมองไปที่คู่ตรงหน้าเราแบบคนอยากรู้ ดูสิครับปากเลอะยังไม่รู้ตัวผมจึงใช้กระดาษเช็ดมุมปากให้มิคส่งผลให้เจ้าของตาหวานหันกลับมามองผมอย่างงงๆ
“ปากเลอะแล้วครับ มัวแต่อยากรู้เรื่องของคนอื่นนะเราน่ะ ฮึๆๆ” ผมก้มกระซิบชิดหูหอม
“แหม ฟินไม่ได้อยากรู้เลยใช่มั้ยเนี่ย” มิคส่งค้อนมาให้ผมหลังกระซิบกระซาบคุยกับผมแล้ว
เราหันกลับไปมองคนทั้งคู่ตรงหน้าก็พบว่าไอ้ธีก้มหน้าก้มตากระดกเหล้าเข้าปากโดยมีหมอภีมมองยิ้มๆ แต่ไม่มีบทสนทนาระหว่างกันของคนทั้งคู่ให้เราได้เข้าใจไปมากกว่าภาพที่เห็น
“หมอภีม ไม่ได้อยู่เวรเหรอครับวันนี้” เสียงหวานของกัสทักขึ้นทำลายบรรยากาศตึงเครียดของทุกคนบนโต๊ะ
“ผมแลกเวรกับหมอท่านอื่นน่ะครับ เพราะต้องมาตามคนที่หนีมา” หมอภีมยังมีรอยยิ้มขณะพูด
ทำเอาทุกคนสนใจกับคำตอบโดยมีอาการแตกต่างกันไปอย่างสามหมอตัวเล็กเค้าตาโตหันหน้ามองกันเองเลิกลั่ก ส่วนกลุ่มผมก็มองจ้องไปที่ไอ้เพื่อนสนิทแบบจับตาจับผิดเพราะคำตอบนี้มันตีความได้อย่างเดียวว่าคนที่หมอภีมตามมาก็คือไอ้ตี๋หล่อของกลุ่ม ธีชะงักไปเล็กน้อยและทำเป็นไม่สนใจกระดกเหล้าของมันต่อ ถ้าไม่ได้จ้องมันอยู่ก็คงไม่เห็นหรอกครับ และอาการแค่นี้ทำเอาผมมั่นใจว่าคนที่หมอเค้าตามมาก็คือมันนั่นแหละครับ
“แล้วหมอเจอมั้ยครับ ‘คนที่หนีมา’ น่ะ” ไอ้ปรัชมันซักต่อทันทีเลยครับ ไอ้นี่รู้ใจผมซะจริง
“ฮึๆ ก็เจอครับก็นั่ง...อ๊ะ” หมอภีมหัวเราะขึ้นก่อนจะตอบออกมาแต่ยังไม่ทันจบประโยคก็โดนไอ้คนที่เมื่อครู่แกล้งไม่สนใจใครเอาแก้วชนปากอย่างแรงเลยครับ หมอคงเจ็บปากไม่มากก็น้อยล่ะครับงานนี้
“กินๆไปเลยพูดมาก เอ้าพวกมึงนั่งมองทำไมแดกไปดิ เอ่อ แฮะๆ ทานกันต่อนะครับ” ธีหันมาตะคอกใส่กลุ่มเพื่อนสนิทแต่ยังมีแก่ใจหันไปบอกเสียงอ่อนกลับสามหมอที่ตกใจกับเสียงตะคอกของมัน
พวกผมหันมามองหน้ากันและแววตาเพื่อนแต่ละคนที่ผมเห็นพวกมันคงคิดไม่ต่างจากผม ว่าไอ้คู่นี้มันต้องมีอะไรแน่ๆและแผนการณ์ที่ไอ้ธีเคยมาปรึกษาพวกผมคงใช้ไม่ได้กับหมอภีม แถมดูท่าเพื่อนผมมันเสร็จเค้าไปแล้วล่ะครับ หลังจากนั้นบรรยากาศสบายๆที่มีมามันก็หายไป เหลือแต่ความเงียบและความสงสัยปนไม่แน่ใจ และดูท่าไอ้ธีมันก็รู้ครับเลยเอ่ยออกมา
“พวกมึงวันนี้กูกลับก่อนนะ ขอโทษว่ะ” มันเอ่ยออกมาด้วยเสียงอ่อยๆก่อนทำท่าจะลุก แต่โดนดึงแขนจากคนข้างกายซะก่อน มันก็ทำท่าจะดึงออกแต่ดูท่าจะสู้แรงไม่ไหว
“ธีจะกลับยังไงไม่ได้เอารถมาไม่ใช่เหรอครับ พี่ไปส่งเอง” เสียงนุ่มของหมอภีมส่งคำถามไปให้ตี๋หนุ่ม ธีชักสีหน้าใส่ทันที
“กูกลับเองได้ ปล่อยได้แล้ว” ธีเสียงเข้มจ้องตาเขม็งแต่หมอภีมก็ยังไม่ปล่อยจ้องตากลับแต่ไม่มีแววโกรธเคืองอยู่เลย
“ไอ้วิน มึงกับหมอกัสไปส่งไอ้ธีที่บ้าน ส่วนที่เหลืออยู่กับกูที่นี่” เสียงเข้มของสาวห้าวที่นิ่งเงียบมานานดังขึ้น
ทุกสายตาจับจ้องมาที่มนทันที มนมองไปที่หมอภีมสายตานิ่งเรียบไม่แสดงอารมณ์ใดๆ แต่ทั้งหมดที่มันพูดออกไปคือต้องการให้ทุกคนทำตามที่มันสั่งรวมทั้งหมอภีมตัวปัญหาด้วย อาการแบบนี้ของมนนานๆทีมันจะมีให้เห็นครับ เพราะส่วนใหญ่มันจะไม่ค่อยออกคำสั่งกับเพื่อนแบบนี้ออกจะตามใจเฮไหนเฮนั่น ตอนนี้มนมันดูน่ากลัวมากและมันจะห้าวไปไหนครับ ทำเอาไอ้ธีคู่ซี้มองหน้ามันแหยงๆส่วนไอ้วินมันก้มกระซิบบอกกัสแล้วครับดูท่าทุกคนต้องทำตามคำสั่งมันล่ะครับคืนนี้ ไอ้ธีดึงแขนออกจากมือหมอภีมอีกครั้งก็หลุดออกมาอย่างง่ายดาย และก้มหน้าเดินนำหน้าคู่รักที่โดนคำสั่งให้ไปส่งออกไปก่อนแล้วครับ ทำให้ตอนนี้เหลือคู่ผม คู่ไอ้ปรัช มน และจำเลยภีมเท่านั้น ดูท่าทางงานนี้ถ้าหมอภีมตอบไม่ถูกใจอาจถูกหมัดหนักจากสาวห้าวก็ได้ครับ เพราะมนกับไอ้ธีเค้าเป็นคู่ซี้ของกลุ่มเราครับ
“หมอ หมอบังคับมันรึเปล่า” สาวห้าวถามขึ้นท่ามกลางความเงียบตาจับจ้องที่คนตรงหน้า
เป็นคำถามที่ครอบคลุมทุกอย่างไม่ลงลึกไม่เจาะจงว่าเป็นเรื่องไหนแต่ต้องการคำตอบที่ถูกใจ ผมที่กำลังจดจ่อกับคำตอบของหมอภีมก็ต้องหันมามองหน้าเจ้าของมือนุ่มเย็นเฉียบที่กุมมือผมไว้แน่น ตาโตภายใต้แว่นจ้องไปทางหมอหนุ่มตรงหน้าเขม็ง ปากหยุ่นนุ่มสีแดงสดเม้นแน่นอย่างคนที่กำลังลุ้นในคำตอบ ผมจึงใช้มือกุมทับกระชับแน่นก่อนละมือข้างที่ชิดร่างบางออกมาโอบเอวบางไว้และลูบข้างเอวปลอบคนรัก มิคเงยหน้าขึ้นสบตากันผมจึงยิ้มอ่อนไปให้และได้รอยยิ้มแหยๆตอบกลับมา
“ถึงแม้เมื่อคืนธีจะเมาแต่ผมไม่ได้บังคับธีแน่นอน” สายตามั่นคงของหมอภีมจ้องสบตาสาวเท่ห์นิ่งเพื่อยืนยันความจริงในสิ่งที่พูด
“แล้วหมอคิดจะทำยังไงต่อไป” มนส่งคำถามให้คนตรงหน้าอีกครั้ง
“ผมจะรับผิดชอบสิ่งที่ผมทำ ผมไม่ได้หมายความว่าผมฝืนใจที่จะทำนะครับ ผม ‘เต็มใจ’ แต่ดูท่าทางเพื่อคุณจะไม่ยอมง่ายๆ วันนี้ก็หนีออกมาจากห้องผมทั้งๆที่มีไข้อ่อนๆ” สีหน้าหมอภีมจริงจังแต่มีแววกังวลเมื่อพูดถึงอาการของคนที่เพิ่งกลับไป
“หมอชอบไอ้ธีรึเปล่า” ปรัชที่เงียบมานานเอ่ยคำถามเด็ดออกไป หมอภีมหันไปด้านข้างเพื่อมองหน้าคนพูดก่อนยิ้มมุมปากออกมา
“ฮึๆๆ จริงๆผมไม่จำเป็นต้องตอบ แต่ถ้าไม่ตอบคำถามนี้พวกคุณคงยิ่งกันธีออกห่างจากผมแน่ๆใช่มั้ยครับ ผมชอบธีมานานแล้วและจะเดินหน้าเต็มที่ให้ธีมีความรู้สึกเดียวกับผมให้ได้ แม้มันจะดูผิดขั้นตอนไปหน่อยก็ตาม”
เกิดความเงียบหลังคำตอบชวนอึ้งที่ได้ยิน ผมดูท่าทางและคำพูดที่สื่อถึงความจริงใจที่หมอภีมมีต่อไอ้เพื่อนตี๋ของผมแล้ว ผมเชื่อนะว่าพี่แกชอบเพื่อนผมจริงๆ แต่ดูท่าทางหมอภีมจะเจองานหนักเพราะไอ้ธีมันไม่ได้ชอบผู้ชายมาก่อน แต่ตอนนี้มันก็เป็น ‘เมีย’ พี่แกไปแล้วนี่นะ ผมล่ะสงสัยว่าทำไมไอ้ธีถึงยอมพี่แกง่ายๆแบบนั้นมันเคลิ้มไปหรือว่ามันก็ถูกใจหมอภีม เฮ้อ ผมล่ะเหนื่อยใจแทนทั้งคู่ก็คงสุดแท้แต่ไอ้ธีล่ะครับ ผมถือว่าหมอภีมผ่านในสายตาผมนะ ผมสบตาไอ้ปรัชและมนอ่านจากแววตาพวกมันแล้วหมอภีมคงไม่มีปัญหาที่จะเป็น ‘เขย’ ของกลุ่มถ้าไอ้ธีมันจะยอมรับว่าเป็น ‘เมีย’พี่แกอ่ะนะครับ
“พวกผมไม่มีปัญหาถ้าเพื่อนผมมันเต็มใจ ขึ้นอยู่กับหมอแล้วครับว่าจะจัดการกับมันยังไง” ปรัชเป็นคนตอบแทนพวกเราเพื่อนสนิทมันยิ้มนิดๆให้หมอภีมอีกด้วย
“ขอบคุณพวกคุณมากที่เข้าใจผม ต่อไปเรียกผมว่าพี่ภีมดีกว่านะครับ” หมอภีมยิ้มกว้างส่งยิ้มเผื่อแผ่ให้ทุกคน พวกผมก็ยิ้มตอบพี่แกและพยักหน้าให้ไปครับ
“เอ๊ะ จริงๆแล้วฟินต้องเรียกมิคว่าพี่มิคนี่หน่า ใช่มั้ยครับน้องฟิน” เสียงหวานใสของคนคุ้นเคยข้างตัวผมดังขึ้น ผมก็หันกลับมามองเจอใบหน้าหวานยกยิ้มยักคิ้วกวนๆมาให้อย่างน่าหมั่นเขี้ยว ผมจึงดึงแก้มกลมทั้งสองข้างโยกไปมาเบาๆ
“อิน อ่อย อิค อ๋า (ฟินปล่อยมิคน้า)” มิคหน้ามุ่ยคิ้วขมวดพูดไม่ชัดออกมาเลยครับและยิ่งน่าแกล้งมากขึ้นในสายตาผม
“ฮึๆๆ น้องฟินไม่ปล่อยพี่มิคหรอกครับ / ฮึๆๆ / คิกๆ”
คู่ของผมนั้นเรียกเสียงหัวเราะจากทุกคนบนโต๊ะได้ทำเอาบรรยากาศตึงเครียดผ่อนคลายลง ผมปล่อยแก้มมิคเป็นอิสระแก้มกลมใสเปลี่ยนเป็นสีแดงนิดๆตามแรงมือที่ผมแกล้งดึง ผมก็ส่งยิ้มอ้อนๆไปให้ลูบแก้มคนขี้งอนไปด้วยครับ
“ฟินล้อเล่นครับมิคไม่เอาอย่างอนน้า ดูซิครับมาย มิคงอนฟินแล้ว แบบนี้จะกินเค้กครีมนมสดที่ฟินสั่งไว้ได้มั้ยครับเนี่ย งั้นเดี๋ยวฟินยกให้มายแทนล่ะกันครับ” ผมที่โอบเอวบางของคนขี้งอนไว้และแกล้งหันไปพูดกับสาวน้อยน่ารักที่นั่งข้างมิคแทน ดูซิว่าเมื่อของโปรดของตัวเองจะหลุดลอยไปคนขี้งอนยังจะงอนต่อไปได้มั้ยน้า
“เอ๊ะ ฟินนี่ยังไง สั่งให้มิคก็ต้องให้มิคกินซิ” สายตาวาวของมิคเงยสบตาผมก่อนพูดเสียงดุ
“อ้าว แสดงว่ามิคหายงอนฟินแล้วนะครับ ไม่งั้นฟินไม่ให้กินจริงๆด้วยน้า” ผมส่งยิ้มล้อๆไปให้คนขี้งอนที่สบตาอยู่
“ก็ได้เห็นแก่เค้ก เอ้ย เห็นแกฟินนะที่ง้อมิคด้วยเค้กน่ะ ฟินๆไหนล่ะเค้กมิคอยากกินแล้ว” เจ้าของเสียงหวานเล่นตัวในตอนแรกก่อนเปลี่ยนเป็นเสียงตื่นเต้นแทนอย่างเด็กที่อยากกินเค้ก ผมจึงหันไปเรียกพนักงานให้เอาขนมเค้กที่เป็นของหวานขึ้นชื่อของที่นี่มาเสิร์ฟ
“ฮึๆๆ มิคนี่น่ารักนะครับ ผมไม่เคยเห็นมิคลุคนี้เลย” เสียงห้าวของว่าที่เพื่อนเขยดังขึ้น มันทำเอาผมคิ้วกระตุกจนต้องตวัดสายตาไปมองหน้าคนพูด ไอ้หมอนี่มันยังไงได้เพื่อนผมไปเป็นเมียแล้วยังจะมาชมเมียผมอีกครับ
“โอ๊ะๆ ผมไม่ได้มีเจตนาแบบนั้น ก็แค่พูดแบบที่เห็นไม่ได้คิดอะไร ผมมีเพื่อนฟินอยู่แล้วทั้งคนอย่าลืมซิ ฮึๆๆ” หมอภีมรีบปฏิเสธเมื่อรู้ตัวว่าเผลอพูดสิ่งต้องห้ามออกมา
เมื่อได้ฟังพี่แกแก้ตัวผมก็ยิ้มนิดๆและโอบเอวบางเข้าหาตัว ผมมันอดหวงไม่ได้เลยครับก็คนมันรักมากนี่หน่า ไอ้ปรัชกับมายและสาวมนก็หัวเราะใหญ่เลยครับ ส่วนคนที่โดนโอบเอวก็หน้าแดงนิดๆอมยิ้มหน่อยๆให้ผมหมั่นเขี้ยวอยากก้มหอมแก้มแดงๆนั่นซะหลายๆฟอด
“ผมคงต้องขอตัวก่อนนะครับจะรีบกลับไปวางแผนพิชิตใจเพื่อนพวกคุณ” พี่หมอภีมส่งยิ้มให้พวกเราก่อนลุกเดินออกไปเมื่อได้ร่ำลาเรียบร้อย
เหลือพวกเราห้าคนบนโต๊ะมิคกับมายก็นั่งทานเค้กคุยกันหงุงหงิง ส่วนพวกผมก็คุยกันเรื่องไอ้ธีสรุปกันได้ว่าคงไม่ขัดขวางเรื่องพี่หมอภีมที่คิดจะจีบมัน แต่ก็คงไม่สนับสนุนออกนอกหน้าเพราะถึงยังไงธีก็เพื่อนสนิทของเรา ให้มันได้ตัดสินใจด้วยตัวเองและสุดท้ายไม่ว่าธีเลือกที่จะมีเมียเป็นผู้หญิงสักคนหรือมีผัวแบบพี่หมอ มันก็จะยังมีพวกผมเป็นเพื่อนแท้ของมันไม่เปลี่ยนแปลง เรานั่งกันอีกสักพักไอ้วินก็โทรเข้าเครื่องมนเพื่อรายงานภารกิจที่เจ้าแม่เค้าสั่งให้ทำว่ามันส่งไอ้ธีถึงบ้านอย่างปลอดภัยแล้ว และมันอยากรู้ว่ามนจัดการยังไงกับหมอภีม ผมก็ได้ยินมนเล่าอย่างละเอียดให้สมกับที่สั่งไอ้วินไปส่งธีทำให้มันไม่ได้อยู่ร่วมเหตุการณ์ประวัติศาสตร์กับเพื่อนๆ
หลังจากนั้นพวกเราก็แยกย้ายกันครับ ผมพามิคกลับมาบ้านตัวเองเราผลัดกันอาบน้ำและมานอนกอดกันบนเตียง ร่างนุ่มกรุ่นกลิ่นครีมอาบน้ำและโลชั่นส่งกลิ่นหอมกรุ่นปะทะจมูก จนผมอดใจไม่ไหวฝั่งหน้าตัวเองที่แก้มกลมของคนในอ้อมกอด สูดกลิ่นหอมเต็มปอด
“ฟินนนน พอแล้ว เดี๋ยวเลยเถิดวันนี้ห้าม” มิคเบี่ยงหน้าหนี ผมก็ยังตามฝั่งจมูกไปที่ซอกคออย่างหลงใหล ขอแค่เป็นมิคถึงผมจะตักตวงจากร่างนุ่มนี้เท่าไหร่เหมือนผมนั้นไม่เคยพอ
“ฟิน นะครับนะวันนี้มิคไม่ไหวจริงๆ เรากอดกันนอนก็พอเนอะ” มิคจับหน้าผมไว้ทั้งสองข้างก่อนดึงออกจากซอกคอหอมที่ผมฝังจมูกอยู่ แถมอ้อนซะเสียงหวานตาพราว
ผมที่ได้ยินได้เห็นภาพคนรักตอนนี้ไม่รู้ว่าจะยอมตามใจมิคที่ลงทุนออดอ้อนดี หรือของจะขึ้นหนักกว่าเดิมแล้วจับคนช่างยั่วแบบไม่รู้ตัวกดดีกันแน่ครับ มิคยังยิ้มหวานมาให้ผมและคว้าคอผมให้นอนลงหมอนเดียวกันก่อนซบหน้าลงมากับอกผม และใช้แขนขากอดก่ายผมไว้ทั้งตัวเหมือนล็อคผมไว้ไม่ให้ทำอะไรตัวเองไปมากกว่านี้ ถ้าผมออกแรงกว่านี้อีกนิดผมก็สามารถหลุดจากกอดนุ่มนี้ได้อย่างง่ายดายแต่ผมก็เลือกที่จะไม่ทำ ผมเลือกที่จะอยู่แบบนี้ให้มิคได้กอดผมไว้ทั้งตัว และปล่อยกวางน้อยให้หลุดรอดไปก่อนในคืนนี้ถึงยังไงผมก็จะจับกวางน้อยมาหม่ำให้ได้ในสักคืนเร็วๆนี้ล่ะครับ
..........................................................
โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ ^3^
เราก็ได้รู้แล้วเนอะว่าธีภีมนั้นเค้าเป็นของกันและกันไปแล้ว
แต่เรื่องรายละเอียดที่มาที่ไปขอให้ท่านอดใจไว้รออ่านเต็มๆ
ในเรื่องต่อไป (อ๊ากกกก อย่าถีบบบ เค้าน้า TT^TT) ส่วนคู่หลัก
มิคฟินก็ยังหวานให้เราอิจฉา 555
ตอนหน้าขอคั่นเวลาที่คู่พิเศษ แม็คนัทนะคะใครที่อยากรู้ว่า
เค้าคุยอะไรกันและออกไปไหนด้วยกันนั้น มาตามอ่านได้เลย
จะมาเสิร์ฟให้ชิมกันสองตอนติด
ปล.+1ให้ทุกม้นท์ที่เป็นกำลังใจให้กันนะคะ ติดตามต่อได้วันเสาร์ค่ะ